ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #35 : [MuraMuro] Koisuru Neko Ha Kujikenai

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.08K
      46
      25 ก.ค. 57

    Title : Koisuru Neko Ha Kujikenai Ver.muramuro

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Murasakibara x Himuro

    Notes : มาจากเพลงนี้นhttp://www.youtube.com/watch?v=HpKdA_qkP_A เหมียว เหมียว หง่าว

    ................................................................

    Koisuru Neko Ha Kujikenai Ver.muramuro

     

    talk shiko

    ในวันที่อากาศที่อากาศอบอ้าวเด็กหนุ่มหน้าหวานผู้มีเรือนผมสีดำสนิกนาม 'ฮิมุโระ ทัตสึยะ' เดินอยู่ที่สวนสาธารณะในสภาพที่ราวกับจะละลายได้ทุกเมื่อ

    "ทำไมวันนี้มันร้อนจังนะ" ฮิมุโระบ่นกับตัวเองเบาๆ ที่จริงเขาก็ไม่ค่อยอยากออกมาในวันหยุดที่อากาศร้อนปานไมโครเวฟอย่างนี้หรอกถ้าไม่ติดที่ว่า...

    เหมียว~~

    นี่ไงสาเหตุที่เขาต้องมาที่นี่...เจ้าแมวตัวใหญ่สีม่วงแปลกตาจนตอนแรกเขาคิดว่าใครทำสีหกใส่เสียอีก แต่พอลองจับดูแล้วเขาถึงรู้ว่านี้เป็นสีขนของเจ้าแมวตัวนี้

    เขาเจอเจ้านี่เมื่อสัปดาห์ก่อนระหว่างที่เดินกลับหอพัก เขาเจอเจ้านี่หัวติดอยู่ในกล่องขนม แถมยังนอนแน่นิ่งจนเขาไม่แน่ใจว่ามันตายหรือยัง แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ก็เห็นว่ายังหายใจอยู่จึงเข้าไปดึงกล่องขนมออกจากหัวมันก่อนที่มันจะตายจริงๆ

    เจ้าแมวสีม่วงสะบัดหัว ก่อนที่ดวงตาสีม่วงของมันก็มองเขาด้วยสายตาเฉื่อยๆ หน้าง่วงๆ ทำให้เขารู้ว่ามันไม่ได้ติดแต่แค่หลับต่างหาก...ดูจากขนมที่ติดปากมันแล้วคาดว่าคงเข้าไปกินขนมในกล่องแล้วหลับไปล่ะมั้ง

    ไม่นานนักเจ้าแมวนี่ก็มาถูไถ่เขาราวกับขออาหารจากเขา...ก็เลยอดใจอ่อนไม่ได้เขาเลยให้ขนมที่ได้จากรุ่นพี่ในชมรมไป

    ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่ามันมาขออาหาร ไม่สิ ต้องบอกว่าขอขนมมากกว่า เพราะเขาเคยลองเอาปลาย่างมาให้มันกิน กินกลับไม่กินแต่กินขนมแทน จนเขาต้องปลาย่างแทนแมวซะงั้น

    เหมียว~~

    เจ้าแมวตัวใหญ่ (เพราะตัวไม่น้อย) ร้องเรียกราวกับจะบอกว่าอย่าเมินมันสิ จะว่าไปเขาก็นึกแปลกใจเหมือนกันนะว่าทำไมเจ้านี่ตามแต่เขาคนเดียว เขาเคยพารุ่นพี่ชมรมมาด้วยกัน ปรากฏว่ามันเล่นไล่ข่วนแถมไม่ยอมให้เข้าใกล้ด้วย...แต่ช่างมันเถอะยังไงก็แค่แมว

    "โทษทีๆ อ่ะนี้ ขนม" ฮิมุโระวางขนมไว้หน้าเจ้าแมวสีม่วง ซึ่งมันก็กินทันที

    "ไม่ต้องรีบก็ได้อัตสึชิ ไม่มีใครแย่งหรอกน่า" 'อัตสึชิ' คือชื่อที่เขาตั้งให้ และดูเหมือนมันจะชอบชื่อนี้ด้วยเช่นกัน ไม่งั้นทุกครั้งที่เรียกมันคงไม่โผล่มาหรอก

    เขามาหาอัตสึชิแบบนี้ทุกวัน พอให้ขนมเสร็จเขาก็จะเล่นกับมันนิดหน่อยๆ ก่อนที่จะกลับ ที่จริงเขาก็อยากเอามันกลับไปด้วย เสียแต่ที่หอพักเขาห้ามเลี้ยงสัตว์ไม่งั้นเขาคงพากลับไปแล้ว...

    "แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ อัตสึชิ" ...และแล้วฮิมุโระ ทัตสึยะก็เดินจากไป

     

     

     

     

     

    talk murasakibara

    ฉันเจอคนคนนั้นครั้งแรกที่สวนสาธารณะ จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่เขาหิวมากจนเขาไปเจอกล่องขนมตกอยู่ แบบขนมยังเต็มอยู่ด้วยไม่รู้มีใครมาเปิดทิ้งไว้ ก็เลยกินไปทั้งกล่องเลย พอกินเสร็จหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน แล้วเขาก็หลับคากล่องขนมนั้นแหละ จนเมื่อเขาตื่นเพราะมีแสงแยงตาเขา...

    ภาพที่ปรากฏในสายตาอันง่วงงุงของเขาเป็นอย่างแรกคือใบหน้าหวานราวกับตุ๊กตา มองเขาด้วยแววตาเหมือนกับว่าขำปนอ่อนใจยังไงชอบกล แต่มันกลับตรึงใจเขาอย่างน่าประหลาด

    หลังจากวันนั้นเขาก็มักจะเดินไปหาอีกฝ่ายทุกที ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...แต่เขาชอบตามคนคนนั้นมาก ทั้งที่ปกติเขาไม่ชอบให้ใครเข้ามาใกล้แท้ๆ

    มีอยู่ครั้งหนึ่งที่คนคนนั้นพาคนอื่นมาด้วยสัก 2-3 คน ซึ่งเห็นแล้วรู้สึกงุดหงิดซะมัก เขาก็เลยแจกแผลให้คนละสามสี่แผลเป็นค่าที่ทำให้เขางุดหงิด คนพวกนั้นมาก็มีข้อดีอยู่อย่างเดียวสำหรับเขาคือเขาได้รู้ว่าคนคนนั้นชื่อ 'ฮิมุโระ' ...

    ...ฮิมุโระ อืมมม มุโระ เอาเป็นว่าเรียก 'มุโระจิน' ก็แล้วกัน!

    เขาชอบขนมที่มุโระจินมาให้ เขาชอบเวลาที่ถูกเรียกด้วยชื่อที่มุโระจินตั้งให้ เขาชอบเวลาที่มือเย็นๆ ของมุโรจิยสัมผัสตัวเขา...สรุปเขาชอบ ไม่สิ 'รัก' มุโระจินก็แล้วกัน!

    แต่เขารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุที่ว่าเขาเป็นผู้ชายทั้งคู่ และ...

    ...มุโระจินเป็นมนุษย์ แต่เขาดันเป็นแมวน่ะสิ!!!

    ถึงเขาไม่อยากให้มุโระจินไปคลุกคลีอยู่กับคนอื่น แต่จะให้โวยวายหรือบอกอะไรก็ไม่ได้ ในเมื่อมุโระจินฟังภาษาแมวไม่ออก เขาได้เพียงมองดูเท่านั้น

    แม้จะรู้ว่าแมวกับคนไม่สามารถรักกันได้ก็ตาม แต่เขาก็ยังเลือกที่จะรัก...

     

     

     

     

     

    ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้าของอีกวัน มุโระจินยังมาหาเขาตามปกติและยังคงเล่นกับเขาสักพักก่อนจากไปเหมือนเดิม...

    เมื่อมุโระจินเดินจากไปยังที่ที่เรียกว่า 'โรงเรียน' เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะมานั่งลอยชายอยู่สวนสาธารณะนี่จนกว่าอีกฝ่ายจะเลิกเรียนตอนค่ำนู่น~ ที่จริงถ้าไม่ติดว่าโรงเรียนของมุโระจินเขาเข้าไปทางประตูก็โดนภารโรงไล่ ถ้าจะปีนเข้าก็ยากล่ะก็เขาคงตามไปแล้ว...

    เขาเดินเล่นไปเรื่อยๆ ในเมืองซึ่งสำหรับเขาถ้ามุโระจินไม่อยู่ด้วยมันน่าเบื่อมาก~~ แต่เขายังไม่อยากนอนรอมุโระจิน แถมไม่มีอะไรทำเลยได้แต่เดินไปเรื่อยๆ จนเขามาถึงศาลเจ้าแห่งหนึ่ง...

    ...ศาลเจ้าคือที่คนส่วนใหญ่มักมาขอพรสินะ ถ้าเขาลองขอบ้างจะได้ไหมนะ? ว่าแล้วก็ลองเลยดีกว่า ถึงไม่คิดว่าจะได้ผลก็เถอะ

    "เหมียวววๆ"

    'ขอให้กลายเป็นมนุษย์...' นั้นคือคำขอของเขา นั้นเป็นสิ่งเดียวที่อย่างน้อยก็ทำให้อยู่กับมุโระจินได้นานขึ้น และทันทีที่เขาขอเสร็จ เขาก็เห็นเงารางๆ อยู่ตรงหน้าเขา...

    "อยากเป็นมนุษย์เหรอ?" เงานั้นถามเขา อืม เขาควรที่จะตอบสินะ...

    "ก็ใช่น่ะสิ" อ้าว? อ่านใจได้ด้วยหรอ?

    "อ่านได้สิยะ ไม่งั้นคิดว่าจะฟังภาษาแมวออกเหรอ?!" เอ่อ จริงแฮะ ว่าแต่เจ๊เป็นใครเนี่ย? เสียงคุ้นๆ แฮะ

    "เราเป็นเทพเจ้าไง อีกอย่างจะไม่คุ้นเสียงได้ไงในเมื่อนายก็น่าจะรู้ว่าเราเป็นใคร" อ๋อ~~ นึกออกแล้ว~~ ชิโกะจินนี่เอง~~ ว่าแต่ชิโกะจินเป็นคนเขียนไม่ใช่เหรอ? มาเป็นเทพเจ้าได้ไงเนี่ย...

    "เรานึกไม่ออกว่าจะเอาใครมารับบทเป็นเทพเจ้าน่ะ เลยแสดงเองซะเลย" อย่างนี่นี้เอง ชิโกะจินเลยมาเองเลย

    "เอ๊า! กลับเข้าเรื่องได้แล้ว! ไม่งั้นออกนอกทะเลแน่" คร้าบบบ

    "เมื่อกี้ถึงไหนนะ...อ๋อ! นึกออกแล้ว 'อยากเป็นมนุษย์สินะ' "

    "เหมียว! ม้าววว!" ใช่! เขาอยากเป็นมนุษย์!

    "งั้นได้! ตามคำขอเลย!" ว่าแล้วทำไมรอบตัวเขาถึงมีควันออกมาล่ะ!?!

    ปุ้ง!

    "แค่กๆ" นี่จงใจแกล้งใช่ไหมเนี่ย!

    "แกล้งที่ไหนล่ะ! ดูตัวเองก่อนสิแล้วค่อยโวย!" หือ? ดูตัวเองเหรอ?

    เขาก้มลงมองตัวแล้วถึงกับตกตะลึง! บัดนี้ร่างกายเขากลายเป็นชายหนุ่มไปแล้ว ผมยาวประบ่าสีม่วงเช่นเดียวกับสีขนของเขา สูงราวๆ 2 เมตรเห็นจะได้ ที่สำคัญเขารู้สึกว่าชุดนี้เป็นชัดเดียวกับที่มุโระจินใส่เมื่อเช้านี่นา!?

    "ก็ใช่น่ะสิ นายจะได้ไปหาฮิมุโระได้ง่ายๆไง..."

    "ฉันไปหามุโระจินได้สินะ?"

    "ไอ้ได้น่ะได้อยู่แล้ว อ๋อ! แล้วอย่าไปบอกหมอนั้นล่ะว่าเป็นแมว เดี๋ยวโดนมองว่าบ้าเอา..." เรื่องแบบนี้ไม่ต้องบอกเขาก็รู้น่า! เขาไม่โง่นะ!

    "อ๋อ แล้วอีกอย่าง นายห้ามให้ใครแตะต้อง หรือไปแตะต้องใครเป็นเวลาห้าวันนะ ไม่งั้นมนต์จะคลาย และร่างนายจะสลายหายไปนะ" เขาต้องระวังสินะ แต่ตั้งห้าวันเลยเหรอ...

    "เออดิ แค่นี้นะไปล่ะ!" ว่าแล้วเงาตรงหน้าเขาก็หายไป

    "เฮ้ย! เดี๋ยวดิ! ชิโกะจิน!" เล่นปล่อยเขาไว้แบบนี้เลยเหรอ? แล้วในร่างมนุษย์นี้เขาจะไปอยู่ไหนเนี่ย!

    ตุ้บ!

    มีบางอย่างร่วงลงมาตรงหน้าเขาพร้อมกระดาษแผ่นหนึ่งลอยมาแปะหน้าเขา เขาหยิบกระดาษบนหน้าออก พร้อมมองวัตถุที่ตกลงมาตรงหน้าเขาอย่างงงๆ

    สิ่งที่ตกลงมาตรงหน้าเขาคือกระเป๋าเป้ใบหนึ่ง ที่ถูกยัดของไปซะกลมจนเกือบเป็นลูกบอล เขามองกระเป๋าตรงหน้า ก่อนที่จะก้มมองกระดาษในมือตนที่มีข้อความเขียนไว้ว่า...

    'ในกระเป๋ามีเสื้อผ้ากับเงินใส่ไว้นะ หาที่พักเอาเองล่ะ...ปล.ถ้าเกิดนายบื้อทำให้มนต์คลายล่ะก็เดี๋ยวไปเก็บของให้แล้วกัน'

    ยังดีที่ชิโกะจินไม่ลืมเรื่องนี้ล่ะนะ...

     

     

     

     

     

    เมื่อชิโกะจินปแล้วเขาก็ไม่รู้จะทำอะไร เขาเลยคิดว่าจะมาดูมุโระจินหน่อย จนตอนนี้เขาเดินเข้ามาในโรงเรียนที่มุโระจินอยู่โดยสะพายกระเป๋าที่หนักอึ้งอย่างกับใส่กินทั้งภูเขาไว้บนบ่า แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาในตอนนี้ ปัญหาจริงๆ คือ...

    ...เขาไม่รู้ว่ามุโระจินอยู่ไหนน่ะสิ! ถึงเขาจะเดินแทบรอบโรงเรียนแล้วก็เถอะ...

    "เฮ้! นายน่ะ!" เสียงอันคุ้นเคยเรียกความสนใจเขาให้หันไปมอง "สนใจเข้าชมรมบาสไหม?"

    มุโระจินเดินมาหาเขาโดยในมือถือลูกบอลสีส้มๆ ไว้ในมือ อืม~ เขาควรตอบมุโระจินยังไงดีล่ะ? ถึงเขาเคยเห็นมุโระจินเล่นไอ้สิ่งที่เรียกว่าบาสตอนที่แอบตามไปดูก็เถอะ แต่เขาขี้เกียจเล่นนี่นา แถมเขายังไม่สามารถถูกตัวคนอื่นได้จนกว่าจะครบห้าวันด้วย...งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน...

    "โทษที พอดีช่วงนี้เจ็บขา หมอบอกว่ากว่าจะหายคงอีกประมาณห้าวัน คงเล่นไม่ได้หรอก..." นี่เป็นข้ออ้างที่ดีที่สุดที่เขานึกออกล่ะนะ

    "อืมมม งั้นถ้าขาหายแล้วก็มาเล่นได้ใช่ป่าว?" ดูท่ามุโระจินจะไม่ยอมแพ้ ยังอยากลากเขาไปเล่นบาสด้วย คงเพราะตัวเขาสูงเหมาะที่จะเล่นบาสมั้ง จะว่าไปมุโระจินดูท่าจะดื้อกว่าที่เขาคิดแฮะ

    "อืมมมม" ยังไงเขาก็ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธนี่ ดีซะอีกได้อยู่ใกล้มุโระจิน ถึงตอนนี้เขาจะแตะต้องอีกฝ่ายไม่ได้ก็เถอะ...

    "งั้นดีเลย! แล้วนายชื่ออะไรล่ะ? ฉันฮิมุโระ ทัตสึยะ ยินดีที่ได้รู้จัก!" มุโระจินดูท่าจะดีใจที่เขาตอบตกลงแฮะ อ่า เขาชอบมองใบหน้ายิ้มแย้มของมุโระจินเหลือเกิน

    "อัตสึชิ..." เขาได้เพียงตอบสั้นๆ ...ก็เขายังไม่ทันได้คิดนามสกุลนี้นา

    "อัตสึชิ? เหมือนแมวจังนะ" เมื่อจู่ๆ มุโระจินพูดขึ้นมาเขาก็ถึงกับสะดุ้ง หรือว่ามุโระจินรู้ว่าเขาเป็นแมว?! คงไม่มั้ง...

    "แมวเหรอ..." ขอล่ะ! อย่าให้รู้จริงๆ นะ!

    "อ๊ะ! ฉันไม่ได้ว่านายนะ เพียงแค่นายคล้ายแมวที่ฉันเจอทุกวันน่ะ" ฟู่! โชคดีที่มุโระจินไม่รู้

    ...จะว่าไปเขาจะกังวลทำไมเนี่ย? คนปกติไม่มีใครเขาคิดว่าแมวจะกลายเป็นคนได้หรอก นี่เขาเริ่มเพื้ยนแฮะ...

    "นี่มุโระจิน ชอบเล่นบาสเหรอ?" ไหนๆ ก็อยู่ด้วยกันแล้ว ถ้าคุยกันหน่อย เขาคงสนิกกับมุโระจินมากขึ้นสินะ?

    "อื้ม! ชอบสิ! สนุกมากเลยนะ! ถ้าลองเล่นดูถึงจะรู้!" มุโระจินตอบ ดูเหมือนมุโระจินจะไม่ใส่ใจเรื่องที่เขาเปลี่ยนชื่อให้แฮะ

    พอคุยกันเรื่อยๆ จนมาถึงโรงยิม มุโระจินก็บอกเขาว่าตนต้องไปซ้อมก่อนและแยกจากเขาเข้าโรงยิมไป...ถึงงุดหงิดเล็กแต่ก็คงช่วยไม่ได้ แต่ครบห้าวันเมื่อไหร่ล่ะก็เขาจะเกาะมุโระจินไม่ปล่อยเลยคอยดู!

     

     

     

     

     

    talk himuro

    ค่ำนี้ดูแปลกๆ แฮะ 'อัตสึชิ' ไม่มาหาเขาเหมือนปกติ หายไปไหนกันนะ? หรือว่ามีคนเก็บไปเลี้ยงแล้ว?

    "มุโระจิน~~ ทำอะไรอยู่อ่ะ?" เสียงที่ฟังดูเหมือนคนง่วงนอนที่เขาจำได้ดีดังขึ้นจากด้านหลังเขา

    เมื่อหันไปมองก็เป็นอย่างที่เขาคิด คือคนที่เขาชวนเล่นบาสวันนี้เอง...ไม่รู้ทำไมพอเจอหน้าปุ๊บแล้วรู้สึกถูกใจยังไงไม่รู้...

    ที่จริงเขาก็แปลกใจนะ ที่เรียนโรงเรียนเดียวกันแท้ๆ แต่กลับไม่เคยเห็นหน้าเลย แถมอีกฝ่ายยังสูงตั้ง 2 เมตรกว่าอีก ต่อให้ตาถั่วแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะไม่สังเกตเห็นได้ ซึ่งเขาคิดว่าคงจะเพิ่งย้ายมามั้ง? เขาคิดออกแค่นั้นแหละ...

    แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกมันคุ้นจังเลย? เหมือนเคยรู้จักมาก่อน...เขาคงคิดไปเองมากกว่า ไม่มีทางที่เคยเจอคนที่เด่นแบบนี้แล้วจะจำไม่ได้เด็ดขาด

    "ฉันหา 'อัตสึชิ' น่ะ"

    "หือ? หาฉันเหรอ?"

    "เปล่า ไม่ใช่ ฉันหมายถึงแมวน่ะ มันชื่ออัตสึชิ" เขาก็ลืมไปว่าคนตรงหน้านี้ชื่อ 'อัตสึชิ' เหมือนกัน...จะว่าไปหมอนี้ก็เหมือนกับอัตสึชิที่เป็นแมวเหมือนกันแฮะ ทั้งสายตาทั้งใบหน้าที่ดูง่วงๆ ทั้งผมที่เป็นสีเดียวกับขนของแมวตัวนั้น ถ้าเอามาอยู่ด้วยกันล่ะก็คงเข้ากันอย่างกับแฝดต่างสายพันธ์แน่ๆ เลย

    "แมวเหรอ...รู้สึกว่าวันนี้เขามาจับแมวจรจัดไปหาบ้านให้อยู่นี้นา"

    "งั้นเหรอ..." ถึงรู้สึกใจหายที่เจ้าแมวที่เขามาหาทุกวันไม่อยู่นี้เสียแล้ว แต่ช่วยไม่ได้ยังไงก็ขอให้มันได้ไปอยู่บ้านที่ดีแล้วกัน

    ในเมื่อ 'อัตสึชิ' ไม่อยู่ที่นี่แล้วเขาก็เดินกลับหอพักพร้อมกับ 'อัตสึชิ' เพราะเขาคงไม่มีธุระกับที่นี่อีกแล้ว...

     

     

     

     

     

    talk murasakibara

    ตั้งแต่วันนั้นมาจนวันนี้เป็นเวลาห้าวันแล้ว ที่เขามักไปหามุโระจิน คุยกับมุโระจิน และดูมุโระจินเล่นบาส จนตอนนี้เขากับกับมุโระจินสนิกกันมาก...มากกว่าตอนที่เขาเป็นแมวหลายเท่าเลยล่ะ

    วันนี้เป็นสุดท้ายที่เขาต้องพยายามไม่ให้ใครมาแตะตัวเขา รวมทั้งเขาที่ต้องไม่ไปแตะต้องใครด้วย

    "ไง อัตสึชิ" มุโระจินเดินมาทักเขา แต่แปลกแฮะวันนี้ทำไมมุโระจินเลิกเร็วจัง?

    "มุโระจินทำไมวันนี้มาเร็วจัง..."

    "วันนี้รุ่นพี่บอกว่าไม่มีซ้อมน่ะ" ดีจังแฮะ วันนี้ได้กลับเร็ว ว่าแต่ทำไมตาขวาเชากระตุกแปลกๆ นะ?

    "วันนี้ลองไปร้านขนมเปิดใหม่ดูไหม?" มุโระจินรู้ใจเขาจริงๆ ว่าเขาชอบขนมแค่ไหน...ถึงชอบมุโระจินมากกว่าก็เถอะ

    พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ ตามท้องถนน โชคดีวันนี้ไม่ค่อยมีคน เขาจึงไม่ต้องคอยหลบให้เมื่อย แต่ทำไมเขารู้สึกว่าโชคร้ายกำลังตามมาหว่า?

    "เป็นอะไรเหรออัตสึชิ? ดูเหม่อๆ ชอบกล..." มุโระจินถามเขา สงสัยเขาจะเงียบนานไปหน่อยแฮะ

    "เปล่า...ไม่มีอะไร" เขาตอบปัดๆ ไป...เอ๊ะ? ทำไมรู้สึกได้ยินเสียงแปลกๆ หว่า

    "เจ้าหนู! ระวัง!!!" เขากับมุโระจินมองไปทางต้นเสียง ผู้คนต่างชี้ขึ้นไปด้านบนตรงที่พวกเขายืนอยู่ เขากับมุโระจินก็เงยหน้าขึ้นมองด้านบน...

    ...เขาก็เห็นป้ายร้านกำลังตกลงมาที่พวกเขา!

    โครม!!!

    เขาคว้าตัวมุโระจินกระโดดหลบได้ทันเวลาพอดี และเมื่อพ้นจากการแบนเป็นแพนเค้กได้เขาก็เพิ่งนึกออกว่าเขาถูกตัวมุโระจินไปแล้ว หมายความว่ามนต์คลายแล้วสินะ...

    ...แต่ช่างมันเถอะ ถึงมนต์ไม่คลายแต่มุโระจินตายล่ะก็มันก็ไม่มีความหมาย

    "อัตสึชิ! ไม่เป็นไรนะ?!" มุโระจินถามเขาด้วยความเป็นห่วงก่อนแววตาจะเปลี่ยนเป็นตกตะลึก "อัตสึชิ! บนหัวนาย!?!"

    อ่า เขารู้อยู่แล้วล่ะว่ามุโระจินตกใจอะไร...ก็หูแมวของเขาโผล่ออกมาแล้วนี้นะ แถมหางก็โผล่มาด้วย เอาเถอะ ยังไงซะเขาก็จะหายไปอยู่แล้วนิ

    "บ๊ายบาย มุโระจิน" และแล้วเขาก็วิ่งหนีจากมุโระจิน...เขาไม่อยากให้มุโระจินต้องลำบากใจ สู้หายไปเฉยๆ เสียยังดีกว่า...

     

     

     

     

     

    talk shiko

    ฮิมุโระ ทัตสึยะวิ่งตามเด็กหนุ่มผมม่วงที่วิ่งหนีเขา ถึงจะไม่รู้ว่าจะวิ่งหนีเขาทำไมก็เถอะ รู้แค่ว่าเห็นอีกฝ่ายหนีเขาแล้วรู้สึกไม่ดีเลย...

    ...เหมือนกับว่าถ้าไม่ตามไปตอนนี้ จะไม่ได้พบกันอีกเลย

    ฮิมุโระวิ่งตามมาจนถึงศาลเจ้าแห่งหนึ่ง เจ้าตัวเดินเข้าไปในนั้น หวังว่าเค้าจะพบคนที่เขาตามมา และเป็นอย่างคาด...เขาเห็นเด็กหนุ่มผมม่วงคนเดิมยืนหันหลังให้ ถึงแม้จะมีหูมีหางแมวเพิ่มขึ้นมา แต่ไม่ว่ายังไงคนคนนี้ก็เป็นคนเดิมที่ฮิมุโระรู้จักอยู่ดี

    "อัตสึชิ..." ฮิมุโระเรียกอีกฝ่าย เด็กหนุ่มก็หันกลับมาตามเสียงเรียก

    "มุโระจิน..." อัตสึชิพุ่งเข้ากอดฮิมุโระ...ทั้งๆ ที่เจ้าตัวตั้งใจจะหายไปเงียบๆ แท้ๆ แต่เมื่อได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มหน้าหวานเขากลับ...ไม่อยากจากไป

    แต่ยังไงเขาก็ต้องหายไปอยู่ดี งั้นเขาขอบอกสิ่งสุดท้าย...สิ่งที่อยากบอกมาตลอดมันตอนนี้เลย! "รักนะ รักมากๆ เลยนะมุโระจิน..."

    "อัตสึชิ! ตัวของนาย!" ถึงจะตกใจที่ถูกบอกรัก แต่เขาตกใจที่ร่างของอีกฝ่ายกำลังจะหายไปมากกว่า! ร่างกายของเด็กหนุ่มร่างสูงนั้นเริ่มที่โปร่งแสงราวกับจะหายไปได้ทุกเมื่อ!

    "มุโระจิน ลาก่อนนะ" อัตสึชิผละออกจากตัวฮิมุโระ พร้อมส่งยิ้มให้...นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากทำ

    "ไม่นะ...อย่าหายไปนะ! อัตสึชิ!" น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตา เด็กหนุ่มผมดำพยายามไขว่คว้าอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถสัมพัสอีกฝ่ายได้แล้ว

    "มุโระจิน..." ดวงตาสีม่วงมองเด็กหนุ่มตรงหน้า...ตัวเขานั้นยังไม่อยากจากไป...ไม่อยากเลยจริงๆ...ยังอยากอยู่กับมุโระจิน แต่ไม่มีเวลาแล้ว

    "...มุโระจิน ถ้าฉันได้เกิดใหม่ล่ะก็ฉันจะกลับมาหามุโระจินนะ! ขอร้องล่ะ! อย่าลืมฉันนะ! มุโระจิน!" นี่เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ร่างของเด็กหนุ่มผมม่วงจะสลายหายไป

    ฮิมุโระทำได้เพียงร้องไห้...ร้องอย่างที่ไม่เคยร้องมาก่อน ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายจากไปแล้วแท้ๆ แต่เขาจะยังคงรอ...รอวันที่คนคนนั้นจะกลับมา ไม่ว่านานแค่ไหนก็ตาม...

    ขอร้องล่ะ พระเจ้าโปรดทำให้พวกเขาเจอกันอีกด้วยเถอะ...

    ฮิมุโระทำได้เพียงถาวนาระหว่างที่ร่ำไห้ จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นร่างเงาที่ปรากฏตรงหน้าหรือได้ยินอันแผ่วเบาของเงาตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

    'เดี๋ยวเราจะทำคำขอของนายให้เป็นจริงเองนะ...'

     

     

     

     

     

    talk himuro

    ตั้งแต่วันนั้นที่อัตสึชิจากเขาไปได้ล่วงเลยมาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว และเขาก็ยังคงรอ...รอให้อัตสึชิกลับมาหาเขา

    ตอนนี้เขาทำงานเป็นเชฟขนมหวานอยู่ที่ร้านเล็กแห่งหนึ่งซึ่งเขาเป็นเจ้าของเองแหละ ที่เขาเลือกทำอาชีพนี้เพราะมันทำให้เขานึกถึงอัตสึชิ รายนั้นแทบจะกินขนมแทนข้าวอยู่แล้ว

    วันนี้ร้านของเขาปิดให้บริการเพราะเขาจะไปเยี่ยมพวกรุ่นพี่ที่อยู่ชมรมเดียวกันสมัยม.ปลายสักหน่อย เขาไม่ได้โผล่ไปให้เห็นตั้งหลายปีแล้วจะโดนแช่งไหมเนี่ย?

    รุ่นพี่เขาสองคนกับรุ่นเดียวกับเขาอีกหนึ่งนั้นทำงานเป็นครูอนุบาล รุ่นพี่ฟุคุอิกับหลิวยังโออยู่ แต่รุ่นพี่โอคามุระนี่สิ ไม่รู้ทำไงไม่ให้เด็กกลัวได้ก็ไม่รู้

    "ไง ฮิมุโระสบายดีไหม?" เมื่อมาถึงก็เจอหลิวเลยแฮะ

    "สบายดี พวกรุ่นพี่ล่ะ?" จะว่าไปเห็นแต่หลิวกับเด็กไม่กี่คนเอง

    "พาเด็กเข้านอนอยู่ ยังไงก็มาพอดีแล้ว นายช่วยฉันพาเด็กเข้านอนหน่อยสิ"

    "อืมได้สิ" ยังไงเขาก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

    เขาช่วยพาเด็กเข้าห้องทีละคนๆ ส่วนหลิวก็ดูแลเด็กในห้องนั้นแหละ จนสุดท้ายเหลือเพียงเด็กคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่เข้าไป เขาจึงเดินเข้าไปหา ชันเข่านั่งลงข้างๆ เด็กคนนั้น แต่เมื่อเห็นใบหน้าก็เด็กคนนั้นเขาก็ถึงกับชะงัก...

    ...เส้นผมสีม่วงยาวประบ่า ดวงตาสีม่วง ความสูงที่สูงเกินเด็กวัยเดียวกันและใบหน้าง่วงงุนนั้น ทั้งหมดนั้นเหมือนอัตสึชิทุกอย่าง

    เด็กคนนั้นหันมามองและส่งยิ้มให้เขาก่อนที่จะพูดคำคำหนึ่งออกมา...คำพูดที่จะทำให้สิ่งที่เขารอมาตลอดกำลังจะเป็นจริงแล้ว

    "อืมมม สวัสดี ฉันมุราซกิบาระ อัตสึชิยินดีที่ได้รู้จัก" เด็กน้อยได้เอื้อมมือมาจับแก้มเขา "ฉันกลับมาแล้วนะ มุโระจิน..."

    น้ำตาแห่งความปิติเริ่มไหลออกมาจากดวงตาเขา เขายิ้มตอบทั้งน้ำตา "ยินดีต้อนรับนะ อัตสึชิ"

     

     

     

     

     

    End

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×