คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - Silently - 2 Thor x Loki
[SF]ความรักไม่มีคำพูด…ความเจ็บไม่เสียง [THOR x KI]
2
งานเอกสารวุ่นวายกว่าที่เขาคาดเอาไว้เยอะ..มันไม่ได้วุ่นวายเพราะเขาไม่รู้เรื่องหรอกนะ แต่ที่มันวุ่นเพราะดูจากสภาพที่มันกองทับถมกัน และนอกจากนั้นก็ยังมีไอ้ที่มันปนกันมั่วไปหมดนี่ก็อีก
บอกได้เลยว่าคนทำไม่ได้ทำมันมานานแค่ไหน..ดูจากวันที่ก็รู้ กระดาษบางแผ่นเอกสารสำคัญอย่างรายรับรายจ่ายนั้นดูจะเป็นระเบียบที่สุด แต่ถ้าไม่นับเรื่องเงินๆทองๆ ขนาดแผนภูมิของไร่นี้ยังกระจัดกระจายรวมถึงโฉนดที่ดินที่แสนสำคัญก็ยังกองเหมือนกระดาษโหลเลย
ให้ตายเถอะ…มนุษย์ผู้นี้นี่ทำไมไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย
ทำไปก็ได้แต่บ่นความชุ่ยของไอ้เจ้าของไร่ไป ถ้าเป็นธอร์นะ คงไม่ปล่อยให้เขามานั่งหัวหูจมอยู่กับกองกระดาษ แถมฝุ่นตลบเป็นบ้าเป็นหลังอย่างนี้แน่ๆ ถ้าไม่ผิดธอร์อาจจะต้องบ่นคนที่สั่งให้เขามานั่งทำอะไรแบบนี้เชื่อได้เลย
มาด้วยคำว่า ‘ใครบังอาจมาใช้น้องข้าแบบนี้ ข้าจะไปจัดการมัน!!’
นึกถึงตรงนี้ก็อดยิ้มไม่ได้ ถ้าทางโลกิจะอาการหนักเอาการเสียแล้วซิ มองอะไรก็นึกถึงแต่ธอร์ ทำอะไร หายใจ…ทำไมมันก็เป็นเรื่องของธอร์นะ นี่ขนาดนั่งจัดเอกสาร..เขายังนึกถึงคนตัวโตๆคนนั้นเลย
ถ้าทางจะอาการนักเสียแล้วซิเรา..ไม่ไหวแฮะ
“จัดเอกสารสนุกขนาดนั้นเลยหรอ”เสียงทุ้มต่ำทำเอาคนที่กำลังเร่งจัดเอกสารสะดุ้งเสียจนตัวโยน กระดาษที่คามืออยู่กระจัดกระจายเสียจนลอยไปในอากาศ ดีนะนั่งอยู่กับพื้นมันเลยปลิวไปไม่ไกล
ภาพของหนุ่มที่เขารักพลันสลายหายไปกับสายลม จนต้องหันไปทำตาเขียวๆใส่คนมาไม่ให้เสียงแถมเสียมารยาทอีกต่างหาก โลกิถอนหายใจเฮือกใหญ่..ดีนะเอกสารเขาจัดเป็นหมวดๆไว้แล้วและมันก็ไม่ได้วุ่นวายเยอะเท่าไหร่ เขาเลยเบาใจ
“อะไรเมื่อกี้ยังเห็นยิ้มๆอยู่เลย ขัดทีทำตาเขียวใส่เลยเว้ย..นี่ ฉันเจ้านายนะ”ร๊อบรู้ว่าเขากำลังโดนว่าทางสายตาอยู่เพียงแต่ไม่ได้นึกโกรธ ในมารยาทที่ลูกน้องไม่สมควรชักสีหน้าใส่เจ้านายอย่างเขาของโลกิแม้แต่น้อย
ไม่พอยังเดินมาป้วนเปี้ยนแถวที่อีกคนนั่งจัดเอดสารด้วย ก่อนจะหยิบเอกสารบางส่วนขึ้นมาดู ทำเสียงพึมพำอยู่คนเดียว ในขณะที่อีกคนก็หันไปทำงานของตัวเองต่อแบบไม่สนใจอะไรรอบข้างอีก เขากำลังฝันถึงธอร์ ดันมาขัดเขาได้คนอะไรนิสัยเสีย
นั่งทำงานต่อไม่ได้เท่าไหร่ คนที่เป็นเจ้านายจึงเอามือสะกิดเขาเบาๆ
“ทอม..เดี๋ยววันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ ได้เวลาเลิกงานแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ ส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันพรุ่งนี้ แต่ถือว่าสำหรับงานเอกสารนายทำให้ได้ดีเลยล่ะ เอาเป็นว่ารับเข้าทำงานก่อนละกัน”ร๊อบยิ้มหวานให้ ในขณะที่คนมองทำหน้าเฉย
แหม..คนหล่อก็เก้อนะ ยิ้มอย่างนี้สาวนอนถวายตัวมาเยอะแล้ว..ไหงไม่ได้ผลว่ะ!!
โลกิมองอีกคนพลางคิดว่า เขาคงมีเจ้านายปัญญาอ่อนล่ะนะ จะอภัยให้ก็แล้วกันเรื่องก่อนหน้านี้น่ะ
“งั้น…นายจำทางกลับทางเดิมได้ใช่ไหม ลุงแม๊กซ์รอรับนายอยู่หน้าบ้านน่ะ”ร๊อบบอก ชี้นิ้วโป้งข้ามไหล่ไปยังประตู และคนตัวเล็กกว่าก็ได้แต่พยักหน้า
แต่แทนที่โลกิจะลุกไปเลย..เขาเลือกที่หากระดาษเปล่าซักใบกับปากกาแถวนั้นที่เขาใช่สำหรับเขียนหน้าแฟ้มงานขึ้นมา เขียนลายมือหวัดๆที่มีแค่เพียงคำเดียว
‘THANK YOU’
หากเมื่อร๊อบเงยหน้าขึ้นมา เขาจึงได้เห็นหลังไวๆของโลกิเดินออกไปเสียแล้วซิน่ะ เรียกก็ไม่ทันแล้วด้วย
เอาเถอะ..ยังไงก็ได้เจอกัน คน..สวย ที่น่ารัก
………………..
……......
…..
ทำงานในห้องเอกสารมาได้วันที่สอง เมื่อเช้าเป็นอีกวันที่เขาติดรถของตาเข้ามาทำงาน ตาบอกว่าเจ้านายเขาสั่งให้เขาไปทำงานนห้องได้เลยไม่ต้องรอ
และเขาก็ทำเหมือนเมื่อวานไม่มีบิดพริ้วเลย เพียงแต่เขามีเพื่อนหน้าใหม่มานั้งเป็น คือ.. เจ้าหนึ่งแพะขาว และสองหมาไซบิเรียนฮัสกี้ตาสีฟ้า
โอเค..พวกมันเข้ามาทำท่าจะเคี้ยวเอกสารที่เขาอุตส่าห์นั่งแจกแจงแทบตาย ดีนะที่มันยังไม่ได้กินอะไรเข้าไปซักอย่าง และเขาก็จ้องตาดุมันไปเหมือนที่เขาเคยทำกับธอร์ตอนที่พี่ชายของเขาทำตัวงี่เง่า
ไม่น่าเชื่อ..มันจะใช้ได้ผล ทำให้สามสิ่งมีชีวิตมานั่งคลอเคลียร์น่าเอ็นดู ชักจะเหมือนพี่ชายของเขาเกินไปแล้วนะ ต่างตรงที่ชายคนนั้นจะมานอนลงตรงตักของเขา ครางเรียกชื่อเขาช้ำๆแล้วหลับไป เนื่องจากเหนื่อยหนักจากการฝึกทางการทหาร
เห็นไหม..ทำอะไรก็คิดถึงเขาอีกแล้ว
“อ้าวเฮ้ย!! นี่มันอะไรเนี่ย”เสียงโวยวายแบบนี้คงมีแค่คนเดียว ไม่พ้นนายจ้างเพี้ยนของเขาแน่นอน
“เรด บลู ไวท์ทีช มาทำอะไรว่ะเนี่ย..”ร๊อบร้องบอกก่อนจะเห็นว่าห้องเอกสารเขาเต็มไปด้วยสัตว์เลี้ยงตัวโตทั้งสาม หากคนที่นั่งอยู่กลางวงล้อมกลับไม่ได้สนใจตาม ทำงานไปแบบไม่ใส่ใจ
คนเป็นนายเองก็ไม่แปลกใจหรอกนะ
“นี่ๆ สนใจกันบ้างเถอะ ไม่ต้องใจทำขนาดนั้นหรอก”คนที่นั่งทำอยู่ที่พื้นเลยหันมามองนิ่งด้วยสายตาเฉื่อยๆปะปนกับระอา อยากตอบไปในใจว่า จะอะไรกับเขากันนักหนาก็ไม่รู้ซิท่า อีกนิดเดียวมันก็จะเสร็จอยู่แล้ว
และคนอย่างร๊อบ ก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจกว่า…เงินที่เขาจะเอาไปช่วยเป็นค่าอาศัยหรอกนะ
“ยื่นมือออกมาซิ”ชายหนุ่มร่างสูงบอก หากอีกคนกลับทำหน้าระแวงไม่ไว้ใจ จนคนที่มองอยู่รับรู้ได้อย่างชัดเจน จึงต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ไม่ได้ลากไปฆ่าหรอกน่า ฉันเป็นนายจ้างนะ ไม่ใช่ฆาตกร”หากเมื่อร๊อบพูดจบคนฟังถึงกับสะดุ้งเล็กๆ โดยไม่รู้ว่าคำพูดตัวเองทำให้อีกคนรู้สึกเจ็บ
ฆาตกรหรอ..ครั้งหนึ่ง เขาเคยเป็นมันมาก่อน
“อ้าว..ยังอีก งั้น…เอานี่”เห็นว่ามัวแต่นั่งค้างอยู่ได้เลยคว้ามืออีกคนเอาไว้ วางของบางอย่างลงบนมือ มันคือสมุดจดเล่มเล็กๆที่มีปากกาหัวใหญ่เสียบเอาไว้ แถมด้วยเชือกยาวๆอีกหนึ่ง
โลกิได้แต่สงสัย ก่อนจะมองหน้าคนให้ขมวดคิ้วเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาสงสัยจริงๆ
“ก็นายพูดไม่ได้ แต่นายเขียนได้ เพราะงั้น..ถ้านายเขียน คนที่นี้ทุกคนจะเข้าใจ”ร๊อบยักคิ้วให้ก่อนจะลุกขึ้นปัดฝุ่น ก้มลงมองคนที่เอาสมุดนั้นคล้องคออย่างว่าง่ายอดไม่ได้ที่ยิ้มออกมา แม้จะไม่มีคำขอบคุณก็เถอะนะ แต่ถือซะว่ารับของก็ยังดี
เขาชักจะชอบขึ้นมาจริงๆแล้วซิ…นายทอมตัวเล็กคนนี้น่ะ
ชายหนุ่มเจ้าของห้องหันมองรอบๆที่ดูสะอาดสะอ้านขึ้นมาทันตาเนื่องจากเอกสารหลายส่วนถูกจัดใส่แฟ้มไปได้แล้วมากกว่าสามในสี่ เหลืออีกไม่มากนักก็ที่กองอยู่เลยคิดว่าคงจะปล่อยให้อีกคนทำไป
“งั้น..ทอม ถ้านายทำเสร็จแล้วจะกลับบ้านเลยก็ได้ แล้วพรุ่งนี้เข้ามา ฉันจะบอกอีกทีว่านายจะทำอะไรล่ะกัน”ร๊อบว่าพลางมองหน้าคนไร้อารมณ์ไปอีกที ซึ่งเจ้าตัวพยักหน้าสองสามครั้ง
ชายหนุ่มสวมหมวกคาวบอย ในขณะที่ขายาวของเขาพาตัวเองไปยังไร่ไวน์แสนรักทันที หากแต่เดินถัดไปได้แค่ประตูบ้านตัวเองกลับมีเสียงโทรศัพท์เคลื่อนเจ้ากรรมดังขัดเอาเสียได้ซิน่า
เจ้าของเครื่องกรอกตามองของในมือก่อนจะรู้ได้ว่าคนต่อสายเข้ามาคือใครก็ต้องยกยิ้มมุมปากเสีย ไอ้เพื่อนเกลอเพื่อนเก่าของเขาน่ะเอง
“ฮัลโหล..ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรให้กระผมรับใช้ครับ”คำพูดกึ่งเล่นนั้นักใช้กับคนสนิท หากปลายสายก็ได้แต่โวยวาย พูดจากวนประสาทกลับมาเสียจนคนรับต้องหัวเราะอย่างชอบใจ
“โห..ไม่ได้เจอกันปีเดียว นี่กวนตรีนเหมือนเดิมเลยนะนายน่ะ ว่าแต่นายจะมาพักที่ไร่ฉันแน่เรอะ คนงานยุ่งอย่างนายน่ะนะจะมีเวลา โถๆๆ”ว่าแล้วก็เล่นคืนไปอีก หากอีกด้านของโทรศัพท์ก็ตอบกลับมาเช่นกัน
“เออๆๆ จะมาเมื่อไหร่ พรุ่งนี้เช้า!! เฮ้ย..เร็วไปไหม เออๆๆได้ๆ เดี๋ยวเตรียมห้องไว้ให้ เออๆ ครับๆๆๆ ใครจะไปกล้าหือกับคุณครับ คุณสตาร์ค!!!”ว่าแล้วก็กดวางมันเสียเลย
ชายหนุ่มเก็บมันลงกระเป๋าเสื้อ..ดีเขาจะได้อวดให้สตาร์คเห็นทอม เห็นเลิกกับมิสพอร์ต ไปคบหนุ่มเฉยเลย ไม่รู้ขั่วมันเปลี่ยนกันง่ายหรือยังไง แต่ช่างเถอะ..เพราะตอนนี้
เขาก็แอบซ่อนคนงานใหม่ ที่จะพยายามพัฒนาจากคนงาน กลายเป็นคนรู้ใจเอาไว้เหมือนกัน จะมีกี่คนที่สัตว์เลี้ยงของเขาจะเข้าหาขนาดนี้
ฟังดูเป็นเรื่องตลกใช่ไหม แต่เรื่องจริงๆก็คือ สัตว์น่ะ..มันรู้นะว่าใครจิตใจดี..หรือไม่ดี เพราะงั้น..สำหรับคนนี้คือ ผ่าน!!
*****************************************************************************************
วันนี้โลกิตื่นแต่เช้า เขาทำงานทุกอย่างที่บ้านเขาทำเรียบร้อยแล้ว และเขาเองก็มีหน้าที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแล้วคือ เข้าไปที่บ้านใหญ่ของไร่องุ่น ไร่ไวน์เพื่อทำงาน วันนี้ตาเข้าไปในสวนแต่เช้า เพราะว่าลูกค้าต้องการสินค้าด่วน แต่คนหัวดีอย่างเขาจำทางแค่นี้ไม่ใช่เรื่องลำบาก ทางมันก็ไม่ได้ไกลมากด้วย
เดินมาเรื่อยๆ สูดกลิ่นอากาศบริสุทธิ์ หอมกลิ่นยา กลิ่นใบไม้ และกลิ่นหวานของผลองุ่น มันชื่นใจ สมองของเขาปลอดโปร่งเหลือเกิน รู้สึกสบายใจอย่างประหลาด
จะดีแค่ไหนถ้าเขาต้องอยู่ที่นี้ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องหนีไปไหน ถ้าดีแค่ไหนถ้าเขาอยู่ที่นี้ โดยมีธอร์มาอยู่ด้วยกัน ถ้าเราจะอยู่แบบนี้ไปตลอดก็คงดี
เจ้าตัวหันซ้ายแลขวาให้ดี หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง โลหะแผ่นกลมขนาดเท่าเหรียญเพนนีนอนนิ่งอยู่บนฝ่ามือ แผ่นโลหะเกรี้ยงๆที่ไม่มีอะไรเลย แต่เขาจำได้ว่ามันคืออะไรและนึกขำเมื่อตอนที่เขามาถึงที่นี้
ตายายบอกว่ามันเป็นอย่างเดียวที่เขากำไม่ยอมปล่อย ต่อให้ไม่รู้สึกตัวตั้งสองวันสองคืน ก็ไม่ยอมปล่อย แงะเท่าไหร่ก็ไม่คลายมือจนต้องเลยตามเลยให้กำอย่างนั้น
เศษโลหะที่หลุดออกมาจากชุดเกราะของธอร์ เขาไม่มีอะไรเป็นสิ่งสำคัญติดตัวมาเลย มาแต่ตัวเปล่าๆ มีแค่ไอ้นี้ล่ะที่เขาฉวดมาได้ มีค่าไหมไม่รู้ แต่สำหรับเขาค่าทางใจประเมินไม่ได้
คิดเพลินๆก็เดินเข้ามาถึงบ้านพอดี ได้เจอะหน้านายจ้างเสียที อีกคนก็ยิ้มเผล่ให้ ในขณะที่เขาได้แต่ทำหน้านิ่งๆรับเท่านั้นเอง หากก็ต้องตกใจเมื่อมือใหญ่คว้าสมุดในคอเขาไปเปิดดู
เพียงแต่ในนั้นไม่มีอะไรเขียนอยู่เลย
“ว้า…ไม่ได้ใช่เลยหรอ”ร๊อบทำหน้าเสียดายเสียอย่างเต็มประดา ในขณะที่โลกิส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“เสียดายของหมดนะ..ฉันว่า”อีกครั้งที่แสร้งตีหน้าเศร้า แต่คนมองก็ไม่ได้รู้สึกสลด สงสารหรอกนะ เขาแค่ถอนหายใจออกมาแรงๆเท่านั้นล่ะ
ก่อนจะหยิบสมุดที่ได้รับมาเพื่อขีดเขียนอะไรบางอย่างลงไปแล้วจึงหันมาให้อีกคนที่ยิ้มรอดู
‘ผมขี้เกียจเขียน เพราะผมไม่ได้คิดจะพูดอะไรยาวๆอยู่แล้ว ตกลงวันนี้ผมต้องทำอะไร’ โลกิทำหน้าหน่ายๆเล็กน้อย เพราะร๊อบเองก็ยังสรุปไม่ได้ว่าจะให้เขาไปทำงานอะไรกันแน่
“อ่อ วันนี้เพื่อนฉันจะมาบ้าน ฉันคงต้องออกไปรับ นายเข้าไปห้องที่จัดแฟ้มนั้นล่ะ ฉันวางงานไว้ให้แล้ว แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็นั่งเล่นๆกับไอ้พวกหมาสวมตัวไปก่อนละกันนะ”ร๊อบว่า ซึ่งโลกิก็พยักหน้ารับ
ดีแล้วที่เป็นอย่างนี้ เขาไม่ใช่คนอยู่ร่วมกับคนที่เขาไม่วางใจได้นานอยู่เป็นทุนเดิม สองวันที่ผ่านมา ร๊อบปล่อยให้เขาทำงานไปเงียบๆคนเดียวตลอดซึ่งนั้นคือเรื่องที่ดี
พอเขาเข้ามาบนโต๊ะทำงานตัวเล็กก็มี..สมุดและเอกสารไม่กี่เล่ม โลกิเปิดมันดูอย่างละเอียดและพบว่ามันคือ รายรับรายจ่ายประจำเดือนนี้และเดือนก่อนๆ
ตัวเลข…อ่า..โลกิชอบ เขาชอบวิทยาศาสตร์ เขาชอบตัวเลข และการคำนวน มันสนุกกว่าไอ้งานจัดกระดาษนั้นเยอะเลย แต่ก่อนที่จะได้ลงมือ เสียงประตูเปิดทำให้เขาหันไปมอง ไม่มีคน แต่ได้ยินเสียงเดิน โลกิจึงรีบผลุดลุกขึ้น หากสิ่งที่เห็นจึงทำให้เขาถอนใจอย่างโล่งอก
เจ้าสัตว์สามตัวที่ตามเขาติดตัวตั้งแต่วันแรกจนกระทั้งตอนนี้ อย่างน้อยๆมันก็ช่วยให้เขาไม่เหงามากและพวกสัตว์ไม่ถามจุกจิกน่ารำคาญมันดีที่ตรงนี้ล่ะ
สุดท้ายเขาก็ลงมือทำงาน เขาค่อยมองอย่างละเอียด มันไม่ง่ายอย่างที่คิดในตอนแรกเพราะข้อมูลในมือเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย แต่เมื่อใช่เวลาไปสักพักก็จับต้นชนปลายได้ถูก จึงเริ่มคิดเลข…ด้วยกระดาษ
เขาไม่ชิน จะว่าใช้ไม่เป็นก็ถูก เพราะอย่างนั้นทุกอย่างจึงถูกทดลงกระดาษ..ไม่ได้ล่าช้า แต่ก็เร็วพอๆกับเครื่องคิดเลข
ต่างกันตรงไหนหรอ…ตรงเมื่อยมือกับเปลืองกระดาษมากไปเท่านั้นล่ะ
…………………
……………
……...
“ว่าไงสตาร์ค..”ร๊อบเหวี่ยงตัวลงมาจากรถแฮมเมอร์คันใหญ่ที่จุชายตัวโตๆสองเขาเอาไว้ จะว่าไปสตาร์คก็ไม่ได้ตัวใหญ่ขนาดนั้น อาจจะพอกับคนงานใหม่ของเขา เพียงแต่สตาร์คออกจะอวบไปหน่อยน่ะ ส่วนอีกคนหน้าใสกิ๊งแต่กล้ามนี่…ไม่ต้องพูดถึง คู่เดทคนปัจจุบันของโทนี่ สตาร์ค สตีฟ ผู้เคยช่วยโลกเอาไว้นี่เอง!!!
“บ้านนายสวยเหมือนเดิมพับผ่าซิ แต่เอาจริงๆนะก็ยังสู้นังหนูของฉันไม่ได้เลย”ตามนิสัยของคุณชาย อีโก้แรงไม่แพ้ใคร แถมทิ้งภาระเสื้อผ้ากระเป๋าอุปกรณ์เทคโนโลยี และอื่นๆอีกมาก ซึ่งคุณสตีฟ หรือกัปตันอเมริกัน รับมาแขวนทุกอย่างไว้กับตัวเพื่อเดินตาม
ส่วนนายท่านโทนี่…..เดินตัวปลิวเข้าบ้านเยี่ยงเจ้าของ!!!
“ใครจะสู้ยาหยีของนายได้..เอ่อ คงไม่ว่าเรื่องความเอาแต่ใจของหมอนั้น”ประโยคแรกอยากบอกเพื่อนนะ แต่มันเดินไปก่อนเจ้าของบ้าน เลยหันมาคุยกับคนที่ยังอยู่ท่าจะดี
“ปกติชินแล้วล่ะครับ อย่างน้อย ก็มีบางเวลาเหมือนกันที่ไม่ค่อยเอาแต่ใจ”สตีฟว่าพลางยักไหล่ยักคิ้ว เพื่อให้เจ้าของบ้านดินนำ คนรักไม่มีมารยาท แต่สตีฟมีนะครับ
ร๊อบจึงได้เดินตามโทนี่อย่างงงๆ และยังคงคิดถึงเรื่อง…’บางเวลาที่ไม่ค่อยเอาแต่ใจ’ ของเพื่อนเข้าอยู่น่ะซิ
สำหรับคนคุ้นที่อย่างโทนี่แน่ล่ะ เขารู้ซอกรู้มุมอย่างดี และนอกจากนั้นยังจำได้ว่าห้องไหนเป็นห้องอะไรอีกด้วย คนอย่างสตาร์คไม่ค่อยมีคนคบน่ะ เลย…มีแต่เพื่อนสนิ้ทสนิทที่เหลือรอดไม่กี่คน
“ไอ้หมาของแก กับไอ้แพะประสาทกลับมันยังอยู่ไหม”สตาร์คมองหาสิ่งที่มักจะอยู่คู่บ้านหลังนี้ เพียงแต่ยังไม่เจอมันออกมาต้อนรับเท่านั้นเอง
“สงสัยมันอยู่กับคนงานใหม่น่ะ เห็นเวลาไปไหนเดินตามต้อยๆ”ร๊อบพูดขณะที่โยนกุญแจรถใส่โถประจำเอาไว้ พร้อมกับเดินนำแขกทั้งคู่ให้ตามมา
“คนที่แกพูดถึงตอนอยู่บนรถน่ะนะ..ไหนล่ะ ขอดูหน้าหน่อยซิ สตีฟนายกองของไว้นั้นแหละแล้วมากับฉันเร็ว”พูดอย่างเดียวไม่ว่าเอามือฉุดกระชากลากถูไปซะ
“นายไปก่อนเลย เขาอยู่ในห้องทำงานฉันน่ะ เดี๋ยวฉันไปบอกคนครัวให้เตรียมกับข้าวก่อนน่ะ เขารู้อยู่แล้วว่าพวกนายจะมา”ร๊อบบอกเดินไปอีกทาง
หากเป็นคนอื่นคงเกรงใจ แต่สำหรับโทนี่ สตาร์ค คำว่าเกรงใจไม่เคยมีอยู่ในสาระบบ เมื่อเจ้าบ้านบอก เขาก็ต้องทำตามเดี๋ยวจะเสียน้ำใจไปก่อน
เดินไปได้ไม่ไกลนักก็ถึงห้องที่เขาจำได้ว่าเป็นห้องทำงานของเพื่อน แถมยังมีมารยาทพอที่จะเคาะก่อนเบาๆ ก่อนเปิดโดยไม่รอคำตอบ แต่สิ่งทีเห็นมันเกินความคาดหมายไปนิด
เพราะแทนที่โทนี่ สตาร์คจะได้เห็นคนที่เพื่อนเขาชื่นชมนั่งทำงานอยู่บนเก้าอี้ เพียงแต่ตอนนี้กลับมานอนเอาหัวหนุนเจ้าหมาขนฟูดีดำสลับขาวในตาสีฟ้าที่ทำท่าเหมือนปกป้องคนนอนอยู่โดยที่ไม่ไกลมีอีกตัวนอนหลับข้างๆเจ้าแพะหน้ามึน
ชายหนุ่มทั้งสองทำท่าเดินเข้าไปใกล้ด้วยทำให้เสียงที่เกิดขึ้นเบาที่สุด ด้วยยังไม่แน่ใจว่าจะปลุกคนนอนดีหรือไม่ เพราะเขาไม่ใช่คนคุ้นเคยกัน เจ้าหมาหนึ่งในนั้นผงกหัวมันขึ้นมาดูเพียงแต่เห็นหน้าสตาร์ค มันก็กลับหมอบตัวลงนอนเช่นเดิมด้วยความคุ้นเคย จนคนทั้งสองได้เห็นหน้าคนนอนหลับอย่างชัดเจน
สตีฟเกือบตะโกนออกมาเสียงดัง หากไม่ได้มือของอีกคนมาอุดเอาไว้เสียก่อนน่ะนะคนนอนคงได้ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังๆนั้นแน่
“ชู่ว..นายว่าฉันตาฝาดไหม..ไม่ฝาดใช่ไหม”ดวงตาสีชอคโกแลตสบกับนัยตาของคนที่เขาเอามือปิดอยู่ ซึ่งคนตัวโตที่โดยปิดปากส่ายหน้าไปมาเพื่อยืนยันว่าเขาตาไม่ฝาด
สตาร์คหันมองหน้าคนที่หลับอยู่เล็กน้อย เกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่คิดว่าคงไม่ผิดตัว แม้ผมเส้นอ่อนจะเป็นสีน้ำตาลอมแดงไม่เหมือนที่เคยเห็น แต่ไอ้โคนผมขึ้นใหม่น่ะดำสนิท ไม่บอกก็รู้ว่าผ่านการเปลี่ยนสีผมมาเพราะความตาดีของเขาแท้ๆ
ในใจน่ะคิดอยู่แค่สองเรื่อง คือ..หนึ่ง ร๊อบ..ขอโทษทีนะเพื่อนยาก นายได้อกหักรักคุดแหงมๆ เพราะ ขนาดโลกเกือบจะบรรลัยวายวอดเพราะไอ้ตัวที่นอนอยู่นี้ เจ้าของมันยังรับกลับไปโอ๋เอ้ ตบตูดกินนมนอนกันถึงบ้าน
แถมไอ้หมอนั้นโหดอย่างกับอะไรดีถ้าเป็นเรื่องไอ้เจ้านี้น่ะนะ ยังไงก็ไม่เวิร์คว่ะร๊อบ อีกอย่างรักกันปานจะดูดดื่มขนาดนั้น..ไม่มีทางแทรกกลางชัวร์
และสอง เรื่องนี้สตาร์คชอบมากๆ เขากำลังจะทำให้การพักร้อนของเขาตลอดสองสัปดาห์เป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อขึ้นมาน่ะซิ!!
************************************************************************************
ความคิดเห็น