ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนี้รักพันธะสวาท

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 งานใหม่ 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 708
      0
      21 ม.ค. 58

    บทที่ 1

    งานใหม่

     

     

    สามปีต่อมา

    ณ บ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัด-กรุงเทพมหานคร ตัวบ้านเก่าแก่และมีอายุมากกว่ายี่สิบปี รั้วสีน้ำตาลหน้าบ้านเริ่มลอกและขึ้นสนิม ส่วนตามผนังสีขาวด้านนอกนั้นเริ่มหม่น แตกร้าวและสีลอกไปตามความเก่าของตัวบ้าน

    ในห้องนอนตรงบริเวณริมหน้าต่างที่เปิดโล่งรับลมเย็น เหมือนฝันกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานสีขาว มีเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กวางอยู่ตรงหน้า ด้านข้างเป็นพัดลมตั้งพื้นตัวใหญ่สีน้ำเงินหมุนส่ายไปมา

    วันนี้เธอไม่ได้ไปทำงานประจำเพราะเป็นวันหยุด จึงนั่งแต่งนิยายรักที่ทำเป็นงานอดิเรกตั้งแต่เช้า เวลาอยู่บ้านส่วนใหญ่เธอจะนั่งแต่งนิยายเร่าร้อนแนวโรมานซ์และอิโรติกโดยใช้นามปากกาว่า เจ้าหญิงพอแต่งเสร็จก็นำไปอัพเดตลงเว็บไซต์ให้แฟนคลับซึ่งมีอยู่น้อยนิดได้อ่านกันตามประสานักเขียนหน้าใหม่

    ชายหนุ่มจ้องมองร่างอวบอิ่มเปลือยเปล่าด้วยสายตาหิวกระหายอย่างไม่

     

    ปิดบัง ก่อนจะก้มลงไปมอบจุมพิตเรียกร้องยังริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาว ส่งผลให้คนบนเตียงบิดกายดิ้นเร้าเพราะอารมณ์พิศวาส ส่วนฝ่ามือหนาก็เคล้นคลึงไปตามเรือนกายขาวผ่อง...

    เอ่อ...มันควรจะเป็นอะไรต่อดีนะ?” เหมือนฝันส่ายหน้าพลางยกมือนวดขมับ ก่อนจะกดลบนิยายหลายบรรทัดออกไปทั้งหน้าด้วยความเสียดาย เพราะรู้สึกแต่งต่อไปไม่ได้แล้ว ความคิดตีบตันมากทำให้การเขียนบทรักต้องหยุดขึ้นมาดื้อๆ

    เธอเคยแต่งนิยายแนวรักธรรมดาๆ กึ่งแฟนตาซี และเป็นพวกบทความโดยใช้นามปากกาอื่นมาก่อน แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ยอดขายตกฮวบ และอยู่ๆ บรรณาธิการที่เธอสนิทก็เปิดสำนักพิมพ์ใหม่ขึ้นมาซึ่งเป็นนิยายรักเร่าร้อนเรท 18+ โดยชักชวนให้เธอมาลองเขียนนิยายอิโรติก

    หญิงสาวตบปากรับคำไปทันที ก่อนจะเริ่มลองเปลี่ยนแนวการแต่งพร้อมกับใช้นามปากกาใหม่และเพิ่งได้ตีพิมพ์ไปไม่ถึงห้าเล่ม การที่ลองหันมาเอาดีทางแนวนิยายรักเร่าร้อนซึ่งไม่ถนัดเลย ทำให้เธอได้มีนิยายตีพิมพ์เป็นเล่มบ่อยขึ้นกว่าเดิม เพราะช่วงหลังงานแฟนตาซีเริ่มซบเซา แต่นิยายแนวนี้ค่อนข้างยากสำหรับเธอ เพราะหลังจากนั้นนิยายก็ยังไม่เสร็จมาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากบรรณาธิการสั่งให้เธอแก้ต้นฉบับใหม่และเพิ่มเนื้อหาบางส่วน

    ผลงานของเหมือนฝันไม่ได้โด่งดังหรือโดดเด่นอะไรมากนัก และงานนิยายของเธอเคยส่งให้ทางสำนักพิมพ์ตีพิมพ์มาไม่กี่เรื่องเท่านั้นนับตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัย เพราะส่วนมากจะหันไปเขียนลงนิตยสารมากกว่า ล่าสุดบรรณาธิการยังติติงมาว่าบทรักของเธออ่อนเกินไปและดูไม่สมจริงเท่าที่ควร แนะนำให้เพิ่มมาสักฉากละห้าหน้าไม่ใช่ตัดโคมไฟมาแบบนั้น มันเลยทำให้เธอต้องมานั่งกลุ้มใจอยู่ตอนนี้

    สมัยนี้นักเขียนเยอะเต็มตลาดหนังสือ และต่างเบียดพื้นที่บนแผงหนังสือเต็มไปหมดทุกเดือน มันก็ทำให้ไม่ค่อยมั่นคงสักเท่าไรหากจะเขียนนิยายเป็นงานประจำ เพราะเธอก็ไม่ได้เขียนติดระดับขายดี จึงไม่เคยคิดจะทำงานเขียนอย่างเดียว

    เหมือนฝันเรียนจบจากมหาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งด้วยเกรดกลางๆ หลังจากจบมาเธอกับบงกชได้ลงทุนเปิดร้านอาหารกับร้านกาแฟ แต่ผ่านไปสามปีก็เจ๊งไม่เป็นท่า แถมยังเพิ่มหนี้สินให้กับตัวเองมากขึ้นไปอีก ทั้งที่บ้านเธอยังมีหนี้สินของบิดาที่ค้างจ่ายก่อนท่านเสียชีวิตอีกมาก แต่ด้วยความไฟแรงของนักศึกษาจบใหม่ตอนนั้นคิดว่าทุกอย่างง่ายจึงลงทุนไปแบบไม่ไตร่ตรอง และช่วงนี้จดหมายทวงหนี้เริ่มมากขึ้นทุกวันจนเธอเริ่มกังวล

    เธอพอจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย อาจจะไม่ถึงขั้นเก่งกาจแกรมม่าแต่พูดรู้เรื่องบ้างแบบพอเข้าใจ เพราะสมัยตอนที่บ้านยังร่ำรวยอยู่นั้น บิดาได้ส่งเธอไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศเป็นประจำ เหมือนฝันจึงลองมาทำงานที่โรงแรมออโรร่าซึ่งเป็นโรงแรมชื่อดัง และที่นี่ใช่ว่าเข้ามาทำงานกันง่ายๆ เพราะนอกจากพนักงานจะต้องสื่อสารภาษาที่สองได้พอสมควร ยังต้องบุคลิกดีและหน้าตาดี โรงแรมออโรร่าเป็นสถานที่ที่เธอใฝ่ฝันว่าอยากจะมาทำงานตั้งแต่สมัยอยู่มหาวิทยาลัย ถ้าไม่ติดว่าจะต้องเรียนบัญชีเพื่อทำงานของที่บ้าน ตอนนั้นเธอคงเลือกฝึกงานที่นี่

    เหมือนฝันตั้งใจสมัครแผนกต้อนรับหรือประชาสัมพันธ์ แต่ปรากฏว่าสาขานี้เต็ม ทำให้หญิงสาวต้องทำงานในห้องอาหารนานาชาติอย่างช่วยไม่ได้ แต่เพราะการเดินทางสะดวกและใกล้บ้าน ทำให้เธอประหยัดค่ารถโดยสารต่อเดือนไปเป็นพัน อีกทั้งค่าทิปที่ลูกค้าให้ก็เยอะมากเพราะส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าไฮโซ

    หญิงสาวยังอยู่ในระยะทดลองงานสามเดือนตามที่เซ็นสัญญาไป นี่เพิ่งผ่านไปเพียงเดือนเดียวเท่านั้น แต่ถ้าทำงานล่วงเวลาก็จะได้โบนัสเพิ่มก็พอๆ กับเงินเดือนมาตรฐานเด็กจบใหม่เหมือนกันหรืออาจจะมากกว่า เพราะเธอเคยมีประสบการณ์ร้านอาหาร

    เธอกลุ้มใจตรงที่ไม่เคยทำงานอยู่ในกฎระเบียบมาก่อน จะมีก็แค่ฝึกงานที่โรงเรียนประถม แต่หญิงสาวเคยช่วยบิดาดูแลร้านอาหารมาบ้างเป็นร้านอาหารไทยเล็กๆ ประมาณสิบห้าโต๊ะ ซึ่งตอนนี้ถูกยึดไปแล้วจากเจ้าหนี้ บวกกับประสบการณ์ร้านของตัวเองสามปีทำให้ได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

    เหมือนฝันอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวตั้งแต่บิดาเสีย ส่วนมารดาของเธอเสียลงหลังจากเธอเรียนอนุบาลนานแล้ว เธอยอมรับว่าทุกอย่างเหมือนดิ่งลงเหว เพราะที่ผ่านมามาโนชแทบไม่เคยให้เธอต้องทำงานอะไรสักอย่าง ถึงบ้านเธอจะไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีแต่ก็เข้าขั้นร่ำรวยและไม่ลำบาก

    มาโนชไม่เคยบอกเธอถึงเรื่องหนี้สินมากมายที่มีอยู่จนเธอได้รู้เมื่อตอนที่เพิ่งขึ้นมหาวิทยาลัย และโดนบิดาบังคับเพื่อให้เตรียมหมั้นหมายกับคนรวยสักคน ตอนนี้ทุกวันทุกนาที เธอต้องหาทางให้ตัวเองหาเงินมาชำระหนี้ให้หมดแต่จดหมายทวงหนี้ก็มีเข้ามามากทุกวันจนเธอเริ่มท้อใจ ขนาดว่าใช้เงินประกันชีวิตของบิดาจ่ายไปบ้างแล้วก็ยังไม่พอ

    เรื่องหนี้สินทำให้เธอนึกถึงรังสิมันต์ เพราะเธอกับเขาเคยเลิกกันด้วยเรื่องนี้เพราะบิดาสั่ง ทั้งคู่อายุห่างกันแปดปี เขาเป็นวิศวกรบริษัทเอกชนและมีอาชีพเสริมเป็นครูสอนพิเศษเด็กนักเรียนมัธยม และเธอก็เป็นหนึ่งในนักเรียนของเขา เธอกับเขาเริ่มคบกันมาตั้งแต่เธอขึ้นชั้นมัธยมปลายโดยที่บิดาไม่รู้ และในที่สุดเขาก็สามารถติวให้เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐได้สำเร็จ

    หลังจากขึ้นมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน ทั้งคู่ถูกกีดกันจากมาโนชทำให้เธอกับเขาต้องเลิกกันไป และบิดาบังคับให้เธอคบกับจิรายุทธแทน แต่หลังจากที่บอกเลิกกับคนรักไปและลองทำความรู้จักกับคนของบิดา เธอพบว่าตัวเองทำไม่ได้จึงขอตัดสัมพันธ์กับเขา ฝ่ายนั้นก็ดูจะไม่ได้สนใจไยดีเธอมากนักเพราะเขาเลือกได้และมีผู้หญิงมาติดพันมากมายทั้งยังเจ้าชู้และสับเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น ที่สำคัญคือหลังจากงานศพบิดาได้ไม่นานมารดาของเขาปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใย เมื่อรู้ถึงสถานะทางครอบครัวของเธอที่กำลังสั่นคลอนจนถึงขั้นต้องมาเช่าบ้านอยู่ เพราะบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้เคยเช่าอยู่มาก่อนจนได้ติดต่อซื้อหลังจากมาอยู่หนึ่งปี

    หญิงสาวมองบนหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่กำลังเปิดโปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ด อ่านนิยายของตัวเองไปแล้วก็เครียด ก่อนหยิบสมุดพล็อตย่อยที่ร่างเอาไว้มาเปิดพลิกดูไปมา และเห็นทีว่าควรจะให้พระเอกนางเอกใกล้ชิดกันบ้างได้แล้วเพราะที่เธอแต่งมาสิบกว่าบท พระนางได้แค่จับมือกันเท่านั้น จนโดนบรรณาธิการบอกให้แก้ใหม่ เพราะนิยายอิโรติกโดยทั่วไปนักเขียนบางคนมีฉากขึ้นเตียงกันตั้งแต่บทแรก แต่เธอก็มักจะไม่ชอบอยู่ดีกับความสัมพันธ์อันรวดเร็วของพระนาง ทำให้นิยายเธอค่อนข้างเดินเรื่องช้ารายละเอียดเยอะ จนนักอ่านที่อ่านตามเว็บหนีหายกันไปหมดเพราะรอฉากเลิฟซีนไม่ไหว

    มือบางวางสมุดลงบนโต๊ะ ก่อนจะรีบกดรัวแป้นพิมพ์รัวเร็วตามที่สมองสั่งการเพราะกลัวว่าจะลืมไปเสียก่อน เธอตั้งใจว่าจะต้องเขียนให้พระเอกกับนางเอกมีอะไรกันได้แล้วตามที่โดนใบสั่งมา แต่พอนั่งพิมพ์ไปได้ไม่กี่บรรทัดแล้วกำลังจะถึงฉากพระเอกถอดเสื้อโชว์ความหล่อล่ำ แต่เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาขัดเสียอย่างนั้น ทำเอาจินตนาการที่กำลังบรรเจิดแตกกระจาย

    เหมือนฝันเอื้อมมือไปหยิบมาดู เห็นเบอร์ที่หน้าจอขึ้นว่าเป็นเบอร์ของบุษบาผู้จัดการห้องอาหารที่โรงแรมเธอจึงรีบรับสายทันที นึกแปลกใจที่ผู้จัดการโทร.มาหาทั้งที่ไม่เคยโทร.มาก่อน หรือว่าที่โรงแรมจะมีปัญหาอะไร

    สวัสดีค่ะคุณบุษเธอกรอกเสียงลงไปด้วยความสุภาพ

    รีบแต่งตัวแล้วออกมาที่โรงแรมด่วนเลยบี บุษบาพูดด้วยความร้อนใจ วันนี้มีลูกค้าวีไอพีคนสำคัญเสียด้วย เธอเลือกที่จะโทร.ตามเหมือนฝันก่อนใคร เพราะบ้านหญิงสาวอยู่ใกล้ที่ทำงานที่สุดและเป็นคนว่าง่าย

    ตอนนี้เลยเหรอคะคุณบุษเธอถามเสียงตกใจพลางหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าหกโมงแล้ว แต่ถ้านั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปก็คงไม่ถึงยี่สิบนาที

    ใช่ เร็วๆ ด้วยนะ วันนี้พนักงานลากันทีเดียวห้าคนบุษบาเอ่ยกำชับ

    ได้ค่ะคุณบุษ บีจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยเหมือนฝันรับคำก่อนจะวางสายลง แล้วก็หันไปเซฟงานแล้วปิดเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จากนั้นก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปหาเสื้อผ้าเปลี่ยนเพื่อออกไปทำงานที่โรงแรม

    +---------+

    ในเวลาสองทุ่ม ภายในห้องอาหารนานาชาติที่ชั้นบนสุดของโรงแรมออโรร่า การจัดตกแต่งหรูหราคลาสสิกมีสไตล์อย่างลงตัว ตอนนี้ไร้เงาลูกค้าในร้านเพราะทุกพื้นที่ถูกจับจองเอาไว้ตลอดทั้งชั้นโดยลูกค้าวีไอพี และตรงโต๊ะอาหารติดริมกระจกในมุมหนึ่ง ที่สามารถมองวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของใจกลางกรุงเทพมหานครได้อย่างสะดวก ก็มีชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังนั่งจิบไวน์พลางละเลียดอาหารกันอยู่

    เสียงดนตรีไพเราะของการสีไวโอลินขับกล่อมไปด้วย ส่งผลให้บรรยากาศการดินเนอร์ตามลำพังสองต่อสองดูโรแมนติกชวนฝัน และอบอวลไปด้วยความหวานมากยิ่งขึ้น พนักงานในร้านตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่คอยให้บริการ เพราะลูกค้าต้องการความสงบเงียบที่สุด และสั่งห้ามใครเข้ามารบกวนถ้าไม่ได้เรียก

              วันนี้อรจิรา หรือ ซาร่าดาราสาวลูกครึ่งไทย-สเปนที่รับบทนางเอกเจ้าน้ำตาทางจอแก้วมาตลอดถึงกับลงทุนจองห้องอาหารราคาแพงหูดับเอาไว้เพื่อต้อนรับรังสิมันต์ คู่ควงหนุ่มหล่อในการกลับมาเมืองไทยด้วยการเอาใจเขาแบบสุดๆ

    ใบหน้าสวยของหญิงสาวตบแต่งด้วยเครื่องสำอางชั้นดี จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากอิ่มเอิบด้วยลิปสติกสีแดงสดกำลังแย้มยิ้มให้กับชายหนุ่มรูปหล่อที่นั่งร่วมโต๊ะ แต่ในใจนั้นฉุนจัดแบบสุดขีด เพราะเขาหายเงียบไปอเมริกานานถึงสามเดือนเต็มโดยไม่บอกไม่กล่าวเธอสักคำ หรือพอกลับมาสักอาทิตย์ก็ไม่บอกเธออีก การที่เขาทำตัวออกห่างคล้ายไม่แยแสมันทำให้อรจิราหวาดหวั่นว่ากำลังถูกทิ้ง

    รังสิมันต์ชายหนุ่มวัยสามสิบสามปีทำงานอยู่ทั้งประเทศไทยและอเมริกา แต่ส่วนใหญ่เขามักจะมาอยู่ที่เมืองไทยมากกว่าเพราะเขารักอากาศร้อน รักแสงแดดแสงอาทิตย์ และโดยเฉพาะผู้หญิงไทย มันจึงทำให้เขาเลือกที่จะมาพักผ่อนอยู่ที่เมืองไทยบ่อยๆ แม้ที่เมืองไทยจะมีเหตุการณ์หลายอย่างรวมถึงบุคคลที่ทำให้หัวใจเขาเจ็บลึก เหมือนกับมีแผลเป็นอยู่ในใจก็ตาม

    วันนี้เพียงแค่กลับมาถึงและลงจากเครื่องที่สนามบินได้ไม่กี่ชั่วโมง หญิงสาวก็ต่อสายมาว่าจะขอเลี้ยงอาหารมื้อค่ำให้เขา ไม่รู้ว่าเธอทราบข่าวของเขามาจากที่ไหน แต่ด้วยมารยาทเขาจึงตัดสินใจมาทานข้าวด้วย เพื่อที่จะได้จบความสัมพันธ์ที่คลุมเครือนี้เสียที เพราะเบื่อกับการโดนตามจิกและเป็นข่าวเต็มทน รังสิมันต์นั้นรู้จักกับอรจิราเพราะเธอมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเสื้อผ้าของเขา และเขาเริ่มสนิทกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ จนเผลอตัวมีอะไรกันไปครั้งเดียว ถ้าเขาจำไม่ผิดอรจิราจะเป็นฝ่ายให้ท่าเขาก่อนตลอด

    ชายหนุ่มเป็นลูกนอกสมรสของ เจ้าสัวนพพล เชิดชูวงศ์กับ ยุพินสาวใช้ในบ้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เก็บเงียบแม้แต่สังคมก็ไม่มีใครรู้นอกจากคุณหญิงวราภาภรรยาหลวง เขาเป็นลูกที่เกิดตอนยังไม่พร้อม เกิดจากความผิดพลาดและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดของพ่อกับแม่

    หลังจากคลอดลูกออกมายุพินกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และเลี้ยงดูลูกจนกระทั่งเรียนจบเพียงคนเดียว นั่นคือสิ่งที่รังสิมันต์เข้าใจผิดมาตลอดว่าพ่อไม่เคยดูดำดูดีจนทำให้เขาชิงชังพ่อมาก และคอยทำงานพิเศษช่วยมารดา ชายหนุ่มมารู้เอาตอนหลังว่าเจ้าสัวนพพลนั้นแอบส่งเสียยุพินอยู่แบบลับๆ มาตลอด แต่ที่ไม่เคยไปหาเลยนั้นเพราะไม่สามารถที่จะเล็ดลอดสายตาของเมียหลวงไปได้      

    ชีวิตของรังสิมันต์ล้วนมีแต่อดีตที่น่าเศร้า และกว่าจะผ่านมายืนอยู่จุดนี้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เวลาแปดปีที่ผ่านมามันสอนอะไรเขาหลายอย่างโดยเฉพาะการเลือกคบคนและไว้ใจคน เพราะหลังจากที่ถูกผู้หญิงที่รักมากทิ้งไปหาผู้ชายที่รวยกว่า เขาก็อกหักอย่างรุนแรงเจียนขาดใจตาย เวลาต่อมามารดามาเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันอีกคนเพราะอุบัติเหตุรถชน ทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นผู้ชายเสเพลไม่เอาถ่าน ไม่เอาการงาน มักจะมีเรื่องชกต่อย ติดเที่ยว แทบไม่เป็นผู้เป็นคนเมื่อคนที่รักต้องจากไป

    เหตุการณ์นั้นทำให้รังสิมันต์เริ่มเงียบขรึมลงถนัดตา จากผู้ชายที่มองโลกในแง่ดีก็กลายเป็นคนเย็นชา เวลาผ่านไปนานเมื่อมาถึงจุดหนึ่งชายหนุ่มคิดว่าเขาไม่ต้องการจะเป็นเพียงเด็กกำพร้าจนๆ แบบนี้อีกต่อไป โลกนี้เป็นโลกของปลาใหญ่กินปลาเล็ก และคนที่มีอำนาจถึงมีสิทธิ์บีบขย้ำคนที่อ่อนแอกว่า เหมือนกับที่มารดากับเขาโดนมาตลอด และคนที่สามารถมอบแขนกับขาและชีวิตใหม่ให้เขาเดินไปสู่ความสำเร็จได้คือเจ้าสัวนพพลเท่านั้น

    ช่วงเวลานั้นนพพลกำลังให้คนตามหาเขาอยู่พอดี เพราะท่านป่วยหนักและต้องการมอบบางอย่างให้รังสิมันต์ก่อนจากโลกนี้ไปเพราะนพพลรู้ว่าตัวเองอยู่ได้อีกไม่นาน จึงมอบทรัพย์สมบัติบางส่วนที่เป็นกองทุนลับของเชิดชูวงศ์ให้แก่ลูกชายที่เขาไม่มีแม้แต่โอกาสได้กอด โดยที่สมาชิกในบ้านไม่มีใครล่วงรู้สักคน

    รังสิมันต์ได้เยียวยาหัวใจตัวเองและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เขาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่และกลายเป็นนักธุรกิจผู้น่าเกรงขามในเวลาไม่นานก็สามารถมีธุรกิจต่างๆ เป็นของตัวเองมากมาย และเขายังเริ่มธุรกิจตัวใหม่คือเครื่องแต่งกายแฟชั่นภายใต้ของแบรนด์ ‘RON’ โดยทำจากผ้าไทย ซึ่งเป็นแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงจนสามารถเริ่มไปตีตลาดต่างประเทศมาได้ไม่นาน ส่วนกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ด้านโรงแรมเขาก็ยังสามารถขยายกิจการไปได้อีกหลายสาขา

    นอกจากเรื่องของหน้าที่การงาน เรื่องของผู้หญิงก็มีมาไม่ขาด เพราะรังสิมันต์นั้นมีใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรกรีกราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย ความสูงร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร เรือนผมสีดำสนิทเป็นเงาสลวยสุขภาพดี จมูกโด่งรับกับใบหน้า ดวงตาคมกริบสีอำพันราวกับดวงตาหมาป่า บวกกับหุ่นและมัดกล้ามก็ไม่แพ้ดาราจึงทำให้เขามีผู้หญิงมารุมตอมและแย่งกันไม่หยุด จนเขาขยาดเพราะรู้ซึ้งถึงสิ่งที่พวกเธอต้องการนั่นคือเงินในกระเป๋า  

              รังสิมันต์ไม่คิดจริงจังกับใครนานนัก เขาใช้ผู้หญิงเปลืองยิ่งกว่ากระดาษทิชชูเพราะตัวเลือกมาก แต่ก็ไม่เคยรักใครสักคนและไม่เคยคบใครได้นานเกินสามเดือน ไม่มีใครเคยได้รับคำว่าแฟน เขามักจะคบแต่กับผู้หญิงใจแตก โสเภณีมืออาชีพหรือพวกที่ทำตัวเละเทะ เพราะเขาไม่อยากให้ความหวังกับผู้หญิงดีๆ คนไหน

    เขาต้องการผู้หญิงที่มีความต้องการเหมือนกันง่ายๆ และไม่ผูกมัด เพราะชีวิตหนุ่มโสดยังมีอะไรทำอีกมากมายที่แสนท้าทาย การแต่งงานหรือเอาตัวไปผูกมัดกับใครสักคน มันคือการฆ่าตัวตายและลิดรอนอิสรภาพตัวเองชัดๆ ที่สำคัญเขาเชื่อว่าผู้หญิงก็เหมือนกันหมดทำตัวเป็นปลิงดูดเลือด คอยสูบเงิน...แม้แต่ผู้หญิงที่เขาให้หัวใจเธอก็เป็นแบบนั้น แล้วเขายังจะหวังอะไรจากรักที่สวยงามของโลกใบนี้ได้อีก

    การที่ชายหนุ่มมีนิสัยแบบนี้ทำให้กิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของเขานั้นเลื่องลือไปทั่วในวงสังคมชั้นสูงราวไฟลามทุ่งและผู้หญิงหลายรายที่ต่างเข้ามาพัวพันกับเขา ทุกคนย่อมรู้ดีว่าเขาไม่เคยจริงจังกับใครทั้งนั้น พวกเธอรู้สถานะตัวเองว่าต้องทำตัวแบบไหนถึงจะทำให้เขาโปรดปรานและอยู่กับเขาได้ยืดยาว

    เมื่อหมดเวลาก็ต้องไป หากพูดง่ายๆ อาจจะได้สัมมนาคุณเป็นโบนัสก้อนโตและเงินจำนวนมากมายก่อนโดนเขี่ยทิ้งเป็นรองเท้าคู่เก่า แต่ผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าเขา คุณเธอกำลังคิดไปไกลโดยอยากจะขยับมาเป็นคุณผู้หญิงของเขาเสียจนออกนอกหน้า เห็นทีว่าเขาอยู่เฉยไม่ได้และสมควรที่จะตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม

              งานที่อเมริกาหนักมากหรือคะรอน คุณถึงไปนานสามเดือนเชียว

    อรจิราเอ่ยถามเสียงหวานหยด พลางตักอาหารใส่จานให้ผู้ชายตรงหน้า เธอพยายามจะแสดงออกว่าตัวเองเป็นหญิงสาวใจกว้างที่เข้าอกเข้าใจเขาดีในเรื่องงาน และไม่งอนฟูมฟายเรียกร้องให้ดูน่ารำคาญมาตลอดเวลาที่รู้จักกับเขา เพราะเธอมีความหวังลึกๆ ที่อยากจะเป็นผู้หญิงของเขาเต็มตัว  

    ชายหนุ่มเป็นลูกชายคนเดียวที่ได้รับมรดกเต็มๆ แม้เธอจะไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงพ่อแม่ก็ตาม จากที่เคยไปบ้านก็ไม่เคยเห็นรูปพ่อแม่เขา มีข่าวในวงการธุรกิจว่าเขาแอบฟอกเงินถึงมีทุนมาทำธุรกิจเพราะเป็นไปไม่ได้ที่นักธุรกิจไร้ภูมิหลังแบบเขาจะมาไกลขนาดนี้ แต่นั่นเธอไม่สนใจหรอกว่าเขาจะใช้เงินที่ไหนลงทุนมากขนาดนี้ เธอสนแค่ปัจจุบันที่เขาก้าวขึ้นมาติดอันดับมหาเศรษฐีนั่นก็เพียงพอแล้ว อรจิราแทบไม่กล้าจินตนาการถึงทรัพย์สมบัติมหาศาลของเขาเลย แน่นอนว่ามันย่อมตกเป็นของเขาเพียงผู้เดียว เพราะตอนนี้สื่อไทยและสื่อต่างประเทศ รายงานว่าเขาเป็นผู้ชายที่ทรงอิทธิพลและมีทรัพย์สินติดอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

    ทางนั้นมีปัญหานิดหน่อย ผมเลยต้องเข้าไปจัดการ คงไปๆ มาๆ แบบนี้แหละ รังสิมันต์ตอบเสียงเรียบ และไม่ได้ขยายความต่อว่าทำอะไรที่ไหนมาบ้าง เพราะไม่คิดว่ามีความจำเป็นต้องมาสาธยายให้เธอฟัง และที่เขามาวันนี้คือตั้งใจจะมาตัด

    ความสัมพันธ์กับเธอตรงๆ เนื่องจากอรจิราชักจะล้ำเส้นเลยขอบเขตการคบหาที่เขาตั้ง

    เอาไว้ เพราะความจริงแล้วเขากับเธอแทบจะไม่เคยคบกันด้วยซ้ำ

    การที่ได้มาเป็นผู้หญิงของรังสิมันต์ มันทำให้อรจิรามีข่าวทั้งในไทยและ

    อเมริกาเลยทีเดียว ซ้ำยังเป็นที่จับตามองของบรรดานักข่าวว่าผู้ชายไฮโซที่อรจิราคบอยู่เป็นใคร พอมีข่าวมากขึ้นงานโชว์ตัวก็เริ่มเยอะขึ้นเป็นธรรมดา ส่วนเขาสิ่งที่ต้องการจากอรจิราก็คือการให้หล่อนมาบำเรอความต้องการทางเพศเพียงแค่นั้น

    คุณน่าจะบอกซาร่าบ้างนะคะ อยู่ๆ คุณก็หายไปเลยซาร่าเป็นห่วง นอนไม่หลับทุกคืนเลย หญิงสาวเอ่ยเสียงแง่งอนพลางทำหน้ามุ่ยด้วยท่าทางที่ตัวเองคิดว่าน่ารักที่สุด แต่ชายหนุ่มกลับถอนใจยาวพลางด้วยความรำคาญ ก่อนหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ แล้วตวัดสายตาคมกริบมามองเธอคล้ายว่าไม่พอใจเล็กน้อย

    ผมไปกลับแบบนี้ตามอารมณ์ของตัวเองมานานแล้ว ผมโสดไม่มีพันธะนี่ หรือว่าผมต้องรายงานคุณทุกเรื่อง?”       

    เอ่อ...เปล่านะคะ ซาร่าแค่กลัวว่าคุณจะไม่สบายหรือเป็นอะไรหรือเปล่า ซาร่าแค่เป็นห่วงเท่านั้น อรจิรารีบบอกเสียงรัวเร็ว

    ผมสบายดี วันนี้คุณมีเรื่องจะคุยกับผมแค่นี้ใช่ไหม?”

    รังสิมันต์ถามคล้ายต้องการตัดบทด้วยสีหน้าเฉยเมยกึ่งรำคาญ พร้อมกับก้มมองนาฬิกาข้อมือ เพราะนั่งคุยกับเธอมาได้เกือบชั่วโมง แต่อีกฝ่ายไม่คุยอะไรมากไปกว่าพยายามจะถามว่าเขาหายไปไหน

    คำถามของเขาทำให้เกิดความเงียบครอบคลุมบรรยากาศ หญิงสาวหน้าเสียลงและไม่ได้พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งเดินนำอาหารจานสุดท้ายมาวางในที่สุด

    คุณเบื่อซาร่าแล้ว คุณกำลังจะทิ้งซาร่าใช่ไหม?” อรจิราเอ่ยถามเสียงเครือปนสะอื้น แล้วเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูบนโต๊ะขึ้นมาซับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลอาบแก้มแบบสั่งได้โดยอัตโนมัติ การร้องไห้ให้ดูน่าสงสารมันเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเธอ และเคยใช้วิธีนี้จนผู้ชายหลายรายเสร็จมานักต่อนัก

    ใช่ ผมเบื่อคุณแล้วไปจากผมซะ อย่ามาทำตัวน่ารำคาญรังสิมันต์ตอบตาม

    ตรงยอมรับด้วยคำพูดที่แสนโหดร้าย ทำเอาคนฟังอึ้งตาโตแบบคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินแบบนี้ ก่อนที่เขาจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยดูไม่ทุกข์ร้อนใจ เราไม่เคยคบกันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วซาร่า ผมนึกว่าคุณเข้าใจเสียอีก ถ้าผมรู้ว่าคุณเป็นแบบนี้คืนนั้นผมคงไม่ไปห้องคุณตามคำเชิญหรอก ผมเป็นคนที่พอใจจะคบก็คบ แต่พอใจจะจบก็จบง่ายๆ ไม่ยื้อต่อโอเคไหม

    แต่เรามีอะไรกันแล้ว คุณทิ้งซาร่าแบบนี้ไม่ได้ คุณคือผู้ชายคนแรกของซาร่า”  

    อรจิราเอ่ยเสียงสั่นพอกับร่างที่กำลังสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ สีหน้าสับสนวุ่นวายใจขณะจ้องหน้าเขา แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าเฉยแบบไม่ทุกข์ร้อนซ้ำยังยิ้มขันเหมือนได้ยินเรื่องตลก

    เราต่างรู้ดีว่าไม่ใช่คนแรกของกันและกัน คุณไม่ใช่สาวเวอร์จิ้น

    อรจิราถึงกับอ้าปากค้างที่เขากล้าพูดใส่หน้าเธอตรงๆ ทั้งที่เธอมั่นใจว่าคืนนั้นเขาเมาจนแทบไม่ได้สติ แถมอาการกรีดร้องราวสาวบริสุทธิ์มันก็ดูสมจริง

    คุณเลิกกับซาร่าเพราะว่าซาร่าเคยผ่านผู้ชายมาใช่ไหมคะ!”

    ไปกันใหญ่แล้ว นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะผมไม่ได้สนใจเรื่องเยื่อบ้าบอแบบที่ผู้หญิงชอบคิดกัน ผมสนแค่เราพอใจที่จะคบกันด้วยเซ็กซ์ แต่ในเมื่อคุณมายุ่งกับผมด้วยเรื่องส่วนตัว ผมก็ต้องขอบอกว่าพอแค่นี้เถอะ เขาบอกเสียงจริงจังก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าตัวเอง หญิงสาวจ้องหน้าเขาด้วยความเสียใจ และพยายามเพ่งมองสิ่งที่อยู่ในมือเขาก็เห็นว่าไม่ผิดมันคือสมุดเช็ค

    สามล้าน

    เสี้ยวหน้าคมคายหล่อลากดินนั้นไร้ความรู้สึกเหมือนปิศาจไร้หัวใจ มันช่างโหดร้ายเหลือเกินในความรู้สึกของคนมอง พอไหม หรือต้องการมากกว่านี้?”

    ทำแบบนี้หมายความว่าไงคะ?” อรจิราถามเสียงเครือตกใจ หน้าซีดลง

    เรื่องของเรามันผ่านมาหลายเดือนแล้ว ผมมีอะไรกับคุณแค่ครั้งเดียว เราต่างรู้ว่ามันไม่มีความหมายอะไรเลย

    ชายหนุ่มนึกสมเพช พวกผู้หญิงก็เหมือนกันหมดหวังกับผู้ชายอย่างเดียวคือ

    เงิน ไม่ว่าผู้หญิงที่กำลังนั่งเสแสร้งอยู่ตรงหน้าเขา หรือแม้แต่นางในดวงใจของเขาก็ตาม เธอบอกเลิกและปฏิเสธเขาอย่างเลือดเย็นเพื่อไปคบกับผู้ชายอีกคนที่ร่ำรวยกว่าตามคำสั่งของบิดา ลองดูสิว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบที่มีถึงทรัพย์สินและรูปทรัพย์ผู้หญิงอย่างอรจิราหรือจะเข้าหาเขา

    ตอนนี้เวลาผ่านไปเจ็ดปีแล้วตั้งแต่ที่เขาเลิกกับเหมือนฝัน แม้รังสิมันต์จะรวยขึ้นถึงขั้นประสบความสำเร็จในชีวิต จนอยากกลับไปดูน้ำหน้าผู้หญิงที่กรีดหัวใจเขาจนเป็นแผลอย่างทุกวันนี้ แต่เขาก็ไม่เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องกลับไปดูเศษเนื้อร้ายที่ตัดออกไปจากชีวิต การที่มักจะมีผู้หญิงเข้ามาหาเขาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน แต่ละคนคอยสวมหน้ากากเข้าหาเขา จึงทำให้เขาคอยหวาดระแวงและไม่กล้าเชื่อใจใครทั้งนั้น หัวใจปิดตายลงกลายเป็นคนเย็นชา และไม่เคยมอบใจให้ผู้หญิงคนไหน 

    คนใจร้าย ซาร่าไม่ต้องการเงินจากคุณเธอแสร้งบีบน้ำตา พลางเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูมาซับน้ำตาข้างแก้ม ที่ไหลออกมาง่ายดายราวกับสั่งการได้

    ตอนนั้นผมเมาและคุณพยายามชวนผมไปที่ห้องเอง คุณแสดงออกมาตลอดว่าไม่สนใจกับความสัมพันธ์ชั่วคราวทั้งที่รู้ดีว่าผมไม่จริงจังกับใคร ถ้ารู้ว่าคุณจะมาเป็นแบบนี้ทีหลังผมคงไม่ยุ่งตั้งแต่แรก จากนั้นคุณก็ติดงานผมก็ติดงานด้วย เจอกันแทบนับครั้งได้ เรายังมีอะไรที่ผูกพันกันอีกหรือ เราไม่เคยคบกันต้องให้ผมย้ำอีกไหม

    ชายหนุ่มย้อนกลับเป็นชุดอย่างเลือดเย็น แล้วทำท่าจะเก็บเช็คใบนั้นเข้ากระเป๋า แต่เธอห้ามเอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่ะอรจิรารีบเก็บเช็คที่เขาให้ใส่กระเป๋าเพราะได้สามล้านยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย สมัยนี้ดาราเยอะและกว่าจะเล่นละครหรือถ่ายโฆษณาก็ไม่รู้เท่าไรถึงจะได้ขนาดนี้

    คุณใจร้ายมากนะคะ ทิ้งซาร่าอย่างไม่แยแสเลยเธอว่าเขาทั้งน้ำตา

    เราคุยกันเข้าใจแล้วนะ งั้นผมขอตัวก่อนรังสิมันต์บอกพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คล้ายว่าได้เจรจาธุรกิจเสร็จสิ้นภาระแล้ว

    แต่ซาร่ารักคุณอรจิราบอกเสียงเว้าวอนน้ำตาคลอเบ้า แล้วรีบลุกขึ้นยืนเพื่อเอื้อมมือไปรั้งเขาเอาไว้

    อยู่กับซาร่าอีกสักชั่วโมงได้ไหมคะ ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะเจอกัน

    รังสิมันต์ถอนใจยาวขณะมองอีกฝ่ายนิ่งไปครู่หนึ่ง พลางสะบัดมือออก ก่อนจะบอกเสียงเรียบเย็นชาคล้ายคนไร้หัวใจ ผมไม่คิดจะรักใครอีกแล้ว หัวใจของผมมีให้กับงานเท่านั้น แต่ในเมื่อคืนนี้เราจะได้เจอกันเป็นครั้งสุดท้าย ผมจะให้เวลาคุณถึงเที่ยงคืนเลย

    ขอบคุณค่ะ ซาร่าจะจดจำมันไว้อย่างดี

    ร่างสูงจึงยอมลงนั่งลงที่เดิม เมื่อคิดว่าเธอเข้าใจจุดประสงค์ของเขาแล้ว

    +----------+

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×