ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #140 : [AkaMido] พ่ายแพ้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.98K
      64
      19 ก.พ. 59

    Title : พ่ายแพ้

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring :  Akashi x Midorima

    Notes : พอดีเราจะสอบในวันอาทิตย์นี้+หมดมุข คราวนี้เลยสั้นหน่อยน่อ

    ................................................................

    พ่ายแพ้

     

    ...อา...เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า...

    ...กี่ครั้งกันแล้วที่เป็นแบบนี้นะ?...

    ...กี่ครั้งแล้วที่นายชนะฉันน่ะ?...

    ...ให้ตายสิ...ทำไมฉันไม่เคยชนะนายได้เลยนะ?...

    ...อาคาชิ...

     

     

     

     

     

    "มิโดริมัจจิ~~~~!!!" เสียงที่สุดแสนจะรื่นเริงอันคุ้นหูดังขึ้นมาทำเจ้าของชื่อที่ถูกเรียกซะประหลาดนั้นรีบไหวตัวหลบ ก่อนที่จะมีบางอย่างสีเหลืองๆ ตัดหน้าไป "ง่ะ! ใจร้ายอ่ะ! หลบทำไมกันเล่ามิโดริมัจจิ!"

    "ถ้าไม่หลบฉันก็ได้หลังหักเพราะนายสิ คิเสะ" เด็กหนุ่มผมเขียวขยับแว่นที่ตนสวมใส่อยู่นั้นเล็กน้อยด้วยความเคยชิน "แล้วนี่มาทำอะไรที่นี่ห๊า? วันนี้นายมีเรียนเสริมกับอาโอมิเนะไม่ใช่เหรอ?"

    "หว่า! ลืมสนิก!" เด็กหนุ่มผมเหลืองนามคิเสะ เรียวตะผู้มีดีกรีเป็นนายแบบร้องเสียงหลงเมื่อนึกออกว่าต้องไปเรียนเสริม "งั้นไปก่อนนะมิโดริมัจจิ!"

    "ไม่ต้องพูดมาก! รีบไปเลย!" เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่ามิโดริมัจจิหรือชื่อจริงๆ ว่ามิโดริมะ ชินทาโร่เอ่ยเป็นเชิงไล่อีกฝ่าย

    "อย่าพูดจาใจร้ายแบบนั้นสิ! ถึงรู้ว่ามิโดริมัจจิซึนแต่มันก็อดเจ็บปวดไม่ได้นะ!" คิเสะทำหน้าบึงเล็กน้อยก่อนเริ่มวิ่งหนีคนผมเขียวที่กำลังจะเอากล่องคุกกี้ (ลักกี้ไอเทมเหรอ? // s , ใช่น่ะสิ // มิโดริมะ) ปาใส่หัวตน

    "ว่าใครซึนห๊าคิเสะ!? และอย่าวิ่งตรงระเบียงทางเดินสิฟะ!!!" มิโดริมะแว๊ดลั่นขณะที่คนผมเหลืองวิ่งห่างออกไปด้วยเร็วสูง "ให้ตายสิ..."

    "ถอนหายใจบ่อยๆ มันเสียบุคคลิกภาพนะ มิโดริมะ" เสียงทุ้มๆ ชวนหลงใหลดังขึ้นจากด้านหลังเด็กหนุ่มผมเขียว ทำให้เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกเหลียวกลับไปมองด้านหลังของตนเอง

    "ใครมันจะเป๊ะได้ตลอดแบบนายล่ะอาคาชิ" มิโดริมะเอ่ยเสียงเรียบใส่เด็กหนุ่มผมแดงที่ก้าวเท้าเข้ามาหาตนอย่างช้าๆ

    "อย่าพูดเหมือนฉันเป็นหุ่นหรืออะไรสักอย่างที่เป๊ะตลอดเวลาสิ เห็นแบบนี้ฉันก็มีหลุดมีพลาดอยู่บ้างนะ" อาคาชิ เซย์จูโร่หัวเราะขึ้นมาเบาๆ กับคำพูดของคนผมเขียว

    "เหรอ? ไม่ค่อยอยากเชื่อเลยแฮะ" มิโดริมะกรอดตาไปมา

    "เอาน่า ถึงนายไม่เคยเห็นตอนฉันพลาดก็เถอะ..." อาคาชิดูท่าทางไม่ใส่ใจท่าทีของคนผมเขียวเท่าไหร่นักเอ่ย "...ว่าแต่...กลับบ้านด้วยกันไหมมิโดริมะ? วันนี้นิจิมุระซังบอกมาว่าไม่ซ้อมน่ะ"

    "ตามแต่นายเถอะ" มิโดริมะเอ่ยเป็นเชิงตอบรับ ซึ่งอาคาชิเองก็เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายสื่อออกมาตามประสาคนซึน

    จากนั้นเด็กหนุ่มทั้งสองก็พากันเดินกลับบ้านของตนโดยตลอดทางทั้งต่างคุยสัพเพเหระกันไปต่างประสา ก่อนที่จะเอ่ยลาและแยกกันตรงทางแยกไปบ้านของตนเอง...

    ...แต่ว่าไม่รู้ทำไมเมื่อมิโดริมะมองแผ่นหลังของคนผมแดงที่ห่างออกไปแล้วนั้น...มันช่างรู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน

    "นี่นาย...ไม่คิดแบกเบาเรื่องพวกนั้นให้ใครบ้างหรือไง?" มิโดริมะเอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ แม้รู้ว่าอีกฝ่ายที่เดินห่างไปไกลแล้วนั้นไม่มีทางได้ยินก็ตาม "นายนี่น่าหมั่นไส้ชะมัดเลยรู้ตัวหรือเปล่าเนี่ย? อาคาชิ"

    ...ทั้งทำตัวเหมือนเก่งทุกอย่าง...

    ...ทำทุกอย่างได้ตัวคนเดียว...

    ...ไม่ว่าสิ่งไหนที่ต้องการก็ทำให้มันสำเร็จได้ตลอด...

    ...หน้าตาก็หล่อจนแม้แต่ผู้ชายด้วยกันยังอิจฉา...

    ...เรียกได้ว่าเป็นคนที่สมบูรณ์แบบสุดๆ...

    ...นั้นมันทำให้เขารู้สึกอยากชนะ...

    ...ชนะคนชื่ออาคาชิ เซย์จูโร่...

    ...แม้ตลอดมาพยายามแค่ไหนก็ไม่เคยเหนือกว่าได้สักครั้ง...

    ...อาคาชินั้นมอบความพ่ายแพ้ให้แก่เขามาตลอด...

    ...แต่เขาก็ยังอยากชนะ และ...

    ...ให้สายตาสีแดงคู่สวยนั้นมองมาที่เขาเสียที...

     

     

     

     

     

    "นี่มันอะไรกัน..." เสียงเหี้ยมๆ ดังออกมาจากปากเด็กหนุ่มผมเขียวทำให้เด็กหนุ่มผมสีเหลืองและน้ำเงินที่นั่งเบื้องหน้า "...ไอ้คะแนนนี้มันอะไรกัน!? นี่ตกลงที่โดนอาจารย์เรียกไปเรียนเสริมนั้นไปนั่งเรียนหรือนั่งหลับกันแน่ห๊า!?"

    "ง...ง่ะ อย่าเพิ่งสติแตกดิ" เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินเอ่ยเสียงหง่อยพลางพยายามกระดึบไปหลบในมุมมืด

    "นายไม่ต้องพูดเลยอาโอมิเนะ! คราวนี้นายทำคะแนนได้แย่กว่าคิเสะหลายเท่าเลยนะเว้ย!" มิโดริมะแยกเขี้ยวใส่คนผมน้ำเงิน จนคนโดนแว๊ดแทบอยากจะกลืนหายไปกับมุมมืดเลยทีเดียว

    "ก็...ข้อสอบมันยากอ่ะ" อาโอมิเนะตอบกลับไปก่อนที่จะรีบหลบไม้เบสบอล (?) ที่ถูกฟาดมาอย่างไวว่อง "เฮ้ยๆ! ถึงตายนะเฟ้ยมิโดริมะ!"

    "...ลักกี้ไอเทมของมิโดริมัจจิวันนี้ช่างเหมาะกับสถานการณ์จนน่ากลัวจริงๆ" คิเสะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

    "เงียบไปเลย! ไม่ต้องมาบ่นด้วย! อย่ามาอ้างว่าข้อสอบยากด้วย!" มิโดริมะเอาไม้เบสบอลมาเคาะมือตนเบาๆ ...เป็นฉากที่ดูคล้ายๆ นักเลงกำลังไถ่ตังค์ชาวบ้านเลย "ต่อให้ยากยังไงก็ไม่ควรทำให้มันได้ศูนย์คะแนนแบบนี้! ส่วนคิเสะ...พออนุโลมให้เพราะสี่สิบเก้ายังดีกว่าอาโอมิเนะเยอะ! แต่ยังไงก็ต้องมา 'ติวเข้ม' กันทั้งคู่เข้าใจไหม! ไม่งั้นอาจารย์ให้พวกนายตกจริงๆ แน่!"

    "ง...ง่ะ!" อาโอมิเนะกับคิเสะเบ้หน้าตามประสาคนไม่อยากที่จะเรียน

    "อย่าไปดุสองคนนั้นนักเลยมิโดริมะ...ไม่เข้าหัวหรอก..." เด็กหนุ่มผมแดงที่ได้ยินเสียงแว๊ดของมิโดริมะมาแต่ไกลเดินเข้ามาหา "...ส่วนที่บอกข้อสอบงวดนี้ยากเนี่ย...ก็อย่างที่อาโอมิเนะบอกจริงๆ นั้นแหละ ขนาดฉันยังคะแนนตกเลย"

    "...อย่างนายเนี่ยนะคะแนนตก?" เด็กหนุ่มทั้งสามพากันจ้องที่คนผมแดงแบบไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ได้ยินนัก

    "ก็ใช่น่ะสิ" อาคาชิถอนหายใจเบาๆ กับท่าทีของแต่ล่ะคน

    "ไหน ขอดูของสอบนายหน่อยสิ" มิโดริมะขมวดคิ้วพร้อมแบมือขอกระดาษข้อสอบของอีกฝ่ายทันที

    "ดูพวกนายแปลกใจกันเหลือเกินนะ" อาคาชิหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะยื่นกระดาษข้อสอบให้

    "ก็ต้องแปลกใจสิ...ในเมื่อไม่เคยเห็นนายคะแนนตกมาก่อนนิ..." มิโดริมะบ่นก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะกวาดมองดูหาข้อที่เพื่อนผมแดงของตนนั้นตอบผิด...และก็ถึงกับคิ้วกระตุกในเวลาต่อมา "...อาคาชิ แบบนี่ฉันว่าไม่เรียกว่าคะแนนตกหรอกนะ...เขาเรียกว่าแค่เขียนผิดต่างหาก! แถมผิดก็ไม่ได้มากมายหรือเป็นอะไรที่สำคัญอีก! อาจารย์เขาก็ไม่ได้หักคะแนนอะไรนายด้วย! ยังได้เต็มร้อยจนน่าหมั่นไส้เหมือนเดิม! แล้วแบบนี่จะเรียกว่าคะแนนตกได้ไงเล่า!"

    "แต่สำหรับฉัน...ข้อผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็แย่พอดูนะ" อาคาชิเอ่ยด้วยท่าทางไม่ใส่ใจนัก แต่มิโดริมะก็สังเกตเห็นว่าดวงตาสีแดงสดใสนั่นฉายแววเศร้าออกมาวูบหนึ่ง

    "...นี่ถามจริงนายคิดว่าตัวเองเป็นตัวอะไรถึงจะไม่เคยพลาดเลยห๊า!" มิโดริมะเริ่มรู้สึกอยากเขกหัวแดงๆ ของเพื่อนตนเองแล้วสิ...

    ...ชิ! น่าหมั่นไส้ชะมัด! ไอ้ท่าทางคนที่ไม่เคยแพ้อะไรนอกจากตัวเองนั้นยิ่งเห็นแล้วยิ่งหงุดหงิด! คอยดูเถอะ! พ่อจะทำให้นายรู้จักการแพ้ที่แท้จริงจนไม่ต้องมากังวลกับเรื่องแค่นี้อีกเลยค่อยดู!... (นาย...เหมือนห่วงตามประสาคนซึนเลยนะ // s , ไม่ซึนโว้ย! ยัยชิโกะ! // มิโดริมะ , โอ๊ะ มาดหลุดแล้วแหน่ะ // s)

    "ก็เป็นคนสิ จะเป็นอะไรได้ล่ะ?" อาคาชิถามกลับแบบ...ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนโดนกวนโอ๊ยแปลกๆ

    "นายนี่มัน..." มิโดริมะคุมขมับกับคำตอบที่ได้รับ "...เฮ้อ ช่างเถอะ...ตอนนี้เอาสองคนนี้ไปติวกันก่อน ถ้าเกิดงวดนี้ไม่ผ่านครึ่งกันมีหวังโดนปรับตกทั้งคู่แน่"

    "ลืมกันมั่งก็ได้!" คิเสะกับอาโอมิเนะที่เกือบรอดจากการโดนจับไปติว (?) ร้องเสียงหลง

    "จะลืมได้ไงเล่า! มา! มาติวซะดีๆ! อาคาชิ! นายก็มาช่วยกันด้วย!" มิโดริมะเอาเชือกมาจากไหนไม่รู้มามัดตัวคิเสะกับอาโอมิเนะ

    "ก็ได้...แต่สมองอย่างอาโอมิเนะกับคิเสะฉันไม่แน่ใจนะว่าจะทำให้ดีขึ้นได้หรือเปล่านะ" อาคาชิพยักหน้ารับ

    "อย่าว่าแต่นายเลย ฉันเองก็ไม่แน่ใเหมือนกันแหละ" มิโดริมะเอ่ยพร้อมเริ่มลงมือ 'ลาก' เด็กหนุ่มทั้งสองที่ถูกมัดราวดักแดไปตามทางโดยมีอาคาชิเดินตามไปอย่างใจเย็น...และไม่ทันสังเกตสายตาของคนผมเขียวที่แอบเหลือบมองเป็นระยะๆ เลยสักนิด...

    ...สักวัน...ฉันต้องชนะนาย...

    ...จะทำให้นายเลิกยึดติดกับชัยชนะแน่...

    ...รอก่อนล่ะ...อาคาชิ...

     

     

     

     

     

    วันเวลาผ่านไปจากวันพลันกลายเป็นเดือน จากเดือนกลายเป็นปี ทุกๆ อย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปตามกาลเวลาอย่างที่ไม่อาจห้าม...เหมือนดั่งชะตากรรมที่มนุษย์ทุกคนไม่อาจหลีกหนี...

    ...เรื่องนี้คนอย่างมิโดริมะ ชินทาโร่นั้นรู้ดีและยอมรับมาตลอด แต่ในยามนี้...มิโดริมะรู้สึกกลัว 'การเปลี่ยนแปลง' เหลือเกิน โดยเฉพาะสิ่งนั้นมันเกิดกับคนที่เป็นดั่งเพื่อนสนิกของตนอย่างอาคาชิ เซย์จูโร่

    ...และสิ่งที่พิสูทร์ว่าอาคาชินั้นได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมนั้นก็ได้เกิดต่อหน้าต่อตามิโดริมะ เมื่อมุราซากิบาระได้ท้าแข่งกับอาคาชิจนกระทั่งอาคาชินั้นเกือบจะปราชัยไปนั่น...อาคาชิก็ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนในพริบตาและเอาชนะมุราซากิบาระไปได้ท่ามกลางสายตาจากคนทั้งโรงยิม

    ...ไม่ว่าจะดวงตาของอาคาชิที่ข้างหนึ่งอยู่ๆ สีอ่อนลงจนกลายเป็นสีดั่งอำพันหรือแม้แต่นิสัยที่เปลี่ยนจากเยือกเย็นและอ่อนโยนนั้นกลายเป็นคนที่เย็นชาและเผด็จการอย่างเห็นได้ชัด

    ...ทุกๆ คำพูดที่เอ่ยออกจากปากอาคาชินั้นก็เปลี่ยนไปเช่นกัน...เปลี่ยนไปจนมิโดริมะอดรู้สึกขนลุกไม่ได้เลย

    ...ถึงแม้ว่า...ตัวมิโดริมะจะรู้ถึง 'ตัวตน' ที่ต่างออกไปจากเดิมนี่ของอาคาชิมาตั้งนานแล้วก็ตาม

    "เฮ้อ..." มิโดริมะถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้...ด้วยความกังวลสุดแสนที่ยากเกินที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้...

    ...นี่อาคาชิคนนั้น...จะไม่กลับมาแล้วงั้นเหรอ?...

    "มิโดริ...มิ...มิโด...มิโดริมัจจิ!!!" ...และระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้นเด็กหนุ่มผมเหลืองที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยเรียกมิโดริมะเสียงดังเสียจนเจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งโหยง

    "ห...ห๊า!? อะไร!?" มิโดริมะหันไปหาคนที่เรียกตนเมื่อครู่

    "ฉันแค่ถามว่าวันนี้มิโดริมัจจิจะกลับด้วยกันไหมน่ะ" คิเสะถอนหายใจเบาๆ "แล้วนี่เหม่ออะไรอยู่เนี่ย? ปกติมิโดริมัจจิไม่ค่อยเหม่อแบบนี้นิ? หรือว่า...เรื่องอาคาชิจจิล่ะ?"

    "เรื่องอะไรก็ช่าง ไม่เกี่ยวกับนาย" มิโดริมะเอ่ยตอบไปอย่างปกติ "และนายก็เชิญกลับไปคนเดียวเลย ฉันขี้เกียจโดนนายลากหลบแฟนคลับของนายอีก"

    "ใจร้ายอ่ะ!" คิเสะทำแก้มป่อง

    "...ฉันแนะนำให้นายไปห่างๆ ฉันภายในสามนาทีเลยก่อนที่ฉันจะถีบนายสักเปี้ยงขึ้นมาจริงๆ" มิโดริมะคิ้วกระตุกเป็นจังหวะสามซ่า

    "เหวอ! ไปแล้วคร้าบบบ!" คิเสะวิ่งจู๊ดไปที่หน้าห้องทันที "อ๋อ! และมิโดริมัจจิ...ถึงรู้ว่ามิโดริมัจจิจะซึนไปหน่อยแต่อย่าไปซึนกับอาคาชิจจิตอนนี้เลยนะ! ฉันกลัวว่าอาคาชิจจิตอนนี้จะมีความอดทนน้อยกว่าเมื่อก่อนน่ะ! ถ้าเผลอยั่วไปตามปกติ ระวังเสียตัวล่ะ!"

    "พูดบ้าอะไรของนายเนี่ยคิเสะ!?" มิโดริมะถาม...ที่พูดเนี่ยหมายความว่าไงเนี่ย?!

    "อ้าว! มิโดริมัจจิก็ไม่รู้ตัวเองเหรอเนี่ย?! งั้นต้องยิ่งระวังนะ! เดี๋ยวโดนสิงโตกินเอา!" คิเสะเอ่ยก่อนที่จะก้มหลบรองเท้าที่ถูกขวางมาแล้ววิ่งหนีไปในทันที

    "นี่ตกลงนายพูดเรื่องบ้าอะไรกันห๊า!? ถูกสิงโตกินอะไรกัน!? เฮ้! กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน! คิเสะ!!!" มิโดริมะโวยวายเสียงดังลั่น แต่...ถึงคิเสะจะได้ยินก็คงไม่กลับมาให้โดนถีบหรอก "ให้ตายสิ...วันนี้เป็นวันที่โชคร้ายที่สุดในชีวิตเลย"

    ...ไหนจะอาโอมิเนะที่ดูท่าโมโหจัดนั้น...

    ...ไหนจะเรื่องที่คุโรโกะอยู่ดีๆ หายตามอาโอมิเนะไปเฉยๆ...

    ...แล้วยังเรื่องอาคาชิอีก...

    ...ถึงแม้วันนี้ราศีกรกฏจะโชคร้ายที่สุดจริงๆ ...

    ...แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้...

    ...รู้สึกแย่ชะมัดเลยแฮะ...

    "เฮ้อ...รีบๆ กลับบ้านดีกว่าแฮะ..." มิโดริมะถอนหายใจพลางบ่นขึ้นมาเบาๆ "...แต่...จะปล่อยอาคาชิกลับคนเดียวก็ยังไงๆ แฮะวันนี้ เอาไงดีหว่า?"

    "ก็ไม่เอาไง ก็กลับพร้อมกันเหมือนปกตินั้นแหละ"

    "แว๊ด!!!!" เสียงที่อยู่ๆ มากระซิบข้างหูพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ ที่ถูกเป่ารนหูทำให้มิโดริมะถึงกับหลุดร้องเสียงหลงก่อนที่จะหันไปดูทางที่เสียงดังมา "นี่นายเล่นอะไรเนี่ยอาคาชิ!?"

    ...เกือบตกใจตายเลยนะเฟ้ย!...

    "ก็เปล่า แค่เห็นนายยืนทำหน้ายังกับคนโดนหวยกินแถมบ่นอยู่คนเดียวอยู่นั้นเลยทักแค่นั้นเอง..." อาคาชิยักไหล่นิดๆ "...แล้วนี่กังวลว่าจะรอฉันดีไหมจนไม่ทันมองรอบข้างหรือไง? ชินทาโร่?"

    "ไม่ได้รอส...เดี๋ยวนะ? เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ?" มิโดริมะที่เกือบเถียงกลับไปอย่างเคยชินชะงักเมื่อได้ยินคำเรียกที่ต่างจากเดิม...คำเรียกที่ทำให้รู้สึกใจเต้นแปลกๆ ...

    ...ให้ตายเถอะ...นี่คำพูดของอาคาชิ 'คนนี้' แฝงคำสาปมาด้วยหรือไง? ไหงอยู่ๆ ใจเต้นเร็วแบบนี้ได้เนี่ย?...

    "เรียกนายว่าชินทาโร่ไง และคำพูดฉันก็ไม่ได้แฝงคำสาปอย่างที่นายคิดด้วย..." อาคาชิเอ่ยอย่างรู้ทันพลางหัวเราะขึ้นมาเบาๆ "...นายนี่นะ...ปกติก็ออกฉลาดแต่พอเป็นเรื่องแบบนี้แล้วซื่อจนน่ารักเลยนะ"

    "ห...ห๊า?" มิโดริมะหลุดร้องออกมาเบาๆ

    "หึ...ไม่รู้ตัวจริงๆ สินะเนี่ย?" อาคาชิเผยยิ้มออกมา...เป็นรอยยิ้มที่ทำเอามิโดริมะเผลอก้าวถอยหลังเล็กน้อยราวรับรู้ถึงอันตราย "งั้น...ฉันจะทำให้นายรู้ตัวเลยแล้วกัน"

    "พูดบ...เฮ้ย!" มิโดริมะที่กำลังจะโวยวายใส่คนผมแดงถึงกับหลุดร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายแตะไหล่ตนแล้วอยู่ๆ แข้งขาก็อ่อนจนหงายเงิบล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น

    "ก็อย่างที่ฉันพูด...ฉันจะทำให้นายรู้ตัวเสียที..." เด็กหนุ่มผมแดงนั่งลงย่องๆ ตรงหน้าอีกฝ่าย "...และฉันก็ไม่ใช่พวกอ้อมโลกแบบ 'ตัวฉัน' อีกคนด้วย ดั่งนั้น...นายก็จงมาเป็นของฉันซะ"

    "น...น..." มิโดริมะถึงกับอ้าปากค้างกับคำที่ออกมาจากปากคนผมแดง "...นี่ผีจูนิเบียวเข้าสิงนายหรือไง!?"

    ...หรือว่าที่เปลี่ยนไปเนี่ยเพราะอาการจูนิเบียวออกเนี่ย!...

    "ฉันไม่ได้เป็นจูนิเบียวสักหน่อย และที่ฉันพูดเนี่ยพูดจริงด้วย..." อาคาชิทำหน้าเหมือนหน่ายกับคนที่ความรู้สึกช้าเหลือหลายก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนผมเขียวจนลมหายใจร้อนๆ ปะทะดวงหน้าอีกฝ่าย "...งั้นต้อง 'จัดหนัก' เลยสินะ? ถึงจะรู้เรื่องเนี่ย?"

    "อาคา...อื้อ!?" มิโดริมะที่กำลังจะเอ่ยปากให้อีกฝ่ายเอาหน้าออกห่างจากตนหน่อยไม่ทันได้พูดชื่ออาคาชิครบพยางค์เลยด้วยซ้ำ ก็ถูกคนตรงหน้าประทับริมฝีปากลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว "อื้อ! อ...อืม! อื้อ~~~~!!!"

    ...แว๊ด! นี่มันอะไรกันฟะ!?...

    มิโดริมะที่ถูกจูบโดยผู้ที่เป็นเพื่อนของตนคิดในใจอย่างสับสนพร้อมพยายามดิ้น พยายามดันให้อาคาชิถอนจูบออกไป แต่ถึงพยายามเท่าไหร่ดูท่าจะไม่เป็นผลเลยแม้ว่าตนนั้นจะมีรูปร่างใหญ่กว่าอีกฝ่ายก็ตาม

    ...จ...จะตายแล้วโว้ย!...

    "อ...อา..." ราวกับว่ารู้ว่าเด็กหนุ่มผมเขียวกำลังคิดอะไรอยู่ อาคาชิจึงถอนจูบออกจากปากมิโดริมะ ทางมิโดริมะเองก็ใช้จังหวะนี่สูดหายใจเอาอาการเข้าเต็มปอดเพื่อทดแทนอากาศที่ถูกช่วงชิงไปก่อนหน้านี้

    "เป็นไง? เริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างไหม?" อาคาชิถามด้วยรอยยิ้ม

    "ข...เข้าใจบ้าอะไรล่ะ!?" มิโดริมะที่ยังไม่หายจากอาการหอบเถียงกลับไปด้วยใบหน้าที่ร้อนพร่า

    "หื้อ? ยังไม่เข้าใจเหรอ? งั้น...คงต้องมากกว่านี้สินะ?" อาคาชิจับข้อมือมิโดริมะกดลงกับพื้นก่อนที่จะดึงเนคไทมามันมือคนผมเขียวไว้

    "อะเฮ้ย!" มิโดริมะที่ถูกมัดมือไว้อย่างรวดเร็วหลุดร้องออกมา "นี่นายบ้าไปแล้วหรือไง!? อาคาชิ!"

    "ยังสติดีอยู่น่า..." อาคาชิเอ่ยพร้อมเริ่มล้วงมือเข้าไปในเสื้อของอีกฝ่าย "...สติดีจนไม่คิดปล่อยให้นายซึนจนไม่รู้ใจตนเอง และไม่คิดปล่อยให้นายโดนคนอื่นเอาไปกินด้วย"

    "ห...ห๊า?" มิโดริมะที่รู้สึกมึนงงไปหมดหลุดร้องคำนี้ออกมา...วันนี้ทำไมมีแต่เรื่องชวนสติแตกวะ?!

    "เลิกซึนแล้วก็เข้าใจตัวเองสักทีเถอะน่า..." อาคาชิลูบบริเวณหน้าท้องอีกฝ่ายเบาๆ

    "อ...อึก!" มิโดริมะสะดุ้งเล็กน้อยกับสัมพัสที่ได้รับ ก่อนที่จะ...

    "โอ๊ะโอ๋?" ...ส่งบาทางามๆ ที่ตวัดออกไปหมายจะยันร่างของคนผมแดงให้ออกห่างตน เสียงแต่อาคาชิกลับคว้าขานั้นได้ทัน "นายนี่ดื้อจริงๆ นะชินทาโร่"

    "ใครโดนแบบนี้ไม่คิดจะถีบนายก็บ้าล่ะ!" มิโดริมะโวยลั่น พร้อมเอามือทั้งสองที่ถูกมัดติดกันดันหน้าอาคาชิที่ยื่นเข้ามาใกล้

    "นั่นสิเนอะ แต่..." ดวงหน้าหล่อเหล่าซุกที่ซอกคอของคนผมเขียว "...คำพูดฉันถือเป็นที่สุด...ดั่งนั้นอย่าคิดหนีเสียงให้ยากเลยชินทาโร่"

    "อ...อื้อ...อ...อาคาชิ..." มิโดริมะที่อยู่ๆ ถูกอาคาชิกดจูบลงบนต้นคอหลุดร้องครางออกมา "...ห...หยุด...หยุดนะเฟ้ย!"

    ...ตั้งสติไว้...ห้ามเผลอมีอารมณ์ร่วมเด็ดขาด!...

    "เรื่องสิ..." อาคาชิเอ่ยพร้อมงับหูมิโดริมะเบาๆ "...นายต้องเป็นของฉัน"

    "อ...อึก...ธ...โธ่เว้ย..." มิโดริมะกัดฟันกร๊อดเมื่ออาคาชิดูท่าจะสนุกกับร่างกายตนเหลือเกิน มือไม้ก็อยู่ไม่สุขลูบคล้ำไปทั่วและที่แย่ที่สุดคือ...มือข้างหนึ่งเริ่มล้วงเข้ากางเกงเขาแล้วนี่สิ! "...ย...หยุดนะเว้ย!"

    "นายไม่มีสิทธิ์สั่งฉันนะชินทาโร่" อาคาชิเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังพอใจในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ มือข้างที่ล้วงเข้าไปในกางเกงคนผมเขียวนั้นก็เริ่มหยอกล้อกับส่วนสำคัญของอีกฝ่าย

    "บ...บ้าเอ้ย!" มิโดริมะสบลออกมาเบาๆ

    "เก็บเสียงบ่นมาครางหวานๆ ให้ฉันฟังเถอะน่าชินทาโร่..." อาคาชิเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะประทับจูบลงบนริมฝีปากของมิโดริมะ

    "อ...อื้อ..." มิโดริมะครางออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหลับตาแล้วยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากรู้ดีว่าต่อให้ดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่อาจหลุดรอดจากปีศาจร้ายสีแดงตนนี้ไปได้...

    ...ให้ตายเถอะ...ไม่เคยชนะอาคาชิได้จริงๆ...

    ...ขนาดขัดขืนเต็มแรงยังหลุดจากอาคาชิไม่ได้เลย...

    ...สุดท้ายเขา...ก็พ่ายแพ้อาคาชิอีกครั้ง...

    ...แต่คราวนี้เขาได้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์เลย...

    ...ที่พ่ายแพ้แม้กระทั่ง...ใจของตนเอง...

    ...บ้าชะมัด...สุดท้ายแล้วนี่...

    ...ก็เผลอให้นายไปทั้งกายและใจสิน้า...

    ...นายมันขี้โกงที่สุดเลย...อาคาชิ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     

    น...ในที่สุดก็เขียนจนจบได้! (แบบมั่วๆ เมาๆ และสั้นมาก)

    เขียนคู่นี้รู้สึกว่ายากพอดูเลยแฮะ (ที่จริงยากมากต่างหาก สำหรับเราอ่ะนะ จนเกือบคิดจะเลิกพิมพ์กลางคั่นเลยล่ะ)

    ดีไม่ดียังไงก็เม้นสักนิดนะจ๊ะ ^^



    Cr. Kuroko no Basket 3rd Season 13

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×