ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [C0MPLETE] ✚ :: BE MY BABY :: ✚ [KAI x D.O.]*

    ลำดับตอนที่ #1 : ✚ BE MY BABY :: 0NE

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.35K
      58
      29 ก.ย. 55

    Author : MR.$N0WMAN*

    Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo

    Story : Jackboiz

    Rate : PG - 15

     

     

     

    Be my Baby*


     

     



     

    ‘0.01’




     



    อา...ปวดหัวชะมัด...

     

     

    นี่เป็นความรู้สึกแรกที่แล่นเข้ามาภายในความคิดของ คิม จงอิน

    ทั้งๆที่เขายังไม่ได้ลืมตาขึ้นมาปรับสภาพจากแสงสว่างที่ส่องลอดหน้าต่างเข้ามาเลยด้วยซ้ำ


    แอร์เย็นฉ่ำจนทำให้เขาไม่อยากจะลุกตื่นจากที่นอน

    แต่เพราะเสียงออดที่หน้าบ้านกำลังทำลายความสุขของจงอินที่เพิ่งกลับมาตอนตี4กว่าๆ

    ทำให้เขาจำเป็นต้องตื่นขึ้นมาแม้ว่าจะไม่อยากนัก

    จนสุดท้ายก็ต้องลุกขึ้นมาอย่างกระฟัดกระเฟียด พ่นลมหายใจออกมาแรงๆครั้งหนึ่ง

    แล้วยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองอย่างขัดใจ

     

    สภาพตอนนี้ยังไม่ค่อยพร้อมที่จะออกไปพบใคร...ทั้งสภาพร่างกายและสติด้วย

    เพราะตอนนี้จงอินกำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงกว้าง

    ข้างๆมีใครซักคนหนึ่งที่เขาหิ้วมาจากผับเมื่อคืน กำลังนอนหายใจเข้าออกเป็นจังหวะดูสบายอกสบายใจอยู่ข้างๆ

    จงอินเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเมื่อมองหน้าคนที่กำลังนอนคว่ำอยู่ข้างๆแล้วก็ต้องตกใจ

     

     

    อื้อหืม...เมื่อคืนอย่างดูดี แล้วไหงตอนนี้มัน...

    โอเค...แสงสีทำให้ผีกลายเป็นคน

     

     

    จงอินคิดก่อนจะส่ายศีรษะเพื่อเรียกสติให้เข้าที่

    เมื่อคืนเขาอาจจะพึงพอใจก็จริง แต่มันก็ไม่มากพอจะทำให้เขาต้องการมากไปกว่านี้

    และมันถึงเวลาที่ต้องไล่ตะเพิดให้ไปแล้ว...

     
     

    “นี่นายอ่ะ...กลับไปได้แล้ว”

     
     

    ผมสะกิดเขาแรงๆสองสามทีก่อนที่จะลุกขึ้นใส่กางเกงอย่างลวกๆ

    ได้ยินเสียงงัวเงียของคนที่นอนอยู่แล้วก็ต้องถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจพูดกับเขาอีกครั้ง

     
     

    “ลุกได้แล้ว...นายต้องไปได้แล้ว” ผมบอก

     
     

    “อะไรกัน พอเช้ามาก็ไล่อย่างกับหมูกับหมาเลยนะ ทีเมื่อคืนล่ะไม่เห็นจะบ่น”

     
     

    คนตัวเล็กนั้นลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแล้วเอ่ยออกมา แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจอะไร

    เขายิ้มน้อยๆเสียด้วยซ้ำและนั่นทำให้ผมรู้สึกดีมากกว่าที่เขาจะโวยวายอย่างที่คิดไว้ว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น

     
     

    “ก็เรื่องปกติ...ความจริงฉันจะให้นายกลับตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

    แต่เห็นว่าเหนื่อยก็เลยปล่อยเลยตามเลย แถมฉันยังใช้งานนายไปหลายรอบ”

     
     

    ผมตอบพลางยักไหล่ ก่อนจะโยนเสื้อผ้าไปให้เขา

    เสียงออดยังคงดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผมต้องเดินไปที่ประตูแล้วเปิดมันออก

    ก่อนจะตะโกนลงไปที่ชั้นล่างเพื่อตัดรำคาน

     
     

    “รอแป๊ปนึง! ผมขอแต่งตัวก่อน!

    .
    .

    และนายน่ะ...ลุกขึ้นแต่งตัวได้แล้ว”

     

     

    “อืม...แล้วนายจะให้ฉันกลับไปเฉยๆงี้เลยใช่ไหม?”

     

     

    คนตัวเล็กถามก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวอย่างที่ผมบอก

    ผมยักไหล่อีกครั้งก่อนจะหันไปตอบเขา

     

     

    “แล้วนายอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ?”  ผมถาม

     
     

    “เปล๊า...ก็แค่ถามดู  นายชื่ออะไร? ฉันชื่อ ลี แทมิน

     
     

    เขาบอกผมในขณะที่เขากำลังจรดกระดุมเสื้อ

     
     

    “โอเค...เอาเป็นว่านายชื่อแทมิน

    แต่รีบๆแต่งตัวแล้วก็ออกไปได้แล้ว...ฉันมีธุระ อย่างที่นายก็เห็น”

     
     

    ผมไม่ตอบเขา และรีบๆตัดบทในขณะที่ใส่เสื้อยืดลงไปอย่างเร่งรีบ

    แทมินยักไหล่ทีหนึ่งแล้วตอบกับผม

     
     

    “ก็โอเค...งั้นฉันขอใช้ห้องน้ำแปปหนึ่งสิ  แล้วจะรีบออกไป”

     
     

    เขาพูดก่อนจะขออนุญาตผม  ผมพยักหน้าส่งให้เขาก่อนจะขยี้หัวอีกทีหนึ่งแล้วเดินออกจากห้องไป

    แม้ว่าสติยังไม่ค่อยจะคงที่นัก แต่ก็ยังประคองตัวเองให้เดินลงบันไดไปอย่างช้าๆ

     
     

    สภาพภายในบ้านมันรกสุดๆเพราะว่านี่มันบ้านหนุ่มโสด

    และเมื่อมองผ่านกระจกออกไปเขาก็พบว่าคนที่อยู่ข้างนอกนั้นใส่สูท

    จงอินจึ๊ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะพยายามใช้เท้าเขี่ยอะไรที่วางเกะกะอยู่กลางบ้านให้พ้นไปจากสายตา

    แม้ว่ามันจะไม่ค่อยช่วยให้อะไรดีขึ้นนักก็เถอะ...

     
     

     

    “อะไรครับ?”

     

     
     

    ผมชะโงกหน้าออกไปก่อนจะเอ่ยถาม มองไปที่คนหน้าบ้านอย่างงุนงง

    ชายใส่ชุดสูทยกยิ้มแล้วยื่นจดหมายมาให้ผมตรงหน้า

    ผมหยิบมันมาก่อนที่สายตาจะตวัดไปเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งยืนข้างๆเขาด้วย

    เด็กนั่นมองมาที่ผมตาแป๋วเลย...

     
     

     

    “คุณเป็นใคร...แล้วนี่มันอะไรกันครับ?” ผมถามชายใส่สูท

     

     
     

    “ผมชื่อ ซอ อินกุก เป็นลูกน้องของพี่สาวคุณ

    และผมเองก็ไม่ทราบครับ...รู้แต่ว่าคุณซูจองฝากมันมาให้คุณ

    คุณซูจองเธอไม่ได้บอกอะไรผม ฝากแค่จดหมายนี้มาให้

    เธอให้ผมรับคุณหนูคยองซูมาส่ง...นอกนั้นผมก็ไม่รู้รายละเอียดอะไร

    จะให้ผมขนกระเป๋าเข้าไปในบ้านเลยไหมครับ?”

     

     

    คุณซอถามผมก่อนที่จะเดินเอากระเป๋าเข้ามาในบ้าน

    ผมมองเขาอย่างงุนงงเพราะว่ายังไม่ทันได้ตอบอะไรเลยแต่เขาก็ดันเอากระเป๋าเข้ามาวางในบ้านซะแล้ว

    เอ่อ...แล้วจะถามทำไมวะครับ?

     
     

     

    อินกุกไม่พูดอะไรอีกนอกจากก้มหัวให้ผมแล้วเดินออกไป ผมรู้สึกมึนงงและมีคำถามแต่มันก็ไม่ทันซะแล้ว

    เพราะชายคนนั้นเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที ทิ้งแต่ไอ้เด็กตาแป๋วคนนี้เอาไว้ตรงหน้าผมซะงั้น....

     

     
     

    “อะไรกันวะเนี่ย?”

     

     
     

    ผมบ่นออกมาเบาๆในขณะที่ชะโงกหน้าออกไปมองรถเขาแล่นจากไป

    แล้วหันมามองเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าผมอีกครั้ง

     

     
     

    “มองอะไรของนาย?” ผมถามไปเมื่อเห็นเด็กตัวเล็กมองมาตาใส

     
     

     

    “ค...คยองซูหนาวครับ”

     
     

     

    เด็กชายตัวน้อยบอกผมเบาๆ พร้อมทั้งจ้องหน้า ผมมองอย่างเลิกลั่ก เออใช่สิ ก็นี่มันต้นเดือนมกรา

    ต้นปี...มันหนาวแล้ว และไม่แปลกที่เด็กนี่จะหนาวก็ดูสิใส่ชุดเอี๊ยมยีนส์มาแค่ตัวเดียว...ไม่หนาวก็แปลกแล้ว

     

     
     

    ผมหัวเราะในลำคอเบาๆแล้วคุกเข่านั่งลงให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กน้อยตรงหน้า

     
     

    “หนาวแล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะหืม?”

     

     

    “คยองซูหนาว...ทำไมไม่ให้คยองซูเข้าบ้านล่ะครับ”

     

     

    เด็กน้อยถามพลางกอดอก ตัวสั่นงกๆเงิ่นนั่นดูน่ารัก

    และนั่นทำให้ผมหัวเราะออกมาเบาๆอีกครั้ง

     

     

    “ฮ่าๆ...เดินเข้ามาสิ ทีลุงคนนั้นยังเดินเข้ามาเองได้เลยไม่ได้ขอฉันด้วย”

     

     

    ผมตอบไปอย่างกวนประสาท ในขณะที่เด็กน้อยคนนั้นสั่นเหมือนว่าจะขนลุก

    ลมหนาวพัดมาเบาๆ มากระทบที่ผิวขาว ใบหน้าของเด็กน้อยขึ้นสีแดงเป็นปื้นใหญ่

    จมูกสีแดงเพราะความหนาว...เขากอดวงแขนกระชับกอดตุ๊กตาแน่นขึ้นอีก

    จมูกของคยองซูเริ่มแดง และตัวก็สั่นเล็กน้อยแต่ก็ยังยืนนิ่ง

    จงอินเป่าปากเมื่อคิดออกว่าเขาต้องทำอะไร ก่อนจะอ้าแขนออกกว้างแล้วพูดกับเด็กน้อยตรงหน้า

     

     

    "อ่ะ...จะให้ฉันอุ้มเข้าไปใช่ไหม?"

     

     

    จงอินถามก่อนจะถอนหายใจ...เด็กชายพยักหน้าแรงๆสองสามครั้งก่อนจะยกยิ้มกว้าง

    ก้าวเท้าเข้าไปหาอ้อมแขนของคนแปลกหน้าที่เขาต้องมาอยู่ด้วยแล้วกอดคอจงอินไว้

     
     

    จงอินอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะพาเดินเข้ามาในบ้าน

    วางคยองซูเอาไว้บนโซฟาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆเด็กน้อยที่มองไปรอบๆอย่างสนอกสนใจ

     

     

    “ฉันยังงงๆอยู่...ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะหืม?”

     

     

    ผมพูดออกมาเบาๆก่อนจะเปิดซองจดหมาย

    คยองซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหันมามองผม

     

     

    “คยองไม่รู้ครับ...” เขาตอบ

     
     

    “เฮ้อ...ช่างเถอะ” ผมตอบก่อนจะคลี่จดหมายในมือออกอ่าน

     

     
     

    ถึง  จงอินน้องรัก...

    ช่วงนี้พี่ต้องไปต่างประเทศหลายเดือน ขอฝากเด็กคนนี้ไว้ให้นายดูแลด้วย

    พ่อเขาโดนฟ้องล้มละลายแล้วหนีไปต่างประเทศ ตอนนี้พี่กำลังตามเรื่องให้อยู่

    เพราะฉะนั้น ทำตัวดีๆแล้วดูแลคุณหนูคยองซูด้วยเข้าใจไหม?

    พี่จะส่งเงินค่าดูแลให้นาย...เพราะงั้นดูแลน้องเขาดีๆล่ะ

    ป.ล.กว่าพี่จะกลับคงอีกสองสามเดือน เพราะงั้น...อย่าทำให้พี่ผิดหวังเข้าใจไหม?

     

     

     

    “โอละพ่อ...เวรแล้วไง”

     
     

    ผมบ่นออกมาก่อนจะทิ้งจดหมายลงกับพื้นแล้วเอามือกุมขมับ

    หยิบมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นกดเบอร์โทรออกไปหาพี่สาวคนละแม่อย่างร้อนรน

    สองสามเดือนนี่มันไม่ใช่ธรรมดาแล้วนะ!

    ไม่นะ...อย่าเอาเด็กคนนี้มาทำลายชีวิตหนุ่มโสดของผมนะ!

     
     

     

    “โอ้ยย ชิบหาย...เสือกปิดเครื่องซะงั้น!

     
     

     

     

     

    ผมบ่นออกมาเมื่อได้ยินเสียงฝากข้อความจากปลายสาย พูดถึงพี่สาวต่างแม่ที่สร้างความวุ่นวายให้อย่างเคืองๆ

    ซูจองเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในเกาหลี...และงานที่ฝากมาให้ผมก็คงจะเป็นปัญหาของลูกความของหล่อนอีกตามเคย

    ซูจองไม่ค่อยจะมายุ่งวุ่นวายกับเขาเท่าไหร่นักหรอก

    นอกจากวันไหนที่ผมทำตัวสำมะเลเทเมาหรือเสเพลมากเกินไปนั่นแหละหล่อนถึงจะลงมายุ่งซักครั้งหนึ่ง...

    อย่างเช่นตัดเงินผมหรืออะไรพวกนั้น

    ผมสบถออกมา ก่อนที่เด็กน้อยจะหันมามองผมตาแป๋วแล้วเอื้อมมือเล็กนั้นมาลูบที่ต้นขาข้างขวาของผมเบาๆ

     

     
     

     

    “ไม่เอาครับไม่เอา...พูดไม่เพราะระวังจะโดนตีเหมือนคยองนะครับ”

     

     

    “ใครจะตีนาย?”

     

     

    “คุณพ่อคยองตีคยองตลอดเลย...เวลาที่คยองพูดไม่เพราะ” คยองซูตอบผมมาอย่างเนิบนาบ

     

     

    “แล้วนี่คุณพ่อนายไปไหน?”

     

     

    “คยองไม่รู้...

    พ่อบอกคยองว่าจะไปทำงานเมืองนอกหลายเดือน

    ให้คยองมาอยู่กับคนอื่นไปก่อน”

     
     

     

    เด็กน้อยตอบพลางกอดตุ๊กตาโปโรโระในอ้อมอกแน่นแล้วเอนตัวมาอิงผมไว้

    ขาสองข้างนั้นแกว่งไกวอย่างเห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดีและไม่ได้คิดอะไรกับที่พูดออกมาเลยซักนิด

    สายตายังคงมองไปรอบๆอย่างสำรวจตรวจตรา...ตาโตๆกลอกไปกลอกมาไม่ได้หยุด

     
     

     

    “นี่ไม่คิดถึงพ่อหรือไง...แล้วต้องมาอยู่กับใครก็ไม่รู้นี่ไม่กลัวเหรอ?”

     
     

     

    ผมถามเด็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ผลักเขาออกไป เพราะจะทำอย่างนั้นมันก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย

    แม้ว่าผมจะยังเป็นวัยรุ่น แต่ผมก็ไม่ได้เกลียดเด็กหรอกนะครับ

     

     
     

    “คิดถึงครับ...แต่พ่อทำงานยุ่งอย่างนี้ตลอดคยองชินแล้ว

    และคุณก็ดูไม่น่ากลัวซักหน่อย คยองไม่กลัวหรอก”

     

     
     

    “ไม่ต้องเรียกว่าคุณหรอก...มันแปลกๆ

    ฉันชื่อจงอิน นายเรียกฉันว่าจงอินก็พอ...

    ฉันอายุ 19  นายอายุเท่าไหร่?” ผมถามคยองซู

     
     

    “คยองอายุ 9 ขวบ

    19 ลบ 9 ได้...ได้...ได้เก้า...”

     
     

    เด็กน้อยตอบกลับมาอย่างนั้น และเขาก็ยกเอานิ้วเล็กๆนั้นขึ้นมานับด้วย

    แต่เมื่อเขาตอบผิด มันก็ทำเอาผมต้องหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

     

     

    “ได้สิบต่างหากล่ะเด็กโง่...

    นั่งดูทีวีไปก่อนแล้วกัน ฉันขอไปจัดการอะไรหน่อย”

     
     

    ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นแทมินเดินลงมาจากบันได รีบคว้ารีโมทเปิดทีวีแล้วลุกขึ้นยืน

    แต่คยองซูกลับคว้าชายเสื้อผมไว้...

     
     

    “จัดการอะไร?” เขาถามผมเสียงใสและดูอยากรู้อยากเห็น

     
     

    “เรื่องของผู้ใหญ่น่า...”

     
     

    ผมขยี้หัวคยองซูก่อนจะเดินออกไปหาแทมินที่ยืนรออยู่ตรงหัวบันได

    รอยยิ้มกรุ้มกริ่มนั้นทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไปเพราะคยองซูนั่งอยู่ตรงนั้น

     
     

    “เอาล่ะ...นายเสร็จแล้วใช่ไหม?

    ทีงี้ก็กลับได้แล้ว...วันนี้ฉันยุ่งๆ” 

     
     

    ผมบอกก่อนจะถอนหายใจ แทมินยกยิ้มออกมาบางๆก่อนจะหัวเราะ

     
     

    “อ่าฮะ...ฉันเข้าใจล่ะ งั้นฉันไปก่อนแล้วกัน

    ถ้าคิดถึงฉันก็โทรมาล่ะ”

     
     

    แทมินยักไหล่ก่อนจะเดินเข้ามาจูบที่แก้มของผมแผ่วเบา

    พร้อมๆกับที่ยัดกระดาษแผ่นเล็กลงไปในกระเป๋ากางเกงของผม

    ผมรีบผลักเขาออกก่อนจะเสตามองไปที่เด็กน้อยที่นั่งปิดตาอยู่ที่โซฟา

     
     

    “ทำบ้าอะไรน่ะ ไม่เห็นเหรอว่ามีเด็กอยู่”

     
     

    “ฮ่าๆๆๆๆ...ขอโทษที งั้นฉันไปล่ะ ตั้งใจเลี้ยงลูกนะ”

     
     

    แทมินยกยิ้ม เอ่ยแซวผมก่อนจะเดินออกไปจากประตูบ้านไป...

    ผมถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะคว้าแผ่นกระดาษขึ้นมาอ่าน

     
     

     

    เมื่อคืนนายสุดยอดมากๆ...

    08x-xxxxxxx  แล้วโทรหาฉันนะ..

    ลี แทมิน...

     

     

     

     

    ผมหัวเราะออกมาเมื่อได้อ่านแผ่นกระดาษในมือ ก่อนจะขยำมันทิ้งไปกับพื้น

    หันหลังไปก็เห็นว่าคยองซูยังคงยกมือปิดตาอยู่ไม่เอาออกเสียที

     

     
     

    “นี่...เอามือออกได้แล้ว” ผมบอก

     

     

    “ค...คยองไม่ได้ตั้งใจดูนะครับ...คยองปิดตาแล้ว”

     

     

    เด็กน้อยก้มหน้ามองพื้นก่อนจะกอดตุ๊กตาโปโรโระของเขาเอาไว้แน่น

    ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเดินไปหาเขาและนั่งลงข้างๆ

     

     

    “ถึงดูก็ไม่ว่าซักหน่อย...จะกลัวทำไม

    นี่คยองซู...”

     
     

    “ครับ...” เขาหันมามองผมตาแป๋ว

     
     

    “นายดูทีวีไปก่อนได้ไหม?

    คือตอนนี้ฉันง่วงมากเลย...ขอฉันนอนก่อนได้รึเปล่า?”

     

     

    ผมกระซิบเขาไปแผ่วเบาก่อนจะเอนตัวลงกับโซฟาอย่างช้าๆ

    คยองซูกระโดดลงจากโซฟาเมื่อผมกำลังจะเอนตัวไปทับเขา

     

     

    “ครับ...คยองดูทีวีก็ได้

    จงอินนอนเถอะ คยองสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ”

     

     

    คยองซูพูดออกมาก่อนจะเดินมาหยิบรีโมทไปกดลดเสียงลงจนแทบไม่ได้ยิน

    ผมพยักหน้าส่งให้เขาก่อนจะกดศีรษะลงกับหมอนนุ่ม

     

     
     

    “อืม...งั้นก็ดี  ฉันนอนล่ะ...”

     

     

    ผมพูดก่อนจะหลับตา...

    หรี่ตาดูก็เห็นว่าคยองซูกำลังทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆแล้วมองหน้าจอทีวีอย่างตั้งอกตั้งใจ

    ดูๆไปก็ไม่ดื้อไม่ซนอย่างที่คิดเท่าไหร่ ออกจะเรียบร้อยน่ารักด้วยซ้ำ

    เพราะงั้นจงอินเลยไม่คิดเดือดเนื้อร้อนใจอะไรนัก เขาเลยจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างง่ายดาย

     

     

     

     

    ************

     

     


     

    จึก! จึก! จึก!

     

     

    แรงจิ้มที่บ่าเบาๆทำให้ผมต้องพลิกตัวขึ้นมา ก่อนจะพบว่าคยองซูกำลังยืนจ้องมาที่ผมตาใสอีกแล้ว

    ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ คอพับอย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะมองเด็กน้อยอย่างเหนื่อยใจ

    ผมไม่ชอบให้ใครมาปลุกให้ตื่นนัก มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดน่ะ...

     

     

    “อะไรของนาย....”

     

     

    "คยอง...ปวดฉี่"

     

     
     

    ไม่ได้มาแค่เสียงหรือหน้าตาบิดเบี้ยว

    แต่เท้าเล็กๆกำลังย่ำอยู่กับที่เพื่อบอกให้รู้ว่า ควรจะรีบบอกสถานที่ๆเด็กน้อยต้องการไปซะ

     

     

    "oh shit…"

     

     

    ผมสบถออกมาเบาๆ แล้วยกมือขึ้นชี้ไปทางประตูสีขาวอีกด้านหนึ่งของห้อง

    เด็กน้อยรีบวางตุ๊กตาโปโรโระลงที่โซฟาแล้ววิ่งไปตามทิศทางที่นิ้วเรียวของผมระบุ

    ผมเองตัวลงกับโซฟาอีกหนเพราะรู้สึกว่ายังไม่ตื่นดีนัก...

     
     

    "จงอิน...จงอิน”

     
     

    “อะไรอีกล่ะ?”  ผมลืมตามองเขา

     
     

    “ค...คยองเปิดไฟไม่ถึง"

     
     

    เสียงเล็กๆพูดออกมาอย่างขัดใจ เท้าเล็กๆยังคงย่ำถี่ๆอยู่ที่พรมหน้าห้องน้ำ

    ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนสาวเท้าไปที่หน้าห้องน้ำแล้วกดสวิตช์เปิดไฟให้

    มองคยองซูรีบวิ่งเข้าไปปิดประตูดังปังแล้วก็หัวเราะร่วนออกมาอย่างเปิดเผย

     
     

    ก็น่าตลกดีเหมือนกัน...ทั้งๆที่ผมควรจะเหวี่ยงและหงุดหงิด

    แต่ท่าทางน่ารักแบบเด็กๆของเขากลับทำให้ผมต้องหัวเราะออกมาง่ายๆ

     
     

    ผมหันหลังกลับ ตั้งใจจะเดินไปนอนต่อที่โซฟาแต่ก็ต้องชะงัก

    เมื่อข้าวของภายในบ้านถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ และเป็นที่เป็นทางแบบที่ไม่เห็นมานานมากแล้ว

    พวกนิตยสารที่วางเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นถูกจัดเก็บไปไว้ที่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้

    ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่สะอาดมากนัก และจานชามที่กองเอาไว้ในซิงค์ล้างก็ยังคงเต็มเปี่ยม

    แต่โดยรวมแล้วมันก็ทำให้บ้านดูปลอดโปร่งและสะอาดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

     
     

    ผมหันไปมองที่หน้าประตูห้องน้ำก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

    หันกลับมามองบ้านที่เริ่มเป็นบ้านแล้วก็ยกยิ้มออกมาคนเดียว...

     

     

    .

    .

    .

     
     

    บางที...มีเด็กซักคนในบ้านมันก็ไม่เสียหายนี่นาจริงไหม?













    ✚ TALK



    แว๊บมาเปิดเรื่องใหม่...หนังสงหนังสือไม่อ่านแล้วไม่มีอารมณ์ 5555
    เรื่องนี้ใสกิ๊งนะคะ ไรเตอร์แต่งเอ็นซีไม่เป็น #อุ๊บส์
    ไม่รู้จะทอล์คอะไรอ่ะ...ยังไงก็อย่าลืมคอมเม้นท์ให้กันด้วยนะคะ
    เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ต่อไปนะ ชุ๊บๆ
    รักรีดเดอร์ค่ะ....


    - ไรเตอร์นมน -






     


    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×