ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #119 : [HaiFuri] 雨男

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.92K
      31
      2 ต.ค. 58

    Title : 雨男

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Haizaki x Furihata

    Notes : s // มาแล้วจ้า อันดับ 9 ของการโหวดในครั้งนี้ได้แก่...ไฮซากิ โชโงะผู้แสนกวนบาทาได้ตลอดศกจ้า!!!

    ไฮซากิ // ว่าใครฟะ! พูดดีๆ สักครั้งเถอะ!!!

    S // ไม่...คราวก่อนไม่ได้แกล้งมายุสุมิ คราวนี้ขอแกล้งนายแล้วกัน

    ไฮซากิ // ไหงงั้นล่ะ!?

    S // ไม่รู้ไม่ชี้ (เสกเขาวนกตและถีบไฮซากิเข้าไป) หาทางเข้าฟิคเองนะจ๊ะ แล้วเราจะเฝ้าดูอยู่ ไม่ต้องกลัวเหงานะจ๊ะ

    ไฮซากิ // แว๊ก!!! ยัยชิโกะ!!! (เดินหลงอยู่ในเขาวงกตที่เต็มไปด้วยกับดัก และตอนนี้วิ่งหนี้หินยักษ์ที่กลิ้งไล่หลังตนอยู่)

    S // อา...การแกล้งคนนี้สนุกดีจังนะ

    ................................................................

    雨男

     

    ...เคยเชื่อในโชคชะตาไหม?...

    ...ถ้ามีคนถามแบบนี้คุณจะตอบว่าไง?...

    ...แน่นอนคำตอบของเขาคือ 'ไม่'...

    ...สำหรับเรื่องแบบนั้นไร้สาระสิ้นดี...

    ...จนกระทั่ง...ในวันที่เจอกับคนคนนั้น...

    ...คนที่เขาเจอท่ามกลางสายฝนในวันนั้น...

    ...นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มเชื่อเรื่องโชคชะตา...

    ...และหวังว่าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานั่น...

    ...จะทำให้เขาพบคนคนนั้นอีกครั้ง...

    ...แม้เวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่...

    ...เขาก็ไม่สามารถลืมคนคนนั้นได้เลย...

    ...ถึงคนคนนั้นไม่มีอะไรเด่นเลยแท้ๆ แต่...

    ...มันกลับตราตรึงใจเขาเหลือเกิน...

    ...เขาอยากเจอคนคนนั่นอีกสักครั้งเหลือเกิน...

     

     

     

     

     

    ซ่า...

    เสียงฝนกระหน่ำแรงดังอย่างต่อเนื่องทำให้การจารจรในวันนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยยวกยานพาหนะหรือโดยเท้าก็ตาม

    ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะรอหลบฝนอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อรอให้ฝนซาลงเสียก่อน แต่บางคนก็ไม่ทำเช่นนั้น...

    ...อย่างเช่นเด็กหนุ่มผมสีเทาคนหนึ่งที่ในขณะนี้วิ่งฝ่าสายฝนที่กระหน่ำลงมาจนคนที่วิ่งฝ่ารู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ราวกับมีคนเอาเข็มมาทิ่มแบบไม่คิดชีวิต...ที่จริงถ้าหยุดวิ่งน่าจะไม่เหลือชีวิตให้คิดมากกว่าเมื่อที่ตามหลังเด็กหนุ่มผมเทามาคือเหล่ากลุ่มชายหนุ่มที่ดูยังก็ไม่พ้นนักเลงหรือยากุซ่าเป็นแน่

    ...ซวย...ซวยโคตรๆ! ไหงเขาแค่หนีซ้อมไปจีบสาวแค่นี้อยู่ๆ กลับมีเจ้าพวกบ้านี้มาไล่ฟะ!? หรือเขาดันไปจีบคนของเจ้าพวกนี้หว่า!?...อาจใช่แฮะ...บ้าจริง! รู้งี้สืบให้ดีก่อนจีบดีกว่า!!!...

    ไฮซากิ โชโงะแห่งทีมบาสเทย์โคคิดในใจอย่างหัวเสีย พร้อมก้าวขาวิ่งอย่างไม่มีท่าทีจะเหนื่อยอ่อน...ก็แหงล่ะ ลองโดนเจ้ากัปตันบ้าเลือดไล่มันทุกวันสิ! ไม่อึดให้มันรู้ไปเถอะ!!!

    "หยุดนะโว้ย!!!" เสียงตะโกนดังแข่งกับสายฝนไล่ตามหลังไฮซากิมาแว่วๆ

    "เรื่องสิฟะ!!!" ไฮซากิตะโกนตอบกลับไปพร้อมโกยอ่าวไปหาที่หลบ...ที่จริงถ้ามาน้อยกว่านี้เขาคงสู้ไปด้วยแล้ว แต่เล่นหมาหมู่มาเกือบห้าสิบคนเนี่ย ถึงบ้ายังไงเขาก็ไม่เอาด้วยหรอก

    เด็กหนุ่มผมสีเทาวิ่งจู๊ดไปแอบในซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง...ซึ่งแน่นอนถ้าคนไม่เจตทางเข้ามาในซอยนี้มีแต่หลงกับหลง

    ไฮซากิเดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปๆ มาๆ อย่างน่าปวดหัวในซอยเล็กๆ ที่ดูภายนอกไม่น่าจะซับซ้อนจนเหมือนเขาวงกตได้ขนาดนี้ จนในที่สุดเจ้าตัวก็ออกมาจากซอยได้ด้วยเวลาไม่นานนัก

    แต่ด้วยความที่วันนี้เป็นวันซวยของไฮซากิหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ...ไฮซากิที่เดินฝ่าฝนไปหมายหาที่หลบเพียงไม่กี่ก้าวก็ดันเจอเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นโจทย์เสียได้...

    ...และบทสรุปเมื่อโจทย์มาเจอกันก็ไม่พ้น...การที่มีเรื่องชกต่อยกันเกิดขึ้นในไม่กี่วินาทีต่อมา

    "วันนี้มันซวยอะไรวะ!?!" ไฮซากิโวยลั่นพร้อมก้มกลบหมัดที่พุ่งเข้ามาหาตน

    "แกมันตัวซวย! เจอเรื่องซวยๆ ก็เหมาะกับแกแล้ว!!!" เด็กหนุ่มยิ้มเยาะใส่ไฮซากิ

    "อ้าวๆ! อย่าพูดหาเรื่องเซ่! มาว่าฉันเป็นตัวซวยได้ไงในเมื่อ..." เด็กหนุ่มผมเทาส่งยิ้มกวนโอ๊ยให้ และพูดคำที่เป็นดั่งมีดกรีดแทงใจของอีกฝ่าย "...แกมันไม่มีน้ำยาจนผู้หญิงของแกเดินมาหาฉันเองนิ"

    "ไอ้เวรนี่!" เด็กหนุ่มตะคอกใส่ไฮซากิก่อนที่จะเริ่มตะลุมบอนกัน

    ทั้งสองต่อยตีกันอยู่นานจนสุดท้ายก็จบลงโดยการที่เด็กหนุ่มอาศัยช่วงที่ไฮซากิเผลอเอามีดที่ซ่อนอยู่แทงใส่ไฮซากิจนมิด้าม พร้อมถีบส่งคนผมเทาลงไปนอนกับพื้นก่อนที่จะวิ่งหนีไป

    "อ...ไอ้..." ไฮซากิมองคนที่หนีไปด้วยสายตาคับแค้น พลางพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น...แต่ด้วยความเจ็บปวดบวกกับการที่มีดด้ามเดิมยังปักคาที่ท้องทำให้เจ้าตัวไม่อาจขยับตัวได้ดั่งใจ

    ...บ้าเอ้ย! เจ็บชะมัด...

    ไฮซากิที่ไม่อาจขยับได้ ทำได้เพียงมองท้องฟ้าสีเทาที่ยังคงทิ้งหยอดน้ำลงมาไม่หยุดถึงแม้จะเบาลงมานิดนึงแล้วก็ตามแต่มันก็ทำให้เด็กหนุ่มเจ็บปานเอามีดมากรีดผิวอยู่ดี ยิ่งกระทบกับมีดที่ท้องยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากขึ้น ดวงตาสีเทาเริ่มจะมองภาพต่างๆ ไม่ชัดเจน

    ...อา...นี่เขากำลังจะตายเหรอ?...ให้ตายเถอะ! นี่เขาจะตายเร็วไปไหมวะ!? ถ้าตายจริงๆ เขาจะไปหลอกไอ้บ้านั่นก่อนเลย! และค่อยไปตามหลอกคนในทีมเล่น...

    เด็กหนุ่มคิดอย่างหัวเสียหน่อยๆ ก่อนที่หูจะได้ยินเสียงใครสักคนเดินมา...หวังว่าคงไม่ใช่เจ้านั้นหาคนมากระตื้บเขาซ้ำนะ

    "เฮ้ย!" ไฮซากิได้ยินเสียงคนคนหนึ่งร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนตามด้วยเสียงวิ่งมาหาตน "นี่นาย! เป็นอะไรหรือเปล่า!? ตอบหน่อย!!!"

    "หื้อ?" ดวงตาสีเทาพยายามจับโฟกัสใบหน้าอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนที่จะมองเห็นใบหน้าคนที่ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตนที่บัดนี้ดูตื่นตนกอย่างมาก เรือนผมสีน้ำตาลลู่ติดตามโครงหน้าจากฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสาย

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลนั่งชัเข่าข้างๆ ไฮซากิ กระเป๋าที่สะพายบนบ่าก็จะตกแหล่ไม่ตกแหล่และที่ใกล้ๆ นั้นมีร่มคันหนึ่งตกอยู่โดยคนที่น่าจะเป็นเจ้าของร่มไม่คิดจะสนใจสักนิด เพราะเวลานี่เจ้าตัวสนใจคนเจ็บที่นอนใกล้ตายอยู่บนพื้นมากกว่า

    "ต...ต้องรีบไปโรงพยาบาล..." เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเอ่ยเสียงสั่น "...แต่ตอนนี้รถโคตรติดเลยนี่หว่า...งั้น..."

    "คิดจะทำอะไร?" ไฮซากิถามขึ้นเมื่ออีกฝ่ายพยายามจะพยุยตนให้ลุกขึ้น

    "พานายไปส่งโรงพยาบาลไง..." เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบอย่างซื่อๆ "...ยังไหวหรือเปล่า? ถ้าไม่เดี๋ยวฉันโทรตามคนมาช่วย"

    ...ที่จริงนายควรโทรตามรถพยาบาลที่มาโคตรช้านั้นแล้วยืนมองฉันเฉยๆ มากกว่านะ...จะเอาตัวเองมาลำบากทำไมเนี่ย?...

    เด็กหนุ่มผมเทาคิดเช่นนี้และปากก็กะจะเอ่ยเช่นนี้เช่นกัน แต่เมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลที่ฉายแววเป็นห่วงจากใจจริงทำให้ไฮซากิกลืนคำพูดที่จะพูดเหล่านั้นลงคอไปหมด

    "ไหว..." ไฮซากิทำเพียงตอบสั้นๆ เท่านั้น...สั้นชนิดขนาดเจ้าตัวเองยังแปลกใจตัวเองเลย

    "งั้นทนหน่อยนะ...โรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ นี่เอง..." เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเอาแขนคนที่เมื่อเทียบกับตนแล้วตัวใหญ่กว่าตนมากพาดบ่าและใช้แรงทั้งหมดพยุยให้อีกฝ่ายลุกขึ้น

    "อื้ม..." ไฮซากิตอบกลับเบาๆ และปล่อยให้อีกฝ่ายพยุยตนไปตามต้องการ...ยังไงซะตอนนี้มีคนช่วยก็ดีกว่าโดนปล่อยให้ตายเฉยๆ ล่ะ "...นายนี่...แปลกคนชะมัด"

    ...แต่สุดท้ายยังไม่วายกัดคนสักนิดแฮะเรา...

    ไฮซากิคิดอย่างขำๆ ในใจพร้อมกับเสียวนิดๆ ว่าจะโดนทิ้งไว้นี่ข้อหาปากเสีย

    "แฮะๆ คงงั้นล่ะนะ" เด็กหนุ่มไม่ได้เคืองโกรธแม้แต่น้อย ทำเพียงส่งยิ้มบางๆ ให้เท่านั้น...

    ...และนั้นทำให้คนผมเทาแทบลืมหายใจ...กับรอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้น หัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกจากอก สายตาจับจ้องที่คนผมสีน้ำตาลอย่างไม่อาจละสายตาได้เลยแม้แต่น้อย

    ...อา...ถ้าหมอนี่เป็นผู้หญิงเขาคงคิดว่าซี้แล้วนี่เป็นนางฟ้ามารับเขาแหง...ที่จริงต่อให้หมอนี่เป็นผู้หญิงเขาก็ไม่คิดว่าเป็นนางฟ้าหรอก อย่างเขาเนี่ยรับรองว่าไม่มีทางได้ไปสวรรค์กับเขากันหรอก...

    ไฮซากิคิดในใจไปเรื่อยเปื่อยแบบเกือบลืมว่าตนมีมีดปักท้องตนและเลือดไหลก็ออกมาจนจะหมดตัวอยู่แล้ว...ซึ่งก็อาจลืมจริงๆ ถ้าไม่มีอาการเจ็บแปล็บๆ ทุกก้าวที่เดินล่ะนะ

    ตลอดทางไปโรงพยาบาลเด็กหนุ่มผมเทาก็นึกแปลกใจตนเองขึ้นมาว่าทำไมตนไม่อาจหยุดคิดถึงเรื่องคนที่กำลังช่วยตนในตอนนี้ได้เลย แม้เจ้าตัวจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม...และถึงแม้สติจะเริ่มเลือนลางขนาดไหนก็ไม่อาจสลัดภาพของคนที่กำลังเร่งฝีเท้าพาเขาไปให้ถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดได้เลย

    จนกระทั่งในที่สุดไฮซากิก็ถูกพามาถึงโรงพยาบาล...ซึ่งแน่นอนแค่ก้าวแรกที่เขามาผู้คนในโรง'บาลก็กรีดร้องกันลั่นด้วยความตกใจ ก่อนที่จะมีทั้งหมอทั้งพยาบาลจับไฮซากิขึ้นบนเตียงและเข็นไปห้องผ่าตัดทันที...

    ...สิ่งสุดท้ายที่ดวงตาสีเทาเห็นนั้นคือป้ายชื่อที่ติดอยู่ข้างกระเป๋าคนผมสีน้ำตาล...ถึงแม้จะเปื้อนไปด้วยเลือดจนไม่สามารถอ่านบางคำได้ก็ตาม...ตัวอักษรที่เขียนว่า 'FUIATA KOUKI'

    ...และนี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่ไฮซากิ โชโงะเห็นก่อนที่จะสลบไป

     

     

     

     

     

    "...ซา...กิ...ซากิ...ไฮซากิ!!!" เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าปานโดนหย่อนเข้าไปในเครื่องปั้นทำให้เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อตื่นขึ้นมาจากนิทรา

    "โอ้ย! อะไรเล่า!?" เด็กหนุ่มผมสีออกดำๆ เทาๆ ที่เส้นผมแต่ละเส้นถูกขดเป็นเส้นยาวๆ (ทรงหนอนทำรังบนหัวนั้นแหละ // s , เขาเรียกทรงเดสร็อกเฟ้ย! // ไฮซากิ) เอ่ยถามพร้อมดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสียเล็กน้อยที่ถูกปลุกขึ้นมา

    "จะอะไรเล่า! ไปซ้อมได้แล้ว!" คนที่ปลุกดูท่าจะไม่สนใจท่าทางหัวเสียของอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก

    "ไม่ไปมันหรอก!" เด็กหนุ่มนามไฮซากิเอ่ยพร้อมกับ...ใช้ความไวเผ่นไปทันที

    "เฮ้ย! ไฮซากิ!!!" อิชิดะ ไฮเดกิกัปตันทีมบาสฟุคุดะ มองแผ่นหลังที่ห่างออกไปอย่างไม่เข้าใจนัก...ปกติไม่เคยเห็นมันจบบทสนทนาด้วยประโยคเดียวกะคนอื่นเขาสักที ไหงวันนี้ไม่พูดจาชวนโดนตื้บกลับมาหว่า?

    ทางด้านไฮซากิ โชโงะนักบาสปีหนึ่งตำแหน่ง SF แห่งทีมฟุคุดะเดินจากคนที่เป็นกัปตันทีมตนอย่างไม่สนใจอะไร...

    ที่จริงตามปกติไฮซากิมักจะป่วนเล็กน้อยก่อนแล้วค่อยหนี แต่วันนี้ดันมาปลุกเขาตอนที่ฝันถึง 'คนคนนั้น'...คนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ในวันนั้น...

    ...เมื่อตอนที่เขาอยู่ปีสองที่เทย์โค ในวันที่เขาถูกแทงและถูกปล่อยไว้ท่ามกลางสายฝนนั้นเขายังจำได้ดี ทั้งสายฝนอันเย็นเฉียบทั้งความเจ็บจากการก้าวเดินทั้งที่มีดปักท้องอยู่และ...ความว่างเปล่าที่เข้ามาในจิตเขาหลังจากเหตุการณ์นั้น

    ...เขายังจำได้ดีทุกอย่างเกี่ยวกับคนคนนั้น ทั้งใบหน้า สีผม ดวงตา กลิ่นหรือแม้แต่ความรู้สึกเมื่ออยู่ใกล้กันเขายังจำได้ดี...แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้พบเห็นหรือเจอคนคนนั้นอีกเลยก็ตาม

    ...ตอนนั้นหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาหลังผ่าตัดเสร็จ แรกลืมตาเขาไม่เห็นใครในห้องเลย แม้แต่คนที่พาตนมาส่งโรงพยาบาล...ซึ่งมันก็สมควรอยู่หรอก ใครมันจะมาสนคนที่ไม่รู้จักกันนักล่ะ

    ...เมื่อคิดแบบนั้นในใจมันก็เจ็บขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ...ทั้งๆ ที่มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วแท้ๆ ทำไมเขาถึงรู้สึกใจหายนักล่ะ? ตัวเขาในตอนนั้นไม่เข้าใจนัก ไม่สิ ต้องเรียกว่าไม่อยากยอมรับมากกว่า

    ...หลังจากนั้นไม่นานเขาจำได้ว่าเจ้าพวกตัวป่วนทั้งหลาย...คนในทีมตัวจริงนั้นแหละต่างมาหาเขาถึงห้องพัก พร้อมกับรอยยิ้มทะมึนของคนที่เขาอยากมุดกำแพงหนีเหลือเกิน

    'แกอยากไปพบยมบาลนักหรือไงห๊า!? ไฮซากิ!!!' เสียงปานยักษ์มาจุติทำให้ตัวเขาแข็งเป็นหินในบัดดล...พี่แกมาถึงปุ๊บก็โหดเลยวุ้ย!

    'ป...เปล่าครับ...นิจิมุระซัง...' เขาหลบสายตาของคนเป็นกัปตันทีมตนในตอนนั้นและก็เหลือบไปเห็น...กระเป๋านักเรียนตนวางอยู่ '...ใครเก็บกระเป๋าฉันมาให้เนี่ย?'

    ...ตอนแรกคิดว่าจะโดนใครเอาไปโยนทิ้งเสียอีก...

    'ไม่รู้เฟ้ย!' นี่เสียงตอบกลับของนิจิมุระ

    'มันอยู่ตั้งแต่พวกผมมาเยี่ยมคุณหลังจากถูกส่งมาห้องนี่แล้วล่ะครับ' คุโรโกะที่ดูจะพูดด้วยง่ายที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ตอบมาแบบนั้น

    ...แสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่หมอนั่นเป็นคนเก็บมาให้สินะ?...

    'นายสนใจกระเป๋ามากกว่าเรื่องที่ตัวเองเข้าโรงพยาบาลเนี่ยนะ? เชื่อนายเลย...' มิโดริมะเอ่ยอย่างน่าชวนโมโหโดยที่ในมือถือตุ๊กตาบ้าอะไรก็ไม่รู้อยู่ในมือ

    'ช่างฉันเถอะ...' เขาในตอนนั้นตอบเพียงแค่นั้นอย่างที่เขารู้สึกผิดวิสัยตัวเองสุดๆ '...แล้วแกถือตัวบ้าอะไรมาเนี่ย!?'

    'ลักกี้ไอเทมวันนี้...ตุ๊กตาเสียกบาลน่ะ' มิโดริมะตอบตามสไตท์ตนพร้อมขยับแว่นตน...เฮอะ! คิดว่าทำงั้นแล้วเท่เหรอ!?

    'ชื่อโคตรมงคลเลยวะ!' อาโอมิเนะพูดประชดแบบ...ที่เขาเห็นด้วยเต็มๆ

    ...ตุ๊กตาบ้าอะไรฟะ!? ชื่อยังกะจะทำให้ตัวเองเงาหัวหายอย่างงั้นแหละ!!!...

    'โชโงะคุง...สบายดีหรือเปล่าเนี่ย?' คิเสะเอ่ยถามขึ้นมา

    'น่าาาาานสิ วันนี้ดูว่าง่ายชอบกล' มุราซากิบาระเอ่ยต่อจากเจ้าโดสเด้นสีเหลือง

    'หาเรื่องใช่ไหมเนี่ย?!' เขาแยกเขี้ยวใส่ทั้งสองที่ว่าเขา...แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเขาไม่มีอารมณ์ทะเลาะกับใครนักจึงเอ่ยแค่นี้

    'อื้ม...ผิดปกติจริงๆ ด้วย...' อาคาชิมองเขา '...ไปล้มหัวกระแทกพื้นหรือเปล่า?'

    'ไม่หรอก คงแค่เสียเลือดมากไปจนเบลอมากกว่า' นิจิมุระเอ่ย...นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายพูดถูกหูเขาเนี่ย

    'นั้นสินะ...' โมโมอิเอ่ยพร้อมหยิบกล่องข้าวที่เขาเห็นแล้วรู้สึกขนลุกขึ้นมา '...กินของเพิ่มเลือดหน่อยไหมไฮซากิคุง? ฉันทำเองกับมือเลยนะ...'

    'ไม่เอา!' เขาปฏิเสธทันที...ก็แหงล่ะ! เล่นทำซะสยอง! ใครมันจะกล้ากินล่ะ!?

    'เฮ้ๆ เธอกะให้มันนอนยาวเลยใช่ไหม?' อาโอมิเนะถอยหายจากสาวเจ้าผมชมพูอย่างหวั่นๆ 'กินไปตายเลยนะนั้น'

    'ไดจังปากเสีย!' โมโมอิทำแก้มป่อง

    ...ไดกิมันไม่ปากเสียเท่าไหร่หรอก...ไอ้นั้นถ้ากินได้นอนยาวจริงๆ แน่ แถมไม่มีตื่นอีกต่างหาก...

    'เอ้าๆ! เลิกเล่นกันได้แล้ว!' นิจิมุระห้ามเด็กหนุ่มสาวทั้งสองที่กำลังจะทะเลาะกัน 'ตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าไฮซากิมันยังไม่ตาย! ไม่ต้องเอาอะไรมาให้มันกินเพิ่มหรอก!'

    ...เพ่...ควรขอบคุณหรือด่ากลับดีเนี่ย?...

    'ตอนนี้ก็ค่ำแล้วควรรีบกลับกันได้แล้ว! โดยเฉพาะโมโมอิ! ผู้หญิงไม่ควรกลับมืดๆ ค่ำๆ นะ!' นิจิมุระเริ่มไล่ต้อนแต่ละคนออกไปนอกห้อง และหันมามองทางเขา 'หายเร็วๆ นะโว้ย! ไฮซากิ! และวันหน้าวันหลังอย่าทำตัวเองเกือบตายอีกล่ะ!!!'

    ปัง!!!

    นี่เป็นคำส่งท้ายก่อนที่กัปตันจอมโหดจะจากไปพร้อมกับเหล่าทีมตัวจริงของเทย์โคทั้งหลาย

    ...ตกลงมานี่เพื่อดูว่ายังไม่ตายอย่างเดียวใช่ไหม?...

    เขาคิดอย่างปลงตกก่อนที่จะพยายามลากสังขารไปหยิบกระเป๋าของตนที่ชั้นวางของมาดู...ซึ่งแน่นอนของทุกอย่างอยู่ครบ ไม่มีอะไรเสียหาย จะมีแค่บางอันที่มีรอยโคลนติดอยู่น้อยๆ คาดว่าคงจะเก็บไอ้ที่ตกอยู่นอกกระเป๋ามาให้เขาด้วย...

    ...เขาถอนหายใจอย่างเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีของที่เขาหวังจะได้เจอหรือก็คือ...อะไรก็ได้ที่คนที่ช่วยเขาทิ้งไว้สักอย่างก็ยังดี

    ...ว่าตามตรงตอนนั้นเขานึกสงสัยตัวเองขึ้นมาจริงๆ แล้วว่าทำไมรู้สึกสนใจอีกฝ่ายขึ้นมาขนาดนั้น? รู้จักกันก็ไม่รู้จัก และหน้าตาก็ไม่มีอะไรที่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปเลยสักนิด...แล้วทำไมเขาถึงอยากรู้จัก อยากเจอและ...อยากสัมพัสขนาดนี้

    ...เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เขาก็เขกหัวตัวเองไปทีหนึ่ง

    ...นี่เขาจะบ้าเหรอ!? ไอ้อยากรู้จักกับอยากเจอน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้อยากสัมพัสนี่มันเหมือนพวกโรคจิตไปแล้ว! นี่ถ้าหมอนั้นเป็นผู้หญิงคงไม่แปลกเท่าไหร่...แต่นี่มันผู้ชายทั้งคู่นะโว้ยยยย!!!...

    ...ตอนนั้นว่าตามตรงเลยคือ...แทบสติแตกกับการที่ตัวเองรู้สึกแบบนั้นกับผู้ชายด้วยกัน

    ...หลังเขาเขกหัวตัวเองจนได้ลูกมะกรูดขึ้นบนหัวเสร็จก็ขยี้หัวอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะวางกระเป๋าลงที่เดิมและตอนนั้นเขาถึงสังเกตเห็นสิ่งหนึ่งเข้า

    ...ซึ่งสิ่งนั้นคือจดหมายฉบับหนึ่ง กับขวดนมอีกหนึ่งขวดวางอยู่ที่จุดที่กระเป๋าตนวางบังก่อนหน้านี้

    ...ถึงว่าไม่มีอะไรทิ้งไว้ในกระเป๋า...แต่วางมันหลังกระเป๋าเลยแฮะ...

    ...ตัวเขาคิดพร้อมหยิบจดหมายนั้นขึ้นมาอ่านทันที และข้อความในนั้นทำให้เผลอยิ้มออกมานิดๆ

    ...'ขอให้หายเร็วๆ นะครับ และขอโทษที่ทำกระเป๋าเลอะนะครับ'...

    ...ข้อความนี่อ่านกี่รอบเขาก็ขำจริงๆ ...ใครมันจะโกรธกับเรื่องแค่กระเป๋าเลอะหลังเหตุการณ์แบบนี้กันล่ะ!?!

    ...ช่างเป็นคนที่แปลกเสียจริง...

    ...นั้นคือสิ่งที่เขาคิดก่อนที่จะกระดกนมทั้งขวดไปในคราวเดียวจากนั้นก็เอาขวดไปล้างน้ำและเก็บใส่กระเป๋าไว้ ส่วนจดหมาย...ตอนนี้เขาเอาใส่กรอบและเก็บไว้อย่างดีเลยล่ะ เก็บไว้ดีทั้งจดหมายทั้งขวดที่ได้รับจากคนคนนั้น

    "เฮ้อ..." ไฮซากิเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจพร้อมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าคราม...เมื่อไหร่เขาจะได้พบคนคนนั้นอีกครั้งกัน?

    เด็กหนุ่มผมเทาตลอดมารอเพียงคนคนเดียวเรื่อยมา...ถึงแม้เจ้าต้วพยายามจะลืมคนผมสีน้ำตาลคนนั้นมากเท่าไหร่ก็ตาม ไม่ว่าจะทำเกเรขึ้น ทำสิ่งที่ชอบ เปลี่ยนทรงผม ไม่ว่าทางไหนมันก็ไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย ที่จะพอช่วยได้บ้างเล็กน้อยก็มีแต่โดนนิจิมุระตื้บกับเล่นบาสแค่นั้นแหละ...

    ...ว่าตามจริงคือไฮซากิหลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยมีกระจิตกระใจทำอะไรมากนัก เด็กหนุ่มก็เลยทำทุกอย่างตามใจตนเอง และยังคงหาเรื่องไปทั่วคล้ายคนไม่รู้จักจำราวกับว่ากำลังหวัง...หวังว่าถ้าเหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้นอีกอาจทำให้เจอกับคนคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง

    ตอนแรกๆ ไฮซากิก็ไม่อยากยอมรับความรู้สึกนี่หรอก แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ยอมรับความจริงว่า...เขาได้หลงรักคนที่ช่วยตนไว้คนนั้นไปเสียแล้ว...

    ...คนที่มาพร้อมกับสายฝนและจากไปพร้อมกับสายฝนในตอนนั้น

    "อ่ะ..." ไฮซากิเอามือรองรับสายน้ำเย็นที่อยู่ๆ ตกลงมาแม้ท้องฟ้าแจ่มใสก็ตาม "...ฝน...งั้นเหรอ?"

    เด็กหนุ่มเอามือรองรับหยาดน้ำจากบนฟ้าอย่างไม่คิดหาอะไรมากันตัวเองจากสายฝนที่ตกพร่ำลงมาเลย...ในใจพานนึกไปถึงคนผมสีน้ำตาลในความทรงจำ

    ...ถ้าคำว่าโชคชะตามีจริงล่ะก็...ได้โปรดเถอะ...

    ...เขาไม่เคยขออะไรทั้งนั้น...นอกจากเรื่องนี้...

    ...ได้โปรดให้เขา...ได้พบคนคนนั้นอีกครั้งด้วยเถอะ...

     

     

     

     

     

    เวลาผ่านพ้นไปจนถึงฤดูการแข่งขันบาสระดับม.ปลายท่ามกลางความหนาวของฤดูกาลนี้...วินเทอร์คัพ

    ไฮซากิที่แข่งกับแต่ละทีมแบบขอไปที ก่อนที่จะออกไปเดินเล่นแถวๆ บริเวณสนามแข่งหลังจากที่ทีมของเด็กโข่งผมม่วงสูงราวสองเมตรอย่างมุราซากิบาระแพ้ให้แก่ทีมของคนที่ตัวเล็กที่สุดในทีมเมื่อตอนม.ต้นอย่างคุโรโกะอย่างไม่คาดฝัน

    ระหว่างเดินเล่นนั้นไฮซากิเห็นสาวสายผมบอรน์ยืนคุยกับเด็กหนุ่มหน้าหวานที่เขาจำได้ว่าเป็นคนในสนามแข่งเมื่อครู่นี้ และด้วยความที่ว่างเลยไปแหย่เล่น...ก่อนที่ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นทะเลาะกับชาวบ้านอีกตามเคย....

    ...สุดท้ายกลายเป็นว่ามีคนผมสีเพลิงมาช่วยคนที่เขากำลังทะเลาะด้วย และตามด้วยเพื่อนผมเหลืองสมัยม.ต้นของเขามาช่วยพวกนั้นอีกแรง พร้อมกับประกาศอีกว่าจะชนะเขาให้ได้ เฮอะ! ไม่เคยชนะเขาแท้ๆ ยังมาพูดดีอีก!

    จากนั้นไฮซากิก็เดินไปยังสนามแข่งซึ่งคู่แข่งคือเพื่อนผมเหลืองของเขา...คิเสะ เรียวตะ และในอีกไม่กี่วินาทีต่อมาพวกเขาก็อยู่ในสนามเดียวกันในฐานะศัตรู

    พอการแข่งเริ่มขึ้นได้ไปจนถึง Q4 ขณะที่ทางทีมของไฮซากิเป็นฝ่ายนำก็มีเสียงตะโกนอันดังของใครสักคน

    "ผมเชื่อในตัวคุณ!!! คิเสะคุง!!!" เสียงของคุโรโกะดังก้องไปทั่วทั้งสนาม

    "คุโรโกจจิ..." คิเสะหันไปมองทางที่คิดว่าเป็นต้นเสียง เช่นเดียวกับไฮซากิที่หันไปมองที่ต้นเสียงอย่างรำคาญก่อนที่จะชะงันทันที...เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่แถวใกล้ๆ กับคุโรโกะ เท็ตสึยะ

    ถึงแม้ระยะจะห่างกันมากจนมองไม่ชัดนัก แต่ไฮซากิก็จำได้โดยสัญชาตญาณว่าคนที่ผมสีน้ำตาลที่อยู่ในชุดทีมเดียวกับคุโรโกะคือคนคนเดียวกับในความทรงจำของเขา หากแต่อีกฝ่ายที่ดูจากสายตาของอีกฝ่ายแล้ว...ก็รู้ได้เลยว่ากำลังเชียร์คิเสะ ไม่ใช่ตัวเขา

    ไฮซากิกำมือแน่นอย่างโกรธเคือง...ไอ้เรื่องโดนแย่งตำแหน่งตัวจริงตอนที่อยู่เทย์โคน่ะเขาไม่คิดอะไรจริงๆ จังๆ หรอก...ส่วนเรื่องมาขโมยสายตาของคนคนนั้นจากเขานี่สิที่เขายอมไม่ได้!!!

    หลังจากนั้นไฮซากิก็ใช้ลูกไม้ทุกอย่างที่มีไปจนหมดต้นเพื่อที่จะชนะคิเสะให้ได้...แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้แก่คิเสะอยู่ดี

    เมื่อการแข่งขันจบลงไฮซากิก็แยกกลุ่มจากคนในทีมตนหมายเดินไปหาคิเสะ...ที่จริงตอนแรกไฮซากิกะไปหาคุโรโกะล่ะนะ เสียแต่เหล่าคนของทีมเซย์รินที่คุโรโกะสังกัดอยู่กลับหายไปจากสนามแข่งกันแล้วทุกคน เจ้าตัวเลยเลือกมาหาคิเสะแทนเผื่อจะได้ขอมูลอะไรบ้าง...สักนิดก็ยังดี

    "ถ้าคิดจะแก้แค้นคิเสะก็...ยอมแพ้" ระหว่างที่ไฮซากิกำลังจะเดินไปนังห้องพักนักกีฬาของทีมไคโจวก็มีเสียงคุ้นหูดังขึ้นเสียก่อน

    "ไดกิ..." ไฮซากิหันกลับไปมองเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินที่เดินตามหลังตนมา

    "ฉันได้ยินว่านายมาหาคิเสะ..." ดวงตาสีน้ำเงินเข้มคมกริบราวสัตว์ป่ามองมาที่ไฮซากิ "...ถ้านายกลับไปตอนนี้ ฉันจะปล่อยนายไปก็ได้"

    ...ดูท่าจะเข้าใจว่าเขาจะมาหาเรื่องคิเสะสินะ?...

    "ช่างมันสิ..." ไฮซากิที่ดูแล้วอีกฝ่ายคงไม่ปล่อยให้ตนไปถามอะไรคิเสะได้ง่ายๆ จึงตัดสินใจกวนโอ๊ยอีกฝ่ายเล่นเสียเลย "...ฉันแค่ทำตามที่ฉันอยากทำ"

    ...ถึงใจจริงอยากไปหาหมอนั่นมากกว่า แต่เสียอย่างคือเขาไม่รู้ชื่อหรือที่อยู่หมอนั่นเลยน่ะสิ!...

    "ถ้าเป็นเรื่องบาสฉันจะไม่พูดสิ่งที่นายทำแต่..." อาโอมิเนะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง "...อย่ากล้ามายุ่งกับการแข่งขันของพวกเขา มันเป็นวิธีที่โง่มาก"

    ...กะไม่ยุ่งแต่แรกแล้วโว้ยยยยย!!! แค่กะจะมาถามคิเสะเผื่อมันรู้ชื่อคนคนนั้นทำไมต้องมาเจอไอ้เจ้านี่ด้วยฟะ!?!...สงสัยก่อเรื่องมากไปจนโดนสงสัยตลอดเลยแฮะเรา...

    "นายก็ดูออก การพยายามของคิเสะกับเท็ตสึจนถึงตอนนี้..." อาโอมิเนะยังเอ่ยต่อไป "...อย่าทำเป็นโง่หน่อยเลย"

    "เข้าใจล่ะ..." ไฮซากิแสยะยิ้ม...

    ...หงุดหงิดฉิบ! แค่ไม่ได้ไปถามคิเสะเรื่องนั้นก็เซ็งจะตายแล้ว! นี่ยังต้องมาฟังคำแบบนี้อีก! นายช่วยตื้บฉับแบบนิจิมุระซังเพื่อให้หายเซ็งได้ไหมเนี่ย!? (นาย...เป็นพวกซาดิมสินะ? // s , ไม่ใช่เฟ้ย! // ไฮซากิ)...

    "งั้นก็ยิ่งอยากทำลายขึ้นไปอีก..." ไฮซากิทำหน้าวอนหาเรื่อง "...ฉันบอกแล้วไงว่าช่างหัวมัน ฉันไม่สนใจบาสนี่หรอกเว้ย!"

    ...ยังไงๆ นายก็อยู่นี่แล้ว ขอกวนให้ถึงที่สุดแล้วกัน...

    "ถ้าอยากให้ฉันยอมแพ้ ก็ลองใช้กำลังดูสิ!!!" ไฮซากิทำท่าเตรียมสู้เต็มที่

    ...ชกมาเลย! เอาให้ทีเดียวน็อกยิ่งดี! ตื่นมาหัวจะได้โล่งหน่อย!...

    พลั้ก!!!

    หมัดจากคนผมสีน้ำเงินถูกต้องมาอย่างไม่ออมแล้ว ทำให้สติของไฮซากิแทบหลุดไปในทันที

    ...โชคดีแฮะ ที่มันไม่ใช่พวกลีลามาก ไม่งั้นน่าหงุดหงิดกว่านี่แน่...

    "ได้ตามต้องการ..."

    นี่เป็นเสียงสุดท้ายที่ไฮซากิได้ยินก่อนที่สติจะดับลงไป

     

     

     

     

     

    ...อื้ม...ปวดหลังวุ้ย!...

    เด็กหนุ่มหนุ่มคิดในหัวก่อนที่จะค่อยๆ ฝืนลืมตาขึ้น...และสิ่งแรกที่ปรากฏเข้าสู่สายตาคือท้องฟ้าที่เป็นสีดำสนิก

    ...ไดกิมันต่อยเขาสลบนานแค่ไหนเนี่ย?...

    ไฮซากิลุกขึ้นนั่งหลังจากนอนปวดหลังบนพื้นแข็งๆ นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ก่อนที่จะชะงัน...เมื่อที่ที่ตนอยู่ตอนนี้เป็นบนม้านั่งแทนที่จะเป็นบนพื้นอยากที่ควรจะเป็น

    ...เขามานอนนี่ได้ไงฟะ!? เขามั่นใจว่าไดกิมันไม่ใจดีลากเขามานอนนี่แน่!!!...

    "ฟ...ฟื้นแล้วเหรอ?" เสียงสั่นๆ ของใครบางคนทำให้ดวงตาสีเทาเหลือบมองยังต้นเสียง

    "นาย..." ไฮซากิเกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมาเสียเฉยๆ เมื่อคนที่อยู่ข้างๆ ตนตอนนี้คือคนที่ตนกะไปถามชื่อกับคิเสะจนโดนอาโอมิเนะต่อยในเวลาต่อมานั้นเอง "...มาอยู่นี่ได้ไง? ไม่ใช่กลับไปแล้วเหรอ?"

    ...อา...รู้สึกแบบเดียวกับตอนเจอกันครั้งแรกเลย...

    ไฮซากิคิดและไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าเขาจะอ่อนท่าทางลงเมื่อเจอกับคนคนนี้ชอบกลแฮะ

    "คือ...ผม..." น้ำเสียงสั่นๆ ดังออกมาจากปากคนผมสีน้ำตาล "...ผมมาเอาข...ของที่ลืมไว้น...น่ะครับ"

    "เหรอ~" ไฮซากิลากเสียงยาวด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ในใจนั้น...

    ...แย่ชะมัด...หมอนี่ดูท่าจะกลัวเขาแฮะ สงสัยโดนไอ้หัวแดง (คางามิ) เล่าเรื่องก่อนหน้านี่ให้ฟังแหง...

    "เอ่อ...ถ้าไม่เป็นไรแล้วงั้น...ผมขอตัวล่ะครับ..." เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเอ่ยก่อนที่จะค่อยๆ ถอยห่างไปทีละนิด

    "เดี๋ยว..." ไฮซากิเรียกอีกฝ่ายไว้ ทำให้ร่างที่กำลังจะหนีหยุดกึกพร้อมกับมองมาด้วยสายตากล้าๆ กลัวๆ "...นายชื่ออะไร?"

    ...อย่างน้อยจะได้ไปตามตื้อนายทีหลังได้...ถึงมีโอกาสโดนเท็ตสึยะตีหัวกลับเพราะไปป้วนเปลี้ยนแถวนั้นก็เถอะ...

    "เอ๋?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลดูจะงงงวยกับคำถามที่ได้ยินเล็กน้อย "ฟ...ฟุริฮาตะ โคกิครับ"

    "อื้ม~ ฟุริสินะ?..." ไฮซากิฉีกยิ้มออกมาน้อยๆ เพราะคำตอบที่ได้รับทำให้ความมั่นใจว่าคนที่ตนตามหากับเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนเดียวกันเพิ่มขึ้นไปอีก "...ขอให้โชคดีในการแข่งล่ะ"

    "ค...ครับ! ขอบคุณครับ!" ฟุริฮาตะเอ่ยก่อนที่จะ...เผ่นแหน็บไปในทันที

    ...ตกลงเจ้านั้นไปกรอดหูอะไรเข้าเนี่ย? ทำท่ายังกะเขาจะไปกินตับงั้นแหละ...

    ไฮซากิส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากม้านั่งและสายก็ไปเห็น...ขวดนมขวดหนึ่งตั้งอยู่

    ...หมอนั่นชอบกินยี่ห้อนี่หรือไงเนี่ย? แบบเดียวกันตอนนั้นเป๊ะเลย...

    เด็กหนุ่มหยิบนมขวดนั้นกระดกดื่มหมดขวดในคราวเดียวก่อนที่จะทำแบบเดิม...คือเอาขวดไปล้างและเก็บเอากลับบ้านไปด้วย

    ไฮซากิเดินตรงกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี และเพราะอารมณ์ดีนี่แหละตลอดทางต่อให้โดนยั่วอะไรก็ไม่มีเรื่องชกต่อยกับใครเลย แถมไม่ออกนอกลู่นอกทางไปไหนด้วยอีกต่างหาก

    แอ๊ด...

    "กลับมาแล้ว..." ไฮซากิเอ่ยตามปกติขณะที่เดินเข้ามาในบ้านตน

    "หื้อ? วันนี้แปลกนะที่นายกลับมาเร็วเนี่ย?" ชายหนุ่มผมดำคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาจากห้องรับแขก

    "พอดีวันนี้เจอเรื่องดีๆ นิดหน่อยน่ะ" ไฮซากิตอบพร้อมเดินขึ้นบันไดไป

    "เรื่องดีๆ อะไรของมันหว่า?" ไฮซากิ โชจิเกาหัวตนอย่างงงๆ กับท่าทางของน้องชายตน "แล้วมันหัดทำแผลเองตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า? ปกติหัวแตกมันยังปล่อยให้เลือดไหลทั่วบ้านเลย"

    โชจิกลับไปนั่งงงในห้องรับแขกสักพักใหญ่ๆ ก่อนที่ไฮซากิจะเดินตามเข้ามาในห้องรับแขก

    "วันนี้มีอะไรกินบ้างพี่?" นี่คือคำถามแรกทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง

    "ทงคัตสึ" โชจิตอบสั้นๆ ก่อนที่จะมองหน้าน้องชายตนที่ลั้นลาจนน่าถีบ "ไปเจอเรื่องอะไรมาเนี่ย? จะเรื่องแข่งก็ไม่ใช่แน่ แข่งแพ้ไม่มีใครบ้ามานั่งยิ้มแบบนี้แน่...ตกลงไปเจออะไรมา?"

    "ถามจริงนะพี่..." ไฮซากิเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะที่ตักข้าวมานั่งกินข้างๆ พี่ตน...นี่เขาดูอารมณ์ดีมากสินะ? "...แค่บังเอิญเจอคนที่ตามหาอยู่น่ะ"

    "อ๋อ ไอ้คนที่แบกนายไปหาหมอจนไม่ต้องไปนั่งรายงานตัวกับยมบาลน่ะนะ?" โชจิเดาได้ทันทีว่าน้องชายตนหมายถึงใคร เพราะตอนนั้นเจ้าตัวก็เล่าให้ตนฟัง "แล้วตอนนี้กำลังจะหาแผนจีบอยู่หรือไง?"

    "แค่กๆ" พอได้ยินคำนี้ไฮซากิก็สำลักข้าวที่กินอยู่ทันที ดวงหน้าเริ่มขึ้นสีมาน้อยๆ "จ...จีบบ้าอะไรเล่าพี่! แค่...อยากรู้จักเฉยๆ"

    "หึๆ" โชจิหัวเราะเบาๆ ...มีหรือว่าเขาจะดูน้องตัวเองไม่ออก? ยิ่งพอพูดถึงคนที่ว่านั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เดาความคิดง่ายยิ่งกว่าอะไรอีก "แล้วรู้อะไรมาบ้างหรือเปล่า? หรือแค่เห็นผ่านๆ?"

    "รู้ชื่อกับโรงเรียนที่เรียนอยู่" ไฮซากิตอบ

    "เฮ้~~" โชจิลากเสียงเป็นการกวนน้องตัวเองเล่น "แล้วชื่อว่าอะไรล่ะ? จะได้เตรียมรับน้องสะใภ้~~~"

    "แค่ก!" ไฮซากิข้าวติดคอทันควัน โชจิเลยยื่นน้ำให้น้องตนทันทีก่อนตายจริงๆ ไฮซากิก็รีบคว้าน้ำจากพี่ชายมาดื่มทันที "ส...สะใภ้บ้าอะไรเล่าพี่! ก็รู้อยู่ว่าหมอนั่นเป็นผู้ชาย!"

    "แต่ฉันมั่นใจว่าแกเมะวะ" โชจิยังคงกวนน้องตนต่อไป

    "อ...ไอ้พี่บ้า!" ไฮซากิตอนนี้หน้าแดงจนไม่รู้จะแดงยังไงได้แล้ว พร้อมเบ้หน้าหนีพี่ชายตนที่ดูจะเล่นไม่เลิก

    "โอ๋ๆ อย่างอนน่าโชโงะ..." โชจิยอมรับเลยว่าเวลานี้น้องตนดูน่ารัก น่าแกล้ง และว่านอนสอนง่ายสุดๆ "...ตกลงหมอนั่นชื่อว่าอะไรล่ะ?"

    "ฟุริฮาตะ โคกิ" ไฮซากิตอบเสียงเบา

    "ห๊า?..." โชจิเริ่มทำหน้าแข็ง แถมเหงื่อตกนิดๆ "...พูดจริง?"

    "จริง..." ไฮซากิมองท่าทางพี่ตนที่ดูแปลกไป "...ชื่อนี่มีอะไรหรือเปล่า?"

    "เปล่า...เจ้าของชื่อนี่ไม่มีปัญหาหรอก แต่พี่รายนั่นนี่สิ..." โชจิคุมขมับ "...กว่านายจะจีบติดโดนหมอนั่นซักเละแน่น้องรักเอ้ย! หมอนั่นยิ่งเป็นพวกหวงน้องอยู่!"

    "เดี๋ยวๆ ที่พูดนี่...รู้จักฟุริ?" ไฮซากิที่จับต้นชนปลายไม่ถูกเอ่ยถาม

    "เออ..." สีหน้าโชจิดูจะเหนื่อยใจเหลือหลาย "...ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่นายพูดถึงคือน้องชายหมอนั่น"

    "ไปรู้จักกันได้ไงล่ะนั้น?" ไฮซากิถาม...โธ่! ถ้ารู้จักกันแล้วทำไมไม่เคยได้ยินนามสกุลนี่ล่ะฟะ?!

    "นายจำตอนที่ฉันโดนไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ยัดเยียดความผิดให้จนเกือบติดคุกได้ไหม?..." โชจิถาม ซึ่งแน่นอนไฮซากิก็พยักหน้ารับ "...แล้วก็มีตำรวจคนหนึ่งมาช่วยจับไอ้คนร้ายตัวจริงให้น่ะ...ไอ้ตำรวจที่ฉันบอกว่าโหดสัลนั้นแหละ"

    "ตำรวจคนนั้นเป็นพี่ฟุริ?" ไฮซากิเริ่มเดาออกแล้วว่าทำไมตนถึงไม่เคยเจอได้ยินนามสกุล เพราะพี่เขากลายเป็นเพื่อนสนิกของตำรวจคนนั้นทำให้ตลอดมาพี่เขาเรียกรายนั้นด้วยชื่อต้น และเพราะหน้าของคนที่พี่ตนว่ายังออกไปท่าเข้มมากกว่าออกแนวใสๆ แบบฟุริฮาตะ โคกิแถมยังโหดชนิดไม่รู้จะบรรยายยังไง...ต่างจากคนน้องลิบลับอีกด้วย จึงไม่แปลกที่จะไม่รู้ว่าสองนั้นเป็นพี่น้องกัน

    "ใช่..." โชจิตบบ่าน้องตน "...ฉันขอแนะนำ...อย่าไปยุ่งเลย ถ้ายังอยากมีเงาหัว...ไอ้เคียวมันไม่ใจดีนักหรอกนะ"

    "ไม่มีทางล่ะ..." ไฮซากิค้อนใส่พี่ชายตนทันที...ถ้าเรื่องอื่นเจอคนโหดชนิดที่เขายังทำใจแล้วทำใจอีกถ้าจะมีเรื่องด้วยนั้น เป็นคนอื่นเขาคงจะยอมตามที่พี่เขาบอก แต่สำหรับเรื่องฟุริฮาตะ โคกิเนี่ยอย่าหวังเลย! "...ต่อให้ใครห้ามฉันก็ไม่มีวันยอมแพ้แน่!!!"

    "ถ้างั้นเตรียมบัตรประกันสังคมไว้เลย..." โชจิก็ไม่คิดห้ามอะไร เพราะรู้ว่าน้องตนนั้นจริงจังมากแค่ไหน "...และอย่าไปขัดใจเคียวมันมากนักล่ะ เดี๋ยวเขาไม่รับเป็นเขยขึ้นมาล่ะยุ่งเลย"

    "ก...ก็บอกว่าไม่ได้ไปจีบไงเล่า! ไอ้พี่บ้า!!!" ไฮซากิแว๊ดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะวิ่งหนีขึ้นห้องไปและปล่อยให้พี่ตนเองล้างจานส่วนที่ตนกินเมื่อครู่ไป

     

     

     

     

     

    "โชโงะ...ทำไมถึงต้องให้ฉันมาทำตัวเป็นคนโรคจิตเป็นเพื่อนด้วยเนี่ย?" ไฮซากิ โชจิเอ่ยถามน้องตนที่ตอนนี้ยืนหลบอยู่ที่มุมหนึ่งของสนามแข่ง

    "เหมือนคนโรคจิตตรงไหน!? แค่ให้มายืนดูการแข่งด้วยเนี่ย!!!" ไฮซากิแยกเขี้นวใส่พี่ตนก่อนที่สายตาจะเหลือบมองที่สนามแข่งอีกครั้ง

    "จะไม่ค่อยเหมือนหรอก ถ้านายไม่จ้องแต่น้องเจ้าเคียวมันน่ะ" โชจิบ่นอุบอิบ แต่ไฮซากิก็ไม่ได้สนอะไร ทำเพียงจับจ้องที่คนผมสีน้ำตาลที่เก้าอี้ตัวสำรองไป

    การแข่งในรอบรองชนะเลิศทีมเซย์รินได้แข่งกับทีมไคโจว ซึ่งในการแจ่งก็ดูดุเดือดดีจนกระทั่ง...

    "เห๋!!! เปลี่ยนตัว!? ในเวลานี่เนี่ยนะ!?"

    "เจ้าเด็กนั้นจะไหวเหรอ!?"

    "ไม่ไหวมั้ง!!!"

    "ดู! ยังไม่ทันเริ่มก็สั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว!!!"

    "ฯลฯ" คำวิจารณ์ต่างๆ จากผู้ชมดังไปทั่ว ซึ่งมันไม่ค่อยเข้าหัวไฮซากินักหรอกเพราะตอนนี้กำลังนึกห่วงคนในสนามมากกว่า

    ...ดูท่าจะกลัวแฮะ...สงสัยจะเป็นกับทุกคนมั้งเนี่ย...

    ไฮซากิคิดพร้อมมองการแข่งต่อไป แบบที่ไม่สนใจการแข่งจริงๆ เลย เพราะเมื่อฟุริฮาตะถูกเปลี่ยนตัวออกก็ไม่สนใจการแข่งเลยสักนิด

    "การแข่งนี่เสียวพอดูเลย..." โชจิถอนหายใจเมื่อการแข่งรอบนี้จบลงโดยทีมเซรินเป็นฝ่ายชนะ "...ฉันไม่เคยรู้เลยว่าพวกนั้นมันดูเหมือนปีศาจขนาดนี้ ดูจริงกับในจอมันต่างกันลิบเลยวุ้ย"

    "แหงล่ะ..." ไฮซากิตอบพี่ตน "...แต่รอบชิงนี่สิน่าห่วง"

    "อื้ม...คราวนี้คือคนผมแดงนั้นสินะ...น่ากลัวนะนั้น" โชจิยอมรับเลยว่ารายนั้นน่ากลัว...แต่ก็ไม่อาจเท่ากับนายฟุริฮาตะ เคียวได้เลยแม้แต่น้อย

    "อาคาชิมันสยองมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่" ไฮซากิดูท่าจะไม่ใส่ใจที่พูดนัก

    "ช่วยกรุณาสนใจตอบพี่ตัวเองสักวิได้ไหม?..." โชจิมองน้องตนอย่างเอือมๆ "...นี่ล่ะนะ พวกมีความรัก"

    "บอกว่าไม่ใช่ไงฟะ!!!" ไฮซากิทำการถีบพี่ตนทีหนึ่ง

    "จ้าๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่" โชจิที่หลบเท้าที่ถูกส่งมาอย่างง่ายดายทำเสียงกวนโอ๊ยใส่

    หลังจากนั้นสองพี่น้องไฮซากิก็เถียงกันไปเล่นๆ ระหว่างที่พากันเดินกลับบ้านพวกตน

    และในวันถัดมาพี่น้องไฮซากิก็มายังสนามแข่งแห่งเดิม ณ จุดเดิมกับที่ยืนดูการแข่งเมื่อวาน ระหว่างรอให้การแข่งเริ่มทั้งคู่ก็คุยไปเรื่อย...ที่โดยรวมคือโชจิแซวน้องตัวเองแทบทั้งนั้น ก่อนจะกลายเป็นการเถียงกันเองไปในที่สุด

    จนกระทั่งการแข่งในรอบชิงได้มาถึงทั้งสองก็หยุดเถียงกันเพื่อดูการแข่งแทน และพอดำเนินเกมไปถึงช่วงหนึ่งไฮซากิก็แทบหน้าทิ่มเลยเมื่อ...ฟุริฮาตะถูกส่งไปประกบอาคาชิ!

    "พวกบ้านั้นคิดอะไรฟะ!?" ไฮซากิมองคนผมสีน้ำตาลในสนามที่ตอนนี้ตัวสั่นงกๆ "แบบนี้ไม่ต่างเอาชิวาว่าไปสู้สิงโตน่ะสิ!!!"

    "เห็นด้วยอย่างแรง" โชจิมองคนในสนามที่ยังไม่ทันเริ่มก็สะดุขาตัวเองล้มเสียแล้ว "ถ้าเป็นไอ้เคียวคงสูสีกันอยู่หรอก แต่รายนี้จะไหวไหมนั้น"

    "ไม่ไหวคงต้องไหวล่ะ" ไฮซากิคุมขมับ...ถึงเขาพอเดาออกถึงสาเหตุที่ให้ฟุริฮาตะออกมาก็เถอะ แต่นี่มันเกินไปหรือเปล่า!?

    และมันก็เป็นดั่งไฮซากิพูดเมื่อฟุริฮาตะพยายามเต็มที่จนชูตลูกลงไปได้ลูกหนึ่ง ซึ่งสร้างความแปลกใจให้ชาวบ้านได้พอสมควร

    ในการแข่งคราวนี้ยอมรับเลยว่าไฮซากิรู้สึกกดดันมากกว่าตัวแข่งเองเสียอีก...แต่สุดท้ายเซย์รินก็ชนะการแข่งได้อย่างไม่คาดฝัน

    "โชโงะ ไปทักหน่อยไหม?" โชจิถามขึ้นพลางชี้ไปยังทีมเซย์รินที่กำลังเดินมาทางนี้หลังจากรับรางวัลเสร็จ

    "ไม่ล่ะ...ถ้าไปตอนนี้มีแววโดนไอ้หัวแดงตื้บ" ไฮซากิไม่โง่พอไปมีเรื่องกับคนในทีมเซย์รินให้ฟุริฮาตะกลัวตนหรอก

    "ไปหาเรื่องเขามาสินะ" โชจิกรอดตาไปมา "งั้นฉันไปทักเองดีกว่า...จะฝากอะไรไปบอกไหม?"

    "กะจะทักแต่แรกสินะ?" ไฮซากิยักคิ้วให้พี่ตน

    "ก็จริงๆ วันนี้เคียวมันฝากให้ฉันมาเชียร์น้องมันแทนน่ะ" โชจิยักไหล่กลับ "ตกลงจะฝากให้บอกอะไรไหม?"

    "ฝากบอกว่าวันนี้พยายามได้ดีแล้วกัน..." ไฮซากิบอก "...ห้ามบอกว่าฉันเป็นคนฝากนะโว้ย!"

    "จ้าๆ พ่อคนขี้อาย" โชจิเอ่ยอย่างขำๆ กับน้องชายที่เรื่องอะไรก็ไม่เคยอายกับเขา แต่พอกับคนที่ชอบกลับเป็นคนขี้อายขึ้นมาเสียดื้อๆ

    "เงียบไปเลย!...ฉันรีบกลับก่อนล่ะ เดี๋ยวอยู่ๆ เท็ตสึยะมันนึกคึกเห็นพี่แล้วมาเดินดูเข้ารอบๆ จะซวยเอา! ยิ่งจืดๆ อยู่!" ไฮซากิทำหน้ามุ่ยใส่พี่ตน ก่อนที่จะรีบเผ่นกลับบ้านทันที

    "หึๆ" โชจิหัวเราะกับท่าทีน้องตนน้อยๆ ก่อนที่จะเดินไปหายังกลุ่มทีมบาสเซย์ริ "เฮ้! โคกิ!"

    "อ่ะ! โชจิซัง!" ฟุริฮาตะมองโชจิอย่างแปลกใจ "มาดูการแข่งด้วยเหรอครับ?"

    "อื้อ ไอ้เคียวมันให้มาแทนมันน่ะ" โชจิตอบพร้อมขยี้หัวฟุริฮาตะเล่น "วันนี้พยายามได้ดีนิ...แต่คงจะดีกว่านี้ในการแข่งถ้านายโหดได้สักหนึ่งในสิบของไอ้เคียวมันน่ะนะ"

    "แล้วคิดว่าอย่างผมได้ไหมล่ะครับ?" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ ให้

    "ไม่มีทาง...อย่างมันเนี่ย คงต้องไอ้หัวแดงที่นายแข่งเมื่อกี้อย่างเดียวล่ะถึงจะได้" โชจิตอบพร้อมกรอดตาเหมือนกำลังระอาคนที่คนที่พูดถึง

    "คนรู้จักเหรอ? ฟุริ" คนผมสีเพลิงถามเพื่อนตน

    "เพื่อนพี่ชายฉันน่ะ" ฟุริฮาตะตอบ

    "บอกว่าเพื่อนหักเหลี่ยมโหดกันน่าจะเหมาะกว่านะ" โชจิพูดพลางนึกสีหน้าของคนที่เอ่ยถึง

    "ถ้าพี่เขามาได้ยินคงได้หัวแตกแน่ครับ" ฟุริฮาตะเอ่ยอย่างรู้ดีว่าพี่ตนนิสัยยังไง

    "กลัวจะไม่แค่หัวน่ะสิ...จะแตกทั้งตัวเลยมากกว่า..." โชจิมั่นใจเลยว่าโดนตื้บชัวท์...ที่จริงไม่เรียกว่าตื้บหรอก แค่รายนั่นเผลอลงมือหนักเกินแค่นั้นแหละ

    "พี่นายนิสัยยังไงเนี่ย?" ฮิวงะเริ่มคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดของลูกทีมตน

    "ก็ปกติดีครับ แค่มักกะแรงไม่ถูกแค่นั้นแหละครับ" ฟุริฮาตะตอบรุ่นพี่ตน

    "เฉพาะกับนายสิ...ถ้าเป็นคนอื่นคำว่าโหดยังน้อยไปด้วยซ้ำ" โชจิเอ่ยต่อจากเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล

    "ฮาๆ พอลองจิตนาการดูแล้วสยองอยู่น้าาาา" คิโยชิยิ้มร่าตามปกติ

    "ของจริงก็สยองเหมือนกันน้าาาา" โชจิหัวเราะตามคิโยชิไปอีกคน

    "แต่ไม่คิดเลยนะครับ...ว่าคุณจะเป็นเพื่อนกับพี่ชายฟุริฮาตะคุงน่ะครับ" เสียงๆ หนึ่งลอยขึ้นมาทำเอาโชจิสะดุ้ง

    "เหวอ!" โชจิมองยังเด็กหนุ่มผมฟ้า "เกือบลืมนายไปเลยแน่ะ!"

    "ผมว่าคุณลืมเลยมากกว่านะครับ ไฮซากิซัง" คุโรโกะมองอีกฝ่ายนิ่งๆ

    "แฮะๆ รู้ด้วย" โชจิเกาหัวอย่างเก้อๆ

    "พวกนายรู้จักกันเหรอ...เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เรียกเพื่อนพี่ฟุริว่าไงนะ?" คางามิเอ่ยถามคู่หูตน

    "ไฮซากิซังไงครับ..." คุโรโกะมองทั้งทีมส่งสีหน้าเหวอๆ มาให้ไม่เว้นแม้แต่ฟุริฮาตะ "...ก็เขาเป็นพี่ชายของไฮซากิคุงนี่ครับ"

    "ห๊า!?" ทุกสายตาหันขวับไปที่โชจิ "จริงเหรอครับ!?"

    "จริง ฉันเป็นพี่ชายเจ้าตัวแสบนั้นแหละ..." โชจิพยายามกลั้นหัวเราะเต็มที่เมื่อเห็นสีหน้าเหวอของแต่ล่ะคน "...ไม่ต้องงงกันหรอก ฉันเป็นพี่มันจริงๆ"

    "ไม่ยักเหมือนเลย!" คางามิชี้ที่โชจิอย่างเจาะจง

    "ที่จริงเมื่อก่อนไฮซากิคุงก็หน้าคล้ายไฮซากิซังอยู่หรอกครับ แต่พอเปลี่ยนทรงผมแล้วไม่รู้ไปไงเลยหน้าเป็นแบบปัจจุบันนี่แหละครับ ส่วนทางนิสัย...มันอธิบายยากน่ะครับ" คุโรโกะเอ่ยอย่างใจเย็น

    "...ถ้างั้นมันนึกยังไงเปลี่ยนเป็นทรงไส้เดือนฟะ!? ดูยังไงแบบนี้ดีกว่าเยอะ!" คางามิไม่เข้าใจความคิดของคนที่กล่าวถึงจริงๆ

    "ไม่รู้มัน..." ...ที่จริงก็รู้หรอกว่าตอนนั้นพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อลืมโคกิ แต่ไอ้เปลี่ยนทรงผมเนี่ย...มีเป็นร้อยทรงทำไมไม่เปลี่ยนไอ้ที่มันเข้ากับหน้าหน่อยเนี่ย? "...เรื่องโชโงะมันช่างมันเถอะ ว่าแต่ชนะทั้งทีไปฉลองหน่อยไหม? เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง!"

    "ไม่ล่ะครับ พาไปแต่ละที่มัน..." ฟุริฮาตะกรอดตาอย่างหน่ายๆ "...มันเป็นที่ที่ห้ามคนต่ำกว่าสิบแปดเข้าทั้งนั้นเลยนะครับ"

    "ไม่เห็นเป็นไรเลย...นานๆ ครั้งเอง..." โชจิยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก "...แต่ถ้าไม่อยากไปที่แบบนั้นเดี๋ยวไปร้านโอโคโนมิยากิใกล้ๆ นี่ก็ได้"

    "ก็ได้ครับ..." เมื่อเห็นว่าเพื่อนพี่ตนเซ้าซี้ก็ทำได้เพื่อตอบรับเท่านั้น "...กระเป๋าฉีกอย่าว่ากันนะครับ คางามิยิ่งกินแบบยัดนุ่นอยู่"

    "ไม่เป็นไร เจ้าของร้านเพื่อนฉันพอถูกไถ่กันได้ถ้าเงินไม่พอน่ะ..." โชจิหัวเราะเบาๆ "...และคงไม่มีใครมาบ่นตามหลังตอนขอติดไว้ก่อนแบบไอ้เคียวมันแน่ รายนั้นขี้บ่นเป็นป้าแก่ๆ เลย"

    "โช~~~~จิ~~~~" เสียงเย็นๆ ที่อยู่ๆ ดังขึ้นทำให้เจ้าของชื่อชะงัพร้อมค่อยๆ หันไปมองยังต้นเสียงอย่างเหงื่อตกซิกๆ "กล้านินทาฉันเหรอ~~~~"

    "แว๊ก!!!!!" โชจิกระโดดไปหลบหลังคนร่างใหญ่ที่เดินผ่านมาพอดีคนหนึ่งอย่างไม่สนใจว่ากำลังหลบหลังใคร "แกมาได้ไงวะ!?! ไหงบอกวันนี้ไม่ว่างไง!!!"

    "พอดีรีบปั่นงานแล้วรีบมาเนี่ย..." ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ติดกิ๊บไว้ที่ปอยผมด้านซ้ายเอ่ย ก่อนที่จะหันไปทางฟุริฮาตะ "...โคจัง~~~~♥ เป็นไง? ชนะไหม?"

    "ชนะครับพี่" ฟุริฮาตะตอบผู้เป็นพี่ตน

    "ฟุริๆ ..." คาวาฮาระสะกิดเพื่อนตนเบาๆ "...นี่พี่นายเหรอ...ไอ้ท่าทางที่พูดกับไฮซากิซังโครตหลอนวะ!"

    "ใช่...เหมือนอาคาชิเลย" ฟุคุดะเอ่ยเสริม

    "แต่ผมว่าหนักกว่าอาคาชิคุงนะครับ" คุโรโกะเอ่ยต่อ

    "แต่อย่างน้อยพี่ฟุริดูจะเป็นพวกโหดกับบ้างคนนะ" คิโยชิยังคงลั้นลาต่อไป

    "เฉพาะกับโคกิน่ะสิ...มันน่ะพวกติดน้อง..." โชจิโผล่หน้ามานิดหน่อยเอ่ยกับพวกเซย์ริน ก่อนที่จะเงยมองคนที่ตนเอามาเป็นโล่กำบังเมื่อมีบางอย่างตกใส่หัวตน "...อ้าว? นาย...อัตสึชิไม่ใช่เหรอ?"

                   "หื้อ?" คนที่กลายเป็นโล่จำเป็นก้มลงมองคนที่มาหลบหลังตน "อ้าว? โชจิจินนี่เอง~ มาไงเนี่ย?"

    "อยากรู้ไปถามไอ้นู่นแล้วกัน" โชจิชี้ไปทางสองพี่น้องฟุริฮาตะ

    "รู้จักเหรอ? อัตสึชิ..." เด็กหนุ่มหน้าหวานข้างๆ เอ่ยถาม โดยที่ขนมที่อีกฝ่ายกินยังคงหล่นหัวตนปานหิมะ

    "อ่ะ! ไง! ทัตสึยะ!" คางามิโบกมือทักเมื่อเห็นพี่ชายร่วมสาบานของตน

    "ไงไทกะ..." ฮิมุโระทักอีกฝ่ายกลับก่อนที่จะมองคนที่อยู่หลังเด็กโข่งผมม่วงสลับกับคนที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยดคนผมสีน้ำตาลอยู่ "...สองคนนี้ใครเหรอ?"

    "ที่ฟัดฟุริอยู่นั้นคือพี่ชายฟุริ ส่วนที่อยู่หลังมุราซากิบาระคือพี่ชายไฮซากิ...ไอ้หัวหนอนที่นายเจอก่อนหน้านี้น่ะ" คางามิตอบ

    "อ๋อ~" ฮิมุโระลากเสียงยาวก่อนที่จะหันไปพูดกับคนที่แอบหลังเด็กโข่งผมม่วง "งั้นถ้าไม่ว่าอะไร...ช่วยกรุณาบอกหมอนั่นทีนะครับ ว่าอย่าก่อเรื่องนัก"

    "พูดไปก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาล่ะ..." โชจิไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องตนฟังตนหรือเปล่า "...แต่เดี๋ยวคงหาเรื่องคนน้อยลงแล้วล่ะ เริ่มกลับสู่โหมดเดิมแหละ"

    ...เพราะเลิกพาลคนไปทั่วแก้เครียด มาสู่โหมดอินเลิฟไงล่ะ!!!...

    "หื้อ? ซากิจินเลิกเพื้ยนแล้วเหรอ?" มุราซากิบาระเอ่ยถาม

    "เกือบๆ อ่ะนะ" โชจิคิดว่าถ้าจีบฟุริฮาตะ โคกิติดดีไม่ดีอัตตราการทะเลาะกับคนอื่นของน้องตนอาจลดไปถึงแปดสิบเปอร์เซ็นเลยล่ะ

    "ไปหัวกระแทกพื้นจนสติสตางค์กลับร่างแล้วหรือไงครับ?" คุโรโกะเอ่ยถามต่อ

    "ไม่ใช่..." ...แค่เจอคนที่หัวใจตามหาน่ะ เฮ้อ! คิดแล้วอิจฉามัน!...แต่คิดอีกทีน่าสงสารมากกว่า ที่ต้องเสี่ยงกับการโดนฟุริฮาตะ เคียวตื้บ ซึ่งสำหรับเขามันไม่ค่อยคุ้มเอาเสียเลย

    "เดี๋ยวๆๆๆ!!! พูดอะไรกันเนี่ย?!" เด็กหนุ่มผมสีทองหม่นที่ก่อนหน้านี่โดนเด็กหนุ่มหน้าหวานบังมิดเอ่ยถาม

    "อ้าว? อยู่ด้วยเหรอ!? คิดว่าทัตสึยะมากับมุราซากิบาระแค่สองคนเสียอีก!" คางามิมองรองกัปตันแห่งทีมโยเซ็นอย่างงงๆ

    "นายกวนโอ๊ยใช่ไหม?!" ฟุคุอิแยกเขี้ยวใส่คนผมสีเพลิง

    "ก็ช่วยไม่ได้น่อ ฟุคุอิตัวเล็กเองนิ~~~" เด็กหนุ่มตาตี๋...ตาคมเอาคางวางพาดหัวสีทองๆ ของฟุคุอิ

    "ว่าใครตัวเล็กฟะ!? แล้วก็เติม -ซัง ด้วยดิวะ!" ฟุคุอิโวยใส่คนตัวสูงกว่า

    "อย่าทะเลาะกันน่า" คนหน้ากอริล่า (?) เอ่ยห้าม

    "เงียบไปเลยไอ้กอริคางจอน!!! (กอริล่า+คาง+จอน)" ฟุคุอิกับหลิวเอ่ยออกมาพร้อมกันแบบกระแทกเสียงด้วย เล่นซะคนโวยว่า...

    "โฮก! ไหงพวกนายใจร้ายอย่างนี่!?!" ...อย่างโอคามุระกัปตันของทีมโยเซ็นน้ำตาแตกทันที

    "โว้ย! บอกกี่ครั้งแล้วว่าเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ เสียที!" ฟุคุอิโวยใส่เพื่อนตนก่อนที่จะหาทางปลอบเพื่อนตนจะได้ไม่ต้องอายชาวบ้านชาวช่องตามปกติ

    "อัตสึชิ...อย่าว่ากันนะ แต่กัปตันทีมนายปัญญาอ่อนหรือเปล่าเนี่ย?" โชจิมองคนตัวสูงกว่าตนที่บัดนี้แทบไม่ต่างจากเด็กอนุบาล

    "อาจจะนะ..." มุราซากิบาระในบางครั้งก็อดคิดแบบนั้นไม่ได้

    "เอ้าๆ! เลิกเล่นกันได้แล้วยะ!" เสียงอันดังพร้อมกับดาบไม้ที่ฟาดลงบนหัวทำให้เด็กหนุ่มที่ทำตัวน่าอายในทีมสาธารณะให้หยุดการกระทำทุกอย่างในทันที

    "แอ๊บ! เจ็บนะครับ!!!" โอคามุระทำท่าโอดคราญ

    "..." ฟุคุอิมองเพื่อนตนเงียบๆ แบบไม่กล้าช่วย...กล้วลูกหลงน่ะ

    "อ้าว? โค้ชไม่ได้ไปกับพวกโค้ชของทีมอื่นๆ เหรอครับ?" ฮิมุโระถามเมื่อเห็นโค้ชสาวที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไปดื่มกับพวกโค้ชของทีมอื่นๆ มายืนอยู่ตรงนี่

    "พอดีไอ้พ่อติดลูกมันไม่ยอมไปจนกว่าลูกตัวเองจะไปด้วยน่ะ" อารากิ มาซาโกะถอนหายใจพร้อมกับมองคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอสองคน "สองคนนี้ใครเนี่ย?"

    "ผมไฮซากิ โชจิครับ ส่วนไอ้บ้าที่ฟัดโคกิอยู่นั้นชื่อฟุริฮาตะ เคียวครับเจ๊" โชจิตอบก่อนที่จะรีบเบี่ยงตัวหลบเมื่อมีปากกาด้ามหนึ่งพุ่งมาหาอย่างแรง...แรงมากด้วยเพราะมันไปฝังลงกับพื้นสนามแล้ว! "เฮ้ยๆ! ถึงตายนะโว้ย! ไอ้เคียว!"

    "เรียกใครว่าไอ้บ้าก่อนล่ะ อีกอย่างนายก็ยังไม่ตายนิ" ฟุริฮาตะ เคียวตอบกลับพร้อมทำท่าจะโยนปากกาใส่อีก

    "ถ้าหลบไม่ทันก็ตายนะโว้ย!!!" โชจิแว๊ดใส่ก่อนที่จะใช้มุราซากิบาระเป็นโล่

    "โชจิจินอย่าใช่คนอื่นเป็นโล่สิ!!!" มุราซากิบาระเริ่มหน้าซีดกลัวว่าปากกามรณะจะมาปักหัวตน

    "ไม่ต้องห่วง เคียวมันไม่ปาใส่คนอื่นนอกจากฉันกับ..."

    "กริ๊ดดดดด!!!"

    ระหว่างที่โชจิกำลังจะตอบเด็กหนุ่มผมม่วงจบประโยชน์ก็มีเสียงร้องดังขึ้นพร้อมกับชายที่ปิดหน้าปิดตามิดโดยที่มีกระเป๋าผู้หญิงติดมือมา...เดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นโจรวิ่งราววิ่งมาทางพวกตน และจากนั้น...

    พลั่ก!

    ...ในอีกไม่กี่วินาทีต่อมานายฟุริฮาตะ เคียวก็ทำการวิ่งเข้าไปถีบชายโชคร้ายนั่นกลิ้งไปไกลลิบ ก่อนที่จะเดินไปหาคนที่ตนเพิ่งถีบไปอย่างช้าๆ

    "...กับพวกคนร้ายเนี่ย" โชจิพูดต่อจนจบประโยชน์ ก่อนที่จะมองหน้าผู้ที่มองวีรกรรมของเพื่อนตนด้วยหน้าซีดๆ

    "เห็นแล้ว...เสียวไส้วะ..." ฟุคุอิเอ่ยเบาๆ

    "น่ากลัวกว่าอาคาจินอีก..." มุราซากิบาระถึงกับทำขนมหลุดจากปาก

    "แรงคนหรือนั่น?" ฮิมุโระกลืนน้ำลายอย่างฝืนคอ

    "...เทียบไม่ติดเลยแฮะเรา..." มาซาโกะมองชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอย่างหวั่นๆ

    "สยองน่อ..." หลิวกอดฟุคุอิแน่น คล้ายกับภาพเมื่อครู่มันติดตาจนหลอน

    "..." โอคามุระใบ้กินเรียบร้อย เช่นเดียวกับคนในทีมเซย์รินส่วนใหญ่

    "ฟุริ..." เสียงอันเบาวิ๊ดดังออกจากปากฮิวงะ

    "ครับ?" ฟุริฮาตะที่มีสติสตางค์ครบอยู่คนเดียวจากทั้งทีมขานรับ

    "พี่นายทำงานอะไรเนี่ย!? โหดแท้!" ฮิวงะมองเคียวอย่างหวั่นๆ ว่าจะไปตื้บคนร้ายเมื่อครู่จนตายชอบกล

    "พี่ผมเป็นตำรวจน่ะครับ และไม่ต้องห่วงว่าพี่จะไปตื้บซ้ำหรอกครับ อย่างมากก็แค่ขู่นิดหน่อยแค่นั้นล่ะครับ" ฟุริฮาตะอธิบาย และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือสีหน้าเหวอๆ จากคนทั้งหลาย

    "จริงดิ!?" เสียงหลายเสียงประสานกัน...แถมไม่ใช่เฉพาะกับคนรู้จักด้วยสิ

    "ครับ..." ฟุริฮาตะดูจะเคยชินกับการที่เห็นสีหน้าแบบนี้เมื่อรู้ว่าพี่ตนเป็นตำรวจ...ก็นะ นิสัยพี่เขาคนส่วนใหญ่เห็นเป็นมาเฟียมากกว่า

    "โคตรสยอง..." เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการมาของคนกลุ่มหนึ่ง "...พี่นายจริงดิ? เจ้าหัวน้ำตาล?"

    "ครับ..." ฟุริฮาตะมองอีกฝ่ายอย่างงงๆ "...คาเงโทระซังมาตอนไหนครับเนี่ย?"

    "ตอนที่พี่นายถีบคนกลิ้งนั้นแหละ" นากาทานิ มาซาอากิผู้เป็นโค้ชแห่งทีมชูโตกุตอบ

    "พวกนายก็มาด้วยเหรอ!?" คางามิที่ดึงสติตนกลับมาได้แล้วชี้ไปยังตัวจริงทีมบาสแต่ละคนที่อยู่กับโค้ชตนด้วย...อา ถ้ามีทีมราคุซันอีกทีมล่ะก็ครบเลย

    "น่าๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว" ทาคาโอะเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

    "นายนี่ลั้นลาตลอกคดจริงๆ" มิโดริมะถอนหายใจ

    "นั่นสิน่าสนุกดีออก..." เด็กหนุ่มผมสีเหลืองทองยื่นหน้ามา "...ถ้าฉันไม่ต้องขี่ฉันอาโอมิเนจจิเนี่ย"

    "นายน่ะเงียบไปเลย! คนเจ็บอยู่เฉยๆ ไป!" ดำกิ เอ้ย! อาโอมิเนะทำท่าแกล้งปล่อยคนบนหลังตนลง

    "หว่าๆ! อย่าปล่อยนะ! อาโอมิเนจจิ!!!" คิเสะคว้าคออีกฝ่ายทันทีก่อนที่ตนจะหงายเงิบตกหลังเพื่อนตนไป

    "ฮาๆ พวกนายดูสนิกกันเหมือนเดิมเลยนะ..." โชจิเอ่ย...ทั้งๆ ที่ยังหลบหลังมุราซากิบาระอยู่

    "อ่ะ! ไฮซากิซังมาด้วยเหรอครับ!?" คิเสะทักเมื่อเห็นคนที่อยู่หลังเด็กโข่ง

    "แปลกนะที่คนอย่างคุณมาดูถึงที่...ไม่กลัวโดนใครดักตีหัวระหว่างทางหรือไงครับ?" อาโอมิเนะมองผู้เป็นพี่ของคนที่น่าถีบในสายตาเขา

    "นั่นสิครับ...ยิ่งหน้าตาคุณมันไปกระตุกเส้นชาวบ้านบ่อยด้วย" มิโดริมะเอ่ยอย่างเห็นด้วย

    "ตอนนี่ฉันไม่กลัวใครหรอก...กลัวไอ้เคียวมันมากกว่า" โชจิชี้ไปทางคนที่ห่างออกไปเป็นอันรู้ว่าที่พูดถึงนั่นหมายถึงใคร

    "โอเค...นั่นน่ากลัวกว่า" อาโอมิเนะยอมรับว่าคงไม่มีอะไรน่ากลัวกว่าคนที่ถีบคนกลิ้งเป็นลูกขนุนได้หน้าตาเฉย แถมคนโดนถีบก็ตัวใหญ่กว่าคนถีบเยอะอีกต่างหาก

    "นี่พวกนายรู้จ...เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นายเรียกคนคนนี้ว่าไงนะ? คิเสะ??" คาซามัตสึที่ยืนใบ้กิน (ซ็อกจากตอนที่เห็นเคียวถีบคน) อยู่นานเอ่ยถามขึ้น...เหมือนได้ยินชื่อคนน่าฆ่าทิ้งสักคนชอบกล

    "ไฮซากิซังไงครับรุ่นพี่..." คิเสะบอกรุ่นพี่ตน "...ก็นี่พี่ชายโชโงะคุงนี่ครับ"

    "จริงดิ!?" ทุกคนที่มาทีหลังหันขวับไปที่โชจิ "ไม่ยักเหมือน!!!"

    "...ทำไมแต่ละคนทำท่าเหมือนกับว่าฉันไม่น่าเป็นพี่โชโงะมันได้เนี่ย?" โชจิไม่เข้าใจในข้อนี่เลยจริงๆ

    "คงเพราะโชจิซังดูไม่...เอ่อ ก้าวร้าวเท่ามั้งครับ" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ ให้

    "เฮอะ! ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ต่างกับโชโงะราวฟ้ากับเหวแบบนายกับเคียวสักหน่อย!" โชจิเถียงกลับ

    "...นั่นมันก็จริง" ทุกคนยอมรับเลยว่าคนที่โหดยิ่งกว่าสิงโตกับคนที่ชาวบ้านมองเป็นชิวาว่านี่ต่างกันสุดๆ

    "ว่าแต่...แบบนี้แสดงว่าไฮซากิมาด้วยสิ?" โมริยามะถามพร้อมมองซ้ายมองขวา...ว่าตามจริงเขาแค้นนิดๆ ที่อีกฝ่ายขโมยท่าชูตของเขาไปน่ะ

    "เปล่าครับ..." คุโรโกะตอบแทนโชจิ "...ตอนที่ไฮซากิซังมาทักผมลองเดินดูรอบๆ แล้ว ไฮซากิคุงเขาไม่ได้มาด้วยครับ"

    "ตามนั้นล่ะนะ" โชจิตีหน้ายิ้มๆ พร้องเหงื่อตกนิดๆ

    ...โชโงะมันเดาถูกวุ้ย! นี่ถ้ามันยังอยู่คงโดนเจอตัวแน่!!!...

    "เอ่อ...ผมขอพูดอะไรหน่อยแล้วนะครับ..." คาซามัตสึเอ่ยอย่างเกรงใจนิดๆ แต่ปากมันคันยิบๆ อยากพูด "...ช่วยกรุณาบอกหมอนั่นว่าอย่าพูดจาชวนโดนตื้บนักสิครับ...เดี๋ยวมันอดไม่ได้"

    "..." โชจินวดขมับหน่อยๆ "เจ้าโชโงะมันไปก่อเรื่องอะไรมาฟะ!? นี่โดนพูดทำนองแบบนี้เป็นคนที่สองแล้ว!!!"

    "เยอะครับ...เยอะมากด้วย...โดยเฉพาะช่วงสองปีมาเนี่ย" มิโดริมะตอบพลางขยับแว่น

    "พูดยังกะที่พูดถึงเนี่ยเพิ่งมาก่อเรื่องมากๆ เอาช่วงหลังงั้นแหละ" อิมาโยชิเริ่มเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน

    "นั้นสิ...และก็ไม่ต้องมาเนียนเกาะเลย!" คาซามัตสึดันหน้าอิมาโยชิที่ตอนนี้เอาคางพาดบนหัวตน

    "แหมๆ นิดๆ หน่อยๆ น่า" อิมาโยชิทำท่าไม่ทุกข์ร้อนอะไรก่อนที่จะหันไปถามรุ่นน้องตน "ตกลงว่าไง?~~~"

    "ก็ใช่น่ะสิคะ..." โมโมอิเป็นคนตอบแทนเพื่อนตน "...ไฮซากิคุงเพิ่งหาเรื่องคนไปทั่วเมื่อสองปีก่อนเองค่ะ ก่อนหน้านั่นอย่างมากก็แค่ชอบแย่งของชาวบ้าน กับทำตัวเกเรเหมือนพวกเด็กมีปัญหาทั่วไปน่ะค่ะ"

    "พูดซะตรงแบบไม่ไว้หน้ากันเลย..." โชจิเกาหัวตัวเอง "...แต่มันก็จริงตามนั้นล่ะนะ"

    "งั้น...ทำไมหมอนั่นถึงมาพาลไปทั่วล่ะ?" ฮิมุโระไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก...ถึงไม่อยากพูดถึงไอ้หัวไส้เดือนนัก แต่มันก็อยากรู้ด้วย

    "แค่ยอมรับความจริงบางอย่างไม่ได้น่ะ..." โชจิหัวเราะเบาๆ ...เขาเดาได้เลยว่าถ้าน้องตัวเองมาได้ยินคงโวยลั่นแน่ "...แต่ตอนนี้อีกเดี๋ยวก็กลับโหมดเดิมแล้วล่ะ"

    "จริงเหรอ?" เหล่าอดีตทีมปาติหาริย์มองโชจิเหมือนไม่ค่อยเชื่อนัก

    "จริง..." ...แต่หลังจากนั้นจะรอดชีวิตจากเจ้าเคียวมันได้หรือเปล่าอีกเรื่องนะ "...เอาเป็นว่าฉันรู้ตามประสาพี่มันแล้วกัน"

    "เอางั้นก็ได้" เหล่าคนอยากได้คำตอบได้เพียงตอบรับอย่างขัดใจเท่านั้น

    "โชจิ~~~~" เสียงยาวๆ ดังมาพร้อมกับคนผมสีน้ำตาลที่ก่อนหน้านี้เขย่าขวัญชาวบ้านเล่นเดินมาหา "วันนี้เลี้ยงข้าวฉันเพิ่มอีกคนนะโว้ย!"

    "เฮ้ย! ทำไมฉันต้องเลี้ยงแกด้วยวะ!?" โชจิชักสีหน้าใส่ "ฉันเลี้ยงแค่พวกโคกิเว้ย! อีกอย่างแกให้ฉันเลี้ยงเกือบทั้งเดือนแล้วนะ!"

    "ช่วยไม่ได้เป่ายิ้งฉุบแพ้เองนิ" เคียวยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ พร้อมกับเดินไปจับคอเสื้อโชจิไว้กันหนี ก่อนที่จะหันไปยิ้มหวานให้น้องชายตน "ป่ะ! ไปกินให้อิ่มหน่ำกันหมดนี่เลยแล้วกัน!"

    "เดี๋ยวๆ แกรู้เหรอว่าที่จะไปร้านไหน!?" โชจิท้วง

    "รู้...วันก่อนเพิ่งไปตรวจและลากพวกทะเลาะในร้านเข้าซังเตน่ะ และเจ้าของร้านบอกเป็นเพื่อนแกด้วย" เคียวหัวเราะเสียงเย็น ก่อนที่จะหันไปพูดกับเหล่าผู้อาวุโส (แว๊ด!!!! #หลบของสารพัดที่ถูกโยนมา // s) ด้วยสีหน้าเป็นมิตร "ถ้าไม่รังเกียจก็เชิญทุกท่านด้วยนะครับ หลายๆ คนสนุกดี"

    "เอ่อ...อื้ม..." คาเงโทระกับเหล่าโค้ชทีมต่างๆ ที่เห็นว่าไม่เสียหายอะไรก็เลยพยักหน้ารับไป

    "งั้นไปกันเลย!" และเคียวก็พาทุกคนเดินออกจากสนามแข่งไป

     

     

     

     

     

    ในร้านโอโคโนมิยากิวันนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษเมื่อเหล่านักบาสม.ปลายทั้งหลายมาอัดกันในร้านเล็กแห่งนี้...ถ้าไม่ติดว่าโชจิกับเคียวโทรจองไว้ก่อน และเจ้าของร้านนึกคึกปิดร้านให้เพื่อนตนกินกันตามสบายแบบไม่มีใครกวนคงไม่มีที่ให้นั่งแน่...

    ...ว่าตามจริงที่เจ้าของร้านปิดร้านคือเพราะรู้ว่าเคียวมาด้วยต่างหาก กลัวว่าถ้าเผลอมีนักเลงคนไหนหลงเข้ามาจะดับอนาถในร้านตน

    "นี่โชจิซัง...ไฮซากิเมื่อก่อนหน้าตาเป็นไงเหรอครับ? เห็นชินจังบอกว่าเมื่อก่อนไม่ได้ทำทรงนี้นี่ครับ" ทาคาโอะที่ตีสนิกกับโชจิได้เร็วเกินคาดถามขึ้นมา

    "หื้อ?" โชจิที่กำลังกระดกเหล้ามองทาคาโอะ พร้อมหยิบรูปใบหนึ่งออกจากกระเป๋า "โชโงะน่ะเหรอ...อ่ะ! ดูเองแล้วกัน อธิบายยาก"

    "เอ๋?..." ทาคาโอะหยิบรูปในมืออีกฝ่ายมาดูและก็...แทบทำแก้วน้ำในมือหลุด "...น...นี่ไฮซากิ โชโงะคนนั้นจริงๆ เหรอ!?"

    "ก็ใช่น่ะสิ" โชจิมองสีหน้าทาคาโอะแบบกลั้นขำเต็มที่

    "เฮ้! มีอะไรเหรอทาคาโอะ?" มิยาจิที่เห็นรุ่นน้องตนทำท่าเหมือนสติหลุดเลยคว้าภาพในมืออีกฝ่ายมาด้วยและ...คิ้วขมวดทันที "เมื่อก่อนมันก็ดูดีแท้ๆ ไหงมันนึกบ้าไปเปลี่ยนทรงนั้นฟะ!?"

    "ไหนพี่ดูบ้าง..." มิยาจิ ยูยะที่ถูกลากติดกับพวกตัวจริงมาด้วยยื่นหน้ามาดู "...เห็นด้วยกับที่พูดสุดๆ!"

    "อ่ะ! ไหนๆ! ดูบ้าง!" หลังจากได้ยินคำของสองพี่น้องมิยาจิ และพอเห็นภาพก็แทบจะประสานเป็นเสียงเดียวกันว่า...

    "ที่มันเปลี่ยนทรงผมเนี่ยเพราะหัวไปกระแทกอะไรมาแน่!!!"

    "น้องนายได้เสียงตอบรับดีจริง..." เคียวเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าแต่ละคนที่เหวอหลุดเต็มที่อย่างขำๆ "...ว่าแต่โคจัง...ทำไมทำหน้าเหมือนนึกอะไรอยู่งั้นแหละ"

    "คือ...ผมรู้สึกคุ้นๆ คนในภาพชอบกลน่ะครับ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน" ฟุริฮาตะเกาหัวอย่างงงๆ กับความรู้สึกคุ้นๆ เมื่อเห็นภาพของไฮซากิที่ผมไม่ได้เป็นสีออกดำๆ แบบในปัจจุบัน

    "อาจจะนะ..." โชจิยิ้มเจ้าเล่ห์

    ...โคกิมันดูท่าจะเริ่มจำโชโงะได้แฮะ...

    "เออ! จริงสิ!" ฮิมุโระที่ดูเหมือนเพิ่งนึกบางอย่างออกหันไปหามุราซากิบาระ "ที่เคยบอกว่าไฮซากิเพิ่งมาบ้าหาเรื่องคนไปทั่วเมื่อสองปีมาเนี่ย...ฉันอยากรู้น่ะว่ามาจากสาเหตุอะไร"

    "เอ๋~~~? ฟังน่าสนใจจัง~~~" ทาคาโอะยิ้มร่าแบบคนอยากรู้อยากเห็นเต็มที่

    "นั้นสิ...บอกหน่อยสิ" ทุกคนสนับสนุนด้วยด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    "ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ตอนปีสองที่เทย์โคไฮซากิคุงโดนคู่อริแทงแล้วมีคนแบกไปส่งโรงพยาบาลน่ะครับ..." คุโรโกะเอ่ยตอบ "...แล้วหลังจากนั่นไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ไฮซากิคุงถึงพาลคนไปทั่วแบบนั้นน่ะครับ...พาลซะจนโดนอาคาชิคุงไล่ออกจากชมรมนั้นแหละครับ"

    "โดนแทง...โดนแบกไปโรงพยาบาล..." ฟุริฮาตะทำท่าเหมือนกำลังครุ่นคิด "...คุโรโกะ...ถามหน่อย...วันนั้นฝนตกหนักด้วยใช่ไหม?"

    "ครับ..." คุโรโกะพยักหน้ารับ

    "แล้วโรงพยาบาลที่ไฮซากิไปรักษาคือโรงพยาบาล###ใช่ไหม?" ฟุริฮาตะถามต่อ

    "ใช่ครับ..." คุโรโกะคิ้วขมวด "...ทำไมคุณถึงรู้ล่ะครับ?"

    "คือ..." ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ "...คนที่แบกไฮซากิไปโรงพยาบาลน่ะ...คือฉันเอง แฮะๆ"

    "...คุณเคยเจอไฮซากิคุง?" คุโรโกะเริ่มทำหน้าเหมือนกำลัง...ปลง "งั้นผมคงเดาสาเหตุที่ไฮซากิซังบอกว่าไฮซากิคุงกำลังจะกลับโหมดเดิมได้แล้วล่ะ"

    ...ถ้าให้เขาเดา...ไฮซากิคุงที่พาลไปทั่วคงเพราะเผลอชอบฟุริฮาตะคุงแหง...ยิ่งคำพูดของไฮซากิซังก่อนหน้านี้ยิ่งมีความน่าจะเป็นสูงด้วย แล้วแบบนี้ไฮซากิคุงจะโดนพี่ชายฟุริฮาตะคุงฆ่าไหมหว่า? ยิ่งดูหวงน้องชอบกลด้วย...

    "เอ๋? จริงสิ? เพราะอะไรล่ะ?" คิเสะถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    "อย่าเพิ่งรู้เลยครับ..." ...ไม่งั้นมีโอกาสได้ไปงานศพรายนั้นแน่

    "ทำไมอ่าาาาา" คิเสะเริ่มทำท่างอแงจนร้อนให้อาโอมิเนะลากกลับไปนั่งที่เดิม

    "เอ้าๆ ช่างเรื่องโชโงะมันก่อน! มาดื่มกันเถอะ!" โชจิรีบเปลี่ยนเรื่อง...เพราะพอเดาออกว่าคุโรโกะคงเดาเรื่องที่น้องตนชอบฟุริฮาตะ โคกิออกแล้วเป็นแน่ ถ้าไม่เปลี่ยนเรื่องแล้วมีคนซักเรื่องนี้มากๆ จนเผลอพูดเรื่องนี้ออกมาล่ะก็น้องเขา...โชโงะโดนไอ้เคียวมันฆ่าทิ้งแน่!!!

    "เฮ้ยๆ ห้ามคนอายุต่ำกว่าสิบแปดดื่มนะ!" เคียวมองโชจิตาเขียว

    "ครับๆ คุณพ่อ~~~" โชจิลากเสียงยาว และผลที่ได้คือช้อนด้ามหนึ่งพุ่งเข้าใส่คนพูด...ซึ่งแน่นอนเจ้าตัวหลบทัน โดยที่ช้อนไปพังลึกในผนังแล้ว!

    "ใครพ่อนายห๊า!?" เคียวแยกเขี้ยวใส่

    "กรุณาอย่าทะเลาะกันในร้านนะ!!!" คนเป็นเจ้าของร้านเอ่ยห้ามก่อนที่จะมีคนพังร้านตนเอง

    "ชิ!" เคียวเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ แต่ด้วยความที่คิดว่าไม่สมควรพังร้านชาวบ้านก็เลยยอมหยุดง่ายๆ

    "ฟู่...รอดแล้วเรา" โชจิถอนหายใจ...ก็ตอนแรกกะเล่นๆ ไม่คิดว่ามันจะขว้างของมานี่หว่า!

    "นี่ๆ" มิยาจิ คิโยชิสะกิดฟุริฮาตะ "พี่นายนี้ไปฝึกอะไรที่ไหนมาน่ะ? ดูเก่งดีนะ"

    "พี่...ถ้าพี่คิดจะลองทำตาม ขอบอกเลยว่าอย่า" ยูยะชักเสียวว่าพี่ตนจะเอาตามฟุริฮาตะ เคียวเข้า...ซึ่งมันหลอนน่าดู "แค่ปกติพี่ก็ทำเอารุ่นน้องผวาเป็นแถบๆ แล้ว ไม่ต้องฝึกเพิ่มหรอก"

    "ไม่ได้คิดจะฝึก แค่อยากรู้..." มิยาจิยักไหล่ "...แล้วที่นายว่าน่ะ...ไม่ดูตัวเองเลยเนอะ ทั้งฉันทั้งนายก็พอๆ กันแหละ"

    "เออ ไม่เถียง" ยูยะพยักหน้ารับง่ายๆ ก่อนที่เริ่มกินโอโคโนมิยากิของตนที่สุกแล้วโดยมีเสียงเถียงกันของโชจิและเคียวลอยตามมาเป็นของแถม

    และงานนี้กระเป๋าของโชจิก็แทบฉีกเป็นของแท้...ถึงแม้จะจ่ายให้แต่พวกเซย์รินก็เถอะ

    ...ไอ้หัวสีเพลิงนั้นมันกินหรือสูบฟะเนี่ย!?...

    นี่คือสิ่งที่โชจิโวยในใจก่อนที่จะจ่ายตังค์ไปทั้งน้ำตา...ถ้าคราวหน้าเห็นว่าคางามิ ไทกะมาด้วยเขาจะไม่เอ่ยปากว่าเลี้ยงเด็ดขาด!!!

     

     

     

     

     

    หลังจากศึกวินเทอร์คัพจบลงทุกอย่างก็กลับมาดำเนินตามปกติ เว้นแต่...

    "ฉันอยากบ้า..." เสียงอันห่อเหี่ยวจากเด็กเอ่ยขึ้นขณะที่เดินไปซื้อของเข้าชมรม "...ไหงเดี๋ยวนี้เจอไฮซากิบ่อยจัง!?"

    ...ใช่ สิ่งที่ต่างจากเดิมก็มีเพียงการที่คนแสนธรรมดาอย่างฟุริฮาตะ โคกิเจอไฮซากิ โชโงะมันแทบทุกวัน!!! ไม่ว่าพยายามเลี่ยงทางไหนก็เจอกันตลอด!!!

    "งั้นสิครับ" เด็กหนุ่มผมฟ้าเอ่ยหน้าตายขณะที่ในใจนั้น...

    ...ขอโทษนะครับฟุริฮาตะคุง แต่งานนี้ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกครับ...

    "นี่..." เสียงหนึ่งดังขึ้นมาพร้อมกับมือข้างหนึ่งแตะไหล่ของคนผมสีน้ำตาลเอาไว้ "...ไงพวก"

    "เอ๊ะ?..." ฟุริฮาตะมองคนที่แตะไหล่ตนอย่างเอ๋อๆ "...ฮ...ไฮซากิ!?"

    "ใช่น่ะสิ" ไฮซากิยิ้มบางๆ ออกมา...อา ตั้งแต่เจอกันเนี่ยเขายิ้มบ่อยขึ้นเยอะเลยแฮะ~~~ "ไหงทำหน้ายังกับเห็นผีอย่างนั้นล่ะ?"

    "ก...ก็...ผมนาย..." ฟุริฮาตะมองผมอีกฝ่ายที่บัดนี้แปรเปลี่ยนจากทรงเดสร็อกสีดำๆ เทาๆ เป็นทรงรังนก (?) สีเทาแทน

    "อ๋อ~ ลองเปลี่ยนดูน่ะ...ว่าไงดูดีไหม?" ไฮซากิยิ้มแฉ่งอย่างอารมณ์ดีโดยมองข้ามคุโรโกะไปเสียสนิก และดูไม่มีท่าทีที่คิดจะสนใจด้วย

    "ก็...ดูดีนะ" ฟุริฮาตะตอบ...ใช่ ดูดีกว่าทรงก่อนเยอะ!

    "อะแฮ่ม" คุโรโกะส่งเสียงออกมาประมาณว่า 'ผมยังยืนหัวโด่ตรงนี้นะครับ'

    "อ้าว? อยู่ด้วยเหรอเท็ตสึยะ?" ไฮซากิทักแบบไม่ค่อยสนใจอะไรมากนักกับการทักทายเพื่อนตน และสายตายังคงจับจ้องไปยังคนผมสีน้ำตาล

    "แฮะๆ โทษทีนะคุโรโกะ" ฟุริฮาตะส่งยิ้มแห้งๆ ให้ประมาณว่า 'ฉันลืมนายสนิกเลยล่ะ'

    "ช่วยกรุณาอย่าลืมผมกันสิครับ" คุโรโกะถอนหายใจอย่างกลุ้มนิดๆ ...ไม่ได้กลุ้มที่ลืมเขากันนะ แต่กลุ้มเรื่องฟุริฮาตะคุงต่างหาก...

    ...ก็จะไม่ให้กลุ้มได้ไงในเมื่อก่อนหน้านี้ที่ฟุริฮาตะไม่อยู่ไฮซากิ โชโงะเลยมาขอให้ช่วยกลางโรงยิมเลย!!!

     

     

     

     

     

    ย้อนกลับไปไม่กี่วันก่อน ขณะที่ทุกคนกำลังซ้อมบาสกันตามปกติ โดยขาดเพียงฟุริฮาตะที่ถูกที่บ้านเรียกกลับไปเพราะมีญาติมาเยี่ยมอยู่ๆ ประตูโรงยิมก็ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับร่างของคนที่แทบทำให้คางามิ ไทกะอยากปาลูกบาสใส่หน้า...

    ...โฮซากิ โชโงะนั้นเอง

    "แกมาทำอะไรที่นี้ฟะ!?" คางามิทำสีหน้าไม่เป็นมิตรเลยสักนิด

    "พอดีมีธุระนิดหน่อยน่ะ" คำตอบที่ได้จากไฮซากิทำให้ทั้งโรงยิมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อคำพูดนั้นไม่ได้กวนอวัยวะเบื้องล่างอย่างที่เคยได้ยินก่อนหน้านี้

    "ดูคุณจะเลิกบ้าตามที่พี่คุณบอกจริงๆ นะครับ" คุโรโกะที่สามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงของคนอื่นได้ง่ายๆ มองออกทันทีว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนไป ไม่สิ ต้องบอกว่ากลับไปเป็นอย่างเดิม...แถมดีกว่าเดิมด้วย

    "พี่บอกงั้นเหรอ?" ไฮซากิเอ่ยเหมือนไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่โดนพี่ตัวเองเผา "งั้นนายคงเดาออกสินะว่าฉันมาทำอะไร?"

    "พอเดาออกครับ แต่ผมขอบอกเลยว่าคงเป็นไปได้ยาก..." คุโรโกะเดาว่าคงเป็นเรื่องของฟุริฮาตะ โคกิเป็นแน่ "...และระวังโดนตื้บเอานะครับ"

    "เรื่องโดนตื้บคงช่วยไม่ได้ล่ะนะ ไอ้พี่บ้ามันก็บอกมาแล้วล่ะ" ไฮซากิโคลงหัวไปมาอย่างไม่ใส่ใจนัก...ก็เขาเตรียมใจมาแล้วว่าหลังจากอาจมีโอกาสได้นอนในโลง

    "เตรียมใจมาสินะครับ..." คุโรโกะมองอีกฝ่ายนิ่งๆ "...งั้นผมเตรียมสวดให้คุณเลยนะครับ"

    "ยังไม่ต้องเฟ้ย! ยังไม่ตาย!" ไฮซากิขยี้หัวอย่างหงุดหงิด

    "เดี๋ยวๆๆๆๆๆ!!! นี่พวกนายพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย!?" คางามิที่ไม่เข้าใจสิ่งที่สองคนนี้พูดเลยแม้แต่น้อยเอ่ยถาม

    "นั้นสิ...ตกลงมาทำอะไรที่นี่เนี่ย?" ริโกะที่ดูจะไม่ต่างจากคางามิเอ่ยถาม

    "เดี๋ยวผมอธิบายง่ายๆ ให้ฟังแล้วกันนะครับ..." คุโรโกะกวาดตามองทุกคนในโรงยิมที่มีเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นบนหน้ากันทุกคน "...ถ้าผมเดาถูกต้องล่ะก็...ไฮซากิคุงคงจะเผลอรักฟุริฮาตะคุงเข้าตอนที่ถูกฟุริฮาตะคุงช่วยไว้เมื่อสองปีก่อน และด้วยอาการรับตัวเองไม่ได้เลยพาลชาวบ้านแก้เครียด แต่พอรับตัวเองได้ก็เครียดต่อว่าจะหาตัวฟุริฮาตะคุงเจอยังไงและใช้วิธีเดิมแก้เครียดต่อ...และก็กลับมาทำตัวตามปกติเมื่อเจอตัวฟุริฮาตะคุงถูกไหมครับ?"

    "เท็ตสึยะ...ถามจริง วันนั้นนายไม่ได้แอบตามฉันไปด้วยแน่นะ!?" ไฮซากิทำหน้าเหมือนจิตตก

    ...นี่แค่เดา แต่ทำไมมันถูกหมดเลยล่ะฟะ!?...

    "ไม่หรอกครับ ถ้าไม่เชื่อถามอาโอมิเนะคุงสิครับ" คุโรโกะเอ่ยหน้าตาย

    "นี่นาย..." คางามิชักคิ้วกระตุก "...เอาจริงดิ?"

    "จริง..." ไฮซากิตอบอย่างรวดเร็วและหนักแน่นจนคางามิถึงกับชะงัน "...นายจะโวยจะโกรธจะต่อยฉันกับเรื่องที่ฉันทำตอนนั้นก็ได้ แต่อย่ามาขวางเรื่องที่ฉันจะเข้าหาหมอนั่นเลย"

    "นี่นาย..." คางามิถึงแม้จะไม่สนใจรอบข้างมากนัก แต่โดยสัญชาตญาณนั้นบ่งบอกเขาเลยว่าอีกฝ่ายนั้นจริงจังแค่ไหน...และนั้นทำให้เจ้าตัวทำใจที่จะขวางเพื่อนตนกับอีกฝ่ายไม่ค่อยลงเสียแล้ว "...ไม่กลัวพี่ฟุริมันตื้บหรือไง? ไม่รู้เหรอว่ารายนั้น..."

    "โหดปานปีศาจ และหวงน้องที่สุดในโลก..." ไฮซากิต่อคำพูดของคนผมสีเพลิงก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ "...ไอ้เรื่องนั้นรู้อยู่แล้ว ก็ไอ้พี่บ้ามันกรอดหูได้ทุกวันนิ"

    "ถึงแบบนั้นนายก็ยอมโดน?" ฮิวงะเริ่มเข้าใจประโยคที่ไฮซากิกับคุโรโกะคุยกันก่อนหน้านี้แล้วล่ะ

    "แน่นอน" ไฮซากิตอบอย่างชัดเจน

    "...บ้านใครมีพ่อแม่ทำงานโรงพยาบาลบ้างหรือสัปเหร่อก็ได้...หามาที" อิสึกิชักหน้ามืดกับคำพูดอีกฝ่าย...อา เหมือนกำลังมองคนที่กำลังลงสนามรบตัวเปล่าอย่างนั้นแหละ!

    "ปากเสีย...ฉันไม่ตายง่ายนักหรอกน่า...มั้ง" ไฮซากิว่าตามจริงก็ไม่แน่ใจว่าจะรอดจากการโดนตื้บยังไง แต่ถ้าบอกให้เลิกตามฟุริฮาตะ โคกิล่ะก็เขาไม่ทำเด็ดขาด!

    "แต่เตรียมไว้ก่อนก็ดีนะครับ..." คุโรโกะไม่คิดหรอกว่าเพื่อนตนคนนี้จะรอด "...ผมติดต่อมิโดริมะคุงเตรียมไว้เลยดีกว่า"

    "คิดว่ายังไงฉันต้องได้เข้าโรงพยาบาลสินะ..." ไฮซากิกรอดตาไปมา "...แต่ช่างเถอะ ตกลงนายพอมีวิธีให้หมอนั่นพอเห็นหน้าฉันแล้วไม่วิ่งหนีไหม?"

    "ลองไปโดนคนตื้บแล้วโซเซไปหาฟุริฮาตะคุงสิครับ" คุโรโกะตอบแบบ...เหมือนกำลังแกล้งคนอยู่เลย

    "ลองแล้ว แต่พอหมอนั่นทำแผลให้เสร็จก็วิ่งหนีตามเคย" ไฮซากิตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ เหมือนกลั้นหัวเราะอยู่...

    ...ก็จะไม่ให้ขำไงล่ะ ในเมื่อลืมกลัวเฉพาะตอนช่วยคนอื่นเนี่ย เหมือนเมื่อตอนเจอกันครั้งแรกเป๊ะ! บ่งบอกเลยว่าหมอนั่นตลอดที่ผ่านมาเนี่ยนิสัยยังไงก็เป็นอย่างนั้น! จนอดสงสัยไม่ได้เลยว่ารอดมาถึงปานนี้ได้ไง!...จะว่าไปอาจเป็นเพราะพี่รายนั้นก็ได้มั้ง ใครจะรู้ล่ะ

    "ถึงขนาดยอมโดนตื้บ..." ฮิวงะไม่รู้จะว่าไงกับความคิดคนตรงหน้า...แต่ที่รู้แน่ๆ คือเรื่องรุ่นน้องตนหมอนี่เอาจริง "...ลองเปลี่ยนทรงผมไหม? ถ้าหน้าดูโหดน้อยลงฟุริอาจหายกลัวก็ได้"

    "อื้ม..." ไฮซากิเกาหัวตนเอง "...ก็อาจจะแฮะ แล้วจะเปลี่ยนทรงไหนดี?"

    "เอาทรงเดิมของนายตอนม.ต้นนั้นแหละ ดูดีแล้ว..." ฮิวงะเอ่ยพร้อมดึงแขนไฮซากิ "...มา! เดี๋ยวตัดให้!"

                   "ตัดเป็นแน่นะ!?" ไฮซากิขมวดคิ้ว "คงไม่ได้ตัดแหว่งแบบไอ้พี่บ้าตัดให้นะ!"

    "ไม่ต้องห่วง บ้านฉันเปิดร้านตัดผมต้องตัดเป็นอยู่แล้ว" ฮิวงะเอ่ยก่อนที่จะลากไฮซากิออกจากโรงยิมไป

    ผ่านไปพักใหญ่ๆ ทั้งสองก็กลับมาพร้อมกับไฮซากิในสภาพผมรังนกไม่ต่างจากตอนม.ต้นสักนิด แม้แต่สีผม

    "รุ่นพี่เอายาที่ไหนมาล้างสีย้อมผมของไฮซากิคุงน่ะครับ?" คุโรโกะมองคนผมเทา พร้อมคิดในใจว่าสภาพนี้อีกฝ่ายดูดีกว่าเดิมเยอะ

    "ไม่ได้เอาอะไรมาหรอก แค่ล้างน้ำน่ะ..." ฮิวงะตอบ "...พอดีหมอนี่ใช่แค่ยาย้อมแบบล้างออกได้น่ะ"

    "ตอนแรกคิดว่าย้อมถาวรเสียอีกนะครับ" คุโรโกะคิดอย่างนั้นมาตลอดจริงๆ

    "ก็เคยทำอยู่ แต่ตอนหลังๆ พี่บอกว่าไอ้ยาแบบถาวรมันไปเปอะแล้วล้างยากน่ะ ก็เลยเปลี่ยนมันซะเลย..." ไฮซากิตอบพลางยักไหล่ "...ว่าแต่ไอ้ทรงนี้มันดูดีแน่เหรอ?"

    "ดูดีโคตรๆ!!!" เหล่าทีมบาสเซย์รินประสานเสียงกัน...

    ...ให้ตายเถอะ! คิดว่าทรงนี้มันดูไม่ดีตรงไหนฟะ!?!...

    "ผมรับรองครับ ไฮซากิคุงว่าทรงนี้ดูดี..." คุโรโกะเอ่ยยืนยัน "...ถ้าไม่เชื่อคุณลองไปถามที่โรงเรียนก็ได้ หรือไม่วันหลังผมจะพาไปให้ถามฟุริฮาตะคุงเองเลยแล้วกันครับ"

    "เอางั้นก็ได้..." ไฮซากิถอนหายใจ ก่อนยกนาฬิกาขึ้นมาดู "...งั้นฉันกลับล่ะ...ไอ้พี่บ๊องมันนัดให้ไปซื้อของเป็นเพื่อนน่ะ...แก่จะตายยังจะหาคนไปชื้อของเป็นเพื่อนอีก"

    "น่าๆ ฝึกไว้เผื่อได้ไปเดินกับฟุริ..." คิโยชิเอ่ยแซวเล็กน้อยก่อนที่ร่างเด็กหนุ่มผมสีเทาจะเดินออกจากโรงยิมไป

     

     

     

     

     

    "ไงไฮซา...ไฮซากิ!?" เสียงอันดูตื่นตนกของกัปตันทีมแห่งทีมบาสฟุคุดะทำให้ทุกคนหันไปมองยังสิ่งที่เป็นต้นเหตุและ...ทำลูกบาสหลุดมือกันเป็นแถว "น...นายไปทำอะไรกับผมนายยยยยยย!?!"

    "อา...สวัสดี" ไฮซากิ โชโงะทักสั้นๆ ก่อนที่เดินเข้ามาในโรงยิมอย่างปกติด้วยความรู้สึกหยองๆ กับสายตาที่ดูเหมือนสติหลุดจากคนทั้งโรงยิม "นี่แค่เปลี่ยนทรงผมแล้วฉันดูแปลกมากหรือไง?"

    ...ให้ตายเถอะ! ปฏิริยาเหมือนเจ้าพี่บ้าเมื่อวานเลยวุ้ย!!!...

    "จะว่าแปลกก็แปลก...แต่ก็ดูดีกว่าก่อนหน้านี้ล่ะนะ" อิชิดะมองลูกทีมที่ร้อยวันพันปีไม่เคยมาซ้อมดีๆ กะเขาสักที โผล่มาพร้อมทรงผมใหม่ด้วยสายตาแปลกใจ...มันเปลี่ยนทรงผมแล้วนิสัยเปลี่ยนตามหรือไงฟะ!?

    "นายนึกคึกอะไรเปลี่ยนทรงผมเนี่ย?" นายหัวเหม่ง (#หลบถังที่ถูกโยนมา // s) โมจิสึกิ คาซึฮิโระเอ่ยถามอย่างสงสัย

    "ไม่มีอะไรมาก...แค่อยากเข้าหาใครบางคนแค่นั้นแหละ..." เมื่อนึกภาพของคนที่พูดถึงไฮซากิก็เผลอยิ้มบางๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว "...ไปซ้อมล่ะ"

    "..." เหล่าตัวจริงทีมฟุคุดะมองไฮซากิที่ไปหยิบลูกบาสมาซ้อมด้วยสายตาเหมือนกับเจอสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมาปรากฏตรงหน้า (?)

    "มันไปแอบชอบใครฟะ!? ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้!!!" โมจิสึกิไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นรุ่นน้องตนเป็นผู้เป็นคนกะเค้าสักที (?)

    "ไม่รู้สิ...รู้แค่ไฮซากิมันคงจริงจังมากเลยกับคนนี้" อิชิดะนวดขมับอย่างคนไมเกรนขึ้นก่อนที่จะสั่งให้คนในทีมตนไปซ้อมกันตามปกติ โดยที่ปัดเรื่องไฮซากิเอาไว้ก่อน

    ...ไว้ว่างๆ ค่อยเค้นคอแล้วกัน...

     

     

     

     

     

    กลับมายังปัจจุบัน ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในตอนนี้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลกำลังนั่งตัวแข็งเป็นรูปปั้นอยู่ข้างๆ เด็กหนึ่งผมเทาที่จ้องมาที่ตนอย่างไม่ว่างตา

    ...ท...ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย?! ช...ช่วยกลับมาเร็วๆ เถอะคุโรโกวววววว!!!...

    ฟุริฮาตะ โคกิที่ตอนนี้สั่นราวเจ้าเข้าโวยในใจเมื่อถูกเพื่อนตนเองทิ้งไว้คนที่น่ากลัวสำหรับเขา...ถึงจะเป็นน้องโชจิซังก็เถอะ แต่ที่คางามิเล่าให้ฟังมันน่ากลัวอ่ะ!

    "นี่นาย..." เสียงเรียกจากด้านข้างทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลสะดุ้งสุดตัว "...ทำไมถึงกลัวฉันนักล่ะ?"

    "เออ...คือ..." ฟุริฮาตะที่เผลอเหลือบตาไปเห็นดวงหน้าปานจะร้องไห้ของอีกฝ่ายทำให้ความรู้สึกผิดแวบเข้ามา "...ก็ที่คางามิเล่าให้ฟังมัน...น่ากลัวนิ"

    "งั้นเหรอ..." ไฮซากิถอนหายเมื่อรู้สาเหตุ...แต่ก็โทษใครไม่ได้ล่ะวะ ก็เขาไปพาลหาเรื่องใส่ตัวเองนิ "...แล้วทำไงนายถึงจะหายกลัวฉันล่ะ?"

    "..." ฟุริฮาตะถึงกับใบ้กินเมื่อเจอคำถามนี้ "...ผมไม่รู้ครับ"

    "ถ้าเช่นนั้น..." ไฮซากิยกมือขยี้เรือนผมอีกฝ่ายเล่น "...ฉันขอเป็นเพื่อนนายได้ไหม?"

    "ห๊า!?" ฟุริฮาตะถึงกับหลุดเหวอเมื่ออยู่ๆ คนผมเทามาขอเป็นเพื่อนเฉยเลย "ก...ก็ได้ล่ะนะ"

    "...ดีจัง" ไฮซากิยิ้มบางๆ ออกมา...ตอนแรกเขากลัวจะตายว่าจะโดนปฏิเสธ นี่ขนาดแค่ขอเป็นเพื่อนนะ ถ้าเขาขอเป็นแฟนตัวเขาจะไม่หัวใจวายก่อนได้คำตอบเลยเหรอ!?

    ระหว่างที่ไฮซากิพยายามหาเรื่องคุยกับฟุริฮาตะเพื่อสร้างความสนิกสนม ห่างออกไปไม่ไกลก็มีคนกลุ่มหนึ่งแอบซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้

    "ดูท่าจะไปได้สวยนะครับ" เด็กหนุ่มผมฟ้าเอ่ยขึ้นหน้าตาย

    "พอมันทำตัวดีๆ แล้วก็ดูดีแฮะ" เด็กหนุ่มผมสีเพลิงข้างๆ เอ่ย

    "หมอนั่นจริงมาก..." เด็กหนุ่มผมดำหน้าหวานจ้องตาแป๋ว "...แถมพออยู่กับฟุริสีหน้าและท่าทางก็เป็นธรรมชาติมาก"

    "อยู่ไกลขนาดนี้ยังเห็นเนอะ" เด็กหนุ่มผู้สวมแว่นเอ่ยพร้อมดันหัวคนที่บังฉากเด็ด (?) ออก

    "เงียบๆ หน่อยสิยะ" เด็กสาวผมน้ำตาลเอ่ยพร้อมส่งลูกถีบน้อยๆ ให้คนที่เริ่มคุยเสียงดัง

    "เอาน่าๆ" เด็กหนุ่มตาเส้นเดียว (?) เอ่ยขึ้น

    "..." เด็กหนุ่มผมดำทำมือทำไม้แบบที่คนปกติไม่มีทางเข้าใจ...

    "อื้ม นั้นสิ...ถ้าพี่ฟุริรู้ว่าไฮซากิพยายามจีบน้องตัวเองจะเป็นไงนะ?" ...แต่ก็ยังอุตสาห์มีคนเข้าใจอีกแหน่ะ

    "พี่ฟุริคงไม่ทำอะไรมั้ง?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ชิวส์ตลอดกาลตบบ่าเพื่อนตน

    "ไม่มีทางล่ะ...เจ้าบ้านั้นมันโคตรหวงน้อง" ชายหนุ่มผมดำทำหน้าเหมือนกำลังทำใจว่อาจได้จัดงานศพให้น้องตัวเอง (?)

    "นั้นสิ...คงต้องเตรียมโรงพยาบาลจริงๆ" เด็กหนุ่มผมเขียวบอกโดยไม่สนใจสายตาแปลกๆ ที่มองที่คาดผมรูปหูกระต่ายสีดำบนหัวตนเลย

    "มิโดริมะ...ฉันอายวะ ถอนไอ้ที่คาดผมนั่นเถอะ" เด็กหนุ่มหัวโล้นมองของบนหัวคนผมเขียวอย่างรับไม่ได้

    "ยังไม่ชินหรือไง?" เด็กหนุ่มผมตั้งถาม

    "มันควรชินหรือไงวะ!?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งมองที่คาดผมนั้นด้วยสายตาอยากหักมันใจจะขาด "ไอ้ที่คาดผมนั้นอย่างน้อยช่วยเอาไปให้คนอื่นแทนได้ไหมเนี่ย!? อยู่บนหัวแกมันไม่เข้ากันชอบกล!"

    "อื้ม...หัวเขียวส่วนที่คาดผมสีดำก็เลยดูเด่นแปลกๆ สินะ?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งที่ผมสั้นกว่าคนแรกเอ่ยขึ้นอย่าง...ปลงกับไอ้ของประหลาดทั้งหลายแหลงของคนผมเขียวแล้ว

    "งั้นก็ได้ครับ" เจ้าตัวที่กลัวว่าจะมีคนฟิวส์ขาดจึงถอนที่คาดผมออกและไปใส่บนหัวดำๆ ของคนข้างๆ แทน "แบบนี้ดูดีขึ้นไหมครับ?"

    "สุดๆ" นี่คือเสียงที่ประสานตอบกลับมา

    "แล้วทำไมเป็นหัวฉันล่ะ!? ชินจัง!" คนที่โดนเอาที่คาดผมหูกระต่ายคาดหัวโวยขึ้นมา

    "หน้านายเหมาะสุด" มิโดริมะตอบหน้าตายพร้อม...หยิบมือถือตนขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้

    "เงียบๆ หน่อยสิ..." โชจิเอ่ยพร้อมแอบดูน้องตัวเองต่อไป เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่เริ่มกลับมาแอบดูชาวบ้านต่อเช่นกัน

    "...พวกนายทำอะไรน่ะ?" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของคนที่กระจุกอยู่จุดเดียว

    "แอบดูโชโงะกับโคกิน่ะ..." โชจิเอ่ยตอบก่อนที่จะชะงัเมื่อรู้สึกคุ้นๆ เสียง ก่อนที่จะหันกลับไปมองต้นเสียงอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ "...อ...ไอ้เคียว"

    "ไหงทำหน้าเหมือนเห็นผีวะ?" ฟุริฮาตะ เคียวมองแต่ละคนที่เริ่มหน้าซีด...แถมบางคนเริ่มสวดอะไรสักอย่างด้วย "ว่าแต่โคจังกับน้องแกทำไมเหรอ?"

    "คือ..." โชจิเหงื่อตกอย่างนึกข้อแก้ตัวไม่ออก

    "คือไฮซากิคุงอยากเป็นเพื่อนฟุริฮาตะคุงน่ะครับ แต่ดูท่าฟุริฮาตะคุงจะกลัวไฮซากิคุงก็เลยวางแผนให้สองคนนั้นคุยกันดีๆ น่ะครับ" คุโรโกะรีบโกหกหน้าตายทันทีก่อนที่คนผมเทาจะไปลงโลงโดยไม่รู้เรื่อง

    "อ๋อ~ เลยมาแอบดูว่างั้น?" เคียวพยักหน้าอย่างเข้าใจในความขี้กลัวของน้องตนเอง

    "ครับ" ทุกคนรีบพยักหน้ารับ ก่อนที่จะทำหน้าที่แอบดูต่อโดนมีเคียวร่วมวงด้วย...

    ทุกอย่างก็ดูปกติดีทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่เป็นเหตุพอให้ไฮซากิ โชโงะโดนฟุริฮาตะ เคียวตื้บได้เลยจนกระทั่ง...

    "ระวัง!!!" เสียงหนึ่งดังขึ้น และโดยไม่ทันตั้งตัวก็มีลูกบาสลูกหนึ่งกระแทกหัวเทาๆ นั้นอย่างแรงจน...

    ...ริมฝีปากของทั้งสองที่คุยกันอยู่ประกบกันพอดี

    "ซวย..." โชจิพึมพำเบาๆ พร้อมเหลือบมองเพื่อนตน...หวังว่ามันไม่ไปฆ่าน้องเขานะ? ไม่งั้นเขาอธิบายกับแม่ไม่ถูกแน่!!!

    "ขอโทษครับ เป็นอะไ...อ้าว? โชโงะคุง! ฟุริฮาตัจจิ!" เจ้าของลูกบาสวิ่งตามลูกบาสเจ้ากรรมมาเอ่ยทักเมื่อเห็นเป็นคนรู้จัก "โทษทีนะ ที่มันกระเด็นมาโดนน่ะ"

    "ไม่เป็นไร..." ฟุริฮาตะตอบด้วยเสียงเบาหวิวอย่างคนซ็อกน้อยๆ ก่อนที่จะสะกิดคนผมเทาที่นิ่งสนิกปานวิญญาณออกจากร่าง "...ไฮซากิ?"

    โครม!!!

    ร่างของไฮซากิ โชโงะหงายเงิบไปในทันทีด้วยใบหน้าแดงแจ๋ปานคนเป็นไข้

    "ไฮซากิ!? / โชโงะคุง!!!" ฟุริฮาตะและคิเสะรีบพยุยตัวคนที่สลบไปแล้วขึ้นมานอนบนม้านั่งอย่างรีบร้อน เช่นเดียวกับโชจิที่เห็นน้องตัวเองหงายเงิบก็วิ่งไปหาพร้อมกับเคียวที่กำชับพร้อมที่แอบดูอยู่ที่เหลือให้แยกย้ายกันไปซะ...ซึ่งแน่ล่ะ ใครจะกล้าขัดพี่ท่านล่ะ?

    "โชโงะ!!!" โชจิมองน้องชายที่สภาพบอกได้เลยว่า...หมดสภาพ

    "อ่ะ! โชจิซัง! พี่! มาได้ไงครับ!?" ฟุริฮาตะรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นคนทั้งสอง

    "มาไงช่างมันเถอะ...แต่ตอนนี้ฉันคงต้องแบกโชโงะมันกลับบ้านล่ะ" โชจิบอกพร้อมยกร่างคนผมเทาขึ้นพาดบ่า

    "เดี๋ยวพี่จะดูไอ้สองตัวนี้ให้เองไม่ต้องห่วง ว่าแต่เราไม่ไปซ้อมรึไง?" เคียวเอ่ยพร้อมส่งซิกให้โชจิว่า 'เรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน!'

    "ผมรอคุโรโกะอยู่ครับ พอคุโรโกะกลับมาผมก็จะไปซ้อมต่อน่ะครับ" ฟุริฮาตะตอบด้วยสีหน้าเป็นกังวล

    "ไม่ต้องห่วงน่าโคกิ โชโงะมันไม่ตายง่ายๆ หรอก..." ...มั้งนะ

    "งั้นพี่ไปก่อนนะ~ แล้วเจอกันตอนค่ำนะโคจัง~~~" เคียวส่งยิ้มคนหลงน้องให้ฟุริฮาตะก่อนที่จะเดินจากไปพร้อมโชจิที่หน้าดูเหมือนคนกำลังกินยาขมอยู่

     

     

     

     

     

    ...อื้อ...ปวดหัว...

    นี้คือความรู้สึกแรกที่แวบเข้ามาทัรทีที่เด็กหนุ่มเริ่มที่จะรู้สึกตัว ดวงตาสีเทาค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ และ...แทบอยากสลบอีกรอบเมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลจ้องมาที่ตนอย่างน่าสยอง

    "ห้ามแกล้งหลับ..." เสียงเย็นๆ เอ่ยขึ้นทำให้เด็กหนุ่มผมเทาจำใจต้องลุกขึ้นนั่งให้เรียบร้อย "...นี่นาย...จะจีบน้องฉันสินะ?"

    "ครับ..." ไฮซากิที่เห็นว่าเลี่ยงไปก็เท่านั้นจึงได้แต่ตอบไปตรงๆ "...และผมจริงจังด้วยครับ"

    "พอรู้อยู่ เค้นคอไอ้โชจิมันมาหน่อยแล้ว" เคียวโคลงหัวไปมาโดยมีโชจินั่งหน้าเครียดอยู่ใกล้ๆ

    "เคียว...อย่าฆ่าโชโงะมันล่ะ" โชจิเอ่ยขึ้นอย่างเสียวๆ ว่าไม่ตนก็น้องตนนี้แหละจะโดนตื้บ

    "ไม่ฆ่าหรอกน่า..." เคียวยิ้มเหี้ยมออกมา

    ...ไม่ฆ่าแต่ทรมาณเอาใช่ไหมเพ่?...

    สองพี่น้องไฮซากิคิดในใจพร้อมกันก่อนที่เตรียมใจที่จะรับชะตากรรมของตน

    "ผม...รักฟุริจริงๆ นะครับ..." ไฮซากิรวบรวมความกล้าเอ่ยออกมา "...ต่อให้คุณจะห้ามยังไง...ผมก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะครับ"

    "..." เคียวมองไฮซากินิ่งๆ "แล้วใครบอกว่าฉันจะห้ามนายล่ะ?"

    "อ้าว!?" ไฮซากิถึงกับหลุดเหวอ...ถ้าไม่คิดจะห้ามแล้วจะปล่อยให้เครียดทำไมเนี่ย!?

    "...แต่ฉันว่านายต้องมีอะไรแหงๆ" โชจิเอ่ยอย่างรู้นิสัยเพื่อนตนว่าไม่มีทางปล่อยให้น้องตนไปจีบน้องเจ้าตัวง่ายๆ แน่

    "รู้ดีนิ..." เคียวหัวเราะออกมาน้อยๆ "...นายจะจีบโคจังก็ได้ แต่ต้องทำตามข้อกำหนดที่ฉันตั้งให้"

    "ครับ" ไฮซากิขานรับทันที...ก็โอกาสมาถึงแล้วนิ! ใครมันจะปล่อยล่ะ!? ต่อให้บุกน้ำลุยไฟเขาก็ทำเลยเอ้า!

    "ตอบชัดดีนิ..." เคียวยิ้มอย่างถูกใจ "...งั้นข้อแรกคือนายห้ามทำโคกิเสียใจ"

    "ครับ"

    ...ก็กะจะไม่ทำหรอก...

    "ขอสองนายห้ามลวมลามน้องฉันเด็ดขาด จนกว่าโคกิจะยอมเอง"

    "ครับ"

    ...แค่บังเอิญจูบไปเขายังอายจนสลบ แล้วคิดว่ามากกว่านั้นเขาจะทำได้?...

    "และข้อสุดท้าย..." เคียวเริ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ "...นายต้องให้ฉันจีบไอ้โชจิมัน...ตกลงนะ?"

    "ครับ...เฮ้ย! เดี๋ยวนะ! เมื่อว่าไงนะครับ!?" ไฮซากิที่เผลอตอบรับไปถึงกับดึงสติกลับมาไม่ทันเลย ยิ่งเจ้าของชื่อยิ่งไม่ต้องพูดถึง

    "ฉัน - จะ - จีบ - ไอ้ - โช - จิ - พี่ - แก! ชัดไหม?" เคียวย้ำอีกทีเน้นๆ

    "ชัดครับ..." ไฮซากิตอบเสียงแผ่ว "...แต่เรื่องนี้อย่าถามผมเลย ไปถามพี่เองเถอะครับ"

    "แค่กันไว้ก่อนเผื่อนายจะขวางน่ะ" เคียวเอ่ยหน้าตาย

    "ก...แก..." โชจิที่เริ่มเรียกสติกลับมาได้มองเคียวอย่างไม่อยากเชื่อ "...แกบ้าไปแล้วแหง!!! หัวไปโขกอะไรมาฟะ!?! ไอ้เคียว!!!"

    "ไม่รู้ไม่ชี้" เคียวทำไม่สนใจท่าทางของอีกฝ่ายและทำการ...แบกตัวโชจิขึ้นบ่าทันที "ฉันขอยืมโชจิไปสักวันสองวันนะ"

    "ปล่อยฉันนะโว้ย!!! ไอ้บ้า! ไอ้เคียว! แกสมองกลับแล้วแน่!!! โชโงะช่วยฉันด้วยยยยยยย!!!" นี้คือเสียงของโชจิที่ลอยตามลมมาส่วนตัวนั้น...โดนโชจิจับยัดเข้ารถจากนั้นก็ขับพาไปไหนไม่รู้เสียแล้ว

    "...โชคดีนะพี่" ไฮซากิคิดว่างานนี้เขาต้องไปทำบุญให้พี่ตัวเองเสียแล้ว

    ...เอาเถอะ ยังไงซะคราวนี้ก็จีบได้ไม่ต้องกลัวโดนตื้บล่ะ...

    ...แต่พี่กูจะรอดไหมวะนั้น? ดูท่าพี่เราได้เป็นเคะแน่...

    ...ยังไงก็ขอให้กลับมาครบสามสิบสองแล้วกันนะพี่...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     

     แถมนิดๆ

     

    "อ้าว? กลับมาแล้วเหรอ?" ไฮซากิ โชโงะทักขึ้นเมื่อเห็นพี่ตนที่หายไปสามวันเดินกลับเข้าบ้านมา

    "ไม่ต้องมาพูดเลย..." โชจิทำหน้ามุ่ย "...ไม่คิดช่วยกันเลยนะ"

    "ก็เผลอรับคำไปนิ อีกอย่างฉันไม่คิดว่าสู้รายนั้นได้ด้วย" ไฮซากิยักไหล่

    "เออ ไม่เถียง" โชจิยอมรับเลยว่าไม่เคยเจอใครโหดเท่ามันขนาดนี้

    "ว่าแต่รอยที่แขนนั้นไปโดนอะไรมาน่ะ?" ไฮซากิถามขึ้นเมื่อเห็นรอยแดงๆ บนแดงพี่ตน

    "อย่า - ถาม - ถึง - มัน!!!" โชจิทำหน้าเหมือนผวาก่อนที่จะเดินกระแทกเท้ากลับเข้าห้องตัวเองไป

    "...พี่เสียตัวแล้วสินะ" ไฮซากิถอนหายใจก่อนที่จะแบกกระเป๋าไปเรียนตามปกติ...แต่ไม่ทันออกจากบ้านร่างอันคุ้นตาก็มายืนอยู่หน้าประตูเสียก่อน

    "ไง..." เคียวเอ่ยทักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "...โชจิล่ะ?"

    "...งอนหนีเข้าห้องไปแล้วครับ" ไฮซากิตอบ

    "งั้นคงต้องง้อหน่อยแฮะ...เราก็ดันเผลอทำแรงไป" เคียวบ่นก่อนที่จะเดินไปยังห้องของโชจิทันที ส่วนไฮซากิก็ทำหูทวนลมแล้วรีบไปโรงเรียนทันทีก่อนได้ฟังเสียงหนังสดให้อิจฉาเล่นเข้า

     

     


    Cr. かお
    http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=36739086


    ปล.มั่วนิดๆ ไม่ว่ากันเนอะ ^^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×