ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF & OS) คลังลั่นฟิค`s ขี้ตะไคร่ | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #30 : [SF] CRAZY ONLY! , THERE ARE NOTHING | 06

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.48K
      115
      25 ม.ค. 62







     

    CRAZY ONLY! , THERE ARE NOTHING

    06




     

    วันนี้แบคฮยอนก็ได้มีโอกาสพาน้องๆ มาเลี้ยงไอติมซักทีเพื่อเป็นค่าตอบแทนในวันนั้นที่บอกที่อยู่ของไอ้ยักษ์ให้กับเขา

     

    แหมมมมม พี่แบคคนหล่อ คิวทอง กระเป๋าหนักจะเลี้ยงทั้งทีน้องๆ ไม่ต้องทำหน้าซาบซึ้งขนาดนั้นก็ได้ พี่รู้ พี่เข้าใจว่าบุญคุณนี้มันลบเลือนกันไม่ได้จริงๆ เอาเป็นว่ากินเยอะๆ แล้วอย่าลืมมาแนะนำสาวสวยๆ ให้พี่รู้จักด้วยเน้อเด็กๆ

     

    แต่เดี๋ยวก่อนนะ...

     

    “แล้วทำไมมึงถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ด้วยมิทราบ” หันไปทำหน้าโหดใส่คนที่นั่งอยู่ข้างกายซึ่งเป็นบุคคลที่เขาเกลียดมากที่สุดในขณะนี้

     

    ไอ้ยักษ์ชานยอลที่บังอาจมาขโมยจูบอันแสนล้ำค่าของสาวๆ ไปพี่แบคจะบอกว่ามันกระดากปากมากขนาดไหน ขนาดบ้วนด้วยน้ำยาบ้วนปากเป็นสิบๆ ครั้งก็ยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสบนริมฝีปาก

     

    ขนลู๊กกกกก!

     

    “ก็คยองซูบอกว่าแบคฮยอนจะเลี้ยงไอติมก็เลยขอตามมาด้วยน่ะ ผมก็อยากกินด้วยเหมือนกันนะ”

     

    ดูมัน..จากไอ้ยักษ์ใจมาร พูดหยาบ ต่อยหนัก ด่าแหลกได้กลายเป็นเทพบุตรพูดเพราะ อ่อนโยน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปแล้วมันบรรลุถึงสัจธรรมหรือไงถึงได้กลายเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้ลิบลับ ผิดหูผิดตาจนไม่อยากเชื่อ

     

    ไอ้ยักษ์กลับใจเอ้ย

     

    “ไม่ได้เชิญ!

     

    “งั้นอยากลองกินของผมดูมั้ย อ้ามสิ”

     

    ดูเหมือนคนตัวยักษ์จะไม่ได้ฟังในสิ่งที่คนตัวเล็กพูดเลยซักนิดแถมยังตักไอติมของตนขึ้นมาป้อนจ่อปากอีกฝ่ายได้หน้าตาเฉย ไอ้การพูดเพราะจนน่าขนลุกนี่มันอะไร.. แต่สุดท้ายแบคฮยอนก็ยอมเปิดปากงับไอติมนั้นไปชิมแต่โดยดี

     

    “ถุ้ย! ไอติมบ้าอะไรมันขมขนาดนี้” จังหวะที่เนื้อไอติมได้สัมผัสกับลิ้นถึงกับต้องคายทิ้งเพราะมันขมจนรู้สึกแหวะ มันกินเข้าไปได้ยังไงวะถามจริง

     

    “อ้าว รสคาปูชิโน่น่ะ แบคฮยอนไม่ชอบหรองั้นผมเช็ดปากให้นะเลอะหมดแล้ว”

     

    “กูเช็ดเองก็ได้ มีมือหรอกไม่ต้องมายุ่ง” แย่งทิชชู่ในมืออีกฝ่ายเอามาเช็ดปากเองอย่างไม่สบอารมณ์

     

    ทั้งที่เราเคยเป็นศัตรูหัวใจกัน เคยแย่งผู้หญิงคนเดียวกันมาก่อนด้วยซ้ำแต่พอมันดันมาทำในสิ่งที่เขาห้าม มาปฏิบัติตัวดีใส่แถมยังมาทำอะไรให้ใจหวั่นไหวอีกใครมันจะไปทำตัวถูกกันวะ

     

    ไอ้ยักษ์ชานยอลแม่งงงง

     

    “เผื่อพวกพี่จะลืมนะ ถ้าจะสวีทกันก็ช่วยเกรงใจคนโสดอย่างพวกผมด้วยก็ดี”

     

    “สวีทอะไรล่ะเซฮุน พี่ขนลุกจะตายอยู่แล้ว”

     

    “แบคฮยอนหนาวหรอครับ” ฝ่ายชานยอลเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็รีบโอบประคองคนตัวเล็กเอาไว้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายทันที

     

    “ปล่อยกู๊ววววว! กูขนลุกเพราะมึงต่างหากไอ้บ้าๆๆๆ” ยกฝ่ามือเล็กตีรัวๆ ไปที่ต้นแขนของอีกฝ่ายหลังจากหลุดจากอ้อมกอดอันน่าสะอิดสะเอียนนั่นอย่างมีน้ำโห

     

    ไอ้ยักษ์ชานยอลมันต้องแกล้งแน่ๆ อะ มันมีอะไรในใจ มันมีแผน มันกำลังทำอะไรบางอย่างให้พี่แบคคนนี้รู้สึกพ่ายแพ้

     

    ส่วนเซฮุนที่มองพวกพี่สองคนกระหนุงกระหนิงกันไปมาก็ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย นี่มันก็คู่รักสวีทหวานไม่ใช่หรอไอ้อาการเขินแล้วโมโหกลบเกลื่อนจะให้คิดเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง ถึงจะไม่รู้เรื่องอะไรระหว่างพวกพี่สองคนนี้ก็เถอะแต่ดูจากสถานการณ์และบรรยากาศโดยรอบแล้ว จีบกันอยู่แหงๆ

     

    “พวกพี่...” คยองซูเงยหน้ามองเจ้ารุ่นพี่สองคนตาเขม็ง “ช่วยเบาๆ กันหน่อยได้มั้ยครับ”

     

    “จ้า..” ยอมสงบปากสงบคำแต่โดยดี สายตาของคยองซูนี่มันน่ากลัวจริงๆ

     

    ความสงบเข้ามาเยือนอีกครั้งต่างคนก็ต่างกินไอติมของตนเองจนเวลาล่วงเลยผ่านไป

     

    “มีใครอยากกินอะไรเพิ่มอีกมั้ยเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” ชานยอลถามขึ้นหลังจากที่ดูทุกคนในโต๊ะกินไอติมกันเสร็จหมดแล้ว

     

    “อย่ามาสอด นั่นมันเป็นคำพูดของกูต่างหาก” แบคฮยอนมองตาขวางหาเรื่องอีกฝ่ายอีกตามเคย

     

    “งั้นไปรอข้างนอกเลยเดี๋ยวพี่จ่ายค่าไอติมให้เอง”

     

    “นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะเว้ยไอ้ยักษ์แลคตาซิด ไม่ต้องมาทำเป็นใจดีวันนี้กูเป็นคนเลี้ยงไอติมพวกน้องๆ มันต่างหาก”

     

    “ผมก็เลี้ยงแบคฮยอนอีกทีนึงยังไงล่ะ”

     

    “มึงอยากมีเรื่องใช่มั้ยห๊ะ!

     

    “ก็เปล่านี่”

     

    ชานยอลทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้วหันไปยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานที่เคาท์เตอร์แทนปล่อยให้คนตัวเล็กด้านหลังยืนฟึดฟัดกับตัวเองอยู่อย่างนั้น ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าทำแบบนี้อีกฝ่ายต้องโมโหแน่ เอาจริงๆ การที่ชานยอลมาปรากฏตัวในวันนี้ไม่ใช่ยั่วโมโหอีกฝ่ายแต่อย่างใด แต่เพราะอีกคนห้าม..ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้อยากทำใช่มั้ยล่ะ

     

    ห้ามทำให้ชอบ

     

    ประโยคของคนตัวเล็กกว่าที่ได้พูดห้ามเขาไว้เมื่อวันนั้นมันก็เหมือนหลุมพรางที่วางเอาไว้ดูเหมือนจะล่อศัตรูให้ติดกับได้ แต่แท้ที่จริงแล้วทั้งคนทำทั้งศัตรูต่างก็ตกลงไปด้วยกันทั้งคู่

     

    “พี่ชานยอลชอบพี่แบคฮยอนหรอครับ” เซฮุนเดินเข้ามาใกล้ชานยอลเพื่อถามในสิ่งที่เขาสงสัย ระหว่างที่พวกเราทั้งสี่คนกำลังจะเดินไปหาร้านอาหารกินกันต่อ

     

    “ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”

     

    “ไม่รู้สิครับ สายตาพี่มันฟ้องมั้ง” ยักไหล่กับความคิดของตัวเองแบบไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก “แล้วพี่คิดยังไงล่ะ?”

     

    “น่ารัก” ชานยอลกลั้นขำเมื่อเห็นแบคฮยอนพยายามจะลูบหัวกลมๆ ของคยองซูแต่ก็โดนปัดมือทิ้งอย่างไม่ใยดี

     

    “ดูบ้าๆ บอๆ ซะมากกว่า ผมรู้เลยว่าระหว่างพวกพี่ต้องมีเรื่องกันมาก่อนแหง”

     

    “ไหงคิดงั้น?”

     

    “ก็ก่อนที่พี่แบคฮยอนจะพามาเลี้ยงไอติมเขาถามหาพี่น่ะสิ โชคดีที่คยองซูรู้ว่าพี่อยู่ที่ไหน”

     

    “อย่างนี้เองสินะ” พยักหน้าเข้าใจถึงที่มาที่ไปที่แบคฮยอนพาน้องๆ มาเลี้ยงไอติมในวันนี้ ก็ถึงว่าทำไมตอนนั้นถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนช่างใจเด็ดกล้ามาหาเรื่องถึงที่

     

    ประทับใจจัง

     

    “ไม่ยักเชื่อว่าคนบ้าๆ บอๆ แบบพี่แบคฮยอนจะมีคนมาชอบด้วยแถมยังเป็นถึงเดือนวิศวะปีสอง”

     

    “ให้มันน้อยๆ หน่อยนั่นพี่รหัสนายไม่ใช่หรอ”

     

    “พี่รหัสที่เผอิญว่าผมไม่ได้อยากได้เลยซักนิด”

     

    “ฮ่าๆ งั้นหรอๆ” เอื้อมมือขึ้นมาขยี้หัวเจ้าเด็กเรื่องมากอย่างหมั่นไส้ ดูท่าคงจะไม่ค่อยพอใจเรื่องพี่รหัสของตัวเองจริงจัง แต่มันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้นี่นะ

     

    “แล้วตกลงพี่ชอบพี่แบคฮยอนป้ะครับเนี่ย ออกนอกเรื่องไปซะไกล”

     

    “แล้วคิดยังไงกับคนที่บอกว่าห้ามทำให้ชอบล่ะ”

     

    “อะไรของพี่เนี่ย ถามผมกลับอีกแล้วนะ” เซฮุนถอนหายใจเบื่อหน่ายเขาชักจะเบื่อพี่คนนี้แล้วนะ ชอบตอบคำถามด้วยการถามกลับตลอดเลย “เฮ้อ ห้ามทำให้ชอบหรอ? แสดงว่าคนๆ นั้นคงมีความรู้สึกชอบไปแล้วมั้ง”

     

    “แล้วคนที่ถูกห้ามกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามล่ะ คิดว่าคนที่ถูกห้ามชอบคนที่บอกว่าห้ามมั้ย”

     

    “งงๆ แหะ” ยกมือขึ้นมาเกาหัวพยายามคิดตามประโยคที่รุ่นพี่ตัวสูงถาม “ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม..ก็คงชอบมั้ง ทำไมมันต้องซับซ้อนขนาดนี้เนี่ยถ้าชอบแค่บอกไปตรงๆ ก็จบแล้วมั้ยครับ”

     

    “นั่นน่ะสินะ เพราะความรู้สึกของคนเรามันซับซ้อน ถ้าบอกไปตรงๆ มันก็คงจะง่ายกว่านี้แต่ผลลัพธ์มันจะเป็นที่น่าพอใจหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง”

     

    ยังไงก็ไม่เข้าใจการตอบคำถามโดยการถามกลับของรุ่นพี่คนนี้อยู่ดี เอาเป็นว่าเซฮุนจะขอไม่ยุ่งก็แล้วกัน

     

     

     

     

    -between us only-

     

     

     

    “เฮ้ยๆ ถ้าจะมาห้องคนอื่นก็บอกล่วงหน้าซักหน่อยสิวะ ถ้ากูไม่อยู่ห้องจะทำยังไง”

     

    บุคคลมาใหม่ไม่ได้สนใจคำพูดของเจ้าของห้องแต่กลับไปล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างถือวิสาสะ แล้วดีดดิ้นฟึดฟัดกับตัวเองอยู่อย่างนั้น

     

    “โอ๊ยย เกลียดมันอ่า”

     

    “แล้วมึงจะสดีดสะดิ้งทำไมเนี่ย” จงแดถามขึ้นมาขณะเอาเท้าเขี่ยสิ่งมีชีวิตที่ดิ้นกระแด่วๆ อยู่บนเตียง

     

    “ก็พี่เกลียดมันอะ เกลียดมันๆๆ”

     

    “แล้วมึงไปเกลียดใครอะไรนักหนาวะ”

     

    “ก็ไอ้ยักษ์ชานยอลน่ะสิ วันนี้พี่อุตส่าห์พาน้องๆ ไปเลี้ยงไอติมตามที่สัญญากันเอาไว้แต่ไอ้บ้านั่นดันเสนอหน้ามาซะได้ แถมยังหน้าใหญ่ทำมาจ่ายแทนแล้วยังพาไปเลี้ยงข้าวต่อ เอาหน้าน่ะสิไม่ว่า”

     

    “ห๊ะ!?” ทั้งสองจงทำหน้างงกันใหญ่กับสิ่งที่ได้ยินจากปากของสหายบยอน

     

    “เนี่ยมันต้องมีแผนแน่ๆ อะ มันต้องมีอะไรในใจเว้ย พี่มองหน้ามันก็รู้ความคิดมันแล้วอะว่ามันอยากทำให้พี่รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ แต่ก็เป็นโชคดีของพี่แบคคนนี้ที่เกิดมาหล่อแล้วยังฉลาดอีกแค่นี้มันไม่สะเทือนหรอก หวั่นวงหวั่นไหวอะไรกัน ไม่มี๊!

     

    “มึงออกจากห้องพวกกูไปเลยไป” จงแดเอาเท้าเขี่ยไล่ดังเดิม มันมาพูดบ้าอะไรที่พวกเขาไม่เข้าใจอีกแล๊ววววววว

     

    “หูยยย อย่าเพิ่งไล่ พี่เพิ่งมา”

     

    “ตกลงมันอะไรยังไงกันแน่” จงอินที่นั่งเงียบอยู่นานขอเอ่ยถามเพื่อความเข้าใจของตัวเองอีกรอบ

     

    “พี่ยังไม่ได้เล่าให้สองจงฟังสินะ ใช่ๆ คือวันก่อนที่พี่รู้แผนการของไอ้ยักษ์มันแล้วช้ะ พี่ก็เลยรีบไปขู่มันเลยเว้ย แล้วเจอพวกน้องรหัสกับเมทน้องที่เป็นน้องรหัสของไอ้ยักษ์แบบพอดีเป๊ะเลย ก็เลยหาเจอแบบซัมบายมาก”

     

    “ขอเนื้อๆ เลยได้มั้ย ไม่เอาน้ำ”

     

    “ได้! วันนั้นพี่โดนไอ้ยักษ์มันจูบด้วยแหละ ตกใจมากๆ” เอามือกุมหัวใจให้สองจงเห็นว่าพี่แบคสุดหล่อตกใจมากจริงๆ นะแบบขวัญหายเลย

     

    “โอ๊ยยยย ไอ้แบคคคคค!!!” จงแดถึงกับลงไปนอนคร่ำครวญกับพื้นเตียงหลังจากที่ได้ฟังเหตุการณ์บางส่วนที่ไอ้แบคไปประสบพบเจอมา

     

    นี่เพื่อนกูใช่มั้ย เพื่อนกูยังสติดีอยู่มั้ย?

     

    “ทำไมต้องโอ๊ยใส่พี่ ฮืออ พี่ม่ายเข้าจาย ;-;

     

    “ก็มึงมัน...โอ๊ยยยยย” ขยี้หัวตัวเองพยายามจะทำให้ตัวเองใจเย็นอย่างมากถึงมากที่สุด เข้าใจความรู้สึกนี้ใช่มั้ยที่มันต้องโอ๊ยแบบโอ๊ยอะ “จริงๆ แล้วนะไอ้จงอินอะแค่กะ..”

     

    “แหมจงแด เป็นห่วงเพื่อนก็บอกว่าเป็นห่วงสิไม่ใช่มาโอ๊ยใส่เพื่อนอย่างนี้มึงก็รู้ว่าเพื่อนเราฉลาดขนาดไหน”

     

    จงอินรีบเข้าไปตะปบปิดปากจงแดในทันทีก่อนที่ความลับที่เขาแค่แกล้งไอ้แบคเล่นมันจะแตกออกมา พอจงแดมันเริ่มเงียบและเริ่มเข้าใจก็หันมาคุยกระซิบกระซาบเตี๊ยมกับมันสองคน

     

    “มึงจะบ้าหรอจงอิน เพื่อนเราโดนมันจูบเลยนะเว้ย”

     

    “เออหน่า ก็แค่จูบป้ะวะมันไม่มีอะไรหรอก”

     

    “ไม่มีอะไรห่าอะไรล่ะ ไม่ได้ฟังที่มันเล่าหรอว่าชานยอลตามมันไปกินไอติมด้วยอะ ไอ้บ้าเอ้ย! กูล่ะเสียวว่าพวกมันจะกัดกันอีกจริงๆ มึงก็เนี่ยนะเล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง” ว่าแล้วก็ตบหัวไอ้จงอินไปซักป้าบ

     

    “มันคงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง ไอ้แบคก็ไม่ได้มีรอยฟกช้ำดำเขียวซะเมื่อไหร่”

     

    “กระซิบไรกันพี่รู้ด้วยซี่”

     

    “ไม่มี..ไม่มีอะไร” จงอินส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ พร้อมกับวงกระซิบที่แตกกระจาย ได้แต่หวังว่าบทสนทนาก่อนหน้าสหายบยอนคงไม่ได้ยินหรอกใช่มั้ย

     

    “แล้วไปกินไอติมเป็นไง อร่อยมั้ย” จงแดยิ้มแบบใจดีสู้เสือถามกลับอย่างอยากรู้อยากเห็นสุดชีวิต

     

    “โหวว ไอติมอร่อยมากๆ เขาเพิ่มสตรอเบอร์รี่ให้พี่ลูกเบอเร้อเลย แต่เพราะไอ้ยักษ์ชานยอลมันมาด้วยน่ะสิเสียบรรยากาศหมด น่าเจ็บใจจริงๆ”

     

    “ถ้างั้นทำไมไม่หาวิธีรับมือกับชานยอลมันล่ะ” จงอินเสนอขึ้นมา ไม่ใช่อะไรหรอกนะก็เผื่อว่าการแกล้งเล่นๆ ของเขามันอาจจะทำให้เลยเถิดกันไปใหญ่ทีนี้แหละได้เป็นเรื่องของจริงแน่ เพราะฉะนั้นเขาต้องเป่าหัวไอ้แบคฮยอนมันอีกซักรอบ

     

    “ว่ามาเลย!

     

    สีหน้าตั้งอกตั้งใจฟังนั่นมันอะไร ไอ้แบคคงยังไม่รู้สินะว่าโดนไอ้จงอินมันหลอกแกล้งอีกแล้วจงแดนี่อยากจะทึ้งหัวตัวเองจริงๆ ก็แค่คุยกันไปให้มันจบๆ ไม่ได้หรอไอ้แบคนี่ก็อะไรหลอกง่ายแล้วยังจะหวงศักดิ์ศรีเกิ๊นอีก คนที่จะบ้าไม่ใช่ใครแต่เป็นจงแดเอง เขาเองที่เสือกมาคบพวกมันเป็นเพื่อน

     

    “ก่อนหน้านั้น..ตอนที่มึงไปหาชานยอลมันบอกอะไรกับมึงบ้าง” อย่างน้อยก็ต้องรู้สถานการณ์เพื่อเอามาวิเคราะห์กับวิธีรับมือ ถ้าให้เดาสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วไอ้แบคเอาไปทำตามมีหวังมันทำล่มไม่เป็นท่าแน่ๆ ถ้าจะไปก็ต้องไปให้สุด

     

    “อ่อ มันบอกว่าอะไรที่พี่ห้ามมันจะทำ แล้วยังบอกอีกว่าจะรุกแรงขึ้นกว่าตอนจีบน้องซูยอนอีกด้วย”

     

    “ขอเวลาซักครู่” ทำท่าปางห้ามญาติแล้วหันมากระซิบกระซาบกับจงแดอีกครั้ง “นี่มันหมายความว่าไงวะจงแด ชานยอลมันจีบไอ้แบคหรอ”

     

    “กูจะไปรู้มั้ยเล่าไม่ได้ตามมันไปซักหน่อย เป็นไงล่ะหาเรื่องแท้ๆ เลยมึง”

     

    “มึงช่วยกูก่อนสิวะ”

     

    “ไม่ มึงหาเรื่องเองมึงก็ต้องแก้เอง” จงแดปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดเรื่องนี้เขาจะไม่ขอยุ่งแล้ว “ถ้าไอ้แบคร้องไห้กลับมากูจะไม่ช่วยปลอบอีก จรั้ม!

     

    “เสร็จยังอะ ตกลงพี่ต้องทำไง” นั่งกอดอกรอพวกเพื่อนสองคนมันกระซิบกันตั้งนานแล้วนะ นี่มันก็ได้เวลาที่พี่แบคสุดหล่อต้องกลับไปบำรุงหน้าที่หอตัวเองแล้วเข้าใจมั้ยสองจงผิวหน้าพี่ต้องการการพักผ่อน

     

    ส่วนจงอินก็ได้แต่คิดวิธีเป่าหัวแบคฮยอนจนหัวจะระเบิดอยู่แล้ว จงแดก็ไม่ช่วยส่วนไอ้แบคก็ยังจะมาเร่งกันอีกจะให้บอกความจริงไปเลยก็ไม่ได้เกิดไอ้แบคมันคลั่งทำร้ายเขาขึ้นมา ดันมาไกลขนาดนี้แล้ว

     

    ก็คงมีแต่ทำอย่างนี้แล้วล่ะวะ

     

     

     

     

    -between us only-

     

     

     

     

    สามชั่วโมง...สามชั่วโมงแล้วที่แบคฮยอนหายเข้าไปที่หอพักนี้ซึ่งไม่ใช่หอพักของเจ้าตัว แต่เพราะก่อนที่เราจะแยกกันกลับชานยอลบังเอิญได้ยินแบคฮยอนบอกกับน้องรหัสของตัวเองว่าจะแวะมาหาเพื่อนก่อน เขาก็เลยแอบตามมารออยู่ ณ จุดๆ นี้

     

    แล้วในที่สุดเป้าหมายก็ออกมาซักที

     

    “ไง” ยืนกอดอกพิงกระโปรงรถทักทายแบบพระเอกฟิคเท่ๆ

     

    “มะ..มึงมาทำอะไรที่นี่” ตกใจซะนึกว่าเห็นผี

     

    “บังเอิญผ่านมาแถวนี้พอดี ว่าแต่..กลับด้วยกันมั้ยเดี๋ยวผมไปส่ง” ยิ้มอย่างคนใจดีเหมือนคนไม่มีแผนอะไรในใจ แต่จริงๆ แล้วชานยอลคิดมาอย่างรอบคอบมากว่ายังไงแบคฮยอนก็ต้องปฏิเสธ แต่ไอ้ยิ่งปฏิเสธนี่แหละที่จะทำให้เขาได้รุกอีกฝ่ายมากขึ้น

     

    ชานยอลคนจริงอยู่ตรงนี้แล้วไอ้น้อง

     

    “อื้ม เอาสิ” แล้วก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถอย่างว่าง่ายท่ามกลางความตกตะลึงของชานยอล “ยืนรอไรอะ มาขับรถดิจะไปส่งไม่ใช่หรอ”

     

    ถึงจะมึนงงกับปฏิกิริยาของแบคฮยอนที่เปลี่ยนไปแต่ผลลัพธ์ก็ยังเป็นไปตามที่คิดไว้อยู่ ถึงจะดูว่าง่ายและไม่ต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากแต่มันไม่สมกับเป็นแบคฮยอนที่ชานยอลรู้จักอยู่ดี ถ้าเป็นอย่างนี้ยอมโดนกัดซะยังจะดีกว่า

     

    “ถึงไฟแดงข้างหน้าแล้วค่อยเลี้ยวขวานะ”

     

    ในขณะที่แบคฮยอนกำลังบอกทางแต่ในหัวของชานยอลกำลังหาทางทำอะไรซักอย่างกับแบคฮยอนเวอร์ชั่นนี้อยู่ ไฟแดงข้างหน้าถ้าเลี้ยวขวาตามที่อีกคนบอกก็คงได้แค่ไปส่งแล้วตีรถกลับ แต่ถ้าตรงไปก็เป็นหอพักที่ชานยอลอาศัยอยู่...และเมื่อไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแน่นอนว่าเขาตัดสินใจที่จะ

     

    ตรงไป!

     

    “ไอ้ยักษ์ชานยอลกูบอกให้เลี้ยวขวาโว้ยยยยยย” ความเร่งของรถที่ออกตัวจากจุดไฟแดงทำให้แบคฮยอนต้องหาที่เกาะแทบไม่ทัน พร้อมทั้งตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เพราะเจ้าของรถเพิ่มความเร็วมากขึ้นจนมารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่หอพักของใครแล้วก็ไม่รู้

     

    “ถ้าผมไปส่งแบคฮยอนก็คงได้เจอกันอีกทีพรุ่งนี้ แต่ถ้าผมพาแบคฮยอนมาค้างกับผมที่นี่..ก็จะได้อยู่กับแบคฮยอนทั้งคืนเลย”

     

    “ใครจะอยากอยู่กับมึง พากูกลับเดี๋ยวนี้”

     

    “ผมเหนื่อยแล้ว”

     

    “ไม่ตลก”

     

    “ขึ้นห้องผมกันเถอะ สะอาดนะให้แม่บ้านทำทุกวัน”

     

    “มึงต้องคิดไม่ดีกับกูแน่ๆ”

     

    “ครับ ผมเคยพาเดือนบริหารขึ้นห้องน่าจะยังมีของอยู่”

     

    “พากูกลับเดี๋ยวเนนน้!!!!” จะร้องไห้แล้ว ไอ้ยักษ์โรคจิตมันต้องคิดอะไรไม่ดีกับเขาแน่ๆ

     

    แงงงง สองจงไอ้ยักษ์มันหลอกพี่มาทำมิดีมิร้าย

     

    “ผมหมายถึงพวกเสื้อผ้าของใช้ แบคฮยอนคิดไปถึงไหนหรอครับ” เห็นปฏิกิริยาแบคฮยอนกลับมาเหมือนเดิมแล้วชานยอลก็ได้แต่กลั้นขำ “ผมไม่ทำอะไรหรอกไปเถอะ”

     

    “กะ..ก็นำไปดิ”

     

    น่ารัก..แบคฮยอนชักจะน่ารักเกินไปแล้ว

     

     

    สุดท้ายแบคฮยอนก็ยอมเข้ามาในห้องของไอ้ยักษ์จนได้ หลังจากที่ชานยอลเปิดประตูเชิญให้เข้ามาแล้วเปิดไฟเรียบร้อย เขากวาดสายตาสำรวจไปทั่วห้องก็เห็นว่าสะอาดอย่างที่เจ้าตัวบอกไว้จริงๆ มีสมาร์ททีวีจอยักษ์ที่ทางหอพักไม่น่าจะมีให้ ไหนจะโซฟาเบด ระเบียงที่มีโต๊ะนั่งเล่น ไหนจะรถราคาแพงที่เขามีบุญได้นั่งมา

     

    ลูกคนรวยชัดๆ

     

    “จะอาบน้ำก่อนมั้ยเดี๋ยวเตรียมชุดให้”

     

    “อืมๆ”

     

    “มีแต่ชุดแบบนี้พอจะใส่ได้มั้ย” ชานยอลชูชุดในมือขึ้นมาให้คนตัวเล็กได้เห็นลวดลายของชุดนอนสีฟ้าอ่อนชุดนี้ที่เต็มไปด้วยตัวละครเดดพูลไซส์จิบิน่ารัก

     

    “ใครมันจะไปใส่โว้ยยยยยย!” กระชากมาแล้วปาทิ้งลงพื้น “เก็บไว้ให้ลูกมึงใส่โน่น”

     

    “ป้ะ ปั๊มลูกกันเลย”

     

    “ไม่ตลกนะเว้ยใส่ก็ได้ ไอ้บ้าๆๆๆ”

     

    ชานยอลยิ้มขำมองคนตัวเล็กกระฟัดกระเฟียดเก็บชุดนอนขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำอย่างไม่สบอารมณ์ ต้องขอบคุณไอ้เดือนบริหารจริงๆ ที่ทิ้งชุดแบบนี้ไว้ให้ถึงจะไม่รู้ว่ามันทิ้งไว้ทำไมก็เถอะ

     

    จนชานยอลอาบน้ำแล้วเสร็จเราถึงได้มาล้มตัวลงนอนบนเตียงของเจ้าของห้องซักที แบคฮยอนไม่ใช่พวกนอนกับใครไม่ได้แต่จะให้ไล่เจ้าของห้องไปนอนที่อื่นก็ใช่เรื่อง ยังไงเขาก็ยังมีความเกรงใจอยู่ถึงจะโดนบังคับมาก็เถอะ เอาเป็นว่าเขากับไอ้ยักษ์ยังไงก็ได้นอนเตียงเดียวกันอยู่ดี

     

    “ถ้ามึงแตะแม้แต่ปลายขน กูกัดมึงแน่” พูดขู่ไว้แล้วหันหลังให้อีกฝ่ายเตรียมหลับตานอน

     

    “ครับๆ”

     

    ความเงียบเข้ามาเยือนภายในห้องเมื่อต่างคนต่างไม่พูดอะไรต่อ ชานยอลยังคงไม่นอนเพราะเอาแต่จ้องแผ่นหลังของคนตัวเล็กอยู่คิดอยากเอามือไปแตะ อยากเอาแขนไปกอด อยากเอาขาไปก่ายแต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะกลัวโดนกัด

     

    ส่วนแบคฮยอนด้วยความแปลกที่ก็เลยทำให้นอนไม่หลับในทันที ในสมองก็เอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเผลอคิดเกี่ยวกับเจ้าของห้องที่นอนอยู่ด้านหลัง จึงได้ตัดสินใจถามอะไรบางอย่างออกมา

     

    “นี่..ทำไมต้องมาทำดีทำไมต้องมาพูดดีใส่ด้วย เราเคยเป็นศัตรูกันมาก่อนลืมไปแล้วหรอไง”

     

    “งั้นให้กูกลับไปหยาบกับมึงอีกมั้ยล่ะ ไอ้เตี้ย”

     

    “กลับไปพูดดีๆ เหมือนเดิมเถอะ” ให้ตาย คำว่าไอ้เตี้ยฟังจากไอ้ยักษ์ทีไรมันแสลงหูทุกที

     

    “ครับ กับคนที่ชอบไม่ว่าจะเคยเป็นศัตรู ผมก็อยากทำแต่สิ่งดีๆ ให้นะ”

     

    “ไม่ตลก”

     

    “สำหรับเรื่องของหัวใจผมไม่ตลกอยู่แล้ว”

     

    “อย่ามาพูดบ้าๆ” หันหลังกลับไปสบตากับอีกฝ่ายเพื่อดูว่าอีกคนอาจจะกำลังพูดแกล้งเขาเล่นก็ได้ “มึงมีแผนอะไรในใจใช่มั้ย”

     

    “เพราะแบคฮยอนบอกว่าห้ามทำให้ชอบ เพราะฉะนั้นผมจะทำสิ่งที่ตรงกันข้าม”

     

    “...”

     

    “ทำให้รัก”

     

    “จะ..จะนอนแล้ว” กระชับผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงปากที่ไม่สามารถกลั้นไม่ให้ยิ้มได้ พร้อมกับค่อยๆ เขยิบตัวออกห่างเพราะถ้าอยู่ใกล้ๆ กันอีกฝ่ายต้องได้ยินเสียงนี้แน่ๆ

     

    เสียงหัวใจที่มันเต้นแรงของแบคฮยอนน่ะ..ไม่อยากให้รู้เลย

     

    “ขอกอดได้มั้ย”

     

    “อยากโดนกัดหรอไง”

     

    “ยอมให้กัดทั้งคืนเลย”

     

    “ไปไกลๆ เลยไอ้ยักษ์” แล้วก็หันหลังให้อีกฝ่ายเหมือนเดิม แต่คราวนี้แค่ข่มตาแป๊บเดียวก็หลับสนิทได้อย่างสบายใจ

     

    ต้องเป็นเพราะไอ้ยักษ์มันร่ายคาถาอะไรใส่เขาแน่ๆ












    HAPPY NEW YEAR 2019
    สวัสดีปีใหม่ 2562



    ขอให้ทุกคนมีความสุข พระเจ้าอวยพร











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×