ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณแวมไพร์ผู้น่ารัก [Fanfic Xพลังล้างโลก]

    ลำดับตอนที่ #7 : ...ฐานทัพ...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 333
      0
      10 เม.ย. 50

           ในที่มืดมิดนั้นมีหินยอดหินยอยอยู่บ่งบอกถึงเวลาของสถานที่ได้เป็นอย่างดี ละยังชื่นมากจนทำให้ร่างกายรับรู้ถึงความเย็นได้เป็นอย่างดี

        "นี้...พวกเราใกล้ถึงรึยังครับ" เสียงบ่นกระเปาเริ่มดังขึ้นร่างกายของเจ้าตัวมีเหงื่อไหลไม่หยุดทั้งๆ ที่ชื่นมากแท้ ทางด้านหญิงสาวผมม็อบก็ไม่ต่างอะไรกันมากนัก

        "อีกนิดก็ถึงแล้วอดทนไว้นะ" คามุยหันมาบอกเพื่อนหนุ่ม พลางช่วยประคองเดินอย่างอยากลำบาก

        "อ้าวคามุยถอดแว่นด้วยเหลอ" หญิงสาวที่ประสบเหตุแบบเดียวกันชันมาถามอย่างอ่อนแรงเต็มที่

        "ฮะ...สบายมากเลยด้วยซ้ำ" เจ้าตัวพลางยิ้มร่าสำหรับเค้าแล้วมันก็ไม่เห็นมีอะไรออกจะเย็นจากความชื่นด้วยซ้ำ แต่สองนี้ยิ่งเดินเข้ามาเหงื่อก็เริ่มออก ราวกับเดินบนทะเลทรายเลยก็ว่าได้

       "มันเป็นผลจากการที่เราเดินเข้ามาในนี้ บางคนอาจจะเดินผ่านแล้วเหมือนเดินบนทะเลทรายอย่างเคอิจิกับยูสึริฮะ" อาราชิอธิบายอย่างกระอักกระอ่วก พอคามุยหันไปมองหน้าที่ซีดกว่าคนปรกติเดินอย่างคนไร้วิญญาณลอยไปลอยมาสภาพไม่ต่างกันมากนัก ตอนนี้คงมีแค่เค้ามั่งที่เป็นที่พึ่ง ดังนั้นเอาของทุกคนมาถือให้เพราะมันแค่คนละกระเป๋าเลยสบายหน่อยทำให้เดินได้เร็วขึ้นก่อนที่จะมาตายกันตรงนี้ พอเดินพ้นโขดหินใหญ่ไปได้ก็พบแสงสว่างจ้าเรียกชิวิตวิญญาณกลับร่างต่างคนต่างหน้าตั้งตรงไปหาแสงสว่างทันทีโดยไม่หันมามองเพื่อนผู้แสนดีเลย เจ้าตัวได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินตามไป แสงสว่างจนต้องหลับตาเดินออกมานั้นทำให้ร่างบางหยิบแว่นในกระเสื้อขึ้นมาสวม แต่ก็ยังไม่เห็นจนกระทั้งเดินออกมาจากถ้ำจึงคอยๆ ลืมตาให้เข้ากับแสงเสียก่อนภาพที่ค่อยๆ ชัดขึ้นเผยให้เห็นเหล่าพวกพ้องที่กลับมามีชิวิตอีกครั้ง และหญิงสาวน่าตาสวยในชุดกระโปงสีแดง ผมบลอนสั้นสีบานเย็น ตาสีน้ำตาลเข้มออกแดงเล็กน้อยเข้ากันได้ดี หยิงสาวเดินเข้ามายิ้มให้

        "สวัสดีจ๊ะเธอคือคามุยซินะฉันปิศาจไฟคาเลนจ้า" หญิงสาวแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง พลางพิจารณารูร่างของเด็กหนุ่มไปด้วย...รูปร่างดีตัวไม่สูงมากนัก ผมดำ มาดแบบราชินี...ไม่ว่าเปล่าพลางถอดแว่นกรอบเทาออกมองใบหน้าหวานใหม่อีกครั้ง เรียกรอยยิ้มเจ้าเล่บนริมฝีปากแดงอิ่มนั้นทันใด...หน้ารักมาก ตาสีดอกไวโอเล็ตอมฟ้าสวยอย่าบอกใครตอนใส่แว่นว่าน่ารักแบบเรียบร้อยแล้ว พอถอดออกแล้วน่ารักกว่าผู้หญิงซะอีก แบบอาจเรียกลูกค้าได้เยอะ... เจ้าตัวเริ่มเก็บอาการยิ้มไม่หยุดจนร่างบางเกิดอาการกลัวเสียวสันหลังทันที่

        "อ๋อขอโทษคงหนักซินะงั้นไปกันเถอะฉันเตรียมห้องไว้ให้แล้วตามมาซิ" พลางช่วยถือกระเป๋าจากคามุยชิ่งหนีเดินลงก่อนตามด้วยพวกสองสาว เคอิจิเดินมาใกล้คามุยที่กำลังสวมแว่นอยู่

        "สวยจังเลยนะพี่สาวคนนั้น" เคอิจิถามความเห็นเพื่อนหนุ่มที่กำลังเดินตาลงไปพร้อมกระเป๋าของตน ร่างบางพยักหน้าเห็นด้วยเรื่องนี้ แต่ว่าพี่สาวคนนี้ออกจะแปลกๆ ไปนิดมองเค้าไปยิ้มไปแปลกชะมัด ร่างสูงมองคามุยที่กำลังงงกับปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมงาน ได้แต่อมยิ้มกับความซื่อของเค้า เดินลงมาได้หน่อยก็เป็นลานกว้างที่จอดรถไม่มากนักตรงไปยังรถเก่งคันสีแดงสด เป็นที่แปลกตาสำหรับพวกเค้าเพราะอยู่ในหมู่บ้านได้เรียนแต่ในตำรา ไม่เคยเห็นของจริงเลยซักครั้ง คาเลนเปิดท้ายเอากระเป๋าของทุกคนขึ้นรถจนครบ แล้วทั้งหมดก็ขึ้นรถด้านหลังก็มีคามุยตรงกลางยูสึริฮะและเคอิจิ ทั้งสามต่างพากันตื่นตาตื่นใจกับพาหนะเคลื่อนที่สีแดงนี้ และทิวทัดด้วยรอบราวกลับบ้านนอกเข้ากรุงก็ไม่ปานเรียกเสียงหัวเราะเล็กจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี พอพ้นจากแหล่งเขาเริ่มเข้าตัวเมืองมาได้มากพอสมควรก็ถึงที่พักของพวกเค้าเป็นตึกแถวข้างล่างเปิดเป็นคาเฟ่และขายดอกไม้บ้างเล็กน้อยห่างจากตัวเมืองแค่กิโลกว่าๆ เห็นจะได้ แล้วพวกเด็กต่างขนของขึ้นห้องของตนเอง

        "ชั้นหนึ่งกับชั้นสองนะเป็นส่วนงานนะชั้นสามเป็นห้องนั่งเล่นติดกลับครัว ชั้นสี่ห้องนอนของฉันกับสาวๆพร้อมห้องน้ำที่ติดกับบันได ส่วนหนุ่มๆ ชั้นสุดท้ายห้องน้ำติดบันไดเช่นกันและมีระเบียงให้เดินออกไปรับลมได้ถ้าไงเก็บของแล้วลงมาเจอที่ชั้นสามนะจ๊ะ" กล่าวจบก็เดินลงบันไดลงมาให้ทั้งหมดแยกย้ายตามห้องของตนเอง ห้องของสาวนั้นเป็นสีชมพู่อ่อนสบายตามีสองเตียงอยู่คนละมุมกับโต๊ะคนละตัวใกล้กันมีตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ใบเดียว ทางด้านหนุ่มๆ นั้นห้องไม่กว้างเท่าห้องของผู้หญิง โทนสีฟ้าเทามีตู้แบ่งเป็นสองช่องไม่กว้างมากต่อกับเตียงสองชั้นอยู่มุมห้อง โต๊ะสองตัวติดกันมีหนังสือสำหรับเรียนในโรงเรียน สามารถรับลมได้เต็มที่ ว่าแล้วสองหนุ่มก็ลงมือจัดข้าวของตนเองเค้าที่ก้อปาไปครึ่งชั่วโมง ทั้งคู่เดินลงที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งทั้งหมดรออยู่แล้ว

        "อ้าวละหนุ่มๆมากันแล้ว" คาเลนว่าพลางลุกขึ้นมองสองสาวที่อยู่ในชุดใหม่จนสองหนุ่มอดตาค้างไม่ได้

        "เป็นไงน่ารักไหมเอ๋ย" ยูสึริฮะว่าพลางโพสตทาให้ดูน่ารักในแขนสั้นมีปกสีชมพู่กระโปงสีขาวสั้นสวมถุงเท้าสีขาว อีกสาวที่ยืนอายกับการแต่งตัวใหม่ในชุดเสื้อโชว์ไหล่สีม่วงอ่อนแขนยาวกระโปงยาวสีกรมท่าถุงเท้าสีดำปล่อยผมยาวตรงสรวย

        "โห~น่ารักมากๆ เลยครับคุณคาเลนแต่งให้เหลอครับ" เคอิจิว่าพลางเดินชมสองสาวในลุกใหม่ขาดปาก คามุยเองก็เห็นด้วยกับเคอิจิทุกอย่าง คนแต่งยืดอกรับเต็มที่กับผลงานของตน

        "อ่าวละต่อไปก็ถึงตาพวกเธอแล้วนะ" พลางจับลากกึ่งถูสองหนุ่มเข้าห้องของตนพร้อมเสียงร้องโหยหวนของใครบางคนลอยเป็นระยะ ผ่านไป 10 นาทีเคอิจิเดินออกมาในชุดใหม่ เสื้อเชื้อคอกลมสีดำกางยีนรัดรูปสวมสร้อยคอรายไม้กางเขนเงิน ส่วนสุดท้ายหนุ่มน้อยถูกเปลี่ยนเป็นสาวน้อยในชุดเสื้อคอกลมสีฟ้าแขนยาวมีเสื้อคอปกสีขาวกระโปงบานสีขาว สวมวิกผมประบ่าไร้แว่นตาบดบัง ยื่นนีบขามือเรียวงามพยายามดึงกระโปงปิดข้างหน้าให้ยาวที่สุด ดวงหน้าแดงกำขัดเขินเคอิจิต้องพยายามกั้นหัวเราะ ที่แน่ๆ สาวๆ ต่างยื่นค้างเล็กน้อยกับสาวน้อยน่ารักตรงหน้า

        "คะ...คามุยเหลอ" อาราชิถามอย่างเกรงใจ ยิ่งทำให้เจ้าตัวเขินหนักขึ้นก้มหน้างุดๆ

        "กริ๊ด~น่าร้ากกกก" ไม่ว่าเปล่ากระโดดกอดร่างบางจนล้ม อาราชิเองก็รวมด้วยเหมือนกอดตุ๊กตาน่ารัก คาเลนที่เดินออกมายิ้มอย่างพอใจกับผลงานของตนเองเป็นอย่างมาก เคอิจิเองก็เห็นด้วยเรื่องนี้จนอดขำไม่ได้ปล่อยออกมา

        "พอซะทีผมเป็นผู้ชายนะ" (สาวน้อย)ว้ากออกด้วยความอดทนหมดลง ทั้งหมดหยุดการกระทพทุกอย่างมองดูร่างบางตรงหน้าสภาพไม่ต่างจากเด็กสาวเท่าไร ยิ่งมองยิ่งอยากกอดเหมื่อนตุ๊กตาน่ารักไม่มีผิด

        "เพราะงั้นนะซิเฉพาะวันนี้พวกเราจะไปซื้อของสำหรับอยู่ที่นี้ ตอนนี้พวกมันรู้ว่าเธอเป็นใครและอยู่ในโลกมนุษย์พวกมันเองก็กลบกลิ่น รึอาศัยในตัวมนุษย์อย่างกับกาฝากดังนั้นตอนกลางวันเราต้องระวังไว้ก่อน" คำอธิบายมีหลักการเรียกภาระหน้าที่ของตนกลับมา บรรยากาศในห้องเริ่มเข้าสู่ความเงียบ

        "พรุ่งนี้พวกเธอทำหน้าที่ตอนอยู่ที่นี้ไง เอางี้ตามฉันมาอ๋อเอากล่องที่ผู้เฒ่าให้ลงมาด้วยนะ" ว่าแล้วคาเลนก็ฉีกยิ้มไร้ความเครียดออกจากห้องเดินลงมายังชั้นสองตามด้วยเด็กๆในห้องนั้นมืดจนมองไม่เห็น แต่สำหรับคามุยนั้นคนละเรื่องจู่ๆ แสงสว่างจ้าจนต้องปิดแล้วค่อยกะพริบเพื่อให้เข้ากับแสง เผยให้เห็นห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ มีหน้าจอใหญ่บ่งบอก ถึงตำแหน่งบางอย่าง

        "ที่นี้เป็นฐานลับของพวกเราจ๊ะ บนจอนั้นจะแสดงถึงตำแหน่งของปิศาจที่อยู่บนโลกนี้" พลางอธิบายคุณสมบัติของมันอย่างภาคภูมิ

        "งั้นเราก็สามารถหาเจ้าชายได้ง่ายๆ เลยนะซิ" เคอิจิว่าอย่างมีความหวัง

        "ก็อาจจะแต่ตอนนี้..." พลางขยายรูปแผนกรุงโตเกียว และมีสีแดงสว่างขึ้นมามากมาย ตามด้วยสีเขียวที่มีไม่มากนัก และสีเหลื่องที่มากพอๆกับสีเขียว

        "นี้คือแผนที่เฉพาะเขตโตเกียว มันแสดงจุดบ่งบอกปิศาจสีแดงปิศาจของราชินี สีเขียวคือพวกเรา และสีเหลืองคือปิศาจที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นจำพวกไหน" คำอธิบายภาพตรงหน้า

        "หมายความว่าไงครับสีเหลือง ที่ไม่สามารถแยกได้" เคอิจิว่าอย่างอยากรู้

        "มันก็คือพวกวิญญาณรึลูกครึ่งปิศาจ หรือไม่ปิศาจที่แบ่งพวกไม่ได้ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน เพราะบางตัวอยากอยู่กับมนุษย์เลยไม่มาอยากมายุ่งเรื่องนี้ไงล่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวิญาณนะ และก็เจ้าชายเองก็อยู่ในจำพวกไหนเลย" คำอธิบายจบ แต่ความสงสัยก็ยังไม่หายไป

        "เอ๋!!~ทำไมถึงเป็นงั้นละครับ" เคอิจิว่าอย่างเสียดาย หน่วยกล้าตายเริ่มออกโรงแทนเพื่อนๆ

        "คิดว่าพวกนั้นจะไม่รู้เรื่องนี้เหลอ เพราะงั้นคนที่รู้ได้จึงมีเธอเท่านั้นไงล่ะคามุย" กล่าวจบเดินมายังร่างบางที่มองอย่างงง

        "ผมเหลอ...แต่ว่าผมจะรู้ได้ไงล่ะ" ร่างบาง ปฎิเศษทันใด

        "ใช่เธอจะรับรู้ได้ทันที่เจ้าชายอยู่ใกล้" เจ้าหล่อนฉีกยิ้มให้เพื่อไล่ความเครียดของร่างบาง ถึงจะเล็กน้อยก็ตาม

        "แต่พวกเราก็ไม่อยู่เฉยให้เธอหาคนเดียวหลอก ตอนนี้พวกปิศาจของราชินีพวกมันเรียกตนเองว่า 'ดากเดวิล' ตามรอยเจ้าชายจนเจอเมื่อ 5 ปีก่อน และมักจะทำเรื่องไว้จนเราสังเกตได้ และยิ่งพักนี้พวกมันเริ่มเคลื่อนไหวอย่างโจงแจ้งด้วยแล้ว เราต้องระวังให้ขึ้น" อธิบายจบ พร้อมกับปิดหน้าจอภาพทันที่ พร้อมตรงโต๊ะตรงกลางเปิดฝาออกมีลูกแก้วเล็กๆ สี่ลูกพร้อมสายสีดำร้อยอยู่แล้ว เรียกความสนใจของพวกเด็กได้เป็นอย่างดี

        "แล้วถ้าเกิดเราต้องประทะกัน สิ่งนี้จะช่วย 'สร้างอนาเขต' ขึ้นมาไงล่ะ" คาเลนเริ่มอธิบายอีกครั้ง

        "'สร้างอนาเขต' มันคืออะไรครับ" เคอิจิถามพลางหยิบลูกแก้วขึ้นมาดู

        "มันก็คือการสร้างมิติอีกมิติที่เราจะอารวาทได้เต็มที่โดยไม่ส่งผลต่อโลกมนุษย์" คาเลนเริ่มอธิบายอีกครั้งพลางโชว์ของตนให้ดู

        "แต่ถ้าเราบาดเจ็บหนักรึตายมันจะส่งผลถึงที่นี้ไงล่ะ และมีแต่พวกเราเท่านั้นที่ใช้ได้" พลางแจกให้ให้ที่ละคนไว้ใช้ เพราะยังไงก็ต้องมีการประทะกันอยู่แล้ว

        "แล้วมันทำไงเหลอครับ" เคอิจิถามอย่างสนอกสนใจเป็นอย่างมาก คาเลนหันมายิ้มให้อย่างรู้ทัน

        "เอาไว้เจอของจริงแล้วจะสอนนะจ๊ะ แต่ตอนนี้เราไปซื้อของกันดีกว่านะ" กล่าวจบก็เดินไปข้างหลังสาวๆ ดันไปข้างหน้า ร่างสูงทำน้าเบ้เล็กน้อยตามหลังไป คามุยที่ยื่นมองลูกแก้วสีแดงในมือ ก่อนจะเอามันคล้องคอเดินตามออกไป

    ...ในที่สุดก็มาถึงแล้วซินะ...

    ...คามุยเอ๋ยเจ้าต้องพบเจออีกเยอะ...

    ...ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะไปได้ถึงไหน...

    ...รวมถึง 'คู่แท้' ของเจ้าด้วย...

    เสียงในความมืดดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมแสงในลูกแก้วฉายภาพเด็กหนุ่มผมสีรัตติกาล ดวงตาสีอเมทิสที่เศล้าสร้อย...

       
                                                                                                                             /*/โปรดติดตามตอนต่อไป/*/

    +-+-+-+-+-+-+-+++-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+

    ปล.ส่งท้าย ในเรื่องคิดว่ายังคงพลังในการสร้างอนาเขตของมังกรฟ้าไว้ดีกว่า แต่จะมีอุปกรณ์ช่วยเสริมเข้ามาด้วยนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×