ความสม่ำเสมอของการอัพงาน เรื่องนี้ขอยกให้เป็น The Best จริงๆค่ะ นักเขียนมีความสม่ำเสมอในการอัพแทบจะเรียกได้ว่า 100% จริงๆ ถ้าไม่ติดขัดอะไร เรื่องนี้จะเรียกว่าอัพถี่มากถึงมากที่สุดก็ได้ค่ะ สังเกตจากตอนต้นๆเรื่องที่อัพวันละ 2-3 ตอนต่อวัน ก่อนจะค่อยๆอัพเป็นวันละตอนแล้วแต่ความสะดวกของนักเขียน แต่ยังคงมีการอัพเดทอย่างน้อย วันละ 1 ตอนถ้วน ไม่ขาดตอน และค่อนข้างเป็นเวลา ช่วงดึกๆของแต่ละวัน ถ้าหากวันไหนที่นักเขียนไม่ว่าง ไม่สะดวกหรือแม้แต่ไม่สบายพอที่จะอัพ ก็มักจะเข้ามารายงานตัวให้ ชี้แจงให้นักอ่านทราบเสมอ ในส่วนนี้ขอชื่นชมจากในจริงกับความขยันของนักเขียนค่ะ เป็นนักเขียนที่มีวินัยมากทีเดียว
ชื่อเรื่อง Another slytherin side of the story ถือว่าเป็นชื่อเรื่องที่ดึงดูดผู้อ่านพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับเรื่องนี้นำเสนอในแง่มุมที่แต่ต่างออกไปจากปกติ เป็นการมองผ่านมุมมองของเด็กบ้านสลิธีรินไม่ใช่กริฟฟินดอร์ ซึ่งการนำชื่อนี้มานำเสนอ เป็นการระบุเจาะจงถึงโครงสร้างการนำเสนอเรื่องที่ชัดเจน ค่อนข้างน่าสนใจและสัมพันธ์กันกับการนำเสนอเรื่องราวได้ดีมากค่ะ
ในส่วนของภาษาอังกฤษ ไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจของนักเขียนหรือเปล่าที่ใช้คำว่า Another เพื่อเจาะจงเรื่องราวของทิมโมธีตัวหลักของเรื่อง แทนที่จะเป็น Others เพื่อกล่าวถึงแก๊งเด็กๆบ้านสลิธีรินทั้งหมด อีกประการหนึ่งคือ Slytherin เป็นชื่อเฉพาะ ขออนุญาตแนะนำว่าควรจะขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่นะคะ
โครงเรื่อง เพราะโดยส่วนมาก นักเขียนมักจะนำเสนอหรือถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวละครหลักที่เป็นพระเอกอย่างแฮร์รี่ ซึ่งเป็นการเสนอแง่มุมเพียงด้านเดียวทำให้นักอ่านมักจะมองหรือตัดสินตัวละครประกอบอื่นๆ ในมุมมองเดียวกันกับสิ่งที่ได้รับรู้จากตัวละครนั้นๆ
สำหรับเรื่องนี้ตัวละครนำหลักอย่างทิมโมธีหรือหนูน้อยทิมมี่ และเหล่าสหายบ้านงู ค่อนข้างสร้างสีสันให้กับเรื่องได้ดีทีเดียวเลยล่ะค่ะ โครงเรื่องเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการเรียงลำดับความเป็นไปอย่างช้าๆ เป็นลำดับขั้น ไม่กระโดดไปมาหรือวกวน ทำให้มีความลื่นไหลและลงตัวในแต่ละตอน
ในส่วนของความสมเหตุสมผล อาจจะไม่ชัดเจนในบางตอนแต่นักเขียนก็มีความสามารถในการปรับสมดุลให้จุดที่หายไปนั้นกลายเป็นส่วนที่จะแสดงพัฒนาการของตัวละคร ไม่ว่าจะโดยผ่านทางแง่มุมของตัวละครอื่นๆ หรือเหตุการณ์สำคัญ รวมไปถึงการสร้างปมปริศนาใหม่ที่รอการคลี่คลาย ทำให้เรื่องราวไม่น่าเบื่อ และคนอ่านได้รู้สึกลุ้นไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดในอนาคตข้างหน้า
ปมขัดแย้งภายในเรื่องอาจจะยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร แม้ว่าจะสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพรวมได้คร่าวๆแต่ยังมีปมในรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนที่ยังไม่ชัดเจนซึ่งอาจจะเป็นเพราะเรื่องราวในส่วนนั้นยังไม่เปิดเผย ในส่วนของประเด็นหลักเริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเนื้อหาที่เริ่มเข้มข้นมากขึ้นในทุกตอน
การใช้ภาษา การบรรยายเรื่องถือว่าทำได้ดีทีเดียว ภาษาที่ใช้สามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย การเรียงร้อยถ้อยคำมีความสละสลวยในระดับที่ดี ไม่ถึงขั้นซับซ้อนหรือใช้ศัพท์สูงหรือยากมากจนเกินไป ทำให้เรื่องมีความลื่นไหลและเข้าถึงได้ง่าย โดยมีการเปรียบเปรยด้วยการบรรยายที่สั้นๆได้ใจความแต่ทำให้นักอ่านเห็นภาพและสามารถเข้าใจเรื่องราวต่างๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งเลยค่ะ
ตัวละคร ในส่วนของตัวละคร ขอชื่นชมว่านักเขียนสามารถนำเสนอตัวละครต่างๆได้ค่อนข้างครบถ้วน เป็นการจัดบทให้แต่ละตัวละครได้อย่างสมดุลทีเดียวล่ะค่ะ ในส่วนของการแสดงอารมณ์ บุคลิก ลักษณะต่างๆ แต่ละตัวละครมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและเห็นได้ชัด โดยที่นักอ่านสามารถเข้าใจหรือนึกถึงตัวละครนั้นๆได้ทันที แม้ไม่ได้มีการเอ่ยถึงชื่อของตัวละคร
อย่างหนึ่งที่ต้องชื่นชมคือการสร้างตัวละครที่มีมิติได้น่าสนใจทีเดียว
โดยเฉพาะ ทิมโมธี ที่จะไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ หนูทิม ทิมมี่ เป็นตัวละครที่มีความเด่นชัดในพัฒนาการหลายๆด้าน ทั้งอารมณ์ ลักษณะนิสัยใจคอ และความสามารถ น้องทิมเป็นตัวละครที่มีความโดดเด่น และมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้นักอ่านสามารถจดจำและหลงรักได้อย่างง่ายดาย ขอบอกว่านักเขียนทำออกมาได้ดีทีเดียวเลยค่ะ
ในตอนแรกที่เริ่มอ่านเราจะมองเห็นทิมมี่ในมุมที่เป็นเด็กเงียบๆไม่ชอบสุงสิงกับผู้คน เขาเป็นตัวละครที่ค่อนข้างหยิ่งและถือตัวพอสมควร ความน่าเกรงขามและโตเกินวัยของเขา ค่อนข้างจะเรียกได้ว่าเป็นนิสัยด้านเลวร้ายที่เขาแสดงออกให้เห็น แต่เมื่ออ่านต่อมาเรื่อยๆจะพบว่าเขาเริ่มเข้าหาผู้คน เริ่มผูกมิตร มีสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อนในบ้านเดียวกันและค่อยๆขยายวงไปถึงบ้านอื่นๆ ซึ่งทำให้ไม่นานเขาก็กลายเป็นที่รักของคนเกือบทั้งโรงเรียนได้ไม่ยาก ความอ่อนโยน มีน้ำใจและเคารพในการตัดสินใจของผู้อื่น แสดงให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของเด็กคนนี้ ซึ่งเป็นด้านดีๆที่ทำให้บรรยากาศภายในเรื่องน่าอยู่มากทีเดียว
ความอดทนอดกลั้นและมีสติ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัวละครนี้น่าสนใจ รวมไปถึงอารมณ์ร้อนและขี้แกล้ง ที่บางครั้งต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ทิมโมธีดูสมกับวัยที่เป็น เพราะหลายครั้งหลายคราที่เราพบว่าตัวละครนี้มีความคิดความอ่านและความสามารถที่มากเกินกว่ากลุ่มเพื่อนหรือเด็กวัยเดียวกัน บางครั้งแม้แต่กับเด็กที่สูงวัยกว่าก็ตาม อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่ทำให้เป็นแบบนั้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็ได้เห็นด้านที่เด็กคนนี้เปราะบางและอ่อนแอในยามที่เขาอ่อนไหว แม้แต่ยามที่ผิดพลาดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะความอ่อนด้อยของความสามารถและประสบการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มนุษย์ ไม่มีทางที่จะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกครั้ง บางครั้งความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ แต่อยู่ที่ว่าจะยอมรับและแก้ไขมันอย่างไร
บทสนทนา การบรรยายและใช้คำแทนตัวละคร ทำได้ดีและเป็นธรรมชาติ บทสนทนาลื่นไหลต่อเนื่องและมีความสนุกสนาน ทำให้สามารถจินตนาการถึงสภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ไม่มีคำหยาบคายให้ระคายเคือง รวมไปถึงวิธีการเลือกใช้คำพูดของตัวละครแต่ละตัว มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งยังบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของตัวละครได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ต้องเอ่ยชื่อตัวละครเหล่านั้น
การเปิดเรื่อง ดำเนินเรื่อง ปิดเรื่อง ในแต่ละตอนมีความต่อเนื่อง สัมพันธ์กันกับตอนก่อนหน้า ทำให้การอ่านลื่นไหล ไม่มีสะดุด มีการทิ้งปมไว้ในจุดต่างๆ บางครั้งในหนึ่งตอนก็มีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึก ทั้งตื่นเต้น ยินดี เศร้าใจ หัวเราะ และร้องไห้ แต่ทั้งหมดก็สามารถกลมกลืนอยู่ได้ในหนึ่งตอน มหัศจรรย์มากทีเดียว ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ทำให้คุณสามารถยิ้มและหลงใหลไปกับเรื่องราวและตัวละครได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
คำผิด/การจัดหน้า คำผิดมีให้เห็นประปรายแต่ไม่มากจนเกินไป เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะอารมณ์พาไปทำให้การรัวนิ้วบนแป้นคียบอร์ดอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในจุดนี้ แต่โดยรวมอยู่ในจุดที่รับได้ไม่มีปัญหาค่ะ การจัดย่อหน้าบางส่วนอาจจะต้องปรับสักหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ตัวอักษรใหญ่อ่านง่ายไม่ปวดตา ไถเลื่อนหน้าจอได้ง่ายมากจริงๆ
แก่นสาระของเรื่อง ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่ฟิคชั่นที่ทำให้ทุกคนหัวเราะขบขันและสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าของคนอ่านผ่านทางตัวละคร แต่เชื่อเถอะว่าในทุกๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้มีมุมมอง แง่คิด และอะไรอีกหลายอย่างที่นักอ่านจะได้เรียนรู้ทั้งจากตัวละครและสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ การวางตัวในสังคม หรือแม้แต่การไว้วางใจซึ่งกันและกัน
แนวคิดง่ายๆอย่างหนึ่งคือ การที่เราจะเป็นผู้นำใครสักคน ควรจะได้รับการยอมรับจากใจไม่ใช่การอยู่เหนือผู้อื่นด้วยการสร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในจิตใจของคนเหล่านั้น แต่เป็นการสร้างความยำเกรงและความเคารพให้เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สร้างความจงรักภักดี ในแบบที่เรียกว่า ใจแลกใจ
เราหวังว่าคำวิจารณ์ทั้งหมดนี้จะเป็นหนึ่งกำลังใจและแรงสนับสนุนที่ดีสำหรับนักเขียนนะคะ หากมีส่วนไหนที่ทำให้ไม่พอใจต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ เราอาจจะไม่ได้คอมเม้นทุกตอนเพราะพึ่งมาอ่านรวดเดียวจนจบ แต่รับรองว่าหลังจากนี้คุณจะได้เห็นคอมเม้นของเราในทุกๆตอนแน่นอนค่ะ
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆที่คุณทุ่มเทเวลา แรงกาย แรงใจและความคิดในการรังสรรค์ขึ้นมาให้เราได้อ่าน และขอบคุณกับความมีวินัยและสม่ำเสมอที่คุณมีให้กับนักอ่านทุกคนมาตลอดนะคะ ขอให้รักษาความดีนี้ตลอดไปจนจบเรื่องนะคะ เราจะคอยอยู่เป็นกำลังใจจากตรงนี้เสมอ ขอบคุณจริงๆค่ะ 😊
|