ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักร้าว ในเงามาร

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 14: ใจกลางความเจ็บปวด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 502
      0
      11 ม.ค. 56

    ผมสะบัดหัวเพื่อไล่หยดน้ำที่เกาะตามผมที่เพื่อสระเสร็จ หายใจยาวโล่งอก...หมดไปแล้วหนึ่งวันที่แสนอึดอัด ในที่สุดเราก็ผ่านพ้นมันมาได้อย่างไม่น่าเชื่อคงเพราะพี่ฮัทที่คอยอยู่เคียงข้าง มันทำให้ผมรู้ว่าวันนี้ผมยังมีใครสักคนที่พร้อมปกป้องกัน แต่...เมื่อย้อนกลับไปมองสิ่งที่ผมทำ ความรู้สึกผิดที่มีต่อพี่ฮัทก็พลุ่งพล่านขึ้นมา เพื่อตัวเองผมต้องหลอกใช้คนที่หวังดีกับผมแบบนี้เลยเหรอ??? ทำไมนะ...ทำไมหัวใจถึงไม่ยอมรับเปิดรับให้พี่ฮัทพิสูจน์ตัวเองบ้าง คนดีๆอยู่ตรงหน้าแต่หัวใจกลับเรียกร้องคนที่ทำร้ายเราจนปางตายแบบนั้น ผมนี่มัน...

                    “นั่น...” ผมเหลือบแผ่นกระดาษสีขาวที่วางเด่นตัดกับพื้น มองดูก็รู้ว่าถูกสอดมาจากด้านนอก

                    Good night” ตัวหนังสือที่ถูกเขียนด้วยลายมือตวัด ทำให้ผมนึกถึงคนๆนั้น “พี่ฮั่น” ต้องเป็นพี่ฮั่นแน่ๆ ผมรีบเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว... หวังเพียงเห็นแผ่นหลังกว้างที่ผมโหยหา แต่ผมมากกว่าที่ผมหวัง ร่างสูงนั้นก็เปิดประตูมาพร้อมๆกัน สายตาเราทั้งสองประสานกัน ความหวั่นไหวเข้ามาจู่โจมผม... ผมหลอกตัวเองไม่ได้ ความจริงก็คือความจริง ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั้น...เป็นเจ้าของหัวใจของผมทั้งดวง แววตาพี่ฮั่นสั่นระริก...ความหลังที่หอมหวานกลับมาหอมกรุ่นในห้วงอารมณ์ของผมอีกครั้ง  ผมหวังว่าสิ่งที่เราพูดกันในโรงพยาบาลนั้น...จะเป็นเพียงอะไรสักอย่างที่ผิดพลาดไป ความจริงพี่ฮั่นก็รักผมเหมือนกัน... เราทั้งสองใจตรงกันใช่มั้ย??? อย่าทำแบบนี้กับผมเลย พี่ฮั่น...อย่าปล่อยให้ผมต้องทนทุกข์กับความเจ็บช้ำเพียงลำพังเลย พี่เห็นความทรมานในแววตาของผมรึเปล่า???  อย่าใจร้ายกับผมเลย...อย่าใจร้ายกับหัวใจที่มันรักพี่เหลือเกินแบบนี้เลย....

                    “ยืนขวางประตูทำไม...ผมง่วงแล้วพี่” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง พี่ฮั่นสะดุ้งน้อยก่อนเบือนหน้าหลบสายตาผม

                    “ขอโทษ....คือชั้น---” พี่ฮั่นอึกอัก... สายตานั้นไม่เหลือบมามองผมเลย นี่ผม...กำลังหวังอะไรอยู่ คิดว่ากระดาษที่อยู่ในมือมันเป็นข้อความของพี่ฮั่นงั้นเหรอ??? แกงส้ม...เลิกฝันได้แล้ว หวังอะไรอยู่---คิดอะไรอยู่.... จะอ่อนแอไปถึงไหน---แค่สายตาที่เค้าบังเอิญหันมองมา มันทำให้เราปล่อยใจไปได้เพียงนี้เลยหรือ???

                    “แกงส้ม... ทำไมไม่นอนอีก ท่าทางดูไม่สบายมาตั้งแต่เช้า นอนได้แล้วไป” พี่ฮัทแทรกตัวจากด้านหลังพี่ฮั่น เดินตรงมาหาผม ผมยิ้มรับกับประโยคที่แสดงออกถึงความห่วงใย แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป... มันแน่นไปหมด จุกจนเปล่งเสียงออกจากลำคอไม่ไหว

                    “ไปนอนได้แล้ว...ดูสิหน้าตาซีดเซียวเชียว------ปัง!!!!” พี่ฮัทที่กำลังเอามือมาอังหน้าผากของผมสะดุ้งสุดตัว...เพราะเสียงปิดประตูดังสนั่นของพี่ฮั่น

                    “เป็นอะไรของเค้านะ---เมื่อก่อนไม่เห็นเคยเป็นแบบนี้เลย สงสัยติดเชื้อจากยัยคุณหนูแก่แดดนั่นแน่ๆเลย” พี่ฮัทเกาหัวแกรกๆ หันไปมองประตูที่เมื่อครู่ถูกกระแทกอย่างแรงด้วยความสงสัย

                    “เค้าคงรำคาญเรามั้งครับ---คงเบื่อขี้หน้าผม” ผมตอบไปด้วยความน้อยใจ ทำไมเค้าต้องทำเย็นชากับผม นี่...มันเป็นความผิดของผมเหรอ??? ใครกันที่ถูกทำร้ายใจอย่างแสนสาหัส ใครกัน..ที่ถูกทิ้งขวางอย่างเลือดเย็น---  แล้วมันถูกต้องแล้วเหรอ???...ที่ผมต้องทนรับกับความเย็นชาแบบนี้

                    “ไม่หรอก---พี่ว่าพี่ฮั่นเค้าเป็นห่วงแกงส้มมากนะ... เค้ายังบอกให้พี่ดูแลแกงส้มให้ดีเลย” แทนที่ผมจะรู้สึกดี แต่มันตรงกันข้าม... ตอนนี้ผมเหมือนกำลังตกดิ่งเหวลึก---ไม่รักกัน แค่นั้นมันไม่พอใช่มั้ย??? ต้องผลักไสกันให้ไปไกลๆด้วยหรือ??? มันจะมากเกินไปแล้วนะ!!! เห็นผมเป็นสิ่งของหรือว่าอะไร อยากจะโยนทิ้งให้ใครก็ทำอย่างนั้น หัวใจผมมันอ่อนแรง--- “เป็นห่วง” ผมอยากจะหัวเราะกับคำๆนี้--- เค้าแค่เห็นผมเป็นตัวปัญหาที่ต้องกำจัดให้พ้นเส้นทางรักระหว่างเค้ากับคุณหนูต่างหาก ผมทนอยู่ที่นี่ทำไม...เพื่ออะไรกัน ในเมื่อเป็นเพียงเศษฝุ่นที่คนๆนั้นต้องการปัดทิ้งในไกลสายตา!!!

                    “แกงส้ม...แกงส้ม” เสียงพี่ฮัทปลุกผมจากห้วงความคิดที่เต็มไปด้วยความน้อยใจระคนคับแค้น

                    “ครับ...” เสียงของผมเหมือนดังมาจากที่ไกลแสนไกล เจ็บเหลือเกิน...เจ็บซ้ำซาก เจ็บแบบคนโง่งมงาย มันควรจะเข้าใจตั้งนานแล้วว่าตัวเรามันไม่มีค่าในสายตาเย็นชาคู่นั้น---ที่จริงลึกๆไอ่หัวใจอ่อนแอมันก็ซ่อนความหวังลมๆแล้งๆ มันสมควรแล้วที่ต้องเจ็บแบบนี้!!!

                    “พี่--พี่ว่าแกงส้มไปนอนได้แล้วนะ” พี่ฮัทดูนิ่งไปก่อนจะเอ่ยขึ้นมา พร้อมผลักผมเข้าไปในห้องนอนเบาๆ ผมไม่ฝืนตัวสักนิด โอนอ่อนไปตามแรงนั้น... ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว---ผมไม่มีใครแล้ว ในเมื่อพี่ไม่รักไม่แคร์ผม... จากนี้ไปผมจะทำอะไรก็ได้ผมเรื่องของผม... ใบหน้าของพี่ฮัทโน้มมาใกล้ๆผมอย่างช้าๆ--- อย่าไปคิดถึงคนๆนั้นอีกเลยแกงส้ม... อย่านึกถึงริมฝีปากเร้าร้อนนั้นอีก อย่านึกถึงอ้อมกอดรัดแน่นแสนเย้ายวนรัญจวนอารมณ์นั้นอีก ผมหลับตาช้าๆรอรับริมฝีปากของพี่ฮัท...ทำไมถึงไม่มีความสุขเลยสักนิด---หัวใจจ๋า...ลืมเค้าสักทีเถอะนะ

                    “ลืมตาเถอะแกงส้ม...” ใบหน้าผมถูกพี่ฮัทประคองไว้ ผมค่อยขยับเปลือกขึ้นตามคำของพี่ฮัท ปลายจมูกพี่ฮัทอย่างห่างจากปลายจมูกผมไม่กี่นิ้ว สายตานั้น...ดูห่วงหาอาทรอย่างสุดซึ้ง

                    “พี่รู้ว่าตอนนี้แกงส้มแค่---สับสน พี่ไม่อยากแทรกตัวเข้าอยู่ในชีวิตแกงส้มเพราะความเหงาหรือว่าความเจ็บปวด พี่จะรอแกงส้ม—รอจนว่าหัวใจของแกงส้มเปิดใจรับพี่ไว้ด้วยความเต็มใจ ขอพี่ดูแลหัวใจที่มันเจ็บปวดดวงนี้เองนะ...ให้มันเป็นหน้าที่ของพี่เอง” พี่ฮัทกระซิบแสนแผ่วเบาหากแต่น้ำเสียงนั้นดูหนักแน่นมั่นคง ผมไม่อาจจะกลั้นอารมณ์อ่อนแอได้อีก และเป็นอีกครั้งที่อ้อมกอดนี้ทำหน้าที่ซับน้ำตาที่ไหลนองเพราะพี่ฮั่น.... พี่ฮัท...สักวันผมจะรักพี่ ผมจะพยายาม...เพื่อตัวผมเอง

     

                    HUNZ talk

                    “ไปนอนได้แล้ว...ดูสิหน้าตาซีดเซียวเชียว------ปัง!!!!” ผมกระแทกประตูห้องอย่างสุดจะทน แกงส้ม...พี่จะทนแบบนี้ไปได้ถึงเมื่อไหร่กัน!!! เจ็บเกินไปแล้วนะหัวใจ.... ผมเองที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ผมเองที่ผลักไสแกงส้มออกไป ผมเองที่...ที่...ที่ยกเค้าให้กับคนอื่น ผมเอง ไอ่บ้าคนนี้เอง!!!

     

                    “ห้องพี่นี่น่าอยู่ชะมัด---เท่ดี ผมชอบ” เสียงฮัทดูตื่นเต้นราวกับเด็กเห็นของเล่นใหม่

                    “ทำไม อยากมาอยู่รึไง???” ผมถามพลางหยิบเสื้อใส่เพราะเพิ่งทำแผลเสร็จ ฮัทหัวเราะออกมาเบาๆอย่างมีความสุข

                    “ถ้าอยากอยู่มันไม่ใช่เพราะห้องหรอกพี่...พี่ก็รู้ว่าเพราะใครที่ทำให้ผมอยากอยู่ห้องนี่--- โอ๊ยยยย!!! อยากตื่นเช้ามาเปิดประตูเจอกันทุกวัน อยากเห็นแกงส้มเป็นคนแรกของวัน อ๊ากกกกก!!! แค่คิดก็มีความสุขแล้ว” ความสุขของฮัทมันช่างตรงข้ามกับความรู้สึกของผม... ผมเองก็อยากเจอใบหน้าใสอ่อนหวานนั้นทุกวัน ทุกนาที... อยากห่อหุ้มร่างกายสูงโปร่งด้วยตัวผม อยากตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกันและหลับลงไปพร้อมๆกัน---แต่นั่นก็เป็นได้เพียงความฝัน ความฝันที่เจ็บปวดที่สุด ความฝันที่ผมไม่บังอาจจะวาดฝันมันได้อีกแล้ว

                    “นายชอบแกงส้มจริงๆเหรอ??? ตอบชั้นมาตรงๆ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ เพราะรุ่นน้องนี้แสนจะกะล่อน แต่ผมไม่เคยเห็นความฮัทจะสนใจใครจริงจัง... แกงส้มเป็นคนแรกที่เห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ากระตือรือร้นเสียเกิน

                    “ตอนแรกก็ว่าน่ารักดีนะ---แต่เค้ามีอะไรที่มากกว่าคนอื่น ไม่รู้สิพี่...ผมไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน พูดไปก็เขิน พี่นี่ชวนผมพูดอะไรก็ไม่รู้ เห็นแบบนี้ผมก็เขินเป็นนะพี่”

                    “อย่าทำให้แกงส้มต้องเสียใจ” ผมพูดออกไปโดยที่ตัวเองไม่ทันตั้งตัว ฮัทมองขวับมาที่ผมด้วยความแปลกใจ

                    “อะไรนะพี่”

                    “แกงส้มเค้าเจ็บมามากพอแล้ว---เพราะความขี้ขลาดของคนบางคน ชั้นขอร้องอย่าทำให้แกงส้มต้องเสียใจ ดูแลเค้าด้วยนะ” ...ดูแลแกงส้มแทนชั้นด้วยนะ...  นี่คือคำพูดที่ผมอยากบอกแต่ไม่สามารถพูดออกไปได้

                    “พี่หมายความว่ายังไง พูดถึงอะไรเนี่ย??? บอกตรงๆผมชักจะตามไม่ค่อยทันแล้ว” ฮัทถามผมแววตานั้นดูจริงจังและดุดันในที ผมไม่อาจจะทำลายความนับถือที่ฮัทมีให้แก่ผมได้...และที่สำคัญ หากผมบอกไปอาจจะทำให้แกงส้มไม่เหลือใครก็เป็นได้

                    “ชั้นก็แค่พูดไป...ไม่มีอะไรหรอก แล้วนายทำไมไม่หลับไม่นอนกลับห้องไปได้แล้ว” ผมเฉไฉไปเรื่องอื่น ฮัทขมวดคิ้วแต่ก็เลือกที่จะไม่เซ้าซี้ต่อ นิสัยปากแข็งของผมเป็นสิ่งที่ฮัทรู้ดี

                    “ผมรอส่งเค้าเข้านอน” ฮัทยิ้มพร้อมหันไปทางประตู ราวกับว่ารอยยิ้มนั้นจะส่งผ่านประตูสองไปตรงไปหาร่างสูงโปร่งเจ้าของห้องตรงข้าม

                    “เหรอ???...แล้วนายจะไปหาเค้าตอนนี้นี่นะ---มันดึกแล้วชั้นว่ามันไม่เหมาะ” ท้ายประโยคผมเองก็รู้สึกว่ามันมีเสียงแข็งชัดเจน---

                    “โธ่พี่.... ผมแค่---ไม่บอกหรอก----เขิน ” ฮัทดูร่าเริงจนผมนึกอิจฉา...

                    “ชั้นว่านายไปนอนได้แล้ว...พรุ่งนี้ต้องไปส่งคุณหนูแต่เช้า” ผมบอกอย่างอ่อนล้า ทิ้งตัวนั่งบนเตียงนอนหนานุ่มสีเทา ฮัทมองหน้าผมอย่างเซ็งๆ

                    “เพื่ออะไรเนี่ย---พูดเรื่องแกงส้มดีๆเปลี่ยนไปหายัยเด็กบ้านั่นจนได้” เสียงบ่นประปอดกระแปดทำเอาผมอดยิ้มออกมาไม่ได้

                    “นายก็จะไปถือสาอะไรกับคุณหนู...เด็กก็คือเด็ก” ผมส่ายหน้าน้อยๆ ฮัทกลับขึงขังขึ้น

                    “เด็กอะไรก็ไม่รู้---ทำตัวไม่รู้จักโต เป็นน้องเป็นนุ่งนะจับแทงเข่าไส้แตกไปแล้ว”

                    “ยังไงเค้าก็เจ้านายชั้นนะ...แล้วก็เป็นเจ้านายนายด้วยเหมือนกัน” ผมรู้ว่าสิ่งที่ฮัทพูดมันไม่ผิด แต่ผมก็ต้องปรามความห่ามของรุ่นน้องคนนี้ไว้บ้าง เพราะหน้าที่ของฮัทคือการไปรับส่งคุณหนูไปโรงเรียนทุกวัน หากทั้งสองยังอยู่ด้วยกันแบบนี้...บ้านหลังนี้คงหาความสงบสุขไม่ได้แน่ๆ

                    “ผมไปนอนดีกว่า---พี่นะพี่พูดขึ้นมาทำไมให้เสียอารมณ์!!!” ว่าแล้วเจ้าตัวก็บิดขี้เกียจอย่างอ้อยอิ่ง ผมจึงลุกไปเปิดประตูเพื่อส่งแขกผู้มาเยือนในยามวิกาล... แต่ทุกอย่างก็หายไปจากประสาทสัมผัส เมื่อร่างสูงโปร่งที่อยู่ตรงข้ามเปิดประตูออกมาเช่นกัน ใบหน้านั้นช่างดูอ่อนแรง...เจ็บใช่รีเปล่า??? เพราะพี่ใช่มั้ยที่ทำให้รอยยิ้มที่แสนสดใสนั้นเลือนหาย ผมอยากจะโผเข้าไปกอดให้สมกับความคิดถึงที่กั้นกลางด้วยหน้าที่จนเหมือนเรานั้นแสนห่างไกล แววตาอ่อนหวานนั้นดูเป็นประกาย สายตานั้นเว้าวอนราวกับกำลังร้องขอความสงสาร---- แกงส้มที่รัก...ดวงใจพี่ก็ทรมานไม่ต่างกัน มันร้าวรานซานซมจนหายใจแทบไม่ออก พี่เจ็บกับความรักเจ็บจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป...เพราะไม่มีแกงส้ม “ความสุข” คงเป็นเพียงอดีตในวันวานเท่านั้น....

                    “ยืนขวางประตูทำไม...ผมง่วงแล้วพี่” ฮัทโวยวายเล็กๆมาจากด้านหลัง...นั่นทำให้ผมรู้ตัวว่าควรละสายตาจากใบหน้าอ่อนใสนั้นเสียที ผมไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนั้น... ไม่มีแม้แต่น้อย

                    “ขอโทษ....คือชั้น---” ต่อหน้าแกงส้ม...ผมไม่รู้ว่าควรทำตัวเช่นไร--- ผมเพิ่งบอกให้ฮัทดูแลแกงส้มดีๆ แต่ปิศาจร้ายในใจกลับตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหึงหวง ผมรู้ว่าผมไม่ควรจะยืนอยู่ตรงนี้... ทั้งที่ตรงนี้และหัวใจของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

                    “แกงส้ม... ทำไมไม่นอนอีก ท่าทางดูไม่สบายมาตั้งแต่เช้า นอนได้แล้วไป” ความห่วงใยของรุ่นน้องคนสนิทส่งผ่านไปสู่แกงส้มอย่างลึกซึ้งและอ่อนหวาน คงมีแต่ผม...ที่ทำให้แกงส้มเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาที่ไหลออกมาของแกงส้มมันเป็นเพราะความโลเลที่ปล่อยตัวให้ทำตามใจมาตลอด โดยที่ก็รู้อยู่ว่าเรามันไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินของหัวใจ หากผมห้ามใจไว้...ก็จะมีเพียงผมที่เจ็บเพียงคนเดียว แกงส้มควรจะมีคนที่ดูแลเค้าได้ดีกว่าผม และเค้าก็คงคือคนที่อยู่ตรงหน้าคนกำลังทำหน้าที่ที่ผมอยากทำมากที่สุด.... แต่ในเมื่อผมทำแบบนั้นไม่ได้ ผมก็ควรปล่อยให้แกงส้มเป็นคนอื่นอย่างนั้นใช่มั้ย??? แล้วผมจะทนได้สักเท่าไหร่กัน!!! เพราะตอนนี้ความเจ็บปวดทรมานกำลังเกาะกินไปถึงใจกลางความเจ็บปวดที่เรื้อรังและไม่มีวันหายไปตราบที่ลมหายใจของผมยังมี....

     

                    ปล. เม้นสักหน่อยเพื่อเป็นกำลังใจน้อยแก่ไรเตอร์ผู้ยากไร้ต่อไป.... ตอนนี้ไรต์กำลังแต่งเรื่องใหม่ อย่าลืมไปแวะเวียนบ้างนะ... แต่งเรื่องนี้แล้วเครียดเลยลองหาเรื่องเบาสมองมาเบรกความดราม่ามั้ง แวะไปติดชมกันนะจ๊ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×