ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] | "My heart is only for you." |

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 |..ยินดีที่ได้รู้จัก..|

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.65K
      156
      6 ม.ค. 62

     

     

    บทที่ 2

    “ยินดีที่ได้รู้จัก”

     

     

                    ดวงตะวันที่เคยลาลับขอบฟ้าไปกำลังโผล่พ้นออกมาทอแสงบนพื้นโลกอีกครั้ง ช่วงเวลาเช้าตรู่เช่นนี้เป็นอีกเวลาหนึ่งที่เหมาะสมกับการนอนหลับซุกตัวใต้ผ้าห่มอย่างมาก หากแต่ว่าทุกคนก็มีหน้าที่และกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำทุกๆวันจึงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

                    เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเองอย่างสะลึมสะลือเล็กน้อย เมื่อต้องฝืนตื่นขึ้นมาในเวลาที่อยากจะนอนต่อ ปลายเท้าแตะลงบนพื้นไม้พาร่างของผู้เป็นเจ้าของเดินตรงไปที่ห้องครัวซึ่งอยู่ด้านล่าง เสียงของบางอย่างถูกทอดในน้ำมันที่กำลังเดือดปุดๆบนกระทะส่งกลิ่นหอมโชยออกมาจากห้องครัว ฟีนิกซ์ชะโงกหน้าเข้าไปมองชายหนุ่มที่กำลังทำกับข้าวอย่างอารมณ์ดีจากปกตินิดหน่อย

                    “อรุณสวัสดิ์ครับ”

                    เสียงเล็กๆเอ่ยทักพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องครัว คนอายุมากกว่าหันมามองบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่ ก่อนตอบรับไป

                    “อรุณสวัสดิ์ วันนี้ตื่นเช้าจังนะ”

                    “วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกนี่ครับ” เมื่อบอกดังนั้นฟีนิกซ์ก็ได้ยินเสียงที่ว่า อา.. นั่นสินะ วันนี้เธอจะได้ไปโรงเรียนวันแรกนี่นา ดังตอบกลับมาจากคนผมขาว เขาจึงเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ดูเหมือนกำลังทอดอะไรบางอย่างอยู่

                    ใบหน้าเล็กชะโงกหน้ามองไปที่กระทะก็เห็นเจ้าปลาตัวยาวนอนทอดตัวยาวอยู่ด้านใน และแน่นอนว่านั่นเป็นของที่คาคาชิชอบที่สุด

                    “คุณกินบ่อยเกินไปรึเปล่า?” แต่สิ่งที่ตอบกลับมาของคำถามเมื่อครู่คือเสียงหัวเราะเบาๆจากอีกฝ่าย

                    ดวงตากลมโตสีน้ำเงินเข้มที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นแม่เงยมองใบหน้าของคนตัวใหญ่กว่า ถึงแม้ว่าจะตอนทำกับข้าว ตอนนอน หรือตอนไหนๆเขาก็มักจะเห็นคาคาชิใส่หน้ากากปกปิดใบหน้านั่นเสมอ และนั่นทำให้เขาสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายต้องปิดไว้ตลอดรวมถึงทำให้เขาอยากจะเห็นใบหน้านั่นด้วย

                    ดูท่าว่าเขาจะจ้องอีกฝ่ายมากไปหน่อย ดวงตาสีเถ้าถ่านจึงเบือนมาสบตากับเขา

                    “มีอะไรงั้นเหรอ?”

                    ฟีนิกซ์เอียงคอเล็กน้อยพร้อมๆกับคิ้วเล็กที่ขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยแต่สุดท้ายคนตัวเล็กกว่าก็ทำเพียงส่ายหน้าไปมาเบาๆเท่านั้น คาคาชิได้แต่มองคนตรงหน้าที่เดินไปนั่งโต๊ะด้วยความงุนงง

                    หลังจากผ่านคืนวันที่ตระกูลคาซุกิถูกทำลายไปก็ผ่านมาได้ 5 ปีกว่าๆ ฟีนิกซ์ก็อาศัยอยู่กับคาคาชิมาโดยตลอด ทั้งการฝึกวิชาและทักษะการต่อสู้ก็จะมีคาคาชิเป็นคนสอนให้แต่ส่วนมากเด็กชายจะฝึกเองซะมากกว่า และตอนนี้เขาก็อายุได้ 11 ปีแล้ว และนั่นเป็นช่วงอายุที่เขาตอนเข้าเรียนที่โรงเรียนอาคาเดมี่ซึ่งเป็นโรงเรียนฝึกสอนนินจา

                    สาเหตุที่เขาได้เข้าเรียนเพียงแค่ปีเดียวเป็นเพราะว่าตระกูลคาซุกิเป็นตระกูลขีดจำกัดทางสายเลือดรวมทั้งเป็นตระกูลที่แกร่งที่สุดจึงมีการทำข้อตกลงกันว่าหากมีเด็กเกิดขึ้นในตระกูลนั้น คนในตระกูลจะเป็นผู้ฝึกสอนให้แก่เด็กคนนั้นๆก่อน จนเมื่ออายุ 11 ปี ถึงจะให้เข้าเรียนกับนักเรียนคนอื่นๆตามปกติ และนั่นเป็นสาเหตุที่ฟีนิกซ์พึ่งจะได้ไปโรงเรียนวันแรก

                    “กินข้าวเสร็จแล้วจะไปเลยรึเปล่า?” คาคาชิเอ่ยถามคนตรงหน้าที่ดูจะตั้งใจกับการกินข้าวมากกว่าทำอย่างอื่น ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเหลือบมองเขาแวบนึงก่อนจะเบือนไปมองอาหารตรงหน้าต่อ

                    “อาจจะ” คำตอบสั้นๆทำให้คาคาชิขบขันเล็กน้อย

                    “ยังไงก็เข้ากับเพื่อนให้ได้ล่ะ”

                    “เพื่อน?” ฟีนิกซ์ทวนคำอีกฝ่ายเบาๆ นัยน์ตาสีเถ้าถ่านจึงหันไปสบกับคนตรงเล็กกว่า

                    “อือ ทำไมงั้นเหรอ?”

                    “..เปล่าครับ” เมื่อตอบเสร็จน้ำเปล่าในแก้วก็ถูกดื่มหมดภายในครั้งเดียว เขาพร้อมที่จะไปโรงเรียนแล้วล่ะ!

     

    ...........................................................................................................

     

                    บางที..เขาก็รู้สึกราวกับตัวเองเป็นคุณแม่มือใหม่ที่กำลังยืนส่งลูกไปโรงเรียน.. นัยน์ตาสีเถ้าถ่านได้แต่มองคนอายุน้อยกว่าที่ดูกระตือรือร้นมากกว่าปกติเมื่อได้ยินคำว่า เพื่อนจากเขา เมื่อเก็บของเสร็จอีกฝ่ายก็วิ่งลิ่วออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็วจนเขาวิ่งตามออกมาส่งแทบไม่ทัน.. นั่นแหละ ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคุณแม่หรือคุณพ่อมากขึ้นทุกวัน

                    “เฮ้อ เด็กนี่นะ” เขาได้แต่เกาหัวแก๊กๆเมื่ออีกคนหายลับสายตาเขาไปแล้ว

                    คาคาชิเดินกลับเข้ามาในบ้าน นาฬิกาที่แขวนไว้บนผนังบอกเวลาเพียงแค่เจ็ดโมงเศษๆเท่านั้น วันนี้เขามีภารกิจที่ต้องไปทำ แต่เวลานัดรวมตัวนั้นอีกนานเขาจึงมีเวลาสองสามชั่วโมงก่อนที่จะไปยังสถานที่นัด คิดได้ดังนั้นจึงเดินไปหยิบหนังสือเล่มโปรดมานั่งอ่านรอเวลา

                    นี่ก็ผ่านมา 5 ปีกว่าๆที่เขาได้ดูแลเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกชายของคนที่มีพระคุณต่อเขา มีบ้างบางครั้งคราวที่เขาได้สอนอีกฝ่ายในเรื่องต่างๆ ในตอนที่อีกคนมาอยู่กับเขาก็เป็นเวลาเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นฟีนิกซ์ก็แยกไปอยู่ห้องแถวที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเขาโดยให้เหตุผลว่าไม่อยากรบกวนเขามาก แต่ก็มีบ้างที่อีกฝ่ายจะมานอนค้างที่บ้านของเขาอย่างเช่นเมื่อคืนก่อนหน้านี้

                    ช่วงหลังๆดูท่าภารกิจของเขาจะเยอะมากกว่าปกติเนื่องด้วยอีกแค่ปีเดียวเด็กๆในโรงเรียนอาคาเดมี่ก็จะจบการศึกษาและเขาถูกแต่งตั้งให้มาเป็นโจนินผู้ดูแลกลุ่ม ภารกิจต่างๆจึงต้องรีบสะสางเพื่อที่จะได้มีเวลามากพอจะดูแลเด็กๆที่กำลังจะกลายมาเป็นคนในสังกัดของเขาเอง ว่ากันตามตรงเด็กที่พึ่งจบในปีนี้เขาเองก็ได้รับหน้าที่ให้เป็นโจนินดูแลกลุ่มเหมือนกันเพียงแต่ว่า.. เด็กพวกนั้นไม่ผ่านการทดสอบจากเขาเท่านั้น ตอนนี้จึงไม่มีเด็กคนไหนให้เขาเป็นผู้ดูแลแม้แต่คนเดียว

                    เมื่อพูดถึงเด็กเขาก็นึกถึงคนหนึ่งที่พึ่งจะวิ่งออกจากบ้านไป จะว่าไปแล้วเขาเองก็ไม่ได้เห็นฝีมือการพัฒนาของอีกฝ่ายมาสองปีกว่าๆแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพัฒนาไปมากแค่ไหน แต่อีกฝ่ายนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นคนของตระกูลที่เก่งกาจของหมู่บ้านอยู่แล้วเพราะงั้นไม่มีอะไรให้ห่วงมากนัก

                    “เวลาป่านนี้แล้วเหรอ” มัวแต่อ่านหนังสือนานจนเกินไปหน่อย หันมามองนาฬิกาอีกทีเวลาก็ล่วงเลยจากการนัดมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว

                    “สายอีกแล้วเหรอเนี่ย?”

     

     

    ...........................................................................................................

     

                   

                    “...”

                    ฟีนิกซ์ยืนนิ่งมองภาพตรงหน้าอยู่หลายสิบนาที ถึงแม้ว่าเขาจะมาถึงโรงเรียนได้เร็วมากแค่ไหนแต่เขาก็ลืมไปเลยว่าเขาไม่รู้ทางไปห้องเรียนเลยสักนิด.. ครั้นจะไปห้องของคุณครูก็ไม่รู้อีกอยู่ดีว่าอยู่ที่ไหน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มแสดงความเบื่อหน่ายออกมาอย่างปิดไม่มิด

                    “อ้าว เธอเด็กใหม่งั้นเหรอ ไม่เคยเห็นหน้าเลย?” เสียงทุ้มของคนที่แตกหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง ฟีนิกซ์หันกลับไปมองอีกฝ่าย

                    รอยปานที่คาดผ่านตรงช่วงจมูกเด่นสะดุดตาจนเขาอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่ารอยแผลนั่นเกิดจากอะไร แต่ลักษณะการแต่งตัวของอีกคนก็เดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นครูของที่นี่แน่นอน

                    “ครับ”

                    “หือ?”

                    อุมิโนะ อิรุกะ ผู้ที่เป็นนินจาระดับจูนินและตอนนี้ทำหน้าที่เป็นคุณครูสอนนักเรียนในโรงเรียนอาคาเดมี่แห่งนี้กำลังมองเด็กตรงหน้าที่ตนพึ่งเอ่ยทักไปด้วยความสงสัย

                    ลักษณะการแต่งตัวและเรือนผมของอีกฝ่ายที่ไม่คุ้นตาทำให้เขาคิดว่าคนตรงหน้าอาจเป็นนักเรียนใหม่ที่โฮคาเงะรุ่นที่สามฝากฝังให้เขาดูแลต่อจนกว่าอีกคนจะเรียนจบในปีหน้า และเด็กที่ได้รับอนุญาตพิเศษให้เข้าเรียนในอาคาเดมี่ได้เพียงแค่ปีเดียวก็คงไม่ใช่ใครอื่นใดนอกจากคนของตระกูลคาซุกิ

                    และเมื่ออีกฝ่ายหันมาสบตากับเขาก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าเขาคิดถูก..

                    “เธอคงจะชื่อคาซุกิ ฟีนิกซ์สินะ ครูชื่อ อุมิโนะ อิรุกะ จากนี้ก็จะเป็นครูของเธอที่โรงเรียนนี้” เขาเอ่ยแนะนำตัวกับคนตัวเล็กกว่า ใบหน้าที่ดูเหมือนสงสัยบางอย่างเหม่อมองเขาอยู่พักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้

                    “แล้ว..เธอไม่เข้าไปข้างในเหรอ?” เมื่อยังเห็นว่าเด็กหนุ่มยังยืนจ้องหน้าเขาอยู่ เขาจึงถามอีกฝ่าย

                    “ผมไม่รู้ว่าห้องเรียนไปทางไหนครับ”

                    “อะ.. ฮ่าๆ ๆ นั่นสินะ เธอเป็นเด็กใหม่นี่นา โทษทีๆงั้นตามครูมาล่ะกัน” ว่าจบอิรุกะก็เดินนำเด็กหนุ่มเข้ามาด้านในตัวอาคาร ฟีนิกซ์ที่เดินอยู่ด้านหลังหันมองซ้ายมองขวาอย่างสนอกสนใจ

     

                    ..น่าจะเป็นเด็กแนวๆเดียวกับอุจิฮะ ซาสึเกะล่ะมั้ง..

     

                    อิรุกะที่เหลือบมามองคนตัวเล็กกว่าด้านหลังพลางนึกในใจเงียบๆ

                    “ฮ่าๆ ๆ! อะไรของแกวะนารูโตะ!

                    “ฮึ่ย! บอกแล้วไงว่าฉันเนี่ยแหละที่จะเป็นโฮคาเงะ!

                    เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่มักได้ยินประจำดังออกมาจากห้องเรียนด้านหน้า จูนินหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนหันมามองฟีนิกซ์ที่มีแววประกายสนอกสนใจเสียงที่ดังออกมาจากในห้อง

                    “พอเข้าไปในห้องแล้วก็แนะนำตัวปกตินะไม่ต้องตื่นเต้น เด็กๆในห้องก็มีแต่คนอายุเท่าเธอนั่นแหละ” เขายิ้มให้คนอายุน้อยที่เงยหน้ามาสบตากับเขา ใบหน้าที่เล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักเบาๆ

                   

                    ครืน!

    “เอ้า! นั่งที่ได้แล้ว!

    อิรุกะเปิดประตูเสียงดังจนเด็กในห้องสะดุดกันเป็นแถบๆ เมื่อสิ้นเสียงตวาดเมื่อครู่ภายในห้องก็เงียบลงถนัดตาพร้อมๆกับที่ทุกคนในห้องประจำที่ตัวเองอย่างรวดเร็ว

    “โอ้ ฟีนิกซ์คุง” อิรุกะที่เดินเข้าไปในห้องได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักแล้วหันมามองยังต้นเสียงเมื่อได้ยินเสียงแก่ๆที่คุ้นเคยดังขึ้นถามเด็กคนใหม่ของห้องเขา

    “ท่านโฮคาเงะ” อิรุกะค้อมหลังลงทันทีเมื่อหันมาสบตากับซารุโทบิ ชายแก่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงโฮคาเงะรุ่นที่สามหันมาส่งยิ้มให้ตามปกติก่อนจะพูดออกมา

    “ฉันขอคุยกับฟีนิกซ์คุงแป๊ปนึงนะอิรุกะ”

    “ครับ”

    “ฟีนิกซ์? ใครเหรอครับครู!

    “ใครๆ ใครอ่ะครู!” เมื่อได้ยินประโยคที่คุยกันของผู้ใหญ่สองคนเด็กๆในห้องก็ลุกพรืดพยายามชะเง้อมองมาที่ประตูห้องอย่างสนอกสนใจทันทีจนเกิดเสียงดังเซ็งแซ่ไปทั่วห้องอีกครั้ง

    “นี่! ไปนั่งที่ให้เรียบร้อยเลยไป!” ประตูไม้ถูกปิดลงเมื่อจูนินหนุ่มตอบรับคำของซารุโทบิก่อนที่จะหันมาสั่งให้คนในห้องกลับไปนั่งที่ตัวเอง

    “วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของปีนี้และปีหน้าก็จะเป็นปีจบการศึกษาของพวกเธอ เพราะงั้นก็ตั้งใจเรียนกันหน่อยนะ” อิรุกะเคาะสมุดเล่มใหญ่ในมือกับโต๊ะหน้าห้อง นัยน์ตาสีดำไล่มองนักเรียนในห้องทีละคน ก่อนจะมาหยุดสายตาที่เด็กหนุ่มผมทองที่นั่งทำหน้าบูดบึ้งราวกับขัดใจอะไรบางอย่าง

    “นารูโตะ ปีหน้าจะเป็นการสอบที่ไม่มีการซ่อมถ้าหากตกก็จะต้องกลับไปเรียนใหม่แต่แรกและจะไม่ได้จบการศึกษากับเพื่อนๆเพราะงั้นก็ตั้งเรียนในปีนี้ด้วยเข้าใจมั้ย!” เขาเอ่ยบอกกับผู้เป็นที่โหล่ของห้องนี้ด้วยความหวังดีตามประสาครูที่ต้องดูแลนักเรียนผู้เป็นศิษย์ หากแต่เมื่อเด็กคนอื่นๆในห้องได้ยินที่เขาพูดเมื่อครู่กลับหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่

    “ฮ่าๆ ๆ! ได้ยินมั้ยนารูโตะ ถ้าตกปีหน้านายจะไม่ได้จบนา ฮ่าๆ ๆ”

    “โธ่ เจ้าห่วยเอ๊ย พยายามเข้านะไอ้ที่โหล่ ฮ่าๆ ๆ!

    คำพูดที่ดูเหมือนเป็นรูปประโยคการปลอบใจกับถูกถ่ายทอดออกมาในอารมณ์หัวเราะเยาะและดูถูกดูแคลนอีกฝ่าย อิรุกะได้แต่ถอนหายใจกับเรื่องตรงหน้า

    “หน็อย! คอยดูนะ! ฉันนี่แหละที่จะเป็นโฮคาเงะ เพราะงั้นเรื่องสอบน่ะสบายมาก!อุซึมากิ นารูโตะ ยกกำปั้นขึ้นมาชกที่หน้าอกตัวเองอย่างแน่วแน่

    “อย่างแกน่ะเหรอโฮคาเงะ? ฮ่าๆ ๆ!!

    “นี่ พอได้แล้วน่า” อิรุกะเอ่ยเสียงดุห้ามปรามและเป็นจังหวะเดียวกันที่ประตูห้องเรียนถูกเลื่อนออก เมื่อเห็นดังนั้นจูนินหนุ่มจึงหันมาบอกกับนักเรียนภายในห้องอีกครั้งหนึ่ง

    “เอ้า แล้วก็..วันนี้จะมีเพื่อนใหม่มาเรียนด้วยนะ ยังไงก็ฝากดูแลเพื่อนด้วย เข้ามาเร็ว” ในประโยคหลังอิรุกะหันไปบอกกับคนที่ยืนอยู่ตรงประตู

    เรือนผมสีดำสนิทไหวไปมาตามจังหวะการเดิน นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มที่ราวสีท้องทะเลลึกเหลือบมองคนอื่นๆในห้องเพียงแวบหนึ่งก่อนจะเดินไปหยุดยืนข้างอิรุกะ ภายในห้องเงียบลงถนัดตาราวกับรอฟังว่าคนมาใหม่จะพูดอะไรออกมาหรือไม่

    “คาซุกิ ฟีนิกซ์ ฝากตัวด้วยนะ”

    “กริ๊ด–––––––––––––!!!!

                    เป็นประโยคสั้นๆของการแนะนำตัวแต่กลับเรียกเสียงกริ๊ดกร๊าดของเด็กสาวในห้องทั้งหมดได้เป็นอย่างดี นักเรียนหญิงหลายๆคนส่งเสียงดังจ้าละหวั่นราวกับเป็นต้อนรับนักเรียนใหม่ อิรุกะได้แต่ยกมือเกาหัวแก๊กๆกับเหตุการณ์ตรงหน้า

     

                    ..ว่าแล้วว่าต้องเป็นคนที่ฮิตเหมือนกับซาสึเกะ..

     

                    อิรุกะนึกในใจพลางหันมามองฟีนิกซ์ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเบิกขึ้นเล็กน้อย ถ้าในเดาจากท่าทางคงจะตกใจที่อยู่ๆก็มีคนกริ๊ดใส่แบบนี้ เขาจึงต้องหันมาสั่งให้เด็กสาวทั้งหลายเงียบลง

                    “ต๊าย เด็กใหม่หล่อมากเลยนะเนี่ย” ยามานากะ ฮิโนะ เอ่ยออกมาพลางยกแขนทั้งสองขึ้นเท้ากับโต๊ะมองเพื่อนใหม่ด้านล่างก่อนจะเหล่ตามามองยังเด็กสาวผมสีชมพู

                    “ไงซากุระ ชอบรึเปล่าล่ะ”

                    “อะไรของเธอ ถึงเพื่อนใหม่จะหล่อแต่ยังไงฉันก็ชอบแค่คนเดียวนะยะ!ฮารุโนะ ซากุระหันมาตอบกลับเสียงแข็ง และเพียงไม่นานก็เกิดสายฟ้าแปล๊บๆไปมาระหว่างเด็กสาวสองคน

                   

                    ..ตระกูลคาซุกิเหรอ..

     

                    อุจิฮะ ซาสึเกะ เท้าคางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบๆ ดูท่าทางน่าจะเป็นคนที่เก่งพอตัวและถ้าเขาจำไม่ผิด ตระกูลคาซุกิคือตระกูลขีดจำกัดทางสายเลือดเหมือนกันกับเขา และถ้าเป็นแบบนั้นจริงค่อยทำให้เขามีคู่แข่งที่สูสีขึ้นมาหน่อย

                    “เฮ้อ งั้นเธอไปนั่งตรงนั้นละกัน”

                    อิรุกะหันไปพูดกับฟีนิกซ์พลางชี้นิ้วไปตรงพื้นที่ว่างข้างๆกันกับนารูโตะ เด็กหนุ่มหันมาพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงเข้าใจก่อนเดินไปยังที่นั่งของตน

                    “อืม.....”

                    เป็นเพราะที่นั่งของฟีนิกซ์อยู่ด้านในข้างๆกันกับเด็กหนุ่มผมทองจึงตอนเดินผ่านนารูโตะเข้าไป แต่ทว่าฟีนิกซ์กับทำเพียงยืนมองจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าที่ราวกับท้องนภาในวันที่ปลอดโปร่ง จนนารูโตะได้แต่สงสัยบวกกับประหม่าว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมายืนจ้องหน้าเขาแบบนี้

                    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ เธอชื่อนารูโตะงั้นเหรอ?” ฟีนิกซ์เป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบ นารูโตะที่ได้ยินดังนั้นจึงหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างไม่ไว้ใจ แต่เพียงแค่ชั่วครู่ดวงตาสีฟ้าก็เป็นประกายขึ้นมาก่อนจะแนะนำตัวเองอย่างอลังการเกินความจำเป็นอีกครั้ง

                    “ใช่แล้ว! และฉันนี่แหละอุซึมากิ นารูโตะ ผู้ที่จะเป็นว่าที่โฮคาเงะแหละ!

                    “หน็อย นารูโตะ! ให้มันน้อยๆหน่อยย่ะ!!” เสียงของเด็กสาวคนอื่นๆในห้องดังขึ้นอย่างหมั่นไส้ กับท่าทีของนารูโตะที่ทำกับเด็กหนุ่มคนใหม่หน้าตาดีของห้อง

                    “ฮะฮะ งั้นเหรอ พยายามเข้านะ” เสียงหัวเราะเบาๆดังออกมาจากปากได้รูปของฟีนิกซ์พร้อมกับคำพูดให้กำลังใจที่ไม่ใช่การเสแสร้งทำให้นารูโตะชะงักค้างกับท่าทีของคนตรงหน้า

     

                    ..พึ่งจะมีครั้งแรกที่เขาไม่ได้รับการเยาะเย้ย จากคำพูดที่อยากจะเป็นโฮคาเงะของเขา..

     



    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×