ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #246 : [HayMiya] Otomo no ichijitsu (คิโยมิ)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 488
      36
      28 มิ.ย. 62

    Title :   Otomo no ichijitsu (คิโยมิ)

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Hayama x Miyaji (โดนตามติดโดยคิโยมิ)

    Notes : เกิดสนุกอยากลองแต่งโมเม้นของพวกหวงน้องหวงลูกกันดูเฉยๆ J

    ปล. ใครจะไปสอบ กพ. เหมือนเรายกมือขึ้น 555

    .....................................................................................

    Otomo no ichijitsu (คิโยมิ)

     

     อรุณสวัสดิ์...วันนี้ตื่นเช้าจังนะเสียงทักเบาๆ ดังออกมาจากปากหญิงสาวผมสีน้ำผึ้งที่ยืนทำอาหารเช้าอยู่ในครัวตามประสาแม่บ้านทั่วไป...ซึ่งจะดูปกติกว่านี้ไม่ภาพชายหนุ่มผมดำที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้ตรงโต๊ะอาหารเป็นฉากประกอบด้วยอ่ะนะ

     ไง คิโยจัง ยูจังทางคนที่ถูกมัดเองก็ทักผู้มาใหม่เช่นเดียวกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงร่าเริงสุดแสน

     อรุณสวัสดิ์ครับ...เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งทั้งสองที่ถูกทักตอบกลับไปตามมารยาทพลางมองคนที่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้อย่างปลงนิดๆ “...แล้วนี่พ่อป่วนอะไรแม่อีกล่ะครับเนี่ย?”

     ไม่มีอะไรมา แค่โดดเกาะน่ะ รำคาญเลยจับมัดซะเลยมิยาจิ คิโยมิตอบสั้นๆ

     ตัวเธอลืมเพิ่มเติมแหน่ะ ว่าตื้บพ่อก่อนมัดด้วยอ่ะมิยาจิ ยูโตะเอ่ยเสริม

     ก็กวนโอ๊ยเองนี่หว่าคิโยมิกรอกตาไปมา

     คิโยมิใจร้ายอ่าาาายูโตะลากเสียงยาวอย่างน่าถีบสักทีสองทีเหลือหลาย

     เดี๋ยวแม่จับมาทำมื้อเช้าแทนนิคิโยมิแยกเขี้ยวใส่สามีตนที่ต่อให้ถูกจับมัดอยู่ก็ไม่วายส่งเสียงมากวนตนได้...หรือว่าเธอจะจับรายนี่มัดปากด้วยดีหว่า?

     น่าๆ อย่าทะเลาะกันสิครับ...ว่าแต่วันนี้มีอะไรกินครับ?” มิยาจิ คิโยชิลูกชายคนโตของบ้านรีบเอ่ยขัดก่อนที่ตนจะได้กำพร้าพ่อ (?)

     วันนี้แพนเค้กคิโยมิละจากการเถียงกับสามีตนเองตอบกลับไปเช่นนี้

     ยอมเปลี่ยนจากปลาย่างกับซุปมิโซะแล้วเหรอครับ?” มิยาจิ ยูยะลูกชายคนเล็กของบ้านถามเนื่องจากตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี่แม่ตนทำแต่ซุปมิโซะ ปลาย่างและข้าวสวยให้กินเป็นมื้อเช้าตลอดเพราะแม่เขาเกิดอยากกินปลาขึ้นมาเลยทำมันทุกวันเลย...เล่นให้กินซะหน้าพวกเขาจะกลายเป็นปลาแล้วเนี่ย

     หรืออยากกินอีกล่ะ?” คิโยมิส่งสีหน้าประมาณว่า ถ้าอยากกิปลาต่อเดี๋ยวจัดให้เลยให้ยูยะ

     ไม่ล่ะครับยูยะส่ายหน้าวืดด้วยความที่ว่าไม่อยากกินปลาไปอีกวัน...แค่นี้ก็เริ่มเอียดแล้ว

     งั้นไม่ต้องพูดมาก รีบนั่งลงแล้วเตรียมกินมื้อเช้าได้แล้ว...อ๋อ แก้มัดให้พ่อเขาด้วยล่ะคิโยมิเอ่ยพร้อมเริ่มยกแพนเค้กสี่ชั้นสีเหลืองนวลน่าทานลงบนโต๊ะพร้อมก็น้ำผึ้ง แย้มและเนยให้เลือกทากันเองลงบนโต๊ะก่อนที่จะหันไปรินนมสองแก้วกับชงกาแฟอีกสองแก้วแล้วค่อยนำมาวางบนโต๊ะอีกที

     ครับ เดี๋ยวผม...เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งทั้งสองเดินเข้าไปหาผู้เป็นพ่อตนเพื่อจะแก้มัดเชือกให้ แต่...

     ไม่ต้องหรอกคิโยจัง ยูจัง...พ่อแกะออกแล้วล่ะ” ...ไม่ทันเดินไปนายมิยาจิ ยูโตะดันแก้เชือกออกได้เองแล้วชะงั้น

     อื้อ แกะออกได้เร็วเป็นสถิติใหม่เลยนะเนี่ยคิโยมิเอ่ย

     ก็เล่นโดนมัดทุกวันนี้นา ต้องมีพัฒนาบ้างสิตัวเธอยูโตะเอ่ยอย่างภูมิใจเหลือหลาย

     งั้นเดี๋ยวคราวหลังใช้โซ่มัดแทนดีกว่าคิโยมิคิดว่าตนคงต้องหายวิธีกันไม่ให้สามีตนมาก่อกวนใหม่เสียแล้วสิ

     เออ...ผมว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้แล้วมากินมื้อเช้าก่อนเย็นดีกว่าครับยูยะที่เห็นว่าพ่อแม่ตนอาจเถียงกันอีกนานรีบขัดทัพขึ้นมาเสียก่อน

     จะว่าไปก็จริง...นี่คุณ! อย่าใส่น้ำตาลในกาแฟเยอะขนาดนั้นสิ! กะเปลี่ยนให้เป็นน้ำเชื่อมหรือไงย่ะ!?” คิโยมิพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนหันไปแว๊ดใส่สามีตนที่แอบไปฉกน้ำตาลมาใส่แก้วกาแฟตัวเอง...ถึงสี่ก้อน

     ก็ตัวเธอใส่น้ำตาลให้น้อยไปอ่ะ!ยูโตะทำหน้ามุ่ยราวเด็กถูกดุ

     น้อยแปะอะไรล่ะ! นี่ใส่ให้ตั้งสามก้อนแล้วนะ! นี่ยังใส่เพิ่มอีก...คิโยมิคุมขมับ “...เดี๋ยวเบาหวานถามหาหรอก!

     ไม่เป็นหรอกน่ายูโตะยักไหล่เล็กน้อย

     แล้วจะรอให้เป็นจริงๆ ก่อนหรือไงย่ะ!?” คิโยมิเขกหัวสีดำๆ ของสามีตนไปหนึ่งที

     “...” เด็กหนุ่มทั้งสองมองพ่อแม่ตนทะเลาะกันด้วยสายตานิ่งๆ อย่างไม่รู้ว่าควรทำไงต่อดี

     เอาไงดีพี่?” ยูยะถามขึ้นมาคนแรก

     ไม่เอาไง...ปล่อยไปงั้นแหละมิยาจิไม่คิดว่าจะห้ามพ่อแม่ตนได้หรอกงานนี้

     ก็นะ...ว่าแต่ทำไม่วันนี้พี่ตื่นเช้าจัง ทั้งๆ ที่วันนี้วันหยุดแท้ๆยูยะที่ตัดสินใจเมินการทะเลาะประจำวันของพ่อแม่ตนถามขึ้น

     มีนัดกับไอ้ไรจู...แล้วนายล่ะมิยาจิถามกลับ

     มีนัดกับไอ้กอริล่าบ้ากล้ามเหมือนกัน?” ยูยะเอ่ย

     ไรจู?” คิโยมิละจากการรังแก (?) สามีตนหันมามองยังลูกชายของตนอย่างสนใจ

     กอริล่าบ้ากล้าม?” ยูโตะเองก็ดูสนใจในชื่อแปลกๆ ที่ลูกตนเอ่ยเช่นกัน

     เออ...เด็กหนุ่มทั้งสองที่ไม่คิดว่าพ่อแม่ตนจะหันมาสนใจบทสนทนาของพวกตนเมื่อครู่ เนื่องจากทุกทีทะเลาะกันทีไรไม่เคยสนใจรอบข้างสักทีเกิดอาการเหงื่อแตกนิดๆ “...คือ...ชื่อเพื่อนพวกผมน่ะครับ แฮะๆ

     ...ใครจะกล้าพูดว่าที่พูดถึงนี่คือพูดถึงแฟนล่ะ...แถมผู้ชายด้วยกันอีกต่างหาก...

     ไรจูกับกอริล่าบ้ากล้ามนี่เป็นชื่อคนเหรอ?” ยูโตะเอียงคอน้อยๆ

     เปล่าครับ แค่ฉายาที่พวกผมใช้เรียกเฉยๆยูยะเอ่ยแก้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้าใจว่านั้นเป็นชื่อจริงๆ ของคนที่ตนเอ่ยถึง

    ตั้งฉายาแบบเอาฮาเลยนะคิโยมิส่ายหน้าไปมา แล้วนี่พวกลูกนัดกับเพื่อนไว้กี่โมงล่ะ?”

    แปดโมงครึ่งครับมิยาจิเป็นคนตอบคำถาม

    หื้อ?” คิโยมิเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย งั้นแม่ว่าควรรีบๆ กินข้าวแล้วไปกันได้แล้วนะ

    ทำไมล่ะครับ?” มิยาจิถามอย่างไม่เข้าใจพลางเหล่มองนาฬิกาติดผนัง...ที่บ่งบอกว่าตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงเอง

    เพราะพ่อเขาเพิ่งนึกพิเรนท์ปรับนาฬิกาทั้งบ้านช้ากว่าเวลาจริงหนึ่งชั่วโมงไงคิโยมิอธิบายพร้อมปิดหูเตรียมรับ...

    ห๊า!? แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้~~~~!!!” ...เสียงแว๊ดลั่นจากเด็กหนุ่มทั้งสอง

    ก็ไม่ถามนิคิโยมิเอามือลงพลางยักไหล่เล็กน้อย

    อย่างน้อยก็บอกกันสักนิดสิครับ!เด็กหนุ่มทั้งสองโวยก่อนที่จะรีบคว้าแพนเค้กทั้งชิ้นมายัดเข้าปากแล้วรีบกระดกนมตามอย่างรีบเร่ง จากนั้นก็พากันวิ่งออกจากห้องไปในเวลาต่อมา ผมไปก่อนนะครับ!!!

    เออ ไปดีมาดีคิโยมิเอ่ยสั้นๆ กลับไปแม้รู้ว่าพูดไปลูกชายตนทั้งสองคงไม่คิดจะฟังหรอกในเวลานี่

    ดูรีบกันจังเนอะยูโตะหัวเราะออกมาเบาๆ

    แหงล่ะ ใกล้ถึงเวลานัดของพวกนั้นนิคิโยมิเอ่ย ว่าแต่...คุณจะตามดูใครล่ะ?”

    ยูจังแล้วกัน ดูท่าน่าห่วงกว่าคิโยจังนะยูโตะยิ้มร่า

    โอเค งั้นฉันตามคิโยชิเอง...คิโยมิหัวเราะหึๆ “...ขอตามไปดูเดทกับแฟนสักวันคงไม่ว่ากันนะ...คิโยชิ

     

     

     

     

     

    ณ ชานชาลาที่ผู้คนพลุดพล่านของผู้ที่มาเที่ยววันหยุดในช่วงนี้ เวลานี้มีเด็กหนุ่มผมสีคาราเมลคนหนึ่งยืนพิงเสาด้วยสีหน้าดูเป็นกังวล ดวงตากลมโตสีเขียวเข้มจับจ้องไปยังนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งเด่นหราอยู่กลางสถานีอย่างไม่วางตา

    ...เลยเวลานัดมาห้านาทีแล้ว แปลกชะมัด...เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าเนี่ย?...

    ฮายามะ โคทาโร่ผู้เล่นตัวจริงของทีมบาสราคุซันคิดอย่างวิตกนิดๆ เมื่อคนที่ตนกำลังรออยู่ขณะนี้จนปานนี้ยังมาไม่ถึง ทั้งๆ ที่ปกติรายนั้นมาก่อนตนเสมอแท้ๆ

    เฮ้! ฮายามะ!!!ระหว่างที่คนผมสีคาราเมลกำลังคิดมากจนถึงขั้นใกล้คลั่ง (?) นั้น...บุคคลที่เจ้าตัวรออยู่ก็โผล่มาพอดี

    อ่ะ!ฮายามะหันขวับไปยังต้นเสียงพร้อมกับ...พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏบนดวงหน้าซุกซนราวเด็กๆ มิยาจิซัง~~~~!!!”

    เหวอ!เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งผู้มาใหม่สะดุ้งโหยงเมื่ออีกฝ่ายพุ่งเข้ามาหาตนราวซอมบี้ และเจ้าตัวก็ไม่รอช้ายกเท้าถีบคนหน้ายิ้มสีคาราเมลทันควัน

    แอ๊ก! ถีบทำไมอ่ะครับ!?” ฮายามะร้องโอดครวญ แต่ก็ยังไม่วายกระดึบๆ ไปเกาะมิยาจิอยู่ดี

    ก็ใครใช้ให้พุ่งเข้ามาล่ะ!?” มิยาจิ คิโยชิเอามือดันหัวสีคาราเมลตามสเต็ปปกติ

    ก็มันดีใจอ่ะ!ฮายามะยิ้มร่าขณะพยายามมุดหาทางเข้าไปกอดอีกฝ่าย ว่าแต่...ทำไมมิยาจิซังมาช้าจังล่ะครับวันนี้?”

    พอดีพ่อฉันนึกพิเรนท์ปรับนาฬิกายกบ้านให้ช้ากว่าความจริงหนึ่งชั่วโมงน่ะมิยาจิยิ้มแห้งๆ เมื่อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี่...ที่ทำเอาบางครั้งเขาอดคิดไม่ได้ว่าพ่อเขาโดนแม่ตื้บบ่อยเกินไปหรือเปล่าถึงได้เพี้ยนขนาดนี้เนี่ย

    อ๋อ~~~” ฮายามะลากเสียงยาวๆ เป็นเชิงเข้าใจ งั้นช่างเถอะครับ...เราไปเที่ยวกันเถอะเนอะ?”

    ตามแต่นายเถอะ จะไปไหนก็ได้...แต่อย่าก่อเรื่องแล้วกันมิยาจิเอ่ย

    ไม่ก่อเรื่องหรอกครับ!ฮายามะทำแก้มป่อง...พูดยังกับเขาชอบก่อเรื่องงั้นแหละ!

    ทำให้ได้อย่างพูดเถอะมิยาจิดีดเหม่งอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้นิดๆ

    ง่ะ! มิยาจิซังอ่ะ!ฮายามะเริ่มงอแงใส่มิยาจิอย่างปกติ โดยไม่ได้สังเกตถึง...ร่างเงาที่ยืนอยู่ห่างๆ เลยแม้แต่น้อยและร่างนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก...

    เหมือนไอ้ยูโตะเลยวุ้ย...ชักกลัวคิโยชิจะไมเกรนขึ้นแล้วสิถ้าคบกับไอ้นี่เนี่ย” ...นางมิยาจิ คิโยมิที่แต่งตัวได้กระชากวัยมากในวันนี้ด้วยชุดกระโปรงแบบติดเทรน์ช่วงนี้ต่างจากเสื้อยืดกางเกงยีนต์ที่เจ้าตัวชอบใส่ประจำนั้นเอง แถมรู้สึกเหมือนเห็นภาพตัวเองกับไอ้ยูโตะเมื่อก่อนเลยแฮะ ถ้ามีวางมวยใส่กันด้วยนี่เหมือนเลย

    เฮ้~~ น้องสาว~~~” ขณะที่คิโยมิกำลังแอบดูลูกชายของตนกับแฟนอยู่นั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับมือข้างหนึ่งยืดมาหา...ซึ่งแน่นอนว่าสาวเจ้าหลบมือนั้นได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะมาแตะต้องโดนร่างตน หว่า~~~ อย่าทำท่าเหมือนรังเกียจกันสิ~~~”

    มีธุระอะไร?” คิโยมิมองคนที่มาทักตน...ที่เป็นเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนิ่งๆ

    อย่าเย็นชานักสิน้องสาววววเด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มนั้นลากเสียงยาว

    น้องสาวแมวน้ำอะไร! ฉันรุ่นแม่พวกแกแล้วเว้ย!คิโยมิแยกเขี้ยวใส่กลุ่มเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักให้เกียรติผู้ใหญ่เลย

    เฮ้ย! จริงดิ!?” กลุ่มวัยรุ่น...ลามไปถึงคนที่เดินผ่านไปมารอบข้างบางคนถึงกับอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนที่ทั้งสาวทั้งสวยขนาดนี้เป็นคนรุ่นแม่แล้ว

    เออ! เพราะงั้นไปไกลๆ เลย ไม่งั้นเดี๋ยว...คิโยมิหักมือไปมาพลางเหล่มองลูกชายตนกับคนผมสีคาราเมลเดินห่างออกไปไกลจนแทบลับตาแล้ว

    เดี๋ยวอะไรครับพี่สาว?” เด็กหนุ่มคนเดิมเปลี่ยนคำเรียกให้ดูสุภาพขึ้น แต่ก็ยังไม่คลายท่าทีเหมือนหลีสาวของตนลงเลย

    เดี๋ยว...ตื้บให้จมดินเลยไงย่ะ!!!คิโยมิไม่ว่าเปล่ายังลงมือลงเท้าด้วย และไม่ทันที่เด็กหนุ่มกลุ่มนี้จะได้ทันพูดอะไรเพิ่มเติมก็ลงไปนอนนับดาวกับพื้นกันหมดแล้ว ให้ตายสิ...ดันเจอพวกตาถั่วซะได้

    ...เออ...ตาพวกนั้นไม่ถั่วหรอกเจ๊ ว่าแต่เจ๊นี่โคตรโหดเลย...

    เหล่าคนที่เดินผ่านไปมาซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอดคิดในใจเช่นนี้มิได้ แถมยังจงใจเว้นระยะห่างจากสาวเจ้าพอดูด้วยความที่กลัวว่าเจ๊แกจะไม่พอใจแล้วมาอัดตนเข้า ซึ่งคิโยมิก็ใช่ว่าจะไม่ทันสังเกตว่าผู้ตนรอบข้างเริ่มเว้นระยะห่างจากตนแต่เจ้าตัวก็หาได้ใส่ใจแล้วทำการเดินตามลูกชายคนโตของตนต่อไป

     

     

     

     

     

    มิยาจิซัง~~~ ทางนี้ครับทางนี้~~~” เสียงเอ่ยอย่างร่าเริงดังออกจากปากเด็กหนุ่มผมสีคาราเมลที่กระโดดโลนเต้นราวเด็กได้เที่ยวสวนสนุก

    เออๆ รู้แล้ว! อย่าวิ่งสิฟะ! เดี๋ยวหน้าทิ่มอีกหรอก!คนผมสีน้ำผึ้งดุอีกฝ่ายเล็กน้อยหลังจากที่อีกฝ่ายเพิ่งก้มหน้าทิ่มมายังมาวิ่งกึ้งกระโดดเสี่ยงต่อการล้มหน้าทิ่มรอบสอง แล้วนี่ที่นายลากมาถึงนี่เพราะอยากมาสวนนกเหรอฟะ?”

    แหงสิครับ! เขาบอกว่าที่นี่นกเยอะนะ!ฮายามะเอ่ยอย่างร่าเริงพลางวิ่งพล่านไปทั่วอย่างร่าเริง

    แต่เล่นให้มาเดินในกรงนกแบบนี้รู้สึกเหมือนกลายเป็นอาหารนกเลย...ว่าตามจริงมิยาจิรู้สึกตงิกๆ ตั้งแต่เห็นว่าเจ้าหน้าที่เขาให้เข้ามาในกรงนกขนาดใหญ่หรือก็คือที่นี่แล้วล่ะ มันให้ความรู้สึกเหมือนฉากเอาคนมาบูชายันให้นกยักษ์ในหนังชอบกล และระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น...ก็มีนกตัวหนึ่งบินลงมาเกาะบ่ามิยาจิแล้วเอาจงองปากจิกพร้อมดึงผมมิยาจิ “...โอ๊ย! อะไรเนี่ย!? ฉันไม่ใช่อาหารแกนะเว้ย!

    อ่ะ! มิยาจิซัง!ฮายามะที่วิ่งนำหน้าก่อนหน้านี่เบลกเอี๊ยดแล้ววิ่งกลับมาหามิยาจิ ไปชิ้วๆ คนกินมิยาจิซังได้มีแต่ฉันนะ!

    พ่นบ้าอะไรออกมาฟะ!?” มิยาจิแยกเขี้ยวพร้อมแจกมะเหงกใส่คนพูดอะไรออกมาแบบไม่อายปากหน้าตาเฉย

    แอ๊ก! เจ็บนะฮ้าฟ!ฮายามะกุมหัวตัวเองอย่างเจ็บๆ โหดร้ายจังครับ...

    หุบปาก! เงียบไปเลยไอ้ไรจู!!!มิยาจิโวยลั่น

    ไม่ได้เป็นไรจูนะครับ!ฮายามะเถียง...ซึ่งดูจะผิดเรื่องไปนิด

    มันใช่เรื่องที่ควรเถียงเหรอฟะ!?” มิยาจิคิ้วกระตุกนิดๆ ก่อนที่จะเดินหนีคนผมสีคาราเมลเสียดื้อๆ

    อ่ะ! รอด้วยสิครับ! มิยาจิซางงงงง!!!ฮายามะเมื่อเห็นว่าโดนเมียงอน (?) ก็รีบตามง้อทันที อย่างอนผมเลยนะคร้าบบบบบ!!!

    ใครงอนแกห๊า!?” มิยาจิแว๊ดกลับ แต่ก็ไม่ได้หันกลับมามองฮายามะอยู่ดี

    มิยาจิซังไงครับฮายามะตอบกลับอย่างซื่อๆ

    ไม่ได้งอนเฟ้ย!มิยาจิเอ่ย

    ไม่เชื่อครับต่อให้บื้อยังไง ฮายามะก็รู้ว่าตนโดนงอนอยู่แน่ๆ

    ไม่เชื่อก็เรื่องของแก!มิยาจิเร่งฝีเท้าขึ้น

    โอ๊ย! อ่ะ! มิยาจิซังเดี๋ยว...แอ๊ก!ฮายามะวิ่งตาม แต่แล้ว...ดันสะดุดขาตัวเองล้มหนากระแทกพื้นซะงั้น

    อ้าวเฮ้ย!มิยาจิหันขวับไปมองคนผมสีคาราเมลที่...ล้มหน้าคว่ำแน่นิ่งไปเสียแล้ว นี่ล้มอีกแล้วเหรอฟะ!? เฮ้ๆ ตายยังเนี่ย?!”

    อย่าแช่งสิครับ!ฮายามะรีบลุกขึ้นมาก่อนที่จะโดนเข้าใจว่าตายจริงๆ

    ก็เล่นนอนนิ่งเลยนี่หว่า คิดว่าตายแล้วเสียอีกมิยาจิเดินมานั่งลงย่องๆ ตรงหน้าฮายามะพลางเอาผ้าเช็ดหน้าอีกฝ่ายที่เลือดกำเดาเริ่มไหลจากการกระแทก

    มิยาจิซังอ่ะ!ฮายามะโวยเล็กน้อยก่อนที่จะ...เริ่มงอแงใส่มิยาจิตามเดิม ทางมิยาจิก็แหย่บวกแกล้งฮายามะต่อราวกับว่าลืมเรื่องที่เถียงกันก่อนหน้านี่ไปแล้ว

    คิโยชิใจอ่อนไปแฮะ วันหลังต้องหัดสอนให้ใจแข็งกับคนอื่นมากกว่านี้แล้วสิห่างออกไปสักเล็กน้อย หญิงสาวผมสีน้ำผึ้งที่แอบดูเด็กหนุ่มทั้งสองอยู่ส่ายหน้าไปมองอย่างปลงๆ ก่อนที่ส่ายตาดันไปสะดุดเข้าไปสิ่งหนึ่งเข้า โอ๊ะ...นั้นมันอริเก่าของคิโยชินี่หว่า? ซวยแล้วไง

    ...มายกฝูง (?) เลยแฮะ แบบนี้คิโยชิไม่น่าจะจัดการได้เองแหง ไอ้บ๊องหัวสีคาราเมลนั้นก็...

    เอาเป็นว่ารอดูก่อนแล้วกัน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยจัดการเก็บเรียงตัวเอาดีกว่าคิโยมิหัวเราะเบาๆ ขณะที่มองดูเด็กหนุ่มทั้งสองที่ตนตามดูมานานแล้วนั้นรีบพากันเดินออกห่างจากกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว โอ้ สังเกตได้เร็วดีแฮะ...แต่จะหลบไอ้พวกนั้นได้ตลอดหรือเปล่าวะเนี่ย? เอาเถอะ ดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน

     

     

     

     

     

    มิยาจิซังๆเสียงเรียกปานเด็กอนุบาลดังขึ้นจากปากคนผมสีคาราเมล

    มีอะไร?” มิยาจิถาม

    เมื่อกี้เราหนีอะไรกันเหรอครับ?” ฮายามะถามกลับอย่างสงสัย...เพราะเมื่อครู่นี้อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ลากตนหนีมานี่เฉยเลย

    ไม่มีอะไรแค่...มิยาจิเอ่ยเพียงเท่านี้...

    อริเก่าอีกแล้วสินะครับ?” ...ฮายามะก็สามารถเดาประโยคต่อไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เนื่องจากเจอเหตุการณ์ประมาณนี้ค่อนข้างบ่อยเลยล่ะ

    ตามนั้นแหละมิยาจิยักไหล่เล็กน้อย

    มิยาจิซังนี่อริเก่าเยอะจังนะครับ...แล้วคราวนี้เป็นอริเรื่องอะไรครับเนี่ย?” ฮายามะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไปมีศัตรูได้หลายทางไม่ว่าจะเผลอไปช่วยคนอื่นจนโดนเหม็นขี้หน้า อัดพวกที่มารังแกคนในชมรมหรืออะไรพวกนี้ตลอดและคราวนี้คงไม่ต่างจากทุกครั้งนักหรอก

    พวกที่เคยมาจีบฉันกับยูยะน่ะมิยาจิตอบกลับหน้าตาเฉย

    ห๊า!? พูดจริงเหรอครับ!?” ทางฮายามะเมื่อได้รับคำตอบดังนี้ก็ถึงกับอ้างปากค้างเพราะไม่คิดว่าคนรักตนจะได้คู่อริมาหนึ่งกลุ่มเพราะเรื่องแบบนี้ได้...

    ...ไปลองดักตีหัวพวกนั้นเล่นดีไหมวะ? กันพวกนั้นโผล่มาจีบมิยาจิซังอีก...

    จริงสิ และนายอย่าไปคิดดักตีหัวพวกนั้นเชียวเพราะมันเก่งใช่ย่อยเลยมิยาจิเอ่ยเตือนอย่างรู้ทันในความคิดของคนผมสีคาราเมล

    ง่ะ! รู้ได้ไงครับว่าผมคิดอะไรอ่ะ?” ฮายามะทำหน้าหงอยลงทันควัน

    หน้านายมันฟ้องเอาตามจริงคือมิยาจิจับเค้าจากไอมาคุที่นานๆ ทีจะมีขึ้นรอบตัวฮายามะต่างหาก...แต่เขาไม่คิดบอกรายนี้หรอก เอ้าๆ เลิกเล่นแล้วไปกันต่อได้แล้ว...นายอยากจะไปไหนล่ะคราวนี้?”

    ไม่รู้ครับ ยังไม่ได้นึก...ไปให้อาหารนกไหมครับ?” ฮายามะเสนอความเห็นขึ้นมา

    “...ให้อาหารนกในนี้หวังว่าไม่โดนจิกตายนะมิยาจิไม่คิดว่าถ้าถืออาหารเดินว่อนในนี้จะไม่โดนพวกนกทั้งหลายรุมจนกลายเป็นมนุษย์นก (?) หรอกนะ

    ไม่โดนหรอกครับ ที่นี่ส่วนให้อาหารนกกับส่วนเยี่ยมชมแย่งโซนกันครับฮายามะส่ายหน้าวืด

    เออ ดีแฮะมิยาจิถอนหายใจออกมาเบาๆ ...อย่างน้อยคงไม่โดนนกรุมทึ้งอย่างที่เขากลัวล่ะ งั้นไปกันเถอะ

    รับทราบครับผม!ฮายามะขานรับอย่างร่าเริงพลางลากมิยาจิไปยังโซนให้อาหารนกอย่างรวดเร็ว และเมื่อมาถึงมิยาจิก็ถึงกับคิ้วกระตุกเป็นจังหวะชะชะช่าเลยเพราะว่า...

    ไหงมันมารุมดึงผมฉันอีกแล้วเนี่ย!?” ...ดันโดนนกรุมและพยายามกินเส้นผมมิยาจิซะงั้น

    ไม่รู้เหมือนกันครับฮายามะมองนกแต่ล่ะหน่อที่หิวโหยกำลังพยายามกินผมคนรักตนอย่างงงๆ พลางพยายามเอานกออกจากหัวอีกฝ่าย

    มันคงเห็นว่าเป็นของกินน่ะครับ...ลองใส่หมวกไหมครับ? เผื่อนกมันจะเลิกเห็นคุณเป็นอาหารเจ้าหน้าที่ในสวนนกคนหนึ่งซึ่งกลัวเด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งโดนรุมจิกตายหรืออย่างไรไม่ทราบยื่นหมวกแก๊ปใบหนึ่งให้

    “...ขอบคุณครับมิยาจิรีบคว้าหมวกมากใส่กันนกทันที ก่อนที่จะโดนดึงผมจนหัวล้านก่อนวัยอันควร

    “...ดูท่ามันจะเห็นสีผมมิยาจิซังเป็นของกินจริงๆ นะครับฮายามะมองเหล่านกที่พอมิยาจิใส่หมวกแล้วก็บินออกห่างไปราวกับไม่สนใจอะไรในตัวคนผมสีน้ำผึ้งแล้ว

    ไม่ดูท่าล่ะ ใช่แหงมิยาจิทำหน้าปลงสุดแสน โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่แอบตามมาห่างๆ อยู่นั้น...

    อุ๊บ! โดนนกเข้าใจเป็นของกินเนี่ยนะ!?” ...กำลังพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ สงสัยกินสับปะรดมากไปจนกลิ่นออกแหงๆ หึๆ อุ๊บ! โอ๊ย! ขำเว้ย!

    ...นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังแอบตามอยู่จะหัวเราะให้ลั่นเลยค่อยดู!...

    สาวเจ้าผมสีน้ำผึ้งคิดในใจอย่างอดไม่ได้พลางอดนึกเสียดายไม่ได้ที่เมื่อกี้ตนมัวขำจนลืมถ่ายภาพเด็ดเก็บไว้ และในขณะนั้น...

    ฮัดเช้ย!” ...นายมิยาจิ คิโยชิก็จามออกมาราวกับรับรู้ว่าถูกพูดถึง

    เป็นหวัดเหรอครับมิยาจิซัง?” ฮายามะเอียงคอน้อยๆ

    ไม่ล่ะ น่าจะโดนนินทามากกว่ามิยาจิไม่คิดว่าอยู่ๆ จะเป็นหวัดขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้หรอก

    อย่างมิยาจิซังมีใครกล้านินทาด้วยเหรอครับ?” ฮายามะคิดว่าคนส่วนใหญ่เกรงใจรายนี้จนไม่กล้านินทาเสียอีก

    ฉันก็คนนะเว้ย ต้องมีคนนินทาถึงบ้างแหละและพูดแบบนี้ยังกับนายไม่เคยนินทาฉันในใจเนอะมิยาจิกรอกตาไปมา

    ไม่เคยนินทาครับ มีอย่างมากแค่คิดอยาก ××× มิยาจิซังระหว่างเรียนแค่นั้นแหละครับ...แอ๊ก!ฮายามะตอบไปตามตรงตามประสาก่อนที่จะโดนถีบในเวลาต่อมาจากคนผมสีน้ำผึ้งที่ดวงหน้าเริ่มขึ้นสีแดงเสียแล้ว

    ไอ้บ้า! พูดอะไรอายปากบ้างเถอะ!!!มิยาจิแยกเขี้ยวใส่

    อายทำไมอ่ะครับ? ก็พูดจริงนี่...โอ๊ย! เจ็บนะครับ! ถ้าสมองผมหลุดออกมารับผิดชอบยัดคืนให้ด้วยนะครับ!ฮายามะร้องโอดครวญเมื่อโดนตีหัวเข้าอีกดอก

    อย่างนายไม่มีสมองให้หลุดแล้วเฟ้ย!มิยาจิเอ่ย

    มิยาจิซังอ่ะ!ฮายามะทำแก้มป่องพลางโดดเกาะหลังมิยาจิ

    เฮ้ย! จะเกาะทำไมเนี่ย!? ปล่อยเลยนะเฟ้ย! ฮายามะ!มิยาจิพยายามแงะคนที่เกาะหลังตนออกตามเสต็ป

    ไม่เอาอ่ะครับฮายามะงอแงใส่คนผมสีน้ำผึ้งแบบไม่อายชาวบ้านสักนิด

    “...ทำไมเหมือนเห็นภาพของตัวเองทับขึ้นมาเลยหว่า?” คิโยมิส่ายหน้าไปมาอย่างปลงๆ พลางเดินตามเด็กหนุ่มทั้งสองที่ออกอาการพ่อง้อแม่งอนกันเสียแล้วต่อ

     

     

     

     

    ในเวลาช่วงสายของวันเด็กหนุ่มทั้งสองที่ไม่รู้ตัวว่ามีคนแอบตามพวกตนมาตลอดตั้งแต่เช้าพากันเดินออกจากสวนนกแล้วไปต่อที่...

    วันนี้แกเป็นอะไรกับสัตว์วะ? เมื่อกี้สัตว์ปีกคราวนี้สัตว์เลื่อยคลาน” ...สวนสัตว์เลื่อยนั้นเอง

    ไม่รู้อ่ะครับ อยากมาดูเฉยๆ อ่ะฮายามะเอ่ยอย่างร่าเริงพลางวิ่งพล่านไปทั่ว

    อย่าวิ่งสิฟะ! เดี๋ยวไปชนกรงตัวอะไรหล่นหรอก!มิยาจิที่นับวันยิ่งเหมือนผู้ปกครองของฮายามะโวยลั่นแล้วเดินไปล็อกคอคนผมสีคาราเมลเอาไว้กันไปก่อเรื่อง เดินตามทางดีๆ เลยเฟ้ย อย่าคิดไปปีนอะไรเล่นเชียวล่ะ

    มิยาจิซังขี้บ่นอ่ะฮายามะทำปากจู๋

    จะไม่ให้บ่นได้ไงฟะ? เล่นซนไปทั่วเนี่ยมิยาจิกรอกตาไปมา...ว่าตามจริงเมื่อกี้ฮายามะเกือบไปแงะกรงงูเล่นแล้วด้วยซ้ำ

    นิดๆ หน่อยๆ เองครับฮายามะเอ่ยแก้ตัว

    ฉันว่าแบบนี้ไม่นิดนะมิยาจิว่าพร้อมรีบจับตัวฮายามะที่กำลังจะมุดวงแขนตนหนีอีกล่ะรอบ แล้วนี่นายเป็นอะไรพยายามหนีจังเนี่ย?”

    ...ปกติล็อกคอยังไงมันก็แค่งอแงนี่หว่า?...

    ก็ที่มิยาจิซังทำตอนนี้มันเด่นนี้ครับ เดี๋ยวพวกนั้นเห็นหรอกฮายามะชี้ไปยังจุดๆ หนึ่ง

    พวกนั้น?” มิยาจิมองตามไปยังจุดที่คนรักตนชี้ไปและรู้สึกอยากเป็นลมขึ้นมาตงิดๆ เมื่อ...ไอ้พวกนั้นที่ว่าคืออริเก่าของตนที่เจอที่สวนนกนั้นเอง! บังเอิญไปไหมฟะ?”

    ผมก็ว่างั้นแหละครับฮายามะยอมรับว่าบังเอิญจริงๆ ที่มาเจออริเก่าของคนรักตนในที่นี่อีกเนี่ย แถมกลุ่มเดิมอีก มิยาจิซังปล่อยผมได้แล้วครับ ไม่งั้นโดนเห็นจริงๆ แหง

    เออๆมิยาจิขานรับห้วนๆ พลางปล่อยตัวลูกหมา (?) แสนซนของตน

    เรารีบไปจากตรงนี้กันเถอะครับฮายามะรีบพามิยาจิเดินลึกเข้าไปด้านใน เนื่องจากถ้าพวกนั้นยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าออกเลยทำได้เพียงเดินเข้าไปต่อด้านในเท่านั้นและพอเดินเข้าไปลึกๆ จนถึงตรงจุดหนึ่งนายมิยาจิ คิโยชิก็เริ่มคิดว่าไม่น่ายอมให้คนรักตนลากมานี่เลยเมื่อ...

    งูหลุด! ช่วยด้วยจ้า!!!” ...งูเหลือมตัวน้องๆ ท่อประปาที่เป็นงูที่เขาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปได้ด้วยนั้นดันหลุดออกมานี่สิ! เท่านั้นไม่พอพวกงู กิ้งก่า ซาลาแมนเด้อที่อยู่ในส่วนไว้ให้อาหารสัตว์ยังหลุดออกมาอีก!

    ซวยแล้วไง!มิยาจิอยากเป็นลมสักตลบ...เขายังไม่อยากกลายเป็นอาหารงูนะเฟ้ย!

    ไม่ต้องห่วงครับมิยาจิซัง...ดูท่ามันไม่อยากเข้าใกล้เราเท่าไหร่นะครับฮายามะมองงูน้อยใหญ่บวกสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ที่หลุดออกมาอย่างฉงนเล็กน้อยเมื่อไม่มีตัวใดเข้าพวกตนเลย ทั้งๆ ที่ทางอีกเริ่มโดนแต่ละตัวไล่กันแล้ว

    เออแฮะ ทำไมหว่า?” มิยาจิทำหน้างงไม่ต่างกัน โดยหารู้ไม่ว่าที่เหล่าสัตว์ทั้งหลายไม่เข้ามาหานั้น...

    ถ้าไอ้พวกนี่กล้าทำอะไรลูกฉันจับย่างเรียงตัวแน่...” ...เนื่องจากไออำมหิตที่ถูกส่งมาจากหญิงสาวผมสีน้ำผึ้งอย่างชัดเจนนั้นเอง “...แล้วนี่จะซวยไปไหนเนี่ย? ก่อนหน้านกจิกหัวตอนนี้งูหลุด...ถ้าไอ้หัวสีคาราเมลนั้นคิดจะไปอควาเรี่ยมคงไม่ใช่กระจกในนั้นแตกอีกนะ

    ฮัดเช้ย!ราวกับรู้ถึงคำนินทา เด็กหนุ่มทั้งสองจามออกมาอย่างพร้อมเพรียง

    ใครนินทาวะ?” มิยาจิบ่นเล็กน้อย

    นั้นสิครับ...แถมนินทาแพ็คคู่เลยด้วยฮายามะที่อยู่ๆ ก็จามออกมาทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี่ไม่มีแม้อาการคัดจมูกเอ่ย

    คงไม่ใช่ว่านายไปก่อเรื่องแล้วอาคาชิโวยลามมาถึงฉันหรอกนะ?” มิยาจิลองเอ่ยขึ้นมาเล่นๆ

    เปล่าครับ ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรไว้สักหน่อยและอีกอย่าง...ถ้าผมก่อเรื่องอาคาชิคงมาจัดการลากผมไปสั่งสอนแบบเป็นตัวเป็นตนมากกว่านินทาถึงนะครับฮายามะมั่นใจว่ากัปตันทีมหัวแดงของตนไม่ทางทำแค่นินทาแน่...มาพร้อมกรรไกรบิน (?) ชัวท์

    จะว่าไปก็จริงมิยาจิเองก็ไม่คิดว่าคนที่เอ่ยถึงนี่จะแค่นินทาหรอก น่าจะมาเป็นตัวเป็นตนเลยมากกว่า

    ใช่ไหมล่ะครับฮายามะหัวเราะออกมาเบาๆ พลางกวาดสายตามองไปรอบๆ มิยาจิซัง...ผมว่าเรารีบไปเถอะครับ พวกนั้นมาอีกแล้ว

    อีกแล้วเหรอ?” มิยาจิถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความที่รู้ว่าพวกนั้นที่พูดถึงนั้นหมายถึงใครกลุ่มไหน งั้นเรารีบใช้จังหวะที่ทุกคนกำลังวุ่นกับงูนี่หนีเถอะ เร็วเข้า

    อ่ะ!ฮายามะหลุดร้องออกมาเล็กน้อยขณะที่โดนมิยาจิลากตัวไป ขณะเดียวกันดวงตาสีเขียวกลมโตก็เหลือบไปเห็นบางอย่างเข้า...ซึ่งก็คือหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าละม้ายคล้ายมิยาจิอย่างมาก แถมมากจนน่าแปลกใจอีกด้วยกำลังส่งยิ้มเหี้ยมๆ ให้ตนอยู่จนทำให้เจ้าตัวอดคิดไม่ได้ว่า...

    ...ใครหว่า หน้าคล้ายมิยาจิซังจัง...

     

     

     

     

     

    ให้ตายสิ...พวกนี้ซวยกันชะมัดเลยทำบ่นอุบอิบดังออกขากปากหญิงสาวผมสีน้ำผึ้งที่ทำการตามลูกชายตนกับคนรักของรายนั้นมาตลอดทั้งวันแล้วพบว่าคนที่ตนแอบตามนั้นพบเจอแต่ความซวยชนิดที่ไม่รู้จะหาใดเปรียบ ไม่ว่าโดนนกจิก งูหลุด รถแหกโค้ง ป้ายร่วงใส่ เกือบโดนคู่อริที่ดันโผล่ไปเที่ยวที่เดียวกันแทบทุกที่ในวันนี้เจอด้วย จะว่าไปช่วงนี้คิโยชิก็ซวยแปลกๆ อยู่แล้วนี่หว่า...สงสัยต้องบอกให้ไปทำบุญบ้างแล้วสินะเนี่ย

    ...หวังว่าจะไม่เจอความซวยอะไรกันอีกนะ...

    หยุดนะเว้ย! ส่งของมีค่ามาให้หมด! ไม่งั้นแทงไส้ไหลแน่!ไม่ทันถึงสามวิหลังคิโยมิภาวนาในใจเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาในบริเวณใกล้ๆ ทำให้หญิงสาวแทบคุมขมับเมื่อพบว่าตอนนี้เด็กหนุ่มสองคนที่ตนตามมาตลอดว่ากำลังโดนเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันถือมีดจ่ออยู่และจากประโยคที่ได้ยินก่อนหน้าก็ทำให้เดาได้ไม่ยากว่ากำลังโดนปล้นแหง

    ซวยอีกจนได้...คิโยมิส่ายหน้าไปมา “...แล้วนี่...มันไอ้พวกขี้หลีเมื่อเช้านี่หว่า? มันเป็นโจรเหรอฟะ? รู้งี้ตื้บหนักกว่านั้นก็ดีสิ

    ...เอาไงต่อดีฟะ?...

    ดวงตาสีน้ำผึ้งของหญิงสาวจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างชั่งใจว่าจะไปช่วยหรือดูสถานการณ์ไปก่อนและในตอนนั้นเอง...

    ปั๊ด! ตุบตั๊บๆ!

    ...นายมิยาจิ คิโยชิกับฮายามะ โคทาโร่ก็จัดการกลุ่มคนที่ริอาจทำตัวเป็นโจรอย่างชำนาญจนทำให้สาวเจ้าที่แอบมองอยู่อดคิดไม่ได้ว่า...เจอเรื่องแบบนี้บ่อยจนจัดการได้เองโดยไม่ตื่นตะนกอะไรเลยแม้แต่น้อย

    จัดการได้แฮะ แล้ว...คิโยมิหรี่ตาลงเล็กน้อยพรอมกับที่มีเสียงคำรามของปืนดังขึ้น “...ถ้ามันมีปืน...จะทำไงนะ?”

    สาวเจ้าติดตามสถานการณ์ของเด็กหนุ่มทั้งสองที่กำลังเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มที่ถือปืนคนหนึ่งนิ่งๆ หากแต่มือไม้ก็เตรียมที่จะขว้างปาสิ่งของใส่คนที่ถือปืนนั้นถ้าหากว่าจะยิงลูกชายของตนขึ้นมาจริงๆ ขณะนั้นเอง...สิ่งที่หญิงสาวไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น...

    ...กับการที่เด็กหนุ่มผมสีคาราเมลเอาร่างตนขวางกั้นระหว่างคนที่ถือปืนกับมิยาจิเอาไว้อย่างอาจหาญ

     เอ๋? กล้าเอาตัวบังให้คิโยชิทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นปืนของจริงเหรอเนี่ย?” คิโยมิยกยิ้มอย่างพอใจพร้อม...ดีดตัวออกจากที่ซ่อนไปหาคนที่บังอาจเล็งปืนใส่ลูกชายตนอย่างรวดเร็ว... แบบนี้...ค่อยน่ารับมาเป็นลูกเขยหน่อย

    ...และก่อนที่ใครจะได้ตั้งสติหรืออะไรทัน สาวเจ้าก็โดดถีบขาคู่ใส่คนที่ถือวัตถุอันตรายไว้เสียสติบินไปอย่างรวดเร็ว

    เหวอ!ทางเด็กหนุ่มทั้งสองที่ถูกช่วยไว้ถึงกับสะดุ้งโหยงกับการปรากฏตัวของหญิงสาวที่อยู่ๆ โผล่มาได้ไงไม่รู้

    เป็นอะไร? ร้องเสียงหลงเชียวคิโยมิที่เดาได้อยู่แล้วว่าจะได้รับปฏิกิริยาแบบนี้กลับมาแกล้งถามกลับเสียงเรียบ

    เออ...เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งเหงื่อตกนิดๆ คล้ายพูดไม่ออก

    ตกใจพี่สาวอ่ะครับ! เล่นโผล่มายักกับผีเลย!ทางเด็กหนุ่มผมสีคาราเมลเอ่ยไปตามตรงแบบไม่คิดอะไรตามประสา

    เจ้าบ้า! พูดแบบนั้นได้ไง!?” คนผมสีน้ำผึ้งหรือมิยาจิ คิโยชิ...ลูกชายแท้ๆ ของสาวเจ้านั้นแหละเขกหัวสีคาราเมลแบบไม่อ้อมแรงสักนิด...

    ...นี่ถ้าเกิดแม่ฟิวส์ขาดขึ้นมา ถึงเป็นฉันก็ช่วยไม่ได้นะเว้ย!...

    คิโยชิ...ไม่ต้องกลัวว่าจะตื้บไอ้นี่จมดินหรอก ดูยังไม่ป่วนเท่าไอ้ยูโตะเลยคิโยมิที่เดาสีหน้าอีกฝ่ายออกยักไหล่เล็กน้อยพลางเอ่ยเป็นเชิงว่าจะไม่ฆาตกรรมคนผมสีคาราเมลเร็วๆ นี่แน่ ไม่ต้องกลัวเป็นม่ายหรอกน่า

    พูดอะไรออกมานะครับ!? ผมไม่ได้...มิยาจิเอ่ยแย้งแต่ทว่า...กลับเจอรอยยิ้มเหมือนคนกำลังสนุกที่ได้แกล้งคนจากหญิงสาวทำให้เจ้าตัวอดสะดุ้งนิดๆ ไม่ได้

    เหรอ~~~” คิโยมิลากเสียงยาว แน่ใจ?”

    เออ...มิยาจิทำได้เพียงส่งยิ้มแห้งๆ ออกไปขัดทัพ ด้วยความที่ว่าเกิดอาการเถียงไม่ออกในชั่วขณะ

    อ่ะ! จะว่าไปนี่คุณ...ฮายามะจ้องมองที่หญิงสาวตาแป๋วด้วยความรู้สึกเหมือนเคยเจอรายนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว สมองน้อยๆ พยายามประมวลผลว่าเคยเจอรายนี่ที่ไหนมา “...คนที่เจอที่สวนสัตว์เลื้อยคลานนี่!?”

    อ่ะ? เห็นด้วยเหรอ?” คิโยมิเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความที่ว่าไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเห็นตนด้วย...เห็นเปิ้นๆ คิดว่าจะไม่ทันสังเกตเลยแฮะ รู้งี้ซ่อนตัวแบบ จริงๆไปดีกว่า

    เดี๋ยวๆ! นี่แม่ไปที่นั้นมาด้วยเหรอ!?” มิยาจิร้องลั่น...นี่อย่าบอกนะว่าแอบตามมาตั้งแต่ตอนนั้น่ะ!?

    ห๊า!? นี่แม่มิยาจิซังเหรอ!?” ฮายามะหลุดร้องออกมา ไหงสาวจังอ่ะครับ!?”

    ...คิดว่ารุ่นเดียวกันเสียอีก!...

    แม่ฉันสาวแล้วผิดหรือไงห๊า!?” มิยาจิโวยใส่คนรักตนเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปโวยผู้เป็นแม่ของตนต่อ แล้วนี่แม่ไหงแต่งตัววัยรุ่นจ้าแบบนี้ล่ะครับ!? อย่าบอกนะว่าตั้งใจตามผมมาน่ะ!?”

    ...ปกตินอกจากไปเที่ยวที่ไกลๆ แบบทีมีอันตรายเกิดได้ทุกเมื่อไม่ยักเห็นแม่เขาแต่งตัวอ่อยเหยื่อ (?) แบบนี่เลยนะ! แล้วนี่คิดยังไงแต่งแบบนี้ออกมาเนี่ย!? ตีลังกามองยังไงก็ตั้งใจตามมาเองชัดๆ!...

    ถ้าใช่แล้วจะทำไม?” คิโยมิตอบกลับไปตามตรงแบบไม่คิดปิดบังแม้แต่น้อย ก็แม่อยากรู้นี่นาว่าแฟนลูกนิสัยเป็นไง...และนี่เข้าใจเลือกพอดูนี่ ถึงดูป่วนไปหน่อยก็เถอะ

    ขอโทษทีแล้วครับที่เลือกมันมาเนี่ย...มิยาจิกรอกตาไปมาพลางนึกสงสัยในเรื่องหนึ่งขึ้นมา “...ว่าแต่...แม่ไม่ว่าผมเหรอ?”

    เรื่องอะไร?” คิโยมิถามกลับ

    ก็ที่ผมคบผู้ชายด้วยกันไงครับมิยาจิไม่เคยคิดเลยว่าแม่ตนจะทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้ในระดับนี้...ถึงขนาดแอบตามดูทั้งวันได้เนี่ย

    “...” คิโยมิแสยะยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะ...เอามือสับหัวสีน้ำผึ้งของคนอายุน้อยกว่าทันที จะว่าหากิ้งก่าทะเลทรายอะไรห๊า?! แค่คบผู้ชายนี่คิดว่าแม่ยอมรับไม่ได้หรือไงห๊า!?”

    ...เออ...เอาตามปกติก็ควรเป็นงั้นนะครับ...

    มิยาจิแอบเถียงในใจแบบไม่กล้าต่อปากคำกับสาวเจ้าด้วยความกลัวว่าจะโดนตื้บเอา ทว่า...

    คิดแบบนั้นจริงเหรอเนี่ย!?” ...คิโยมิกลับเดาสีหน้าเด็กหนุ่มออกแล้วสับหัวไปอีกล่ะรอบ ขนาดมีไอ้ตัวป่วนระดับร่วมมือกันสร้างหายนะได้ทุกวี่ทุกวันอยู่รอบๆ ตัวเนี่ยคิดว่ามีอะไรที่แม่ทำใจยอมรับไม่ได้อีกเหรอ!?”

    ...เออ จริง...และแต่ละคนที่ว่านี่สร้างหายนะชนิดที่ว่ามนุษย์ปกติไม่น่าทำได้อีกต่างหาก แถมยังชวนให้ปลงโลกสุดแสนอีก...

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งยอมรับว่าการที่แม่ตนอยู่กับพวกไม่ปกติ (?) บ่อยๆ ทำให้ยอมรับสิ่งต่างๆ ได้มากกว่าปกติจริงๆ และ...คงไม่มีใครทำให้แม่เขาจิตตกได้เท่าไอ้พวกที่ว่านั้นแล้วล่ะ

    รอมีคนยกรถทั้งคันได้ด้วยมือเปล่าแบบไอ้เคียวมันอีกสักคนสิ...รับรองว่าจิตตกเพิ่มแน่คิโยมิที่เดาสีหน้าลูกชายตนออกอีกตามเคยเอ่ย

    ถ้ามีอีกคนนี่หายนะของโลกของแท้แล้วครับ!มิยาจิมั่นใจว่าถ้ามีคนอย่างนายเคียวที่แม่ตนพูดถึงอีกคนนี่ได้โลกแตกแน่ แรงรายนั้นน้อยๆ เสียเมื่อไหร่ นี่ยังไม่นับพวก ไม่ปกติคนอื่นนะเนี่ย ถึงจะไม่แรงช้างสารแบบคนที่เอ่ยถึงนี่แต่ก็มีความสามารถพอทำโลกแตกได้เหมือนกัน แค่ลูกศิษย์แม่แต่ล่ะคนบวกกับพ่อยังป่วนไม่พอเหรอครับ?”

    ก็นะคิโยมิยักไหล่น้อยๆ

    เออ...ขอโทษนะฮ้าฟ นี่พูดเรื่องอะไรกันอยู่อ่ะ?” ฮายามะที่เงียบมานานจนเกือบถูกลืมเอ่ยถามขึ้นมา

    อย่ารู้เลยสองแม่ลูกมิยาจิเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน

    ไหงงั้นล่ะครับ!ฮายามะโวยเล็กน้อย...ย้ำ ว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากมีผู้อาวุโสที่หน้าไม่ให้ยืนอยู่คนหนึ่งเลยทำให้คนผมสีคาราเมลไม่งอแงมากนัก

    ตามนั้น...อย่ารู้เลย มันดีต่อสุขภาพจิตนายที่สุดมิยาจิเอ่ย

    ใช่...ตอนนี้อย่าเพิ่งรู้เลย...คิโยมิยักไหล่น้อยๆ “...เดี๋ยวเจอตัวเป็นๆ ก็รู้ถึงกึ๋นเองแหละ

    พูดอย่างกับจะเจอกันง่ายๆ นะครับมิยาจิไม่คิดว่าคนรักตนจะไปบังเอิญเจอลูกศิษย์แม่ตนได้ง่ายๆ หรอก ถ้าเป็นพ่อก็ว่าไปอย่าง

    อาจจะง่ายกว่าที่คิดนะ...คิโยมิหัวเราะเบาๆ “...แฟนลูกมาจากทีมบาสราคุซันใช่ไหมล่ะ?”

    ใช่ครับมิยาจิพยักหน้ารับอย่างไม่แปลกใจสักนิดที่แม่ตนรู้ว่าฮายามะมาจากโรงเรียนไหน เนื่องจากแม่ชอบดูรายการกีฬาบาสอยู่และในช่วงวินเทอร์คัพที่ผ่านมานี่พ่อแม่เขาก็ดูถ่ายทอดสดด้วย ย่อมรู้อยู่แล้วว่าฮายามะเป็นนักกีฬาของโรงเรียนอะไร

    แล้วกัปตันทีมบาสราคุซันคืออาคาชิ เซย์จูโร่?” คิโยมิถามต่อ

    ครับ...แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ล่ะครับมิยาจิไม่เข้าใจจริงๆ ว่าไอ้คำถามพวกนี่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่พูดกันอยู่แน่

    พอดีว่ากัปตันทีมของแฟนลูกเนี่ยไปเป็นแฟนน้องไอ้เคียวมันน่ะ และมันยังเคยโดนรายนั้นเอากรรไกรจ้วงอีก...คงพอเดาออกแล้วนะที่ว่าอาจได้เจอตัวเป็นๆ เร็วๆ นี้หมายความว่าไงคิโยมิหัวเราะเบาๆ ในขณะที่เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งถึงกับคุมขมับเมื่อได้ยินดังนี้

    “...เออ...คนที่ชื่อเคียวอะไรนั้นน่ากลัวพอๆ กับอาคาชิเหรอครับมิยาจิซัง? ทำหน้าเหมือนไมเกรนขึ้นเลยอ่ะฮายามะมองคนรักตนพลางเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย

    จะว่าน่ากลัวหรือปวดจิตดีล่ะ...เอาเป็นว่าเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วยมากที่สุดในโลกก็แล้วกันมิยาจิที่ไม่รู้จะบรรยายความเพี้ยน (?) ของรายนั้นเหมือนกันและไม่รู้จะอธิบายยังไงให้อีกฝ่ายเชื่อด้วยเมื่อรู้ว่านายเคียวเป็นพี่ใคร...ซึ่งแน่นอนว่าต่างจากคนน้องลิบลับจนเขาไม่เคยคิดเอะใจว่าสองคนนั้นเป็นพี่น้องกันเลยด้วยซ้ำ

    ถ้ามิยาจิซังพูดขนาดนั้นผมว่าผมไม่บ้าไปมีเรื่องด้วยหรอกครับฮายามะมั่นใจว่าคนอย่างมิยาจิ คิโยชิไม่มีทางอำตนเรื่องแบบนี้แน่นอน ดังนั้น...อย่าไม่มีเรื่องกับคนที่ว่านั้นเลยดีที่สุด

    นั้นถือเป็นความคิดที่ดี เพราะไอ้นั้นน่ะเกินขอบเขตมนุษย์ธรรมดาไปไกลแล้วคิโยมิหัวเราะเบาๆ เอ้าๆ ฉันว่านี่ถึงเวลาที่เด็กควรกลับบ้านกันแล้วนะ รีบกลับบ้านไปดีนะกว่านะเจ้าไรจู

    ผมไม่เด็กแล้วนะครับ! และผมชื่อโคทาโร่ต่างหากไม่ใช่ไรจู!ฮายามะเถียงเล็กน้อย

    จ้าๆ เอาๆ กลับบ้านไปได้แล้ว บ้านอยู่เกียวโตไม่ใช่หรือไง?” คิโยมิกรอกตาไปมา...ทำไมพูดกับไอ้เด็กนี่นานๆ แล้วนึกไอ้ยูโตะมันทุกทีวะ? ดีนะไม่ป่วนเท่าเนี่ย

    ใช่ครับ แต่ยังไม่อยากกลับอ่ะครับฮายามะทำหน้าหงอยเล็กน้อยเมื่อโดนแม่คนรักตนไล่รอบสอง

    ยังอยากเกาะคิโยชิอยู่หรือไง?” คิโยมิที่พอเดาความคิดของคนผมสีคาราเมลออกเอ่ยถามขึ้น

    ใช่ฮ้าฟ!ฮายามะพยักหน้ารับก่อนที่จะโดนเด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งถีบในเวลาต่อมา

    ตรงไปแล้วเฟ้ยไอ้บ้า!มิยาจิแยกเขี้ยวใส่

    ก็มันจริงนี่ครับ!ฮายามะโอดครวญแบบน่าโดดถีบใส่อีกสักรอบ

    เอ้าๆ หยุดทะเลาะกันได้แล้วทั้งสองคนคิโยมิที่ขี้เกียจชมคู่รักทะเลาะกันรีบห้ามมวย...ที่จะมีแต่คนผมคาราเมลโดนตื้บฝ่ายเดียวเสียก่อน และรีบกลับบ้านได้แล้วคิโยชิ แม่จะรีบกลับไปทำข้าวเย็น ส่วนไอ้นี่มันจะตามกลับบ้านปานวิญญาณตามติดหรือเปล่าช่างมันเถอะ

    “...เอางั้นก็ได้ครับมิยาจิที่ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยเถียงแม่ตนชนะสักดอกพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

    ดีมาก...แล้วมื้อเย็นอยากกินอะไรล่ะคิโยมิถาม

    อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ปลาครับมิยาจิกล้าพูดเต็มปากเลยว่าตลอดที่กินแต่ปลาเป็นมื้อเช้ามาหลายสัปดาห์เขาก็เอียนปลาจะตายแล้ว! อย่าเอาปลามาหลอกหลอนเขาถึงมื้อเย็นเลยเถอะ!

    กลัวหน้าตัวเองกลายเป็นปลาหรือไง...แล้วนายล่ะไอ้หน้าทะเล้น?” คิโยมิหันไปหาคนผมสีคาราเมลที่...บัดนี้เกาะหลังลูกชายตนเสียแล้ว

    ถามผมเหรอครับ?” ฮายามะเอียงคอน้อยๆ

    มีกันสามคนคงถามแมวมั้ง!คิโยมิตอบกลับแบบแกมกัดนิดๆ

    ง่ะ!ฮายามะหงอยลงทันควันเมื่อถูกตอกกลับเช่นนี้ งั้นของผม...แค่ไม่มีบล๊อกโครี่เป็นโอครับ

    โอเค ตามนี้นะคิโยมิเอ่ยพร้อมกับลากเด็กหนุ่มทั้งสองกลับบ้านแบบไม่คิดเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้ทันพูดอะไรต่อทั้งสิ้น...เป็นดังการปิดม่านความวุ่นวายของคู่นี้ลงเนื่องจากคงไม่มีใครบ้ามาหาเรื่องเด็กหนุ่มทั้งสองทีตอนนี้อยู่ภายใต้การปกครอง (นับฉันไปด้วยเหรอ!? // ฮายามะ) ของคิโยมิแน่นอน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End & TBC.


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×