เผ่าพันธุ์
ฝ่ายแสงสว่าง
มนุษย์ (Human)§
เผ่าพันธุ์ที่อิทธิพลมากที่สุดและมีจำนวนมากที่สุดเช่นกัน อายุขัยของมนุษย์จะอยู่ที่ราวๆ80ปีซึ่งถือว่าสั้นที่สุดในทุกๆเผ่าพันธุ์(ยกเว้นพวกฮาล์ฟ)ในอดีตจึงถูกกล่าวว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุด แต่มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้และปรับตัวได้เร็วหลังจากได้รับการสั่งสอนเวทมนตร์จากเอลฟ์และการฝึกฝน มนุษย์ได้ร่วมมือกับเอลฟ์ขับไล่ออร์คและดาร์คเอลฟ์รวมทั้งอสูรกายออกไปได้ หลังสงครามจบลงฝ่ายมนุษย์เป็นผู้ได้ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของดินแดนเอาไว้
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ สามารถเป็นได้ทุกอาชีพทุกความสามารถเพียงแต่จะไม่มีสิ่งใดที่โดดเด่นเหมาะสมเป็นพิเศษ ที่โดดเด่นที่สุดสำหรับเผ่านี้ก็คือความสามารถด้านการปรับตัวการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน โดยไม่สนว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายหรือดีงาม อยู่ที่นำไปใช้อย่างไร
เอลฟ์ (Elf)§
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับการกล่าวว่ามีเชื้อสายของเทพ อยู่ในตัว รักธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต เอลฟ์มีรูปร่างผอมและคล่องแคล่ว หูยาว มีลักษณะสวยงามและมีอายุขัยยืนยาวถึง700ปีจนบางครั้งถูกเข้าใจว่าเป็นเผ่าพันธุ์อมตะ ในช่วงสมัยทำสงครามกับอสูรกาย เอลฟ์เปรียบได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีตำแหน่งสูงสุด อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามจบลง อำนาจและอิทธิพลของเอลฟ์ก็ลดน้อยลงด้วย ตอนนี้พวกเขาอาศัยอยู่เพียงส่วนหนึ่งของป่าในทวีปเท่านั้นเอง
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ เอลฟ์ฉลาดและไหวพริบดี มีความสามารถในการคิดคำนวณได้อย่างรวดเร็ว มีความว่องไวในการต่อสู้และการเคลื่อนไหวหลบหลีก นอกจากนี้เอลฟ์ยังสามารถกลั้นหายใจในน้ำได้นานกว่าและสามารถกระโดดจากที่สูงได้ดีกว่า และที่โดดเด่นที่สุดก็คือพวกเอลฟ์มีความสามารถในการใช้เวทฟื้นฟูแทบทุกคนและมีทักษะการยิงธนูที่เหนือกว่าเผ่าอื่นๆอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งด้านร่างกายของพวกเขาก็ด้อยกว่าเผ่าพันธุ์อื่นอยู่ดี
*เผ่าเอลฟ์ที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ไม่สามารถเลือกสายอาชีพหมอผี(Necromancer)และสายย่อยของอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้
ดวอร์ฟ (Dwarf)§
เผ่าดวอร์ฟหรือเผ่าคนแคระ มีรูปร่างเตี้ยและตัน สูงอย่างมาก150ซ.ม. ผู้ชายจะมีหนวดเคราขึ้นเร็วมากส่วนผู้หญิงจะมีรูปร่างเป็นเด็กผู้หญิงอยู่นาน มีอายุขัยราว150ปีบางครั้งถูกเรียกว่าเผ่าคนแคระ มีความอยากรู้อยากเห็นมาตั้งแต่เกิด จากการล่มสลายลงของเผ่าพันธุ์ความมืดและอสูรกาย พวกดวอร์ฟมักจะพยายามเข้าข้างพวกที่มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นเผ่าพันธุ์ที่อยู่โดดเดี่ยวเนื่องจากเผ่าอื่นไม่ชอบที่พวกเขามีนิสัยค้าขายเอากำไรเกินตัวแต่นั้นก็ทำให้ชนเผ่านี้มีรายการทรัพย์สินมากกว่าของเผ่าอื่นๆ
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ เผ่าพันธุ์ดวอร์ฟนั้นมีร่างกายที่แข็งแรงและเต็มไปด้วยทักษะ พวกเขาเป็นวิศวกรที่มีฝีมือยอดเยี่ยม มีทักษะด้านการคิดคำนวณและมีความสามารถเป็นเลิศในงานฝีมือต่างๆ รวมทั้งการผลิตเครื่องมือ อาวุธและอุปกรณ์เวทออกมาด้วย แต่พวกเขากลับแทบจะไม่มีความสามารถด้านเวทมนตร์ในการต่อสู้เลย อย่างมากก็แค่ใช้เพิ่มพลังกายเท่านั้น
*เผ่าดวอร์ฟที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์สามารถเลือกสายอาชีพนักวิทยาศาสตร์(Scientist) ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ฝ่ายความมืด
ออร์ค (Orc)§
เผ่าพันธุ์ที่มีความสามารถด้านร่างกายสูงสุด พวกออร์คมีรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายสีเขียวจนถึงออกน้ำตาลมีอายุขัยราว100ปี นิสัยก้าวร้าว รุนแรงและกระหายเลือด ด้วยความร่วมมือจากดาร์คเอลฟ์พวกเขาเคยครอบครองตำแหน่งผู้ที่ทรงอำนาจสูงสุดในดินแดน อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้พ่ายแพ้ต่อกองกำลังของเอล์ฟและมนุษย์ จนกระจัดกระจายไปยังที่ต่างๆ
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ เผ่าออร์คมีร่างกายที่แข็งแรงทนทานและยังมีความสามารถฟื้นตัวได้เร็ว แถมยังมีพละกำลังมหาศาล ทนทานต่อยาพิษและความเจ็บปวดได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม พวกเขามีการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าทำให้ความเร็วในการโจมตีและการหลบหลีกต่ำ
*เผ่าออร์คที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์สามารถเลือกสายอาชีพนักรบเวทย์(Warrior Magician) (ยกเว้นสายนักรบศักดิ์สิทธิ์) ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
§ ดาร์คเอลฟ์ (Darkelf)
เผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ เคยเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าเอลฟ์ แต่ถูกเนรเทศหลังจากที่พวกเขาเริ่มเรียนมนตร์ดำเพื่อที่จะต่อต้านมนุษย์และหันไปร่วมมือกับพวกออร์ค พวกเขาพ่ายแพ้ในสงครามจนสูญเสียการคงอยู่ของเผ่าพันธุ์แต่พวกเขาก็ยังเรียนมนตร์ดำต่อไป ดาร์คเอลฟ์มีรูปร่างคล้ายเอลฟ์ เพียงแต่พวกเขาสูงกว่า มีผิวสีออกเทาและผมสีเงินหรือดำสนิท มีอายุขัยราว600ปีซึ่งน้อยกว่าเอลฟ์ทั่วไปเล็กน้อย
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ คล้ายกับเอลฟ์นั้นก็คือ สามารถกลั้นหายใจในน้ำได้นานกว่าและสามารถกระโดดจากที่สูงได้ดีกว่า เพียงแต่พวกเขาจะไม่ว่องไวเท่าและไม่มีเวทฟื้นฟูพลังเหมือนเอลฟ์ แต่จะมีพลังทำลายที่รุนแรงเด็ดขาดกว่าเข้ามาแทน
*เผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ไม่สามารถเลือกอาชีพบาทหลวง(Priest) และสายย่อยของอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้
ฝ่ายอสูรกาย
อสูรกาย§
สิ่งมีชีวิตที่รูปร่างผิดเพี้ยนไปจากปรกติ เต็มไปด้วยพลังอำนาจและความบ้าคลั่ง พวกมันใช้ร่างกายของตัวเองเป็นอาวุธซึ่งแตกต่างกันไปพวกมันก็เหมือนเผ่าพันธุ์อื่นๆ มีตั้งแต่ระดับเบี้ยล่างที่คอยทำงานไปจนถึงระดับแม่ทัพที่ความสามารถสูงและมีความคิดอ่านฉลาดหลักแหลม รวมถึงบางตัวอาจสามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วย พวกมันถูกโจมตีจนแตกพ่ายไร้อาณาเขตในสงคราม ไม่มีใครรู้ว่าพวกที่ยังหลงเหลือหลบซ่อนอยู่ที่ใด และกำลังสะสมกำลังเพื่อหวังที่จะกลับมาทวงอาณาเขตของมันคืนหรือไม่
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ แตกต่างกันไปตามแต่แต่ล่ะตัว ไม่อาจคาดเดาหรือจินตนาการได้
*เผ่าอสูรกายไม่จำเป็นต้องเลือกอาชีพ เขียนมาเพียงรูปลักษณ์ภายนอกและความสามารถโดยละเอียด
พวกฮาล์ฟ
พวกฮาล์ฟหรือพวกลูกครึ่งเหล่านี้ถือเป็นของหายากที่มีจำนวนน้อยถึงน้อยมาก โดยพวกฮาล์ฟเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเกิดจากความบังเอิญที่พ่อแม่ต่างเผ่าพันธุ์กันเพียงอย่างเดียว พวกเขาอาจเกิดจากคำสาป,ความผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์ หรือผลข้างเคียงอื่นๆก็เป็นได้ พวกฮาล์ฟเหล่านี้ส่วนมากจะถูกรังเกียจโดยสังคมของหลายๆเผ่าพันธุ์และพวกเขาจะปักหลักเป็นกำลังอยู่ฝ่ายไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวของเค้าเอง
ฮาล์ฟเอลฟ์ (เอลฟ์ + มนุษย์)§
ลูกครึ่งระหว่างเอล์ฟกับมนุษย์ มีลักษณะภายนอกสวยสง่างามมีกล้ามเนื้อแต่ผอมกว่ามนุษย์ หูแหลมแต่ไม่ยาวเท่าเอล์ฟ มีอายุขัยราว180ปี สามารถใช้เวทฟื้นฟูได้เช่นเดียวกับเอล์ฟแต่ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนมาจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถรักษาคนอื่นได้ จุดเด่นคือมีความสามารถในการเรียนรู้ที่ดีกว่าและความอึดมากกว่าเอลฟ์ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นระยะเวลานาน มีร่างกายยืดยุ่นคล่องแคล่วกว่าและมีความสามารถด้านเวทมนตร์สูงกว่ามนุษย์
*เผ่าฮาล์ฟเอลฟ์ที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ไม่สามารถเลือกสายอาชีพหมอผี(Necromancer)และสายย่อยของอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้
ฮาล์ฟควอร์ฟ (ดวอร์ฟ + มนุษย์)§
ลูกครึ่งระหว่างดวอร์ฟกับมนุษย์ มีส่วนสูงที่มากกว่าดวอร์ฟแต่เตี้ยกว่ามนุษย์สูงที่สุดจะอยู่ที่ราวๆ150-160ซม. มีอายุขัยราว120ปีส่วนใหญ่มีนิสัยฉลาดแกมโกง เพศชายจะมีหนวดเคราขึ้นเร็วกว่ามนุษย์ปกติส่วนเพศหญิงจะมีช่วงวัยที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นเด็กยาวนานกว่า มีความแข็งแกร่งของร่างกายมากกว่ามนุษย์ทั่วไปและบางคนสามารถใช้เวทมนตร์ได้
*เผ่าฮาล์ฟดวอร์ฟที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์สามารถเลือกสายอาชีพเป็นนักรบเวทย์ (Warrior Magician)หรือนักวิทยาศาสตร์ (Scientist) สายใดสายหนึ่งเท่านั้น
§ ฮาล์ฟออร์ค (ออร์ค + มนุษย์)
ลูกครึ่งระหว่างออร์คกับมนุษย์ มีร่างกายใหญ่โตบึกบึนแต่ไม่สูงไปกว่ามนุษย์และท่าทางดุร้ายไม่ว่าชายหรือหญิง อายุขัยราว75ปี ส่วนใหญ่จะมีนิสัยชอบความรุนแรงซึ่งก็แล้วแต่นิสัยส่วนตัวด้วย พวกเขามีร่างกายแข็งแรงมีพลังฟื้นตัวมากกว่ามนุษย์ ทนทานต่อยาพิษระดับต้นๆและความเจ็บปวดได้ในระดับหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและความคล่องตัวมากกว่าออร์คทั่วไป
*เผ่าฮาล์ฟออร์คที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์สามารถเลือกสายอาชีพนักรบเวทย์(Warrior Magician) ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ฮาล์ฟดาร์คเอลฟ์ (ดาร์คเอลฟ์ +§ มนุษย์)
ลูกครึ่งระหว่างดาร์คเอลฟ์กับมนุษย์ มีร่างกายผอมสูงกว่ามนุษย์ทั่วไปและมีผิวสีฟ้าอมเทา หูแหลมแต่ไม่ยาว มีอายุขัยราว150ปี มีพลังเวทสูงส่งรวมทั้งยังคล่องแคล่วว่องไวกว่ามาก พวกเขามีพลังเวทแฝงอยู่ในการโจมตีทุกชนิดแทบทุกคนไม่ว่าจะเป็นจอมเวทหรือไม่ทำให้พวกเขามีความรุนแรงในการโจมตีที่เหนือมนุษย์ รวมทั้งความอึดที่รับการโจมตีและการเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานานได้ดีกว่าดาร์คเอลฟ์
*เผ่าฮาล์ฟดาร์คเอลฟ์ที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ไม่สามารถเลือกอาชีพบาทหลวง(Priest) และสายย่อยของอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้
เกรย์เอลฟ์ (ดาร์คเอลฟ์ +§ เอลฟ์)
เอล์ฟสีเทา ปาฏิหาริย์แห่งสองเผ่าพันธุ์ การผสานรวมสายเลือดของเอล์ฟทั้งความมืดและแสงสว่างเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ การที่ดาร์คเอลฟ์และเอล์ฟจะมาจับคู่กันได้นั้นก็ยากพออยู่แล้ว และถึงจะมาจับคู่กันได้ก็มีโอกาสไม่ถึงหนึ่งในหมื่นที่จะกำเนิดออกมาเป็นเกรย์เอล์ฟ ทำให้พวกเขามีจำนวนน้อยที่สุดในดินแดน พวกเขามีรูปร่างผอมสูงมีผิวและเส้นผมสีเงินส่องสว่างมีอายุขัยราว500ปี และมีความสามารถทั้งสองด้านแบบที่ธรรมชาติไม่สามารถสร้างได้ นอกจากความสามารถพื้นฐานของเอล์ฟทั่วๆไปแล้ว เกรย์เอลฟ์สามารถใช้เวทฟื้นฟูได้เหมือนเอล์ฟ ใช้มนตร์ดำได้เหมือนดาร์คเอลฟ์ มีความคล่องแคล่วว่องไวหมือนเอล์ฟและมีความรุนแรงเด็ดขาดในการโจมตีเหมือนดาร์คเอล์ฟ จุดอ่อนจุดเดียวที่ยังคงมีอยู่คือความแข็งแรงของร่างกายนั้นเอง
*เผ่าเกรย์เอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์เดียวที่สามารถใช้ความสามารถของหมอผี (Necromancer) และบาทหลวง (Priest)ร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
§ ฮาล์ฟครีเจอร์ (เผ่าพันธุ์ใดๆ + อสูรกาย)
อีกชื่อหนึ่งที่ถูกเรียกคือเผ่าพันธุ์ต้องสาปเนื่องจากมีร่างกายผิดแปลกไปจากปกติสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเผ่าพันธุ์และหลากหลายสาเหตุต่างๆกันไป โดยอาจจะมีร่างกายบางส่วนที่ผิดแปลกกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นไป ในยุคแรกเหล่าฮาล์ฟครีเจอร์ถูกสังคมรังเกียจเป็นอย่างมาก แต่ในภายหลังได้มีการยอมรับมากขึ้นจนบางคนสามารถอยู่ในสังคมตามปกติได้ โดยร่างกายที่ผิดเพี้ยนเหล่านั้นอาจจะมีประโยชน์ต่อการต่อสู้หรือไม่ก็ได้ เช่นมีหูและหางเหมือนแมว มีแขนขาเป็นหมีหรือมีปีกเหมือนมังกร โดยนอกจากร่างกายที่ผิดเพี้ยนไปเหล่านี้พวกเขาก็ยังคงมีคุณสมบัติของเผ่าพันธุ์เดิมอยู่อย่างครบถ้วน
สายอาชีพพื้นฐาน
โดยแต่ละตัวละครไม่จำเป็นต้องมีความสามารถของสายอาชีพเดียว อาจจะนำมารวมกันได้ แต่ก็จำเป็นต้องจำกัดวงอยู่ในความเหมาะสม เช่น ใช้เวทย์ลมของจอมขมังเวทย์ธาตุ และใช้เวทแสงของบาทหลวงได้ เป็นต้น โดยระดับของเวทที่ใช้ได้ก็จะเฉลี่ยๆกันไป มีเพียงแค่เวทแสงและความมืดเท่านั้นที่นำมาใช้ร่วมกันไม่ได้
------------------------------------------------------------------------------------------------------
จอมขมังเวทย์ธาตุ (Element Master)
- จอมเวทย์ผู้ควบคุมพลังแห่งธาตุทั้ง6คือดิน,น้ำ,ลม,ไฟ,สายฟ้า,น้ำแข็ง สายนี้แล้วแต่ผู้จะเลือกว่าจะควบคุมธาตุใด สามารถเลือกควบคุมทั้ง6ธาตุได้แต่พลังควบคุมก็จะลดลงไปด้วย ดังนั้นจอมเวทย์สายนี้ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ไม่เกิน2ธาตุเพื่อความคล่องแคล่วและรุนแรงในการใช้ มีจุดอ่อนในการจู่โจมระยะประชิดและความอ่อนแอทางกายภาพ
ข้อมูลโดยละเอียด
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Element Master หรือจอมขมังเวทย์ธาตุ พลังความสามารถที่ดูธรรมดาๆทำให้หลายคนคิดว่าอาชีพนี้คงจะไม่มีอะไรมากนัก ทั้งๆที่จริงๆแล้วในขั้นสูงของอาชีพนี้นั้นมีความน่ากลัวมากกว่าขั้นต้นมากมายนัก วันนี้เรามารู้จักความน่ากลัวที่ซ้อนอยู่ในตัวของจอมขมังเวทย์ธาตุกันครับ
จอมขมังเวทย์ธาตุในขั้นสูงสามารถแบ่งสายตามที่ถนัดได้ดังนี้ครับ
1.สายธาตุต้น
- สายนี้จะยังคงความสามารถในขั้นต้นเอาไว้เกือบทุกประการคือการควบคุมธาตุทั้ง6ได้แก่ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ,สายฟ้า,น้ำแข็ง ซึ่งเมื่ออยู่ในระดับสูงขึ้นพลังการควบคุมก็จะยิ่งมากขึ้นตามลำดับอย่างน่ากลัวแบบที่ไม่มีอาชีพใดทำได้ เช่น ธาตุไฟอาจจะสามารถระเบิดปราสาททั้งหลังให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้ในทีเดียว ธาตุน้ำก็สามารถเรียกน้ำท่วมเมืองได้ในพริบตา ธาตุลมก็สามารถสร้างและบังคับพายุทอนนาโดได้ ธาตุดินสามารถสร้างแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และแยกแผ่นดินออกได้ ธาตุสายฟ้าก็สามารถเรียกฟ้าผ่าได้ตามใจคิดหรือสร้างกระแสไฟฟ้าได้ไร้ขีดจำกัด และสายน้ำแข็งก็สามารถทำให้เมืองเล็กๆกลายเป็นขั้วโลกเหนือได้พริบตา โดยถ้ายิ่งควบคุมหลายธาตุความสามารถจะถูกทอนลงไปตามลำดับ แต่ความสามารถทั้งหลายทั้งปวงนั้นยังไม่สามารถเทียบได้กับเวทย์สูงสุดของสายนี้ที่เหล่าElement Masterทุกๆคนใฝ่ฝัน นั้นก็คือเวทย์ในตำนานที่น้อยคนจะฝึกสำเร็จ เวทย์ เอลละเมินทอล บอดี้ (Elemental Body)
2.สายธาตุแปลง
- สายนี้จะมีความสามารถที่เปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นไปจากเดิมตามที่แต่ละคนถนัด โดยที่ความสามารถธาตุเดิมก็ยังคงอยู่แต่จะไม่พัฒนาไปมากเท่ากับสายธาตุต้นโดยจะมีความสามารถที่พลิกแพลงจากเดิมเพิ่มขึ้นมาเช่น ธาตุไฟสามารถควบคุม’ลาวา’และดันแม็กม่าที่อยู่ใต้ดินให้ระเบิดออกมาเป็นภูเขาไฟได้ ธาตุน้ำสามารถควบคุม’การหักเหของแสง’ได้ ซึ่งก็คือสามารถสร้างภาพลวงตาหลอกศัตรูได้ ธาตุลมสามารถควบคุม’อากาศ’ ซึ่งสามารถทำให้บริเวณใดก็ได้กลายเป็นสุญญากาศและใช้แรงดันอากาศโจมตีได้ ธาตุดินสามารถควบคุม’หินและโลหะอื่นๆ’ได้ตามใจชอบทำให้สามารถดึงธาตุต่างๆออกมาจากวัตถุได้ด้วย ธาตุสายฟ้าสามารถควบคุม’สนามแม่เหล็ก’ ได้ก็จะสามารถบังคับวัตถุให้ดูดและผลักกันได้อย่างอิสระ และธาตุน้ำแข็งสามารถควบคุม’เงาสะท้อน’ของสิ่งต่างๆ ทำให้สามารถสร้างภาพหลอนและเปลี่ยนเงาสะท้อนให้ออกมาสู้กับเจ้าของเงาเองได้ โดยทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น การใช้งานจริงจะซับซ้อนและน่ากลัวกว่านี้มาก ในขั้นสูงนั้นจอมขมังเวทย์ธาตุในสายนี้อาจจะเป็นอาชีพที่น่าหวาดหวั่นที่สุดก็เป็นได้
------------------------------------------------------------------------------------------------------
หมอผี (Necromancer)
- จอมเวทย์ผู้เลือกเส้นทางแห่งความตาย เชี่ยวชาญในการควบคุมโครงกระดูกและศพของสิ่งมีชีวิต อีกทั้งยังมีความสามารถในการปรุงยาพิษและคำสาบที่หลากหลาย เป็นสายที่มีความยากและซับซ้อนมากในการเรียน
ข้อมูลโดยละเอียด
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
Necromancer หรือที่รู้จักกันในนามหมอผีนั้นเอง ในวันนี้เราจะมารู้จักกับผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในด้านมืดของผู้ใช้เวทย์มนตร์กันนะครับว่าความน่ากลัวของพวกเขาจะมีอะไรบ้าง
หมอผีในขั้นสูงสามารถแบ่งสายที่ถนัดออกได้ดังนี้ครับ
1.สายปลุกศพ และโครงกระดูก
- สายนี้จะอยู่ด้วยกันขึ้นอยู่กับว่าถนัดอย่างไหนมากว่าแต่ส่วนมากจะเฉลี่ยๆกันไป ถ้าเป็นปลุกศพจะยุ่งเกี่ยวกับศพเป็นหลัก ตั้งแต่พื้นๆก็คือปลุกศพมาช่วยต่อสู้ ไปจนถึงดัดแปลงและเพิ่มพลังต่างๆให้กับศพ รวมทั้งการสร้างเหล่าซอมบี้ไร้วันตาย,โกเล็มและอสูรรับใช้ออกมาด้วย ส่วนโครงกระดูกก็จะเป็นการควบคุมโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้เป็นกองทัพ ไปจนถึงการแยกส่วนใช้งานและประกอบร่างใหม่
2.สายวิญญาณและความตาย
- สายนี้จะข้องเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จะเน้นการเรียกวิญญาณออกมาเป็นเครื่องมือในการป้องกันและโจมตี ยิ่งวิญญาณที่ใช้อยู่ในระดับสูงมากเท่าไรพลังก็จะยิ่งมากขึ้นและสามารถใช้พลังของผู้ที่ตายไปแล้วได้ด้วยการเข้าทรง นอกจากนี้ยังเป็นอาชีพสายเดียวนอกจากบาทหลวงที่ในขั้นสูงสามารถทำการฟื้นชีพสิ่งมีชีวิตได้ด้วยการเรียกวิญญาณกลับมาใส่ในร่างเทียมแต่ชีวิตที่ฟื้นขึ้นมานั้นก็เป็นเพียงชีวิตที่ถูกสาบอยู่ในร่างเนื้อไร้ความรู้สึกรอวันบุบสลาย เอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือของผู้เรียกเท่านั้น
3.สายเลือด,คำสาบและยาพิษ
- สายนี้เป็นตัวอันตรายที่สุดในบรรดา3สาย เป็นสายที่ไม่เน้นการเข้าปะทะกับศัตรูอย่างซึ่งหน้า แต่ใช้การลอบกัดและผลของคำสาบกับยาพิษเป็นหลัก โดยมากคำสาบในระดับสูงส่วนใหญ่จะต้องใช้เลือดด้วย จึงมีความสามารถในการใช้เลือดของตนเองเข้ามาเกี่ยวข้อง ในระดับสูงๆนั้นเลือดของหมอผีสายนี้เพียงหยดเดียวอาจฆ่าคนได้เป็นร้อย คำสาบนั้นมีตั้งแต่การปั่นป่วนสติคู่ต่อสู้ ทำให้เกิดการฆ่ากันเอง สะท้อนการโจมตีของผู้ถูกสาบกลับไปยังผู้โจมตี หรือแม้กระทั่งการปิดผนึกเวทย์มนตร์และการเคลื่อนไหวของเป้าหมาย แล้วปิดท้ายด้วยยาพิษอย่างโหดเ!้ยม
------------------------------------------------------------------------------------------------------
บาทหลวง (Priest)
- ผู้ปัดเป่าโรคร้ายหรือหมอนั้นเอง มีความสามารถในการรักษาและฟื้นฟูทุกชนิดตั้งแต่แผลเล็กๆไปจนถึงการถอนคำสาบและปรุงยาได้ทุกประเภท สายนี้เป็นสายที่จำเป็นต้องใช้ความทุ่มเทเป็นอย่างมากนอกจากความยากในการทำงานอุทิศตัวแล้วยังต้องศึกษาในเวทย์รักษาและการปรุงยาขั้นสูงอีกด้วย จุดหมายสูงสุดของอาชีพนี้คือเวทย์มนตร์ชุบชีวิต
ข้อมูลโดยละเอียด
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Priest บาทหลวง หรือถ้าเรียกให้เข้าใจง่ายๆก็คือหมอนั้นเอง ความสามารถหลักๆก็คือการรักษาคนเจ็บ แต่ก็ใช่ว่าจะต่อสู้ไม่ได้นะ วันนี้เราจะไปรู้จักกับสายอาชีพนักบุญนี้กันให้มากขึ้นครับ
บาทหลวงในขั้นสูงแบ่งสายออกเป็นดังนี้ครับ
1.สายสนับสนุน
- เป็นสายที่มีความสำคัญมากที่สุดในกลุ่มแต่ในขณะเดียวกันในการต่อสู้ก็พึ่งได้น้อยที่สุดเช่นกัน ความสามารถเกือบทั้งหมดอุทิศให้กับเวทย์เพิ่มความสามารถและรักษาบาดแผล สามารถทำได้ตั้งแต่รักษาบาดแผลเล็กๆไปจนถึงการถอนคำสาบได้ทุกชนิดและแก้พิษได้ทุกประเภท ผ่าตัดรักษาโรคร้ายต่างๆให้หายได้แถมยังปรุงยาได้อีกด้วย ในขั้นสูงๆนั้นเรียกได้ว่ามีโรงพยาบาลเคลื่อนที่เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเวทย์เพิ่มความสามารถต่างๆที่คอยสนับสนุนพวกพ้องเช่น เพิ่มความเร็ว,เพิ่มพละกำลัง,เพิ่มพลังเวทย์ รวมถึงการดึงพลังแฝงของคนๆนั้นออกมาให้เกิดความสามารถสูงสุด ดังนั้นอาชีพนี้จึงมีความสำคัญสร้างความได้เปรียบอย่างมากในการปะทะกันเป็นกลุ่ม และยังเป็นสายอาชีพเพียงหนึ่งเดียวที่มีโอกาสไปถึงจุดสูงสุดของเวทย์รักษานั้นก็คือศาสตร์แห่งการชุบชีวิต
2.สายศักดิ์สิทธิ์
- เป็นสายที่มีพลังป้องกันสูงที่สุดในบรรดาอาชีพทั้งหมด สายนี้เน้นไปที่การใช้เวทย์ศักดิ์สิทธิ์เข้าโจมตีศัตรูไม่เน้นการรักษามากนักซึ่งแพ้ทางซึ่งกันและกันกับพวกไร้วันตายและเวทย์สายความมืด บรรดาเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมีพลังสูงก็จริงแต่มีระยะเวลาในการร่ายค่อนข้างนานทำให้เปิดช่องว่างให้คู่ต่อสู้ ส่วนใหญ่จึงเน้นการป้องกันรวมทั้งบางคนก็ถือโล่เอาไว้ด้วยเพื่อกลบจุดอ่อนในด้านนี้ เวทย์ส่วนใหญ่เป็นเวทย์ที่มีวงกว้างและพลังทำลายน่ากลัวมากจึงมักเอาไว้ปิดเกมในคราวเดียวไม่เหมาะกับการต่อสู้ยืดเยื้อกินเวลา นอกนั้นก็จะเป็นเวทย์ที่เกี่ยวกับโล่หรือเวทย์ป้องกันตัวต่างๆที่สามารถปกป้องตนและพวกพ้องได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เวทย์สร้างเกราะพื้นๆไปจนถึงสร้างโล่ป้องกันที่ไม่มีอะไรมาทำลายได้ ในขั้นสูงเวทย์มนตร์ของสายนี้เพียงบทเดียวอาจทำลายศัตรูได้ทั้งกองทัพถ้ามีเวลามากพอ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
นักรบเวทย์ (Warrior Magician)
- นักรบที่ใช้การโจมตีทางกายภาพผสานกับการโจมตีด้วยเวทย์มนตร์ สายนี้มีความหลากหลายและพลิกแพลงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ เวทย์ส่วนใหญ่เป็นคาถาที่สั้นและรวดเร็ว สายนี้จำเป็นต้องกำหนดรูปแบบของอาวุธที่ใช้และสายของเวทย์ที่ใช้ร่วมว่าจะใช้สายใดโดยมากแล้วจะใช้กันไม่เกินสองสายเพื่อความสะดวกและรุนแรง
ข้อมูลโดยละเอียด
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Warrior Magician หรือ นักรบเวทย์ อาชีพกึ่งกลางระหว่างนักรบและนักเวทย์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะรูปแบบการต่อสู้ของสายอาชีพนี้ที่ดูเข้มแข็งและหลากหลายตรงใจใครหลายๆคน วันนี้เราจะได้รู้จักกับอาชีพยอดนิยมนี้กันให้มากขึ้นครับ
นักรบเวทย์แบ่งสายตามความถนัดได้ดังนี้ครับ
1.สายนักรบธาตุ
- สายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในทุกสาย ใช้การโจมตีด้วยอาวุธของตนผสานกับเวทย์ธาตุที่ถนัดเข้าเล่นงานคู่ต่อสู้ รูปแบบจะพลิกแพลงและหลากหลายขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นหลัก ทั้งอาวุธที่ใช้,ลักษณะของเวทย์และสายที่เลือกก็ล้วนมีผลต่อรูปแบบการต่อสู้ทั้งสิ้น เวทย์ธาตุที่ใช้จะไม่แข็งแกร่งเท่ากับพวกจอมขมังเวทย์ธาตุเพราะเวทย์ที่ใช้ส่วนมากจะเป็นบทที่สั้นและง่ายเพื่อความรวดเร็วในการเข้าปะทะกับศัตรู ด้วยความต่อเนื่องและรวดเร็วนี้ทำให้บางคนสามารถจัคการคู่ต่อสู้ได้ตั้งแต่ยังร่ายเวทย์ไม่เสร็จด้วยซ้ำไป
2.สายนักรบความมืด
- แม้ว่าจะจำกัดอยู่ในวงของเวทย์สายความมืดและความตายแต่ก็เป็นเป็นสายที่มีความหลากหลายอยู่ในตัวเองสูงพอสมควร เพราะมีรูปแบบที่เยอะมาก เช่น เวทย์เงา,เวทย์ความตาย,การปลุกศพและโครงกระดูก หรือแม้กระทั่งคำสาบของหมอผีก็สามารถใช้ได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นรูปแบบจึงไม่เหมือนกับพวกหมอผีแต่จะเน้นการนำมาพลิกแพลงควบคู่ไปกับอาวุธของตนเพื่อให้กลายเป็นรูปแบบของตัวเองขึ้นมา ความรุนแรงที่ลดน้อยลงถูกแทนที่ด้วยความหลากหลายและความต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นและอาจจะมีลูกพลิกเกมแปลกๆได้ตลอดเวลา ทำให้อาชีพนี้เป็นอีกหนึ่งสายที่ประมาทไม่ได้เลย
3.สายนักรบศักดิ์สิทธิ์
- รู้จักกันในนามของพาลาดิน ใช้อาวุธควบคู่ไปกับเวทย์ในสังกัดแสง รูปแบบมีทั้งการเน้นไปที่การโจมตีร่วมไปกับอาวุธด้วยเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือเน้นการป้องกันโดยใช้โล่และเวทย์ป้องกันต่างแต่ก็สามารถโจมตีได้ และอีกอย่างหนึ่งคือเน้นไปทางเวทย์ในสายรักษาและเสริมพลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเองและพวกพ้อง แต่ประสิทธิภาพของเวทย์นั้นไม่สามารถเทียบกันกับบาทหลวงได้ จึงมีการโจมตีและป้องกันทางกายภาพที่เพิ่มขึ้นเข้ามาแทน รวมทั้งรูปแบบของเวทย์ก็จะสั้นและง่ายกว่ามากเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน
4.สายนักรบอาคม
- พูดง่ายๆก็คือสายนักรบเวทย์ที่ไม่ได้สังกัดอยู่ในสายใดๆเลยในข้างต้น เป็นสายที่ใช้อาวุธควบคู่ไปกับเวทย์อื่นๆที่มีความสามารถแตกต่างกันไปตามแต่ละคนเช่น เวทย์ควบคุมแรงดึงดูด เวทย์ลวงตา เวทย์ควบคุมเวลา(ปัจจุบันคาดว่าไม่มีแล้ว) หรือแม้กระทั้งเวทย์สายเพิ่มพลังที่ใช้การส่งพลังเวทย์เข้าร่างตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายหรืออาวุธที่ใช้เพียงอย่างเดียวนั้นก็ถือว่าอยู่ในสายนี้เช่นเดียวกัน เป็นสายที่ถ้าไม่เคยรับมือมาก่อนจะคาดเดาความสามารถได้ยาก
------------------------------------------------------------------------------------------------------
เจ้าแห่งสัต.ว์ (Beast Lord)
- ผู้ที่อยู่ใกล้ธรรมชาติมากที่สุด ความสามารถของเขาคือการควบคุมสัต.ว์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นสัต.ว์วิเศษหรือสัต.ว์ธรรมดา ได้เหมือนดังเพื่อนของเขารวมทั้งธรรมชาติต่างๆก็ดูเหมือนจะฟังเขาไปเสียทั้งหมด สามารถเข้าใจเสียงของสัต.ว์ต่างๆและธรรมชาติได้ราวกับมันพูดออกมา ถ้าสู้ถ่ามกลางธรรมชาติไม่มีใครสามารถสู้เขาได้ สายนี้จำเป็นต้องศึกษาวิชาสัตว.ว์วิเศษและวิชาสมุนไพรศาสตร์ขั้นสูง
ข้อมูลโดยละเอียด
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Beast Lord หรือเจ้าแห่งสัต.ว์ จอมเวทย์แห่งสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติ หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าในขั้นสูงของอาชีพนี้จะเก่งกาจได้อย่างไร แต่ความน่ากลัวที่แท้จริงของอาชีพนี้นั้นไม่ได้มีแค่การควบคุมสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติเท่านั้น วันนี้เราจะไปรู้จักกับจอมเวทย์แห่งพงไพรนี้กันให้มากขึ้นครับ
เจ้าแห่งสัต.ว์ในขึ้นสูงสามารถแบ่งสายตามความถนัดได้ดังนี้ครับ
1.สายสัต.ว์ป่า
- สมกับชื่อของเจ้าแห่งสัต.ว์อยู่แล้ว เป็นสายที่มีการรับรู้ประสาทสัมผัสทั้ง5ที่สูงกว่าปกติรวมทั้งบางคนอาจมีสัมผัสที่6ด้วย สายนี้จะสามารถควบคุมสัต.ว์ต่างๆในธรรมชาติได้อย่างอิสระ สามารถดึงความสามารถของสัต.ว์ต่างๆออกมาได้เต็มที่และเพิ่มความสามารถต่างๆให้มากขึ้นได้หลายเท่าตัว ยิ่งฝึกฝนมากก็ยิ่งสามารถควบคุมได้มากขึ้น และในขั้นสูงจะสามารถบังคับและควบคุมสัต.ว์ต่างๆให้รวมร่างและกลายพันธุ์ได้ตามใจชอบ ซึ่งนั้นหมายความว่าสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ขึ้นมาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือแม้กระทั่งการรวมร่างสัต.ว์เข้ากับร่างของตัวเองเพื่อเพิ่มความสามารถในด้านต่างๆขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งบางครั้งเมื่อกลายพันธุ์ออกมานั้นความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไม่กว่ามนตร์อสูรเลยทีเดียว
2.สายพืช
- ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งสัต.ว์ ก็ไม่จำเป็นต้องควบคุมสัต.ว์เพียงอย่างเดียวเสมอไป สายนี้จะใช้การควบคุมพืชพันธุ์ทั้งหลายเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้ สามารถควบคุมได้ตั้งแต่การเจริญเติบโตของต้นกล้าเล็กๆจนกลายเป็นดอกไม้กินคนขนาดใหญ่ได้ในพริบตา นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมกิ้งก้านและตัวต้นไม้ได้อย่างอิสระเหมือนเป็นแขนขา กลายพันธุ์ต้นไม้จากต้นหญ้าธรรมดาๆให้กลายเป็นต้นไม้ปีศาจสูงหลายสิบเมตรได้ ยิ่งขั้นสูงขึ้นความเร็วและการควบคุมก็จะมากขึ้นตามลำดับ เป็นสายอาชีพที่แข็งแกร่งที่สุดถ้าสู้กันในป่าหรือธรรมชาติ ถ้าไม่แน่พอแล้วคิดจะสู้กับเจ้าแห่งสัต.ว์สายนี้ในป่าละก็คุณแพ้ตั้งแต่เริ่มแล้ว
3.สายแมลง
- เป็นสายที่ประหลาดที่สุดและอันตรายที่สุดเช่นกัน เราอาจคิดว่าแมลงเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับสัต.ว์ป่าตัวใหญ่ๆหรือต้นไม้กินคน แต่ถ้าหากมันไม่ได้มีแค่ตัวหรือสองตัวแต่มีนับแสนๆตัวละ หรือถ้ามันมีขนาดใหญ่เท่าช้างคุณคงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆแน่ สายนี้มีความสามารถในการควบคุมสิ่งมีชีวิตประเภทแมลงได้ทุกชนิดรวมทั้งพวกที่มีแปดขาเช่น แมงมุม และแมงป่องด้วย แค่พวกมันยกกันมาเป็นกองทัพก็ถือว่าน่ากลัวพออยู่แล้ว แต่แมลงบางชนิดในโลกแห่งเวทย์มนตร์นั้นมีขนาดเท่าลูกช้างหรือวัวตัวย่อมๆเลยทีเดียว นอกจากนี้ในขั้นสูงยังสามารถรวมร่างและกลายพันธุ์แมลงได้เหมือนกับสายสัต.ว์ป่าอีกด้วย ลองนึกภาพแมงมุมมีปีกเหมือนแมลงปอมีหางเป็นแมงป่องมีเปลือกแข็งเหมือนด้วงและมีเหล็กในเหมือนตัวต่อดูสิครับ ดังนั้นสายนี้จึงมีความหลากหลายมากทั้งการปั่นป่วน,การโจมตี,การป้องกัน รวมถึงการใช้พิษของแมลงบางชนิดอีกด้วย สายนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอันตรายที่ประมาทไม่ได้เลย
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ใช้มนตร์อสูร (Summoner)
- ผู้ที่เรียกมนตร์อสูรขึ้นมาใช้ในการโจมตีและป้องกัน สายนี้มีความหลากหลายค่อนข้างมากเพราะในโลกนี้มีมนตร์อสูรมากมายมหาสารผู้ใช้ส่วนมากจึงเลือกที่จะใช้เพียงสายใดสายหนึ่งเพื่อที่จะสามารถใช้ได้อย่างเต็มความสามารถ(แบ่งเป็นแบบธาตุเช่นเดียวกับเวทย์คือ ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ,สายฟ้า,น้ำแข็งที่เพิ่มมาคือแสงสว่างและความมืดและแบบประเภทของสัต.ว์ เช่นม้า,เสือ,แมงมุม)เพราะถ้าหากใช้หลายสายแล้วละก็การจะอัญเชิญมนตร์ขั้นสูงก็จะกลายเป็นเรื่องยาก สายนี้ต้องศึกษาทางด้านเวทย์มนตร์คาถาและเรื่องของมนตร์อสูรขั้นสูงมาเป็นอย่างดี
ข้อมูลโดยละเอียด
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Summoner หรือผู้ใช้มนตร์อสูร อาชีพนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าใช้การอัญเชิญมนตร์อสูรขึ้นมาต่อสู้แทนตัวเองโดยจะคอยออกคำสั่งและร่ายเวทย์อยู่ในแนวหลัง ความเก่งกาจของอาชีพนี้จะมีอะไรบ้างเรามาดูกันครับ
ผู้ใช้มนตร์อสูรแบ่งสายหลักๆออกมาได้ดังนี้ครับ
1.สายอสูรธาตุ
- สายนี้จะทำการอัญเชิญมนตร์อสูรที่เกี่ยวข้องกับธาตุทั้ง6ออกมาคือ ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ,สายฟ้าและน้ำแข็ง โดยมากจะเลือกกันเพียงสายเดียวหรือสองสายเพื่อความสามารถสูงสุดในการอัญเชิญมนตร์อสูรของสายนั้นๆ ความสามารถในการต่อสู้จะคล้ายคลึงกับจอมเวทย์ธาตุแต่เพราะการใช้มนตร์อสูรทำให้มีรูปแบบที่ไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับอสูรที่เรียกใช้ โดยมนตร์อสูรที่เรียกออกมาได้ทั้งหมดจะจำกัดความสามารถอยู่ในสายที่ตนถนัดเท่านั้น เพราะมนตร์อสูรจะดูดกลืนพลังเวทย์ของผู้ใช้ตลอดเวลาใช้งาน ถ้ายิ่งเป็นอสูรในธาตุที่ตนไม่ถนัดก็จะยิ่งสิ้นเปลืองพลังงานมากยิ่งขึ้น
2.สายแบบร่างสิ่งมีชีวิต
- สายนี้จะอัญเชิญมนตร์อสูรขึ้นมาใช้งานโดยใช้วิธีจำแนกตามรูปแบบพื้นฐานของมนตร์อสูรตัวนั้นๆว่ามาจากสิ่งมีชีวิตประเภทไหนหรืออะไร โดยมนตร์อสูรเหล่านั้นแตกต่างจากสัต.ว์ปกติตรงที่มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเวทย์มนตร์เป็นของตัวเองและมีความสามารถที่เหนือสิ่งมีชีวิตทั่วไปแล้วหลายขั้น และอาจจะมีเพียงตัวเดียวรวมทั้งมีชื่อเป็นของตัวเองอีกด้วย ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือบาฮามุทหรือรีไวอาชัน ที่เป็นมนตร์อสูรในสังกัดมังกร เกลเบลอสที่เป็นมนตร์อสูรในสังกัดสุนัข ฟินิกซ์ที่เป็นมนตร์อสูรสังกัดนก และโอดีนที่อยู่ในสังกัดอมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีมนตร์อสูรอื่นๆในระดับต่างๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน โดยมากจะเลือกใช้กันเพียงสายเดียวเพื่อความเต็มที่ในการเรียกมนอสูรของสายนั้นๆ
3.สายอสูรเทพ
- เป็นสายที่ทรงพลังและแข็งแกร่งสายหนึ่งของผู้ใช้มนตร์อสูร อสูรแต่ละตัวที่อยู่ในสายนี้มีความแข็งแกร่งมากและบางตัวยังมีความสามารถพิเศษที่ต่างๆกันอีกด้วย แต่มีข้อเสียคือสิ้นเปลืองพลังเวทย์อย่างมหาศาลและใช้เวลาในการเรียกนานกว่าสายอื่นๆ โดยสายนี้ยังแบ่งแยกย่อยออกไปได้อีก2สายคือสายเทพศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถเรียกมนตร์อสูรมีพลังของเวทย์แสงรวมทั้งพลังการรักษา และอีกสายก็คือสายเทพปีศาจ ที่เรียกมนตร์อสูรสายปีศาจทั้งหลายขึ้นมาสร้างความหายนะ
4.สายไม่ชัดเจน
- เป็นสายที่หายากและแปลกที่สุดในกลุ่มผู้ใช้มนตร์อสูรด้วยกัน มีรูปแบบของมนตร์อสูรที่ใช้ไม่ตายตัวและไม่อยู่ในสายใดๆเลย ทำให้ไม่สามารถคาดเดาการต่อสู้ของสายนี้ได้ชัดเจนนัก แต่ถึงยังไงมนตร์อสูรที่ใช้นั้นก็จะอยู่ในวงความสามารถเดียวกันเช่นกันเพราะถ้าความสามารถต่างกันเกินไป การอัญเชิญก็จะยากขึ้นและสิ้นเปลืองพลังมากขึ้นไปด้วย เช่น สายควบคุมแรงดึงดูด สายลวงตา หรือแม้กระทั่งสายควบคุมเวลา จึงถือเป็นอีกสายหนึ่งรับมือได้ยาก
------------------------------------------------------------------------------------------------------
นักวิทยศาสตร์ (Scientist)
- ผู้ที่มีความรอบรู้และร่ำรวยที่สุดในบรรดาอาชีพทั้งหมด อาวุธของเขาก็คือความรู้นั้นเอง เป็นอาชีพที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆของโลกเพราะสามารถคิดค้นเวทย์มนตร์ต่างๆขึ้นมาใหม่ ช่ำนาญในเรื่องของการเล่นแร่แปรธาตุ เมื่อศึกษาไปถึงขั้นสูงสามารถเปลี่ยนหินให้กลายเป็นทองคำเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นน้ำมันได้ อีกทั้งสามารถปรุงยาวิเศษที่หมอผีและบาทหลวงไม่สามารถทำได้อีกด้วย จุดอ่อนอยู่ที่ความสามารถในการต่อสู้แต่ก็ประมาทไม่ได้เลยทีเดียว สายนี้จำเป็นต้องใช้ความรู้ในทุกๆสายอย่างมากเรียกได้ว่าคนที่เป็นได้ต้องเป็นระดับด็อกเตอร์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงมีอยู่ไม่มากและเป็นที่ต้องการตัวของบุคคลหลายกลุ่ม
ข้อมูลโดยละเอียด
------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลายคนคิดว่าScientist หรือนักวิทยาศาสตร์นั้นไม่ค่อยมีพิษสงค์ในการต่อสู้ ซึ่งผมคงไม่มีเวลาไปอธิบายโดยละเอียดในนิยายนะครับสำหรับScientist จึงขอนำมาอธิบายถึงความน่ากลัวของอาชีพนี้ โดยละเอียดตรงนี้เลยนะครับ
ในส่วนของScientist ในขั้นสูงผมจะแบ่งเป็น3สายใหญ่ๆนะครับ(ในขั้นต่ำๆจะยังไม่มีการแบ่งสายชัดเจนนัก)คือ
1.สายแปรธาตุ
- ศัตรูตัวร้ายของเหล่าElement Master สามารถควบคุมองค์ประกอบของธาตุต่างๆได้ตามใจชอบ และบางครั้งอาจรวมไปถึงโครงสร้างทางเคมีด้วย เช่น การเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นไอโดยการแตกตัวของโมเลกุล การสร้างแม่เหล็กขนาดย่อมโดยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของอีเล็กตรอนในสสาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าใช้อย่างถูกจังหวะละก็จะน่ากลัวมาก
2.สายสร้างน้ำยาเวทย์
- เป็นสายที่ใช้เวทย์ได้มากที่สุดในบรรดาอาชีพทั้งหมดและยังมีความสามารถในการต่อสู้สูงอีกด้วย น้ำยาเวทย์ที่สร้างขึ้นนั้นมีตั้งแต่ระดับพื้นๆ เช่นเพิ่มความสามารถต่างๆของผู้ใช้ ไปจนถึงการใช้เวท์มนตร์ระดับสูงๆได้ หรือแม้กระทั่งสร้างเวทย์สายใหม่ขึ้นมาก็ยังได้ โดยการใช้เวทย์โดยวิธีนี้จะไม่ต้องเสียเวลาร่ายเวทย์ เพราะเป็นการใช้พลังจากตัวยาเท่านั้น มีข้อเสียคือขีดจำกัดในการบรรทุกน้ำยาเวทย์ต่างๆไปใช้เท่านั้นเอง
3.สายสร้างเครื่องมือและอุปกรณ์เวทย์
- มีความสามารถในการต่อสู้น้อยที่สุด แต่ก็เป็นสายที่โดดเด่นที่สุดเช่นกัน สิ่งของต่างๆที่ออกมาในโลกเวทย์มนตร์ทั้งหมดเป็นฝีมือของสายนี้ สิ่งของที่ผลิตขึ้นมาจะสามารถทำงานได้ด้วยเวทย์มนตร์เกือบทั้งสิ้น ช่างตีอาวุธและคนสร้างสิ่งของต่างๆที่เกี่ยวกับเวทย์มนตร์ก็อยู่ในสายนี้เช่นเดียวกัน ของที่สร้างของมาจะมีตั้งแต่ของพื้นๆ เช่น สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไปจนถึงอาวุธเวทย์ที่มีพลังเวทย์ในตัวเอง ชุดเกราะและอุปกรณ์ที่สามารถเพิ่มหรือป้องกันเวทย์มนตร์ได้ ไม้เท้าของจอมเวทย์ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีอาชีพที่เป็นส่วนผสมของScientist อีกมากโดยการลดความสามารถส่วนอาชีพลงแล้วนำไปประกอบกับอาชีพอื่นเพื่อให้เกิดความพลิกแพลงเช่น
Scientist สายแปรธาตุ + Necromancer
- ใช้เวทย์มนตร์เรียกโครงกระดูกขึ้นมาแล้วเปลี่ยนให้เป็นเหล็กกล้าเพื่อเพิ่มความสามารถ
Scientist สายสร้างน้ำยาเวทย์ + Summoner
- ใช้น้ำยาเวทย์ที่สร้างขึ้นโจมตีสนับสนุนหรือเพิ่มความสามารถให้สัต.ว์อสูรของตน
Scientist สายสร้างเครื่องมือและอุปกรณ์เวทย์ + Warrior Magician
- สร้างเอง ใช้เอง ไม่คิดมาก
แน่นอนว่าความสามารถในด้านต่างๆจะลดลงไปเมื่อเทียบกับอาชีพของสายนั้นๆเพียวๆอยู่แล้ว เช่น Scientist สายสร้างเครื่องมือและอุปกรณ์เวทย์ + Warrior Magician นั้น พลังและความเร็วรวมทั้งเวทย์ที่ใช้จะไม่มีประสิทธิภาพเท่าWarrior Magician แน่นอน แต่จะมีอุปกรณ์เวทย์ที่สร้างขึ้นเองมาใช้แทนเพื่อเสริมความสามารถในจุดนี้ แต่ในทางกลับกันการสร้างอุปกรณเวทย์ก็จะไม่สามารถทำได้ดีเท่าScientist สายสร้างเครื่องมือ แบบเพียวๆเช่นกัน
การผสานความสามารถของScientist สายต่างๆเข้ากับอาชีพอื่นนั้นเป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวที่อาชีพอื่นทำไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัวและความชอบของผู้ที่จะเป็นด้วย บางคนอาจจะไม่ชอบอะไรที่มันครึ่งๆกลางๆก็ได้
------------------------------------------------------------------------------------------------------
เผ่าพันธุ์
ฝ่ายแสงสว่าง
มนุษย์ (Human)§
เผ่าพันธุ์ที่อิทธิพลมากที่สุดและมีจำนวนมากที่สุดเช่นกัน อายุขัยของมนุษย์จะอยู่ที่ราวๆ80ปีซึ่งถือว่าสั้นที่สุดในทุกๆเผ่าพันธุ์(ยกเว้นพวกฮาล์ฟ)ในอดีตจึงถูกกล่าวว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุด แต่มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้และปรับตัวได้เร็วหลังจากได้รับการสั่งสอนเวทมนตร์จากเอลฟ์และการฝึกฝน มนุษย์ได้ร่วมมือกับเอลฟ์ขับไล่ออร์คและดาร์คเอลฟ์รวมทั้งอสูรกายออกไปได้ หลังสงครามจบลงฝ่ายมนุษย์เป็นผู้ได้ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของดินแดนเอาไว้
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ สามารถเป็นได้ทุกอาชีพทุกความสามารถเพียงแต่จะไม่มีสิ่งใดที่โดดเด่นเหมาะสมเป็นพิเศษ ที่โดดเด่นที่สุดสำหรับเผ่านี้ก็คือความสามารถด้านการปรับตัวการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน โดยไม่สนว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายหรือดีงาม อยู่ที่นำไปใช้อย่างไร
เอลฟ์ (Elf)§
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับการกล่าวว่ามีเชื้อสายของเทพ อยู่ในตัว รักธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต เอลฟ์มีรูปร่างผอมและคล่องแคล่ว หูยาว มีลักษณะสวยงามและมีอายุขัยยืนยาวถึง700ปีจนบางครั้งถูกเข้าใจว่าเป็นเผ่าพันธุ์อมตะ ในช่วงสมัยทำสงครามกับอสูรกาย เอลฟ์เปรียบได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีตำแหน่งสูงสุด อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามจบลง อำนาจและอิทธิพลของเอลฟ์ก็ลดน้อยลงด้วย ตอนนี้พวกเขาอาศัยอยู่เพียงส่วนหนึ่งของป่าในทวีปเท่านั้นเอง
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ เอลฟ์ฉลาดและไหวพริบดี มีความสามารถในการคิดคำนวณได้อย่างรวดเร็ว มีความว่องไวในการต่อสู้และการเคลื่อนไหวหลบหลีก นอกจากนี้เอลฟ์ยังสามารถกลั้นหายใจในน้ำได้นานกว่าและสามารถกระโดดจากที่สูงได้ดีกว่า และที่โดดเด่นที่สุดก็คือพวกเอลฟ์มีความสามารถในการใช้เวทฟื้นฟูแทบทุกคนและมีทักษะการยิงธนูที่เหนือกว่าเผ่าอื่นๆอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งด้านร่างกายของพวกเขาก็ด้อยกว่าเผ่าพันธุ์อื่นอยู่ดี
*เผ่าเอลฟ์ที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ไม่สามารถเลือกสายอาชีพหมอผี(Necromancer)และสายย่อยของอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้
ดวอร์ฟ (Dwarf)§
เผ่าดวอร์ฟหรือเผ่าคนแคระ มีรูปร่างเตี้ยและตัน สูงอย่างมาก150ซ.ม. ผู้ชายจะมีหนวดเคราขึ้นเร็วมากส่วนผู้หญิงจะมีรูปร่างเป็นเด็กผู้หญิงอยู่นาน มีอายุขัยราว150ปีบางครั้งถูกเรียกว่าเผ่าคนแคระ มีความอยากรู้อยากเห็นมาตั้งแต่เกิด จากการล่มสลายลงของเผ่าพันธุ์ความมืดและอสูรกาย พวกดวอร์ฟมักจะพยายามเข้าข้างพวกที่มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นเผ่าพันธุ์ที่อยู่โดดเดี่ยวเนื่องจากเผ่าอื่นไม่ชอบที่พวกเขามีนิสัยค้าขายเอากำไรเกินตัวแต่นั้นก็ทำให้ชนเผ่านี้มีรายการทรัพย์สินมากกว่าของเผ่าอื่นๆ
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ เผ่าพันธุ์ดวอร์ฟนั้นมีร่างกายที่แข็งแรงและเต็มไปด้วยทักษะ พวกเขาเป็นวิศวกรที่มีฝีมือยอดเยี่ยม มีทักษะด้านการคิดคำนวณและมีความสามารถเป็นเลิศในงานฝีมือต่างๆ รวมทั้งการผลิตเครื่องมือ อาวุธและอุปกรณ์เวทออกมาด้วย แต่พวกเขากลับแทบจะไม่มีความสามารถด้านเวทมนตร์ในการต่อสู้เลย อย่างมากก็แค่ใช้เพิ่มพลังกายเท่านั้น
*เผ่าดวอร์ฟที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์สามารถเลือกสายอาชีพนักวิทยาศาสตร์(Scientist) ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ฝ่ายความมืด
ออร์ค (Orc)§
เผ่าพันธุ์ที่มีความสามารถด้านร่างกายสูงสุด พวกออร์คมีรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายสีเขียวจนถึงออกน้ำตาลมีอายุขัยราว100ปี นิสัยก้าวร้าว รุนแรงและกระหายเลือด ด้วยความร่วมมือจากดาร์คเอลฟ์พวกเขาเคยครอบครองตำแหน่งผู้ที่ทรงอำนาจสูงสุดในดินแดน อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้พ่ายแพ้ต่อกองกำลังของเอล์ฟและมนุษย์ จนกระจัดกระจายไปยังที่ต่างๆ
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ เผ่าออร์คมีร่างกายที่แข็งแรงทนทานและยังมีความสามารถฟื้นตัวได้เร็ว แถมยังมีพละกำลังมหาศาล ทนทานต่อยาพิษและความเจ็บปวดได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม พวกเขามีการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าทำให้ความเร็วในการโจมตีและการหลบหลีกต่ำ
*เผ่าออร์คที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์สามารถเลือกสายอาชีพนักรบเวทย์(Warrior Magician) (ยกเว้นสายนักรบศักดิ์สิทธิ์) ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
§ ดาร์คเอลฟ์ (Darkelf)
เผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ เคยเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าเอลฟ์ แต่ถูกเนรเทศหลังจากที่พวกเขาเริ่มเรียนมนตร์ดำเพื่อที่จะต่อต้านมนุษย์และหันไปร่วมมือกับพวกออร์ค พวกเขาพ่ายแพ้ในสงครามจนสูญเสียการคงอยู่ของเผ่าพันธุ์แต่พวกเขาก็ยังเรียนมนตร์ดำต่อไป ดาร์คเอลฟ์มีรูปร่างคล้ายเอลฟ์ เพียงแต่พวกเขาสูงกว่า มีผิวสีออกเทาและผมสีเงินหรือดำสนิท มีอายุขัยราว600ปีซึ่งน้อยกว่าเอลฟ์ทั่วไปเล็กน้อย
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ คล้ายกับเอลฟ์นั้นก็คือ สามารถกลั้นหายใจในน้ำได้นานกว่าและสามารถกระโดดจากที่สูงได้ดีกว่า เพียงแต่พวกเขาจะไม่ว่องไวเท่าและไม่มีเวทฟื้นฟูพลังเหมือนเอลฟ์ แต่จะมีพลังทำลายที่รุนแรงเด็ดขาดกว่าเข้ามาแทน
*เผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ไม่สามารถเลือกอาชีพบาทหลวง(Priest) และสายย่อยของอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้
ฝ่ายอสูรกาย
อสูรกาย§
สิ่งมีชีวิตที่รูปร่างผิดเพี้ยนไปจากปรกติ เต็มไปด้วยพลังอำนาจและความบ้าคลั่ง พวกมันใช้ร่างกายของตัวเองเป็นอาวุธซึ่งแตกต่างกันไปพวกมันก็เหมือนเผ่าพันธุ์อื่นๆ มีตั้งแต่ระดับเบี้ยล่างที่คอยทำงานไปจนถึงระดับแม่ทัพที่ความสามารถสูงและมีความคิดอ่านฉลาดหลักแหลม รวมถึงบางตัวอาจสามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วย พวกมันถูกโจมตีจนแตกพ่ายไร้อาณาเขตในสงคราม ไม่มีใครรู้ว่าพวกที่ยังหลงเหลือหลบซ่อนอยู่ที่ใด และกำลังสะสมกำลังเพื่อหวังที่จะกลับมาทวงอาณาเขตของมันคืนหรือไม่
ลักษณะเฉพาะทางเผ่าพันธุ์ แตกต่างกันไปตามแต่แต่ล่ะตัว ไม่อาจคาดเดาหรือจินตนาการได้
*เผ่าอสูรกายไม่จำเป็นต้องเลือกอาชีพ เขียนมาเพียงรูปลักษณ์ภายนอกและความสามารถโดยละเอียด
พวกฮาล์ฟ
พวกฮาล์ฟหรือพวกลูกครึ่งเหล่านี้ถือเป็นของหายากที่มีจำนวนน้อยถึงน้อยมาก โดยพวกฮาล์ฟเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเกิดจากความบังเอิญที่พ่อแม่ต่างเผ่าพันธุ์กันเพียงอย่างเดียว พวกเขาอาจเกิดจากคำสาป,ความผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์ หรือผลข้างเคียงอื่นๆก็เป็นได้ พวกฮาล์ฟเหล่านี้ส่วนมากจะถูกรังเกียจโดยสังคมของหลายๆเผ่าพันธุ์และพวกเขาจะปักหลักเป็นกำลังอยู่ฝ่ายไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวของเค้าเอง
ฮาล์ฟเอลฟ์ (เอลฟ์ + มนุษย์)§
ลูกครึ่งระหว่างเอล์ฟกับมนุษย์ มีลักษณะภายนอกสวยสง่างามมีกล้ามเนื้อแต่ผอมกว่ามนุษย์ หูแหลมแต่ไม่ยาวเท่าเอล์ฟ มีอายุขัยราว180ปี สามารถใช้เวทฟื้นฟูได้เช่นเดียวกับเอล์ฟแต่ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนมาจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถรักษาคนอื่นได้ จุดเด่นคือมีความสามารถในการเรียนรู้ที่ดีกว่าและความอึดมากกว่าเอลฟ์ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นระยะเวลานาน มีร่างกายยืดยุ่นคล่องแคล่วกว่าและมีความสามารถด้านเวทมนตร์สูงกว่ามนุษย์
*เผ่าฮาล์ฟเอลฟ์ที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ไม่สามารถเลือกสายอาชีพหมอผี(Necromancer)และสายย่อยของอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้
ฮาล์ฟควอร์ฟ (ดวอร์ฟ + มนุษย์)§
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น