ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่ห์จันทร์

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 891
      7
      6 พ.ค. 48

        ภายในบริเวณคฤหาสน์อันกว้างใหญ่ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนแสงไฟและเสียงดนตรี ดรุณีสองนางสนทนากันอยู่ภายในห้องแต่งตัว

        “นี่เฟลอร์ เธอช่วยดูให้ฉันหน่อยสิ ทำผมทรงนี้ดีหรือยัง”



        “สวยจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้วจ๊ะ” หญิงสาวตอบประชด “ว่าแต่เราจะได้ออกไปกันหรือยัง ฉันนั่งคอยเธอมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ หิวจนไส้กิ่วแล้ว”



        “ที่แท้ตะกละนี่เอง ไอ้เราก็นึกว่าอยากจะออกไปรีบอวดสวย” ผู้เป็นเพื่อนว่า



        “ว่าแต่ฉันไม่น่ามาเลย ไม่รู้จักใครสักคน” หญิงสาวร่างสูงโปร่งนามว่าเฟลอร์รำพึงขึ้นอย่างอึดอัดใจ



        “เอาเถอะน่า มีฉันอยู่ทั้งคน กลัวอะไร”



        “แล้วฉันจะคอยดูว่าถ้าเธอเห็นหนุ่ม ๆ แล้วจะทิ้งเพื่อนไหม เมลานี” เฟลอร์เอ่ยยิ้ม ๆ



        “แหม เธอก็พูดไปได้ ฉันไม่ใช่คนอย่างนั้นสักหน่อย”



        ว่าแล้วทั้งสองก็พากันเดินจูงมือออกไปยังบริเวณงาน



        ทันทีที่หญิงสาวทั้งสองปรากฏตัวขึ้น ผู้คนต่างก็พากันเหลียวมามองเป็นตาเดียว เนื่องจากเมลานีเป็นบุตรสาวของคหบดีเจ้าของบ้านซึ่งมีกิตติศัพท์ในด้านความร่ำรวย ส่วนหญิงสาวอีกนางหนึ่งก็งดงามจนแทบไม่อาจละสายตาไปได้ ทั้งสองจึงกลายเป็นจุดสนใจของงานไปในทันที



        “เห็นไหมเมลานี ฉันบอกแล้วว่าให้เธอเร็ว ๆ ดูสิ เราออกมาสายจนคนอื่นหันมามองกันใหญ่แล้ว” เฟลอร์หันไปกระซิบกับเมลานีอย่างอึดอัด



        “ไม่ใช่เพราะเราออกมาสายหรอกย่ะ เป็นเพราะเรา “สวย” ต่างหาก” เมลานีจงใจเน้นคำว่าสวยเป็นพิเศษ เพราะเพื่อนของตนดูจะไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นจุดเด่นมากเพียงใด



        “อ่า... งั้นฉันขอไปยืนหลบอยู่ตรงมุมห้องก่อนนะ มันเขิน ๆ ยังไงก็ไม่รู้” ว่าแล้วก็รีบเดินหนีไปทันทีแต่เมลานีฉุดแขนเรียวไว้



        “ไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปแนะนำตัวให้คนในงานรู้จักนะ เธอยืนเฉย ๆ ก็พอ” เมลานีบอกยิ้ม ๆ



        พูดยังไม่ทันขาดคำ บรรดาหญิงวัยกลางคนก็ทยอยกันเข้ามาทักทายเมลานีไม่ขาดระยะ



        “เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหมจ๊ะหนูเมลานี ลูกชายป้าบ่นคิดถึงหนูเหลือเกิน ไม่เห็นแวะไปเยี่ยมที่บ้านบ้างล่ะจ๊ะ”



        เมลานีได้แต่ยิ้ม ๆ ยังไม่ทันตอบ อีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาทันที



        “อ๊ะ หนูเมลานีอยู่นี่น่ะเอง เอ็ดเวิร์ดน่ะตามหาหนูตั้งนาน เอ้า มานี่สิเอ็ดเวิร์ด ทักทายน้องหน่อยสิลูก” ว่าแล้วก็ฉุดชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาตรงหน้าเมลานี



        ก่อนที่จะเกิดสงครามแย่งชิงเมลานีเป็นลูกสะใภ้กันมากไปกว่านี้ เมลานีก็เอ่ยขึ้นกับบรรดาแม่ ๆ ซึ่งพยายามเชียร์ลูกชายของตัวเองว่า



        “หนูขอแนะนำให้รู้จักเพื่อนหนูค่ะ เฟลอร์ เดอโฟ” เฟลอร์ยืนอยู่ข้าง ๆ สะดุ้งขึ้นทันที เธอนามสกุลฟลอเรนซ์แท้ ๆ ทำไมเมลานีจึงแนะนำไปเช่นนั้น



        “เอ... นามสกุลคุ้น ๆ นะ แต่นึกไม่ออก เป็นลูกเต้าเหล่าใครหรือจ๊ะ” หนึ่งในบรรดาป้า ๆ แสร้งเอ่ยขึ้นอย่างหยั่งเชิง



        “ก็ตระกูลขุนนางฝรั่งเศสไงคะ พอดีคุณพ่อติดต่อธุรกิจด้วย เราก็เลยรู้จักกัน”



        เพียงเท่านี้ทุกคนก็ถึงบางอ้อ



        “เอ๊ะ ตระกูลนี้เป็นตระกูลเก่าแก่ของฝรั่งเศสเลยนี่นา จริงหรือจ๊ะเนี่ย ต๊าย ตาย หนูเมลานีนี่โชคดีนะคะที่ได้รู้จักคนระดับนี้ด้วย”



        เพียงเท่านี้ทุกคนก็เริ่มฮือฮาและความสนใจก็มารวมอยู่ที่เฟลอร์ ซึ่งแต่แรกไม่มีคนสนใจ เมลานีแอบกระซิบกับเฟลอร์เบา ๆ



        “เฟลอร์ เธอต้องพูดภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศสนะ จะได้แนบเนียน เธอคงจะยังไม่ลืมภาษาฝรั่งเศสหรอกนะ เห็นได้ท็อปประจำนี่ตอนอยู่คอนแวนต์”



        เฟลอร์ถลึงตามองเพื่อนที่แกล้งตนเช่นนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากบรรดาไฮโซไฮซ้อที่รุมเข้ามาซักถามด้วยคำถามมากมาย ซึ่งเธอก็ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง ส่วนใหญ่ได้แต่ยิ้ม ๆ ตามแบบฉบับผู้ดีที่ไร้สมอง ท้ายที่สุดหญิงสาวทนฝืนยิ้มต่อไปไม่ไหว จึงเอ่ยปากขอตัว เมลานีเพื่อนซี้ได้หายตัวไปตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ เฟลอร์จึงเดินเตร็ดเตร่ออกไปยังระเบียงเพียงลำพัง



        หญิงสาวยืนเท้าระเบียงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าพลางถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน สังคมชั้นสูงเป็นอย่างนี้นี่เอง มิน่าเมลานีถึงเบื่อนัก ยังไม่ทันหันหลังกลับหญิงสาวก็ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอดังมาจากเบื้องหลัง เธอหันกลับไปพบร่างสูงยืนพิงประตูอยู่ในเงามืด ยังไม่ทันเอ่ยคำใด น้ำเสียงเยาะหยันก็ลอยมา



        “เล่นละครได้เก่งนี่ เฟลอร์ เดอโฟ”



        หญิงสาวรู้สึกชาวาบไปทั้งตัวด้วยความอับอายเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อเธอโดยเน้นคำว่า “เดอโฟ” เป็นพิเศษ



        “คุณเป็นใครน่ะ” หญิงสาวถามน้ำเสียงขุ่น



        “เป็นใครไม่สำคัญ แต่ผมรู้จักกับตระกูลเดอโฟเป็นอย่างดี และไม่เคยรู้ว่าพวกเขามีบุตรสาวที่สวยอย่างคุณ”



        เฟลอร์หน้าตึงขึ้นมาทันที ชายหนุ่มสาวเท้าออกมาจากเงามืด เขาเป็นชายร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาฉาบไว้ด้วยสีหน้ายิ้มเยาะ หญิงสาวโกรธกรุ่น สาวเท้าจะกลับเข้าไปในงาน แต่แล้วเสียงของชายหนุ่มก็ดังขัดขึ้นอีก



        “อ๊ะ ๆ จะรีบไปไหนกันคุณ อยู่คุยกันก่อนสิ หรือว่ายอมรับความจริงไม่ได้”



        ดวงตาสีน้ำตาลของเฟลอร์เป็นประกายวับด้วยความโกรธเห็นได้ชัดท่ามกลางแสงจันทร์ที่อาบไล้ใบหน้านวล ตากลมราวกับตากวางนั้นมีมนต์เสน่ห์ทำให้ชายหนุ่มถึงกับต้องหยุดพินิจ



        “อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันจะเป็นยังไงก็เรื่องของฉัน”



        “หึ ความจริงผมว่าคุณก็สวยดี เสียแต่ขี้โกหก ความจริง ถ้าคุณต้องการเข้าสังคมของพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องโกหกแบบนี้เลยนี่ แถวนี้มีผู้ชายหน้าโง่มากพอที่จะยอมให้คุณหลอกอยู่แล้ว”



        เฟลอร์สุดที่จะทนต่อถ้อยคำหยามหมิ่นของเขาได้อีกต่อไป หญิงสาวลืมตัวสะบัดฝ่ามือตบหน้าชายหนุ่มอย่างแรง ใบหน้าของเขาสะบัดไปตามแรงตบนั้น แต่ก่อนที่เฟลอร์จะรู้ตัว เขาก็รวบหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน



        “ทำไม โกรธหรือไงที่ผมพูดความจริง ผู้หญิงอย่างคุณไม่มีราคาอะไรเลย ดีแต่หลอกผู้ชาย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกร้าว ตาต่อตาประสานกัน ต่างฝ่ายเต็มไปด้วยโทสะ



        ก่อนที่เหตุการณ์จะดำเนินไปรุนแรงกว่านี้ ก็มีเสียงของเมลานีดังขึ้น



        “เฟลอร์ อ้าว เมื่อกี๊เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ”



        ชายหนุ่มได้สติ ปล่อยหญิงสาวออกจากวงแขน เขาเดินออกมาจากหลืบข้างประตู



        “อ้าว ลอร์ดเจมส์ หลบอยู่ที่นี่เองหรือคะ หรือว่างานไม่สนุก” เมลานีทักทายอย่างเป็นกันเอง



        ชายหนุ่มเพียงแต่ยิ้ม ๆ โชคดีที่บริเวณนั้นมืดสลัว เมลานีจึงไม่สังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของเขา



        เฟลอร์ยืนสงบสติอารมณ์อยู่ได้ยินบทสนทนาระหว่างคนทั้งสอง ค่อยเดินสมทบออกมาทีหลัง เมื่อเห็นเฟลอร์ เมลานีก็รีบแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน



        “เรารู้จักกันแล้วครับ” เฮนรี่ เจมส์ เอ่ยขัดขึ้นก่อนที่เมลานีจะแนะนำทั้งสอง “นี่คือ คุณเฟลอร์ เดอโฟ ใช่ไหมครับ” เขายิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก จงใจเน้นคำว่า “เดอโฟ” เป็นพิเศษเช่นเคย



        เมลานีอึ้งไปเนื่องจากคิดว่าจะแนะนำเฟลอร์ด้วยชื่อจริงไม่คาดว่าลอร์ดเจมส์จะได้ยินเรื่องโกหกที่เธอพูดไปกับบรรดาป้า ๆ เมื่อครู่



        “เอ่อ ใช่ค่ะ ท่านรู้จักได้ยังไงคะ” เมลานีได้แต่รับสมอ้างไปตามแกน



        “เมื่อครู่ผมได้ยินตอนคุณแนะนำให้พวกคุณหญิงน่ะครับ ไม่คาดว่าคุณจะรู้จักกับบุตรีของตระกูล “เดอโฟ” ด้วย”



        เฟลอร์ตวัดสายตามองเขาอย่างขุ่นเคือง รู้ดีว่าเขากำลังยั่วพวกหล่อนเล่น แต่เฮนรี่ไม่สนใจกลับยิ้มตอบมาอย่างท้าทาย



        เมลานีเริ่มรู้สึกถึงความตึงเครียดระหว่างบุคคลทั้งสอง จึงรีบเอ่ยขอตัว



        “เดี๋ยวดิฉันขอตัวก่อนนะคะ จะพาเฟลอร์ไปรู้จักใครบางคนน่ะค่ะ ขอให้สนุกกับงานนะคะลอร์ดเจมส์” ว่าแล้วก็รีบจูงมือเฟลอร์ผละไปไม่เหลียวหลัง



        เฮนรี่ยกมือขึ้นลูบแก้ม ผู้หญิงคนนี้ร้ายไม่ใช่เล่นทีเดียว แต่หล่อนก็สวยถูกใจเขา ยิ่งเมื่อได้เห็นใกล้ ๆ แสงจันทร์อาบไล้ร่างนั้นนวลเนียนมีเสน่ห์เหลือเกิน แต่แล้วเขาก็รีบปัดความคิดนี้ทิ้ง ผู้หญิงประเภทนี้ไม่คู่ควรกับคนอย่างเขาไม่ว่าหล่อนจะสวยงามสักเพียงใด



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×