ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ใต้แสงจันทร์
ไม่นานนักหญิงสาวได้ยินเสียงเกือกม้าดังมาจากด้านหลัง คงเป็นแขกที่เพิ่งกลับ หญิงสาวค่อยรู้สึกใจมา จึงโบกรถอย่างลิงโลดใจ
ลดม้าขนาดกลางค่อย ๆ ชะลอลงก่อนจอดสนิท เสียงตะโกนถามดังมาจากในรถ
“เกิดอะไรขึ้นฮะ นิค”
“มีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งโบกรถขอรับ”
สิ้นเสียงตอบของคนรถ ใบหน้าอวบอูมก็ชะโงกออกมาทางหน้าต่างอย่างบูดบึ้ง แต่แล้วก็ปรับเปลี่ยนเร็วพลัน
“เชิญขึ้นมาเลยจ๊ะหนู ทำไมมาเดินคนเดียวอย่างนี้ล่ะ”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบ ก็ได้ยินเสียงควบม้าดังมาจากเบื้องหลัง เมื่อเข้ามาใกล้จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นลอร์ดเจมส์
เขาลงจากม้า ทักทายกับชายที่นั่งมาในรถก่อนหันมาทางหญิงสาว
“ฉันจะพาเธอไปส่งบ้าน”
“ไม่ ฉันจะไปกับสุภาพบุรุษท่านนี้” หญิงสาวตอบเสียงดัง
เจมส์พูดลอดไรฟันออกมาเบา ๆ ไม่ให้คนบนรถม้าได้ยิน
“ถ้าไม่อยากเสียใจ กลับไปกับฉันเดี๋ยวนี้”
หญิงสาวยิ่งเกิดอารมณ์โมโห เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครจึงมีสิทธิ์มาสั่งเธอได้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่เป็นฝ่ายทิ้งเธอไว้ หญิงสาวจึงหันไปพูดกับชายบนรถม้า
“ไม่ทราบว่าดิฉันจะขออาศัยรถม้าของท่านกลับจะได้ไหมคะ เห็นว่าไปทางเดียวกันพอดี”
ชายวัยกลางอึกอัก ด้วยไม่รู้ตื้นลึกหนาบางถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง เกรงจะเป็นการสอดเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่กรณีคือลอร์ดเฮนรี่ เจมส์
“ขอความกรุณาด้วยนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะลอร์ดเจมส์” หญิงสาวหันกลับมากล่าวอย่างเย้ย ๆ ก่อนจะรีบก้าวขึ้นรถไปโดยไม่รอฟังคำตอบ
แม้ไม่ได้หันไปมองสีหน้าของเขา แต่หญิงสาวก็รู้ดีว่าลอร์ดเจมส์ต้องโกรธจนแทบกระอักเลือด หญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถอย่างอารมณ์ดี พลางนึกสาแก่ใจ
รถม้ามีขนาดไม่ใหญ่มาก หญิงสาวจึงต้องนั่งเบียดอยู่ฝั่งเดียวกับชายผู้นั้น ซึ่งเมื่อนานไปก็เริ่มทวีความไม่น่าไว้ใจด้วยการเอามือมายุ่มย่ามแถวขาหล่อน เฟลอร์ตกใจคิดไม่ออกว่าจะพ้นเหตุการณ์ตรงหน้าไปได้อย่างไร นี่เธอหนีเสือปะจระเข้เสียแล้วหรือนี่
“กรุณาสุภาพต่อดิฉันด้วยนะคะ” หญิงสาวพูดเสียงแข็งแต่ก็ยังมิวายสั่นด้วยความกลัว
“หึ ๆ สาวน้อย เธอจะมาเล่นตัวอะไรตอนนี้ล่ะในเมื่อเป็นคนเสนอตัวขอขึ้นรถฉันมาเอง”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เฟลอร์โวยลั่นอย่างรังเกียจ เมื่อชายผู้นั้นพยายามโอบกอดเธอ
“ช่วยด้วย ๆ” หญิงสาวร้องอย่างตระหนก ได้ยินแต่เสียงหัวเราะอย่างชอบใจของคนที่นั่งข้าง ๆ
“สายไปเสียแล้ว ฉันยังแปลกใจเลยที่เธอเลือกมากับฉันแทนที่จะเป็นพ่อขุนนางรูปหล่อนั่น ในเมื่อเธอเลือกเอง ก็ต้องหัดยอมรับผลของการตัดสินใจนั้นด้วยนะ ฉันจะบอกเธอไว้ ฮี่ ๆ”
ยังไม่ทันที่เหตุการณ์จะดำเนินไปมากกว่านี้ รถม้าก็หยุดกะทันหันทำให้ทั้งสองเสียหลัก เฟลอร์หลุดจากการเกาะกุมของชายโฉดมาได้รีบกระโดดลงจากรถอย่างรวดเร็ว หญิงสาวยังไม่วายตัวสั่นด้วยความกลัวและขยะแขยง
เสียงเอะอะโวยวายก่นด่าคนขับรถดังลั่น เขาโกรธที่หญิงสาวหนีไปได้ กระชากประตูรถออกมาหมายจะตามจับหญิงสาวกลับไป แต่แล้วก็ต้องยืนตะลึงค้าง
ต้นเหตุที่ทำให้รถหยุดกะทันหันยืนอยู่ตรงหน้า
ลอร์ดเจมส์มองมาด้วยสายตาที่เย็นเยียบเป็นที่สุด ชายร่างอ้วนติดอ่างขึ้นมาทันที
“ลอร์ด ลอร์ดเจมส์”
เฮนรี่ เจมส์ไม่พูดสักคำ แต่เดินตรงเข้าไปปล่อยหมัดใส่หน้าชายผู้นั้นอย่างแรงแล้วเดินมาทางหญิงสาว เฟลอร์ตกใจจนหน้าซีด ท่าทางของ
เขายามนี้ดูน่ากลัวเหลือเกินในความคิดของหญิงสาว
“ลอร์ดเจมส์ ผะ ผม ขออภัยขอรับท่าน กระผมไม่ทราบจริง ๆ นะขอรับ”
ชายหนุ่มไม่ฟังต่อ เอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ธุรกิจที่คุณเสนอมา เป็นอันยกเลิกทั้งหมด” ว่าแล้วเขาก็ดึงมือเฟลอร์เดินไป
“รอก่อนครับท่าน ได้โปรดเถอะครับ กรุณาผมหน่อย” เขาร้องขอทั้ง ๆ ที่เลือดกลบปาก
เจมส์ไม่ฟังเสียงฉุดกระชากหญิงสาวซึ่งเซถลาไปตลอดทางไปขึ้นม้า
เขาคว้าเอวบางได้ก็จับโยนขึ้นม้าอย่างไม่ปราณี หญิงสาวไม่เคยนั่งหลังม้ามาก่อนยังไม่ทันทรงตัวเกือบหงายหลัง แต่ร่างของชายหนุ่มก็กระโจนขึ้นม้ามารับไว้ทัน
“เป็นยังไงล่ะ พอใจหรือยัง” เจมส์ถามด้วยน้ำเสียงกระชาก ห้วนจัด
เฟลอร์ตกใจไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ หญิงสาวยังคงตัวสั่นน้อย ๆ เกาะคอม้าไว้แน่น
เฮนรี่ เจมส์กระตุกบังเหียนออกม้าอย่างแรง หญิงสาวผงะหงายหลังตกอยู่ในอ้อมแขนเขา เมื่อตะเกียกตะกายพยายามนั่งให้ตรงก็ถูกเอ็ดเสียงเข้มจากคนข้างหลัง
“ไม่ต้องขยับ นั่งอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก”
เฟลอร์จึงนั่งตัวแข็งเกร็งอยู่ในท่านั้น จนกระทั่งเฮนรี่ เจมส์ควบม้าไปยังถนนสายหนึ่ง
“เอ่อ.. ลอร์ดเจมส์คะ คือว่าหมู่บ้านกรีนเลคไม่ได้มาทางนี้น่ะค่ะ” เฟลอร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขลาด ๆ
คำตอบที่ได้คือ ความเงียบ เฟลอร์รู้สึกได้ถึงความโกรธที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่ม
“เอ่อ ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะหากเมื่อครู่ทำให้ท่านไม่พอใจ”
ชายหนุ่มยังคงเฉย แต่เร่งความเร็วขึ้น เฟลอร์รู้สึกหน้าชาไปถนัดเมื่อไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากชายหนุ่ม แต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มวิตกว่าชายหนุ่มจะพาเธอไปที่ใด
“นี่ก็ดึกแล้ว ดิฉันเกรงว่าทางบ้านจะเป็นห่วงหาก...”
ชายหนุ่มขัดขึ้นเสียงเย็น
“ไม่ต้องกลัวว่าผมจะทำอะไรคุณหรอกนะ ผมมีความเป็นสุภาพบุรุษพอ”
แม้จะรู้สึกไม่พอใจกับปฏิกิริยาของเขา แต่เฟลอร์ก็อุ่นใจขึ้นเมื่อได้ยินเขากล่าวเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เส้นทางที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวไปก็ไม่ได้ชวนให้สบายใจมากนัก มันเป็นเส้นทางเล็ก ๆ คดเคี้ยวลับไปในป่าเบื้องหน้า อากาศเริ่มเย็นลง ชุดราตรีเปิดไหล่ไม่ได้ช่วยป้องกันความหนาวได้มากนัก หญิงสาวห่อไหล่ยกมือขึ้นกอดอก เสื้อโค้ทหนาหนักถูกคลุมมาบนไหล่บางพร้อม ๆ กับที่อ้อมแขนแข็งแรงเอื้อมมาโอบเธอไว้จากเบื้องหลัง
“ทนหนาวสักครู่ ใกล้จะถึงแล้ว”
เฟลอร์ไม่พูดอะไรอีก ในใจรู้สึกสุขสงบอย่างน่าประหลาด ศีรษะซึ่งพิงอกเขาอยู่รู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะ หญิงสาวเกือบจะเผลอหลับไปด้วยความง่วงงุน แต่แล้วเสียงของเขาก็ดังขึ้น
“ถึงแล้วล่ะ”
หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น รอบตัวระงมไปด้วยเสียงจักจั่นเรไร แสงจันทร์คืนเดือนหงายสาดส่องไปทั่วบริเวณเป็นสีนวลตา ทั้งสองอยู่บนหลังม้าซึ่งยืนหยุดสนิทนิ่งที่ชะง่อนผาสูง เฟลอร์จะขยับตัวอย่างตกใจแต่ลอร์ดเจมส์ยึดแขนไว้พลางพยักเพยิดให้มองลงไปเบื้องล่าง
“นั่นคือหมู่บ้านที่เราเพิ่งจากมา  ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงถ้าขึ้นมาดูจากตรงนี้ วิวจะสวยมาก เราจะมองเห็นหมู่บ้านข้างล่างเป็นสีเงินไปหมด
เหมือนกับเมืองในฝัน”
เฟลอร์มองตามแล้วก็เห็นจริงตามนั้น ใช่ หมู่บ้านข้างล่างช่างสวยงามเมื่อมองจากบนนี้และในเวลานี้ แต่คนซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเหล่านั้นไม่รู้เลยว่าจากมุมมองข้างบน หมู่บ้านของตนจะสวยงามเพียงไร
“ทำไมคุณต้องพาฉันมาดูด้วยล่ะคะ” เฟลอร์ถามขึ้นอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร เพียงแต่คืนนี้ผมอารมณ์ดีอยากมีเพื่อนมาชมวิวด้วยเท่านั้น”
สายลมพัดมาแผ่ว ๆ หอบเอากลิ่นดอกไม้ป่าโชยมา เสียงดนตรีไพรดังขึ้นอย่างเสนาะหู ทั้งสองนั่งนิ่งอยู่บนหลับม้าชื่นชมกับบรรยากาศอันเงียบสงบรอบตัว น่าแปลกที่ความรู้สึกอึดอัดหายไป มีแต่เพียงความผ่อนคลายเท่านั้น ผ่านไปชั่วครู่ เฟลอร์ก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“ฉันคงต้องกลับแล้วละค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณช่วยไปส่งฉันหน่อยนะคะ” เฟลอร์แหงนศีรษะขึ้นมองเขาอย่างขอร้อง
ลอร์ดเจมส์ก้มลงมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างสะกดใจที่จะไม่ก้มลงไปประทับริมฝีปากของหล่อนซึ่งเผยอขึ้นน้อย ๆ ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวขึ้นเมื่อนึกว่าตัวเองกำลังคิดจะทำอะไร เขาตอบหล่อนโดยเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“ตกลง กลับกันเถอะ”
ว่าแล้วเขาก็ควบม้ากลับไปทางเดิม ทั้งสองไม่พูดอะไรกันอีกตลอดทางจนกระทั่งเข้าเขตหมู่บ้านกรีนเลค
ลดม้าขนาดกลางค่อย ๆ ชะลอลงก่อนจอดสนิท เสียงตะโกนถามดังมาจากในรถ
“เกิดอะไรขึ้นฮะ นิค”
“มีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งโบกรถขอรับ”
สิ้นเสียงตอบของคนรถ ใบหน้าอวบอูมก็ชะโงกออกมาทางหน้าต่างอย่างบูดบึ้ง แต่แล้วก็ปรับเปลี่ยนเร็วพลัน
“เชิญขึ้นมาเลยจ๊ะหนู ทำไมมาเดินคนเดียวอย่างนี้ล่ะ”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบ ก็ได้ยินเสียงควบม้าดังมาจากเบื้องหลัง เมื่อเข้ามาใกล้จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นลอร์ดเจมส์
เขาลงจากม้า ทักทายกับชายที่นั่งมาในรถก่อนหันมาทางหญิงสาว
“ฉันจะพาเธอไปส่งบ้าน”
“ไม่ ฉันจะไปกับสุภาพบุรุษท่านนี้” หญิงสาวตอบเสียงดัง
เจมส์พูดลอดไรฟันออกมาเบา ๆ ไม่ให้คนบนรถม้าได้ยิน
“ถ้าไม่อยากเสียใจ กลับไปกับฉันเดี๋ยวนี้”
หญิงสาวยิ่งเกิดอารมณ์โมโห เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครจึงมีสิทธิ์มาสั่งเธอได้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่เป็นฝ่ายทิ้งเธอไว้ หญิงสาวจึงหันไปพูดกับชายบนรถม้า
“ไม่ทราบว่าดิฉันจะขออาศัยรถม้าของท่านกลับจะได้ไหมคะ เห็นว่าไปทางเดียวกันพอดี”
ชายวัยกลางอึกอัก ด้วยไม่รู้ตื้นลึกหนาบางถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง เกรงจะเป็นการสอดเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่กรณีคือลอร์ดเฮนรี่ เจมส์
“ขอความกรุณาด้วยนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะลอร์ดเจมส์” หญิงสาวหันกลับมากล่าวอย่างเย้ย ๆ ก่อนจะรีบก้าวขึ้นรถไปโดยไม่รอฟังคำตอบ
แม้ไม่ได้หันไปมองสีหน้าของเขา แต่หญิงสาวก็รู้ดีว่าลอร์ดเจมส์ต้องโกรธจนแทบกระอักเลือด หญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถอย่างอารมณ์ดี พลางนึกสาแก่ใจ
รถม้ามีขนาดไม่ใหญ่มาก หญิงสาวจึงต้องนั่งเบียดอยู่ฝั่งเดียวกับชายผู้นั้น ซึ่งเมื่อนานไปก็เริ่มทวีความไม่น่าไว้ใจด้วยการเอามือมายุ่มย่ามแถวขาหล่อน เฟลอร์ตกใจคิดไม่ออกว่าจะพ้นเหตุการณ์ตรงหน้าไปได้อย่างไร นี่เธอหนีเสือปะจระเข้เสียแล้วหรือนี่
“กรุณาสุภาพต่อดิฉันด้วยนะคะ” หญิงสาวพูดเสียงแข็งแต่ก็ยังมิวายสั่นด้วยความกลัว
“หึ ๆ สาวน้อย เธอจะมาเล่นตัวอะไรตอนนี้ล่ะในเมื่อเป็นคนเสนอตัวขอขึ้นรถฉันมาเอง”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เฟลอร์โวยลั่นอย่างรังเกียจ เมื่อชายผู้นั้นพยายามโอบกอดเธอ
“ช่วยด้วย ๆ” หญิงสาวร้องอย่างตระหนก ได้ยินแต่เสียงหัวเราะอย่างชอบใจของคนที่นั่งข้าง ๆ
“สายไปเสียแล้ว ฉันยังแปลกใจเลยที่เธอเลือกมากับฉันแทนที่จะเป็นพ่อขุนนางรูปหล่อนั่น ในเมื่อเธอเลือกเอง ก็ต้องหัดยอมรับผลของการตัดสินใจนั้นด้วยนะ ฉันจะบอกเธอไว้ ฮี่ ๆ”
ยังไม่ทันที่เหตุการณ์จะดำเนินไปมากกว่านี้ รถม้าก็หยุดกะทันหันทำให้ทั้งสองเสียหลัก เฟลอร์หลุดจากการเกาะกุมของชายโฉดมาได้รีบกระโดดลงจากรถอย่างรวดเร็ว หญิงสาวยังไม่วายตัวสั่นด้วยความกลัวและขยะแขยง
เสียงเอะอะโวยวายก่นด่าคนขับรถดังลั่น เขาโกรธที่หญิงสาวหนีไปได้ กระชากประตูรถออกมาหมายจะตามจับหญิงสาวกลับไป แต่แล้วก็ต้องยืนตะลึงค้าง
ต้นเหตุที่ทำให้รถหยุดกะทันหันยืนอยู่ตรงหน้า
ลอร์ดเจมส์มองมาด้วยสายตาที่เย็นเยียบเป็นที่สุด ชายร่างอ้วนติดอ่างขึ้นมาทันที
“ลอร์ด ลอร์ดเจมส์”
เฮนรี่ เจมส์ไม่พูดสักคำ แต่เดินตรงเข้าไปปล่อยหมัดใส่หน้าชายผู้นั้นอย่างแรงแล้วเดินมาทางหญิงสาว เฟลอร์ตกใจจนหน้าซีด ท่าทางของ
เขายามนี้ดูน่ากลัวเหลือเกินในความคิดของหญิงสาว
“ลอร์ดเจมส์ ผะ ผม ขออภัยขอรับท่าน กระผมไม่ทราบจริง ๆ นะขอรับ”
ชายหนุ่มไม่ฟังต่อ เอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ธุรกิจที่คุณเสนอมา เป็นอันยกเลิกทั้งหมด” ว่าแล้วเขาก็ดึงมือเฟลอร์เดินไป
“รอก่อนครับท่าน ได้โปรดเถอะครับ กรุณาผมหน่อย” เขาร้องขอทั้ง ๆ ที่เลือดกลบปาก
เจมส์ไม่ฟังเสียงฉุดกระชากหญิงสาวซึ่งเซถลาไปตลอดทางไปขึ้นม้า
เขาคว้าเอวบางได้ก็จับโยนขึ้นม้าอย่างไม่ปราณี หญิงสาวไม่เคยนั่งหลังม้ามาก่อนยังไม่ทันทรงตัวเกือบหงายหลัง แต่ร่างของชายหนุ่มก็กระโจนขึ้นม้ามารับไว้ทัน
“เป็นยังไงล่ะ พอใจหรือยัง” เจมส์ถามด้วยน้ำเสียงกระชาก ห้วนจัด
เฟลอร์ตกใจไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ หญิงสาวยังคงตัวสั่นน้อย ๆ เกาะคอม้าไว้แน่น
เฮนรี่ เจมส์กระตุกบังเหียนออกม้าอย่างแรง หญิงสาวผงะหงายหลังตกอยู่ในอ้อมแขนเขา เมื่อตะเกียกตะกายพยายามนั่งให้ตรงก็ถูกเอ็ดเสียงเข้มจากคนข้างหลัง
“ไม่ต้องขยับ นั่งอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก”
เฟลอร์จึงนั่งตัวแข็งเกร็งอยู่ในท่านั้น จนกระทั่งเฮนรี่ เจมส์ควบม้าไปยังถนนสายหนึ่ง
“เอ่อ.. ลอร์ดเจมส์คะ คือว่าหมู่บ้านกรีนเลคไม่ได้มาทางนี้น่ะค่ะ” เฟลอร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขลาด ๆ
คำตอบที่ได้คือ ความเงียบ เฟลอร์รู้สึกได้ถึงความโกรธที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่ม
“เอ่อ ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะหากเมื่อครู่ทำให้ท่านไม่พอใจ”
ชายหนุ่มยังคงเฉย แต่เร่งความเร็วขึ้น เฟลอร์รู้สึกหน้าชาไปถนัดเมื่อไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากชายหนุ่ม แต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มวิตกว่าชายหนุ่มจะพาเธอไปที่ใด
“นี่ก็ดึกแล้ว ดิฉันเกรงว่าทางบ้านจะเป็นห่วงหาก...”
ชายหนุ่มขัดขึ้นเสียงเย็น
“ไม่ต้องกลัวว่าผมจะทำอะไรคุณหรอกนะ ผมมีความเป็นสุภาพบุรุษพอ”
แม้จะรู้สึกไม่พอใจกับปฏิกิริยาของเขา แต่เฟลอร์ก็อุ่นใจขึ้นเมื่อได้ยินเขากล่าวเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เส้นทางที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวไปก็ไม่ได้ชวนให้สบายใจมากนัก มันเป็นเส้นทางเล็ก ๆ คดเคี้ยวลับไปในป่าเบื้องหน้า อากาศเริ่มเย็นลง ชุดราตรีเปิดไหล่ไม่ได้ช่วยป้องกันความหนาวได้มากนัก หญิงสาวห่อไหล่ยกมือขึ้นกอดอก เสื้อโค้ทหนาหนักถูกคลุมมาบนไหล่บางพร้อม ๆ กับที่อ้อมแขนแข็งแรงเอื้อมมาโอบเธอไว้จากเบื้องหลัง
“ทนหนาวสักครู่ ใกล้จะถึงแล้ว”
เฟลอร์ไม่พูดอะไรอีก ในใจรู้สึกสุขสงบอย่างน่าประหลาด ศีรษะซึ่งพิงอกเขาอยู่รู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะ หญิงสาวเกือบจะเผลอหลับไปด้วยความง่วงงุน แต่แล้วเสียงของเขาก็ดังขึ้น
“ถึงแล้วล่ะ”
หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น รอบตัวระงมไปด้วยเสียงจักจั่นเรไร แสงจันทร์คืนเดือนหงายสาดส่องไปทั่วบริเวณเป็นสีนวลตา ทั้งสองอยู่บนหลังม้าซึ่งยืนหยุดสนิทนิ่งที่ชะง่อนผาสูง เฟลอร์จะขยับตัวอย่างตกใจแต่ลอร์ดเจมส์ยึดแขนไว้พลางพยักเพยิดให้มองลงไปเบื้องล่าง
“นั่นคือหมู่บ้านที่เราเพิ่งจากมา  ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงถ้าขึ้นมาดูจากตรงนี้ วิวจะสวยมาก เราจะมองเห็นหมู่บ้านข้างล่างเป็นสีเงินไปหมด
เหมือนกับเมืองในฝัน”
เฟลอร์มองตามแล้วก็เห็นจริงตามนั้น ใช่ หมู่บ้านข้างล่างช่างสวยงามเมื่อมองจากบนนี้และในเวลานี้ แต่คนซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเหล่านั้นไม่รู้เลยว่าจากมุมมองข้างบน หมู่บ้านของตนจะสวยงามเพียงไร
“ทำไมคุณต้องพาฉันมาดูด้วยล่ะคะ” เฟลอร์ถามขึ้นอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร เพียงแต่คืนนี้ผมอารมณ์ดีอยากมีเพื่อนมาชมวิวด้วยเท่านั้น”
สายลมพัดมาแผ่ว ๆ หอบเอากลิ่นดอกไม้ป่าโชยมา เสียงดนตรีไพรดังขึ้นอย่างเสนาะหู ทั้งสองนั่งนิ่งอยู่บนหลับม้าชื่นชมกับบรรยากาศอันเงียบสงบรอบตัว น่าแปลกที่ความรู้สึกอึดอัดหายไป มีแต่เพียงความผ่อนคลายเท่านั้น ผ่านไปชั่วครู่ เฟลอร์ก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“ฉันคงต้องกลับแล้วละค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณช่วยไปส่งฉันหน่อยนะคะ” เฟลอร์แหงนศีรษะขึ้นมองเขาอย่างขอร้อง
ลอร์ดเจมส์ก้มลงมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างสะกดใจที่จะไม่ก้มลงไปประทับริมฝีปากของหล่อนซึ่งเผยอขึ้นน้อย ๆ ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวขึ้นเมื่อนึกว่าตัวเองกำลังคิดจะทำอะไร เขาตอบหล่อนโดยเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“ตกลง กลับกันเถอะ”
ว่าแล้วเขาก็ควบม้ากลับไปทางเดิม ทั้งสองไม่พูดอะไรกันอีกตลอดทางจนกระทั่งเข้าเขตหมู่บ้านกรีนเลค
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น