กว่าจะ "ติด" หมอ

ลำดับตอนที่ #2 : >>> แนะนำตัว #2 :: เมื่อฉันต้องตรวจบุคลิกภาพและตรวจร่างกาย

หลังจากที่ผล กสพท. ประกาศไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 
ทางแต่ละมหาลัยก็ได้แจ้งมาว่าเราต้องไปโอนตังตรวจร่างกายและสอบสัมภาษณ์วันไหน

อย่างที่มหาลัยพี่ เค้าให้ไปตรวจร่างกายและสอบสัมภาษณ์ทั้งหมด 3 วันในวันที่ 2-4 มีนาคม
ในวันแรกจะเป็นการตรวจบุคลิกภาพ และตรวจร่างกายทั่วไป
ในวันที่สองจะเป็นการตรวจสุขภาพจิต และตรวจหู
และวันสุดท้ายจะเป็นการสอบสัมภาษณ์ ที่หลาย ๆ คนมักจะวิตกกังวล

อืมมมม.. และจากประสบการณ์สด ๆ ร้อน ๆ
พี่ว่าตรวจสุขภาพจิต ออกจะโหดกว่าสอบสัมภาษณ์นะ >________< กรี๊ดๆๆ
แต่น้องอย่าไปเกร็ง ไอที่ว่าโหดน่ะก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่อะ คิคิ



เอาเป็นว่าก่อนจะไปถึงวันสัมภาษณ์กับตรวจสุขภาพจิตเรามาเริ่มกันที่่วันแรกก่อนเนอะ 55+
วันแรกกก !! วันตรวจบุคลิกภาพกับตรวจร่างกาย
เค้าจะแบ่งเป็นช่วงเช้าตรวจบุคลิกภาพ และช่วงบ่ายตรวจร่างกาย
ซึ่งงงงงงง....น้องคงสงสัยป้ะ ว่าไอตรวจบุคลิกภาพนี่ตรวจยังไง
เออ พี่ก็สงสัยเหมือนน้องแหละ ตอนแรกพี่นึกว่าจะให้ดู "บุคลิกภาพ" อะ
แบบดูท่าเดิน ท่านั่งกินข้าว ดูการไหว้ มารยาทในโต๊ะอาหาร ประมาณนี้ 555
แล้วมันยิ่งวงเล็บไว้ว่าต้องทำพร้อมกัน  ยิ่งจินตนาการเตลิดเลยอะ 55555555

แต่ปรากฎว่าจริง ๆ แล้วมันก็เป็นแค่การทำแบบทดสอบธรรมดา
ซึ่งมันจะไม่ธรรมดาตรงที่มันมี 566 ข้อนั่นเอง (ทำไมเค้าไม่ทำให้เลขลงตัวนะ -*-)
566 ข้อนี้เป็นการตอบถูกผิด ซึ่งเหมือนเป็นตรวจสุขภาพจิตมากกว่า แนวๆว่าเราบ้าป้ะเนี๊ย
แต่ละข้อก็จะออกแนว อาทิ (สมมุตินะ แต่ค่อนข้างเหมือนของจริงมาก 55)
"
ข้อ 123. ฉันรู้สึกว่าเพศตรงข้ามน่าดึงดูดใจ    True    False
ข้อ 124. ฉันอยากล่าสิงโตในแอฟริกา    True    False
ข้อ 125. บ่อยครั้งที่ฉันได้ยินเสียงแว่วมาเวลาฉันอยู่ในที่เงียบ ๆ คนเดียว    True    False
ข้อ 126. ฉันรู้สึกว่ามีคนแอบมองฉันตลอดเวลา    True    False
"
ก็จะแนวนี้อะ ตอนแรกพี่ก็ทำไปช้า ๆ นะ
ค่อยค่อยคิด ค่อยค่อยทำ  ทำไปทำมานี่มันเช็คว่า(ตรู)บ้าหรือเปล่า(วะ)
โดยเฉพาะไอข้ออยากล่าสิงโตอะ  อ่านเสร็จสะดุดกึก มันต้องการไรฟระเนี่ย
ก็เลยอ่านกา อ่านกา เลยอะ 555555555
ตอนหลังรุ่นพี่ก็มาบอกว่าแบบทดสอบนี้แทบไม่มีผลอะไรกับน้องเลย
ก็โอเคสบายใจกันไป ^O^

และนอกจากแบบทดสอบ 566 ข้อแล้ว มันก็มีแบบทดสอบอีกอัน
ซึ่งเขาจะให้ดูรูปที่อยู่บนสไลด์ทั้งหมด 10 รูป แล้วก็เขียนลงกระดาษที่่เค้าให้
คือให้ดูทีละรูป แล้วเขียนว่า เราคิดว่ารูปนี้เป็นตัวอะไร เพราะเหตุใด
รูปมันจะแนวแบบภาพเป็นด้านเดียว แต่นำมาสะท้อนทุกรูปเลย
อืมม..ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึงนกเวลากางปีกสองข้าง
พอแบ่งครึ่งแล้วมันดูเท่ากันทั้งสองด้านป้ะ
รูปก็จะออกมาแนวนกกางปีก ซึ่งในแบบทดสอบนี้ก็จะเป็นแนวนั้นอะ
แล้วบางภาพพอเราเห็นก็จะจินตนาการได้เป็นหลายอย่าง
ก็เขียนกันไป ไม่มีอะไรมาก แค่เสียเวลากว่าเค้าจะเลื่อนแต่ละรูปนิดนึง
แต่แปลกดี พอออกจากห้องมาแล้วคุยกันคนอื่น
รู้สึกเค้าจะตอบไม่ค่อยเหมือนพี่กันนะ 555555 สงสัยจินตนาการล้ำเลิศน่ะค่ะคุณน้อง
ก๊ากกกกกก ก

____________เสร็จกันไปกับภาคเช้า  ระหว่างนั้นก็ไปรับประทานอาหาร
แล้วก็รู้จักเพื่อนใหม่กันตามอัธยาศัย



เอี๊ยดดดดดดด เรามาต่อกับภาคบ่ายซึ่งเป็นการตรวจร่างกาย(ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด TOT)กันดีกว่าน้ะ
การตรวจร่างกายก็ค่อนข้างทั่วไป...
คือจะมีการวัดความดัน ส่วนสูง น้ำหนัก เช็คสายตา เช็คตาบอดสี(อันนี้สำคัญมากสำหรับบางแห่ง เช่น พระมงกุฎ)
เอ็กซเรย์ร่างกาย ตรวจปัสสาวะ(!?) และทีน่ากลัวที่สุด............ตรวจเลือด TOT
ของพี่ได้ X-ray เป็นอย่างแรก ซึ่งการ X-ray จริง ๆ เร็วมาก ไม่ถึง 10 วินาทีก็เสร็จแล้ว
แต่ที่ทำให้ช้าก็คือเราต้องเปลี่ยนชุดค่ะ ต้องถอดเสื้อหมดเลย
แล้วก็ห่มเครื่องแต่งกาย(?)ที่เค้าจัดให้อะ
จริง ๆ อยากจะบอกว่ามันไม่เหมือนเครื่องแต่งกายเลยอ้ะ
มันเหมือนเอาผ้าชิ้นยาว ๆ มาห่มทับมากกว่า -*-
แล้วประเด็นคือคนที่ไปก็เป็นเพื่อนใหม่ทั้งนั้น เจอกันวันแรกก็ต้องถอดเสื้อห้องเดียวกันแร้ว +0+
คือแบบว่าก็เขิน ๆ กันไปตลกดีนะ ฮ่า ๆ

ถัดจากการเอ็กซเรย์ ก็เป็นการตรวจปัสสาวะค่ะ อืม.....นะ -_-""
ก็เป็นอย่างที่ใคร ๆ จินตนาการน่ะแหละ (สำหรับคนไม่เคยตรวจ)
เค้าจะให้กระป๋องใส ๆ เล็ก ๆ มาอันนึง แล้วก็บอกให้น้องไปฉี่ให้เกือบเต็มกระป๋อง
อะ ก็เข้าห้องน้ำ ฉี่ ปิดฝา แล้วก็นำไปส่งคืนก็เป็นอันเสร็จค่ะ
จะเขิน ๆ หน่อยก็ตรงที่เราต้องถือกระป๋องฉี่ีของเรามาคืนตรง ณ จุดรับฉี่ค่ะ
ซึี่ง...ผู้ชาย เป็นสิบ อ้ากกกกกก เสียหายหลายร้อยล้านจริงจริ๊ง >O<!!

ต่อจากตรวจปัสสาวะ ก็ถึงจุดน่ากลัวที่สุดแล้วค่ะ นั่นก็คือ
""เจาะเลือด""
สำหรับคนกลัวเข็มขึ้นสมองอย่างพี่แร้ว ณ จุดนี้เป็นอะไรที่ซีดได้ใจมากค่ะ
พอรู้ว่าต้องตรวจเลือดพี่ก็พยายามหาแถวที่มันยาวที่สุดแล้วไปต่อท้าย
(เพื่ออออ - -) แม้ว่าสุดท้ายจะต้องเจาะ แต่ก็ขอยืดเวลาหน่อยละกันนะ -*-
เค้าก็จะให้แท่งคล้าย ๆ กระบอกฉีดยามาให้น้องสำหรับใส่เลือด
ซึ่งตอนแรกที่เค้าบอกมีเจาะเลือด พี่ก็คิดว่าแค่เจาะปลายนิ้วแล้วใช้เลือดแค่สองสามหยด
อืม...แต่นี่เค้าให้เจาะกันเป็นหลอดเลยค่ะ สราสสสสสสสส(เซ็นเซอร์ๆๆๆๆ)
ยิ่งพอแถวสั้นลงเท่าไหร่พี่ยิ่งซีดหนัก 5555555
พอถึงตาคนข้างหน้าพี่เจาะ ตอนแรกก็ดูไม่มีอะไร
คุณน้าที่เจาะเค้าก็บอก ไม่ต้องกลัวนะ ไม่เจ็บหรอก เนี่ย ๆ แปบเดียวก็เสร็จ
พี่ก็มองตามที่เค้าเจาะ ตอนเจาะก็โอเคอยู่หรอก
แต่พอดึงเข็มออก เห้ยย เลือดพุ่ง !?!?!?!?
อ่าวชิบlostแล้ว(กรุ)ต้องเจาะต่อเนี่ยนะ T_____________T
ตอนเจาะก็ซีดกันไป 55555555
แต่สุดท้ายแล้วก็ผ่านไปได้ด้วยดี ^O^ooo

ต่อจากเจาะเลือดก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้วค่ะ
ก็จะมีวัดความดัน ส่วนสูง น้ำหนัก เช็คสายตา เช็คตาบอดสี
เช็คตาบอดสีเค้าก็จะมีเหมือนหนังสือมาให้เล่มนึง
ซึ่งก็จะเป็นรูปตัวเลขอยู่ในวงกลมที่ทำเป็นสีต่าง ๆ กัน
เห็นเขาบอกว่าถ้าตาบอดสี ในบางรูปจะเห็นเป็นตัวเลขที่ไม่เหมือนคนปกติ
ณ จุดนี้เช็คไม่นานค่ะ สัก 2-3 นาทีก็เสร็จ
จริง ๆ ถ้าตาบอดสีอาจจะอธิบายได้มากกว่านี้ แต่จุดนี้พี่ก็ไม่ทราบรายละเอียดนะคะ

จากนั้นเค้าก็พาเราไปถึงจุดสุดท้ายก็คือ พบหมอ
ตรงที่พบหมอก็มีฉากกั้นไว้
ตอนแรกพี่อยู่ข้างนอกก็ไม่รู้หรอกว่าข้างในหมอที่จะพบเป็นยังไง
ข้างนอกเค้าบอกแต่ว่าเป็นอาจารย์แพทย์
น้องก็จินตนาการคำว่าอาจารย์แพทย์กันไปนะ 555555
ก่อนเข้าพี่ก็คาดหวังว่า อาจารย์แพทย์ น่าสัก 50+ ไรงี้ ดูภูมิฐาน ใจดี ๆ
.....แต่พอเข้าไปนี่แบบบบ.....

"หล่อไปป่าวคะเนี่ยยยยยย  !! " (คิดในใจ)

หล่อมวากกกกกกกกจริงจริง อายุนี่ไม่น่าเกิน 30 อะ 5555555+
ผิดคาดสุด ๆ 5555555
อาจารย์แพทย์เค้าจะมาฟังเสียงหัวใจน้องค่ะ
แล้วก็ตรวจเช็คโดยรวมว่าสิ่งที่ตรวจที่ผ่านมาปกติป่าว
ซึ่งของพี่เค้าก็บอก ปกตินะครับ โอเคครับเสร็จแล้ว
จากนั้นพี่ก็เดินงง ๆ ออกมา แล้วรุ่นพี่ก็บอกว่า

"น้องที่พบอาจารย์แพทย์แล้วก็กลับบ้านได้เลยนะค้าบบบ"

พี่ก็เลยเดินไปส่งเอกสารก่อนนิดหน่อยแล้วจากนั้นก็กลับบ้านค่ะ

เป็นอันเสร็จวันแรก ^O^
เดี๋ยวพบตอนต่อไปกับ การตรวจสุขภาพจิตและสอบสัมภาษณ์นะคะ