ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love of talk nonsense ตามล่าหัวใจนายซุป'ตาร์[ฺEnd]

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 14 I know it, Who could help me. (ต้องรู้ให้ได้ ใครเป็นคนช่วยเหลือฉันไว้)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.35K
      1
      10 ก.ค. 57

     

     


     

     14

    I know it, Who could help me.

    (ต้องรู้ให้ได้ ใครเป็นคนช่วยเหลือฉันไว้)

     

    “แล้วนั่นคุณจะลุกไปไหน”

    “ไปตรวจครรภ์”

    “ตรวจทำไมกัน คุณไม่ได้ท้องสักหน่อย”

    “เอเชียคุณรู้ได้ไงว่าฉันจะไม่ท้อง ไหนคุณบอกว่าพบฉันอยู่ข้างถนนไง มันก็น่าจะบ่งชัดอยู่แล้วนะว่าฉันเป็นคนเร่ร่อน”

    “ฮ่าๆ คุณนี่ความคิดสร้างสรรค์จังเลยนะ” แน่ะ!ยังจะมาชมฉันอีกไม่ต้องชมหรอกฉันรู้ตัว อิอิ “คุณไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าตอนนั้นคุณความจำเสื่อมจริงๆนะ ผมคิดว่าคุณน่าจะอาศัยอยู่กับเพื่อนของผมนะ”

    “เพื่อนของคุณ ฉันอยู่กับเพื่อนของคุณเหรอ”

    “ก็น่าจะใช่นะ”

                เฮ้อ
    ค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย

                “เอเชียคุณช่วยเล่าเรื่องราวให้ฉันฟังหน่อยสิ”


    “ได้เลยไม่มีปัญหาตอนนั้น

    ~ก่อนอื่นฉันขอบอกรักเธอสักครั้งหนึ่ง อยากซึ้งอยากจะมองตา~

    เสียงสายเรียกเข้าของเอเชียดังขึ้นขัดจังหวะที่เขากำลังจะพูดพอดี เขาเดินออกไปคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกประมาณสักสองนาทีก็เดินเข้ามา

    “ผู้จัดการผมโทรเรียกตัวแล้วผมคงต้องรีบกลับแล้วล่ะ”

    “กลับ”

    “ใช่ กลับ ผมมีงานที่ค้างคาที่ต้องทำอยู่กรุงเทพอีกเยอะเลยล่ะ ทีแรกผมตั้งใจว่าจะกลับวันนี้แต่ก็บังเอิญเจอคุณเข้าเสียก่อน” เขากำลังจะบอกเป็นเชิงว่าเสียเวลาเพราะเจอฉันเสียก่อนใช่ไหมนั้น

    “ตอนนี้ฉันเองก็หายดีแล้ว คุณกลับไปเถอะไม่ต้องห่วงฉันหรอกนี้มันก็บ่ายสองกว่าแล้ว”

    “แล้วคุณจะอยู่ยังไงต่อ คุณเป็นคนแถวนี้อยู่ใช่ไหม” เออ! นั้นสิบ้านฉันอยู่ตั้งไกลเงินติดตัวฉันก็ไม่มีสักบาท แล้วฉันจะกลับยังไงกันล่ะหว่า

    “เปล่าค่ะ ฉันอยู่ต่างจังหวัด”

    “แล้วคุณจะกลับยังไงครับ”

    “นั้นน่ะสิ ฉันลืมคิดไปเลย ถ้าคุณไม่ถามฉันเรื่องนี้ฉันคงลืมไปซะสนิทว่าไม่มีเงินติดตัวสักกะบาท >.<?

    “อืม” เอเชียทำท่าทางใช้ความคิดแปบหนึ่งเขาก็พูดขึ้น “งั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง” เอเชียเขาทำไมช่างเป็นผู้ชายที่แสนดีอย่างนี้นะ นอกจากหล่อขั้นเทพแล้ว(แต่น้อยกว่าตีต้าร์ฉันนิดหน่อย) ยังนิสัยดีขั้นเทพบุตรอีกต่างหาก สรุปแล้วเขาเป็นผู้ชายที่เฟอร์เฟคมากๆเลย

    “คุณมีแฟนยังคะ” ฉันมองหน้าเขาพลางคิดอะไรในใจไปเพลินๆ ผู้หญิงที่เขารักนี้ เธอช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดีจริงๆเลย ที่มีแฟนแสนดีที่สุดขนาดนี้ แต่ฉันเองก็เป็นพวกชอบติดตามข่าวสารของดาราคนดังเป็นซะส่วนใหญ่ ข่าวของเขาที่ผ่านหูผ่านตาฉันมาก็เยอะ แต่ไม่เห็นข่าวไหนเลยที่ลงว่าเขาคบหาดูใจกับใครอย่างเป็นจริงเป็นจัง เพราะเขาเองก็ออกมาปฏิเสธซะทุกครั้งว่าความสัมพันธ์แค่เพื่อนร่วมงานหรือไม่ก็พี่น้องกันเท่านั้นเอง “เถอะนะ บอกฉันมาเถอะฉันไม่บอกใครหรอก”

    “หน้าผมมันเหมือนกำลังอินเลิฟขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เอเชียพูดยิ้มๆ ฉันไม่แน่ใจว่าฉันตาฝาดหรือเปล่าแต่ฉันเห็นหน้าเขาแดงๆด้วยล่ะ

    “ค่ะ เหมือนมาก ^.^” ฉันก็ยิ้มๆตอบเหมือนกัน

    “ฮ่า ฮ่า ผมยังไม่มีแฟนหรอกครับ ก็มีแต่เคยมีน่ะแต่เรื่องมันก็ผ่านมานานหลายปีแล้วล่ะ” เอเชียทำหน้านึกคิดถึงอดีตที่ผ่านพ้นมานานหลายปี ไม่รู้นะว่าที่เขากำลังนึกคิดอยู่นี้มันเป็นเรื่องราวยังไง ตอนจากกันจะจบกันจะจากกันด้วยดีหรือทุกข์ใจฉันก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ฉันเองก็ไม่กล้าถามไปมากกว่านั้นหรอก

    “ฉันเชื่อที่คุณพูดค่ะ ^_^

     

    ฉันนั่งอยู่ในรถของเอเชีย ที่ขับออกมาจากโรงพยาบาลได้ซักพักแล้ว และยืมโทรศัพท์ของเขากดเบอร์โทรหาน้อยหน่า โชคดีที่ฉันจำเบอร์ของน้อยหน่าได้

    (ฮัลโหล) ฉันจำได้ว่ามันเป็นเสียงของน้อยหน่า มันยังเป็นเสียงห้าวๆเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

    “หน่านี้ฉันมิ้นต์เองนะ” เสียงปลายสายเงียบไปครู่ใหญ่

    (มิ้นต์!! นั้นแกจริงๆใช่ไหม!! ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม!!)

    “ก็ฉันเนี่ยแหละ”

    (นี้มิ้นต์แกไปอยู่ไหนมาตั้งนานติดต่อกลับมาก็ไม่เคยมีสักครั้ง!! ไอ้ฉันก็นึกว่าแกหนีหายตายจับโดนลากไปขายต่างประเทศแล้วซะอีก!! แกไม่รู้หรือไงว่าทุกคนเขาเป็นห่วงแกกันขนาดไหน!! ยิ่งที่บ้านแกเนี่ยยิ่งกินไม่ได้นอนไม่หลับกันทุกคน!!) น้อยหน่าจัดมาเป็นชุด

    “ฉันหายไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย”

    (ก็ใช่นะสิ เรื่องราวมันเป็นยังไงเล่าให้ฉันฟังมาเดี๋ยวนี้เลย)

    “เรื่องมันยาวน่ะ เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟังกำลังเดินทางกลับอยู่”

    (งั้นเดี๋ยวฉันโทรบอกที่บ้านของแกนะว่าแกติดต่อมาแล้ว แล้วก็จะโทรบอกเพื่อนๆทุกคนให้มารวมตัวกันที่บ้านของแกนะ รีบมาล่ะ)

    น้อยหน่ายังชอบใช้น้ำเสียงบังคับข่มขู่ฉันเหมือนเดิม มันนี่จะอยู่ในสถานการณ์คับขันขนาดไหนมันก็ไม่เปลี่ยนไปเลย

    “อืมเพื่อน แล้วเจอกัน”

    ติ๊ด

    “งั้นผมเองก็คงต้องเรียกคุณใหม่ว่ามิ้นต์แล้วน่ะสิ”

    “มันแหง่อยู่แล้วล่ะค่ะเพราะนั้นเป็นชื่อของฉัน ^_^

     

    เอเชียขับรถคันหรูของเขามาจอดที่หน้าบ้านของฉันในเวลาสี่ทุ่มครึ่ง

    “เอเชียคุณเข้าไปดื่มน้ำดื่มท่าข้างในก่อนก็ได้นะคะ”

    “ครับ คุณเข้าไปก่อนเลยครับทุกคนคงรอคุณนานมากแล้วเดี๋ยวผมตามไป ผู้จัดการโทรมาพอดีขอคุยกันเดี๋ยว แล้วจะตามเข้าไป ^_^” ฉันยิ้มให้เขาแล้วเดินเปิดประตูรั้วเข้าบ้าน จากนั้นก็เปิดประตูบ้าน พอเปิดเข้ามาแค่นั้นแหละทุกคนที่อยู่ในห้อง พ่อ แม่ ยัยปาล์มมี่(น้องสาวตัวแสบของฉัน) น้อยหน่า แตงโม โยโย้ ฟักแฟง ครีมก็วิ่งเข้ามากอดฉันแล้วร้องไห้โฮกันใหญ่เลย

    “มิ้นต์ๆลูกไปอยู่ที่ไหนมา TOT” แม่ลูบคล้ำๆที่ศีรษะฉันไปมาเหมือนที่เคยทำเป็นประจำตอนฉันเด็กๆ

    “ฉันเป็นห่วงแกมากรู้ไหม TOT” เสียงยัยโม

    “ฉันก็ด้วย TOT” เสียงยัยครีม

    “โฮ้ๆๆ ดีใจจังที่แกยังไม่ตาย TOT” เสียงยัยฟักแฟงที่แต่เดิมเป็นคนsensibleอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว

    “ฉันเองก็นึกไปซะผวาเลยนะมิ้นต์นึกว่าแขนขาแกจะอยู่ไม่ครบโดนเขาตัดไปขายซะแล้ว >.<” เสียงยัยโยโย้ที่ชอบกวนประสาทเพื่อนพูดขึ้นมาบ้าง มันพูดอะไรขึ้นมาทีไรเล่นเอาฉันประสาทเสียซะทุกที่สินา

    “พี่มิ้นต์ปาล์มมี่เองก็เหง๊า เหงาไม่มีใครให้ทะเลาะด้วย >^<

    “เรื่องมันเป็นมายังไงกันมิ้นต์เล่าให้พวกเราฟังเดี๋ยวนี้นะลูก” พ่อพูดขึ้นมาบ้าง

    “ค่ะๆ จะเล่าเดี่ยวนี้แหละ” ฉันค่อยๆคิดลำดับเรื่องราวว่าจะเล่ายังไงดี ประตูบ้านที่ฉันได้ปิดสนิทแล้วก็ค่อยๆเปิดออกอีกครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่ข้างนอกที่ฉันเชิญเข้ามา “ทุกคนมองไปที่ประตูสิคะ คนใจดีที่เขามาส่งมิ้นต์กำลังจะเข้ามา” สิ้นเสียงฉันทุกคนก็หันไปมองที่ประตู และเอเชียก็เดินเข้ามาอย่างหล่อ

    “ เอเชีย!!! O^O” เสียงทุกคนอุทานขึ้นพร้อมกันยกเว้นเพียงแต่พ่อของฉันและน้อยหน่าที่ไม่รู้จักเอเชียเพราะสองคนนี้ไม่ชอบติดตามเรื่องดารงดาราสักเท่าไหร่ พ่อก็มุ่งไปดูแต่ข่าวเรื่องการเมือง ส่วนน้อยหน่าวันๆมันก็สนใจแต่กับเรื่องการ์ตูนญี่ปุ่นของมัน

    “สวัสดีครับ ^_^” เอเชียสวัสดีทุกคนในบ้านแล้วยิ้มให้อย่างหล่อ เล่นเอาสาวๆในบ้านฉันรวมกระทั่งแม่หัวใจปลิวกันเป็นแถว

     

    ฉันเริ่มเล่าเรื่องราวให้ทุกคนฟังว่าฉันความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้นั้นคงเป็นสาเหตุที่ไม่ได้ติดต่อมา และพอดีว่าไปเจอเอเชียเขาเข้าพอดี เอเชียเลยพาฉันไปโรงพยาบาลและความจำฉันก็กลับมาแต่จะจำเรื่องราวหลังความจำเสื่อมไม่ได้ แล้วทุกคนก็ถามฉันว่าไปรูจักกันเอเชียได้อย่างไร ตอนไหน เมื่อไหร่ ซึ่งฉันเองก็จำอะไรไม่ได้ เอเชียจึงเล่าเสริมว่าไปเจอฉันที่น้ำตกกับเพื่อนของเขา ฉันกับเพื่อนของเขามาด้วยกันคาดว่าตอนนั้นฉันความจำเสื่อมเพื่อนของเขาคนนี้น่าจะช่วยเหลือฉันไว้

    “แล้วเพื่อนของคุณเอเชียเป็นใครหรอค่ะ พวกเราจะได้ไปขอบคุณได้ทุกคนที่อุตส่าห์เป็นคนดีช่วยเหลือเพื่อนของเราไว้ ^_^” ฟักแฟงพูด แต่นัยน์ตาของยัยนั่นมองผู้มาเยือนอย่างหวานเยิ้มหยดย้อยสังเกตได้ไม่ยากเลย

    นั่นน่ะสิใครกันที่มาช่วยฉันไว้ ซึ่งฉันต้องไปขอบคุณเขาแน่ๆล่ะ เขามีบุญคุณกับฉันนิ >_<?

    “ถ้าผมบอกไปแล้วทุกคนอย่าตกใจกันนะครับ”

    “ทำไมต้องตกใจด้วยล่ะ บอกมาเถอะพวกเราไม่ตกใจหรอก” โมเอ่ย

    “นั่นน่ะสิอยากรู้มากแล้วนะตอนนี้” ครีมเสริม

    “เขาคือ” เอเชียลากเสียงยาวในขณะที่ทุกคนก็จ้องไปที่ปากของเขาอย่างกับว่าลุ้นรางวัลที่หนึ่ง “ตีต้าร์!!!” เอเชียตอบเสียงดังฟังชัด ฉันตาโตรีบเอามือปิดปากของตัวเองอย่างตกใจปนดีใจสุดขีด

    “มิ้นต์แกอย่าแหกปากนะ” น้อยหน่าที่รู้ใจฉันในเรื่องนี้สะกิดฉันเบาๆ

    ตึกตักๆ

    แต่ตอนนี้ฉันร้องไม่ออกง่ะ มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพร์จริงๆ ในระหว่างที่ฉันความจำเสื่อมฉันอยู่กับตีต้าร์ตลอดเลยงั้นเหรอ ทั้งที่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องเจอเขาพบเขาความรักที่ฉันมีให้เขามันจะต้องนำทางให้ฉันเจอกับเขาในสักวัน แต่ก็คาดไม่ถึงว่าความรักของฉันที่ฉันเชื่อมั่นว่าจะต้องพาฉันไปพบเจอกับเขา มันจะจัดรางวัลให้ฉันรางวัลใหญ่เหนือความคาดหมาย โอ้ กล้วยทอดมันยอดมาก นี้มันคือพรหมลิขิตของบิ๊กแอสชัดๆ เป็นลมดีกว่า

    ตุบ

     

    “อ้าว! ตายแล้วมิ้นต์เป็นอะไรไป” เมรยาพูดขึ้นขณะที่เห็นลูกสาวที่เพิ่งกลับมาบ้านสลบไปอย่างน่าใจหาย คำพูดที่เมรยาเอ่ยก็ทำให้ทุกคนพลอยตกใจไปด้วย แต่น้อยหน่าก็พูดขึ้นก่อน

    “ทุกคนลืมไปแล้วหรอว่ามิ้นต์น่ะมันบ้าตีต้าร์ขนาดไหน ไม่แปลกหรอกนะที่มันเป็นเป็นลมไปซะเฉยๆแบบนี้ เดี๋ยวหน่าจัดการพามันไปนอนเองนะคะแม่”

    “เอ่อ นั้นสินะแม่ลืมไป งั้นฝากมิ้นต์ด้วยนะลูก >///<

    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!! ^O^” ทุกคนหัวเราะขึ้นพร้อมกันมีเพียงเอเชียที่นั่งหน้านิ่งไม่หัวเราะไปกับทุกคน น้อยหน่าจัดการพามิ้นต์ขึ้นไปห้องนอนของเธอ

    “มิ้นต์มันก็เป็นอย่างนี้แหละคุณเอเชียไม่ต้องตกใจหรอกค่ะ มันน่ะคลั่งตีต้าร์ซะยิ่งกว่าอะไรซะอีก เรียกว่าคลั่งถึงคลั่งที่สุดเลยล่ะ ^_^” ครีมพูด

    “ใช่ๆ พี่มิ้นต์น่ะบ้าพี่ตีต้าร์สุดหล่อนั่นกว่าอะไรทั้งสิ้นในโลกนี้” ปาล์มมี่น้องเล็กสุดเองเธอก็พยายามที่จะออกความเห็นบ้าง เพราะนักร้องสุดหล่อมาบ้านทั้งทีถ้าไม่ได้คุยด้วยซักคำคงเสียดายแย่

    “มิ้นต์เธอชื่นชมตีต้าร์เหรอครับ”

    “มิ้นต์น่ะมันลงทุนไปตามหาตีต้าร์ถึงเชียงใหม่!!” เสียงน้อยหน่าดังขึ้นขณะที่กำลังเดินลงบันไดบ้านหลังจากที่พามิ้นต์ไปนอนที่ห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “มันเชื่อว่าความรักที่มันมีให้ต่อไอ้นักร้องคนนั้นจะช่วยนำทางให้มันเจอเขา เหอะ! น้ำเน่าซะไม่มีเลย -_-” เอเชียสะอึกที่ลำคอในคำพูดของน้อยหน่าเมื่อครู่ เพราะเขารู้ตัวของเขาตั้งแต่แรกพบที่เจอมิ้นต์ว่าเขาชอบมิ้นต์ตั้งแต่แรกเห็นแต่ไม่คิดเลยว่ามิ้นต์เองจะชื่นชอบตีต้าร์หรืออาจถึงขึ้นรักเลยก็ว่าได้อยู่แล้ว เขาโกรธให้ตัวเองที่ไปบอกกับทุกคนรวมทั้งเธอว่าคนที่ช่วยเธอคือตีต้าร์ ถ้าเขารู้ว่ามิ้นต์คิดยังไงกับตีต้าร์เขาจะไม่พูดบอกออกไปอย่างนั้นเลย ไม่มีทาง ทั้งๆที่คิดจะทำคะแนนกับเธอแล้วเชียว

    “ผมคงต้องขอตัวกลับแล้วนะครับ มีธุระที่ต้องไปทำ” เอเชียลุกขึ้นยืน สาวๆบรรดาเพื่อนๆของมิ้นต์ถอนหายใจกันอย่างเซ็งๆกันเป็นแถบ “นี้เบอร์โทรผมฝากให้มิ้นต์ด้วยนะครับเผื่อเธออยากจะติดต่อมาคุยธุระอะไรกับผม” เอเชียยื่นเบอร์โทรให้น้อยหน่า

    “อืม มันตื่นเดี๋ยวจะบอกมันเองไม่ต้องห่วง -_-” น้อยหน่าพูดห้วนๆ

    “คุณเอเชียเดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะคะ ^///^” โมพูด

    “เอ่อ! เดี๋ยวค่ะฉันขอลายเซ็นคุณหน่อยสิ ^O^” ฟักแฟงวิ่งไปหยิบกระดาษและปากกามา ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ทำตามโยโย้รีบวิ่งหากระดาษปากกามาให้เอเชียเซ็นบ้าง ถ่ายรูปบ้างกันยกใหญ่ มีเพียงแต่พ่อของมิ้นต์และน้อยหน่าที่ไม่สนใจจะทำอย่างที่ทุกคนทำ

     

    “พวกเราไอ้มิ้นต์ตื่นแล้วว่ะ” ฉันเห็นน้อยหน่ามันนั่งอยู่ข้างๆเตียงนอนของฉัน และพวกแตงโม โยโย้ ฟักแฟง ครีม ก็เดินออกันเข้ามาหาฉัน ฉันพยุงตัวลุกขึ้นจากที่นอน “อ่ะ ของแก” น้อยหน่ายื่นกระดาษสีฟ้าแผ่นเล็กๆมาให้ฉัน

    “อะไร -_-?” ฉันถาม

    “เบอร์ของเอเชียไงแก เขาฝากมาให้แกล่ะ ^O^” ฟักแฟงพูดแทนน้อยหน่าด้วยน้ำเสียงสีหน้าตื่นเต้นกันทุกคน

    “ฉันว่านะเขาต้องชอบแกแน่ๆเลยมิ้นต์ ไม่งั้นไม่ฝากมาให้แกอย่างนี้หรอก ^O^” โยโย้พูด ทุกคนในห้องยกเว้นน้อยหน่าก็ทำสีหน้าท่าทางกระดี๊กระด๊าหยงๆขึ้นมาอีกเป็นหลายเท่าตัว

    “ฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยมิ้นต์! แต่ที่โยโย้พูดมามันก็น่าคิดนะ! >O<” ยัยโมเสริม

    “บ้าน่าพวกแก ไม่มีอะไรหรอก เขาคงแค่ให้เฉยๆไม่คิดไรมาก >///<” ฉันรีบๆปัดๆความคิดบ้าๆนั้นออกจากหัวตัวเองและหัวของเพื่อนๆ “อย่างเขาเนี่ยนะจะมาชอบฉัน หล่อๆอย่างเขาน่ะไม่สนใจผู้หญิงบ้านๆอย่างฉันหรอกแก พวกแกเลิกคิดอย่างนี้ได้แล้ว >.<///

    “ฉันเห็นด้วยกับที่มิ้นต์มันพูดนะ น้ำหน้าอย่างมันน่ะไม่มีเสน่ห์ตรงไหนเลย สวยก็ไม่สวย น่ารักก็ไม่น่ารัก ซกมกก็ซกมก ขี้เกียจก็ขี้เกียจ ขี้วีนก็ขี้วีน เรียนก็ไม่เก่ง อ๋อ! ถ้ามันพอมีเสน่ห์จริงป่านนี้คงมีหนุ่มๆเข้ามาขายขนมจีบมันแล้วล่ะ ตั้งแต่ที่ฉันเป็นเพื่อนมันมานานหลายปีก็ไม่มีจะมีหลงเข้ามาสักคน มีแต่มันเข้าใจผิดคิดไปเองทั้งน้านนนน -_-” น้อยหน่าละเมอพล่ามไปซะฉันหมด และหันมาขอความเห็นด้วยกับฉันและเพื่อนๆในสิ่งที่มันคิดว่ามันพูดถูก เพื่อนทุกคนรวมทั้งฉันส่งสายตาค้อนให้มันอย่างไม่พอใจ เพราะเพื่อนๆทุกคนก็ยังไม่มีแฟนกันทั้งนั้นคล้ายๆเหมือนว่ามันด่าทุกคนรวมไปด้วย

    “มากไปแล้วนะแก!!!~” เสียงทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน

    “เหอะๆๆ” น้อยหน่าหัวเราะแห้งๆเชิงหัวเราะไม่ออก “โทษทีว่ะลืมไปว่าพวกแกก็เหมือนกัน -///-” น้อยหน่ายิ้มแหย่ๆ

    “ใช่แล้ว!!” ระหว่างที่สายตาแปดคู่กำลังรุมน้อยหน่าอยู่ฉันก็พูดขึ้นเสียงดัง ช่วยน้อยหน่าไปในตัวอีกแรงหนึ่ง “เอเชียบอกว่าตีต้าร์เขาช่วยฉันนิ ^///^” ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้

    “ฉันดีใจด้วยนะมิ้นต์ ^^” โมพูด บรรยากาศจากเมื่อกี้หายไปทันตาเห็น

    “ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆเลย >O<” โยโย้

    “แล้วนี้แกจะเอาไงต่อล่ะ >_<” ครีมถาม

    “แล้วพวกแกคิดว่าฉันจะเอายังไงต่อดีล่ะ >O<”  ฉันกำกระดาษเบอร์โทรของเอเชียแน่น สีหน้าท่าทางฉันหวานเยิ้มเหมือนคนกำลังอินเลิฟ “ฉันจะไปขอบคุณตีต้าร์ด้วยตัวเอง ฮ่า ฮ่า >O<” ฉันหัวเราะอย่างผู้ชนะ เพื่อนๆของฉันก็เป็นไปกับฉันด้วยรวมกระทั่งน้อยหน่า(แต่ใครก็ดูออกว่ามันแสร้งหวเราะ) มันแกล้งหัวเราะอย่างนั้นคงอยากทำตัวกลมกลืนมั้งกับความผิดที่มันพูดออกไป

     

    07.00AM.

    “ตุ๊ดดดด ตุ๊ดดดด ตุ๊ดดดด” ฉันกดโทรศัพท์หาเอเชียหวังว่าตอนนี้เขาคงไม่ยุ่งงานอยู่หรอกนะ

    (สวัสดีครับ ผมเอเชียครับ) เสียงหล่อๆของเขาดังขึ้นในโทรศัพท์

    “ฮัลโหลค่ะ ฉันเองนะมิ้นต์ จำได้ไหมค่ะ ^_^

    (มิ้นต์เองเหรอ ทำไมผมจะจำไม่ได้ล่ะ นึกว่าคุณจะไม่โทรมาแล้วซะอีก)

    “ทำไมจะโทรล่ะคะฉันอยากจะขอบคุณตีต้าร์น่ะคะที่ช่วยฉันไว้ ว่าแต่คุณว่างหรือเปล่าคะ”

    (งั้นเหรอครับ ผมเองก็เพิ่งจะว่างเมื่อกี้เองเนี่ยแหละ)

    “ดีใจจังที่ฉันโทรมาถูกเวลา”

    (เป็นพรหมลิขิตมั้งครับ)

                คนอย่างเขาเชื่อในพรมลิขิตด้วยเหรอ


    “หึๆค่ะ เอเชียฉันขอเบอร์ติดต่อตีต้าร์ได้ไหมคะ” ฉันพูดไปทำหน้าเขินไปด้วยใกล้ถึงเวลาที่ฉันรอคอยมานานแล้ว ฉันจะได้คุยกับตีต้าร์ตัวเป็นๆ ความฝันของฉันกำลังจะเป็นจริงแล้วในไม่อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ว้าว! ตื่นเต้น “ว่าไงคะฉันรอฟังอยู่นะคะ”

    (ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่าตีต้าร์เขาเป็นคนเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพราะผู้หญิงโทรมาหาเขาเยอะเหลือเกิน ตอนนี้ผมเองเลยไม่มีเบอร์ของเขา แต่ที่จริงแล้วคุณมิ้นต์ไม่ต้องไปขอบคุณเขาหรอกครับ ผมคิดว่าที่จริงแล้วตีต้าร์นั่นแหละที่เป็นคนไล่คุณออกมาเดินเร่ร่อนอยู่ข้างถนน สภาพคุณตอนนั้นเองก็เหมือนกำลังมีปัญหาทุกข์ใจอยู่ ผมถามคุณว่าเกิดอะไรขึ้นคุณก็ไม่ยอมบอกผมสักคำ คงเป็นเขาล่ะมั้งครับที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้  ตีต้าร์คนที่ผมรู้จักน่ะเขาไม่ใช่คนดีอะไรมากหรอกนะครับมิ้นต์) ฉันอึ้งกับคำที่เอเชียพูด

    “ไม่หรอกมั้งคะ” ฉันพูดเสียงเบาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

    (ผมเป็นเพื่อนเขานะครับถึงจะไม่ค่อยสนิทแต่ก็พอๆรู้ทั้งมาจากตัวเองและคนอื่นก็ด้วย)

    “ค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ ขอโทษที่รบกวนค่ะ”

    (ไม่เป็นไรครับ)

    ตีต้าร์ของฉันเขาไม่ใช่คนอย่างนั้นแน่ๆไม่ใช่ ตีต้าร์ต้องไม่ได้เป็นตัวตนอย่างที่เอเชียพูด เอเชียต้องเขาใจผิด ฉันพยายายามจะหาข้ออ้าง(ที่ฉันสร้างขึ้นมาเอง)มาปลอบใจตัวเอง

     

    ติ๊ด!

    เอเชียวางหูจากมิ้นต์ และยิ้มหยันที่มุมปากเรียวยาวที่สาวๆหลายคนไฝ่ฝันอยากจะสัมผัสสักครั้งในชีวิตของพวกเธอ ความจริงแล้วเขาเองก็มีเบอร์ของตีต้าร์แต่ไม่ให้มิ้นต์จะดีกว่า เขาจะได้มีโอกาสทำคะแนนกับเธอ ถ้าเขาให้เบอร์ตีต้าร์ไปทุกอย่างมันก็คงจบสิ้นกันพอดี

     















     

    โปรดติดตามตอนต่อไป
















     

     [ตัวอย่างตอนต่อไป]

    “คืนพรุ่งนี้ที่โรงเรียนจะมีคอนเสริต์การกุศล” มันก็มีทุกปีนิ “จะมีนักร้องมาในงานนี้ด้วย” มันก็ต้องมีอยู่แล้ว “ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเอเชีย!! เขาจะมาร้องเพลงที่โรงเรียนเรา!! ^O^

    “เอเชียๆเหรอ เขาจะมาแน่นะแก ฉันคงต้องรีบไปซื้อบัตรแล้วล่ะ ^O^

     “ยัง ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ^O^ เพราะตีต้าร์ของมิ้นต์เพื่อนเราก็จะมาในคืนนั้นด้วย!!! ^O^

    “ตีต้าร์จะมาหรอ!!! >O<

    “มาจริงๆ ^O^

    “กรี้ดดดด ^O^

    “ฉันดีใจด้วยนะมิ้นต์ แกต้องไปขอบคุณเขาให้ได้นะ ฉันเชียร์ๆ ^O^

    “แกคงต้องไปทำสวยที่สุดในคืนนั้นแล้วล่ะมิ้นต์!

     



     





     


     











    ขอบคุณภาพพื้นหลังสวยๆจาก B ♔ W
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×