คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนพิเศษ : คนที่อยู่ข้างหน้ากับคนที่อยู่ข้างหลัง
ศูนย์หน้าที่พาลูกยิงเข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม
กับ...
ผู้รักษาประตูที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ไม่ว่าจะหันกลับไปมองกี่ครั้ง
ระยะห่างที่ได้เห็น...
ช่างมากมายนัก
เพราะฉะนั้นถึงได้รู้ดี...
ว่าตราบใดที่ขึ้นมายืนบนสนาม
สิ่งที่ทำได้...
มีเพียงแค่มองดูอย่างห่วงใยเท่านั้น
เพราะมือคู่นี้...
อยู่ไกลเกินกว่าจะปกป้องนายได้!!
หลังจากเสร็จการซ้อมในช่วงเย็นวันหนึ่งทุกคนต่างก็เดินมารับผ้าและน้ำที่สาวๆจัดเตรียมไว้ให้ก่อนจะแยกย้ายออกไปอาบน้ำเพื่อกลับบ้านแต่ทุกคนที่ว่าคงไม่รวมถึงผู้รักษาประตูและดาวยิงแห่งทีมอินาสึมะเจแปนเข้าไปด้วยแน่ๆ
ทั้งเอนโดและโกเอนจิยังคงฝึกซ้อมอย่างสนุกสนานอยู่บนสนาม กัปตันทีมเป็นฝ่ายรักษาประตูเหมือนอย่างเคยในขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนเป็นคนเตะบอลยิงใส่ประตู ผลที่ออกมาจึงมีทั้งเข้าและไม่เข้า
“ยังซ้อมกันอยู่หรือเนี่ย” อากิถามขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มทั้งสองยังเล่นบอลกันอยู่บนสนาม
“คงเล่นจนลืมเวลาอีกแล้วนะสิ” คิโดที่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วกำลังยืนมองเพื่อนสนิททั้งสองซึ่งซ้อมบอลกันโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนอื่นเขาเดินออกมาจากสนามไปกันหมดแล้ว แต่ภาพที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับทุกคนเท่าไหร่ ออกจะชินกันเสียด้วยซ้ำในเมื่อเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งสองครั้ง
“พวกรุ่นพี่เขายังไม่หมดแรงอีกหรือเนี่ย” โทระมารุที่เพิ่งอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จเดินเข้ามาพร้อมกับทาจิมุไค ยูริซึ่งอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมกลับบ้านถามขึ้นเมื่อเห็นรุ่นพี่ทั้งสองยังมีแรงเล่นกันต่ออย่างเหลือเฟือในขณะที่เขาแทบขาลากอยู่แล้ว
“ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรอะ” ฟุโดที่บังเอิญอยู่แถวนั้นพอดีพูดออกมาขณะมองเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยิงบอลใส่ประตูอยู่ในสนามกับเด็กหนุ่มอีกคนที่กระโดดรับบอลอย่างร่าเริง เขาเชื่อว่าถ้าไม่มีใครเข้าไปเตือนเรื่องเวลาสองคนนั้นคงเผลอซ้อมจนพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วแน่
“เห็นสองคนนี้ยังรักกันดีแบบนี้ก็ดีแล้ว” อากิพูดออกมาขณะนั่งดูการซ้อมของคนทั้งสองพร้อมรอยยิ้มซึ่งคำพูดนี้คิโดเองก็เห็นด้วย
“รักกันดี?” ทาจิมุไคทวนออกมาอย่างสงสัย เมื่อครู่นี้เขาฟังผิดไปหรือเปล่า... รักกันดี กัปตันเอนโดกับรุ่นพี่โกเอนจิเนี่ยนะ
“พูดผิดหรือเปล่าครับ” โทระมารุแย้งขึ้นเมื่อได้ฟังคำพูดเมื่อครู่ทว่าทั้งคิโด อากิและฟุโดก็ไม่มีท่าทางแปลกใจหรือคิดจะแก้ไขคำพูดนั้นแต่อย่างใด นั่นหมายความว่าสามคนนี้รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วและอาจจะรู้มานานแล้วก็ได้
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย” ทาจิมุไคถามออกมาอย่างงุนงง ถึงเขาจะเห็นว่ารุ่นพี่โกเอนจิห่วงกัปตันเอนโดมากไปก็เถอะแต่เขาก็คิดอีกนั้นแหละว่าคนที่มีนิสัยแบบนั้นมันก็น่าห่วงจริงๆนั่นแหละจึงคิดว่ารุ่นพี่อาจจะห่วงตามประสาเพื่อนสนิทเลยไม่ได้คิดหรือติดใจสงสัยอะไร แต่ก็คาดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นแบบนี้
โทระมารุเองก็เช่นกันแม้ว่าเขาจะเห็นรุ่นพี่โกเอนจิอยู่กับรุ่นพี่เอนโดบ่อยๆแต่ก็แค่คิดว่าเป็นเพราะทั้งสองคนสนิทกันมาเท่านั้นเอง แถมยังแอบคิดด้วยว่าต้องหาเพื่อนสนิทแบบนั้นเอาไว้สักคน
“ก็รู้มาไม่นานหรอก พอดีไปเห็นสองคนนั้นกอดปลอบใจกันพอดี แต่คิโดน่าจะรู้มานานกว่านะ” อากิพูดพร้อมรอยยิ้ม เธอเชื่อว่าเรื่องของสองคนนี้ต้องมีคนรู้อีกและเพียงแต่ไม่พูดและไม่แสดงออกมาว่ารู้เท่านั้นเอง
“รู้มานานแล้ว” คิโดยอมรับออกมาหน้าตาเฉย อันที่จริงต้องบอกว่าเขารู้ตั้งแต่แรกเลยถึงจะถูก จะไม่ให้เขารู้ตั้งแต่แรกได้ยังไงละ สองคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทเขานะ ถ้าเพื่อนสนิทแปลกไปสักหน่อยแล้วเขาไม่รู้ก็คงเป็นเพื่อนที่แย่เต็มทนแล้วละ
อีกอย่างก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยเพราะโกเอนจิกับเอนโดก็ไม่ได้ทำตัวแปลกไปแต่อย่างใดแล้วเขาจะไปสนใจทำไมเล่า ยังไงสองคนนั้นก็ยังคงเป็นเพื่อนแท้ของเขาอยู่ดีนั่นแหละ เรื่องแบบนี้ไม่ได้แปลว่าเขาจะต้องทำตัวแปลกไปนี่จริงไหม
ทั้งโทระมารุและทาจิมุไคก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะถึงอย่างไรคนทั้งสองก็เป็นรุ่นพี่ที่ดีมากในความรู้สึกของเขา ขนาดรุ่นพี่ฟุโดที่ปกติจะต้องเหน็บแนมก็ยังไม่พูดอะไรเลยนี่
“ผลละอยากรู้จริงๆเลยว่าใครจะเป็นฝ่ายแอบรักก่อน” โทระมารุพูดออกมาแล้วพยายามจะนึกตาม ก็ดูจากนิสัยของรุ่นพี่ทั้งสองคนแล้วมันชวนให้สงสัยจริงๆนี่นา...
“เรื่องนี้ต้องถามคิโดเอา” อากิก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกันเพราะเธอไม่ได้รู้เรื่องมาตั้งแต่แรกนี่
“ไม่เห็นต้องถาม” แต่คนที่แทรกขึ้นมาไม่ใช่คิโดกลับเป็นฟุโดที่ฟังบทสนทนามานาน
“ระหว่างคนที่ยืนอยู่ข้างหน้ากับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังก็คิดเอาเองสิ” ฟุโดพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปเพื่อกลับบ้านของตนเองเมื่อเริ่มรู้สึกว่าบทสนทนาชักจะไร้สาระขึ้นทุกที ทว่าคำพูดนั้นทำเอาอากิ โทระมารุและทาจิมุไคถึงกับงง คนที่ยืนอยู่ข้างหน้ากับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหรือ...รุ่นพี่ฟุโดตั้งใจจะบอกอะไรพวกเขากันแน่
“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย” ทาจิมุไคงงไปแล้ว เล่นพูดมาลอยๆแบบนี้ใครจะไปเข้าใจละ คิโดที่ได้ยินคำพูดนั้นถอนหายใจออกมาก่อนจะเป็นฝ่ายเฉลยเสียเอง
“ฟุโดคงหมายถึงคนที่มองเพื่อนพ้องทุกคนอยู่ด้านหลังกับคนที่หันกลับมามองคนๆเดียวใครจะเป็นฝ่ายหลงรักก่อนกันละ” คิโดพูดและเดาว่าฟุโดเองก็คงสังเกตมาสักพักแล้วเช่นกัน แต่คำพูดของฟุโดก็นับว่าถูกต้องแล้วนั่นแหละ
ระหว่างคนที่อยู่ข้างหลัง... เฝ้ามองแผ่นหลังของพวกพ้อง คนที่เป็นศูนย์กลาง คอยระวังหลังและเป็นพลังให้กับพวกเขา คนที่คอยค้ำจุนแผ่นหลังของทุกคนในทีม
กับ...คนที่อยู่ข้างหน้าสุด คนที่คอยทำแต้มให้กับทีมมาตลอด คนที่...หันกลับมาเพื่อมองหาคนเพียงคนเดียว... แล้วคิดว่าใครกันละที่จะหลงรักอีกฝ่ายก่อน
“แบบนั้นไม่เห็นต้องถามเลย” ตอนนี้ทาจิมุไค โทระมารุและอากิก็รู้แล้วว่าใครจะเป็นฝ่ายตกหลุมรักใครก่อน แค่เพียงคำพูดของคิโดก็เป็นคำตอบที่ไม่ต้องมีคำอธิบายใดแล้วซึ่งคิโดเองก็ไม่คิดจะอยู่อธิบายต่อเหมือนกันเพราะเจ้าตัวเลือกที่จะเดินไปบอกเพื่อนทั้งสองว่ามันหมดเวลาซ้อมไปตั้งนานแล้ว
“คนที่อยู่ข้างหน้ากับคนที่อยู่ข้างหลังหรือ” อากิพึมพำแล้วได้แต่ยิ้ม ก็...เป็นคำเปรียบเทียบที่เข้าท่าดีเหมือนกัน
เอนโด มาโมรุ ผู้เป็นกัปตันและผู้รักษาประตู คนที่ยืนอยู่ข้างหลังสุดและคอยเฝ้ามองแผ่นหลังของพวกพ้องที่อยู่ข้างหน้า ด้วยนิสัยของเจ้าตัวที่เป็นศูนย์กลางของอินาสึมะเจแปนคงจะเฝ้าระวังหลังและให้พลังกับทุกคนเป็นแน่และนั่นไม่แตกต่างกับการเฝ้ามองแผ่นหลังของ ‘ทุกคน’
ขณะที่โกเอนจิ ชูยะ ซึ่งเป็นศูนย์หน้าและเป็นดาวยิงแห่งทีมอินาสึมะเจแปน คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดและเป็นคนที่พาลูกทุกลูกยิงใส่ประตูฝ่ายตรงข้าม ทว่าไม่ว่าจะหันกลับมาสักกี่ครั้งคนที่เขาจะมองหาก็มีแค่ ‘คนเพียงคนเดียว’ คงไม่ต้องให้คิโดพูดออกมาหรอกใช่ไหมว่าใครเป็นฝ่ายหลงรักอีกฝ่ายก่อน
“ขอโทษนะอากิ เลยเวลาอีกแล้ว” เอนโดตะโกนขึ้นมาขอโทษผู้จัดการสาวที่ต้องมานั่งรอเวลาให้เขาเลิกซ้อมก่อนจะเดินออกจากสนามพร้อมกับโกเอนจิและคิโด
“ขอโทษด้วย” โกเอนจิเองก็เกรงใจเหมือนกันเพราะอากิต้องคอยเก็บอุปกรณ์เนื่องจากเป็นผู้จัดการแต่พวกเขากลับลืมเวลาซ้อม เล่นกันเพลินจนคนอื่นกลับบ้านไปเกือบหมดแล้ว
“อ้าว...ทั้งสองคนก็ยังไม่กลับหรือเนี่ย” เอนโดถามออกมาเมื่อเห็นว่าทาจิมุไคและโทระมารุก็ยืนอยู่ด้วย
“พวกผมจะกลับแล้วครับ” โทระมารุตอบกัปตันที่เดินมาถึงพอดี
“อย่ามัวแต่พูด...เหลือแค่พวกนายแล้วนะที่ยังไม่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า” คิโดเตือนเพื่อนสนิทที่ยังมัวมาแวะคุยกับคนอื่นอีก
“นั่นสินะ...งั้นกลับบ้านกันดีๆนะทุกคน” พูดจบเอนโดก็เดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมโกเอนจิอย่างร่าเริงทำเอาคิโดถอนหายใจออกมาอย่างระอาในขณะที่อากิเพียงมองตามทั้งคู่ไปพร้อมรอยยิ้ม
นอกสนามคือเวลาที่สามารถอยู่ใกล้กัน พูดด้วยกันและเอื้อมมือไปหาอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย นั่นคือเรื่องที่คนทั้งสองต่างรู้ดี เพราะเมื่อใดที่ยืนอยู่บนสนามทั้งตำแหน่งและหน้าที่ทำให้คนทั้งสองยืนอยู่คนละฝังของสนามสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันใหญ่โต
ไม่ว่าจะหันกลับไปมองอีกสักกี่ครั้ง...ระยะห่างที่มากมายนั่นก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ในยามที่อยู่บนสนามจะไม่มีวันอยู่ใกล้กันได้และจะไม่มีวันเอื้อมมือไปแตะต้องอีกฝ่าย ยิ่งไม่มีวันปกป้องหรือปลอบใจ เพราะมือคู่นี้อยู่ห่างไกลเกินกว่าที่จะเอื้อมมือไปถึง...
ระหว่าง...
คนๆหนึ่ง...
ที่ยืนอยู่ข้างหลัง
เฝ้ามองแผ่นหลังของพวกพ้อง
กวาดสายตาดูแผ่นหลังของทุกคน
และจะทำทุกอย่าง...
เพื่อค้ำจุนแผ่นหลังของพวกพ้องเอาไว้
กับคนอีกคนหนึ่ง...
ที่ยืนอยู่หน้าสุด
คอยพาบอลทุกลูกที่ถูกส่งมาให้
ยิงเข้าประตูของอีกฝ่าย
และไม่ว่าจะกี่ครั้ง...
เมื่อหันกลับมา
ก็จะคอยมองหา
แค่คนเพียงคนเดียว
บนสนามอันกว้างใหญ่
แม้ระยะห่างที่เห็นจะมากมาย
แม้มันจะไม่มีวันลดลง
แต่คนที่จะหลงรักอีกฝ่าย
ย่อมต้องเป็น...
คนที่อยู่ด้านหน้า
และหันกลับไป
เพื่อมองหา
แค่คนเพียงคนเดียว
และไม่ว่าจะกี่ครั้ง
ก็ยังจะหันกลับไป
เพื่อมองหา...
คนๆนั้นอยู่เช่นเคย...
************จบ************
สวัสดีคะ ในที่สุดฟิคเรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว มันเร็วมาเลยในความคิดของผู้เขียนทั้งที่ตอนพิมพ์นานมาก
สำหรับฟิคเรื่องนี้ผู้เขียนขอสารภาพเลยว่าอึ้งมากเมื่อเห็นจำนวนคอมเมนต์ เพิ่งรู้สึกกับฟิคนี้เองว่าคอมเมนต์มันหานยากดีแท้ (อันนี้เพิ่งรู้จริงๆนะเทียบกับทุกเรื่องที่ผู้เขียนเขียนมา) แต่ถึงแม้มันจะน้อยแต่ก็เป็นกำลังใจให้แก่ผู้เขียนมากคะ ผู้เขียนจะไม่ขอคอมเมนต์หรอกคะเพราะแค่ผู้อ่านติดตามอ่านจนจบกถือว่าดีที่สุดสำหรับผู้เขียนแล้ว
สุดท้ายแล้วเจอกันเรื่องหน้านะคะ เรื่องหน้าผู้เขียนกำลังจะลง CODE GEASS คะ ฝากอีกเรื่องคะ
ความคิดเห็น