ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [C0MPLETE] ✚ :: BE MY BABY :: ✚ [KAI x D.O.]*

    ลำดับตอนที่ #33 : ✚ BE MY BABY :: HAPPY NEW LIFE

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.23K
      14
      15 ม.ค. 56

     

    Author : MR.$N0WMAN*

    Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo

    Story : Jackboiz

    Rate : PG-15

     
     

    Be my Baby*
    : happy new life









    “โธ่...จงอินครับ คยองต้องวางแล้วจริงๆ นะ”

     

    คยองซูกำลังงอแงเพื่อขอร้องให้คนเป็นพี่ที่ตอนนี้ดันงอแงกว่านั้นอยอมให้เขาได้วางสาย

    จงอินส่งเสียงง๊องแง๊งมาจากปลายสายเมื่อรู้สึกว่ายังไม่ต้องการจะให้คยองซูวางสายไป


    หากแต่จะทำได้ยังไงล่ะ ตอนนี้คยองซูต้องไปช่วยมัมทำกับข้าวสำหรับมื้อเช้า

    แต่เพราะคนที่กำลังงอแงอยู่พร้อมทั้งทำหน้าบูดบึ้งผ่านวิดีโอคอลมาน่ะทำให้คยองซูไม่สามารถจะปลีกตัวไปได้เลยซักที

     

    “ไม่เอาง่า...เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ได้คุยกันอีกนะ

    ฉันต้องไปงานเลี้ยงของบริษัทนี่นา นายก็รู้”

     

    “งั้นจงอินนั่นแหละครับที่ต้องรีบวาง

    รีบไปแต่งตัวเลยไป ที่โน่นก็เริ่มเย็นแล้วไม่ใช่เหรอเดี๋ยวก็สายหรอก”

     

    “ไม่สายหรอกน่า...ฉันเตรียมตัวพร้อมตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว

    นี่งาย ดูเซ่...ฉันให้ไอ้มินซอกช่วยหาร้านซักรีดให้ล่ะ

    ไหนนายลองเลือกดูสิว่าจะใส่ตัวไหนไปดี”

     

    คนเป็นพี่ส่งยิ้มพลางหันหน้าโทรศัพท์ไปยังตู้เสื้อผ้าที่ถูกเปิดทิ้งไว้

    ก่อนจะหันกลับมาแล้วส่งยิ้มให้อย่างเก่า



    “โธ่...แค่เลือกเสื้อผ้าก็ลองทำดูเองบ้างเถอะครับ

    ทำไมต้องให้คยองดูให้อยู่เรื่อยเลย” คยองซูเบะปากใส่

     

    “ก็นายเองนั่นแหละที่ทำให้ฉันเคยตัวอ่ะ

    มาทำให้ทุกวันแล้วมาบอกให้ฉันกลับมาทำเองเนี่ยนะ

    ไม่ยอมอ่ะ มันเป็นสิทธิที่ฉันควรได้รับ! ถ้านายไม่ทำนะ ฉันจะแจ้งว่านายละเมิดสิทธิมนุษยชน!

     

    จงอินแหวขึ้นมาเมื่อน้องเขาเริ่มกลอกตาผ่านมาทางหน้าจอโทรศัพท์

    หากแต่คยองซูตัดสินใจที่จะเลิกสนใจสิ่งที่พี่เขาพูดซะ

    แล้วเริ่มมองดูนาฬิกาข้อมือที่พี่ซูจองเป็นคนซื้อให้ขึ้นมองดูเวลาอีกหน

     

    “จงอิน...คยองต้องไปแล้วครับ

    แต่ก่อนจะวางลองชูแหวนให้ดูหน่อยซิ...ขอเช็คหน่อย”

     

    “ทาดาาาาาาา...ยังอยู่เหมือนเดิมเลยนี่งายยย นี่ใส่ทุกวันไม่เคยถอดเลยน่า

    นายนั่นแหละห้ามถอดก็แล้วกัน...ถ้าฉันรู้นะ ฉันบินไปอเมริกาแน่” จงอินพูดแหย่

     


    “บินมาอะไรกันครับ วันมะรืนก็จะกลับอยู่แล้วน้า...

    คยองต้องวางแล้วครับจงอิน...แล้วค่อยคุยกันทีหลังน้า”

     


    เมื่อน้องเขาทำเสียงออดอ้อนมาเป็นครั้งสุดท้ายจงอินจึงต้องยอมจนได้

    ลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตอบตกลงไปตามคำขอ

    เพราะเห็นว่าน้องเขาอ้อนจะวางหลายรอบแล้วเช่นกัน

     

    “อื้ม...วางก็ได้ครับ ... คิดถึงนะครับรู้ไหม?” จงอินพูดกับน้องเขาพลางยกยิ้มหวาน

     

    “ครับ...คิดถึงจงอินเหมือนกันน้า

    อีกไม่กี่วันก็เจอกันแล้ว...รอคยองนะครับที่รัก จุ๊บจุ๊บจุ๊บ

     

    จงอินหัวเราะออกมา

    เมื่อคยองซูพูดกับเขาเสียงหวานแล้วเลื่อนหน้าเข้ามาจูบที่กล้องด้วย

    จงอินมองดูคนเป็นน้องโบกมือบ๊ายบายแล้วกดวางสายไป

    เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อคิดถึงแฟนเด็กที่เพิ่งวางสายไปได้ไม่ถึงนาที

     
    .
    .
    .


    ก่อนที่จะหันไปข้างๆ แล้วพบว่าไอ้จงแดกำลังมองมาที่เขาแล้วกระพริบตาปริบๆ

     

    “เรียบร้อยรึยังวะ?” ไอ้จงแดถาม

     

    “เออ...เรียบร้อยว่ะ” ผมตอบเขาไปพลางเม้มปากแล้วพพยักหน้าอย่างเชื่องช้า

     

    “ไหนมึงบอกกูอีกทีซิ...เมียเด็กมึงจะกลับวันไหนนะไอ้จงอิน?”  ไอ้จงแดถามผมอีกครั้ง

     

    “วันมะรืนว่ะ” ผมตอบเขา...

     

    “แล้วตอนนี้มึงคิดว่าไงวะ?” จงแดถามผมอีกครั้งพลางกลืนน้ำลาย

     

    “เอ่อ...มึงคิดว่าไงล่ะเจหนึ่ง...” ผมกระพริบตาแล้วบอกเขา

     

    “...............................................

    กูว่ามึงก็คิดเหมือนที่กูคิดล่ะเจสอง” จงแดตอบผมกลับมาพลางยกยิ้ม

     


    “เออ...มึงคิดถูกว่ะ....

    .

    .

    .

    เมียไม่อยู่...คนหล่อก็ร่าเริงสิครับ!!!

    ไปแว๊นซ์กันครับไอ้บีหนึ่ง!!!!! วู๊ปปรี้!!!!!!!!!!!!

     

    ผมกับไอ้จงแดพากันกระโดดขึ้นลงบนโซฟาแล้วแหกปากกันอย่างสนุกสนาน

    วันนี้เป็นเหมือนวันปล่อยผีของผมกับไอ้จงแด

    เมื่อไอ้มินซอกได้ไปสัมมนากับบริษัทที่เชจูสองคืนและคยองซูเมียเด็กของผมก็ไม่อยู่

    เราเลยวางแผนกันแบบลับๆ เพื่อจะไปฉลองด้วยกันตั้งแต่เมื่อเย็นวานก่อน

    และพวกเองก็วางแผนให้ไอ้ชานยอลหลอกแบคฮยอนเพื่อมาเที่ยวกับพวกเราด้วย

    ซึ่งแน่นอนว่า...มันตอบตกลง!

     

    โธ่...ผมรักคยองซูมากนะครับ...แต่นานๆ ทีพวกเราสามหนุ่มก็อยากจะมีเวลาไปปล่อยแก่(?)กันบ้าง

    นี่พวกเราก็ใกล้จะสามสิบเต็มที แต่พวกผมยังไม่เคยมีเวลาไปแว๊นซ์ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนเลย

    เพราะฉะนั้นในเมื่อทุกอย่างประจวบเหมาะอย่างนี้

    พวกเราจึงไม่มีใครอยากจะพลาดโอกาสดีๆ อย่างนี้หรอกครับ...ฝันไปเถอะ

     

    ไอ้จงแดจัดการยัดโปรแกรมตารางเวลาติ่งของพวกเราไว้จนแน่นเอี๊ยด

    ตั้งแต่โปรแกรมติ่งแบบเยาวชนอย่างการไปเล่นเกมส์เซ็นเตอร์

    ต่อด้วยโปรแกรมติ่งแบบมัธยมคือการไปเลือกซื้อหนังโป๊ด้วยกัน

    และโปรแกรมติ่งมหาลัยคือการไปกินกาแฟแล้วม่อเด็กมหาลัยชายล้วนกันแบบชิลๆ

    และสุดท้ายคือโปรแกรมติ่งวัยทำงานด้วยการไปแว๊นซ์และแดนซ์กันที่ผับ

    ทำหมดทุกโปรแกรมก็จะเป็นอันเสร็จพิธี...ได้ปล่อยแก่สมใจอยากก่อนที่คยองซูจะกลับมาเกาหลีพอดี

    อูยยย เปรมครับ...แค่คิดก็เปรมแล้ว แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!

     

    “งั้นไปครับมึง...ไปเลือกชุดซิ่งๆ กัน

    เดี๋ยวไอ้หยอยแม่งจะมาแล้ว มันเพิ่งโทรบอกว่าพ่อตาก็บอกให้เมียมันกลับไปนอนที่บ้านวันนี้

    หวานเลยมึง วันนี้ทางสะดวกสุดๆ... กูรับรองว่าสนุกแน่ๆ”

     

    ไอ้จงแดยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะยกมือขึ้นมาไฮไฟว์กับผมอย่างมีชัย

    ผมหรี่ตามองไอ้จงแดก่อนจะยกยิ้มออกมาที่มุมปาก...

    ก่อนจะกระซิบกับมันราวกับเป็นความลับระดับชาติ

     

     

    “ไอ้จงแด...มึงสัญญากับกูได้ใช่ไหมว่าภารกิจติ่งคราวนี้จะไม่รั่วไหลออกจากปากสว่างๆ ของมึง?” ผมถามเขา

     

    “โธ่...พี่จงอินฮะ

    พี่พูดงี้เหมือนพี่ไม่ไว้ใจแด้เลยฮะ...แด้เสียใจ”

     

    ไอ้จงแดพูดก่อนแกล้งมุดหน้าเข้ามาซบแล้วร้องไห้แบบง่อยๆ ที่ไหล่ของผม

    ผมกลอกตาก่อนจะผลักไอ้เฒ่าทารกออกไปให้ห่างๆ ก่อนจะกระซิบกับมันอีกครั้ง

     

    “พอเลยไอ้เชี่ยกูขนลุก...

    มาสัญญากับกูก่อนเลย มาเกี่ยวก้อยกับกูเลยนะไอ้แด้

    ถ้าความลับครั้งนี้รั่วไหล กูสัญญาว่าจะทำให้ครอบครัวมึงแตกแยกไม่มีชิ้นดีเลย”

     

    ผมกระซิบขู่ลอดไรฟันพร้อมทั้งยกยิ้มในขณะเดียวกับที่คว้าเอานิ้วก้อยของไอ้จงแดมาเกี่ยวไว้

    ไอ้จงแดยิ้มแฉ่งกลับมาจนรอยตีนกาผุดเต็มหน้า ก่อนจะกระซิบตอบผมกลับมาพร้อมตบบ่า

     

    “แหม่ะ...น่ากลัวครับเพื่อน...ขนลุกมาก

    อย่าลืมนะครับว่ากูเองก็กำความลับของมึงเหมือนกัน

    ถ้ามึงทำกูบ้านแตกได้ กูก็ทำมึงบ้านแตกได้ครับเพื่อน

    คราวนี้ล่ะมึง...อาจจะถึงเวลาที่เราต้องมาแดกกันเองก็ได้นะครับพี่จงอิน”

     


    “โอ้มายบุดด้า...กูว่าเลิกเล่นเหอะว่ะไอ้แด้ กูขนลุก

    มาเลยมึง...มาดื่มน้ำร่วมสาบานกับกูเลยมึง ดูดิ๊...ตู้เย็นมีไรมั่ง”

     


    ผมบ่นก่อนจะเดินสาวเท้าไปยังห้องครัวแล้วเริ่มเปิดตู้เย็นเพื่อมองหาเครื่องดื่มอะไรซักอย่างหนึ่ง

    และเมื่อไอ้จงแดสาวเท้าเดินตามผมมาแล้วมองเข้าไปในตู้เย็น

     

    “มีแต่น้ำเปล่าครับไอ้ดำ” ไอ้จงแดบอกพลางกลอกตา

     

    “เออ...ไม่เป็นไร กูมีนมเปรี้ยวซุกไว้ตรงนี้ขวดนึง

    นี่ไงมึง! ยาคูลท์...มีประโยชน์ต่อร่างกายนะมึง

    มีจุลินทรีย์และแบคโตบาซิลลัสที่จะช่วยชอนไชไส้มึงให้จู๊ดๆ ได้ในตอนเช้า

    เพราะงั้นเชื่อกู...อันนี้เหมาะสุด”

     

    ผมบอกเพื่อนรักพลางหยิบหลอดมาเจาะขวดยาคูลท์ขวดเล็กกระจิริดดังเป๊าะ

    ไอ้จงแดกลอกตาก่อนจะมองหน้าผมอย่างไม่ค่อยเชื่อสายตานัก

     

    “ไอ้ดำ...เรากำลังจะไปกินเหล้ากัน

    แต่มึงดันมาขอดื่มสาบานกับกูด้วยยาคูลท์เนี่ยนะ”

     

    “ทำไมมึง...ก็ทั้งตู้เย็นกูมีแค่นี้อ่ะ มันเบบี๋ไปเหรอวะ?” ผมถามไอ้จงแด

     

    “เปล่า...กูแค่จะบอกว่าขวดเล็กไม่พอหรอกมึงกูดูดฟืดเดียวแม่งหมดขวดละ

    แถมอีกอย่างนะ...ขวดแม่งแค่นี้แลคโตบาซิลลัสทำไรกูไม่ได้หรอก

    โทรบอกให้ยอลให้ซื้อขวดลิตรเข้ามาแล้วกัน...ยกดื่มกูว่าฟินกว่าครับเพื่อน คิกๆ”

     

    ไอ้จงแดเดินตบบ่าของผมแล้วเดินไปทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาตามเดิม

    ผมถอนหายใจออกมาพลางยกยิ้มเมื่อเห็นไอ้จงแดหยิบโทรศัพท์โทรหาไอ้ชานยอล

    เพื่อที่จะฝากซื้อยาคูลท์ขวดใหญ่...

     

    อ่า...ผมเองก็พูดกวนเท้าไปอย่างนั้นเองแหละครับ

    ความจริงผมเองก็รู้อยู่แล้วว่าพวกเราสามคนคงไม่มีใครหลุดปากออกไปหรอก

    และผมก็มั่นใจด้วยว่าภารกิจติ่งที่ไอ้จงแดวางแพลนเอาไว้จะต้องเป็นความลับของเราสามเกลอตลอดไป

     

    และคุณเองด้วยนะครับ...อย่าเผลอไปบอกคยองซูเชียวล่ะ

    เก็บไว้เป็นความลับระหว่างเรานะครับ...จุ๊ๆ

     

     

     

     

    *********



     

     

    ท่ามกลางอากาศอันเย็นสบายของเดือนมีนาคม

    ฤดูใบไม้ผลิเริ่มมาเยือนพร้อมอากาศดีๆ อย่างที่คิมจงอินชื่นชอบ

    อย่างในเช้าวันอาทิตย์ที่แสนสงบและอุ่นสบายแบบวันนี้...

    คิมจงอินกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนอย่างเป็นสุข

    อันความจริงเขาเองควรจะตื่นนานแล้ว แต่ในเมื่อไม่มีคนคอยปลุกและเช้าวันหยุดแสนสบายที่ไม่ต้องมีภาระอะไร

    ทำให้จงอินตัดสินใจนอนต่อไปเรื่อยๆ แบบที่นานๆ ทีจะได้ทำซักหนหนึ่ง...

    โอ...ชีวิตของคิมจงอินนี่ช่างมีความสุขซะจริงๆ

    เขามีเงินมีงานมีเมียเด็กแล้วด้วย...จะมีก็เพียงแค่ลูกเท่านั้นแหละนะที่ขาดไป

    แต่เรื่องนั้นไม่เป็นไร...เขาอาจจะซื้อลูกหมาตัวเล็กๆ หรือไม่ก็แมวซักตัวให้คยองซูเลี้ยงเอาก็ได้

     

    ผมนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียง...และยังไม่ลืมตาเพราะยังไม่พร้อมจะตื่น

    และถึงแม้ว่าจะได้ยินเสียงรถเลื่อนมาจอดที่หน้าบ้านแล้วก็เถอะ

    แต่ผมเองก็ตั้งใจที่จะไม่ลืมตาขึ้นมาเพราะว่ากำลังรออะไรบ้างอย่างอยู่...

     



    แกร๊ก...



     

    เสียงประตูห้องที่เปิดออกทำให้ผมต้องพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้

    และเมื่อได้ยินเสียงสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้แล้วมุดเข้ามาในผ้าห่มนั้นก็ยิ่งทำให้ผมยิ่งใจเต้นระทึก

    ผมคิดถึงคยองซูเอามากๆ...

    แต่แน่นอนว่าผมเองก็รอจูบที่เป็นเหมือนนาฬิกาปลุกของผมจนแทบจะทนไม่ไหวเช่นกัน

     

    สวบ...สวบ...

     

    คยองซูปีนขึ้นมาทับบนตัวผมเหมือนที่ผมคิดเอาไว้

    ผมรู้สึกว่าตัวเขาหนักขึ้นนิดหน่อย...แต่ก็ยังอดทนไม่พูดอะไรออกมา

    ก่อนจะเฝ้ารอจูบจากเขา และคิดว่ายังไงๆ ผมเองก็ต้องได้มันแน่ๆ

     

    “อ๋า...หน้าตาไม่เห็นจะหล่อเหมือนที่พี่คยองบอกเลยอ่าาา”

     

    เสียงเล็กๆและออกจะคุ้นหูของใครซักคนนั้นทำให้ผมต้องสะดุ้งและเผลอลืมตาขึ้นมาทันที

    ก่อนที่จะพบว่าเด็กชายตาสีน้ำตาลทองคนหนึ่งกำลังจ้องมองมาที่ผม

    และที่สำคัญก็คือ...เขาหน้าตาเหมือนคยองซูเป๊ะเลย!!!

     

    โอ้มายบุดด้า!!! นี่มันอะไรกันเนี่ย!! ทำไมคยองซูยังตัวเล็กอยู่ล่ะ???

    ร...หรือว่าทั้งหมดที่ผ่านมาคือฝันไป!!!

     


    “นาย! คยองซู!!

     

    ผมผลักไอ้เด็กตัวเล็กกระจ้อย แต่ไม่เล็กด้วยน้ำหนักนั้นออกจากตัวก่อนจะชี้หน้าเขาอย่างหวาดๆ

    ผมยอมรับว่าช็อคมาก แต่กลับมองเห็นเด็กน้อยคนนั้นกำลังกุมท้องแล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบอกชอบใจ

     

    ผมอ้าปากค้างแล้วจ้องมองไปที่เขา...

    พูดอะไรไม่ออกเพราะกำลังเรียงลำดับความคิดของตัวเองอย่างวกไปวนมา

    หากแต่ไม่ทันได้คิดอะไรนานเกินไปนักหรอก...คยองซูอีกคนก็โผล่ออกมาจากประตูห้องนอนของผม

    โอ้มายก๊อด!! เกิดอะไรขึ้นวะครับ!!!

     

    “ดีโอ! พี่บอกว่าอย่าเพิ่งมาปลุกพี่จงอินเขาไง”

     

    คยองซูเดินเข้ามาตวาดใส่เด็กตัวเล็กแล้วเดินเข้ามาดึงเด็กที่ชื่อว่าดีโอไปอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน

     

    “อรุณสวัสดิ์ครับจงอิน

    ตื่นนานรึยัง? คยองเพิ่งมาถึงบ้านล่ะ”

     

    คยองซูส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะวางเด็กที่ชื่อว่าดีโอเอาไว้บนพื้น

    เด็กนั่นจ้องผมมาตาแป๋วเลย...ในขณะที่มือก็เกาะชายเสื้อของคยองซูเอาไว้ด้วย

     

    “คยองซู...นี่มันอะไรกันเนี่ยฉันงงไปหมดแล้ว” ผมถามเขาอย่างไม่เข้าใจนัก



     “นี่น้องชายคยองไงครับจงอิน...ชื่อดีโอ

    ดี...ทำไมไม่ทักทายพี่เขาล่ะ?”



    คยองซูพยักเพยิดปลายคางมาทางผม

    แล้วบอกให้เด็กชายคยองซูไซส์มินิได้ทักทายกับผมอย่างเป็นทางการ

     

    “กู๊ดมอร์นิ่งครับพี่จงอิน...

    ผมชื่อดีโอเป็นน้องของพี่คยองซู”

     

    ดีโอก้มหัวแล้วกลับมาหัวเราะคิกคักกับผมอีกหน

    ผมเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา

    ก่อนที่จะกระโดดลงจากเตียงแล้วเดินไปคว้าแขนคยองซูแล้วลากให้เดินมาตรงมุมห้อง

     

    “คยองซู...นี่มันอะไรกันเนี่ย???” ผมถามเขาอย่างร้อนรน

     

    “ก็น้องชายคยองไงครับจงอิน? เข้าใจอะไรยากตรงไหนเนี่ย??”

     

    “แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้เล่า!

     

    “ก็ป่ะป๊าส่งดีมาเรียนที่เกาหลีไงครับ

    ที่อยู่เกาหลีนานก็เพราะไปส่งใยสมัครเรียนแล้วก็ติดต่อเรื่องเรียนให้ดีนั่นแหละ”

     

    “บ้าตาย! แล้วทำไมนายไม่บอกฉันก่อน?!

    คุณพ่อตาด้วย...เขาส่งเด็กนี้มาเป็นสายสืบแล้วคอยแยกพวกเราออกจากกันแน่ๆเลยอ่ะ

    อ๊ากกกก ฉันจะประสาท!!!

     

    ผมโวยวายออกมาด้วยเสียงกระซิบ

    เหล่ตามองเด็กน้อยดีโอที่กระโดดขึ้นเตียงแล้วเริ่มกลิ้งตัวนอนขลุกขลักอยู่ใต้ผ้าห่ม

    คยองซูกลอกตาไปมาก่อนจะเริ่มอธิบายกับผมอย่างช้าๆ

     

    “โธ่...ไม่หรอกครับจงอิน

    ดีโตแล้วนะ เด็กฝรั่งหัวไวจะตายเพราะฉะนั้นเขาไม่มายุ่งกับเราหรอกน่า

    เราให้ดีนอนห้องเก่าคยองก็ได้...เขาไม่ได้จะมานอนกับพวกเราซักหน่อย”

     

    “แต่มันก็....”

     

    ผมอ้าปากกำลังจะเถียง หากแต่เสียงเล็กๆ ก็ขัดขึ้นมาพร้อมๆ

    กับไอ้เด็กตัวเล็กที่วิ่งเข้ามากระตุกที่ชายเสื้อของผมซะก่อน

     

    “จงอินครับ...พาดีไปกินไอติมหน่อยน้า

    คยองสัญญากับดีไว้ว่าจะพาดีไปกินไอติมไม่ใช่เหรออ

    ดีอยากกินไอติมง่า....”

     

    เสียงออดอ้อนพร้อมๆ กับเท้าเล็กๆ ที่ย่ำอยู่กับที่นั้นทำให้จงอินแทบจะเป็นบ้าตาย

    ริมฝีปากสีแดงๆ และดวงตากลมโตที่ถูกหรี่เล็กจนหยิบหยีนั้นก็ทำให้จงอินแทบจะอดรนทนไม่ได้

    โธ่...คุณก็รู้นี่ครับว่าตอนที่คยองซูทำแบบนี้ทุกทีน่ะ ผมจะไร้แรงต้านทานทุกทีเลย!

     

    “อ่า...จริงด้วยสิ เราพาดีไปกินไอติมกันนะครับจงอิน

    น้องอยากกิน...คยองก็อยากกินเหมือนกันล่ะ

    เพราะงั้นเราไปกันน้า...ดีช่วยพี่อ้อนจงอินหน่อยสิ น้าาาาาาา”

     

    “น้าาาาา...จงอินนี่พาดีไปนะครับน้าาาาาา”

     

    เสียงเล็กๆ จากคยองซูไซส์ใหญ่และไซส์มินิต่างพากันออดอ้อนนั้นทำให้คิมจงอินต้องกลืนน้ำลาย

    เขายังปรับตัวไม่ค่อยจะทันเท่าไหร่นักเมื่อจู่ๆ ก็มีเด็กอีกคนเดินเข้าอยู่ในชายคาบ้านเพิ่มอีกคนหนึ่ง

    หากแต่แรงเขย่าที่แขนข้างขวาจากคยองซูคนพี่

    และแรงกระตุกชายเสื้อจากดีโอคนน้องนั้นก็ทำให้จงอินต้องกลอกตา

    ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วตอบรับสองพี่น้องไปอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้

     

    “อ่า...ก็ได้ๆ ไม่ต้องอ้อนแล้วน่า

    ขออาบน้ำแป๊ปนึงแล้วกัน ไปนั่งดูทีวีรอข้างล่างไป”

     

    “เย้! จงอินใจดี!!

     

    ดีโอกระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจก่อนที่จะวิ่งออกจากห้องไปตามที่ผมบอก

    ผมหันไปมองคยองซูแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง...

    คยองซูรีบยกยิ้มออกมาก่อนจะเขย่งตัวขึ้นมาจูบที่แก้มผมเบาๆ

     

    “ขอบคุณนะครับจงอิน...จงอินใจดีที่สุดเลยย”

     

    คนเป็นน้องกระซิบเสียงหวานพลางกอดแขนของผมเอาไว้แล้วซบหน้าลงมาอย่างน่ารัก

    ผมถอนหายใจอีกหน แต่ก็รู้ดีว่าทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้

     

    “เฮ้อ...ก็นะ ช่วยไม่ได้นี่นา”

     


    “รักจงอินที่สุดเลย...คยองดีใจนะครับที่จงอินไม่รังเกียจดี

    รักดีให้มากๆ นะครับ...แต่อย่ารักมากกว่าคยองล่ะ ตกลงไหม?”

     

    คนเป็นน้องกัดริมฝีปากก่อนจะส่งยิ้มแกล้ง

    ผมหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วจึงส่งมือขึ้นไปขยี้ผมน้องเขาทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้ในรอยยิ้ม

     

    “ไม่รังเกียจหรอกน่า...หน้าดีโอน่ะเหมือนนายตอนเด็กเปี๊ยบเลย แล้วอย่างนี้ฉันจะเกลียดลงได้ไง

    โอ๊ะ! แต่แน่นอนว่าฉันรักนายที่สุดนะ! จะหาใครมาเปรียบกับน้องคยองของพี่ไม่มีอีกแล้วครับที่รัก”

     

    ผมพูดพลางส่งอ้อมแขนเข้าไปโอบรอบน้องเขาแล้วเริ่มกอดรัดให้แน่นขึ้น

    มองตรงเข้าไปในตาของคยองซูก่อนจะกระซิบออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา

     


    “คิดถึงจัง...คิดถึงคยองซู” ผมบอกกับเขา

     

    “เหมือนกันครับ...คยองก็คิดถึงจงอิน”

     

    ทันทีที่น้องเขาตอบกลับมาด้วยเสียงกระซิบ

    ผมเองก็โน้มตัวลงไปมอบจูบแทนความรู้สึกคิดถึงสุดขั้วหัวใจของผมให้เขาได้รับรู้

    คยองซูหลับตาพริ้มและส่งแขนขึ้นโอบรอบคอของผมเมื่อปลายลิ้นของเราเริ่มเกี่ยวกระหวัดกัน

    จูบของเราหวานฉ่ำ...และทำให้หัวใจของผมเต้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    Oh my gosh!!

     

    เสียงเล็กๆ ตะโกนขึ้นมาทำเอาผมกับคยองซูสะดุ้งจนสุดตัว

    เรารีบผละออกจากกันเมื่อได้เห็นว่าดีโอกำลังเอามือปิดตาเอาไว้

    แล้วยื่นมือออีกข้างมาจับลูกบิดประตูแล้วปิดประตูห้องให้กับเรา

     

    “ดีจะรออยู่ข้างล่างนะครับ! ถ้าพวกพี่เสร็จแล้วก็รีบๆ ลงมาน้า!

    แต่อย่านานนะครับ! ดีอยากกินไอติมแล้วนะ...เร็วๆนะ!

     

    เด็กน้อยตะโกนออกมาจากหลังบานประตูที่ถูกปิดไปแล้ว

    ผมหัวเราะออกมาหากแต่คยองซูกลับยกมือขึ้นกุมที่ขมับและหน้าแดงแจ๋

     

    “บ้าชะมัด...คยองลืมไปว่าเรายังไม่ได้ปิดประตู!

     

    คนเป็นน้องถลึงตาใส่ผมแล้วยกมือขึ้นตีที่ต้นแขนของผมเบาๆ เสียทีหนึ่ง

    เมื่อเขาเห็นว่าผมยังไม่หยุดหัวเราะเสียที

     

    “เอาน่า...แต่ตอนนี้มันก็ปิดไปแล้วนี่ ดีโอนี่เป็นเด็กมีมารยาทนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

     

    “ย๊า! คิมจงอิน! ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ!” คยองซูแหวใส่ผมก่อนจะส่งมือมาทุบที่หน้าอกของผมอีกทีหนึ่ง

     

    “เอาน่า...ขอจูบอีกซักทีแล้วจะไปอาบน้ำแล้ว...นะ”

     

    ผมพูดอ้อนแล้วเลื่อนมือไปโอบเอวน้องเขาไว้อีกครั้ง

    หากแต่คยองซูกลับยิ้มออกมาแล้วส่ายหน้าส่งให้กับผม

     

    “ไม่เอาครับ...ไปอาบน้ำก่อนเลยไป

    เดี๋ยวคยองจะไปรอเป็นเพื่อนดีข้างล่าง

    เฮ้...อย่าทำหน้าบูดน่า...คยองไม่อยากให้น้องรอนานนะ

    .

    .

    คยองขอติดไว้ก่อนนะครับ...แล้วคืนนี้ค่อยว่ากันอีกที”

     

    คยองซูพูดบอกผมแบบนั้นก่อนจะเขย่งตัวขึ้นจูบที่แก้มผมเบาๆ แล้วเดินจากไป

    ผมหัวเราะออกมาเมื่อเขารีบวิ่งจู๊ดออกไปจากห้องแล้วปิดประตูเสียงดังปัง

    จนสุดท้ายแล้วเขาก็ทิ้งให้ผมยืนยิ้มอยู่คนเดียวตรงนี้พร้อมกับความอิ่มเอมใจอย่างไม่น่าเชื่อ...

     

    อ่า...งั้นลูกหมาลูกแมวที่ตั้งใจว่าจะซื้อมาก็คงไม่ต้องซื้อแล้วล่ะสินะ

    ผมล่ะมั่นใจว่าต่อจากนี้บ้านเราต้องวุ่นวายขึ้นอีกหลายเท่าตัวแน่ๆ...

    .

    .
    .

    ก็ได้ไอ้เด็กน่ารักน่าหยิกมาเลี้ยงเป็นลูกอีกคนแล้วนี่นา...

     

     

    *********



     

    เวลาบ่ายผ่านไปอย่างเชื่องช้า...

    ทั้งผม คยองซู และดีโอที่กลับมาจากกินไอศกรีมที่ห้างแล้วเราก็กลับมาพักผ่อนกันที่บ้าน


    คยองซูนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา...

    ข้างๆ เป็นดีโอที่กำลังนอนแผ่แล้วคุยโทรศัพท์จ้อด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษรัวเร็วของเขา

    ศีรษะเล็กๆ ของดีโอกำลังหนุนตักของคยองซูเอาไว้แล้วทำท่าทางดูเหมือนว่าเป็นเด็กที่สบายที่สุดในโลก

    ผมเองเหมือนเป็นง่อยไปเลยเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรยังไง

    เลยได้แต่นั่งอยู่บนพื้นแล้วดูทีวี...เพราะว่าพื้นที่บนโซฟาถูกไอ้เด็กดีโอจับจองไปหมดเลยน่ะสิพับผ่า...

     



    กิ๊งก่อง...

     



    เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นมาซึ่งนั่นทำให้ผมและเด็กๆ ตระกูลโดต้องหยุดการกระทำทั้งหมด

    แล้วหันไปสนใจคนที่กดกริ่งที่หน้าประตูบ้านแทน

    ผมลุกขึ้นเดินไปที่หน้าประตูก่อนจะเปิดมันออกเพื่อดูว่าใครกันนะที่มาเยี่ยมเราที่บ้าน

    และคนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านนั้นก็ไม่ใช่ใครเลย...หากแต่เป็นจงฮยอนนั่นเอง

     

    “อ้าว...ไอ้เด็กเวรนี่เอง หวัดดีๆ” ผมทักทายเขาพร้อมรอยยิ้มและหยอกไปอย่างที่ทำทุกครั้ง...

     

    “หวัดดีครับพี่จงอิน...ได้ยินว่าคยองซูกลับมาจากอเมริกาวันนี้ใช่ม้า??

    ผมผ่านมาแถวนี้พอดีเลยซื้อขนมมาฝาก”

     

    จงฮยอนยกยิ้มร่าก่อนจะยื่นกล่องขนมมาตรงหน้าผม

    และเป็นขณะเดียวกับที่คยองซูและดีโอเดินเข้ามาสมทบกับผมที่หน้าบ้าน

     

    “อ้าวจงฮยอนนี่! ฉันนึกว่าพี่แบคฮยอนมาซะอีก

    เข้ามาสิ...มาดื่มชาก่อนนะ”

     

    คยองซูพูดชักชวนให้จงฮยอนได้เข้ามาในบ้านหากแต่จงฮยอนกลับไม่ได้สนใจเขา

    เพราะจงฮยอนกำลังเบิกตามองเด็กน้อยที่กำลังยืนเกาะชายเสื้อของคยองซูอยู่อย่างไม่วางตา

     

    “โอ้...นี่ใครเนี่ย? เขาดูเหมือน...ใช่...เขาดูเหมือนนายนะ

    ชื่ออะไรครับพ่อหนุ่มน้อย?”

     

    “ดีโอครับ...มาย เนม อิสดีโอ”

     

    ดีโอตอบกลับจงฮยอนไปด้วยรอยยิ้มกว้างเต็มหน้าและดวงตาก็หรี่ให้เล็กจนหยิบหยี...

    ดีโอปล่อยชายเสื้อของคยองซูแล้วเดินเข้าไปหาจงฮยอนแทน

    จงอินเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเด็กน้อยดันยื่นมือไปจับกับมือของจงฮยอนเอาไว้อย่างถือวิสาสะ

     

    “อ้าวบ้าจริง...ไปจับมือพี่เขาทำไมน่ะดี?” คยองซูแหวใส่

     

    “ฮ่าๆ...ไม่เป็นไรหรอกน่า

    น่ารักชะมัด นี่น้องชายที่นายว่าเหรอคยองซู?” จงฮยอนถาม

     

    “อืม...ใช่แล้วล่ะ กำลังจะมาเข้าเรียนที่โรงเรียนเราเทอมนี้ด้วยนะ”

     

    “โอ...งั้นก็ดีน่ะสิ ถ้ามีเด็กน่ารักๆ อย่างดีโออยู่ที่โรงเรียน

    การไปโรงเรียนต่อจากนี้ต้องสนุกแหงๆ เลยเนอะ”

     

    จงฮยอนยกยิ้มอย่างใจดีก่อนจะยกมือขึ้นลูบที่ศีรษะเล็กๆ ของดีโออย่างอารมณ์ดี

    ดีโอยกยิ้มจนตาปิดก่อนจะกระโดดโลดเต้นไปมาเมื่อพี่ชายตรงหน้าบอกว่าตัวเองน่ารัก

    จนกระทั่งดีโอนั่นเดินเข้าไปกระตุกชายเสื้อของจงฮยอนถี่รัวแล้วเริ่มพูดอ้อน

     

    “จงฮยอนครับ...ดีอยากกินขนม พาดีไปซื้อขนมหน่อยสิ

    พาดีไปซื้อขนมหน่อยนะะะ...น้าาาาา”

     

    “โอ้! ไม่เอานะดี ทำไมไปขอพี่เขาอย่างนั้นล่ะ เอาแต่ใจตัวเองเกินไปแล้วนะเด็กดื้อ

     

    คยองซูตวาดใส่น้องเขาอย่างไม่เห็นด้วยนัก

    หากแต่เห็นได้ชัดว่าดีโอเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะว่าเขากำลังออดอ้อนจงฮยอนอยู่อย่างนั้น

     

    “ไม่เป็นไรหรอกน่าคยองซู...ไม่ต้องไปดุดีหรอกน่า

    ดีเพิ่งมาถึงก็คงอยากไปเดินเที่ยวบ้างล่ะ เดี๋ยวจงฮยอนจะพาไปเองน้า

    เราไปหาขนมกินกันเนอะ ให้พี่ๆ เขาสวีทกันเถอะนะครับ”

     

    จงฮยอนว่าก่อนจะจูงมือดีโอให้เดินออกไปจากบ้านโดยไม่ได้สนใจจะขออนุญาตพี่ๆ ทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เลยซักนิด

    ดีโอหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้วกระโดดโลดเต้นไปมาในขณะที่เดินออกจากบ้านไปกับจงฮยอนด้วย

    ทิ้งให้จงอินและคยองซูยืนนิ่งอึ้งอย่างกับรูปปั้นอยู่ที่ประตูหน้าบ้านอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์นัก...

     

     

    “เอ่อ... ฉันว่ามัน... น่าจะมีอะไรผิดปกตินิดหน่อยนะ

    ไหนเด็กแก่แดดรุ่นเดอะช่วยลองวิเคราะห์ดูซิครับว่ามันน่าจะเป็นอะไร”

     

    จงอินกลั้วหัวเราะในลำคอขณะที่เอื้อมมือไปโอบรอบบ่าคยองซูที่ทำสีหน้าอึ้งติดบึ้งตึงอยู่เล็กน้อย

    คยองซูส่ายหน้าไปมาช้าๆ อย่างอ่อนแรงก่อนจะเอนตัวเข้าไปพิงจงอินไว้ราวกับจะขอพักพิงเป็นหลักยึด

     

    “บ้าชะมัด...ดีโอ! ไอ้เด็กแก่แดดเอ๊ย!!

    เอาเข้าไปสิ...เจอจงฮยอนนิดเดียวแล้วเดินไปกับเขานี่มันไม่ใช่ธรรมดาแล้วนะครับจงอิน!

    ไม่ได้เลยนะ...ห้ามเด็ดขาดอ่ะ!!

     


    “เห...แล้วมันยังไงล่ะ? จงฮยอนก็เพื่อนนายนี่?”  ผมถามเขาอย่างแปลกใจ

     


    “แต่...แต่...จงฮยอนกับดีโอห่างกันตั้งเกือบรอบนึงนะ!!!

     



    “เอ้า...ฉันกับนายก็ห่างกันเกือบตั้งรอบนึงเหมือนกันนะ 

    โธ่ ไม่เอาน่า...ใครบอกกันล่ะว่าอายุห่างกันตั้งรอบนึงแล้วจะรักกันไม่ได้ 

    แล้วไหนเมื่อเช้าบอกว่าดีโตแล้วไง...ไหนว่าเด็กฝรั่งหัวไวด้วยนะ ฉันจำได้...”

     

    “โอ้ยตาย...คยองปล่อยให้คำพูดนี้หลุดออกจากปากคยองไปได้ยังไงนะเนี่ย??”

     

    คยองซูยกมือขึ้นตบที่หน้าผากของตัวเองแล้วเริ่มบ่นกระปอดกระแปด

    ทำเอาจงอินต้องหัวเราะออกมาเพราะว่าท่าทางของคยองซูน่ะอย่างกับพ่อหวงลูกสาวอะไรอย่างนั้น

     

    “โธ่...ทำเป็นหวงไปได้

    ให้เด็กมันตัดสินใจเองน่า อีกอย่างจงฮยอนมันก็เป็นคนดีนะ” ผมบอกกับเขา

     

    “เฮ้อ...คยองก็รู้ครับ แต่มันก็...เอ้อ...นั่นแหละ”

     

    คยองซูพูดพลางยักไหล่ให้กับผม

    และดูเหมือนเขาจะหาเหตุผลดีๆ ที่จะยกขึ้นมาเถียงได้

    จนสุดท้ายแล้วเมื่อคยองซูไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

    ผมจึงปิดประตูแล้วเดินจูงมือน้องเขามานั่งที่โซฟาแล้วเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง

     


    “เอาน่า...ไม่แน่มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้

    แต่ถ้าใช่ ฉันว่ามันก็โอเคนะ...ดีดูเหมือนจะชอบจงฮยอน

    แล้วก็...จงฮยอนก็ดูจะชอบดีเหมือนกัน”

     


    “อืม...คยองก็เห็นอยู่หรอกครับ

    แต่มันก็...เฮ้อ...งั้นก็ช่างมันเถอะ”

     


    ถึงแม้คยองซูจะบอกว่าช่างมันทั้งๆ ที่สีหน้าก็ยังดูเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย

    ผมเลยตัดสินใจที่จะทำให้เขาลืมๆ มันไปซะด้วยการส่งมือเลื้อยเข้าไปใต้เสื้อของคยองซู

    แล้วเริ่มลูบไล้ที่หน้าท้องของเขาอย่างเนิบนาบ

     

    “งั้นก็ดีแล้วน้า...เลิกเครียดเรื่องดีแล้วมาคุยกันเรื่องของเราดีกว่า

    พี่คิดถึงนายใจจะขาดแล้วนา...อยากกอดจะแย่แล้ว”

     

    “คิมจงอิน...พี่ไม่ดูเวลาเลย”

     

    น้องเขากลอกตาแต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะปัดมือของผมออกไปอย่างที่ผมคิดว่าเขาจะทำ

    และนั่นมันก็ยิ่งทำให้ผมยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่...

    ในเมื่อน้องเขาไม่ว่าอะไรผมก็เลยรุกเร้าเข้าเต็มกำลังทัพ!

     

    “งือ...รอก่อนไม่ได้เหรอครับจงอิน”

     

    น้องเขาถามขึ้นมาเมื่อผมเริ่มกดไหล่น้องเขาให้ราบกับโซฟาแล้วเริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอขาว

    หากแต่คำขอร้องของน้องเขาเป็นอะไรที่ยากเหลือเกินที่จะทำตาม

    โธ่...ก็ผมคิดถึงน้องเขานี่ครับ คิดถึงจนอดใจแทบจะไม่ไหวอยู่แล้วนะให้ตาย

     

    “ไม่เอาไม่รอ...รอไม่ไหวแล้ว” ผมบอกอย่างเอาแต่ใจ

     


    “แต่ถ้าจงฮยอนกับดีกลับมาล่ะ”



    คยองซูถามในขณะที่พยายามจะดันอกของผมให้ออกห่าง

    ผมหยุดเล้าโลมเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากลมโตที่น้องเขาส่งมาอย่างมีคำถาม

    หากแต่ไม่นานนักผมก็ยกยิ้มออกมาแล้วเริ่มก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากของคยองซูใหม่อีกหน

    ก่อนจะกระซิบบอกกับน้องเขาไปว่า...

     




    “ไม่เป็นไรหรอกน่า...เรื่องนั้นไม่มีปัญหา

    ถึงจะกลับมาแต่ถ้าเข้าบ้านไม่ได้พวกเขาก็ไปเที่ยวกันต่อนั่นแหละน่า...” ผมบอกกับน้องเขาพร้อมกับยักคิ้ว

     


    “หืม? หมายความว่าไง?” คยองซูถามกลับอย่างไม่เข้าใจนัก

     




    “ก็หมายความตามนั้นแหละครับน้องคยอง...

    ถ้ากลับบ้านมาก็เข้าบ้านไม่ได้อยู่ดี

     

    .

    .

    .

     

    เพราะฉันล็อคประตูไว้แล้ว...แถมปิดม่านแล้วด้วยนะ ปราศจากหูตาสัปปะรดและข้ออ้างทุกประการ!

    และในเมื่อฉันรอบคอบขนาดนี้แล้วล่ะก็...

     

    .

    .

    .

    เรามาทิ้งทวนกันที่โซฟาเป็นครั้งสุดท้าย...ก่อนจะรับเยาวชนเข้ามาอยู่ในบ้านกันเถอะนะครับน้องคยอง”

     

     









    - THE REAL END - 
















    ✚ TALK

    เอ้าๆ...มาปรบมือกันหน่อยค่ะ...
    นมน.จะขอจบฟิคเรื่อง Be My Baby อย่างเป็นทางการมา ณ ที่นี้ค่ะ ^^
    ขอขอบคุณทุกๆ คนเลยนะคะที่อ่านมาจนถึงตอนนี้...
    รักนะคะคนดีของฉัน...จะวันไหนก็รักเพียงเธอ ^^

    - ไรเตอร์นมน. -
    Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×