ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love of talk nonsense ตามล่าหัวใจนายซุป'ตาร์[ฺEnd]

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 1 ความรักของฉันคือพรหมลิขิตที่จะนำทางให้เจอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.87K
      2
      26 ส.ค. 59






    ถ้าเสียงเพลงรบกวนก็กดหยุดได้เลยค่ะ





    1

    ความรักของฉันคือพรหมลิขิตที่จะนำทางให้เจอเขา

     “เป็นไงบ้างคะกับกระแสตอบรับซิงเกิลเพลงน้อยใจ นี้ก็ผ่านมาห้าเดือนแล้วนะคะ แต่กระแสยังแรงอยู่เลย นี้ได้ยินว่าติดชาร์ตอันดับหนึ่งตั้งหลายแห่งเลยใช่ไหมคะ” ฉันดูรายการย้อยหลังทางอินเทอร์เน็ต เพราะดูที่ร้านไม่จบ คงไม่ต้องถามนะว่าเพราะอะไร

                    “ก็ถือว่าดีมากครับที่กระแสยังแรงอยู่ คงเพราะแฟนคลับสนับสนุนเรามากน่ะครับ ผมเองก็ซาบซึ้งใจมากเลยครับ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนชื่นชมผมมากถึงขนาดนี้”

                    “ค่ะ รายการของเราก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ว่าแต่จะปล่อยซิงเกิลใหม่ออกมาเมื่อไหร่คะ ตีต้าร์ช่วยบอกให้เพื่อนๆที่รับชมทางบ้านและที่มาเชียร์ตอนนี้ได้รู้กันหน่อยค่ะ เพราะมอร์เองก็ตั้งหน้าตั้งตารอซิงเกิลใหม่ของตีต้าร์เช่นกัน J

                    “ครับ ผมเองช่วงนี้ก็จะเก็บตัวเงียบทำซิงเกิลใหม่ซักพัก ผมจะตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ทุกคนให้ความรักแก่ผม อีกไม่นานเกินรอทุกคนคงได้เห็นซิงเกิลใหม่ของผมแน่ครับ”

                    “ได้ข่าวว่าตีต้าร์จะขอลาไปพักผ่อนที่เชียงใหม่กับครัวครอบด้วยใช่ไหมคะ”

                    “ครับ เพราะช่วงห้าเดือนที่ผ่านมาผมไม่มีวันหยุด และไม่มีเวลาว่างให้ครอบครัวเลย เลยกะว่าช่วงที่เก็บตัวจะของลาพักร้อนด้วยน่ะครับ”

                    “อย่างนี้แฟนคลับคงคิดถึงแย่เลยสิคะ”

                    “หึหึ ครับ ^^

                    “แล้วนี่กะพาใบปิ่นไปไหว้คุณพ่อคุณแม่ด้วยหรือเปล่าคะ” ฉันลืมบอกไป ว่าตอนนี้ตีต้าร์(ของฉัน) เขากำลังคบหากับดาราสาวที่ชื่อใบปิ่นอยู่ >0< ว่าแล้วก็อิจฉาใบปิ่นอะไรนั้น ที่ได้ใกล้ชิดกับตีต้าร์ของฉันอย่างออกนอกหน้า

                    “เรื่องนี้ผมเองก็ยังไม่ได้คุยกับปิ่นเขาเลยครับไม่รู้ว่าคิวเขาจะว่างหรือเปล่า”

                    “แต่ยังไงมอร์ก็ของให้ปิ่นเขาคิวว่างก็แล้วกันนะคะ เพราะจะได้ไปสวีทเต็มที่ นานๆจะมีครั้ง”
                    “โถ มอร์ก็พูดไป ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”

                    “อ้าวไหนๆตีต้าร์ก็มารายการของเราแล้ว ช่วยร้องเพลงโชว์เสียงหน่อยได้ไหมคะ”

                    “เรื่องร้องเพลงนี้ผมพร้อมเสมออยู่แล้วครับ เพียงแค่เอ่ยปาก ผมจัดให้...”

    พรึบ

                    ฉันปิดไฟในห้องลง แล้วเดินไปนอนที่เตียงเอามือก่ายหน้าผากพลางคิดเรื่องที่เพิ่งได้ยินมาเมื่อกี้

                    ตีต้าร์จะไปเก็บตัวที่เชียงใหม่เหรอ เขาจะไปนานแค่ไหนกันนะ ว่าแต่ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นตัวจริงของเขาเลยนิ อยากเห็นจังเลย อาทิตย์หน้าฉันเองก็สอบแล้วก็ปิดเทอมแล้วด้วย ฉันจะขนกระเป๋าไปเที่ยวเชียงใหม่ดีไหมน้านเผื่อจะได้เจอเขา เพราะฉันเองก็อยู่ต่างจังหวัดคงมีโอกาสได้เห็นเค้าตัวเป็นยาก ถ้าไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ -_-?

                    ติ๊กต้อก...  ติ๊กต้อก... ติ๊กต้อก...

                    เอาไงดี? -_-?

                    ไปเชียงใหม่ดีกว่า ^_^ ยังไงฉันเชื่อว่าความรักที่ฉันมีให้แก่เขามันก็คงจะมีปาฏิหาริย์ทำให้ฉันนั้นได้พบเจอเขาอย่างแน่นอนฉันเชื่ออย่างนั้น ฉันยกมือขึ้นมากำหมัดอย่างมุ่งมั่นเหมือนโฆษณากระทิงแดง ^--^

                   

        หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

                    ฉันยืนอยู่บคส.จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ต้องงง ฉันถึงเชียงใหม่แล้ว ฉันมาหาเขาจริงๆฉันไม่ค่อยเพ้อฝันเลยว่าไหม จะมองทางซ้ายทางขวา ข้างหน้า ข้างหลังก็ไม่ยักกะเห็นเขาเลย -^-  ใครก็ไม่รู้ที่ฉันไม่รู้จักเดินว่อนไปหมด ฉันจะเอาไงต่อดีล่ะเนี่ย แล้วจะพักที่ไหนล่ะ นี้ก็เป็นครั้งแรกของฉันที่มาด้วยทำไมไงดี(ทีตอนนั้นไม่รู้จักคิด)

                    โทรหายัยน้อยหน่าดีกว่า ^^

                    คิดได้อย่างนั้นแล้วฉันก็หยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรออกเบอร์น้อยหน่าทันที ดีนะเนี่ยที่ในโทรศัพท์ยังเหลือเงินอยู่ยี่สิบบาท ไม่งั้นล่ะก็ฉันซวยแน่ๆ ^_^

                    (มิ้นต์ รู้ไหมฉันกำลังคิดถึงแกอยู่พอดีเลย)

    “ถ้าแกไม่บอกฉันก็ไม่รู้หรอก”

    (แล้วนี้แกถึงยังเชียงใหม่ยังน่ะ)

    “เออ ถึงแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อดี ไม่รู้ว่าที่พักมันอยู่แถวไหนกัน จะไปถามคนแปลกหน้าก็กลัวถูกหลอกเพราะฉันยิ่งสวยๆอยู่ด้วย”

    (หน้าอย่างแกเนี่ยนะใครเค้าจะไปมีอารมณ์ร่วม)

    “น้อยหน่าฉันโกรธแกแล้วนะ >*<

    (เออๆ ฉันขอโทษก็แล้วกัน ฉันลืมไปว่าแกมันเป็นโรครับความจริงไม่ค่อยได้)

    “เชอะ งอน >*<” เพื่อนใจร้าย

    (ถึงแกจะงอนฉันยังไง แต่แกก็ต้องฟังที่ฉันกำลังจะพูด เรื่องที่พักของแกน่ะ ฉันไปค้นหาดูในเน็ตมาแล้วได้ข้อมูลว่าแกควรจะต่อรถไปที่บลาๆ หรือไม่ถ้าแกไม่ชอบแกก็ไปที่บลาๆ บลาๆ เข้าใจนะ)

    “เข้าใจ ขอบใจแกมากเลยน้อยหน่าถ้าไม่ได้แกแล้วฉันแย่แน่ๆเลย Thank youเพื่อนรัก จุ๊บๆ” ฉันเพิ่งเข้าใจอย่างแท้ซึ้งก็ตอนนี้แหละ ว่าเรามีเพื่อนไว้ทำไมกัน =^^=

    ฉันต่อรถไปตามที่น้อยหน่าบอกฉันมา และไม่นานฉันก็ถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง ดูจากสภาพโรงแรมคร่าวๆแล้ว น่าอยู่เลยทีเดียว เพราะทีนี้ก็ดูสะอาดสะอ้าด พนักงานก็แต่งตัวดีสุภาพ ฉันมองดูรอบๆแล้วสังเกตเห็นมาจะมีพ่อแม่ลูกมาอยู่กันเยอะกว่าโรงแรมอื่นที่ฉันเคยไปพัก แต่ครั้งนี้เปลี่ยนไปก็ตรงที่ฉันมาคนเดียวทุกครั้งฉันจะมากับพ่อแม่และน้องๆของฉัน เพราะทุกคนไม่กล้าปล่อยให้ฉันมาคนเดียวแน่ และที่ ณ เวลานี่ตอนนี้ฉันได้มายืนตรงนี้ ก็เพราะว่าฉันบอกทุกคนว่าฉันจะไปเที่ยวกันกับครอบครัวของน้อยหน่าและก็จะอยู่กับน้อยหน่านานซักพักในช่วงปิดเทอม โดยฉันก็อ้างว่าฉันอยากหาประสบการณ์ ตั้งแต่เกิดจนโตฉันก็อยู่กับครอบครัวมาโดยตลอด ให้ฉันรู้จักอยู่คนเดียวบ้างเวลามีเรื่องมีปัญหาอะไรฉันจะได้สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งคนอื่น และอีกอย่างถ้าจบม.หกฉันก็ต้องไปอยู่หอพักกับเพื่อนก็ต้องจากครอบครัวไป ถือซะว่าครั้งนี้ที่ฉันไปเป็นการซ้อมก็แล้วกัน เมื่อทุกคนเห็นพ้องแล้วก็อนุญาตให้ฉันมาอยู่กับน้อยหน่าได้ โดยที่น้อยหน่ามันก็รับปากรับคำว่าจะดูแลฉันเต็มที่ จะไม่คลาดสายตาสักก้าวเดียวเลย แต่ดูตอนนี้ซิมันไม่เห็นฉันในสายตาด้วยซ้ำ T^T=

    “มีห้องว่างไหมคะ” ฉันลากกระเป๋าสองใบเดินตรงเข้าไปถามพนักงาน

    “มีค่ะ”

    “งั้นฉันขอห้องหนึ่งค่ะ ^_^

     

    แกร๊ก แกร๊ก

    ฉันวางกระเป๋าไว้หน้าบานประตูบานหนึ่ง แล้วใช้กุญแจที่เพิ่งได้ไขเข้าไปในห้อง ถือกระเป๋าแล้วไปในห้องนั้นและก็ปิดประตูไว้ดังเดิม ฉันวางกระเป๋าไว้ที่ห้องโถงใหญ่ และเดินสำรวจดูห้องที่ฉันต้องกินต้องนอนอยู่ที่นี้สักพัก พอพบห้องนอนฉันก็เดินไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าของใช้ต่างๆที่ยัดใส่มาอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเอามาได้ มาเก็บไว้ในห้องนี้ พอเก็บทำความสะอาดห้องเสร็จฉันก็อาบน้ำ และอาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่ฉันเดินทางมาทั้งวัน จึงทำให้ฉันเผลอหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว

    ตืด ตืด ตืด

    เสียงโทรศัพท์ปลุกฉันให้ตื่น

    “ฮัลโหล ว่าไง...” ฉันหลับตาพูดอย่างงัวเงีย

    (แกเป็นไงบ้างที่พักน่าอยู่ไหมวะ) เสียงทื่อๆของน้อยหน่าดังขึ้น

    “ก็โอนะ...”

    (แกยังไม่ตื่นอีกเหรอวะมิ้นต์)

    “อืม...”

    (นี่! แกจะขี้เซาไปถึงไหน นี้มันปาเข้าไปแปดโมงแล้วนะโว้ย)

    “โอ่...แก... ฉันขอนอนต่อสักงีบก่อนนะ... แค่นี้แหละ...”

    (เดี๋ยวๆ)

    “อะไรอีก...” ชักจะลำราญแล้วนะ >-<

    (...แกไม่ตามหาตีต้าร์... แล้วหรือไง ถ้าเกิดแกมัวขี้เซาอยู่อย่างนี้แล้วเกิดคลาดไม่พบเขาขึ้นมาฉันไม่รู้ด้วยนะ... เพราะแกอยากขี้เกียจเอง)

    “เออ ใช่ของแกวะ งั้นแค่นี้แหละ > <

    (ฉันจะดีใจหรือเสียใจดี พอได้สติแล้วก็ชิ่งฉันเลยนะแกน่ะ)

    “ขอบใจแกแล้วกันที่เตือนสติ บาย ^^

    (เดี๋ยวก่อน...)

    ติ๊ด

    ฉันรีบตัดสายก่อนที่จะฟังน้อยหน่าพูดจบแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที นี้ฉันเป็นอะไรไป ฉันลืมได้ไงว่าฉันมาที่นี้เพราะอะไร สงสัยคงมีผีมาบังใจฉันแหงๆ

     

    แกรก

    หลังจากที่แน่ใจว่าหน้าเป๊กผมเป๊กแล้ว ฉันก็ล็อกประตูห้อง เดินเข้าไปในลิฟต์ ตั้งใจว่าวันนี้ฉันจะต้องตามหาตีต้าร์ให้พบให้ได้ >O< ฉันจะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่คิดว่าเค้าน่าจะไปพักผ่อน มันต้องมีซักที่ที่ฉันจะได้พบเขา แต่ถึงวันนี้ฉันจะยังไม่ได้พบแต่ก็ยังเหลือวันต่อๆไปอีกหลายวัน
                คนอย่างมิ้นต์ไม่ท้อง่ายๆหรอก
    >O<

     

    05.22 PM.

    ฉันก้มลงดูนาฬิกาข้อมือที่เขียวอ่อนของฉันที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด มันบอกเวลาว่ากำลังจะค่ำแล้ว มิน่าล่ะฉันท้องของฉันมันถึงเรียกหาอาหารด้วยเสียงจ๊อก จ๊อกนัก ที่จริงฉันก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะนะ ฉันก็เที่ยวตามหาตีต้าร์ทั้งวันเลยแหละวันนี้ แต่ก็ยังไม่วี่แววมาจะได้พบ แต่ฉันไม่ท้อเพราะฉันเชื่อในรัก(คิดได้ไงเนี่ย น้ำเน่าซะมัด แอะ!จะอ้วก >O<)

    แถวนี้ก็มีร้านอาหารอยู่ด้วยนิ คนเยอะด้วยแหะเท่าที่สังเกตดูอ่ะนะ แสดงว่าต้องอร่อยแน่ๆเลย ดีล่ะเข้าไปกินเลยดีกว่า ลาภปากกกก กองทัพด้วยเดินด้วยท้อง ชิมิ ^+^

    ทันทีที่ฉันกำลังจะผลักประตู สายตาของฉันมีมันมองไปข้างนอกร้านก็ไปเห็นสิ่งๆหนึ่งที่ทำให้ฉันตกใจเข้า!! OoO จากที่ตาตีบๆกลายเป็นว่าตาโตเพราะตกใจเลยแหละ!!!

    สิ่งที่ฉันเห็น!!!         
                    นั้นก็คือ!!! คือ!!!

    ตีต้าร์!!! ^OO^

    ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะเจอกับตีต้าร์จริงๆ ฉันจำเขาไม่ผิดแน่ ใช่เขาจริงๆ ว้าก! นั้นเขากำลังจะขับรถออกไปแล้ว!!! ไม่ได้ๆ ฉันจะปล่อยให้เขาไปไม่ได้โอกาสอย่างนี้ยิ่งหายากอยู่!!!

    ทำไงดี ทำไงดี!!!

    ฮ้า! ใช่แล้ว เข้าไปขวางเขาไว้!!!

    “ตีต้าร์!!! หยุดก่อนอย่าเพิ่งไป!!!” ฉันวิ่งไปหาเขาพร้อมทั้งตะโกนเรียกเขาสุดแรงแต่เหมือนคนที่ฉันเรียกเขาจะไม่ได้ยิน โชคดีที่ฉันเป็นนักวิ่งของโรงเรียนเลยทำให้ฉันวิ่งเร็วทันพอที่ฉันจะดักหน้ารถของเขาไว้ทัน ฉันรีบวิ่งไปดักหน้ารถของเขาทันที เพราะดูจากเฉลี่ยความเร็วที่เขาวิ่งมาแล้วนั้นยังเป็นความเร็วต้นอยู่ นั่นก็คือยังช้าอยู่ ถ้าฉันถูกชนฉันก็คงไม่ถึงตายหรอก ^O^

    เอี๊ยด!!!

    “กรี๊ดดดด!!!” สาบานได้ว่านั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน จากที่เคยดูในหนังถ้ามันเป็นอย่างนี้ นั่นก็แสดงว่าฉันกำลังจะตายน่ะสิ ไม่จริงนะ ตีต้าร์เขาต้องเบรกทันอยู่แล้วนิ ไม่จริง ฉันจะต้องไม่ตาย ไม่จริง

     

    ฉันนอนอยู่เตียงนอนหนานุ่มๆสีครีม มันทำให้ฉันไม่อยากตื่นมันทำให้ฉันอยากนอนต่อ แต่! ฉันหิวน้ำ ลุกไปหาน้ำกินก่อนค่อยมานอนต่อดีกว่า

    กอก แกรก

    เสียงฉันหยิบขวดน้ำออกมาจากตู้เย็น หลังจากที่รินใส่แก้วแล้วก็ใส่มันลงไปในตู้ตามเดิม

    อ่า... น้ำตอนเช้านี้มันสดชื่นจริงๆเลย ฉันมองไปรอบๆห้อง แล้วนี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย บ้านฉันเหรอ? ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ

    “โอ๊ย!” ฉันปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันใดอย่างไม่มีสาเหตที่ไปที่มา -_-^ ฉันรีบเอามือกุมขมับตัวเองอย่างอัตโนมัติ “โอ๊ย! ปวดหัว!!” ฉันตะโกนลั่นบ้าน

    เคล้ง!!!

    ฉันปัดถังขยะที่อยู่ใกล้ๆล้ม แม่ฉันอยู่ไหนเนี่ย ฉันเป็นใคร บ้าจริงทำไมฉันจำอะไรไม่ได้ ทำไม! ทำไมกัน!!

    “เธอตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มๆของผู้ชาย ดังขึ้นมาอีกทางด้านประตูบานหนึ่ง ฉันหน้าหันไปตามต้นเสียงนั่น (._ .)

    ผู้ชายคนนี้รูปร่างสูงประมาณร้อยแปดสิบกว่าๆได้ ผิวของเขาเป็นสีแทนเหมือนน้ำผึ้ง ผิวนั่นมันยิ่งทำให้เขาดูดุเดือดในสายตาฉันยิ่งขึ้น ยิ่งด้วยหุ่นที่มีแต่กล้ามเนื้อและซิกแพ็กที่หน้าท้องเป็นมัดๆแล้วเขามีเสน่ห์สิ้นดี ผมสีน้ำตาลทองปัดๆที่หน้านิดหน่อยสไลด์ซอยๆระต้นคอ สิ่งนั่นมันยิ่งทำให้เขาดูเซ็กซี่ยิ่งขึ้น รูปหน้าของเขาเรียวยาวคางเชิดๆอย่างคนดื้อดั้นไม่ยอมใคร จมูกเขาเป็นสันโด่งเรียวยาวลงมาตามโครงหน้าอย่างเข้ารูป ปากของเขาเป็นสีแดงระเรื่อเหมือนถูกปั้นเอาไว้แล้วอย่างสวยงามไม่มีที่ติ ดวงตาของของเหมือนพระยาอินทรีย์ที่พร้อมจะตะกบเหยื่อ(ฉัน)ให้ตายอยู่ใต้กรงเล็บอันแหลมคมของเขาได้ทุกเมื่อ(เพียงแค่มองตาเขาฉันก็แพ้อย่างราบคาบแล้ว) คิ้วของเขาก็เป็นสีน้ำตาลมันทั้งหนาและยาวช่างดูเข้ากับดวงตาเขาซะเหลือเกิน ผู้หญิงคนไหนที่จ้องตาเขาฉันแน่ใจเต็มร้อยเลยว่าไม่มีใครสามารถละสายตาออกมาจากเขาได้ ผู้ชายเองก็คงก็ทึ้งในความงดงามและสง่างามของเขาไม่น้อยเลยที่เดียว เขาเป็นบุตรของพระเจ้าหรือเปล่านะ >O<

     
     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป














     

     [ตัวอย่างตอนต่อไป]

     



                    “เธอออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!!! ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ!!!” เขาตะวากเสียงดังใส่ฉันอย่างเหลืออด นี่ฉันไปโดนต่อมอารมณ์เขาเข้าจริงๆหรือเนี่ย

    “ไม่! นี้บ้านฉัน”

    “ยัยหน้าไม่อาย!” เขาทำหน้าเหวอ =O=

    “นายนั่นแหละออกไปนี่บ้านฉัน>_<

    “อย่ามากวนประสาทฉันได้ไหม ฉันเริ่มจะทนกับเธอไม่ไหวแล้วนะ!!

    “ฉันไม่ได้กวน นี้บ้านฉันจริงๆ>_<

     

    “ก็ฉันจำไม่ได้นายจะให้ฉันทำยังไงเล่า!!” ฉันตะคอกกลับบ้าง แต่เหมือนน้ำตาของฉันมันจะเริ่มไหลออกมาด้วย นี่ฉันจะร้องไห้ทำไมเนี่ยเรื่องแค่นี้เอง

    “ไม่!! เธอต้องจำได้!!!”ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันตะคอกใส่หน้าฉันแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างน่ากลัว

    “ฮือๆ ฉันบอกได้แค่ฉันจำไม่ได้ นายจะมาเอาคำตอบจากฉันทำไม ฮือๆ ฉันเองก็ยังจำไม่ได้เลย ฮึก ฮือ... เลิกตะคอกฉันสักทีได้แล้ว!!!

     “...”

    “ฮึก ฮือ...”

    “ฉัน...” เขาพูดอำๆอึ้งๆ

     “นายมันคนใจร้าย นายมันเป็นมนุษย์ไม่มีหัวใจ นายมัน...”

    “เลิกด่าฉัน ซักทีได้แล้ว!” 

    ปัง!!!

     

     

     

     

     

     

     







    โหวตให้ผมด้วยนะครับกดๆๆ



    ขอบคุณภาพพื้นหลังสวยๆจาก

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×