คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : [SF] CRAZY ONLY! , THERE ARE NOTHING | 06
CRAZY ONLY! , THERE ARE NOTHING
06
วันนี้แบคฮยอนก็ได้มีโอกาสพาน้องๆ
มาเลี้ยงไอติมซักทีเพื่อเป็นค่าตอบแทนในวันนั้นที่บอกที่อยู่ของไอ้ยักษ์ให้กับเขา
แหมมมมม พี่แบคคนหล่อ คิวทอง
กระเป๋าหนักจะเลี้ยงทั้งทีน้องๆ ไม่ต้องทำหน้าซาบซึ้งขนาดนั้นก็ได้ พี่รู้ พี่เข้าใจว่าบุญคุณนี้มันลบเลือนกันไม่ได้จริงๆ
เอาเป็นว่ากินเยอะๆ แล้วอย่าลืมมาแนะนำสาวสวยๆ ให้พี่รู้จักด้วยเน้อเด็กๆ
แต่เดี๋ยวก่อนนะ...
“แล้วทำไมมึงถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ด้วยมิทราบ”
หันไปทำหน้าโหดใส่คนที่นั่งอยู่ข้างกายซึ่งเป็นบุคคลที่เขาเกลียดมากที่สุดในขณะนี้
ไอ้ยักษ์ชานยอลที่บังอาจมาขโมยจูบอันแสนล้ำค่าของสาวๆ
ไปพี่แบคจะบอกว่ามันกระดากปากมากขนาดไหน ขนาดบ้วนด้วยน้ำยาบ้วนปากเป็นสิบๆ
ครั้งก็ยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสบนริมฝีปาก
ขนลู๊กกกกก!
“ก็คยองซูบอกว่าแบคฮยอนจะเลี้ยงไอติมก็เลยขอตามมาด้วยน่ะ
ผมก็อยากกินด้วยเหมือนกันนะ”
ดูมัน..จากไอ้ยักษ์ใจมาร พูดหยาบ
ต่อยหนัก ด่าแหลกได้กลายเป็นเทพบุตรพูดเพราะ อ่อนโยน
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปแล้วมันบรรลุถึงสัจธรรมหรือไงถึงได้กลายเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้ลิบลับ
ผิดหูผิดตาจนไม่อยากเชื่อ
ไอ้ยักษ์กลับใจเอ้ย
“ไม่ได้เชิญ!”
“งั้นอยากลองกินของผมดูมั้ย อ้ามสิ”
ดูเหมือนคนตัวยักษ์จะไม่ได้ฟังในสิ่งที่คนตัวเล็กพูดเลยซักนิดแถมยังตักไอติมของตนขึ้นมาป้อนจ่อปากอีกฝ่ายได้หน้าตาเฉย
ไอ้การพูดเพราะจนน่าขนลุกนี่มันอะไร..
แต่สุดท้ายแบคฮยอนก็ยอมเปิดปากงับไอติมนั้นไปชิมแต่โดยดี
“ถุ้ย! ไอติมบ้าอะไรมันขมขนาดนี้”
จังหวะที่เนื้อไอติมได้สัมผัสกับลิ้นถึงกับต้องคายทิ้งเพราะมันขมจนรู้สึกแหวะ
มันกินเข้าไปได้ยังไงวะถามจริง
“อ้าว รสคาปูชิโน่น่ะ
แบคฮยอนไม่ชอบหรองั้นผมเช็ดปากให้นะเลอะหมดแล้ว”
“กูเช็ดเองก็ได้
มีมือหรอกไม่ต้องมายุ่ง” แย่งทิชชู่ในมืออีกฝ่ายเอามาเช็ดปากเองอย่างไม่สบอารมณ์
ทั้งที่เราเคยเป็นศัตรูหัวใจกัน
เคยแย่งผู้หญิงคนเดียวกันมาก่อนด้วยซ้ำแต่พอมันดันมาทำในสิ่งที่เขาห้าม
มาปฏิบัติตัวดีใส่แถมยังมาทำอะไรให้ใจหวั่นไหวอีกใครมันจะไปทำตัวถูกกันวะ
ไอ้ยักษ์ชานยอลแม่งงงง
“เผื่อพวกพี่จะลืมนะ ถ้าจะสวีทกันก็ช่วยเกรงใจคนโสดอย่างพวกผมด้วยก็ดี”
“สวีทอะไรล่ะเซฮุน
พี่ขนลุกจะตายอยู่แล้ว”
“แบคฮยอนหนาวหรอครับ”
ฝ่ายชานยอลเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็รีบโอบประคองคนตัวเล็กเอาไว้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายทันที
“ปล่อยกู๊ววววว! กูขนลุกเพราะมึงต่างหากไอ้บ้าๆๆๆ”
ยกฝ่ามือเล็กตีรัวๆ
ไปที่ต้นแขนของอีกฝ่ายหลังจากหลุดจากอ้อมกอดอันน่าสะอิดสะเอียนนั่นอย่างมีน้ำโห
ไอ้ยักษ์ชานยอลมันต้องแกล้งแน่ๆ อะ
มันมีอะไรในใจ มันมีแผน มันกำลังทำอะไรบางอย่างให้พี่แบคคนนี้รู้สึกพ่ายแพ้
ส่วนเซฮุนที่มองพวกพี่สองคนกระหนุงกระหนิงกันไปมาก็ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย
นี่มันก็คู่รักสวีทหวานไม่ใช่หรอไอ้อาการเขินแล้วโมโหกลบเกลื่อนจะให้คิดเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง
ถึงจะไม่รู้เรื่องอะไรระหว่างพวกพี่สองคนนี้ก็เถอะแต่ดูจากสถานการณ์และบรรยากาศโดยรอบแล้ว
จีบกันอยู่แหงๆ
“พวกพี่...”
คยองซูเงยหน้ามองเจ้ารุ่นพี่สองคนตาเขม็ง “ช่วยเบาๆ กันหน่อยได้มั้ยครับ”
“จ้า..” ยอมสงบปากสงบคำแต่โดยดี
สายตาของคยองซูนี่มันน่ากลัวจริงๆ
ความสงบเข้ามาเยือนอีกครั้งต่างคนก็ต่างกินไอติมของตนเองจนเวลาล่วงเลยผ่านไป
“มีใครอยากกินอะไรเพิ่มอีกมั้ยเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
ชานยอลถามขึ้นหลังจากที่ดูทุกคนในโต๊ะกินไอติมกันเสร็จหมดแล้ว
“อย่ามาสอด
นั่นมันเป็นคำพูดของกูต่างหาก” แบคฮยอนมองตาขวางหาเรื่องอีกฝ่ายอีกตามเคย
“งั้นไปรอข้างนอกเลยเดี๋ยวพี่จ่ายค่าไอติมให้เอง”
“นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะเว้ยไอ้ยักษ์แลคตาซิด
ไม่ต้องมาทำเป็นใจดีวันนี้กูเป็นคนเลี้ยงไอติมพวกน้องๆ มันต่างหาก”
“ผมก็เลี้ยงแบคฮยอนอีกทีนึงยังไงล่ะ”
“มึงอยากมีเรื่องใช่มั้ยห๊ะ!”
“ก็เปล่านี่”
ชานยอลทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้วหันไปยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานที่เคาท์เตอร์แทนปล่อยให้คนตัวเล็กด้านหลังยืนฟึดฟัดกับตัวเองอยู่อย่างนั้น
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าทำแบบนี้อีกฝ่ายต้องโมโหแน่ เอาจริงๆ การที่ชานยอลมาปรากฏตัวในวันนี้ไม่ใช่ยั่วโมโหอีกฝ่ายแต่อย่างใด
แต่เพราะอีกคนห้าม..ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้อยากทำใช่มั้ยล่ะ
‘ห้ามทำให้ชอบ’
ประโยคของคนตัวเล็กกว่าที่ได้พูดห้ามเขาไว้เมื่อวันนั้นมันก็เหมือนหลุมพรางที่วางเอาไว้ดูเหมือนจะล่อศัตรูให้ติดกับได้
แต่แท้ที่จริงแล้วทั้งคนทำทั้งศัตรูต่างก็ตกลงไปด้วยกันทั้งคู่
“พี่ชานยอลชอบพี่แบคฮยอนหรอครับ”
เซฮุนเดินเข้ามาใกล้ชานยอลเพื่อถามในสิ่งที่เขาสงสัย
ระหว่างที่พวกเราทั้งสี่คนกำลังจะเดินไปหาร้านอาหารกินกันต่อ
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”
“ไม่รู้สิครับ สายตาพี่มันฟ้องมั้ง”
ยักไหล่กับความคิดของตัวเองแบบไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก “แล้วพี่คิดยังไงล่ะ?”
“น่ารัก”
ชานยอลกลั้นขำเมื่อเห็นแบคฮยอนพยายามจะลูบหัวกลมๆ
ของคยองซูแต่ก็โดนปัดมือทิ้งอย่างไม่ใยดี
“ดูบ้าๆ บอๆ ซะมากกว่า
ผมรู้เลยว่าระหว่างพวกพี่ต้องมีเรื่องกันมาก่อนแหง”
“ไหงคิดงั้น?”
“ก็ก่อนที่พี่แบคฮยอนจะพามาเลี้ยงไอติมเขาถามหาพี่น่ะสิ
โชคดีที่คยองซูรู้ว่าพี่อยู่ที่ไหน”
“อย่างนี้เองสินะ”
พยักหน้าเข้าใจถึงที่มาที่ไปที่แบคฮยอนพาน้องๆ มาเลี้ยงไอติมในวันนี้ ก็ถึงว่าทำไมตอนนั้นถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนช่างใจเด็ดกล้ามาหาเรื่องถึงที่
ประทับใจจัง
“ไม่ยักเชื่อว่าคนบ้าๆ บอๆ
แบบพี่แบคฮยอนจะมีคนมาชอบด้วยแถมยังเป็นถึงเดือนวิศวะปีสอง”
“ให้มันน้อยๆ
หน่อยนั่นพี่รหัสนายไม่ใช่หรอ”
“พี่รหัสที่เผอิญว่าผมไม่ได้อยากได้เลยซักนิด”
“ฮ่าๆ งั้นหรอๆ”
เอื้อมมือขึ้นมาขยี้หัวเจ้าเด็กเรื่องมากอย่างหมั่นไส้
ดูท่าคงจะไม่ค่อยพอใจเรื่องพี่รหัสของตัวเองจริงจัง
แต่มันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้นี่นะ
“แล้วตกลงพี่ชอบพี่แบคฮยอนป้ะครับเนี่ย
ออกนอกเรื่องไปซะไกล”
“แล้วคิดยังไงกับคนที่บอกว่าห้ามทำให้ชอบล่ะ”
“อะไรของพี่เนี่ย ถามผมกลับอีกแล้วนะ”
เซฮุนถอนหายใจเบื่อหน่ายเขาชักจะเบื่อพี่คนนี้แล้วนะ
ชอบตอบคำถามด้วยการถามกลับตลอดเลย “เฮ้อ ห้ามทำให้ชอบหรอ? แสดงว่าคนๆ
นั้นคงมีความรู้สึกชอบไปแล้วมั้ง”
“แล้วคนที่ถูกห้ามกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามล่ะ
คิดว่าคนที่ถูกห้ามชอบคนที่บอกว่าห้ามมั้ย”
“งงๆ แหะ”
ยกมือขึ้นมาเกาหัวพยายามคิดตามประโยคที่รุ่นพี่ตัวสูงถาม
“ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม..ก็คงชอบมั้ง
ทำไมมันต้องซับซ้อนขนาดนี้เนี่ยถ้าชอบแค่บอกไปตรงๆ ก็จบแล้วมั้ยครับ”
“นั่นน่ะสินะ เพราะความรู้สึกของคนเรามันซับซ้อน
ถ้าบอกไปตรงๆ มันก็คงจะง่ายกว่านี้แต่ผลลัพธ์มันจะเป็นที่น่าพอใจหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง”
ยังไงก็ไม่เข้าใจการตอบคำถามโดยการถามกลับของรุ่นพี่คนนี้อยู่ดี
เอาเป็นว่าเซฮุนจะขอไม่ยุ่งก็แล้วกัน
-between us only-
“เฮ้ยๆ
ถ้าจะมาห้องคนอื่นก็บอกล่วงหน้าซักหน่อยสิวะ ถ้ากูไม่อยู่ห้องจะทำยังไง”
บุคคลมาใหม่ไม่ได้สนใจคำพูดของเจ้าของห้องแต่กลับไปล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างถือวิสาสะ
แล้วดีดดิ้นฟึดฟัดกับตัวเองอยู่อย่างนั้น
“โอ๊ยย เกลียดมันอ่า”
“แล้วมึงจะสดีดสะดิ้งทำไมเนี่ย”
จงแดถามขึ้นมาขณะเอาเท้าเขี่ยสิ่งมีชีวิตที่ดิ้นกระแด่วๆ อยู่บนเตียง
“ก็พี่เกลียดมันอะ เกลียดมันๆๆ”
“แล้วมึงไปเกลียดใครอะไรนักหนาวะ”
“ก็ไอ้ยักษ์ชานยอลน่ะสิ
วันนี้พี่อุตส่าห์พาน้องๆ
ไปเลี้ยงไอติมตามที่สัญญากันเอาไว้แต่ไอ้บ้านั่นดันเสนอหน้ามาซะได้
แถมยังหน้าใหญ่ทำมาจ่ายแทนแล้วยังพาไปเลี้ยงข้าวต่อ เอาหน้าน่ะสิไม่ว่า”
“ห๊ะ!?”
ทั้งสองจงทำหน้างงกันใหญ่กับสิ่งที่ได้ยินจากปากของสหายบยอน
“เนี่ยมันต้องมีแผนแน่ๆ อะ
มันต้องมีอะไรในใจเว้ย
พี่มองหน้ามันก็รู้ความคิดมันแล้วอะว่ามันอยากทำให้พี่รู้สึกถึงความพ่ายแพ้
แต่ก็เป็นโชคดีของพี่แบคคนนี้ที่เกิดมาหล่อแล้วยังฉลาดอีกแค่นี้มันไม่สะเทือนหรอก
หวั่นวงหวั่นไหวอะไรกัน ไม่มี๊!”
“มึงออกจากห้องพวกกูไปเลยไป”
จงแดเอาเท้าเขี่ยไล่ดังเดิม มันมาพูดบ้าอะไรที่พวกเขาไม่เข้าใจอีกแล๊ววววววว
“หูยยย อย่าเพิ่งไล่ พี่เพิ่งมา”
“ตกลงมันอะไรยังไงกันแน่” จงอินที่นั่งเงียบอยู่นานขอเอ่ยถามเพื่อความเข้าใจของตัวเองอีกรอบ
“พี่ยังไม่ได้เล่าให้สองจงฟังสินะ
ใช่ๆ คือวันก่อนที่พี่รู้แผนการของไอ้ยักษ์มันแล้วช้ะ พี่ก็เลยรีบไปขู่มันเลยเว้ย
แล้วเจอพวกน้องรหัสกับเมทน้องที่เป็นน้องรหัสของไอ้ยักษ์แบบพอดีเป๊ะเลย
ก็เลยหาเจอแบบซัมบายมาก”
“ขอเนื้อๆ เลยได้มั้ย ไม่เอาน้ำ”
“ได้! วันนั้นพี่โดนไอ้ยักษ์มันจูบด้วยแหละ
ตกใจมากๆ” เอามือกุมหัวใจให้สองจงเห็นว่าพี่แบคสุดหล่อตกใจมากจริงๆ
นะแบบขวัญหายเลย
“โอ๊ยยยย ไอ้แบคคคคค!!!”
จงแดถึงกับลงไปนอนคร่ำครวญกับพื้นเตียงหลังจากที่ได้ฟังเหตุการณ์บางส่วนที่ไอ้แบคไปประสบพบเจอมา
นี่เพื่อนกูใช่มั้ย
เพื่อนกูยังสติดีอยู่มั้ย?
“ทำไมต้องโอ๊ยใส่พี่ ฮืออ
พี่ม่ายเข้าจาย ;-;”
“ก็มึงมัน...โอ๊ยยยยย”
ขยี้หัวตัวเองพยายามจะทำให้ตัวเองใจเย็นอย่างมากถึงมากที่สุด
เข้าใจความรู้สึกนี้ใช่มั้ยที่มันต้องโอ๊ยแบบโอ๊ยอะ “จริงๆ แล้วนะไอ้จงอินอะแค่กะ..”
“แหมจงแด
เป็นห่วงเพื่อนก็บอกว่าเป็นห่วงสิไม่ใช่มาโอ๊ยใส่เพื่อนอย่างนี้มึงก็รู้ว่าเพื่อนเราฉลาดขนาดไหน”
จงอินรีบเข้าไปตะปบปิดปากจงแดในทันทีก่อนที่ความลับที่เขาแค่แกล้งไอ้แบคเล่นมันจะแตกออกมา
พอจงแดมันเริ่มเงียบและเริ่มเข้าใจก็หันมาคุยกระซิบกระซาบเตี๊ยมกับมันสองคน
“มึงจะบ้าหรอจงอิน
เพื่อนเราโดนมันจูบเลยนะเว้ย”
“เออหน่า ก็แค่จูบป้ะวะมันไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรห่าอะไรล่ะ
ไม่ได้ฟังที่มันเล่าหรอว่าชานยอลตามมันไปกินไอติมด้วยอะ ไอ้บ้าเอ้ย! กูล่ะเสียวว่าพวกมันจะกัดกันอีกจริงๆ
มึงก็เนี่ยนะเล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง” ว่าแล้วก็ตบหัวไอ้จงอินไปซักป้าบ
“มันคงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง
ไอ้แบคก็ไม่ได้มีรอยฟกช้ำดำเขียวซะเมื่อไหร่”
“กระซิบไรกันพี่รู้ด้วยซี่”
“ไม่มี..ไม่มีอะไร”
จงอินส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ พร้อมกับวงกระซิบที่แตกกระจาย ได้แต่หวังว่าบทสนทนาก่อนหน้าสหายบยอนคงไม่ได้ยินหรอกใช่มั้ย
“แล้วไปกินไอติมเป็นไง อร่อยมั้ย”
จงแดยิ้มแบบใจดีสู้เสือถามกลับอย่างอยากรู้อยากเห็นสุดชีวิต
“โหวว ไอติมอร่อยมากๆ เขาเพิ่มสตรอเบอร์รี่ให้พี่ลูกเบอเร้อเลย
แต่เพราะไอ้ยักษ์ชานยอลมันมาด้วยน่ะสิเสียบรรยากาศหมด น่าเจ็บใจจริงๆ”
“ถ้างั้นทำไมไม่หาวิธีรับมือกับชานยอลมันล่ะ”
จงอินเสนอขึ้นมา ไม่ใช่อะไรหรอกนะก็เผื่อว่าการแกล้งเล่นๆ
ของเขามันอาจจะทำให้เลยเถิดกันไปใหญ่ทีนี้แหละได้เป็นเรื่องของจริงแน่
เพราะฉะนั้นเขาต้องเป่าหัวไอ้แบคฮยอนมันอีกซักรอบ
“ว่ามาเลย!”
สีหน้าตั้งอกตั้งใจฟังนั่นมันอะไร
ไอ้แบคคงยังไม่รู้สินะว่าโดนไอ้จงอินมันหลอกแกล้งอีกแล้วจงแดนี่อยากจะทึ้งหัวตัวเองจริงๆ
ก็แค่คุยกันไปให้มันจบๆ ไม่ได้หรอไอ้แบคนี่ก็อะไรหลอกง่ายแล้วยังจะหวงศักดิ์ศรีเกิ๊นอีก
คนที่จะบ้าไม่ใช่ใครแต่เป็นจงแดเอง เขาเองที่เสือกมาคบพวกมันเป็นเพื่อน
“ก่อนหน้านั้น..ตอนที่มึงไปหาชานยอลมันบอกอะไรกับมึงบ้าง”
อย่างน้อยก็ต้องรู้สถานการณ์เพื่อเอามาวิเคราะห์กับวิธีรับมือ
ถ้าให้เดาสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วไอ้แบคเอาไปทำตามมีหวังมันทำล่มไม่เป็นท่าแน่ๆ
ถ้าจะไปก็ต้องไปให้สุด
“อ่อ มันบอกว่าอะไรที่พี่ห้ามมันจะทำ
แล้วยังบอกอีกว่าจะรุกแรงขึ้นกว่าตอนจีบน้องซูยอนอีกด้วย”
“ขอเวลาซักครู่” ทำท่าปางห้ามญาติแล้วหันมากระซิบกระซาบกับจงแดอีกครั้ง
“นี่มันหมายความว่าไงวะจงแด ชานยอลมันจีบไอ้แบคหรอ”
“กูจะไปรู้มั้ยเล่าไม่ได้ตามมันไปซักหน่อย
เป็นไงล่ะหาเรื่องแท้ๆ เลยมึง”
“มึงช่วยกูก่อนสิวะ”
“ไม่ มึงหาเรื่องเองมึงก็ต้องแก้เอง”
จงแดปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดเรื่องนี้เขาจะไม่ขอยุ่งแล้ว “ถ้าไอ้แบคร้องไห้กลับมากูจะไม่ช่วยปลอบอีก
จรั้ม!”
“เสร็จยังอะ ตกลงพี่ต้องทำไง”
นั่งกอดอกรอพวกเพื่อนสองคนมันกระซิบกันตั้งนานแล้วนะ
นี่มันก็ได้เวลาที่พี่แบคสุดหล่อต้องกลับไปบำรุงหน้าที่หอตัวเองแล้วเข้าใจมั้ยสองจงผิวหน้าพี่ต้องการการพักผ่อน
ส่วนจงอินก็ได้แต่คิดวิธีเป่าหัวแบคฮยอนจนหัวจะระเบิดอยู่แล้ว
จงแดก็ไม่ช่วยส่วนไอ้แบคก็ยังจะมาเร่งกันอีกจะให้บอกความจริงไปเลยก็ไม่ได้เกิดไอ้แบคมันคลั่งทำร้ายเขาขึ้นมา
ดันมาไกลขนาดนี้แล้ว
ก็คงมีแต่ทำอย่างนี้แล้วล่ะวะ
-between us only-
สามชั่วโมง...สามชั่วโมงแล้วที่แบคฮยอนหายเข้าไปที่หอพักนี้ซึ่งไม่ใช่หอพักของเจ้าตัว
แต่เพราะก่อนที่เราจะแยกกันกลับชานยอลบังเอิญได้ยินแบคฮยอนบอกกับน้องรหัสของตัวเองว่าจะแวะมาหาเพื่อนก่อน
เขาก็เลยแอบตามมารออยู่ ณ จุดๆ นี้
แล้วในที่สุดเป้าหมายก็ออกมาซักที
“ไง”
ยืนกอดอกพิงกระโปรงรถทักทายแบบพระเอกฟิคเท่ๆ
“มะ..มึงมาทำอะไรที่นี่”
ตกใจซะนึกว่าเห็นผี
“บังเอิญผ่านมาแถวนี้พอดี
ว่าแต่..กลับด้วยกันมั้ยเดี๋ยวผมไปส่ง” ยิ้มอย่างคนใจดีเหมือนคนไม่มีแผนอะไรในใจ
แต่จริงๆ แล้วชานยอลคิดมาอย่างรอบคอบมากว่ายังไงแบคฮยอนก็ต้องปฏิเสธ แต่ไอ้ยิ่งปฏิเสธนี่แหละที่จะทำให้เขาได้รุกอีกฝ่ายมากขึ้น
ชานยอลคนจริงอยู่ตรงนี้แล้วไอ้น้อง
“อื้ม เอาสิ”
แล้วก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถอย่างว่าง่ายท่ามกลางความตกตะลึงของชานยอล “ยืนรอไรอะ
มาขับรถดิจะไปส่งไม่ใช่หรอ”
ถึงจะมึนงงกับปฏิกิริยาของแบคฮยอนที่เปลี่ยนไปแต่ผลลัพธ์ก็ยังเป็นไปตามที่คิดไว้อยู่
ถึงจะดูว่าง่ายและไม่ต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากแต่มันไม่สมกับเป็นแบคฮยอนที่ชานยอลรู้จักอยู่ดี
ถ้าเป็นอย่างนี้ยอมโดนกัดซะยังจะดีกว่า
“ถึงไฟแดงข้างหน้าแล้วค่อยเลี้ยวขวานะ”
ในขณะที่แบคฮยอนกำลังบอกทางแต่ในหัวของชานยอลกำลังหาทางทำอะไรซักอย่างกับแบคฮยอนเวอร์ชั่นนี้อยู่
ไฟแดงข้างหน้าถ้าเลี้ยวขวาตามที่อีกคนบอกก็คงได้แค่ไปส่งแล้วตีรถกลับ แต่ถ้าตรงไปก็เป็นหอพักที่ชานยอลอาศัยอยู่...และเมื่อไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแน่นอนว่าเขาตัดสินใจที่จะ
ตรงไป!
“ไอ้ยักษ์ชานยอลกูบอกให้เลี้ยวขวาโว้ยยยยยย”
ความเร่งของรถที่ออกตัวจากจุดไฟแดงทำให้แบคฮยอนต้องหาที่เกาะแทบไม่ทัน พร้อมทั้งตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ
เพราะเจ้าของรถเพิ่มความเร็วมากขึ้นจนมารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่หอพักของใครแล้วก็ไม่รู้
“ถ้าผมไปส่งแบคฮยอนก็คงได้เจอกันอีกทีพรุ่งนี้
แต่ถ้าผมพาแบคฮยอนมาค้างกับผมที่นี่..ก็จะได้อยู่กับแบคฮยอนทั้งคืนเลย”
“ใครจะอยากอยู่กับมึง
พากูกลับเดี๋ยวนี้”
“ผมเหนื่อยแล้ว”
“ไม่ตลก”
“ขึ้นห้องผมกันเถอะ
สะอาดนะให้แม่บ้านทำทุกวัน”
“มึงต้องคิดไม่ดีกับกูแน่ๆ”
“ครับ ผมเคยพาเดือนบริหารขึ้นห้องน่าจะยังมีของอยู่”
“พากูกลับเดี๋ยวเนนน้!!!!”
จะร้องไห้แล้ว ไอ้ยักษ์โรคจิตมันต้องคิดอะไรไม่ดีกับเขาแน่ๆ
แงงงง สองจงไอ้ยักษ์มันหลอกพี่มาทำมิดีมิร้าย
“ผมหมายถึงพวกเสื้อผ้าของใช้ แบคฮยอนคิดไปถึงไหนหรอครับ”
เห็นปฏิกิริยาแบคฮยอนกลับมาเหมือนเดิมแล้วชานยอลก็ได้แต่กลั้นขำ “ผมไม่ทำอะไรหรอกไปเถอะ”
“กะ..ก็นำไปดิ”
น่ารัก..แบคฮยอนชักจะน่ารักเกินไปแล้ว
สุดท้ายแบคฮยอนก็ยอมเข้ามาในห้องของไอ้ยักษ์จนได้
หลังจากที่ชานยอลเปิดประตูเชิญให้เข้ามาแล้วเปิดไฟเรียบร้อย เขากวาดสายตาสำรวจไปทั่วห้องก็เห็นว่าสะอาดอย่างที่เจ้าตัวบอกไว้จริงๆ
มีสมาร์ททีวีจอยักษ์ที่ทางหอพักไม่น่าจะมีให้ ไหนจะโซฟาเบด
ระเบียงที่มีโต๊ะนั่งเล่น ไหนจะรถราคาแพงที่เขามีบุญได้นั่งมา
ลูกคนรวยชัดๆ
“จะอาบน้ำก่อนมั้ยเดี๋ยวเตรียมชุดให้”
“อืมๆ”
“มีแต่ชุดแบบนี้พอจะใส่ได้มั้ย”
ชานยอลชูชุดในมือขึ้นมาให้คนตัวเล็กได้เห็นลวดลายของชุดนอนสีฟ้าอ่อนชุดนี้ที่เต็มไปด้วยตัวละครเดดพูลไซส์จิบิน่ารัก
“ใครมันจะไปใส่โว้ยยยยยย!”
กระชากมาแล้วปาทิ้งลงพื้น “เก็บไว้ให้ลูกมึงใส่โน่น”
“ป้ะ ปั๊มลูกกันเลย”
“ไม่ตลกนะเว้ยใส่ก็ได้ ไอ้บ้าๆๆๆ”
ชานยอลยิ้มขำมองคนตัวเล็กกระฟัดกระเฟียดเก็บชุดนอนขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำอย่างไม่สบอารมณ์
ต้องขอบคุณไอ้เดือนบริหารจริงๆ
ที่ทิ้งชุดแบบนี้ไว้ให้ถึงจะไม่รู้ว่ามันทิ้งไว้ทำไมก็เถอะ
จนชานยอลอาบน้ำแล้วเสร็จเราถึงได้มาล้มตัวลงนอนบนเตียงของเจ้าของห้องซักที
แบคฮยอนไม่ใช่พวกนอนกับใครไม่ได้แต่จะให้ไล่เจ้าของห้องไปนอนที่อื่นก็ใช่เรื่อง ยังไงเขาก็ยังมีความเกรงใจอยู่ถึงจะโดนบังคับมาก็เถอะ
เอาเป็นว่าเขากับไอ้ยักษ์ยังไงก็ได้นอนเตียงเดียวกันอยู่ดี
“ถ้ามึงแตะแม้แต่ปลายขน กูกัดมึงแน่”
พูดขู่ไว้แล้วหันหลังให้อีกฝ่ายเตรียมหลับตานอน
“ครับๆ”
ความเงียบเข้ามาเยือนภายในห้องเมื่อต่างคนต่างไม่พูดอะไรต่อ
ชานยอลยังคงไม่นอนเพราะเอาแต่จ้องแผ่นหลังของคนตัวเล็กอยู่คิดอยากเอามือไปแตะ
อยากเอาแขนไปกอด อยากเอาขาไปก่ายแต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะกลัวโดนกัด
ส่วนแบคฮยอนด้วยความแปลกที่ก็เลยทำให้นอนไม่หลับในทันที
ในสมองก็เอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเผลอคิดเกี่ยวกับเจ้าของห้องที่นอนอยู่ด้านหลัง
จึงได้ตัดสินใจถามอะไรบางอย่างออกมา
“นี่..ทำไมต้องมาทำดีทำไมต้องมาพูดดีใส่ด้วย
เราเคยเป็นศัตรูกันมาก่อนลืมไปแล้วหรอไง”
“งั้นให้กูกลับไปหยาบกับมึงอีกมั้ยล่ะ
ไอ้เตี้ย”
“กลับไปพูดดีๆ เหมือนเดิมเถอะ”
ให้ตาย คำว่าไอ้เตี้ยฟังจากไอ้ยักษ์ทีไรมันแสลงหูทุกที
“ครับ กับคนที่ชอบไม่ว่าจะเคยเป็นศัตรู
ผมก็อยากทำแต่สิ่งดีๆ ให้นะ”
“ไม่ตลก”
“สำหรับเรื่องของหัวใจผมไม่ตลกอยู่แล้ว”
“อย่ามาพูดบ้าๆ”
หันหลังกลับไปสบตากับอีกฝ่ายเพื่อดูว่าอีกคนอาจจะกำลังพูดแกล้งเขาเล่นก็ได้ “มึงมีแผนอะไรในใจใช่มั้ย”
“เพราะแบคฮยอนบอกว่าห้ามทำให้ชอบ
เพราะฉะนั้นผมจะทำสิ่งที่ตรงกันข้าม”
“...”
“ทำให้รัก”
“จะ..จะนอนแล้ว”
กระชับผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงปากที่ไม่สามารถกลั้นไม่ให้ยิ้มได้ พร้อมกับค่อยๆ
เขยิบตัวออกห่างเพราะถ้าอยู่ใกล้ๆ กันอีกฝ่ายต้องได้ยินเสียงนี้แน่ๆ
เสียงหัวใจที่มันเต้นแรงของแบคฮยอนน่ะ..ไม่อยากให้รู้เลย
“ขอกอดได้มั้ย”
“อยากโดนกัดหรอไง”
“ยอมให้กัดทั้งคืนเลย”
“ไปไกลๆ เลยไอ้ยักษ์”
แล้วก็หันหลังให้อีกฝ่ายเหมือนเดิม แต่คราวนี้แค่ข่มตาแป๊บเดียวก็หลับสนิทได้อย่างสบายใจ
ต้องเป็นเพราะไอ้ยักษ์มันร่ายคาถาอะไรใส่เขาแน่ๆ
ความคิดเห็น