คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : - Silently - 1 Thor x Loki
[SF]ความรักไม่มีคำพูด…ความเจ็บไม่เสียง [THOR x KI]
1
ความรักของเขามันเป็นเรื่องแปลก การยิ่งทำตัวร้ายกาจกับคนที่เราแสนรัก มันปวดใจเหลือเกิน เกินกว่าที่คนอื่นจะสามารถเข้าใจได้ถึงเหตุผล เขาเองก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าเพราะอะไร แต่มันก็…ทำใจได้ยากเหลือเกิน
เหมือนกับข้อความบนหัวใจที่มันบอกว่า รักแต่เขาแต่เกลียดคนรอบตัวเขาเหลือเกิน
ถ้ารอบกายข้ามีเพียงแค่เราสองคน มันก็คงจะดี…ข้าจะรักเจ้าให้เป็นนิรันดร์ จะไม่เกลียดเจ้า จะไม่ทำร้ายจิตใจของเจ้าเลย จะไม่ทำร้ายร่างกายของตัวข้าเองที่เจ้าแสนรักและทะนุถนอมยิ่งกว่าข้า เสมอเหมือนที่ข้าเจ็บปวดใจเหลือเกินยามเจ้ามีบาดแผลกลับมาจากศึก
เราต่างรักกัน เจ้ารู้…ข้าเองก็รู้
แต่เรื่องบางเรื่องอาจซับซ้อนเกินกว่าที่เราทั้งสองคนจะตัดสินใจมันได้ด้วยตัวของเขาเอง เรื่องที่สุดแสนประหลาด
อย่าเสียใจเลย พี่ชาย…ไม่ซิ ยอดรักของข้า อย่าเสียใจไปเลยนะที่รัก อย่าแม้แต่ร่ำไห้คนที่กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างข้าเลย
แม้แต่หลังจากได้ฟังคำรักของเจ้าแล้วก็ตามเถิด…ข้าเองก็ยังทำผิดอีกครั้งจนได้ซินะ
เพียงแต่ผิดครั้งนี้…จะเป็นความผิดในใจของเจ้ากับข้าเท่านั้น หากเพื่อทุกคน และสูงสุดนั้นเพื่อตัวเจ้าเองด้วยแล้วล่ะก็…
ข้าเองก็ยินดีทำ
เพราะข้ารู้ว่าแม้แต่ปลายผมของข้าเจ้าก็ไม่กล้าทำให้ข้าเจ็บ ข้าจึงต้องตัดใจเป็นฝ่ายทำเจ้าเจ็บเสียอีกครั้งเป็นการทดแทน
………………..
…………..
………
ตัวหนังสือมากมายค่อยๆถูกถ่ายทอด ออกมาทีละคำ และเขียนลงอย่างบรรจงด้วยลายมือที่สวยงาม มือบางปิดปกสมุดบันทึกของตัวเองลง ก่อนจะดึงลิ้นชักเก็บมันเข้าไป
ดวงตาสีเขียวมองไปรอบๆห้องไม้เก่าๆของตัวเองแล้วต้องถอนหายใจของตัวเองออกมาเสียเฮือกใหญ่ ไม่วายแอบลำบากใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เข้าต้องทำ
เตียงเล็กๆสำหรับนอนคนเดียว ทั้งกระด้างและแข็งหยาบ เครื่องตกแต่งห้องเก่าๆก็มีเพียงแค่โต๊ะไม้ ตู้เสื้อผ้าที่เมื่อเวลาเปิดออกจะมีเสียงระคายหู และโทรทัศน์เก่าๆ ไม่มีแม้แต่ภาพสี เป็นเพียงแค่ขาวดำที่พอดูรู้เรื่องเท่านั้น
ไม่มีอะไรสะดวกสบายเลยหากเทียบกับแอสการ์ด ไม่มีอะไรเหมือนห้องนอนเก่าของเขา หรือแม้กระทั้งที่ที่เรียกว่าคุกกักขังอาชญากรข้ามภพอย่างตัวเขายังดูดีกว่าห้องสีเหลี่ยมผืนผ้าที่เดินสองก้าวก็ประตูห้องนอน หรืออีกสองก้าวก็หน้าต่าง จะดีหน่อยก็ห้องนี้รับลมเย็นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ดวงตามรกตสวยมองไปตามห้องเก่าอีกครั้งแล้วก็อดไม่ได้ต้องถอนใจออกมาเบาๆ เขาต้องเริ่มเก็บกวาดห้องอีกแล้วซินะ แค่คิดก็ไม่อยากทำเพียงแต่เขาเองก็เลือกไม่ได้ ทั้งในใจเองก็อยากให้มีเวลามากกว่านี้ในอีกหนึ่งวัน
การเป็นมนุษย์ ยากกว่าที่เขาคิดมากมายนักจริงๆ
หากก็ไม่ผิด ตอนนี้เขาเรียกตัวเองว่ามนุษย์ เขาไม่อาจดูถูกชีิวิตเปราะบางเหล่านี้ได้อีกแล้ว ถ้าเขาไม่ลองมาเป็นมนุษย์ดูซักครั้งเขาคงไม่รู้ว่า ช่วงเวลาสั้นๆของมนุษย์ พวกเขาต้องเผชิญอะไรบ้าง ทั้งความแปรปรวนของฤดูการ ท้ังการต้องทำงานแลกสิ่งมีค่า หรือการเจ็บป่วยเมื่อยามพบปะโรคร้าย สิ่งเหล่านี้เขาไม่เคยพบเจอ หากเวลาไม่กี่เดือนเขากลับเรียนรู้มันได้อย่างดี
โลกิ..เป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่โลกิที่สามารถเสกสรรค์มนต์ใดใส่ใครได้อีกต่อไป ไม่สามารถทำร้ายใครได้ เขามีเพียงหนึ่งชีวิตเท่านั้นที่ต้องระวัง ด้วยใช้พลังทั้งหมดที่มี ที่เขาสั่งสมมันมาตลอดอายุไขที่ยาวนาน แลกกับการต้องหนี ระเบิดคุกในแอสการ์ด หรือแม้กระทั้งอำพรางตัวเองลักลอบเข้ามายังมิดการ์ดโดยไม่พึ่่งเทเซอร์แรค..
จะเหลือก็แต่ความเป็นอมตะ ที่ทำให้เขาลำบากใจ หากเจ็บ หากป่วย หรือถ้านึกกันแบบขันๆ เขาโดนรถชนบาดเจ็บสาหัส เขาอาจจะเจ็บ อาจปวดจนไม่สามารถเยียวยาได้ เพียงแต่ไม่ตายและต้องอยู่อย่างเป็นผักปลาไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่แน่ใจนัก
เพราะอย่างนั้น..การระวังตัวไม่เสี่ยงคงดีที่สุดในตอนนี้
“ทอม…ทอม!!!”เสียงตะโกนลั่นจากด้านนอกทำให้เจ้าตัวที่กำลังคว้าเอาผ้าปูที่นอนผืนเก่าสะดุ้งเฮือก
“ตาจะเข้าไปในไร่ หลานช่วยมานั่งเป็นเพื่อนยายก่อนได้ไหม…เจ้านายเรียกตาเข้าไปหาน่ะ”น้ำเสียงอบอุ่นแบบนี้ฟังกี่ครั้งก็นึกอบอุ่นไปยังขั้วหัวใจ โชคชะตาไม่ได้ใจร้ายกับเขาเสียทั้งหมด
เสียงที่เดินออกไปทำให้รู้ว่าการจากไปของผู้สนทนา แม้ไม่มีเสียงตอบรับออกมาจากเขาก็ตามที
ชายหนุ่มละมือจากการเริ่มต้นทำความสะอาดห้องของตัวเอง สำรวจเสื้อผ้าในกระจกบานหนึ่งที่แขวนอยู่ในห้องของเขาเพื่อดูความเรียบร้อย
หากก็ต้องขัดใจทุกครั้งที่เห็นสิ่งแปลกปลอม ไหมสีดำระต้นคอของตัวเอง ที่ตอนนี้มันถูกเปลี่ยนเป็นเป็นน้ำตาลประกายเหลือบแดงที่ถูกมัดรวบเพราะเริ่มนึกรำคาญ หากแต่ก็ไม่ยอมตัดออกแม้เพียงนิด ส่งผลให้ใบหน้ายิ่งดูอ่อนเยาว์ไปอีก
แม้จะไม่ชอบ..หากก็ต้องทำ
ชายหนุ่มเปิดประตูออกมาจากห้องของตัวเอง ก่อนจะเดินเลาะครัวเล็กๆไปยังกระท่อมที่อยู่เคียงกัน มันไม่ได้ดูดีมากนักหรอก หากแต่ก็ยังกว้างขวางกว่าที่ที่เขาอยู่มากมายนัก ไม่รอช้าเขารีบเข้าไปในตัวบ้าน
หากเมื่อเข้าไป รอยยิ้มกลับต้องระบายที่มุมปากของเขาทันที เนื่องจากคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกนั้นระบายยิ้มอย่างกว้างขวางรอท่าอยู่แล้ว
“หากไม่ลำบาก ช่วยชงชาให้ยายหน่อยได้ไหมจ๊ะทอม”เขาพยักหน้ารับ ยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเดินออกจากตัวบ้านเพื่อเข้าครัว แม้จะเป็นอีกครั้งที่ไม่มีการตอบรับเป็นคำพูด
ชงชา..เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันคือะไร ถ้าหากเป็นสมัยก่อน แต่ตอนนี้น่ะเขาทำมันเสียคล่องเลยทีเดียว ภูมิใจกับมันค่อนข้างมาก
การมามิดการ์ดครั้งนี้ไม่ได้สะดวกสบาย เพราะกว่าจะปรับตัวได้ก็กินเวลาไปร่วมเดือน ตอนที่มาถึงนี้ใหม่ๆเขายังไม่รู้เลยว่ามาถึงตรงส่วนไหน แต่ก็แน่ใจว่าที่นี้คืออเมริกา เพราะตากับยายบอก
เมืองที่เขาเคยพาซิทอรี่มาถล่ม แต่ตรงที่เขาอยู่นี้มันคงไกลมากเพราะคนแถวนี้ดูจะไม่ค่อยรับรู้เรื่องเท่าไหร่
หากแต่ทำไมต้องมิดการ์ด…คงเพราะเขาเคยมาก่อเรื่องเอาไว้ และธอร์เองก็คงไม่ฉลาดพอที่จะคิดว่าเขาจะย้อนกลับมาที่นี้อีกครั้งหรอก แถมเขาเองก็ไม่เหลือรอยพลังเวทให้ตามแล้วด้วย
วินาที่แรกของที่นี้คือ เขามานอนกองอยู่ที่กองฟาง ในชุดคลุมขาวของนักโทษจากแอสการ์ด กระมอมแมมดูไม่ได้ ยังดีที่ตากับยายมาเจอเข้า จึงได้ช่วยเหลือเอาไว้
สภาพเขาในตอนนั้นอย่าว่าแต่หนีเลย แค่ลุกขึ้นมายังลำบาก เพียงแต่สองตายายใจดีก็ช่วยเขาเอาไว้โดยไม่รังเกียจ หมดสติไปอีกสองวันกว่าจะฟื้นขึ้นมา สองสามีภรรยาถามคำถามเขามากมาย
หากเขาเลือกที่จะไม่ตอบ..และไม่พูดอะไรเลยแม้ซักคำเดียว..ในตอนแรก เพราะเขาเองยังไม่ยากตอบ และยังไม่ค่อยเข้าใจการใช้ภาษาของที่นี้นัก หากเมื่อเวลาผ่านไปสักพักทั้งคู่เข้าใจไปเองว่าเขาเป็นใบ้เลย ทำได้แต่เพียงฟัง เขาเองก็ปล่อยให้มันเป็นไป
ดีแล้วที่มันเป็นอย่างนั้น เขาจะได้ไม่ต้องมาคอยตอบคำถามของใคร มีอะไรก็ทำหน้านิ่งๆเข้าไว้บอกคนอื่นเป็นนัยว่าเขาไม่สามารถพูดได้ ทำให้ไม่มีใครเคยคิดจะมาทำความรู้จัก หรือถามไถ่ว่ามาจากไหน และตากับยายก็จะบอกว่าเป็นหลานที่มาอยู่ด้วยกัน
อย่างน้อยๆ..ก็เป็นการลงโทษตัวของเขาเอง
คงเพราะความสงสาร ทั้งคู่จึงรับเข้ามาอยู่ด้วยกัน..ตากับยายก็เริ่มสอนการใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ ทีละขั้นทีละตอน โดยไม่นึกรำคาญ แม้เขาจะไม่ไว้ใจในความรักที่ไม่ต้องการการตอบแทนนั้น เมื่ออยู่มันซักพักมันกลับซึมซับลงไปเอง
และเมื่อเขาไม่พูด และเมื่อเขาไม่ตอบ..ตายายจึงเรียกเขาว่าทอม..โดยให้เหตุผลว่ามันเรียกง่ายและคนแถวนี้เองก็ไม่มีใครชื่อนี้ด้วย
เขาประคองถ้วยชาออกไปอย่างเบามือ มองถ้วยเก่าๆบิ่นๆแล้วก็นึกถอนใจในความอัตขัตของทั้งคู่ แถมเขาเองก็ยังจะมาเบียดเบียน
“ทำไมทำหน้าเศร้าอย่างนั้นล่ะหือ”เจ้าตัวคงเหม่อถือถ้วยชาเข้ามา กว่าจะรู้ตัวก็เพราะหญิงชรานั้นทักเข้าให้
คนถูกถามหลุบตาลง ปกปิดแววตาสีเขียวประกายครามของตัวเองจากการมองเห็น คิ้วบางขมวดเป็นปมน้อยๆ หากสัมผัสจาดมือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยของคนที่นั่งตรงข้ามทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง
“ทอม..อย่าทำหน้าหม่นอย่างนี้ซิ เสียดายหน้าสวยๆหมดนะลูก..เป็นอะไรหือเรา”
คำถามง่ายๆ แต่ยากที่จะตอบเพราะเขาพูดไม่ได้
เจ้าตัวจึงได้แต่มองไปรอบๆบ้าน ก่อนจะเอามือชี้ตัวเอง พยายามบอกให้คนตรองหน้าเข้าใจอย่างช้าๆว่าเขาละอายที่สองเดือนเกืือบสามเดือนมานี้ นอกจากเฝ้าบ้าน เรียนรู้งานเล็กๆน้อยๆ เก็บเตียง ทำอาหาร ชงชา ยกน้ำ ผ่าฟืน หรืออะไรก็ตามที่อยู่รอบๆบ้าน เขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีกเลย
ช่างไร้ประโยชน์นัก
“อย่าคิดอย่างนั้นเลย หลานรัก..การที่พระเจ้าท่านประทานหลานมา นั้นก็เป็นความสุขของตากับยายแล้ว เราไม่มีลูก..เพราะอย่างนั้นหลานก็เหมือนกับครอบครัวของเรา”หล่อนตอบด้วยความจริงใจ จนแม้แต่คนที่ขาดความอบอุ่นมาเนิ่นนานอย่างเขายังสามารถสัมผัสได้
กระนั้น..เขาก็ยัง ไม่สบายใจอยู่ดี
“ไม่เอาน่า..อย่าคิดมาเลยนะ รู้ไหม..เวลาหลานเศร้าน่ะ ทุกอย่างรอบตัวหลานมันดูหดหู่เหลือเกิน ใบหน้าของหลานน่ะ เหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะรู้ไหม”นางบอกก่อนเชยคางมนอีกคนให้สบดวงตาอันอ่อนโยน
เขาพยักหน้ารับแล้วจึงทำอย่างที่นางอยากให้เป็น ยิ้มน้อยๆแม้มันจะไม่ชัดเจนมากแต่ก็ยังทำ
“นั้นล่ะ..”
“กลับมาแล้ว…ตากลับมาแล้วสองยายหลานตามีเรื่องจะบอก”ชายมากวัยที่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มใจดีบอก ในขณะที่คนตัวบางก็ลุกไปหยิบน้ำมาให้อย่างรู้หน้าที่ สมัยก่อนคุณเป็นคนหยิบแต่ตอนนี้มีหลาน..คนเป็นตายายก็อยากให้หลานเป็นคนทำให้
“อะไรหรือตา ตกอกตกใจหมด”ผู้เป็นภรรยาเอ่ยตำหนิแต่อีกคนคงปิดความตื่นเต้นดีใจไว้ไม่ไหว
“ก็ตอนนี้ในไร่น่ะซิ เจ้าแซมกับโรเบิตมันเพิ่งได้จดหมายตอบรับเข้าเรียนวิทยาลัยที่มิชชิแกน เขาเลยให้ตามาบอกทอมว่าคนขาด อยากขอแรงไปช่วย แล้วจะให้ค่าตอบแทน”รับน้ำจากมือหลานมาดื่มอึกใหญ่ ในขณะที่คนโดนพาดพิงก็ได้แต่ตาโต
เขาจะได้ทำประโยชนให้คนอื่นเสียทีซินะ
“แต่จะไหวหรอตา งานในไร่น่ะมันยากนะ ถึงไร่ของคุณร๊อบเขาจะให้เงินเยอะก็เถอะ ทอมทำอะไรไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่นะตา”นั้นเป็นเรื่องที่ทั้งสองเคยประสบพบมาก่อน
“ก็คงต้องขอคุณเขาให้ทำงานเบาๆไปก่อนนั้นแหละหน้าซื่อๆอย่างนี้เขาคงไม่ใจร้ายกับหลานเราหรอกยาย”คนเป็นตาว่าหันมองหลานชายต่างสายเลือดด้วยดวงตาเอ็นดู ยกมือขึ้นลูบผมเส้นอ่อนเล็ก
“ไหวไหมเราฮึ ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องไป”
เพียงแค่นั้น คนถูกถามพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ เขาทำความเดือนร้อนให้คนมาตั้งมาก ทำอะไรเลวร้ายและเบียดเบียนมาก็เยอะ แต่ครั้งนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ได้ทำตัวให้เป็นประโยชน์เพื่อคนอื่น
มิดการ์ดกำลังค่อยๆหล่อหลอมเขาขึ้นมาทีละนิดๆ
………………
………..
….
โลกิกำลังมองสถานที่ที่เขาไม่คุ้นตาด้วยความตื่นตาตื่นใจ มองไปจนสุดสายตาเห็นแต่ต้นองุ่นที่กำลังออกดอกออกผลงามได้ใจ พยายามอดใจไม่ให้เด็ดมันขึ้นมาจริงๆ แหม..นิสัยขี้ขโมยบางทีก็เลิกได้ยากอยู่นะ
คนงานหลายคนที่กำลังง่วนอยู่กับงานของตัวเอง แต่อีกหลายคนจ้องมองมายังเขาด้วยสายตาสงสัย บ้างก็จับกลุ่มคุยกัน หากคนเป็นตาก็ได้แต่เอาไหล่สะกิดให้เดินตามมาพร้อมรอยยิ้มรู้ทัน
“ไม่ต้องห่วงหรอก เขาแค่สงสัยว่าหลานเป็นใครเท่านั้นเอง”
ระยะทางจากบ้านที่เขาอาศัยอยู่ในตอนนี้ไม่ได้ห่างจากไร่ที่ตาทำงานมากนัก ตามีหน้าที่ขับรถส่งองุ่นไปตามร้านค้าต่างๆซึ่งไม่ใช่งานหนักมากแต่เพราะเป็นคนเก่าคนแก่ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของเจ้าของไร่ เลยได้เงินมากพอที่จะเลี้ยงเขากับยายไหวในช่วงที่เขามาอาศัยด้วย
“คุณร๊อบครับ ผมพาคนงานคนใหม่มาให้ฝาก หลานของผมเอง”โลกิที่มัวแต่มองสภาพรอบข้างไปเพลินๆนั้นหันมาอีกครั้ง
สายตาจึงได้เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อายุอานามจากใบหน้าว่าคงมีศักดิ์มากกว่าเขาถ้าเทียบการเป็นมนุษย์ ผิวสีคร้ามแดดมองเขาด้วยแววตาสนอกสนใจใคร่รู้ขึ้นมาแทบจะทันที เขาดูหล่อเหลาเอาการอยู่เหมือนกันทีเดียว เพียงแต่โลกิไม่ใคร่สนใจ
แม้คนที่เขารักจะเป็นพี่ชาย และมีเพศเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายถึงจะมีรสนิยมชอบผู้ชายไปหมดทุกคนหรอกนะ แค่่คนผู้นั้นคนเดียว
“อ้าว..ลุงแม๊กซ์ นี่หรอ..หลานที่คนเขาพูดกัน”ร๊อบหันมาทั้งตัว ชายหนุ่มค่อนข้างสูงพอควร อาจจะเสมอกับพี่ชายของเขาเมื่อคะเนทางสายตา แต่ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลยนอกจากนั้น
“ครับคนนี้ล่ะครับที่เขาพูดกัน”คนเป็นตาดึงแขนเรียวของหลานให้มายืนอยู่ด้านหน้า แดดในไร่ค่อนไปทางร้อนเนื่องด้วย ฤดูร้อนในนาปา วอลเลย์ แคลลิฟอร์เนีย เหมาะแก่การเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทำไวน์ยิ่งนัก หากคนที่มีความลับว่าตัวเองเป็นเอเลี่ยนยักษ์น้ำแข็งอดกระสับกระส่ายไม่ได้เลย
แต่ก็เป็นภาพที่ชวนมอง ใบหน้าใสและผิวขาวราวงาช้างนั้นกำลังชื่นเหงื่อขึ้น แก้มพวงใสแดงเรื่องตัดได้ดีกับสีผิวของเจ้าตัวดูน่าชม คนที่เพิ่งรู้จักจึงมองเพลิน จะรู้สึกตัวอีกทีก็ด้วยสบสายตาแสนเย็นชาสีเขียวนั่นล่ะ
ดวงตาไร้อารมณ์ ดวงตาที่เหมือนเก็บเรื่องราวมากมายเอาไว้ในใจ หากพอได้มองอย่างจริงจังกลับไม่มีความหมายอะไรเลย แปลกแต่น่าค้นหา เชิญชวนหลอกล่อให้คนมองตกลงไป
รวมๆแล้ว…สวยและลึกลับดี
“แล้ว…เขาไม่แนะนำตัวกับเจ้าของไร่หน่อยหรอ หยิ่งขนาดนั้นเลย”เจ้าของไร่หนุ่มถามน้ำเสียงเชิงเย้า นั้นทำให้คนฟังไม่พอใจ โลกิไม่ชอบให้ใครมาล้อเขาเล่น ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรก
ดวงตาคู่นั้นแค่เพียงไม่นาน..กลับฉายแววดื้อดึงมากขึ้น ริมฝีปากบางก็เม้มเสียเกือบแน่นเพราะความไม่พอใจ แต่ก็ยังคงวางเฉยเสีย เหลือบตาไปมองทางอื่นแทน เพราะเริ่มเหม็นหน้าว่าที่เจ้านายคนนี้เสียแล้ว
“คือ..ผมมีปัญหาเรื่องนี่แหละครับ เจ้าทอมมันพูดไม่ได้ครับ แล้วอีกอย่าง..มันทำอะไรไม่ค่อยเป็นด้วยเลยครับ แต่มันขยัน อยากทำงาน ผมเลย..อยากให้รับมันไว้ซักคน”คนมากวัยกว่าพูดด้วยความนอบน้อม จนคนฟังเลิกคิ้วสูง
สวย…และน่าเห็นใจ อาจจมีประวัติอะไรซักอย่างก็ได้ เพราะเท่าที่เขาได้ยินคนพูดกัน คู่ตายาย ฮิดเดิลเวิร์สไม่เคยมีลูกหลานมาเยี่ยมเยียน ตั้งแต่เขาเกิดยังไม่เคยเห็นเลย นี่ล่ะครั้งแรก สงสัยคงมีปัญหาอะไรมาจากเมืองใหญ่แน่ๆ เลยหนีมาที่ชนบทขนาดนี้
“ท่าทางคนเมืองอย่างงี้..ดูมือ ดูผิวซิทำอะไรได้มากมายกัน ถ้ามาทำในไร่ของผมคงลำบากนะ ไม่ไหวหรอก ลุงแม๊กซ์”ร๊อบส่ายหัวเบาๆ ถ้าให้ไปยกของไม่รู้ว่าแขนเรียวนั้นจะหักไหม แถมทำงานตากแดด ผิวบางๆนั้นก็คงพองตั้งแต่ไม่พ้นพระอาทิตย์ตรงหัวด้วยซ้ำ
ก็สงสารอยู่หรอก เห็นว่าเป็นใบ้น่ะ..
คนที่เงียบอยู่พอรู้ว่าจะชวดงานเลยได้แต่ตกใจ ถึงเขาจะเคยเป็นคนผยองไม่ต้องก้มหหัวให้ใคร แต่ตอนนี้สถานการณ์มันไม่เหมือนก่อนแล้ว ต่อให้ไม่ค่อยชอบหน้าเจ้าของไร่คนนี้ก็เถอะ แต่บอกตัวเองแล้วว่าจะทำประโยชน์ให้ตากับยาย
“อ..อ่า…อ่า..”เสียงที่เปล่งออกมาเบาๆ เป็นเสียงลมเบาจนแทบไม่ได้ยินนั้นเรียกให้ หากคนที่เฝ้ามองอยู่เห็นไม่ยาก
ดวงตาสวยนั้นมองเขาด้วยความเว้าวอน ต่างจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิงยิ่งทำให้เขาสนใจมากขึ้นไปอีกในตัวคนตรงหน้า ว่าถูกใจแล้วคงไม่พอ
“ทำไมหรอ..”ร๊อบยังทำท่านิ่ง ทั้งๆที่ในใจเต้นรัว เพราะมือบางขาวนั้นคว้าแขนของเขาเอาไว้ ยิ่งเขาผิวออกคล้ำแทนยิ่งเห็นชัดว่าหลังมือนั้นขาวมากแค่ไหน
“อือ…อือ”ไม่พอยังเขย่าแขนนั้นอีก
“ทอม..ไม่เอาน่า อย่าทำให้คุณเขาลำบากใจซิ”แม๊กซ์เดินเขามาแตะไหล่อีกคนเอาไว้เบาๆจนเจ้าตัวหันมองคนเป็นตาทีสลับกับอีกคนที เจ้าตัวจึงได้แต่ทำหน้าเศร้าเสียดายเล็กน้อยหากก็ต้องยอมปล่อยมือ
ที่นี้ไม่ใช่ที่ของเขาจะมาทำเอาแต่ใจหรือจะมาเจ้าอารมณ์เหมือนที่ที่เขาเคยจากมาไม่ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจตัวเอง หวังจะทำตัวให้มีค่าต่อคนอื่นซักครั้ง แต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
“ขอโทษด้วยนะครับ คุณร๊อบ เจ้าทอมนี่มันก็เหมือนเด็กๆอย่างนี้ล่ะครับ ไม่ค่อยประสาเท่าไหร่”คนมากวัยกว่าได้แต่ลูบหัวหากเจ้าตัวก็เดินนิ่งๆไปยืนข้างคุณตาตามเดิม
“ไม่เป็นไรหรอก..ว่าแต่ พูดไม่ได้..แต่ฟังรู้เรื่องใช่ไหม เราน่ะ”ร๊อบถามเสียงนิ่งขึ้นมา คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองตาใสในแบบเดิม หากแต่ก็พยักหน้าขึ้นลงเบาๆ
คนได้คำตอบถอนหายใจเบาๆ มองไปที่เจ้าหนุ่มอย่างเอ็นดู แม้โลกิจะไม่ได้ดูเด็ก ทั้งยังเหมือนหนุ่มอายุไม่ต่ำกว่า25 ปี อาจด้วยเพราะร๊อบมากวัย หรือไม่ก็ความไม่ประสาของโลกิเอง เลยอดที่จะมองออกมาในมุมนี้ไม่ได้
“แล้วอยากทำงานที่นี้มากเลยหรอ”อีกครั้งที่คำตอบไม่มีเสียงแต่คนทั้งหมดก็เข้าใจได้ อย่างนั้นจึงทำให้ ร๊อบยิ้มออกมาในหน้า
“เอาเถอะ..จะรับไว้ซักครั้งก็แล้วกัน แต่ให้ทำในไร่คงไม่ได้ ช่วงนี้ ฤดูเก็บเกี่ยวมันค่อนข้างสำคัญ พวกคนงานคนอื่นก็ยุ่ง ไม่มีเวลามสอนงานนายหรอกนะ”ต้นประโยคดี แต่ท้ายนี้เหมือนจะโดนปฏิเสธอีกระลอก
เริ่มทำให้คนเคยเอาแต่ใจ เกิดจะอารมณ์เสียขึ้นมาแล้ว ยังไงก็ตาม…นับแกะไป นับแกะ โลกิเอ่ย..นับแกะ จะได้อารมณ์ดีๆ ใจเย็นๆ น้องแกะน่ารัก
“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอก นายเคยเรียนหนังสือใช่ไหม จบมหาลัยหรือเปล่า ไม่ซิ..นายพูดไม่ได้นี่ เอาเป็น..นายอ่านหนังสือออก คิดเลขเก่งไหม”ร๊อบถาม ในขณะที่โลกิทำท่าคิด
ร๊อบเดินนำหน้าก่อนที่ทั้งสองจะค่อยๆเดินตามทางรถด้านข้างของไร่องุ่น ซึ่งมองไม่ไกลเป็นคฤหาสน์หลังงาม มันไม่ได้ใหญ่เหมือนราชวัง เพราะรูปร่างของมันไม่ได้ดูเหมือนอย่างนั้น เพียงแต่เป็นบ้านทรงยุโรปแบบคันทรี่ที่มีขนาดใหญ่ฉาบสีเหลืองนวลและขาวทำจากไม้ รอบด้านปลูกด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ มองแล้วสบายตา
โลกิแอบเข้าข้างตัวเองเล็กๆว่า บ้านที่แอสการ์ดเขาใหญ่และสวยกว่านี้เยอะ..ไม่ซินะ อดีตบ้านของเขา โลกิยิ้มให้กับตัวเองก่อนเดินเข้าไป
ห้องหับที่นี้ถูกแบ่งส่วนไว้อย่างเป็นระเบียบ แลดูสะอาดดี แต่จะดูดีกว่านี้ถ้าไม่มี….แพะมาเดินเล่นในบ้าน มันจะดูเป็นปกติมากเลยทีเดียว และนอกจากแพะ ยังมี..น้องหมาตัวโตอีกด้วย ท่าทางจะเป็นเพื่อนกัน
“มันคิดว่ามันเป็นหมา เลยต้องเลี้ยงไว้ด้วยกัน”โลกิเผลอหลุดยิ้มออกมา เขาไม่ได้ยิ้มหัวเราะอย่างนี้มานานแล้ว แม้จะแบบไม่ตั้งใจก็เถอะ
แน่ล่ะ…แพะที่ไหนคิดว่าตัวเองเป็นหมา ตลกชะมัด
“อย่ามัวแต่ชื่นชมเพื่อนใหม่ มาสมัครงานอย่าอู้…ตามมา”ร๊อบเร่งเขาก่อนจะพาเขาไปยังห้องเอกสารที่อยู่มุมเกือบสุด และเมื่อปิดประตู…ในนั้นกลับกองไปด้วยเอกสารมากมาย
ที่….กระจัดกระจายไม่เป็นท่า!!!
เจ้าของใบหน้าสวยหันมามองว่าที่เจ้านายคนใหม่ แถมยังเป็นคนแรกด้วยในชีวิตที่ยาวนานและเป็นอมตะของเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่บ่งบอกความสงสัยมากมายในดวงตา
“งานไร่ งานสวนมันก็ต้องมีเอกสารบ้าง แต่ฉันมันคนหัวทึบ ส่วนพวกที่จะเป็นเลขาฯอะไรนั้น ก็ไม่มีใครอยากทำตำแหน่งนี้ซักเท่าไหร่น่ะ มันห่างไกลความเจริญ ถือซะว่า..ทดลองงานไปละกันนะ ถ้าไม่ได้ฉันจะได้รู้..ว่าจะเอานายไปไว้ตรงไหน”ร๊อบว่าน้ำเสียงกวนๆเหมือนอย่างที่เขาใช้มาตลอด
โลกิหันไปมองหน้าคุณตาอีกหน่อยอย่างขอความเห็น คนเป็นตาเลยเดินเข้ามาใกล้..
“ทำได้ไหมลูก..ไม่ได้ไม่เป็นไรนะ”ด้วยความห่วง เขาไม่เคยมีลูก และเมื่อฟ้าส่งทอมมาให้เขา..ไม่ผิดที่เขาจะอยากดูแลและรักอย่างไม่ต้องถามหาเหตุผล
ยิ่งฟังคำห่วงใยยิ่งมีแรงใจ..ฝ่ามืออุ่นและคำพูดที่เต็มไปด้วยความรัก ทำให้โลกินึกถึง..โอดิน ว่าครั้งหนึ่ง โอดินเคยทำอย่างนี้กับเขา..แต่เขาไม่สมควรอาจเอื้อมไปรับมันอีก
เลยพยักหน้าตอบให้สบายใจ สำหรับเขาแค่จัดเอกสารน่ะ..เศษเล็บ เขาอ่านหนังสือออกเป็นร้อยภาษา ทั้งศาสตร์เวทมนตร์ ทั้งเรื่องของสากลโลก แต่เขาไม่ได้มีเวทย์เหมือนก่อน ไม่มีข้ารองบาทเหมือนเก่า แรงงานล้วนๆ
คนทั้งสองคนออกไปแล้ว หนึ่งเจ้านาย..และหนึ่งคุณตา ทิ้งให้เขาจมกองเอกสารมากมายอยู่คนเดียว เจริญเถอะ เห็นพูดไม่ได้เข้าหน่อยล่ะเอาเชียว ไอ้เจ้านายนั้นก็เหมือนกัน นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาไม่มีรายได้แถมทำให้คุณตาเดือดร้อนล่ะจะไม่มีทาญาติดีด้วยเลย
ยิ่งคิดก็ยิ่งนึกถึงความสะดวกสบายเมื่อยามที่อาศัยอยู่ในแอสการ์ด ไม่ต้องมานั่งทำอะไรให้เหนื่อยอย่างนี้เลย ที่สำคัญคิดถึงดวงตาสีฟ้าคู่นั้นที่มีแต่ความรักและความอบอุ่น เขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองเลยซักนิดเดียวนะ แต่สายตาของธอร์น่ะมีความรักมากกว่าใครในเก้าโลกเชียว คิดถึงหัวยุ่งๆสีบลอนด์ทองเหลือเกิน รอยยิ้มซื่อของเจ้าก็เช่นกัน
หากคิดถึงที่สุดคือ อ้อมกอดของเจ้า..อ้อมกอดที่ข้ารู้ว่ามันเป็นของข้า อ้อมแขนที่ข้ารู้จะไม่มีที่ใดปลอดภัยเท่าวงแขนนี้อีกแล้ว
แต่เพื่อให้เจ้าไม่ต้องเป็นขี้ปากคนอื่น ไม่ต้องเสียการปกครองและการนับถือจากประชาชนแอสการ์ดและมิดการ์ดที่เจ้ารัก อย่างยิ่งไม่ต้องทำให้กษัตริย์อย่างเจ้าต้องแปดเปื้อน ข้าจากมา..มันดีแล้ว
ธอร์..ตอนนี้เจ้าคิดถึงข้าเหมือนกันใช่ไหม พี่ชายผู้เป็นที่รักของข้า
*******************************************************************************
TBC อย่างที่บอกเขียนไว้ตั้งแต่ Avengers นะคะเพราะงั้นอันนี้จินตนาการล้วนๆเลยยยยยยยยยย
ความคิดเห็น