ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กระบี่รันทด

    ลำดับตอนที่ #2 : กระบี่รันทด......บทที่ 2 คับขัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.17K
      12
      12 ส.ค. 53

      กระบี่รันทด 1.......คับขัน

              ลมชุนเทียนพัดผ่าน นกกาเรียงรายโบยบินตัดฟากฟ้าครามกว้างไกล

              เบื้องหน้าคลื่นลมครวญครางกระซิบฝั่งฝังรักชั่วนาตาปี เบื้องหลังเป็นทิวไม้เขียวสูงต่ำไล่เรียงรายไหวเอนพลิ้วไหวคร่ำครวญท่วงทำนองมโหรีธรรมชาติขับขาน


              กระบี่รันทดยืนหยัดสองเท้ายืนอยู่บนหาดทรายขาวสะอาดตา อ้างว้างเดียวดายฟังเสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น มองทะเลกว้างฟ้าไกล มือขวากุมด้ามกระบี่รันทดแนบแน่น ราวกลัวกระบี่จะโบยบิน เกรงหัวใจจะโบยบิน

              กระบี่รันทดจะเปล่งพลานุภาพสุดยอดก็ต่อเมื่อจิตใจรันทดหดหู่ถึงขีดสุดเท่านั้น ยิ่งรันทดโศกเศร้ากระบี่ยิ่งร้ายกาจ ยิ่งจิตใจเบิกบานพลังกระบี่กลับลดถดถอย

              เสียใจหนึ่งส่วน พลังเพิ่มพูนหนึ่งส่วน
              ดีใจหนึ่งส่วน พลังลดทอนหนึ่งส่วน
              รันทดสุดยอดพลังฝีมือสุดยอด
              เบิกบานแจ่มใสสุดยอด ตายทั้งเป็นสถานเดียว….


              นับตั้งแต่เข้าสู่ยุทธภพ กระบี่รันทดดิ้นรนดั้นด้นเสาะหาเรื่องรันทดใส่ตัว สถานที่ใดมีเรื่องรันทดมันต้องเสาะหา เพื่อเพิ่มพูนวิทยายุทธ ที่ใดมีเสียงคร่ำครวญหวนไห้จิตใจยิ่งคึกคักทวีคูณ พลังลมปราณเปล่งพลานุภาพสูงสุด

              เพลงกระบี่ "เก้ารันทด" ของมันจัดว่าเป็นสุดยอดหลักวิชาเร้นลับชนิดหนึ่ง
    คนฝึกวิชาแนวนี้มีน้อยกว่าน้อยแล้ว
              ท่ามกลางฟองคลื่นขาวแตกกระจายดรุณีน้อยนางหนึ่งโผล่ขึ้นมากลางฟองคลื่นราวมายาภาพ นางมุ่งหน้าตรงมาอย่างช้าๆ ผมยาวสยายราวสาหร่ายคลี่คลุม

              นางยิ้มแย้ม

              ทะเลหยุดไหวสายลมหยุดพัดกระบี่หยุดนิ่งมือไร้เรียวแรงปล่อยกระบี่หลุดลง กลิ่นกายหอมกระซิบสั่งหวานไหวมาตามสายลม
              นางเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้า ยิ่งยิ้มแย้มจนหยาดเยิ้ม
              กระบี่รันทดกลัวที่สุดคือรอยยิ้ม
              รอยยิ้มบันดาลในจิตใจผู้คนอ่อนไหวเบิกบาน รอยยิ้มฉีกหัวใจจนกระจัดกระจาย

              อ๊าก……

              กระบี่รันทดสะดุ้งตื่นขึ้นมาตัวสั่นเป็นลูกนกต้องลมฝน ฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวสุดแสนจนหัวใจแทบปลิดปลิวจากรอยยิ้มติดตราตรึงใจจากในฝัน
              พอตื่นขึ้นมามันก็ต้องใจหายวาบอีกครั้ง
              เมื่อก่อนพอตื่นขึ้นมา มันต้องพบตัวเองอยู่ในกระท่อมร้างข้างทาง ศาลเจ้า หรืออย่างดีก็เป็นโรงเตี๊ยมซอมซ่อเท่าที่พอจะหาได้
              เนื่องเพราะมันมิอาจอยู่อาจสุขสบายเด็ดขาด
              สุขสบายคือกลลวงชักนำให้จิตใจร่าเริงสนุกสนานนั่นเป็นวิถีทางแห่งความตาย
              ทว่าวันนี้มันกลับตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองอยู่บนเตียงหรูหราราคาแพงหอมกรุ่น ผ้าห่มนุ่มเนียนหนาป็นผ้าชั้นดีจากเปอร๋เซีย พื้นปูพรมจากอิหร่าน ไหมแพรจากอินเดีย ปลวกหมอนสุดวิจิตรจากแดนสยาม
              ชุดที่มันสวมอยู่เป็นแพรไหมชั้นดีทั้งนุ่มทั้งลื่นเย็นสบายอย่างบอกไม่ถูก
          “
    โอย..!”
              ร้องสุดเสียง ความสุขสบายกำเริบจนลมปราณแตกซ่านพอกระโดดปราดขึ้นกลับไร้เรี่ยวแรงจนต้องร่วงหล่นลงจากเตียง
          “
    เสื้อผ้าชุดเก่าข้าอยู่ไหน..
              กระทั่งเสียงร้องยังแหบแห้งเหมือนปลาใกล้ตายดิ้นรนบนพื้นทะเลทราย ชุดสวมใส่สุขสบายเช่นนี้มันมิอาจทนทานได้
          “
    ท่านเป็นอะไรไปแล้ว
              เสียงหวานใสดังมาจากด้านข้าง
              กระบี่รันทดหันไปมองอย่างไม่ตั้งใจอีกแล้ว
              ดรุณีน้อยนางนั้นนั่งหวีผมอยู่บนเก้าอี้ชั้นดีจากธิเบต อยู่หน้ากระจกขัดเงาจากรัสเซียหันมามองอย่างแปลกใจหากสายตาเป็นประกายวาววาม

              ฝันร้ายอีกแล้ว ?
              ไม่ใช่ฝันร้ายเด็ดขาด แต่ยิ่งกว่าฝันร้าย
              บางครั้งเรื่องจริงหนักหนาสาหัสมากกว่าฝันร้ายมากมายหลายเท่า ฝันร้ายอย่างไรก็ยังมีวันตื่น แต่ความจริงที่เลวร้ายนอกจากความตายแล้วยัง        มีทางอื่นหลบหลีก ?

              ดรุณีน้อยชายตามองกล่าวอย่างเอียงอายว่า
          “
    พรุ่งนี้พิธีแต่งงานจะเริ่มขึ้น ท่านควรถนอมตัวไว้
          “
    โอย………”
              กระบี่รันทดราวตกลงในหล่มเพลิงก็มิปาน จู่ ๆ ก็จะเข้าพิธีวิวาห์อย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุเป็นเช่นนี้ได้เช่นไร

              ขืนแต่งงานไปมันคงสุขสบายมากมายจนตายทั้งเป็นแน่แท้

              อย่าว่าแต่การที่มันอยู่อยู่หนึ่งต่อหนึ่งกับดรุณีในที่รโหฐานเช่นนี้นับว่าเป็นการเสื่อมเสียมากแล้ว กุลบุรุษดีงามเช่นมันภายภาคหน้าจะยืนหยัดสบตาผู้คนเต็มที่ได้อย่างไรกัน
              เช่นนั้นไยมิใช่เรื่องเศร้าปางตาย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
              ความรันทดของมันปะทุขึ้นทันที ก่อให้เกิดพลังขุมหนึ่งชักนำมันกระโดดปราดขึ้นพุ่งทะลวงโครมใส่หน้าต่างพังออกเป็นช่องใหญ่
              พอมันพ้นหน้าต่างออกไป พลันลานตาวูบหนึ่ง
              ข้างล่างเป็นสระน้ำ
              กระบี่รันทดใจหายวาบ
              ร่างของมันพอร่วงหล่นโครมลงไปในน้ำก็คล้ายเต้าหู้ถูกโยนลงน้ำดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ แล้ว
              จอมยุทธพิสดารเช่นมันถึงกับว่ายน้ำไม่เป็น
              กระแสน้ำอ้างว้างเยือกเย็นกำลังคลี่ม่านมรณะโอบล้อมมันไว้อย่างสุขุมคัมภีรภาพ น่าเสียดายบุรุษวัยหนุ่มเปี่ยมด้วยพละกำลังและความฝันรันทดต้องมาจบชีวิตเช่นนี้

              ขณะใกล้ตายคอเสื้อของมันพลันถูกกระชากขึ้นจนลอยคว้างขึ้นจากผิวน้ำมือกางเท้ากางก่อนร่วงลงฟาดใส่พื้นดินอย่างรุนแรงจนตาพร่าพราย
              ข้างสระน้ำชายชราหนวดเคราขาวโพลนผู้หนึ่งในชุดประมงกำลังนั่งตกปลาอยู่ริมสระน้ำ ยามนี้ถึงกับใช้ตะขอเบ็ดเกี่ยวคอเสื้อคนขึ้นมาจากน้ำแสดงว่าพลังภายในเข้มแข็งยิ่ง
              ชายชราหัวร่อฮา-ฮา จ้องมองหน้ากระบี่รันทดอยู่ค่อนวันจึงกล่าวขึ้นว่า
          “
    สระน้ำของหมู่ตึกไร้รักนี้ไม่เพียงพิกล ทั้งยังพิสดารอย่างยิ่ง ปลาที่นี่ไม่เพียงมีมือมีเท้า ยังสวมเสื้อผ้าได้ กระทั่งตัวยังใหญ่โตเกินไป
              กระบี่รันทดหลังสำรอกน้ำปนลูกปลาออกมาหลายคำจึงตะกายลุกขึ้นได้ แต่มันมิทราบไฉนมันถูกนับเป็นปลาไปแล้ว
              หน้าต่างบานพังยับเยินบานนั้นเปิดออก ดรุณีน้อยโผล่หน้ามาจ้องมองร้องเสียงดังว่า
          “
    ท่านคิดจะไปที่ใด….เขยของหมู่ตึกไร้รักไยไร้มารยาทเช่นนี้
              กระบี่รันทดรับฟังคล้ายถูกเตะใส่เท้าหนึ่ง มันกระโดดตัวลอย ไม่กล้าหันไปมองอย่างไม่ตั้งใจอีกแล้ว วิ่งหนีออกไปไม่คิดชีวิต
              วิ่งไปได้เพียงหกเจ็ดก้าวพลันมีเสียงดังขวับเบา ๆ คอเสื้อของมันถูกตะขอเบ็ดเกี่ยวไว้ได้อีกครั้ง
              หากมันมีกระบี่รันทดในมือ ยังพอลงมือจู่โจมปิดป้องโต้ตอบได้ บางทีสามารถโค่นล้มฝ่ายตรงข้ามได้ แต่ยามนี้กระบี่รันทดของมันไม่ทราบสาบสูญไปตั้งแต่เมื่อไร


              สุดยอดมือกระบี่ ในมือไร้กระบี่ได้เช่นไร?
              เฉกเช่นมือสุราไร้จอกสุรา
              กระบี่อยู่คนอยู่
              กระบี่หายคนหาย
                กระบี่หักคนตาย
              จอกสุราอยู่คนอยู่
              จอกหายคนเมา
              จอกแตกคนยิ่งเมา

              กระบี่ของมือกระบี่
              พู่กันของเมธี
              เหล่านี้แยกจากกันได้อย่างไร
              บทโคลงโบราณเช่นนี้นับว่ากล่าวไม่ผิดแม้แต่น้อย
              ดังนั้นตอนนี้กระบี่รันทดคล้ายเป็นปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่งจริง ๆถูกชายชราแข็งแรงผู้นั้นหิ้วขึ้นมาคล้ายกำลังจะนำไปปรุงเป็นอาหารเย็น
                “
    ปลาเป็นๆ มาตรว่าจะตัวใหญ่ไปบ้าง ยังประเสริฐกว่าปลาตัวเล็กตัวน้อย สุภาษิตโบราณกล่าวว่า น้ำเยอะปลาไม่ตายนับว่าฟังขึ้น
              ชายชราส่งเสียงหัวร่อ
              เสียงหัวร่อที่ทำลายเรี่ยวแรงของปลาตัวใหญ่ในมือจนหมดสิ้น
              ดรุณีนางนั้นมีสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้งร้องตามหลังมาว่า
                “
    ปลาตัวใหญ่ท่าน จะต้มก็ต้ม จะตุ๋นก็ตุ๋น นึ่งอย่าใช้ไฟแรงเกินไป ตุ๋นต้องเคี่ยวให้นาน เครื่องเทศอย่าให้ขาดตกบกพร่องแล้วส่งขึ้นโต๊ะเย็นนี้

              ปลาตัวใหญ่ใจรับฟังจนหายวาบ
              หมู่ตึกไร้รักหรือกลายเป็นหมู่ตึกกินคนไปแล้ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×