คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ::::::::::::::: CURSE ' 15
Author : `MR.$N0WMAN *
Pairing : Kim Jongin
Xiao Luhan/Oh Sehun/Zhang Yi xing/
Kim Junmyun/Krystal JungDo Kyungsoo
Rate : PG - 16
✚ CURSE ' 15
..I lost my mind...
ฉันเสียความเป็นตัวเอง เมื่อตอนที่ฉันได้พบคุณ
นอกจากคุณคนเดียวแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูจะช้าลงไปเสียหมด
บอกกับฉันหน่อย ถ้าหากว่านี่คือความรัก
ทุกทุกวันที่อยู่กับคุณ...ฉันได้เรียนรู้และรู้จักกับความรู้สึกมากมาย
โต้เถียง เสียน้ำตาและโอบกอดกันและกัน
โปรดเถอะช่วยบอกฉันที ว่าความรักคืออะไร...
(Song : EXO-K - What is love)
ฟู่ววววว... ไคถอนหายใจพลางยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ
คิดถึงเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาแล้วมันทำให้เขาใจหาย
เขาใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายปีโดยที่ไม่มีปัญหาอะไรมาทำให้หงุดหงิด
(อันความจริงก็มีบ้างแหละ ถ้าลงรายละเอียดลึกลงไปอีกหน่อย เช่น เซฮุนหรือแทมิน ซึ่งนั่นก็ทำให้หงุดหงิดอยู่พอสมควร)
แต่โดยรวมแล้วเขาก็ยังโอเคอยู่จนกระทั่งคยองซูกลับมา
โด คยองซู...ผู้ชายคนนี้อีกแล้วสินะที่ทำให้เขาสูญเสียการควบคุม... ไคคิด พลางหัวเราะในลำคออย่างอนาจตัวเอง
น่าแปลกเหลือเกินนะ...โลกนี้มันน่าประหลาด
ไคคนนี้ คนที่ทิ้งขว้างผู้หญิงผู้ชายได้ไม่เลือกหน้า
กลับต้องมาเป็นคนอ่อนแอและหวั่นไหวเพียงเพราะผู้ชายตัวเล็กๆ แค่เพียงคนเดียว
แค่เพียงเขามาปรากฏตัวเท่านั้น ก็ทำให้ไคต้องเสียน้ำตาได้ง่ายๆ
มันยากเหลือเกินที่จะทำใจไม่ให้คิดเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาได้ ถึงแม้เขาจะพยายามอย่างมากแล้วก็เถอะ
ทุกครั้งที่ไคคิดถึงคยองซู ความทรงจำเก่าๆ มักจะกลับมาทำร้ายไคเสมอ
ไคหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะหยิบเครื่องดื่มรสเฝื่อนขมเข้าปาก
กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เคล้าละมุนอยู่ในปากของเขานั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยแม้ซักนิด
น่าแปลกเหลือเกิน...เพราะยิ่งมันผ่านลงคอไปเท่าไหร่ อะไรๆ ที่อยากจะลืมเลือนกลับยิ่งทำได้ยากเหลือเกิน
เขาดื่มเพื่อหวังว่ามันจะช่วยให้เขาลืมทุกอย่าง หากแต่มันกลับทำให้เขาต้องร้องไห้ออกมาจนได้
ความอัดอั้นที่มีมาตั้งแต่ช่วงเย็น ที่เขาอดกลั้นและพยายามจะไม่ร้องไห้
แต่พอแอลกอฮอล์เข้าปากเท่านั้นล่ะ ความอดทนอดกลั้นและกำแพงทุกอย่างที่เขาก่อก็พังทลายลงอย่างช้าๆ
น้ำตาของไคไหลรินลงมาเป็นสาย...ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรแล้ว
เสียงเพลงและแสงไฟมืดสลัวของผับอันใหญ่โตแห่งนี้ทำให้ไคปลดปล่อยตัวเองอย่างช้าๆ
สุดท้ายแล้วเขาก็ได้รู้ ว่าที่ๆเขารู้สึกผูกพันที่สุดก็คือที่นี่นั่นเอง
จะมีที่ไหนที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจได้ ก็คงไม่พ้นที่นี่หรอก
ไม่มีที่ไหนเลย...ไม่มี
“นายร้องไห้ทำไม?”
ไคหันไปมองคนที่ถามคำถาม ก่อนหันมาปาดน้ำตา
“ฉันเปล่า...”
ไคตอบก่อนจะหันไปมองค้อนแทมินที่นั่งลงมาที่โซฟาข้างตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต
แทมินกรอกตาก่อนจะแค่นยิ้ม เขาส่ายหน้าอย่างช้าๆ เมื่อได้เห็นไคกำลังปาดน้ำตาและทำท่าทางให้เป็นปกติ
“โกหกชัดๆ” แทมินพูดพลางถอนหายใจ
“นายมาที่นี่ทำไม?” ไคกระชากเสียงถาม
“ฉันมาไม่ได้หรือไง
ที่นี่เป็นผับ...ใครๆ ก็มาได้ไม่ใช่เหรอ?”
“เหอะ...” ไคเบ้หน้า
หยิบแก้วขึ้นมายกขึ้นจิบอีกครั้ง
หากแต่ไม่ทันได้เข้าปากมือของแทมินก็คว้าแก้วนั้นไปจากมือของไคซะก่อน
“เฮ้!! นายทำอะไรน่ะแทมิน? เอาแก้วฉันคืนมา!”
“พอได้แล้วไค นายเมามากแล้วนะ ฉันเห็นนายดื่มตั้งแต่เย็นแล้วยังไม่พออีกหรือไง?”
“................”ไคไม่ตอบ เขาบิดหน้าไปอีกทางเพื่อไม่ให้แทมินเห็นหน้าเขาอีก
“ฉันเป็นห่วงนายนะ
โอเค ฉันมาที่นี่เพราะว่ามาหานาย
ฉันไปหานายที่บ้านแต่ป้าคิมบอกว่านายไม่อยู่...ฉันรู้ว่านายอยู่ที่นี่ก็เลยมา”
“มีธุระอะไรกับฉัน?”
“ฉันว่าจะชวนนายไปดินเนอร์น่ะสิ เป็นเพื่อนกันจะคิดถึงกันไม่ได้บ้างเลยหรือไง?”
“นายก็รู้ว่าฉันไม่ใช่เพื่อนนาย”
“แต่นายเป็นเพื่อนฉันไง”
“เหอะ...ก็แค่เพื่อนนอน”
“คำว่าเพื่อนของฉันมีแค่แบบเดียว ฉันไม่ต้องให้คำจำกัดความแบบนายหรอก
คำว่าเพื่อนในแบบของฉันก็คือ -- ไม่ว่าจะเป็นยังไงเขาก็จะยังเป็นคนที่ฉันจะห่วงใยเสมอ”
“......”
ไคเงียบลงไปอีกครั้ง เขาชะงักนิดหน่อย
เขาไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกว่าเพื่อนจริงๆ แล้วความหมายมันเป็นยังไง
เพราะสำหรับเขา เพื่อนคือคนที่ไคจะสามารถเหยียบให้จมดิน เพื่อให้เขาได้สูงขึ้นไปได้
“อย่ามาทำเป็นดีกับฉันหน่อยเลยลี แทมิน
นายกะจะให้ฉันหันไปเห็นความดีแล้วคบกับนายล่ะสิ
นิสัยแบบพวกนางเอกใช้ไม่ได้กับฉันหรอกนะ บอกไว้ก่อน”
“ฮ่ะๆ...อย่าสำคัญตัวผิดไปหน่อยเลยที่รัก
ฉันรู้ดีแล้วว่าควรจะอยู่ตรงไหน ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีสมองหรอกนะ
ลองมาคิดดูแล้วถึงฉันคบกับนายไปก็คงไม่มีประโยชน์ เผลอๆ จะกลายเป็นควายเผือกเสียด้วยซ้ำน่ะสิ”
“หมายความว่านายจะไม่ทำตัวแบบนั้นกับฉันแล้วว่างั้น?”
“แน่นอน...ตอนนี้ฉันกับมินโฮกำลังค่อยๆ ปรับตัวและพยายามที่จะเรียนรู้กันใหม่
เราพยายามจะมองข้ามปัญหาที่เคยเกิดขึ้นทุกอย่างและเริ่มต้นกันใหม่หมดเลย
นายรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขเหมือนตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ เลย เออ...แล้วฉันจะพล่ามให้นายฟังทำไมเนี่ย
ยังไงก็ตามเถอะ! ตอนนี้ฉันกับมินโฮดีกันแล้ว ฉันกำลังพยายามอย่างมากที่จะซื่อสัตย์กับเขา
ฉันเกลี้ยกล่อมมินโฮสุดๆ เลยนะ ไม่ให้เขาติดใจเรื่องฉันกับนาย”
“ว่าไงนะ! หมายความว่าไงเรื่องฉันกับนาย???”
“เอ่อ...คือฉันกับมินโฮสัญญาที่จะพูดความจริงกันทุกเรื่องน่ะ
ฉันเลยสารภาพไปเรื่องของนายกับฉัน ตอนแรกมินโฮก็โกรธอยู่น่ะนะ
แต่มินโฮเองก็เคยไปมีอะไรกับคนอื่นเหมือนกัน -- ถึงจะแค่ครั้งเดียวก็เถอะ...ก็เลยหยวนๆกันไป
หลังจากนั้นเราก็ทำสัญญาใจกันด้วยเซ็กส์อันร้อนแรงที่สุดในรอบปีของเรา
ฉันสัญญาว่าจะไม่นอกใจหรือนอกกายกับเขาอีก เขาเลยตกลงให้ฉันได้ใช้โอกาสแก้ตัวอ่ะนะ
แต่นายน่าจะเห็นหน้าของมินโฮนะ มันน่ากลัวสุดๆไปเลยล่ะ
ตอนที่เขารู้ว่าฉันกับนาย -- เอ่อ...แบบว่า – เคยได้กัน”
แทมินยักไหล่แบบขอไปทีเมื่อพูดถึงท้ายประโยค...แต่มันทำเอาผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ฟัง
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำฉันมีปัญหา
นายอยากจะทะเลาะจะดีกันมันก็เรื่องของพวกนาย...แต่อย่าเอาฉันเข้าไปยุ่ง”
ไคชักสีหน้าพร้อมทั้งหรี่ตาลงอย่างไม่พอใจ
แทมินเห็นอย่างนั้นก็หัวเราะก่อนจะวางแก้วของไคที่ถือไว้ในมือลงบนโต๊ะแล้วกลับมากอดอกอย่างมีมาดอีกครั้ง
เขายังคงยักไหล่เหมือนกับเห็นว่าเรื่องที่พวกเขาคุยกันนั้นเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ
“แต่ฉันก็ไม่ได้ทำให้นายมีปัญหานิ นายเห็นพี่มินโฮโทรมาวีนนายไหมล่ะ?
ฉันมีปัญญาจะง้อสามีฉันโดยไม่ให้นายต้องมีปัญหาหรอกน่ะ รู้ไว้ซะมิสเตอร์คิม”
เขายังคงยักไหล่แบบกวนประสาทอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
ไคกรอกตาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อได้เห็นภาพนั้น ก่อนจะถอนหายใจ
“แล้วนี่นายยังจะมีหน้ากลับมาชวนฉันดินเนอร์อีก ชเวมินโฮจะไม่ว่าเอาหรือไง?
ฉันบอกนายแล้วนะว่าฉันไม่อยากมีปัญหา ”
“ฉันคุยกับมินโฮแล้วว่าจากนี้ไปฉันจะซื่อสัตย์กับเขา และฉันบริสุทธิ์ใจที่จะพิสูจน์มันไงล่ะ
ตอนแรกเขาก็มีปัญหาอยู่หรอก แต่สุดท้ายแล้วมินโฮก็ให้โอกาสฉัน
นั่นเพราะฉันเป็นเพื่อนนายไง อันความจริงเราก็คบกันมานาน ก็แค่เพื่อนน่ะ...
ฉันหมายถึง -- กลับมาเป็นเพื่อน -- แล้วก็ เอ่อ...จากนี้ต่อไป”
“เหอะ...มินโฮเป็นบาทหลวงหรือไง ทำไมเขาถึงไม่เอาเรื่องนายให้ตายๆ ไปซะ จะได้ไม่กลับมากวนใจฉันแบบนี้”
ไคแย่งแก้วของตัวเองมาจากเบื้องหน้าของแทมินแล้วยกขึ้นจิบอีกครั้งหนึ่ง
หัวเราะในลำคอเมื่อได้เห็นแทมินเหลือกตาใส่ผมยกใหญ่ ตอนผมยกมันขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
เขาส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนจะพูดต่อไป
“เหอะ...ยังไงก็ช่างเถอะ ฉันคืนดีกับมินโฮได้แล้วกัน
ฉันไม่คุยเรื่องพวกนี้กับนายดีกว่า พูดไปนายก็ไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร นายมันคนไม่มีหัวใจนี่
นายคงไม่รู้หรอก ว่าการให้อภัยเพราะรักใครซักคนน่ะเป็นยังไง”
แทมินพูดลอยๆ อย่างไม่ใส่ใจ เขากำลังจิบม็อกเทลสตอว์เบอร์รี่ที่บริกรยกมาให้
แค่นยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อได้เห็นไคเงียบลงไปในอึดใจ
ถ้าคิดไว้ไม่ผิดคงเป็นเรื่องพวกนี้ล่ะมั้ง ชีวิตของไคก็มีปัญหาอยู่เรื่องเดียวนั่นแหละ เรื่องที่เขาเกลียดคำว่ารัก
จะปวดหัวเพราะเรื่องเงินทองน่ะไม่มีทางหรอกเพราะว่าเขาน่ะรวยล้นฟ้า
เพราะฉะนั้นแล้วถ้าไคมีเรื่องอะไรจะต้องเครียดก็คงจะเป็นเรื่องหัวใจ(อันอ่อนแอ)อีกตามเคย
เหอะ...แต่เขาไม่เคยรู้ตัวหรอก เพราะเขาน่ะวางท่าทำตัวเป็นคนไม่มีหัวใจเสียเรื่อยเลย
แทมินคิดในใจพลางแค่นหัวเราะ
ไคหันมามองค้อนที่แทมินทำเสียงคล้ายคลึงกับว่าจะหัวเราะเยาะเขาอยู่อย่างไรก็อย่างนั้น (และก็ใช่เสียด้วยสิ)
“นายหัวเราะอะไรนักหนา”
“ก็เปล่านี่...หัวเราะคนไม่มีหัวใจบางคนเท่านั้นแหละ
โอ๊ะ -- ฉันแค่พูดลอยๆนะ อย่าร้อนตัวล่ะ” แทมินยิ้มพลางกัดน้ำแข็งในปากดังกรุบๆ อย่างสบายอารมณ์
ไคถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
เขาล่ะเกลียดนักเชียวเวลาที่ใครมากวนประสาทเขาแบบนี้
นี่คงจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดสุดๆ แล้วล่ะที่ได้มารู้จักผู้ชายคนนี้
อันความจริงแทมินกับไคเป็นเพื่อนเรียนในสาขาเดียวกันในมหาลัย(และไอ้จงแดด้วย)
ลีแทมินเป็นผู้ชายที่ฐานะดีมาก เพราะว่าบ้านทำกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในหลายประเทศ
แต่ถึงเขาจะรวยแค่ไหนก็ช่างเถอะ แต่เอาเป็นว่าไคน่ะคบกับแทมินเพื่อเพิ่มค่านิยมให้ตัวเองในมหาลัยนั่นแหละ
แทมินมีเพื่อนเยอะแถมยังเป็นพวกลูกคนรวยทั้งนั้น ไคจึงไม่พลาดที่จะไปทำความรู้จักกับคนพวกนั้นเอาไว้
เผื่อว่าเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากคนพวกนั้นในอนาคตยังไงล่ะ
ซึ่งตามความจริงแล้วแทมินนี่ล่ะมีประโยชน์กับเขาสุดๆ เพราะตอนเขาเปิดโรงแรมยังไปขอคำปรึกษาจากแทมินอยู่เลย
(แต่พอมาตอนนี้โรงแรมของผมก็เป็นคู่แข่งกับเขาไปซะแล้ว...โอ ตอนนี้เขาคงจะเสียใจที่ช่วยเหลือผมในตอนนั้นแน่ๆ เลย)
ผมและแทมินเป็นเพื่อน(?)กันมานานพอสมควร
จนผมจัดการเปลี่ยนสถานะของเขาเป็นแค่เซ็กส์เฟรนด์เมื่อปีก่อนหน้า
เพราะเขาเริ่มมีปัญหากับมินโฮและมาคลุกคลีอยู่กับผมบ่อยขึ้น
ตัวผมเองไม่ชอบจะฟังปัญหาชีวิตของใครซักเท่าไหร่ ก็เลยจัดการปิดปากแทมินแล้วจับปล้ำซะ...
เรื่องทุกอย่างก็เลยจบลงที่คำว่าเซ็กส์...
อ๊ะ! แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมารำลึกความหลังนะ...เขากำลังกวนประสาทผมถึงขีดสุด
ผมควรทำยังไงถึงจะสลัดแทมินพ้นไปได้ซักทีนะ อา...นี่มันบ้าจริงๆ
“นายจะไปได้หรือยังแทมิน ฉันอยากจะดื่มคนเดียวเงียบๆ”
“โอ้...นี่นายกำลังไล่คนที่ช่วยเหลือนายอยู่เหรอเนี่ย? นายนี่เสียมารยาทจัง”
แทมินหันมายิ้มเยาะก่อนจะยกเครื่องดื่มในแก้วขึ้นดื่มมันจนหมด
ก่อนจะหันมายักคิ้วให้ไคทีหนึ่ง (ซึ่งในความเห็นของไคมันโคตรจะยั่วโมโหที่สุดเลย)
“เหอะ...นายช่วยเหลืออะไรฉันไม่ทราบ” ไคหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินแทมินพูดทวงบุญคุณ
“เอ้า! นายไม่รู้หรือนี่ น่าเสียใจชะมัด
ฉันอุตส่าห์ช่วยทำให้นายหยุดร้องไห้ไงล่ะ คนซื่อบื้อ!
อย่าคิดเถียงเชียวนะ นายจะบอกฉันได้เหรอว่าตอนนี้นายไม่ได้หยุดร้องไห้แล้วน่ะ
เห็นไหมล่ะ ว่าพอฉันมานายก็ลืมเรื่องเศร้าๆ ที่นายกำลังคิดอยู่
บางทีมีเพื่อนคุยก็ดีไปอีกแบบนะว่าไหม...อาจจะกวนประสาทแต่ก็ทำให้รู้ว่าตัวเราเองไม่ได้อยู่คนเดียว”
แทมินขยิบตาส่งให้ไค เขาพูดพลางยิ้มร่าที่เห็นใบหน้าเหรอหราของไค
เขาหัวเราะอย่างสนุกสนานเมื่อเห็นว่าตัวเองมีชัย เพราะไคไม่ได้ออกปากเถียงกลับมาอีก
ความจริงแล้วไคเองก็อ้าปากจะเถียงอยู่ครั้งหรือสองครั้ง หากแต่ก็ต้องเงียบลงไป
“เอาล่ะ...ถ้านายอยากจะคิดอะไรต่อคนเดียวก็แล้วแต่นะ
แต่ฉันแนะนำว่านายควรกลับบ้าน กินยาระงับอาการประสาทของนายซักเม็ดแล้วก็นอนซะ
เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันนัดนายไปดินเนอร์ก็แล้วกัน
ที่ร้านประจำของนายตอนหกโมงเย็นนะ...แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
แทมินพูดรัวเร็วด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะผุดลุกขึ้นและเดินจากไป
ทิ้งให้ไคอ้าปากค้างกับคำเชิญดินเนอร์นั้นอย่างงุนงง
ก็ถ้าจะมาเร็วเคลมเร็วขนาดนี้น่ะนะ...ปั่นหัวกันแล้วก็ไป... ไอ้บ้าเอ๊ย ไคคิด
“ฉันอุตส่าห์ช่วยทำให้นายหยุดร้องไห้ไง คนซื่อบื้อ!”
ไคคิดถึงคำพูดของแทมินที่พูดก่อนจะจากไป หลังจากนั้นก็ต้องแค่นยิ้มออกมาบางๆ
หึหึ....ความจริงแล้วมีลีแทมินมาคอยกวนประสาทแบบนี้ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ
ยิ้มก่อนจะลุกออกจากผับโดยไม่ลืมที่จะฝากฝังงานกับผู้จัดการผับที่ชื่อซังฮยอนเพียงแค่เล็กน้อย
แล้วจากนั้นไคก็กลับบ้านทันที...
.
.
.
ไคเคลื่อนรถสปอร์ตแอสตันมาตินสีควันบุหรี่ของเขาเข้าไปในบ้านอย่างช้าๆ
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว และภายในบ้านก็มืดสนิท
มีเพียงไฟดวงเดียวที่ส่องสว่าง ที่ป้าคิมมักจะเปิดเอาไว้เสมอตอนที่เขายังไม่กลับบ้าน
ไคสอดส่ายสายตาไปทั่วก่อนจะตัดสินใจลงจากรถ
เขายังไม่พร้อมจะเจอหน้าคยองซูตอนนี้...เขายังไม่อยากจะคิดเรื่องอะไรของคยองซูทั้งนั้นล่ะ
ยอมรับว่าเขาเองก็มึนกับฤทธิ์แอลกอฮอล์เหมือนกัน แอบนึกขอบคุณแทมินในใจ
ถ้าแทมินไม่ได้มากวนประสาทเขา ป่านนี้เขาคงนั่งจมกองเหล้าอยู่ในผับ และเมาหัวราน้ำเหมือนเคย
หรือบางทีคืนนี้เขาอาจจะสอยใครซักคนขึ้นไปนอนด้วยบนโรงแรมอีกนั่นแหละ
ถ้าเป็นอย่างนั้น...คืนนี้คงเป็นอีกหนึ่งคืนที่จะใช้ชีวิตให้แหลกเหลว
แต่นั่นต้องไม่ใช่วันนี้...เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร
แต่ไคไม่คิดอยากจะมีอารมณ์จะทำอะไรกับใครทั้งนั้นล่ะ
ไคถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นวี่แววของคยองซูในตัวบ้าน
เขาเดินขึ้นไปบนห้องอย่างอ่อนแรง พยายามเรียกสติด้วยการส่ายหัวหนักๆ ของตัวเองสองสามครั้ง
ไคเปิดประตูห้องอย่างช้าๆ เขาปรารถนาจะทิ้งตัวลงนอนบนฟูกให้หนำใจ
แต่เมื่อเปิดประตูห้องออก ไคก็พบคนที่เขาพยายามจะหลบหน้าอยู่ข้างในนั้น
ความรู้สึกอันน่าอึดอัดเกิดขึ้นมาอีกครั้ง...ความรู้สึกหนักอึ้งจนทำให้หัวใจของเขาแทบจะระเบิด
โดคยองซูกำลังนอนอยู่บนเตียงของเขา...
ดูจากท่านอนแล้วทำให้ไคเดาว่าคยองซูคงมานั่งรอเขาจนเผลอหลับไป
ห้องนอนของเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อเช้าแทบทุกอย่าง
หนังสือและแฟ้มงานที่วางระเกะระกะบนโต๊ะถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบ
ผ้าปูที่นอนสีทึบทึมของเขาถูกเปลี่ยนมาเป็นสีเหลืองอ่อนดูละมุนตา
ผ้าม่านสีน้ำตาลของไคถูกปลดออกไป ทำให้มองเห็นบรรยากาศยามค่ำคืนภายนอกตัวบ้านได้อีกครั้ง
อดีตย้อนกลับมาอีกครั้ง...เมื่อเขาได้เห็นวิวภายนอกหน้าต่างกลายเป็นห้องนอนของคยองซูที่ถูกเปิดไฟทิ้งไว้จนสว่าง
เหมือนเวลาย้อนกลับไปในวันวานอีกครั้ง ไคยกมือขึ้นกุมไว้ตรงเหนืออกด้านซ้าย
...หัวใจกำลังเต้นแรงทั้งๆที่ไม่มีสาเหตุ...
ไคเดินเข้าไปหาคนเป็นพี่ที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างช้าๆ พยายามเดินให้เงียบที่สุดเพื่อที่จะไม่ทำให้อีกคนตื่น
เขาหยุดเพื่อชั่งใจดูว่าจะปลุกคยองซูดีหรือไม่ แต่เมื่อได้มองขนตางอนงามเป็นแพของคยองซู
และใบหน้าขาวราวกับหิมะนั้นแล้วก็เปลี่ยนใจ...เขาคว้าผ้าห่มที่ถูกพับอยู่ที่ปลายเตียงเพื่อนำมันมาห่มให้กับพี่เขา
ลดตัวลงมานั่งที่ข้างเตียง... พร้อมๆ กับที่ค่อยๆ บรรจงมองเครื่องหน้านั้นอย่างระมัดระวัง
...ไคไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ...
หรือจะเรียกว่าน่ารักจนเขาแทบหยุดหายใจก็อาจจะเหมาะซะกว่า
ไคไม่อาจหยุดมองคยองซูได้เลย หัวใจที่กำลังเต้น...มันเต้นดังเสียจนเขากลัวว่าจะปลุกให้คยองซูตื่น
ยกมือขึ้นเกลี่ยไรผมที่ลงมาปรกหน้าขาวนั้นออกช้าๆ สายตาไล้มองลงมาเรื่อยๆ
ตั้งแต่ขนตางอนสวย จวบจนถึงรีมฝีปาก...
อยากจูบ...
เสียงที่ไม่เข้าท่าเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหูของไค...
และเขาก็ค่อยๆ โน้มตัวลงอย่างเชื่องช้า ปรารถนาจะทำตามเสียงเรียกร้องนั้น
ไคค่อยๆ บรรจงจูบลงไปที่ริมฝีปากนั้นเพียงแผ่วเบา เขาหลับตาพริ้มเพื่อรับสัมผัสนั้นเอาไว้ให้นานเท่านาน...
หากแต่มันไม่ได้เนิ่นนานมากเพียงพอที่จะทำให้ไคพึงพอใจ...
เมื่อเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาเสียก่อน...
“พี่ไค!!!”
เสียงตะโกนนั้นทำให้ไคต้องสะดุ้งสุดตัว เขาผุดลุกขึ้นจากข้างเตียงอย่างรวดเร็ว
และหันไปมองคนหายใจฮึดฮัดอยู่ที่ประตูหน้าห้อง
“ซ...เซฮุน!” ไคตะกุกตะกัก กลืนน้ำลายเมื่อมองเห็นสายตาของเซฮุน
“พี่กำลังทำอะไร???”
คยองซูตื่นแล้ว และเขากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คนเป็นพี่มองไคและเซฮุนสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจ...
หากแต่ตอนนี้ไคยังไม่สามารถจะอธิบายอะไรได้ทั้งนั้น...
“พี่...”
“พี่หายหน้าไปเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์ แต่สิ่งแรกที่ผมได้รับจากการรอพี่
คือการที่พี่มาจูบกับไอ้ผู้ชายคนนี้งั้นเหรอ???”
“จ...จูบเหรอ?” คยองซูทำตาโต ยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากตัวเองแล้วมองมาที่ไคอย่างไม่เชื่อสายตา
ไคกลืนน้ำลาย...รู้สึกว่าตัวเองถูกต้อนให้จนมุม เขาไม่อยากให้คยองซูรู้ว่าไคจูบเขา
หากแต่ก็ต้องการสั่งสอนเซฮุนที่มาทำตัวหยาบคายแบบนี้
เขารู้สึกว่ามันเริ่มจะมากเกินไป
“ใช่...พี่จูบ -- แต่จะทำไมล่ะ พี่มีสิทธิจูบใครก็ได้
พี่เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้นายเลิกทำตัวแบบนี้”
“จ...จงอิน คุยกับน้องดีๆ สิ ใจเย็นๆ ก่อน”
คยองซูเอื้อมมือไปสะกิดแขนของไคเบาๆ
หมายจะปรามคนเป็นน้องให้รักษาน้ำใจเซฮุนบ้าง
“แกน่ะเงียบไปเลยไอ้แมงดา!
กล้าดียังไงมายุ่งกับคนของฉัน!!” เซฮุนตะโกนก่อนจะเดินเข้ามาตบหน้าคยองซูเสียฉาดใหญ่
เพี๊ยะ!!!!!
แรงตบของเซฮุนทำเอาคยองซูทรุดลงไปกองกับพื้น
แก้มซ้ายของคยองซูขึ้นปื้นสีแดงก่ำเป็นรูปรอยนิ้วมือของเซฮุน และน้ำตาก็ไหลพรากลงมา
ไคเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นเหตุการณ์นั้น...และนาทีนั้น สติของไคก็ขาดผึง
“หยุดนะไอ้เด็กโง่!!”
“จงอิน อย่า!”
เขาคว้าตัวเซฮุนขึ้นมาแล้วฟาดฝ่ามือลงไปเต็มแรง
คยองซูพยายามตะโกนห้ามหากแต่ไม่ทันเสียแล้ว
เซฮุนหน้าหันตามแรงตบ...เขาหันมามองไคอย่างไม่เข้าใจ
“พ...พี่ไค! พี่ตบผมทำไม?!!!”
เซฮุนส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ น้ำตาของเขาไหลอาบแก้ม
“หยุดได้แล้วไอ้เด็กโง่! นายต่างหากที่ร่าน แมงดาเหรอ?? อย่ามาดูถูกคนอื่นหน่อยเลย!”
“พี่ด่าว่าผมโง่งั้นเหรอ??????” เซฮุนตะเบ็งเสียงอย่างโกรธจัด
“ใช่! นายมันโง่...ฟังภาษาคนออกหรือเปล่าฮะ???
ฉันไม่เคยรักนาย! ฉันบอกนายตั้งกี่ครั้งแล้วว่านายไม่มีสิทธิจะมาก้าวก่ายฉัน!
นายไม่มีสิทธิมาตบหน้าผู้ชายของฉัน!”
“จ...จงอิน พอเถอะ หยุดพูดเถอะนะ”
“ไม่...คยองซู ผมทนไม่ไหวแล้ว ยังไงผมก็จะพูด เอาให้มันจบไปวันนี้เลย”
“ฮึก...ทำไมพี่ถึงทำอย่างนี้ล่ะไค...พี่เอาผมไปไว้ที่ไหน
พี่บอกผมมาสิว่าไอ้นี่มันเป็นใคร ทั้งๆ ที่มาทีหลังถึงได้พี่ไป
ผมหล่อกว่า รวยกว่า แถมยังเด็กกว่า บอกผมมาสิว่าผมสู้ไม่ได้ตรงไหน!!!!”
“นายมันเป็นแค่ไอ้เด็กร่านเอาแต่ใจ!! ว่าไงนะ? รวยกว่างั้นเหรอ?? เงินที่นายใช้ทุกวันนี้เป็นเงินของฉันทั้งนั้น
เอาสิ! ถ้านายคิดว่านายรวยนักหนาก็บอกให้แม่นายถอนหุ้นออกไปให้หมดซะพรุ่งนี้เลย!
จะได้รู้ไว้ซะว่าอย่ามาดูถูกผู้ชายของฉันอีก!”
“พี่ไค!!!”
เซฮุนตะโกนอย่างขัดใจ เขารู้ดีว่าเขากับแม่มีเงินร่ำรวยเพราะธุรกิจของไคทั้งนั้น
มันคงไม่ดีแน่ถ้าเกิดหุ้นทั้งหมดจะถูกขายออกไป เซฮุนกัดริมฝีปากอย่างโกรธขึ้ง
จะอ้าปากเถียงก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปเถียงเสียด้วย เลยต้องยืนเงียบเป็นใบ้กินแบบนี้
“อ้อ...อีกอย่างนะ อย่าสำคัญตัวเองผิด
ผู้ชายคนนี้เป็นคนสำคัญของฉัน และนายน่ะ...ไม่เคยมีค่าอะไรเลยถ้าเทียบกับเขา
และจำไว้ด้วยว่า...นายน่ะเป็นคู่นอนคนที่ร้อยหกสิบสองของฉัน แต่ผู้ชายคนนี้เป็นคนแรก!!!!”
“ว...ว่าไงนะ????”
เซฮุนแทบไม่เชื่อสิ่งที่เขาได้ยิน ผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้มีความสำคัญต่อไคขนาดนี้เลยหรือ
ได้แต่คิดในใจเท่านั้น เพราะตอนนี้ไคกลับเริ่มตะเบ็งเสียงใส่เขาอีกครั้งซะแล้ว
“ออกไปจากบ้านฉันซะโอเซฮุน!!
นายได้ยินที่ฉันพูดแล้ว และหวังว่าคงจะเข้าใจนะ
ออกไปซะเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!!!!”
พูดพลางส่งสายตาเหี้ยมเกรียมส่งให้เซฮุน ...
เป็นสายตาที่โกรธและขุ่นเคืองและดูน่าเกรงขามเช่นเดียวกัน นี่สินะที่เขาว่ากันว่าไคมีด้านปีศาจอยู่ในตัว...
เห็นสายตาอย่างนี้แล้วทำให้เซฮุนทำใจเชื่อไม่ได้เลย ว่านี่เป็นคือคนที่เคยปรนเปรอความสุขให้กับเขาเสมอ
เซฮุนมีท่าทีฮึดฮัด อยากจะเถียงอยากจะเหวี่ยงออกไปให้มากเท่ากับความรู้สึกเสียใจและเสียหน้า
หากแต่ท่าทางของไคมันทำให้เขารู้ว่าเขาควรต้องไปจากตรงนี้แล้วจริงๆ
“พ...พี่มันใจร้าย!! พี่มันคนไม่มีหัวใจ!!!”
ตะโกนใส่หน้าคนที่ทำให้เขาร้องไห้ ก่อนจะกระแทกเท้าเดินออกจากบ้านไป เซฮุนน้ำตาไหลอาบหน้า
ไคไม่เคยรู้หรอกว่าเขารักไคแค่ไหน เขาอาจจะออกไปมีอะไรต่อมิอะไรกับคนอื่น
แต่นั่นก็เป็นเพราะไคไม่เคยตอบสนองความรักของเขาเลย เขาต้องการความรักตอบแทนมาบ้าง
แต่สิ่งที่จะทำให้เขาใกล้ชิดกับไคได้ก็มีเพียงแค่เซ็กส์เท่านั้น...ไคไม่เคยเข้าใจความรักของเขาเลย
สิ่งที่เขาต้องการมันเป็นแค่เพียงฟองอากาศ มันไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับไค...
เขาหันหลังกลับไปมองบ้านของคนที่เขารัก ที่เขาแวะเทียวไปมาเช้าเย็นตลอดไม่ได้ขาด
ต่อไปนี้คงไม่ได้มาอีกแล้ว...คงไม่ต้องมาทำให้ใครได้รำคาญอีก
เซฮุนปาดน้ำตาก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
นี่แหละผลตอบแทนของการที่เขาไปรักคนที่ไม่ควรรัก...
ถึงมันจะเจ็บปวด แต่มันเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง
เขามันเป็นแค่คนไม่เจียมตัว จะให้เขาทำอย่างไรได้ล่ะ
สิ่งที่เขาต้องทำก็คืออดทนเท่านั้น...ไม่มีสิทธิแม้จะอุทธรณ์อะไรได้อีก
คิดก่อนจะเปิดประตูรถยนต์แล้วขับออกไปโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีก
อิจฉา...อิจฉาผู้ชายคนนั้นเหลือเกิน
เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คนแรกของไคเท่านั้น
แต่เป็นคนสำคัญ -- คนสำคัญที่กำหนดชีวิตของพี่เขา
สุดท้ายแล้วโอเซฮุนก็ทำได้เพียงแค่นี้
.
.
.
กลับมาเป็นได้เพียงแค่คนที่เฝ้ามอง...
✚TALK
ตอนนี้อิเสี่ยของเราตัดหางปล่อยวัดเด็กในฮาเร็มออกไปได้สองคน *ปาดเหงื่อ*
ยังเหลือใครอีกนะ...โอ้วมาย เหลืออีกเยอะเลยยยยยยยยยใช่มั้ยยยย
มาต่อให้แล้วนะคะ ช่วงนี้อาจจะช้าหน่อย เพราะไม่ค่อยมีเวลาเลยอ่าาา :'(
แต่ไม่หายค่ะ ไม่หายแน่นอนเน้อออ แล้วจะรีบมาต่อให้ค่ะะะ
รักรีดเดอร์ :)
ความคิดเห็น