ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่ห์จันทร์

    ลำดับตอนที่ #2 : ปะทะฝีปาก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 424
      5
      23 มี.ค. 48



    “เมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้นน่ะเฟลอร์ ทำไมบรรยากาศระหว่างเธอกับลอร์ดเจมส์มันแปลก ๆ ยังไงไม่รู้” เมลานีเอ่ยถามหลังจากเดินพ้นจากบริเวณนั้น



    “เธอน่ะสิ เมลานี ไม่น่าไปโกหกเลย รู้ไหมเขาจับได้เพราะรู้จักกับตระกูลเดอโฟตัวจริงเป็นอย่างดี ฉันงี้แทบไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนเลย” เฟลอร์บ่นเพื่อนสาวเป็นชุด



    “เอาเถอะน่า ถึงรู้แล้วจะทำอะไรได้ ฉันก็ไม่เห็นเขาจะว่าอะไรเธอเลยนี่นะ” เมลานีแก้ตัว



    “เธอจะไปรู้อะไร ตอนที่เธอยังไม่โผล่มาน่ะ เขา...” ว่าแล้วเฟลอร์ก็เงียบไป กระตุ้นให้เมลานีต้องถามต่อ



    “เขา? เขาทำไมเหรอ”



    “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่พูดจาหยาบคายนิดหน่อย” เฟลอร์ตอบไม่เต็มเสียง รู้สึกกระดากปากหากต้องพูดความจริง



    “หา อะไรนะ ลอร์ดเจมส์น่ะรึหยาบคาย เขาออกจะเป็นเจนเทิลแมนที่เพอร์เฟคที่สุดในยุคนี้เลยนะ เธอเอาที่ไหนมาพูด” เมลานีแย้งอย่าง



    ตกใจ



    “ในสายตาคนอื่นเป็นยังไงไม่รู้ล่ะ แต่สำหรับฉันแล้วเขาหยาบคายที่สุด” เฟลอร์ตอบกระชากเสียงห้วน ๆ คิดไปถึงประโยคที่เขาว่าหล่อนว่าชอบหลอกผู้ชาย นี่เขาเห็นหล่อนเป็นผู้หญิงยังไงกันนะ



    “เอาน่า เฟลอร์ เธออาจคิดมากไป ถึงลอร์ดเจมส์จะรู้ว่าเราโกหก แต่ฉันรับรองว่าเขาไม่พูดให้เราต้องเสียหายหรอก เชื่อฉัน อย่าอารมณ์เสียเลย นี่แน่ะ มีคนอยากรู้จักเธอตั้งเยอะแยะ รอให้ฉันพาไปแนะนำ” เมลานีเปลี่ยนเรื่อง



    “ไม่เอาล่ะ ฉันขี้เกียจเล่นละครเต็มที ขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน” เฟลอร์บอกเสียงเนือย ๆ



    “ว้า นี่เธอจะไม่ยอมให้ฉันพาไปแนะนำตัวจริงเหรอ”



    “แน่นอน เดี๋ยวเธอก็ยกเมฆอีกว่าฉันเป็นคนนั้นคนนี้ เข็ดเต็มทีแล้วย่ะ”



    “เดี๋ยวฉันให้คนรถไปส่งที่บ้านนะ ลงไปรอที่หน้าประตูกันเถอะ” เมลานีเอ่ยก่อนพากันลงไปยังประตูบ้าน



    ที่หน้าบ้าน แขกเหรื่อซึ่งทยอยกลับบ้านยืนรอรถม้ากันอยู่เต็มไปหมด รถม้าประจำบ้านของเมลานียังไม่ว่างเนื่องจากทยอยไปส่งแขก ทั้งสองจึงต้องยืนรออยู่บริเวณนั้น



    “ขอโทษด้วยนะเฟลอร์ที่ฉันหาเรื่องยุ่ง ๆ ให้เธอ” เมลานีเอ่ยน้ำเสียงอ่อย ๆ ขณะยืนรอ



    “ฮื่อ ไม่เป็นไรหรอก มันก็ตลกดีนะ เดี๋ยวทุกคนก็คงลืม” เฟลอร์ว่าอย่างไม่ใส่ใจ



    แต่แล้วฝันร้ายก็ยังตามหลอกหลอนเธอเมื่อลอร์ดเฮนรี่ เจมส์เดินผ่านมาบริเวณนั้น เขากำลังจะกลับและเหลือบไปเห็นสองสาวเข้าพอดีจึงเดินตรงเข้ามา ในขณะที่เฟลอร์แกล้งมองไปทางอื่น



    “จะกลับแล้วหรือคะ” เมลานีทักอย่างร่าเริง



    “ครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณกำลังรออะไรกันหรือครับ” ลอร์ดเฮนรี่ เจมส์ถามเมลานีแต่สายตากลับชำเลืองไปทางอีกคน



    “อ๋อ รอรถม้าไปส่งเฟลอร์น่ะค่ะ พอดีต้องไปส่งแขกของคุณพ่อหลายท่าน เลยต้องรอนานหน่อย” เมลานีตอบ



    “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปรถผมไหมครับ ผมไปส่งให้ก็ได้ถ้าคุณไม่รังเกียจ” เฮนรี่ เจมส์พูด หันไปทางเฟลอร์



    “ไม่ดีกว่าค่ะ อย่าลำบากเลย” เฟลอร์ตอบเมิน ๆ



    “ไม่ลำบากหรอกครับ แต่ถ้าคุณรังเกียจก็ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ ทำท่าจะหันกลับไป เมลานีรู้สึกว่าเป็นการเสียมารยาทที่เพื่อนของเธอปฏิเสธจึงเรียกเพื่อนเธอเป็นเชิงปราม



    “เฟลอร์ ไปสิจ๊ะ อย่าให้เสียน้ำใจลอร์ดเจมส์เลย”



    เฮนรี่ เจมส์เบือนหน้ากลับมา เลิกคิ้วขึ้นคล้ายรอฟังคำตอบ เฟลอร์รู้ดีว่าเธอไม่สามารถจะปฏิเสธได้จึงตอบไปเสียงขุ่น



    “ก็ได้ ขอบคุณในความกรุณามากค่ะ” หญิงสาวพูดอย่างจงใจประชด แต่ชายหนุ่มทำเป็นไม่รู้ เมื่อเฟลอร์เดินนำหน้าไปแล้ว เมลานีก็เรียกชายหนุ่มเบา ๆ



    “ลอร์ดเจมส์คะ”



    เขาหันกลับมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม



    “เรื่องของเฟลอร์น่ะค่ะ ฉันเป็นคนต้นคิดเอง อยากจะอำพวกคุณหญิงนั้นเล่น ไม่คิดว่าจะมีคนอื่นได้ยินด้วย ยังไงท่านอย่าไปโทษเฟลอร์เลยนะคะ”



    ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ ตามแบบฉบับของเขาก่อนตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ



    “ครับ ผมเข้าใจ ลาก่อนนะครับ” ว่าแล้วเขาก็เดินตามหลังเฟลอร์ออกมายังรถม้าที่จอดรออยู่ ชายหนุ่มมีท่าทางอารมณ์ดีขึ้น มองไปยังหญิงสาวที่ยืนหน้าตาบูดบึ้งอยู่ข้างรถ



    “เชิญครับ” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจับมือหญิงสาวพยุงขึ้นรถ ก่อนกระโดดขึ้นตาม



    รถม้ายังไม่ทันออกเขาก็หันมาถามหญิงสาว



    “ไม่ทราบว่าคฤหาสน์ของตระกูลเดอโฟไปทางไหนครับ”



    เฟลอร์หน้าแดงด้วยความโกรธปนอายที่เขาพูดแหย่ขึ้นมาอีก หญิงสาวจึงไม่ตอบ



    “เอ หรือจะต้องไปท่าเรือส่งกลับฝรั่งเศสคืนนี้” เขายังคงแหย่ต่อ สายตามองที่ใบหน้านวลระเรื่ออย่างพอใจ หญิงสาวหมดความอดทนจึงโต้กลับไป



    “นี่ คุณ เลิกเล่นละครได้แล้ว ไม่ตลกเลยนะ”



    ชายหนุ่มเลิกคิ้ว



    “อ้อ ผมเองหรือที่เล่นละคร นึกว่าคุณเสียอีก”



    รถม้าค่อย ๆ แล่นออกจากบริเวณคถหาสถ์แยกเข้าสู่เส้นทางสายเล็กซึ่งตรงไปยังที่ดินของตระกูลเจมส์



    “ตกลงคุณจะให้ผมไปส่งที่ไหนกันครับ หรือว่าไม่อยากบอกก็ตามใจ ไปลงที่บ้านผมก็แล้วกัน” ชายหนุ่มพูดท่าทางยียวน



    “กรีนเลค” หญิงสาวตอบห้วน ๆ



    “อืมม แถวนั้นบ้านคนรวยก็เยอะนี่นา”



    “ถ้าคุณไม่เต็มใจไปส่งก็ปล่อยฉันลงแถวนี้ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างโกรธ ๆ ไม่เคยมีใครหยาบคายกับเธอเช่นนี้มาก่อน



    “ก็ได้ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น” ว่าแล้วเขาก็เปิดหน้าต่างสั่งหยุดรถ



    “เชิญ” ชายหนุ่มหันมาพูดกับหญิงสาวสีหน้าเรียบเฉย เฟลอร์รู้สึกตกใจที่ชายหนุ่มทำเช่นนี้ รถวิ่งออกมาไกลจากบ้านของเมลานีพอสมควร



    และถนนเส้นนี้ก็แยกออกมาไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่าน หญิงสาวรู้สึกโกรธจนแทบร้องไห้ แต่ก็แข็งใจก้าวลงจากรถโดยไม่งอนง้อเขา



    “ระวังนะครับ แถวนี้ผู้ร้ายชุกชุม ยิ่งคุณแต่งตัวสวย ๆ อย่างนี้มาเดิน คงล่อตาล่อใจพวกผู้ร้ายแย่”



    ก่อนที่รถม้าจะออก ชายหนุ่มก็หันมาพูดกับเธออีกสองสามประโยค



    “พวกหมาป่าก็เหมือนกัน มันมากันทีเป็นฝูง คงแทะไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่” ว่าแล้วก็สั่งให้ออกรถจากไป ชายหนุ่มแอบยิ้มคนเดียวอยู่ในรถ



    รู้สึกแปลกใจที่เขาสนุกกับการได้ยั่วแหย่หญิงสาว



    เฟลอร์ลงมายืนละล้าละลังอยู่บนถนนสายเปลี่ยวเพียงคนเดียว นึกแค้นใจชายหนุ่มจนน้ำตาแทบไหลออกมา ความโกรธทำให้หญิงสาวเดินจ้ำ



    ไปข้างหน้าโดยไม่คิดจะกลับไปยังคฤหาสน์ของเมลานี แต่เมื่อความโกรธคลายลงแล้ว หญิงสาวก็รู้สึกว่าคิดผิดมากที่ไม่ได้ทำเช่นนั้น



    แม้คืนนี้จะเป็นคืนเดือนหงาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศลดความวังเวงลงเลย ทุ่งหญ้าสองข้างทางแลดูเป็นสีเงิน จากจุดนี้ไปอีกเป็นระยะทาง



    ค่อนข้างไกลจึงจะเข้าแหล่งชุมชน หญิงสาวเดินไม่ถนัดเนื่องจากใส่รองเท้าส้นสูง แต่ก็รีบเดินให้เร็วที่สุดจนกระทั่งสะดุดหกล้ม ยังไม่ทันลุก



    ขึ้นก็ได้ยินเสียงเห่าหอนของสุนัขป่าดังแว่วมาแต่ไกล เฟลอร์ใจคอไม่ดีเหลือบมองสองข้างทางเผื่อว่าจะมีต้นไม้ให้เธอปีนหนีได้บ้าง แต่โชค



    ร้ายที่ไม่มีเลย เฟลอร์พยุงกายลุกขึ้น หัวเข่าของเธอคงแตก แต่หญิงสาวไม่มีเวลาใส่ใจดูรีบก้าวเดินต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×