ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 5 | หมูย่างและซูชิ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.15K
      1.05K
      26 มี.ค. 63


    Chapter 5



    โครกกกกกกก

    “ทุกคนคงเหนื่อยกันมากสินะครับ เราพ้นป่าทึบมาได้ปลอดภัยแล้ว” ซาธ็อทปรายตามองเด็กสาวผมหางม้าที่หงายหลังพรืด— ตกจากคอตัวอันตรายเบอร์ 44 “ที่นี่คือวนอุทยานบิสก้า สนามสอบแห่งที่สองเองครับ”

    คนถูกแกล้งทีเผลอม้วนตัวลงมายืนได้ทันควัน พอแหกตาตื่นเพราะตกใจได้ก็หันไปคาดโทษกับตัวต้นเหตุ ฮิโซกะหัวเราะในลำคอ ทำหน้ามองนกมองไม้ไปเรื่อย

    มองไปรอบตัวก็พบจำนวนผู้เข้าสอบที่บางตาลง พอพ้นป่าหมอกทึบมาได้ก็เจอกับป่าโปร่งเขียวชอุ่ม มีอาคารใหญ่ตั้งอยู่ตรงหน้าซึ่งยังไม่เปิดให้เข้า ไหนจะเสียงแปลก ๆ เหมือนเสียงคำรามของสัตว์ใหญ่ที่ดังมาจากข้างในอีก

    มีป้ายติดไว้บนประตู -- การสอบรอบสองจะเริ่มเที่ยงตรงวันนี้

    “งั้นผมขอตัวแค่นี้ ขอให้ทุกคนโชคดี”

    ซาธ็อทโค้งแล้วก้าวขายาว ๆ ออกไปจากสถานที่นี้ ก่อนไปก็เหลือบมองเด็กสาวจากคราวน์อีกครั้ง ไม่รู้ว่าสองคนนั้นไปรู้จักกันอีท่าไหน แต่ก็การมากับฮิโซกะก็นับว่าเป็นการได้ประโยชน์ถึงสองต่อ

    นอกจากจะมายังสนามสอบถูกที่ได้ทันเวลาแล้ว ยังใช้ตัวตลกที่ยืนข้าง ๆ นั่นเป็นไม้กันหมาชั้นดีอีก พวกมือใหม่ที่คิดจะล่าคราวน์คงไม่คิดอยากเสี่ยงกับตัวอันตรายนั่นแน่นอน

    “คุเรฮะ ! เลโอลีโอ !”

    เสียงใสคุ้นหูดังตามมาติด ๆ กอร์นกับคุราปิก้าวิ่งหน้าตั้งเข้ามาคว้าตัวเด็กสาวผมดำออกไป ฮิโซกะยิ้มตาปิด ชี้ไปยังชายอีกคนที่นอนแบ็บอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกล

    คุเรฮะถูกจูงมือตามไปแถ่ด ๆ พอถึงตัวเลโอลีโอที่ฟื้นขึ้นมาพอดี เจ้าตัวก็ดูเหลอหลาจำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ได้ซะงั้น

    สงสัยโดนต่อยแรงไปหน่อย สมองเลยกระเด็นหาย…

    “—ทำไมเธอถึงกลับมากับเจ้าหมอนั่นได้ฟะ !” คิรัวร์โผล่หน้ามาถามเสียงดังระยะประชิด เห็นตำตาตั้งแต่นอนซบหัวไอ้ตัวตลกนั่นมาจนตื่นเพราะหงายหลังโครม

    “อ่า…” โชคดีที่ปิดหูทัน คนถูกถามทำหน้ายู่เบา ๆ “หมอนั่นดูรู้เส้นทางดี ฉันเลยเกาะคอติดมาด้วย”

    แต่ตอนนอนซบหัวหมอนั่นก็หอมดีนะ

    (…เอ๊ะ?)

    เด็กชายผมขาวทำหน้าเหวอกับคำอธิบายง่าย ๆ นั่น ใบหน้าเฉยเมยราวกับไม่รู้สึกอะไรทำให้คนถามจนใจ ได้แต่บอกตัวเองเซ็ง ๆ ‘ยัยนี่ชักจะตายด้านไปแล้ว’

    ก่อนจะหันมาทางกอร์นบ้าง เด็กชายผมดำตั้งหัวเราะแห้ง ๆ

    “ฉันตามกลิ่นฮิโซกะกับเลโอลีโอมาน่ะ”

    เด็กหนุ่มผมทองพยักหน้ายืนยัน คิรัวร์ยกมือลูบหน้า “เอาเข้าไป นี่ฉันมาอยู่ในดงอะไร คนนึงก็งูขี้เซา คนนึงก็หมาดมกลิ่น ต่อไปจะเป็นอะไรอีก?”

    “แมวขี้บ่น”

    “หุบปากไปคุเรฮะ หุบปากไป๊!”



    เมื่อทุกคนรอจนเข็มนาฬิกาชี้เลข 12

    —บานประตูใหญ่ก็เปิดออกดังครืด ด้านในปรากฏลานกว้างสำหรับบรรจุผู้เข้าสอบทั้งหมด ด้านหน้ามีสองชายหญิงนั่งจังก้าอยู่เด่นชัด

    โครกกกกกกกก

    สาบานว่านั่นคือเสียงท้องร้อง

    “ไง หิวจนท้องกิ่วแล้วสิ” หญิงสาวผมสีเขียวมิ้นท์มัดหลายจุกเงยหน้าถามคนด้านหลัง เรือนร่างสะโอดสะองในชุดเซ็กซี่เปิดเนื้อหนังนั่งไขว่ห้างอารมณ์ดี

    “ก็ท้องร้องสนั่นอย่างที่ได้ยินนั่นแหละ” คนด้านหลังเป็นชายตัวใหญ่กว่ามนุษย์ปกติหลายเท่า ใบหน้าอวบอูมเหงื่อตกขณะตอบคำถามเพราะหิว

    กรรมการคุมสอบรอบที่สอง เม็นจิและบูฮาร่า

    “ฉันเม็นจิ ส่วนนี่คือบูฮาร่า” หญิงสาวแนะนำตัว “และพวกเราคือฮันเตอร์เลิศรส เพราะฉะนั้นการสอบรอบที่สองจะเป็น การปรุงอาหาร!”


    ปรุง... อาหาร?


    ผู้เข้าสอบทุกคนต่างตะลึงงัน ไม่ทันได้เตรียมใจมาว่าการสอบฮันเตอร์จะมีอะไรแบบนี้ด้วย คิดว่าจะมีแต่การเอาตัวรอดกับด่านต่อสู้ต่าง ๆ ซะอีก

    คุเรฮะที่ยืนกอดอกสะลึมสะลือยังชะงักกึก

    “ลูกรัก การสอบรอบนี้—” เสียงปลายสายขาดห้วงทันทีที่เธอสวนกลับ


    “ตก”


    “เดี๋ยว—”

    “ตกแน่นอน”

    “ลูกควรลอง—”

    “ลองตก? เข้าใจแล้ว”

    “ไม่ใช่แบบน้าน—”

    คิรัวร์และคุราปิก้าที่อยู่ใกล้ ๆ ขมวดคิ้วงงงวย ไม่เข้าใจว่าเด็กสาวข้าง ๆ กำลังพูดอยู่กับใคร

    เสียงอธิบายจากกรรมการแทรกขึ้นมา “ก่อนอื่นให้ปรุงอาหารตามที่บูฮาร่าสั่ง จากนั้นคนที่สอบผ่านถึงจะมีสิทธิ์ปรุงอาหารตามที่ฉันสั่ง” เม็นจิยิ้มตามฉบับสาวมั่น

    “ถ้าพวกเราบอกว่า ‘อร่อย’ ทั้งสองคนละก็สอบผ่านฉลุย แต่ถ้าพวกเราอิ่มท้องกันเมื่อไหร่ การสอบก็สิ้นสุดลงเมื่อนั้น”

    ตอนนั้นเองที่กอร์นเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้ามั่นใจ รอยยิ้มลูกหมาเป็นประกายเจิดจ้า “ผมพร้อมแล้วครับ!”

    “ท่าทางมั่นใจจริงนะ นายน่ะทำอะไรได้บ้างล่ะ?” เลโอลีโอถามอย่างไม่จริงจัง เด็กตัวกระเปี๊ยกแค่นี้จะทำเป็นสักกี่อย่างกันเล่า

    “ทำเป็นหลายอย่างเลย แต่ที่ถนัดที่สุดก็คือข้าวโปะไข่ดาวล่ะ!”

    “ข้าว—”

    “โปะไข่ดาว—?”

    คุราปิก้ากับเลโอลีโอพูดต่อกันด้วยสีหน้าคาดไม่ถึง คิรัวร์ร้อง ‘ห้ะ’ แล้วหันมามองหน้าคุเรฮะว่าตัวเองได้ยินไม่ผิด

    คนผมทองสั้นยิ้มขำ “กอร์น แบบนั้นน่ะไม่เรียกว่าทำอาหารหรอกนะ” ส่วนเลโอลีโอหัวเราะก๊าก

    “นั่นน่ะไม่ว่าใครก็ทำได้ไม่ใช่เรอะ? ฮ่าฮ่าฮ่—า!”

    “ไม่จริงหรอกน่า” เด็กชายผมดำแย้งด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “ก็ฉันน่ะเคยได้รับคำชมจากคุณมิโตะด้วยนะ!”

    คิรัวร์หัวเราะชอบใจ ขณะเกี่ยวคอเด็กสาวตัวสูงกว่าข้าง ๆ ลงมามุงเรื่องตลกปนเอ็นดูพรรค์นี้ด้วย “เข้าใจแล้ว เดี๋ยวพวกฉันจะช่วยกินให้เองนะ ฮะฮะฮะ”

    “ลูกก็ช่วยเสริมให้คิรัวร์หน่อยจะเป็นไรไป” เสียงพ่อแทรกขึ้นมาอีก ได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะอยู่ไกล ๆ “ข้าวโปะไข่ดาวรึ ซื่อดีจริง ๆ เด็กคนนี้”

    คุเรฮะมองแววตาลูกหมาที่จ้องมา พยักหน้าเออออห่อหมกไปตามพ่อและนิ้วที่สะกิดคอยิก ๆ “อ่า ฉันด้วย”

    แมวหัวขาวจากข้างตัวนี่ก็ก่อกวนพอกัน เหมือนมันเหงาอะ เห็นคนประเภทเดียวกันที่เข้ากันได้มาอยู่ใกล้ ๆ แล้วอดใจไม่ไหวต้องลากมานัวเนียร่วมวงด้วย

    อยู่บ้านไม่มีใครซื้อของเล่นแมวให้รึไงนะ…

    บูฮาร่าชูนิ้วชี้ขึ้นมา

    “เมนูของฉันคือ หมูย่างทั้งตัว” พูดแล้วน้ำลายจะไหล “จะเป็นหมูชนิดใดก็ได้ ขอให้อยู่ในวนอุทยานนี้ก็แล้วกัน”

    “เอาละ เริ่มการสอบรอบสองได้!”

    เอ่ยจบก็ตบพุงอันใหญ่ของตัวเองดังสนั่น เป็นสัญญาณให้ผู้เข้าสอบทุกคนกระโจนเข้าไปในป่าทันที พวกกอร์นเองก็รีบวิ่งหน้าตั้งออกไปไม่ต่างกัน


    ภาพส่งท้ายคือ คุเรฮะที่กำลังตั้งท่าจะหนีไปนอนถูกคิรัวร์ล็อกคอลากให้ไปด้วยกันดังแอ๊ก



    หมูที่ดุร้ายที่สุดในโลก เกรทสแตมพ์ ถูกเหล่าผู้เข้าสอบพากันหาทางซัดให้มันแน่นิ่งเพื่อนำไปย่างให้กรรมการตัวอ้วนกินกันจ้าละหวั่น บางส่วนถูกจมูกอันใหญ่ของมันขวิดซะกระเด็นไปไกลลิบ

    เด็กสาวในชุดสูทประจำตัวนั่งยืดขาอยู่ใต้ต้นไม้ เหม่อมองพวกกอร์นที่เริ่มจับจุดอ่อนของพวกหมู ๆ ได้แล้ว ขยี้ตาทีนึงก็พบว่าคิรัวร์กำลังใช้สเก็ตบอร์ดกระแทกเข้าเหม่งหมูสลบพอดี

    “ช่วยกระตือรือร้นมากกว่านี้หน่อยเหอะ คราวน์เป็นแบบเธอกันทุกคนเลยรึเปล่าเนี่ย!?” เด็กชายหันมาแหวใส่ อุตส่าห์ลากมาด้วยกันทั้งที ยังเอาแต่นั่งงีบอยู่ได้

    “ไม่” เธอตอบหน้าตาเฉย

    ขี้เซาปานจะหลับได้ตลอดปีมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละ

    กะพริบตาอีกทีก็เห็นเกรทสแตมพ์ตัวอ้วนกำลังพุ่งเป้ามาที่เธอ เสียงลมหายใจดังฟืดฟาดเข้ามาในหู คุเรฮะปิดปากหาว ทำเป็นไม่สนใจเสียงร้องเตือนให้ระวังของกอร์นและเลโอลีโอ

    “คุเรฮะหลบเร็ว!”

    “ยัยเด็กนั่นมันบ้ารึไง หมูกำลังพุ่งไปยังมานั่งหาวอยู่ได้!”

    ยกเว้นคิรัวร์และคุราปิก้าที่มองภาพตรงหน้าโดยไม่เอ่ยปากเตือนอะไร พวกเขากำลังจับตามองสิ่งที่อาจจะเกิดโดยไม่วางตา

    ก็นั่นน่ะ คราวน์เชียวนะ

    คุเรฮะเลื่อนมือลงไปตรงกระเป๋ารัดต้นขา นัยน์ตาคมสองเฉดสีหรี่ลง


    ฉึก!


    จู่ ๆ หมูที่กำลังโจมตีเข้าใส่ก็หวีดร้องลั่นป่า ก่อนจะถลาล้มลงห่างจากปลายรองเท้าหนังไม่กี่เซนฯ บริเวณที่ร่างสมส่วนนั่งยืดขาอยู่กลายเป็นเป้าสนใจในทันที พวกคุราปิก้ากะพริบตาอย่างไม่เข้าใจ

    เมื่อกี้— มันเกิดอะไรขึ้นกัน?

    เด็กชายผมดำตั้งขมวดคิ้วงุนงง ก่อนจะเดินเข้าไปแตะที่ตัวหมูอย่างระมัดระวัง “มัน… ตายแล้วล่ะ”

    “โกหกน่ากอร์น ฉันยังไม่เห็นยัยนั่นทำอะไรเลยนะ”

    คิรัวร์ปรี่เข้ามาสำรวจอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาเรียวรีสังเกตทุกตารางนิ้วของเกรทสแตมพ์อย่างถี่ถ้วน ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นของแหลมคมปักอยู่ที่ส่วนหัว

    มีด… มีดคมกริบแบบสั่งทำพิเศษ

    มือเรียวที่สวมถุงมือหนังครึ่งมือเอื้อมมาดึงมีดนั่นออกไป เจ้าของมีดสะบัดเลือดที่ติดอยู่ออก เก็บใส่ที่กระเป๋ารัดต้นขาเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมามองคนที่จ้องเขม็ง

    “สุดยอดเลยคุเรฮะ เทคนิคเมื่อกี้ทำได้ยังไงงั้นเหรอ!” กอร์นถามด้วยแววตาเป็นประกาย มือนึงจับหมูที่ตัวเองจัดการได้ลากติดมาด้วย ตามมาด้วยคุราปิก้าและเลโอลีโอที่สงสัยไม่ต่างกัน

    ใบหน้าคมเลื่อนมาสบตาคิรัวร์ที่มุ่นคิ้วอยู่วงนอก นิ้วชี้ยกขึ้นมาแนบริมฝีปาก เธอหยักมุมปากขึ้นอย่างมีเลศนัย



    “ความลับ”



    ภายในเวลาไม่นาน หมูย่างหลายสิบตัวก็ลงไปกองในท้องป่อง ๆ ของบูฮาร่า กระดูกกองพะเนินสูงท่วมหัวคนกินด้วยซ้ำ ทุกคนทำหน้าสงสัยเหมือนกันหมดว่าไอ้ที่กินไปมันเอาไปยัดไว้ตรงไหน

    เม็นจิบ่นกระปอดกระแปดใส่บูฮาร่าว่าให้ผ่านง่ายเกินไป แต่สักพักก็หันมาประกาศให้รับรู้โดยทั่วกัน

    “การสอบรอบที่สองครึ่งแรก ผ่านเจ็ดสิบคน!”

    กอร์นมองตาปริบ “ฮันเตอร์เนี่ยมีแต่คนเจ๋ง ๆ ทั้งนั้นเลยเนอะ”

    “แต่แบบนั้นฉันไม่ค่อยอยากเป็นแฮะ” คิรัวร์เกาแก้มมองคนตัวโต นึกสภาพตัวเองนอนพุงกางแล้วดูตลกพิลึก

    พอหันไปมองคนผมรวบสูงข้าง ๆ แล้วรู้สึกคิ้วกระตุก เจ้าตัวแทบไม่สนใจจะย่างหมูเลยสักนิด ตั้งแต่ได้ยินว่าต้องปรุงอาหารก็ลอยชายไปมาราวกับเตรียมใจสอบตกคนแรกซะงั้น ที่ผ่านมาได้ก็เพราะเขาลากไปตกหมูกับกอร์นที่ช่วยย่างหมูให้อย่างกระตือรือร้นนั่นแหละ

    “และการสอบครึ่งหลัง เมนูของฉันก็คือ ซูชิ ยังไงล่ะ!”

    เม็นจิประกาศจบคุเรฮะก็ถอนหายใจเนือย ๆ อย่างเห็นได้ชัด ปากบ่นมุบมิบอะไรกับโทรศัพท์ข้างหูนิดหน่อย ก่อนจะมองซ้ายขวาไปมา

    รู้เลยว่ากำลังหาที่นอนรอสอบตกอย่างเดียว

    “หยุดเลยนะ” เขาเอ่ยอย่างมันเขี้ยว แขนยื่นไปคล้องแขนอีกคนเข้ามาให้ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ “เป็นคราวน์ไม่ใช่รึไง? กะอีแค่สอบทำอาหารทำไมยอมลงง่าย ๆ แบบนี้ล่ะฟะ!”

    คนถูกกักตัวไว้ทำหน้าเมื่อย “ก็ไม่อยากทำนี่”

    “ไม่อยากทำ แสดงว่าทำได้แต่ไม่ทำ”

    “ทำไม่เป็น”

    “อย่ามาแตหลอ เธอเป็นถึงคราวน์ทำไมจะทำไม่ได้!”

    มือของคนตัวสูงกว่าคว้าหมับเข้าที่แก้ม บีบจนหน้าเขายู่ลงเหมือนปลาบู่ “คราวน์ไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่นายคิดกันทุกคนนะคิรัวร์ นี่ถ้าเขาให้สอบบิน นายคงคิดว่าฉันจะมีปีกงอกจากกลางหลังแล้วทะยานเหินฟ้างั้นสิ”

    เปรียบเทียบได้โคตรอีปิค นั่นคนหรือตัวอะไรวะน่ะ

    เสียงเม็นจิที่กำลังอธิบายแทรกขึ้นมาตอนท้าย “ฉันจะบอกใบ้ข้อที่สำคัญที่สุดให้ ถึงจะเป็นซูชิก็เถอะ แต่ฉันจะรับแค่นิงิริซูชิเท่านั้น!”

    “ฉันอิ่มท้องเมื่อไหร่ก็หมดเวลาสอบเมื่อนั้น ในระหว่างนี้จะทำมากี่ก้อนก็ได้ เอาละ เริ่มได้!!”



    ผลสุดท้ายเธอก็มานั่งจุ๋งอยู่ข้างลำธารไม่ใกล้ไม่ไกล

    ตอนแรกคิรัวร์หิ้วเธอออกมาหาปลาตามที่ได้ยินใครสักคนตะโกนออกมา อารมณ์แบบฉันผ่านเธอก็ต้องผ่าน ตรรกะเดิม ๆ ว่าคราวน์ทำได้ทุกอย่าง ก่อนเธอจะหลบออกมาได้ตอนเจ้าตัวกำลังเกร็งเล็บแทงปลาไหลอยู่พอดี

    (จริง ๆ ก็ไม่ได้หลบ แต่ถีบก้นหมอนั่นหัวโหม่งน้ำแล้วหนีต่อหน้าโต้ง ๆ เลยต่างหาก)

    เสียงดังจ๋อมดังขึ้นใกล้ ๆ เด็กสาวที่เอาเท้าเปล่าจุ่มน้ำอยู่ก้มลงมองเงาในน้ำ คิ้วมุ่นเข้าหากัน

    “ถ้าจะเล่นอะไรให้เปียก ฉันเอาเท้ายันหน้านายนะ”

    ไม่ทำแค่ขู่ แต่ยกเท้าขึ้นมาเตรียมพร้อม

    นั่นทำให้คนที่กำลังดำน้ำอยู่โงหัวขึ้นมา ผมสีฮอตพิ้งค์เปียกน้ำลู่ลงตามน้ำหนัก ในปากคาบปลาเกล็ดมังกรตัวยาวเอาไว้ แต้มสีรูปดาวกับหยดน้ำข้างแก้มยังอยู่ดี สงสัยใช้ยี่ห้อกันน้ำ

    นี่ไม่มีวิธีจับปลาแบบอื่นแล้วรึไง กอร์นยังใช้เบ็ดตกปลา คิรัวร์ยังใช้เล็บ แต่ไอ้หมอนี่ใช้ปากคาบ…

    “ทำไมมานั่งหงอยอยู่ตรงนี้ล่ะ คนอื่นเริ่มทยอยทำซูชิกันแล้วนา ♦” ฮิโซกะดึงปลาออกจากปากแล้วถามเสียงระรื่น

    “ขี้เกียจทำ”

    โจ๊กเกอร์หนุ่มหัวเราะ ก่อนจะเดินขึ้นจากลำธารเมื่อได้ปลาตามที่ต้องการแล้ว “ไว้สอบผ่านจะเอาซูชิมาให้ชิมนะเด็กน้อย ♥”

    พูดจบก็ให้ปลาตัวเล็กไว้ข้าง ๆ ตัวนึง คงคิดว่าเธออาจเปลี่ยนใจอยากตามไปสอบให้ผ่านขึ้นมา ท่าทางมั่นใจนั่นชวนให้อยากหยิบปลาฟาดหน้าหันชะมัด

    "หึ…" เธอแค่นหัวเราะ

    ดูก็รู้ว่าฮันเตอร์สาวคนนั้นเรื่องมากกว่ากรรมการอีกคนเป็นไหน ๆ ตอนบ่นกับบูฮาร่าเจ้าตัวยังบ่นเลยว่ามักง่ายเกินไป แถมผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีทักษะการทำอาหารกันทุกคน

    เผลอ ๆ การสอบรอบนี้จะไม่มีคนผ่านด้วยซ้ำ

    คุเรฮะยักไหล่ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต มือจับเจ้าปลาน้อยที่ได้มาโยนลงไปกลางลำธารดังจ๋อม สวมถุงเท้าและรองเท้า ก่อนจะเอียงตัวพิงโขดหินใกล้ตัวหลับไปอย่างง่ายดาย

    ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เห็นตัวตลกนั่งจ๋องอยู่ฝั่งตรงข้าม ข้าง ๆ มีจานซูชิที่ดูยังไงก็ไม่ใช่นิงิริซูชิ หูกระดิกได้ยินเสียง ‘ไม่ผ่าน!’ ดังมาจากสถานที่สอบเป็นพัก ๆ

    ดวงตาคมเหลือบมองจานตรงหน้า

    “ไม่ต้องมอง ก๊อปเขามาเหมือนกัน ♦”

    คุเรฮะเอนตัวพิงหินด้านหลัง เอ่ยให้คนหูผึ่งเล่น “จริง ๆ ฉันรู้วิธีทำนะ แค่ขี้เกียจ”

    “งั้นเดี๋ยวฉันอุ้มไปทำใหม่ เธอพูด ฉันทำ ♣”

    “แต่นายก็คงปั้นข้าวไม่เป็นอยู่ดี” ไอ้เทคนิคปั้นข้าวซูชินี่กว่าจะเข้าขั้นมืออาชีพก็ใช้เวลาหลายปี อาเจ๊เรื่องเยอะนั่นไม่มีทางพอใจแน่

    “งั้นช่างมัน ♠”

    (อืม ช่างแม่ง)



    แล้ว 2 คน 2 วัยก็มานั่งแข่งจ้องตากันรอให้การสอบรอบสองนี่จบลงแทน แต่แข่งกันไปสักพักฮิโซกะก็เริ่มจับสังเกตได้ ข้อสงสัยคลายออกเมื่อเด็กน้อยตรงหน้าลืมตาอยู่นานแต่ไร้แววตา ลมหายใจเข้าออกสงบนิ่ง


    ไอ้เด็กนี่มันหลับใน



    __________C H E C K M A T E__________


    ตอนนี้มาอัพช้าเพราะกลับบ้านย่าแล้วไม่ได้เอาโน๊ตบุ๊คไปด้วย แถมช่วงนี้โปรแกรมเวิร์ดดันเป็นบ้าค้างอยู่บ่อย ๆ อีกต่างหาก หัวร้อนมาก ฮึ่ม ๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×