ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ FIC] !!! SLAM DUNK !!! (KIHAE)

    ลำดับตอนที่ #26 : III Slam Dunk III ...26...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.8K
      40
      30 พ.ค. 53

     

     

    หลังจากที่คยูฮยอนได้ผ่านพ้นช่วงนาทีวิกฤติ ด้วยการถูกพี่คังอินล็อคคอแล้วลากตัวออกไปจากโรงยิม เพื่อคลายอารมณ์โกรธทะลุจุดศูนย์ของโค้ชฮันแล้ว บรรยากาศอึมครึมที่เป็นเสมือนก๊าซพิษที่ใครเผลอหายใจเข้าแรงๆหน่อยเป็นได้ตายห่าตาเหว ก็หายวับไปยังกับคราบสกปรกในห้องน้ำที่ราดด้วยเป็ดขวดม่วงก็สะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนกุได้ห้องน้ำใหม่ซะงั้น

     

    "ต่อเลยเลี้ยวกังนะ"

     

    ฮันกยองยิ้มตาหยีเป็นอาตี๋ขายแปะก๊วย ดูท่าจะหายโมโหแล้ว แต่ถึงเห็นอย่างนั้น ใครมันจะกล้าขัดใจป๋าแก ด้วยการชูจั๊กกะแร้บอกว่า ‘อย่าพูดต่ออีกเลยครับ โค้ช! ปล่อยพวกผมได้กลับไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อสักทีเถอะ เพราะพวกผมทนดมกลิ่นเหงื่อเหม็นๆของตัวผู้ด้วยกันในวงล้อมต่อไปไม่ไหวแล้ว!' อย่างนี้กันล่ะ?

     

    ถ้าใครกล้าเสนอไอเดียนี้ให้โค้ชฟัง ทงเฮคิดว่ามิแคล้วมันคงโดนหมายหัวต่อจากไอ้โจซัมติงแหงๆ เพราะฉะนั้นสมาชิกชมรมส่วนใหญ่จึงตอบรับคำโค้ชกันอย่างแข็งขันและพร้อมเพรียงว่า...

     

    "ครับ!!!"

     

    และแล้วโค้ชฮันก็เริ่มสาธยายวิธีการเล่นรายบุคลลต่อทันที...

     

    ทงเฮไม่อยากจะเชื่อเลยว่าของอิมพอร์ตจากจีนอย่างโค้ชฮัน ผู้มาเกาหลีด้วยเรือสำเภาและเสื่อผืนหมอนใบ จะสามารถเก็บรายละเอียดของผู้เล่นแต่ละคนได้อย่างเหลือเชื่อ! ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง หากคนผู้นั้นเล่นอยู่บนสนามเมื่อครู่แล้วล่ะก็ ไม่มีใครที่จะรอดพ้นสายตาพญาอินทรีของโค้ชฮันไปได้แม้สักคน

     

    นอกจากฮันกยองจะบอกถึงข้อดีข้อด้อยในการเล่นของคนๆนั้นได้อย่างละเอียดยิบแล้ว ยังสามารถแก้ไขตรงจุดผิดพลาดของแต่ละคนได้ตรงเผง จนทงเฮได้แต่อ้าปากค้าง ทึ่งในความสามารถของคนจีนเป็นล้นพ้น

     

    "สำหรับของอาดงไห่..." คนสุดท้ายที่โดนเฉ่งคืออาหมวยรวยความสูง(น้อย)อย่างทงเฮ

     

    "ยังช้ายม่ายล่าย" พูดแล้วก็สั่นหน้าระอาใจ "ช่วงสองอาทิดที่กรูหายไปสงบสติอารงที่วัดเส้าหลินบนเขาเหลียงซาน อาดงไห่ไม่ได้พัฒนาขึ้งเลย หรือไม่มังก็อาจจะแย่ลงล่วยซ้ำ"

     

    "ไม่จริงนะครับโค้ช!" ทงเฮเถียง(ตอแหล)สุดใจขาดดิ้น

     

    "ผมน่ะตั้งใจจะซ้อมทุกวัน แต่........." กำลังจะโบ้ยความผิดไปให้หัวหน้าชมรมที่กีดกันการเล่นบาสของเค้าทุกวิถีทาง แต่ฮันกยองก็จุ๊ปากพร้อมกับดุเสียงเข้มขึ้นมาซะก่อน

     

    "ไม่มีแต่นะ อาดงไห่ ลูกผู้ชายน่ะ ฆ่าล่ายหยามม่ายล่ายนะ!"

     

    แล้วมันเกี่ยวกะฆ่าได้หยามไม่ได้ตรงกันไหนกันมิทราบ!! นี่กุพูดถึงการเล่นบาสอยู่นะเว้ยครับ ไม่ใช่จะออกศึกพะบู๊กะใคร อย่าเอาอารมณ์ที่ตกค้างมาจากอาเกิงกับคยูเจมาลงที่อีทงเฮคนนี้เด้~

     

    "เพราะฉะนั้น ต่อไปลี้ กรูจะให้อาฉี่ฟานฝึกท่าเบสิคให้ลื้อไปจนกว่าลื้อจะเล่งล่ายลีขึ้ง"

     

    "ว่าไงนะครับ โค้ช!!!"

     

    เสียงตะโกนลั่นของไอ้สายันต์ฉบับละเมิดลิขสิทธิ์ดังก้องไปทั่วทั้งโรงยิม จนคนอื่นต้องยกมือขึ้นปิดหูเพราะกลัวว่าแก้วหูจะแตกก่อนวัยอันควร

     

    ทงเฮจ้องตาแทบถลนสลับไปมาระหว่างหน้าของฮันกยองกับหน้าของคิบอมที่สุดเสถียร นิ่ง สนิท เหมือนคนแอบหลับใน ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นเต้น โวยวาย เหมือนอย่างชาวบ้านเค้าบ้างเลย

     

    "อาดงไห่ขี้หูตันหรือเปล่า? แคะออกหน่อยก็ลีนะ ^^* กรูแค่จะบอกว่า ต่อไปลี้ กรูจะให้อาฉี่ฟานฝึกท่าเบสิคให้ลื้อไปจนกว่าลื้อจะเล่งล่ายลีขึ้งไง" เออวุ้ย พูดยังไม่ชัด แต่แสลงคำด่านี่ ใช้ได้เลยทีเดียวนะ โค้ช!

     

    "แต่ว่าโค้ชครับ ผม......"

     

    "ไม่มีแต่นะ อาดงไห่ ลูกผู้ชายน่ะ ฆ่าล่ายหยามม่ายล่ายนะ!"

     

     

    .

     

    .

    โว้ยยยยยยยยยยย กุอยากจะเคะแตกตายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!

    ทำไมทุกเรื่องของกุ ต้องมาลงที่การมีส่วนเอี่ยวกับคิมคิบอมยู่เรื่อยเลยนะ

    ชาติที่แล้วกุที่บุญ เอ๊ย! ทำกรรมด้วยอะไรวะเนี่ย ถึงได้เจอแต่กับ มัน(ส์) มัน(ส์) มัน(ส์) แบบเน้

     

    "อาวล่ะ ถ้าเข้าจายแล้ว ก็แยกย้ายกันกลับบ้านล่าย พุ่งลี้เจอกังใหม่นะ ทู้กคงงงง"

     

    โค้ชฮันพูดรวบรัดตัดความ โดยไม่คิดฟังเสียงทัดทานกระอืดๆของทงเฮเลยสักนิด สมาชิกชมรมคนอื่นๆก้มหัวทำความเคารพอาจารย์ก่อนจะแยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมเลสสะโกแบ็คทูเดอะโฮมอย่างเต็มที่ จะมีเหลือก็แต่นายเอกหนังโศกที่ยืนอยู่อย่างเดียวดาย มีความมืดมิดและลมพัดใบไม้กรอบเป็นแบ็คกราวน์ แถมด้วยสปอตไลท์ที่สาดส่องลงมา ดูน่าเวทนายิ่งนัก

     

    "เพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องแล้วสินะ"

     

    จู่ๆก็มีเสียงจากบุคคลที่ยังยืนอยู่ที่เดิมเช่นกันดังทะลวงโสตประสาทของนายเอกหนังโศกเข้ามาในรูหู ทงเฮชะงักมือที่เตรียมกำลังจะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับหางตาเรียกคะแนนสงสารจากแม่ยกที่อ่านฟิคอยู่ หันหน้าไปมองทางต้นเสียงช้าๆ ก็พบกับทั่นโกดมีนัมยืนแผ่ออร่าความหล่อ จนแสบตาไปหมด

     

    "ระ...เรื่องอะไร?!"

     

    ทงเฮถามปากสั่นระริก ใจคอไม่สู้ดี เพราะรู้สึกเหมือนมันจะไม่ใช่เรื่องดีซะด้วยสิ ไอ้เรื่องที่เพิ่มเข้ามาน่ะ

     

    "เรื่องที่นายต้องพึ่งชั้น"

     

    "..........."

     

    "และข้อแลกเปลี่ยนของเราไง"

     

     

     

    .

     

    .

    อรั๊ยยยยย อกอี(ทง)เฮจะแตกกกกกกกกกกกกก

    อยากจะกรี้ดร้องไปสามบ้านเจ็ดบ้านเหลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะแขนล่ำๆของเค้าถูกกระชากจนร่างกายเซถลาเข้าหาตัวคิบอมด้วยความไวแสง ก่อนที่ริมฝีดาษ เอ๊ย! ริมฝีปากจะถูกประกบบดเบียดแนบชิดกับเรียวปากสวยของชายหนุ่มอีกคน

     

    โอ้วววว ชี-อิท!!!  มันรวดเร็วจะน้องเฮตั้งตัวไม่ทันเลยนะฮ้า~

     

    ความแมน(น่วล)ในใจดิ้นรนขัดขื่นเต็มกำลัง แต่ร่างกายที่เป็นออโตเมทิคกลับสมยอมอย่างไม่น่าให้อภัย นัยต์ตาสีน้ำตาลเข้มหรี่ปรือและปิดลงในที่สุด ขนตางอนยาวทาบทับแก้มใสที่เป็นสีเรื่อจากการออกกำลังกาย กลิ่นเหงื่อที่ไม่น่าพิสมัยของเด็กผู้ชายไม่มีอยู่ในตัวของทงเฮเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่กลิ่นหอมจางๆของแป้งเด็กที่จมูกโด่งได้สูดดมจากพวงแก้มเนียน

     

    นายมันพิเศษจริงๆนั่นแหละ ...อีทงเฮ

     

    "อือ~"

     

    ร่างบางครางฮือเมื่อถูกริบลมหายใจมากเกินควร กลีบปากแดงสดทั้งบนและล่างถูกขบเม้มหยอกเอินเบาๆก่อนถูกปล่อยให้ได้โกยออกซิเจนเข้าปอดอย่างเต็มที่อีกครั้ง จากนั้นคิบอมจึงผละมาอมยิ้มยืนมองหน้าคนที่ตัวเองเพิ่งบังคับจูบไปอย่างขบขัน

     

    "นะ...นาย..ทำ......อะ...ไรน่ะ...ห่ะ?!!"

     

    ทั้งที่ยังหอบอยู่ ทั้งที่ยังแดงไปหมดไม่ว่าจะปากหรือแก้ม ทั้งที่ใจยังเต้นตูมตาม (โครมครามเว้ยค่ะเมิง -*- ตูมตามนั่นมันระเบิดแล้ว!) แต่คนอย่างอีทงเฮก็ยังคงไม่สิ้นลาย จิกตาดุๆใส่คนชอบฉวยโฮกาส แล้วกรีดเสียงด่าแบบนางเอ้กนางเอก ถามว่าทำอะไร? ทั้งที่ตัวเองก็รู้แก่ใจอยู่ทนโท่ว่าคิบอมไม่ได้จับหัวเค้ากดน้ำในส้วมซะหน่อย จะถามให้เข้าตัวทำไมหนอ คุณนังเอก!

     

    "ก็ต่อเวลาไง"

     

    "แล้วทำไมต้องมาทำตรงนี้ด้วยวะ เกิดใครมาเห็นเข้า ชั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!!"

     

    "ก็อยู่บนคอ คั่นหู และหุ้มกะโหลกต่อไปนั่นแหละ"

     

    เหว่ยยยยยยย ไอ้พระเอก เมิงอย่ามาลำไยแอนด์มะม่วงกวนไปหน่อยเลย

    ถึงเมิงจะมีบุญคุณกะกุเรื่องเสื้อ แต่หนี้แค้นที่กุเปิดบัญชีไว้ในชื่อเมิงชื่อที่ธนาคารมันมากมายมหาศาลกว่าบุญคุณที่เมิงมีกะกุเป็นร้อยเท่าพันเท่าเลยนะโฟร้ยยยย

     

    เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าอีทงเฮคนนี้จะยอมลงให้ง่ายๆนะเป้ย ไม่มีทางซะหรอก!

     

    "เฮ้ย! จะทำอะไรวะ"

     

    ยังไม่ทันได้ซอยสี่ตีนแล้วกระโดดงับหัวมันอย่างที่ตั้งใจ คุณชายรูปหล่อก็เดินเข้ามาฉุดข้อมือเล็กให้เดินตาม จนทงเฮต้องร้องเสียงหลง

     

    "กลับบ้าน"

     

    "กลับบ้านกะผีน่ะสิ เหงื่อเต็มตัวแบบนั้น มันเหม็นนะโว้ยยย"

     

    "ก็ไปอาบเอาที่บ้าน"

     

    "ไม่เอาๆ จะอาบที่นี่ ขี้เกียจเหนียวตัวไปจนถึงบ้าน"

     

    "อีทงเฮ"

     

    คิบอมหันมาเรียกชื่อเต็มเค้าด้วยใบหน้าเย็นชาสุดสยอง เปรียบประหนึ่งถูกพายุหิมะถล่มไปทั่วทั้งโรงยิม ทงเฮกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ ไหงมันต้องเล่นบทโหดกะกุด้วยวะ แค่จะอาบน้ำที่นี่มันทำให้ญาติเมิงเสียเรอะไงวะ ไอ้คิบอม ห๊า!!???

     

    "ก็ได้" คำตอบสั้นๆ แต่ก็ทำให้พายุหิมะสงบลงได้ เหลือเชื่อเลย กุนี่ยังกว่าโมเสสซะอีกแน่ะ เหอๆ แต่นี่ไม่ได้เพราะกลัวนะ ไม่ได้เกรงใจมันด้วย! แต่ขี้เกียจเถียงเท่านั้นแหละ =,,=

     

    ทงเฮหาข้ออ้างใหักับการกระทำราวสัตว์เลี้ยงแสนเชื่องของตัวเอง ก่อนเดินตามคิบอมต้อยๆเหมือนลูกสุนัขตัวน้อยที่กลัวถูกเจ้าของดุ โดยไม่รู้เลยว่าเจ้าของของตัวเองนั้นขี้หวงขนาดที่ไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนมาเห็นผิวขาวๆเนียนๆของลูกสุนัขพันธุ์ปอม[เฮ]เรเนียนของตัวเอง ตอบอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยล่ะ!!!

     

     

    *******************

     

     

    ไปอาบน้ำที่บ้าน ... ถ้าพูดคำๆนี้ขึ้นมา เป็นใครก็ต้องนึกว่า ไปอาบน้ำที่บ้านของตัวเองอยู่แล้ว ใช่มั้ยล่ะ?

     

    "นะ...นี่มัน" ทงเฮตาเหลือกเป็นรอบที่ร้อยของวัน เพราะเมื่อตื่นจากการนอนน้ำลายยืดเพราะความเหนื่อยเพลียในรถที่แอร์เย็นฉ่ำ และการหลับโดยเอาหัวควายๆ เอ๊ย! ทุยๆไปซุกกับอกอุ่นของใครบางคน แล้วลืมตาขึ้นมาก็พบกับ.......

     

    "บ้านชั้นไงล่ะ"

     

    คิบอมตอบสั้นๆ พร้อมกับเหลือบมองคราบน้ำลายบนเสื้อของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะตวัดตาขึ้นมาสบกับตากลมๆของเจ้าตัวการที่กำลังแหกปากร้องโวยวายลั่นรถ

     

    "ไหนว่าจะให้ชั้นกลับไปอาบน้ำที่บ้านไง!!!"

     

    "อาบที่นี่ก็ได้ ...เหมือนกัน" คิบอมว่าพลางยักไหล่ พอเห็นเข้าแบบนั้นทงเฮก็ถึงกับตาลุกวาว

     

     

    ...ถ้าอาบที่ไหนก็เหมือนกัน แล้วทำไมถึงไม่ให้กรุอาบมาซะตั้งแต่ที่ชมรมล่ะวะ ไอ้ฮิตเลอร์?!

     

     

    ทงเฮด่าผ่านโทรจิต หวังว่าคิบอมจะรับรู้ แต่เนื่องด้วยชายหนุ่มไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวที่เป็นแรงงานต่างด้าวอพยพมาเกิดในโลกมนุษย์เหมือนอย่างอีทงเฮ คิบอมจึงไม่ได้รับรู้หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่ได้สนใจต่อคำด่าทอในใจของร่างเล็ก เพราะการด่าในใจไปมันก็เหมือนกับสุนัขเวลาร้องบีอกๆ ...ฟังไม่ได้ศัพท์อยู่แล้ว

     

    คิบอมคว้าข้อมือบางแล้วดึงออกจากรถซึ่งจอดสนิทหน้าคฤหาสน์หรูที่มีบริวารหน้าเดิมๆออกมาเรียงแถวยืนตอนรับคุณชายในชุดเมดและบัตเลอร์ โดยไม่ได้สนใจสีหน้าเคียดแค้น และแรงขืนตัวของทงเฮเลยสักนิด

     

    "ไม่เหมือนโว้ย!!!!"

     

    ตะโกนลั่นมาตั้งแต่ตีนบันได แต่กว่าที่ทงเฮจะสะบัดมือมันหลุดได้ ก็โดนลากถูลู่ถูกังมาจนเหยียบพื้นห้องนอนบ้านทรายทองของท่านชายคิมเสียแล้ว

     

    อย่างนี้ก็เปิดตูดหนี ใส่เกียร์หมาวิ่งไม่ทันแล้วน่ะซีวะ เช็ด-โด้วววว!!

     

    "อย่าเรื่องมากได้มั้ย" คิบอมว่าเนือยๆ แต่นั่นยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้คุโชนเข้าไปใหญ่

     

    อุวะ!! เมิงแหละเรื่องมากกว่ากุอีก แสรดดดดดดดดดดด

     

    คนตัวเล็กจิกหน้าจิกตาใส่คนที่ตัวเองเคยใช้เป็นหมอนพิงเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา อากัปกิริยาเคะได้โอเวอร์โหลดจนคิบอมอยากรู้นักว่า จะมีผู้ชายแมนๆอย่างทงเฮสักกี่คนที่ชอบกัดปากทำหน้าเชิดเวลางอนแบบนี้

     

    "นายรีบเข้าไปอาบน้ำก่อนล่ะกัน"

     

    คิบอมว่าพลางเปิดตู้เสื้อผ้า ค้นหาชุดที่ร่างบางพอจะใส่ได้โดยไม่หลวมโพรกเหมือนอย่างชุดซ้อมบาส จากนั้นก็นำมันออกมาพร้อมผ้าขนหนู แล้วยัดใส่มือของทงเฮ แล้วออกคำสั่ง

     

    "อย่าทำเลอะเทอะล่ะ"

     

    "...!!!..."

     

    โหยยย ไอ้นี่มันดูถูกกันชัดๆเลยนี่หว่า -*- กุไม่ใช่สุนัขพันธ์ทางในกล่องกระดาษริมกำแพงที่ติดป้าย ‘ช่วยรับไปดูแลทีนะคะ' ที่เมิงเก็บมาเลี้ยงเพราะความเวทนาในดวงตาแป๋วๆ ก่อนพามาอาบน้ำลอกคราบ แล้วจะเนรคุณด้วยการวิ่งซนจนทำให้ห้องน้ำเปียกเลอะเทอะนะครับท่าน

     

    ขอเรียนอีกครั้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า กุก็มีมารยาทพอ ที่จะไม่เกาเห็บในที่สาธารณะ หรือสะบัดขนเห่ากรรโชกไปทั่วนาโว้ยยยยยย จะบอกให้!

     

    "ปากเสีย!" ทงเฮขมุบขมิบด่าคิบอมลับหลัง แต่ถึงจะด่าอย่างนั้น ร่างกายยังคงความจงรักภักดีด้วยการทำตามคำสั่งของเจ้านายโดยการเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างว่าง่ายเกินคาด

     

    นี่กุคกเป็นทาส(ความรัก)ของมันอีกแล้วใช่ม้ายยยยยยยยย  TT [ ] TT

     

    "รีบๆเข้าไปอาบน้ำ เสร็จแล้วจะได้มาต่อกัน"

     

    เท้าเล็กสะดุดกึกตรงขอบประตูห้องน้ำ หูแว่วเป็นเสียงเอคโคคำว่า มา-ต่อ-กัน ของคนที่อยู่ทางด้านหลังเป็นพันๆครั้ง จนเริ่มหน้าซีด

     

    นึกไม่ถึงเลยว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของคิบอมที่ลากเค้ามาที่บ้านของตัวเองอีกครั้งก็เพื่อที่จะมา

     

    ทำ...กัน...ต่อ...

     

    งั้นเรอะ?! O [ ] O!!!!

     

    ทงเฮเริ่มกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข ถึงแม้นเราจะเป็นแฟนกัน ถึงแม้นกรุจะเมะ และถึงแม้นฝ่ายเคะเค้าเรียกร้องให้ ทำต่อ แต่บัดเดี๋ยวก่อน นะโยม

     

    กรุยังไม่ได้เตรียมใจที่จะมีเมียชื่อ คิมคิบอม เลยนะพ่อแม่พี่น้องงงงงงง

     

    "เป็นอะไร?" คิบอมถามขึ้น เมื่อเห็นทงเฮหยุดยืนนิ่งเป็นแผ่นศิลาจารึกตรงหน้าห้องน้ำ ไม่มีท่าทีว่าจะเข้าไปอาบสักที ร่างสูงจึงเดินเข้าไปใกล้เพื่อสำรวจอาการว่าเจ้าตัวเล็กมันเกิดฟุ้งซ่านบ้าบออะไรขึ้นมาอีก

     

    "อ่ะ!! เปล่า....นะ....คือ" หันมาตอบด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่สุข ยิ่งพอถูกคิบอมยื่นหน้าเข้ามาสำรวจอาการในระยะประชิด แก้มใสก็ยิ่งทวีสีเลือดฝาดจนสุกปลั่ง

     

    "คืออะไร?" คาดคั้นเอาคำตอบคือหนทางกลั่นแกล้งอีกทางที่คิบอมค้นพบว่ามันจะยิ่งทำให้ผิวแก้มของทงเฮกลายเป็นสีชมพูยิ่งขึ้น

     

    ชายหนุ่มพยายามกลั้นยิ้มเพราะตลกในสีหน้าเอ๋อๆแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของทงเฮ คิบอมแสร้งตีหน้าขรึมติดจะดุหน่อยๆ ให้ร่างบางกลัวลนลาน และในที่สุดก็ต้องเผยคำพูดที่ติดอยู่ในใจออกมาจนได้  

     

     

     

     

    .

     

     

    "ส่วนใหญ่ ..ฝ่ายรับน่ะ เค้าไม่เริ่มก่อนที่ฝ่ายเมะจะรุกหรอกนะ!!!!!"

     

    คิบอมเงียบไปชั่วอึดใจเพื่อประมวลความคิดตามความสติแตกของทงเฮให้ทัน ระหว่างที่เค้ากำลังทบทวนเรื่องทั้งหมดที่ทำให้ทงเฮหลุดปากพูดโพล่งประโยคแปลกๆออกมา คนตัวเล็กก็รีบชิงพูดต่อทันที

     

    "ถ้าจะทำต่อล่ะก็ ชั้นจะเป็นฝ่ายเริ่มรุกเอง เข้าใจ๋???" พูดไปปากก็สั่นเป็นจ้าวเข้าทรงไป บ่งบอกได้ว่าอีทงเฮเก่งแต่ปากจริงๆ

     

    "นายน่ะอยู่เฉยๆไปเลย..."

     

    "แต่ชั้นจะอยู่เฉยๆได้ไงกันล่ะ"

     

    พอถูกอีกฝ่ายรุกไล่โดยการสืบเท้ามาข้างหน้า และวางมือทั้งสองข้างคร่อมร่างเล็กตรงกรอบประตู หลังจากที่เดาเรื่องออก ทงเฮก็ถอยกรูดมูนวอล์กไปทางด้านหลังพลางหลับตาปี๋ ท่องโอมมหาระทวย เอ๊ย! ท่องบทสวดวิงวอนพระเจ้าที่เพื่อนชเวเคยสอน เวลาต้องการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปจากชีวิต แต่ดูท่าว่าจะไม่ค่อยได้ผล เพราะซาตานในคราบหนุ่มรูปหล่อก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะปวดแสบปวดร้อนแต่อย่างใด

     

    ..เอ๊ะ หรือว่ากรุลืมขว้างข้าวสารเสกใส่มันด้วยวะ?!!

     

     

     

     

    .

     

    .

     

    เป๊าะ!

     

    ยังไม่ทันได้ทำอะไร หน้าผากกลมมนภายใต้ผมหน้าม้าสีน้ำตาลเข้มก็ถูกนิ้วของคิบอมดีดเบาๆจนเกิดเสียงดังเป๊าะ ....มันก็ไม่ได้ทำให้ทงเฮเจ็บเท่าไหร่ แต่ที่เจ็บน่ะจิตใจที่แมนอย่างหาที่เปรียบมิได้ของกรุมากกว่า ที่โดนผู้ชายด้วยกันดีดกะโหลกแล้วยิ้มบางๆให้ แล้วเจือกใจเต้นรัวเป็นจังหวะชะชะช่า หน้าเห่อร้อน

     

    ตายห่ะ.... วิญญาณตุ๊ดในบ้านหลังนี้เข้าสิงกรุอีกแล้ววววววววววววว

    โธ่ ไม่นะ  อกอีเฮจะ(เคะ)แตก TT [ ] TT

     

     

     

     

    "ก็เราต้องมาติวกันต่อไม่ใช่หรือ???"

     

    เหยียบเบรกทางความคิดในทันทีจนหน้าแทบคะมำไปไถกับพื้น แถมยิ่งพอเห็นรอยยิ้มบางๆเมื่อครู่ที่แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มขบขันเพราะเรื่องชวนหัวของตัวเอง ทงเฮก็ยิ่งอายจนอยากจะเอาหัวมุดลงไปหลบในชักโครกซะให้รู้แล้วรู้รอด

     

    "อะ..เอ่อ ก็คงงั้นแหละมั้ง" อ้อมแอ้มตอบออกไปแก้เก้อ ก่อนกระแอมไปทำเสียงเข้มพลางขมวดคิ้วให้หน้าดูโกรธเข้าไว้ เพราะความซึน(เดเระ)

     

    "นี่ แล้วก็ถอยออกไปด้วย ชั้นจะปิดประตู"

     

    เจอคำพูดวางโตกลบเกลื่อนที่ตัวเองหน้าแตก คิบอมก็พยักหน้ารับง่ายๆ เพราะไม่อยากต้อนให้คนเตี้ยจนมุมมากเกินไป เดี๋ยวจะสาละวันเตี้ยลงซะเปล่าๆ

     

    ร่างสูงยอมถอยออกไปห่างจากตัวทงเฮราวหนึ่งฟุต คนตัวเล็กเลยย่นจมูกวางเฟอร์มให้เสียหนึ่งที ก่อนจับลูกบิดสีทองอร่ามดึงเข้าหาตัวให้บานประตูให้ปิดลง แต่เพียงชั่วไม่กี่อึดใจต่อมา ใบหน้าขาวซีดก็โผล่พ้นขอบประตูออกมาอีกครั้ง โดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ทันได้ขยับออกจากจุดเดิมเลยแม้สักก้าว

     

    "เอ่อ............." ทงเฮส่งเสียงเอ่ออ่าเป็นสำเนียงให้รู้ว่ากรูมีปัญหา ไอแฮฟอะพร๊อบเบลม! พร้อมกับทำตาหลุกหลิกส่งซิกแนลให้คิบอมที่ยืนอยู่ตรงหน้า

     

    "............."

     

    ชายหนุ่มใช้ความเงียบเข้าข่มขวัญ ทงเฮเลยเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดใจ ไอ้บ้านี่มันต้องรู้แน่ๆว่าเค้ามีเรื่องลำบากอยากให้ช่วย แต่ยังเจือกทำลอยหน้าลอยตา บังคับทางอ้อมให้เค้าต้องพูดมันออกมาเองอีก

     

    เมิงจะให้หน้ากุแตกละเอียดเป็นเชื้อจุลินทรีย์หรือยังไงมิทราบเว้~ ฮึ่ยยยย!!!

     

    "คือว่า ห้องน้ำน่ะ"

     

    "ทำไม? ห้องน้ำชั้นทำไมเหรอ" กุอยากฆ่าคนหล่ออออ ฆ่าคนหล่อแล้วโทษมันจะหนักขึ้นป่าววะเนี่ย

     

    "มันเยอะ...อ่ะ................." T^T

     

    "หืม อะไรนะ?" ดว๊อกกก!!! อย่ามาทำแกล้งเป็นหูหนวกกะทันหันนะโว้ยยย แมร่งงงงงง

     

    "คือห้องน้ำนายอ่ะ" ทงเฮสูดออกซิเจนเข้าสู่ขั้วปอด เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไหนๆเราก็หน้าแหกมาตั้งแต่จิ้นเรื่องลามกแล้วนี่ ถ้าปล่อยควายอีกสักตัว คงไม่ทำให้ภาพพจน์พระเอกดร๊อปลงหรอก(มั้ง?!)

     

    "ชั้นใช้ห้องน้ำบ้านนาย...................................."

     

    ".....?......"

     

    "............ไม่เป็น"

     

    ทงเฮพูดพลาง หรุบตาลงต่ำ ก้มมองพื้นห้อง แก้มแดงปลั่งเหมือนมีมะเขือเทศสองลูกย่อมๆไปแปะอยู่บนนั้น คิบอมพยายามกลั้นยิ้มกลั้นหัวเราะจนเมื่อยไปหมดทั้งหน้า

     

    คนอะไร แกล้งได้สนุกจริงๆ....

     

    "อ๋อ ถ้าเรื่องนั้น..........." ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น แล้วขยับตัว ทำท่าจะเดินเข้าไปสาธิตถึงวิธีใช้ห้องน้ำสุดไฮเทคของเค้าถึงข้างใน จนคนที่โผล่มาแต่หัวต้องร้องเสียงหลง

     

    "เอ้ยๆๆๆ สต๊อปเป็ด! สต๊อปเป็ด!! หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!!!!"

     

    "หืม???"

     

    "ไม่ต้องเข้ามา ...แค่ยืนอธิบายตรงนั้น ชั้นก็ฟังรู้เรื่องเข้าใจหรอกน่า"

     

    "ไม่ได้หรอก"

     

    คิบอมตอบสั้นๆ โดยไม่ฟังคำทัดทานของทงเฮ มือใหญ่ผลักบานประตูเข้าไป เป็นผลให้ทงเฮที่ต้านไม่อยู่ ต้องรีบถลาไปคว้าเอาผ้าขนหนูมาคลุมร่างกายที่เหลือเพียงบ๊อกเซอร์ลายปลานีโม่สีเหลืองสดใสตัวเดียวเอาไว้อย่างโคตรอาย

     

    "มองอะไรเล่า!!! จะอธิบายก็รีบๆพูดมาซะทีเซ่~"

     

    มองคนโวยวายแล้วก็ได้แต่พ่นลมหายใจขำๆ ก่อนจะเริ่มอธิบายถึงปุ่มต่างๆที่ใช้บังคับฝักบัวหรือแม้กระทั่งแรงดันของน้ำภายในอ่างหรูและบรรดาขวดแชมพูสบู่กลิ่นต่างๆที่ถูกเมดทั้งหลายจัดเตรียมไว้ให้โดยสมบูรณ์

     

    "ใช้ถึงขนาดนี้ เป็นเกย์ก็ไม่แปลกหรอก"

     

    ทงเฮขยับปากนินทาเจ้าของบ้านเบาๆอย่างหมั่นไส้ ไม่แปลกใจเลยว่าไอ้หมอนี่มันทำหน้าหล่อออกมาจากบ้านทุกวันได้ยังไง ที่แท้มันก็ต้องผ่านกระบวนการมากมายยังกะค่ายกลอย่างนี้นี่เองสินะ เฮอะ! กรุอิชชี่ที่ซู้ดดดดดด ><

     

    "อืม นั่นสินะ" ได้ยินเสียงตอบรับอยู่เหนือหัว ทงเฮก็เงยหน้าขึ้นมองร่งสูงกล่าที่ก้าวมายืนตรงหน้าในระยะแดนจรัสตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่กุอยู่ในแดนจรัสอะเกนด์อีกแล้วอ่ะ

     

    ม่ายยยยยยยยยยยยยยย

     

    โหยหวนไปก็เท่านั้น เพราะเสียงมันดันถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากของใครอีกคนที่ทาบลงมาอย่างรวดเร็ว ฉกจูบกลีบปกนุ่มๆของชีเปลือยในห้องน้ำไปอย่างอุกอาจ แล้วเคลื่อนใบหน้าออกมามองผลงานตัวเองที่อึ้งจนเผลอปล่อยผ้าคลุมให้หลุดจากมือ อวดผิวขาวเหมือนน้ำนมที่ปาปี้กับหม่ามี้ให้มาและรูปร่างขนาดกะทัดรัดน่าพกพาไปนอนกอดบนเตียง

     

    "อาบน้ำซะ"

     

    ออกคำสั่งแล้วเดินออกไปเงียบๆ ปล่อยให้ทงเฮที่เพิ่งได้สติจากการจู่โจมออกอาละวาดฟาดครีบฟาดหางอยู่ในห้องน้ำแต่เพียงผู้เดียว

     

    คิบอมทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงพลางถอนหายใจยิ้มๆ

     

    นักตกปลาที่ดีต้องรู้จัก การหย่อนเบ็ด ใช้เหยื่อหลอกล่อ เดี๋ยวดึงเดี๋ยวปล่อย และการอดทนรอคอยอย่างใจเย็น ไม่บุ่มบ่ามรุกคืบมากเกินไปนัก จนทำให้เจ้าปลาน้อยตกใจและว่ายหนีไปก่อนติดเบ็ดได้

     

    จริงมั้ย???

     

    *******************

     

    เสียงดับเครื่องยนต์ของรถคันหรูที่เข้ามาจอดเทียบหน้ารั้วบ้าน ทำให้แจจุงที่กำลังสาละวนอยู่กับการปฐมพยาบาลยุนโฮให้รอดพ้นจากอาการโคม่าน้ำลายฟูมปาก ซึ่งเกิดจากการโดนเค้าต่อยอัดเข้าที่ท้องแบบเต็มสตรีมเพื่อให้อ้วกออกมาตามคำแนะนำของทงเฮ ต้องผุดลุกขึ้นยืนชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่างดูว่ามีใครมาเยือน

     

    รถคันนั้นไม่คุ้นตาเค้าสักนิด..แจจุงขมวดคิ้ว แต่คนที่เปิดประตูลงมาพลางทำท่าฟึดฟัดเหมือนโมโหใครมาแต่ชาติปางก่อน หากเค้ามองไม่ผิด นั่นต้องเป็นอีทงเฮ น้องเขยของเค้าแน่ๆ

     

    "ยุนโฮ ..ทงเฮกลับมาแล้วล่ะ" แจจุงหันไปพูดกับซากมัมมี่ที่ถูกผ้าก๊อตพันไปทั่วทั้งตัว ด้วยรอยยิ้มหวาน

     

    "อ..อะ...อืม...."

     

    ยุนโฮครางอือแล้วกรอกตาให้รู้ว่าได้ยินที่แจจุงพูดทั้งหมด เค้าพยายามจะยิ้มตอบ แต่ใบหน้าที่ถูกพันปิดไว้จนหมดเว้นแต่ดวงตา ทำให้ยุนโฮไม่สามารถยกยิ้มให้แจจุงเห็นได้อย่างใจหวัง

     

     

    อนาถดีแท้หนอ ...ชีวิตกรู TvT

     

     

    ชายหนุ่มนักแต่งนิยายลามกรำพึงในใจ แต่ถึงแม้จะถูกซ้อมปางตายแค่ไหน หรือ ถูกวางยาโดยไม่ได้เจตนา ยังไงความรักที่เค้ามีต่อคิมแจจุงก็ไม่มีวันเสื่อมคลายมลายหายไปอย่างแน่นอน จุ๊บๆ (อ้วก!)

     

    "เดี๋ยวชั้นไปเปิดประตูให้ทงเฮก่อนนะ" ระหว่างที่สามีกำลังเพียรพยายามส่งจูบให้ภรรยาสุดที่รักแม้จะเงยคอไม่ขึ้นเลยก็ตาม แต่แจจุงก็ไม่ได้สนใจ

     

    ร่างโปร่งบางเดินออกไปเปิดประตูบ้านและเห็นตัวเตี้ยๆของน้องสามีกำลังยืนก้มหน้าไขกุญแจรั้วอยู่ คนหน้าสวยจึงร้องทักฝ่าความมืดออกไปจนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยง ผงะถอยหลังไปสามก้าวเศษ

     

    "กลับมาแล้วเหรอ ทงเฮอา"

     

    "อะ...อา ฮะ"

     

    ทงเฮเงยหน้าขึ้นมาตอบรับตะกุกตะกัก หันซ้ายหันขวาทำท่าถอนหายใจโล่งอกนิดหน่อย ก่อนเดินเข้ามาหาแจจุงที่ยืนยิ้มรับอยู่ตรงหน้า

     

    "ทานข้าวมาหรือยังจ้ะ ถ้ายัง วันนี้พี่มี................" ลูบหน้าลูบหลังทงเฮที่เดินเข้ามาใกล้เพราะเห็นหน้าซีดๆภายใต้แสงสลัวเค้าก็อดเป็นห่วงไม่ได้

     

    "ทานมาแล้วครับ!" ยังพูดไม่ทันจบ ทงเฮก็สวนขึ้นทันควันโดยไม่รอช้า ไม่งั้นมีหวังโดนคะยั้นคยอให้ทานอาหารมหาบรรลัยของแม่ครัวคิมแจจุงชัวร์ป้าบ!

     

    กระผมยังไม่อยากตายก่อนแก่แบบเฮียยุนนะ ขอบอก....

     

    "งั้นหรือ" แจจุงย่นคิ้วอย่างเสียดมเสียดาย

     

    "เอ๊ะ! ว่าแต่เมื่อกี้ คิบอม มาส่งใช่หรือเปล่าจ้ะ?"

     

    เปลี่ยนเรื่องทันควันจนทงเฮต้องทำตาโต บอกอาการให้รู้ว่าอึ้งทึ่งเสียวแค่ไหน เห็นอย่างนั้นแจจุงก็หัวเราะเบาๆ ก่อนไขข้อข้องใจที่ออกมาทางสีหน้าของน้องชายตัวน้อย

     

    "ก็เค้าโทรมาที่บ้าน บอกว่าจะมาส่งทงเฮค่ำหน่อย เพราะพากันไปติวหนังสือที่บ้านนี่"

     

    "อ้อ" คนมีชนักติดหลังร้องอ๋อพลางพยักหน้าหงึกๆ

     

    มือขาวกระชับสายสะพายเป้แน่นเข้าเพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆเมื่อกี้ พอถูกพี่แจจุงจี้จุดเข้าหน่อย มันก็ลอยวนมาฉายในหัวให้ต้องแก้มร้อนวาบอีกครั้งจนได้

     

    "แล้วติวกันไปถึงไหนเหรอจ้ะ"

     

    "เอ๋....?" ทงเฮหันไปครางเสียงสูงเป็นเชิงถาม แจจุงอมยิ้มจนตาเป็นขีดโค้ง ก่อนยกนิ้วขึ้นทาบริมฝีปากแดงจัดของคนตรงหน้า แล้วบอกกลั้วเสียงหัวเราะ

     

    "ก็ทงเฮปากเจ่อเลยนี่นา คิกๆ" พูดจบก็หัวเราะคิกคักเหมือนภูมิใจที่ได้รู้ทันน้องสุดๆ ทงเฮอ้าปากหวอแล้วรีบหุบกลับอย่างรวดเร็ว เค้าเอามือถูปากแรงๆสองสามที แล้วรีบแก้ตัวเสียงดัง

     

    "เปล่าน้า!!! พี่แจจุงอ่ะ ผมไม่ได้จุ๊บกับคิบอมมาสักหน่อย!!!!"

     

    แจจุงเลิกคิ้วล้อเลียนให้กับคำพูดของทงเฮที่ไม่ได้ทำให้พี่สะใภ้อย่างเค้าเชื่อเลยสักนิด คนหน้าหวานฉีกยิ้มสวย ก่อนลากคนตัวเล็กมากอดแน่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

    ร้อนตัวจนปฎิเสธเสียงแข็งแบบนี้ ดูยังไงก็มีพิรุธชัดๆเลยนะ ...ทงเฮอา ^^

    พี่ดูละครบ่อยจะตาย รู้หรอกว่าลักษณะนิสัยของทงเฮ มันเป็นแบบนางเอกปากแข็งชัดๆเลยล่ะ คิกๆ

     

    "อ๊ะ...พี่..แจ...จุง" ทงเฮร้องลั่น พลางดิ้นอยู่ในวงแขนของพี่ชายคนสวย ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาด้วยอาการหอบแฮ่กๆ ยิ่งเห็นพี่แจจุงหัวเราะเสียงใส ทงเฮก็ยิ่งทำปากยื่นอย่างแสนงอน

     

    "พี่เข้าใจผิดอยู่นะ! ผมกับคิบอมอ่ะ ไม่ได้...."

     

    "อืออออ เข้าใจแล้วจ้า!!!"

     

    ถึงพี่แจจุงจะพูดว่าเข้าใจแล้ว แต่ทงเฮก็รู้ว่าพี่แจจุงไม่ได้เชื่อคำพูดของเค้าเลยแม้แต่น้อย

     

    ยิ่งแก้ตัวไป ก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายยักคิ้วหลิ่วตาล้อเค้าเล่นซะเปล่าๆ เพราะฉะนั้นร่างบางจึงเลิกโวยวาย แล้วอมลมเข้าปาก ทำแก้มป่อง ก่อนจะกล่าวอ้างกับแจจุงว่าเหนื่อย ปวดหัว ก่อนขอตัวขึ้นไปนอนพักบนห้อง จะได้หนีไปจากการโดนล้อได้ซะที

     

    "อื้ม!!! เหนื่อยก็ต้องพักเยอะๆอ่ะนะ" โว้ยยย กุล่ะอยากจะเป็นไมเกรนตายให้รู้แล้วรู้รอด!! พี่อย่ามาทำตาเป็นประกายมองสะโพกผมแบบนั้นได้ม๊ายยยยยยย

     

    ผมรู้หรอกว่าพี่คิดอะไรอยู่............

    ผมไม่ได้เหนื่อยเพราะกิจกรรมอย่างว่านะโว้ยครับ! ด๊อนเก็ทมีรอง!!!!

     

    ผมแค่เหนื่อยเพราะไอ้หล่อมันทำเอาใจเต้นวันละเป็นล้านรอบๆเท่านั้นแหละ

    เดี๋ยวก็ขู่ว่าท่องสูตรไม่ได้จะจับจูบมั่งล่ะ

    เอาเรื่องที่ผมใช้ห้องน้ำหรูของมันไม่เป็นมาล้อเวลาสะกดคำผิดมั่งล่ะ

     

     

    ผมไม่ได้เหนื่อยกาย แต่มันเหนื่อยใจ .........

    เข้าใจผมม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย คุณพี่สะพ้ายยย

     

     

    ทงเฮพรูลมหายใจยาว เดินเข้าบ้านมาพร้อมกับแจจุงที่ยิ้มแก้มปริอยู่ข้างหลัง เกือบๆจะเดินผ่านรูปปั้นปูนปาสเตอร์ที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟาที่ไม่รู้ว่าพี่แจจุงไปหาซื้อมาจากไหนซะแล้ว หากพี่แจจุงไม่ร้องทักขึ้นมาซะก่อน

     

    "นี่ยุนโฮ คิบอมพาทงเฮมาส่งถึงบ้านแล้วนะ"

     

    หันควับกลับไปมองพี่สะใภ้ที่กำลังยืนคุยอยู่กับตุ๊กตาปูนปาสเตอร์แล้วทงเฮก็อ้าปากค้างทันที โอ้ว ไม่นะ เฮียยุน ของตี๋เฮ!!!

     

    "ฮะ...เฮีย!!!" ทงเฮร้องเสียงหลง ถลาไปคุกเข่าหน้าโซฟาด้วยความเร็แวสง สีหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไม่คิดว่าอาการพี่ชายในไส้ของตัวเองจะหนักถึงเพียงนี้

     

    "คือพี่ทำตามที่ทงเฮเขียนไว้ในโน้ต ..ก็ต่อยไปเบาๆแหละ จนยุนโฮอ๊อกออกมาแล้วสลบไป พี่ก็เลย..."

     

    แจจุงใช้นิ้วชี้จิ้มกันจึ้กๆแบบสำนึกผิด พยายามอธิบายเหตุการณก่อนหน้าในช่วงที่ทงเฮไปโรงเรียนให้เข้าใจ แต่คนตัวเตี้ยยกมือขึ้นห้ามไม่ต้องพูดต่อ มันสะเทือนใจน้องเฮเหลือหลาย

     

    "พี่...แจจุงไม่ต้องพูดต่อแล้วฮะ" สูดน้ำมูดซื้ดๆ เอ่ยเสียงหนักแน่น "เรารีบไปจองโบสถ์กันเลยดีกว่าฮะ ส่วนบาทหลวงคนทำพิธี ผมก็พอมีคนรู้จักอยู่ที่โรงเรียน เค้าน่าจะช่วยเราได้"

     

    "อิ้อ....อิ้อ!!!!!" ยุนโฮตาเหลือกทันที ..นี่ไอ้น้องรักมันคิดว่ากุถูกพันเป็นมัมมี่โป๊โกะแล้วหมายถึงกุเด๊ดสะเมอเร่หรือไงวะ!! โย่ว ยูโน แอมอะไลฟ์ ... แอมนอทเด๊ด ออลเวย์คีฟเดอะเฟท นะน้องเอ๋ยยยยย อ๊ากกกก

     

    ยุนโฮร้องอื้อในลำคอด้วยเสียงที่คั้นมาจากไส้ติ่ง พร้อมกับพยายามขยับตัวดิ้นขลุกขลักให้ทงเฮรู้ว่าเค้ายังไม่ตาย ...อาหมวยอย่าเพิ่งไปจองโบสถ์นะ อย่าฝังอาเฮียยุนทั้งเป็นนะเฟร้ยยยยยย

     

    "หืม??" แจจุงเอียงคอ ทำท่าแปลกใจ "แต่ยุนโฮยังไม่ตายนะ ทงเฮ ดูสิ กรอกตาได้ด้วยนะ แถมยังร้องอือๆได้อีกต่างหาก อึดยังกะแมลงสาปแน่ะ"

     

    พอได้ยินพี่สะใภ้พูดยืนยันการชันสูตรร่างมัมมี่ ทงเฮก็ค่อยๆหันไปมองพี่ชายด้วยแววตาลุ่มลึก ก่อนเอ่ยเสียงเบาเหมือนยุง "โธ่ นึกว่าจะได้เงินประกันซะอีก"

     

    ยุนโฮได้ยินแล้วก็ต้องตาเหลือกอีกครั้ง แต่คราวนี้ไอ้ตัวดีกลับหัวเราะร่า ยิ้มตายิบหยีบอกว่าล่อเล้นน่าเฮีย พลางตบอกเค้าป้าบๆ จนแทบจะกระอักเลือด (จะอ่อกไม่ได้เพราะถูกปิดปากไว้ -*-)

     

    ทงเฮที่เริ่มอารณืดีขึ้นหลังจากที่ได้แกล้งอาเฮียผู้เป็นที่รัก ฝากฝังให้พี่แจจุงช่วยดูแลพี่ชายและอีกฝ่ายก็ตอบรับแข็งขัน ก่อนจะพาตัวเองเดินตัวปลิวขึ้นไปบนห้องนอนชั้นสอง โดยไม่ได้ยินเสียงนินทาตามหลังซึ่งออกมาจากเรียวปากสีชมพูสวยของคิมแจจุงที่ว่า...

     

     

    "ทงเฮของพวกเรา เป็น ‘สาว' เต็มตัวแล้วนะ ยุนโฮ"

     

     

    "อื้อออออ!!!!" ยุนโฮร้องเสียงสูง รูม่านตาเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น แล้วตั้งใจเงี่หูฟังรายงานจากหน่วยข่าวกรองของภรรเมียที่รัก พร้อมกับจินตนาการถึงตอนต่อไปของนิยายตัวเองไปพลาง

     

    ในที่สุดก็ถึงว่าที่นายเอก ลีดงแฮจะสละจิ้นให้พระเอก คิมกีบอม ซะแล้วสินะ หุ หุ หุ

    (แต่กว่าจะแต่งถึงตอนนั้น กรุจะมีชีวิตรอดไปแต่งหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เล้ยยย ฮ่วยยยย!!!!)

     

     

    TT { } TT

     

     

     

    *******************

     

     

    ทงเฮปิดประตูห้อง บิดล็อค แล้วล้มตัวลงบนที่นอน โดยเอาหน้าซุกกับหมอนอย่างเหนื่อยอ่อน

     

    นี่กูเหนื่อยเอี้ยอะไรนักหนาวะเนี่ยยย ...ร่างเล็กคิดในใจอย่างหงุดหงิด ถึงจะพอรู้สาเหตุที่ทำให้ตัวเองมีอารมณ์คล้ายสตรีในวัยหมดประจำเดือนแบบนี้ แต่เค้าก็ไม่สามารถหาหนทางที่จะทำให้ตัวเองคลายจากอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านนี่ได้เลย

     

    "ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า"

     

    เมื่อเอียงคอไปมองกระเป๋าสะพายของตัวเองที่วางทิ้งไว้ข้างเตียง ปากอิ่มก็ขยับพ่นคำผรุสวาทออกมาไม่ยั้ง ยิ่งนึกถึงสิ่งของที่หมกอยู่ข้างในนั้นทงเฮก็ยิ่งด่าไม่หยุด

     

    เออ สงสัยกุคงจะบ้าจริงก็งานนี้ล่ะ!

     

    ด่าจนพอใจแล้ว ลูกชายคนเล็กของตระกูลอีก็ลุกขึ้นมานั่งเขม่นมอง ณ จุดๆเดิม ก่อนที่จะทนไม่ไหว เอื้อมไปรื้อเอาชุดซ้อมบาสที่ยืมคิบอมมาใส่จนเหม็นเหงื่อไปหมด มาเพ่งจนเนื้อผ้าแทบทะลุ พลางนึกไปถึงหน้าเจ้าของ ที่ใช้สายตาว่างเปล่ามองเค้าหัวจรดเท้า ตอนที่ก้าวออกมาจากห้องน้ำ เมื่อตอนเย็นวันนี้

     

    "มองไร" ทงเฮเชิดหน้าท้าทายสุดฤทธิ์ ท่องในใจว่าอย่าเขิน อย่าอาย และอย่าหลบสายตามันโดยเด็ดขาด ไม่งั้นเราจะเป็นฝ่ายแพ้!!!

     

    ฟันซี่เล็กกัดริมฝีปากล่างอย่างข่มใจ เพราะขณะที่ใช้เวลาขัดตัวอยู่ในห้องน้ำพร้อมกับก่นด่าไอ้มหาโจรคิมคิบอมที่บังอาจมาขโมยจูบเค้าครั้งแล้วครั้งเล่า พลันสมองอันชาญฉลาดจนสามารถนำไปเทียมเกวียนไถนาได้ ก็บังเกิดไอเดียสุดเจิดที่ว่า...

     

     

    ถ้าตัวกูหนอ เป็นเมะ แล้วตัวมันหนอ เป็นเคะ

    ใยเมะมาดแมนอย่างกู ต้อง ‘เขิน' เคะ เวลาจูบกันด้วยวะ!!

     

     

    คิดได้แบบนั้นก็เหมือนได้บรรลุสัจธรรมอีกหลายๆข้อ เช่น หากเป็นแฟนกันก็ต้องจุ๊บกันได้ หรือ หากเป็นเมะ ถ้ายิ่งหวงเนื้อหวงตัว โวยวายเวลาโดนจูบ มันก็ยิ่งส่อสันดานเคะ นี่หว่า = =''

     

    เพราะฉะนั้นตอนที่อาบน้ำอยู่นั้น ทงเฮก็ได้ตั้งปณิธาณในใจว่า กูจะสลัดคราบเคะแบบซึนๆออกไปให้เหมือนขัดขี้ไคลออกจากผิวหนังนี่แหละ!!! ถึงจะเยี่ยมกู๊ดดดดดดดด คึ คึ >

     

    "มอง..." คิบอมพูดค้างไว้แค่นั้น แล้วไล่สายตาตั้งแต่ปลายผมจนถึงข้อเท้า ทำเอาทงเฮร้อนวาบไปทั้งตัว เหมือนถูกมองจนทะลุเสื้อผ้าที่สวมอยู่ จนใจคอไม่ดี ต้องยกมือขึ้นมากุมคอเสื้อตัวเองไว้ ให้อุ่นใจ

     

    "อะไรหนักหนาเล่า!!!" ตวาดใส่ร่างสูงที่นั่งท้าวคางกับโต๊ะเขียนหนังสือ

     

    คิบอมกระตุกยิ้มที่มุมปาก ราวกับราชสีห์ที่แสยะยิ้มเมื่อจ้องมองมายังเหยื่อแสนโอชะที่อยู่ตรงหน้า ก่อนคำรามให้ปลาตัวน้อยอกสั่นขวัญแขวนว่า

     

     

     

    "มองคนตัวขาว เพราะขัดผิวในห้องน้ำนานเกินไปล่ะมั้ง?! หึ..."

     

     

     

    จบท้ายประโยคด้วยการหัวเราะเสียงต่ำซึ่งมีพลังทำลายล้างขั้นสุดยอด ที่สามารถทำให้กระบวนการ เมะตาบอริซึ่ม ในร่างกายของทงเฮทำงานผิดปกติขึ้นมากะทันหัน

     

    กี้ดดดดดดดดด กุเจ็บจาย ฮือๆๆๆๆ

     

    ถ้าลงไปนอนดื้นพราดๆกับพื้นได้โดยไม่ต้องห่วงหล่อ ทงเฮคงทำไปแล้ว แต่ถึงจะแค้นจนน้ำตาแทบไหลแค่ไหน เค้าก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนไว้เพื่อความหล่อสมาร์ทของตน ปากอิ่มเม้มเข้าก่อนคลายออก แล้วกรีดเสียงใส่เจ้าของบ้าน ไม่กลัวว่าจะโดนเค้าตะโด่งออกมาสักนิด

     

     

    "ชั้นไม่ได้ขัดตัวจนขาว แต่ชั้นขาวมาตั้งแต่เกิดเว้ย!!"

     

     

    "งั้นเหรอ..?" คิบอมครางเสียงสูงเชิงรับรู้แต่ไม่สนใจ พลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อนัยน์ตาสีนิลเหลือบไปเห็นสิ่งของที่อยู่ในอ้อมกอดของร่างเล็กที่ยืนจังก้าอยู่หน้าประตูห้องน้ำ

     

    "เสื้อพวกนั้นน่ะ......"

     

    ทงเฮก้มลงมองก้อนเสื้อผ้าขยุกขยุยในมือตามคำพูดของคิบอม แล้วอายหน้าแดงแปร๊ด ร่างบางชิงพูดก่อนเพื่อแสดงความแมนกว่า ด้วยท่าทางใจกว้าง

     

    "อย่าห่วงไปเลย เดี๋ยวชั้นเอากลับไปซักให้"

     

    "ไม่ต้องหรอก" คิบอมปฏิเสธเสียงเรียบ แต่ทงเฮกลับสั่นหัว เส้นผมฟุ้งกระจาย จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูและสบู่ลอยอวลภายในห้อง

     

    "ไม่เอา ชั้นจะเอากลับไปซักเอง"

     

    "แต่......."

     

    "อย่าเรื่องมากได้มั้ย?!! ก็บอกว่าเดี๋ยวจะซักให้ แล้วจะเอามาคืนพรุ่งนี้ โอเค๊??"

     

    คิบอมเงียบไป คล้ายกับกำลังใช้ความคิด นิ้วแกร่งแต่ละนิ้วไล่เคาะโต๊ะเป็นจังหวะสองสามที ก่อนที่เจ้าของร่างจะผุดลุกขึ้น ก้าวเข้ามาใกล้ทงเฮ พร้อมกับพยักหน้ารับตกลง

     

     

     

     

     

    "เอาให้หอมเหมือนตัวนายด้วยแล้วกัน"

     

     

     

    แค่คิดถึงประโยคนั้น ทงเฮก็ต้องเอาเสื้อมาปิดหน้าด้วยความเขิน แม้ตัวคนพูดจะไม่ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ตาม

     

    "อี้ เหม็นว่ะ" บ่นกระปอดกระแปดเมื่อสูดกลิ่นเหงื่อตัวเองเข้าไปจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้หอมอย่างที่คิบอมว่าเลย ...ไอ้ขี้โม้เอ้ย หลอกให้กูดีใจเล่นนี่หว่า แสรดดดดด

     

    ทงเฮเบะปาก แต่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้เหมือนกัน ช่วงเวลาหลังจากนั้นคิบอมก็เดินเข้าไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ปล่อยทิ้งให้เค้าต้องใช้ความพยามในการตั้งสติอยู่นาน ก่อนที่คิบอมจะเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยสภาพหล่อลากพื้นพิภพปฐพี จนทงเฮแอบเผลอทำน้ำลายหกโดยไม่รู้ตัว

     

    "เอาล่ะ จะเริ่มกันเลยมั้ย?"

     

    คำถามเรียบง่ายที่เป็นสัญญาณการเริ่มต้นของการติวหฤโหดโดยท่านชายคิม ทำเอาทงเฮเหมือนโดนฉุดลงจากสวรรค์ชั้นเจ็ดมาถูกปู้ยี้ปู้ยำ(ดูมันใช้คำ -*-) ในนรกขุมที่ร้อยยี่สิบเก้าก็ไม่ปาน เพราะเทวดาหน้าตาหล่อเหลาอย่างคิมคิบอม สามารถกลายร่างเป็นซาตานร้ายจอมเข้มงวดได้ภายในไม่กี่วินาที ยังกับมีสองบุคลิกในร่างเดียวยังไงยังงั้น

     

    ทงเฮถูกเคี่ยวเข็ญให้ท่องโน่น จำนี่ จนหัวมึนไปหมด แล้วไหนจะต้องมาใจเต้นตึกโป๊ะตึกๆโป๊ะกับทีท่าใกล้ชิดจนเกินเหตุ(และเดี๋ยวจะเหตุเกิด)ของคิบอม จนไม่เป็นอันเรียนอีกล่ะ

     

    โว้ยยยย ไอ้ผีตุ๊ดนี่!! เมื่อไหร่จะเรียกเข้าสิงกรูสุกทีว้าห๊า!!!!!!!!

     

    "เป็นอะไร?" คิบอมเอ่ยถามลูกศิษย์จอมเซี้ยว ทั้งที่รู้ดีอยุ่แก่ใจว่าต้นเหตุก็มาจากตัวเองนั่นแหละ

     

     

     

    I'm gonna be ok (Gonna be ok) *ทำท่าประกอบ*
    I'll be ok (Gonna be ok) *โอเค อะมิโน โอเค*
    baby without you, baby without you *สะบัดมือ แล้วชี้หน้าคนหล่อ ชึ้บๆ*

     

     

     

    กุล่ะอยากจะร้องเพลง 2PM ให้เมิงฟัง เพื่อสื่อความหมายซะจริงๆ ให้ตายเถ้อออ!!!

     

    ทงเฮเม้มปากไม่ยอมตอบ คิบอมเลยทาบหลังมือเข้ากับแก้มเนียนใส แล้วบ่นพึมพำ "หรือว่าจะไม่สบาย?"

     

    "เอ่อ........."

     

    "หน้าแดงด้วยนี่"

     

    หม่ามี้เคยบอกว่าผิวน้องเฮมันแสนบอบบ๊างบอบบาง แค่โดนอุณหภูมิสูงรอบตัวขึ้นนิดหน่อย ไอ้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังมันก็พร้อมจะดันตัวขึ้นมาอวดแก้มสีชมพูระเรื่ออยู่แล้ว แต่นี่โดนถึงขั้นเป็นมือที่อุ่นร้อนตามอุณหภูมิร่างกายของคนนาบเข้าเต็มๆจั๋งซี้

     

    มีหรือแก้มกุจะไม่แดงเป็นตูดลิงหรือก้นชะนีน่ะห่ะ!

     

    ค่อนแขะคุณหมอจำเป็นในใจ แต่ผลสรุปที่ได้ออกมาคือการหยุดสอนและปล่อยเค้ากลับบ้านในที่สุด

     

    "ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ" คิบอมบอกแบบนั้นตอนที่รถของตระกูลคิมมาจอดนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านของทงเฮ

     

    "......." ร่างบางโนคอมเม้นท์ใดๆ นอกจากหันไปเปิดประตู ตั้งท่าจะกระโดดลงไปให้เร็วที่สุด อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องทนเหนื่อยใจอยู่แบบนี้

     

    ทว่าข้อมือเล็กกลับถูกคว้าไว้ได้เสียก่อนจะได้คอนด้อม เอ๊ย! ฟรีด้อม ดั่งใจ ทงเฮส่งเสียงจิ๊จ๊ะ เอี้ยวหัวไปส่งสายตาแทนคำพูดให้ร่างสูงว่า ‘เมิงมีอะไรกะกูอี้กกกกกกกกกกก'

     

     

     

     

    "ฝันดี"  

     

     

     

     

    แล้วอีทงเฮก็ได้นอนหลับฝันดีไปพร้อมกับเสื้อเน่าๆหนึ่งตัวจริงๆนั่นแหละน้า~~

     

     

     

    TBC.

     

     

     

    เข็นมาต่อ ฉลองที่ได้งานทำแล้วค่ะ ยะฮวู้~~

    แม้มันจะไม่ฮา เพราะพาร์ทนี้ตั้งใจจะให้หวานจริงจัง ก็หยวนๆแล้วกันอ่ะเนาะ ><

    สนุกหรือไม่ ได้โปรดทิ้งคอมเม้นท์ไว้เป็นกำลังใจให้แก่ไรท์เตอร์ตาดำๆคนนี้ด้วยนะคะ ไปล่ะ ฟิ้ว~~

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×