ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ✚ :: CURSE :: ✚ [ KAI & D.O. ]*

    ลำดับตอนที่ #16 : ::::::::::::::: CURSE ' 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.67K
      12
      28 ม.ค. 56

     Author : `MR.$N0WMAN * 
    Pairing : Kim Jongin
    Xiao Luhan/Oh Sehun/Zhang Yi xing/
    Kim Junmyun/Krystal JungDo Kyungsoo
    Rate : PG - 16






     

    ✚ CURSE ' 15









    ..I lost my mind...

    ฉันเสียความเป็นตัวเอง เมื่อตอนที่ฉันได้พบคุณ

    นอกจากคุณคนเดียวแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูจะช้าลงไปเสียหมด

    บอกกับฉันหน่อย ถ้าหากว่านี่คือความรัก

    ทุกทุกวันที่อยู่กับคุณ...ฉันได้เรียนรู้และรู้จักกับความรู้สึกมากมาย

    โต้เถียง เสียน้ำตาและโอบกอดกันและกัน

    โปรดเถอะช่วยบอกฉันที ว่าความรักคืออะไร...


    (Song : EXO-K - What is love)

     

     

     

     

    ฟู่ววววว... ไคถอนหายใจพลางยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ

     

     

     

     

    คิดถึงเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาแล้วมันทำให้เขาใจหาย

    เขาใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายปีโดยที่ไม่มีปัญหาอะไรมาทำให้หงุดหงิด

    (อันความจริงก็มีบ้างแหละ ถ้าลงรายละเอียดลึกลงไปอีกหน่อย เช่น เซฮุนหรือแทมิน ซึ่งนั่นก็ทำให้หงุดหงิดอยู่พอสมควร)

    แต่โดยรวมแล้วเขาก็ยังโอเคอยู่จนกระทั่งคยองซูกลับมา

     

     

     

    โด คยองซู...ผู้ชายคนนี้อีกแล้วสินะที่ทำให้เขาสูญเสียการควบคุม... ไคคิด พลางหัวเราะในลำคออย่างอนาจตัวเอง

     

     

     

     

    น่าแปลกเหลือเกินนะ...โลกนี้มันน่าประหลาด

    ไคคนนี้ คนที่ทิ้งขว้างผู้หญิงผู้ชายได้ไม่เลือกหน้า

    กลับต้องมาเป็นคนอ่อนแอและหวั่นไหวเพียงเพราะผู้ชายตัวเล็กๆ แค่เพียงคนเดียว

    แค่เพียงเขามาปรากฏตัวเท่านั้น ก็ทำให้ไคต้องเสียน้ำตาได้ง่ายๆ

     

     

     

    มันยากเหลือเกินที่จะทำใจไม่ให้คิดเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาได้ ถึงแม้เขาจะพยายามอย่างมากแล้วก็เถอะ

    ทุกครั้งที่ไคคิดถึงคยองซู ความทรงจำเก่าๆ มักจะกลับมาทำร้ายไคเสมอ

     

     

    ไคหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะหยิบเครื่องดื่มรสเฝื่อนขมเข้าปาก

    กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เคล้าละมุนอยู่ในปากของเขานั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยแม้ซักนิด

     

     

     

    น่าแปลกเหลือเกิน...เพราะยิ่งมันผ่านลงคอไปเท่าไหร่ อะไรๆ ที่อยากจะลืมเลือนกลับยิ่งทำได้ยากเหลือเกิน

    เขาดื่มเพื่อหวังว่ามันจะช่วยให้เขาลืมทุกอย่าง หากแต่มันกลับทำให้เขาต้องร้องไห้ออกมาจนได้

    ความอัดอั้นที่มีมาตั้งแต่ช่วงเย็น ที่เขาอดกลั้นและพยายามจะไม่ร้องไห้

    แต่พอแอลกอฮอล์เข้าปากเท่านั้นล่ะ ความอดทนอดกลั้นและกำแพงทุกอย่างที่เขาก่อก็พังทลายลงอย่างช้าๆ

     

     

     

    น้ำตาของไคไหลรินลงมาเป็นสาย...ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรแล้ว

    เสียงเพลงและแสงไฟมืดสลัวของผับอันใหญ่โตแห่งนี้ทำให้ไคปลดปล่อยตัวเองอย่างช้าๆ

    สุดท้ายแล้วเขาก็ได้รู้ ว่าที่ๆเขารู้สึกผูกพันที่สุดก็คือที่นี่นั่นเอง

    จะมีที่ไหนที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจได้ ก็คงไม่พ้นที่นี่หรอก

    ไม่มีที่ไหนเลย...ไม่มี

     

     

     

     

    นายร้องไห้ทำไม?”

     

     

     

     

    ไคหันไปมองคนที่ถามคำถาม ก่อนหันมาปาดน้ำตา

     

     

     

    ฉันเปล่า...

     

     

     

    ไคตอบก่อนจะหันไปมองค้อนแทมินที่นั่งลงมาที่โซฟาข้างตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต

    แทมินกรอกตาก่อนจะแค่นยิ้ม เขาส่ายหน้าอย่างช้าๆ เมื่อได้เห็นไคกำลังปาดน้ำตาและทำท่าทางให้เป็นปกติ

     

     

     

    โกหกชัดๆแทมินพูดพลางถอนหายใจ

     

     

     

    นายมาที่นี่ทำไม?” ไคกระชากเสียงถาม

     

     

     

    ฉันมาไม่ได้หรือไง

    ที่นี่เป็นผับ...ใครๆ ก็มาได้ไม่ใช่เหรอ?”

     

     

     

    เหอะ...ไคเบ้หน้า

     

     

     

    หยิบแก้วขึ้นมายกขึ้นจิบอีกครั้ง

    หากแต่ไม่ทันได้เข้าปากมือของแทมินก็คว้าแก้วนั้นไปจากมือของไคซะก่อน

     

     

     

    เฮ้!! นายทำอะไรน่ะแทมิน? เอาแก้วฉันคืนมา!

     

     

     

     

    พอได้แล้วไค นายเมามากแล้วนะ ฉันเห็นนายดื่มตั้งแต่เย็นแล้วยังไม่พออีกหรือไง?”

     

     

     

     

    “................”ไคไม่ตอบ เขาบิดหน้าไปอีกทางเพื่อไม่ให้แทมินเห็นหน้าเขาอีก

     

     

     

     

    ฉันเป็นห่วงนายนะ

    โอเค ฉันมาที่นี่เพราะว่ามาหานาย

    ฉันไปหานายที่บ้านแต่ป้าคิมบอกว่านายไม่อยู่...ฉันรู้ว่านายอยู่ที่นี่ก็เลยมา

     

     

     

    มีธุระอะไรกับฉัน?”

     

     

     

    ฉันว่าจะชวนนายไปดินเนอร์น่ะสิ เป็นเพื่อนกันจะคิดถึงกันไม่ได้บ้างเลยหรือไง?”

     

     

     

    นายก็รู้ว่าฉันไม่ใช่เพื่อนนาย

     

     

     

    แต่นายเป็นเพื่อนฉันไง

     

     

     

    เหอะ...ก็แค่เพื่อนนอน

     

     

     

    คำว่าเพื่อนของฉันมีแค่แบบเดียว ฉันไม่ต้องให้คำจำกัดความแบบนายหรอก

    คำว่าเพื่อนในแบบของฉันก็คือ -- ไม่ว่าจะเป็นยังไงเขาก็จะยังเป็นคนที่ฉันจะห่วงใยเสมอ

     

     

     

     

    “......”

     

     

     

     

    ไคเงียบลงไปอีกครั้ง เขาชะงักนิดหน่อย

    เขาไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกว่าเพื่อนจริงๆ แล้วความหมายมันเป็นยังไง

    เพราะสำหรับเขา เพื่อนคือคนที่ไคจะสามารถเหยียบให้จมดิน เพื่อให้เขาได้สูงขึ้นไปได้

     

     

     

     

    อย่ามาทำเป็นดีกับฉันหน่อยเลยลี แทมิน

    นายกะจะให้ฉันหันไปเห็นความดีแล้วคบกับนายล่ะสิ

    นิสัยแบบพวกนางเอกใช้ไม่ได้กับฉันหรอกนะ บอกไว้ก่อน

     

     

     

     

    ฮ่ะๆ...อย่าสำคัญตัวผิดไปหน่อยเลยที่รัก

    ฉันรู้ดีแล้วว่าควรจะอยู่ตรงไหน ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีสมองหรอกนะ

    ลองมาคิดดูแล้วถึงฉันคบกับนายไปก็คงไม่มีประโยชน์ เผลอๆ จะกลายเป็นควายเผือกเสียด้วยซ้ำน่ะสิ

     

     

     

     

    หมายความว่านายจะไม่ทำตัวแบบนั้นกับฉันแล้วว่างั้น?”

     

     

     

     

    แน่นอน...ตอนนี้ฉันกับมินโฮกำลังค่อยๆ ปรับตัวและพยายามที่จะเรียนรู้กันใหม่

    เราพยายามจะมองข้ามปัญหาที่เคยเกิดขึ้นทุกอย่างและเริ่มต้นกันใหม่หมดเลย

    นายรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขเหมือนตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ เลย เออ...แล้วฉันจะพล่ามให้นายฟังทำไมเนี่ย

    ยังไงก็ตามเถอะ! ตอนนี้ฉันกับมินโฮดีกันแล้ว ฉันกำลังพยายามอย่างมากที่จะซื่อสัตย์กับเขา

    ฉันเกลี้ยกล่อมมินโฮสุดๆ เลยนะ ไม่ให้เขาติดใจเรื่องฉันกับนาย

     

     

     

     

    ว่าไงนะ! หมายความว่าไงเรื่องฉันกับนาย???”

     

     

     

     

    เอ่อ...คือฉันกับมินโฮสัญญาที่จะพูดความจริงกันทุกเรื่องน่ะ

    ฉันเลยสารภาพไปเรื่องของนายกับฉัน ตอนแรกมินโฮก็โกรธอยู่น่ะนะ

    แต่มินโฮเองก็เคยไปมีอะไรกับคนอื่นเหมือนกัน -- ถึงจะแค่ครั้งเดียวก็เถอะ...ก็เลยหยวนๆกันไป

    หลังจากนั้นเราก็ทำสัญญาใจกันด้วยเซ็กส์อันร้อนแรงที่สุดในรอบปีของเรา

    ฉันสัญญาว่าจะไม่นอกใจหรือนอกกายกับเขาอีก เขาเลยตกลงให้ฉันได้ใช้โอกาสแก้ตัวอ่ะนะ

     

    แต่นายน่าจะเห็นหน้าของมินโฮนะ มันน่ากลัวสุดๆไปเลยล่ะ

    ตอนที่เขารู้ว่าฉันกับนาย -- เอ่อ...แบบว่า เคยได้กัน

     

     

     

    แทมินยักไหล่แบบขอไปทีเมื่อพูดถึงท้ายประโยค...แต่มันทำเอาผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ฟัง

     

     

     

    ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำฉันมีปัญหา

    นายอยากจะทะเลาะจะดีกันมันก็เรื่องของพวกนาย...แต่อย่าเอาฉันเข้าไปยุ่ง

     

     

     

    ไคชักสีหน้าพร้อมทั้งหรี่ตาลงอย่างไม่พอใจ

    แทมินเห็นอย่างนั้นก็หัวเราะก่อนจะวางแก้วของไคที่ถือไว้ในมือลงบนโต๊ะแล้วกลับมากอดอกอย่างมีมาดอีกครั้ง

    เขายังคงยักไหล่เหมือนกับเห็นว่าเรื่องที่พวกเขาคุยกันนั้นเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ

     

     

     

    แต่ฉันก็ไม่ได้ทำให้นายมีปัญหานิ นายเห็นพี่มินโฮโทรมาวีนนายไหมล่ะ?

    ฉันมีปัญญาจะง้อสามีฉันโดยไม่ให้นายต้องมีปัญหาหรอกน่ะ รู้ไว้ซะมิสเตอร์คิม

     

     

     

    เขายังคงยักไหล่แบบกวนประสาทอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง

    ไคกรอกตาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อได้เห็นภาพนั้น ก่อนจะถอนหายใจ

     

     

     

     

    แล้วนี่นายยังจะมีหน้ากลับมาชวนฉันดินเนอร์อีก ชเวมินโฮจะไม่ว่าเอาหรือไง?

    ฉันบอกนายแล้วนะว่าฉันไม่อยากมีปัญหา

     

     

     

    ฉันคุยกับมินโฮแล้วว่าจากนี้ไปฉันจะซื่อสัตย์กับเขา และฉันบริสุทธิ์ใจที่จะพิสูจน์มันไงล่ะ

    ตอนแรกเขาก็มีปัญหาอยู่หรอก แต่สุดท้ายแล้วมินโฮก็ให้โอกาสฉัน

    นั่นเพราะฉันเป็นเพื่อนนายไง อันความจริงเราก็คบกันมานาน ก็แค่เพื่อนน่ะ...

    ฉันหมายถึง -- กลับมาเป็นเพื่อน -- แล้วก็ เอ่อ...จากนี้ต่อไป

     

     

     

     

    เหอะ...มินโฮเป็นบาทหลวงหรือไง ทำไมเขาถึงไม่เอาเรื่องนายให้ตายๆ ไปซะ จะได้ไม่กลับมากวนใจฉันแบบนี้

     

     

     

     

    ไคแย่งแก้วของตัวเองมาจากเบื้องหน้าของแทมินแล้วยกขึ้นจิบอีกครั้งหนึ่ง

    หัวเราะในลำคอเมื่อได้เห็นแทมินเหลือกตาใส่ผมยกใหญ่ ตอนผมยกมันขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว

    เขาส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนจะพูดต่อไป

     

     

     

    เหอะ...ยังไงก็ช่างเถอะ ฉันคืนดีกับมินโฮได้แล้วกัน

    ฉันไม่คุยเรื่องพวกนี้กับนายดีกว่า พูดไปนายก็ไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร นายมันคนไม่มีหัวใจนี่

    นายคงไม่รู้หรอก ว่าการให้อภัยเพราะรักใครซักคนน่ะเป็นยังไง

     

     

     

    แทมินพูดลอยๆ อย่างไม่ใส่ใจ เขากำลังจิบม็อกเทลสตอว์เบอร์รี่ที่บริกรยกมาให้

    แค่นยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อได้เห็นไคเงียบลงไปในอึดใจ

     

     

     

    ถ้าคิดไว้ไม่ผิดคงเป็นเรื่องพวกนี้ล่ะมั้ง ชีวิตของไคก็มีปัญหาอยู่เรื่องเดียวนั่นแหละ เรื่องที่เขาเกลียดคำว่ารัก

    จะปวดหัวเพราะเรื่องเงินทองน่ะไม่มีทางหรอกเพราะว่าเขาน่ะรวยล้นฟ้า

    เพราะฉะนั้นแล้วถ้าไคมีเรื่องอะไรจะต้องเครียดก็คงจะเป็นเรื่องหัวใจ(อันอ่อนแอ)อีกตามเคย

    เหอะ...แต่เขาไม่เคยรู้ตัวหรอก เพราะเขาน่ะวางท่าทำตัวเป็นคนไม่มีหัวใจเสียเรื่อยเลย

     

     

     

    แทมินคิดในใจพลางแค่นหัวเราะ

    ไคหันมามองค้อนที่แทมินทำเสียงคล้ายคลึงกับว่าจะหัวเราะเยาะเขาอยู่อย่างไรก็อย่างนั้น (และก็ใช่เสียด้วยสิ)

     

     

     

    นายหัวเราะอะไรนักหนา

     

     

     

    ก็เปล่านี่...หัวเราะคนไม่มีหัวใจบางคนเท่านั้นแหละ

    โอ๊ะ -- ฉันแค่พูดลอยๆนะ อย่าร้อนตัวล่ะแทมินยิ้มพลางกัดน้ำแข็งในปากดังกรุบๆ อย่างสบายอารมณ์

     

     

     

    ไคถอนหายใจอย่างหงุดหงิด

    เขาล่ะเกลียดนักเชียวเวลาที่ใครมากวนประสาทเขาแบบนี้

    นี่คงจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดสุดๆ แล้วล่ะที่ได้มารู้จักผู้ชายคนนี้

     

     

     

     

    อันความจริงแทมินกับไคเป็นเพื่อนเรียนในสาขาเดียวกันในมหาลัย(และไอ้จงแดด้วย)

    ลีแทมินเป็นผู้ชายที่ฐานะดีมาก เพราะว่าบ้านทำกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในหลายประเทศ

    แต่ถึงเขาจะรวยแค่ไหนก็ช่างเถอะ แต่เอาเป็นว่าไคน่ะคบกับแทมินเพื่อเพิ่มค่านิยมให้ตัวเองในมหาลัยนั่นแหละ

    แทมินมีเพื่อนเยอะแถมยังเป็นพวกลูกคนรวยทั้งนั้น ไคจึงไม่พลาดที่จะไปทำความรู้จักกับคนพวกนั้นเอาไว้

    เผื่อว่าเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากคนพวกนั้นในอนาคตยังไงล่ะ

     

    ซึ่งตามความจริงแล้วแทมินนี่ล่ะมีประโยชน์กับเขาสุดๆ เพราะตอนเขาเปิดโรงแรมยังไปขอคำปรึกษาจากแทมินอยู่เลย

    (แต่พอมาตอนนี้โรงแรมของผมก็เป็นคู่แข่งกับเขาไปซะแล้ว...โอ ตอนนี้เขาคงจะเสียใจที่ช่วยเหลือผมในตอนนั้นแน่ๆ เลย)

     

     

     

    ผมและแทมินเป็นเพื่อน(?)กันมานานพอสมควร

    จนผมจัดการเปลี่ยนสถานะของเขาเป็นแค่เซ็กส์เฟรนด์เมื่อปีก่อนหน้า

    เพราะเขาเริ่มมีปัญหากับมินโฮและมาคลุกคลีอยู่กับผมบ่อยขึ้น

    ตัวผมเองไม่ชอบจะฟังปัญหาชีวิตของใครซักเท่าไหร่ ก็เลยจัดการปิดปากแทมินแล้วจับปล้ำซะ...

    เรื่องทุกอย่างก็เลยจบลงที่คำว่าเซ็กส์...

     

     

     

     

    อ๊ะ! แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมารำลึกความหลังนะ...เขากำลังกวนประสาทผมถึงขีดสุด

    ผมควรทำยังไงถึงจะสลัดแทมินพ้นไปได้ซักทีนะ อา...นี่มันบ้าจริงๆ

     

     

     

     

    นายจะไปได้หรือยังแทมิน ฉันอยากจะดื่มคนเดียวเงียบๆ

     

     

     

    โอ้...นี่นายกำลังไล่คนที่ช่วยเหลือนายอยู่เหรอเนี่ย? นายนี่เสียมารยาทจัง

     

     

     

    แทมินหันมายิ้มเยาะก่อนจะยกเครื่องดื่มในแก้วขึ้นดื่มมันจนหมด

    ก่อนจะหันมายักคิ้วให้ไคทีหนึ่ง (ซึ่งในความเห็นของไคมันโคตรจะยั่วโมโหที่สุดเลย)

     

     

     

    เหอะ...นายช่วยเหลืออะไรฉันไม่ทราบไคหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินแทมินพูดทวงบุญคุณ

     

     

     

    เอ้า! นายไม่รู้หรือนี่ น่าเสียใจชะมัด

    ฉันอุตส่าห์ช่วยทำให้นายหยุดร้องไห้ไงล่ะ คนซื่อบื้อ!

    อย่าคิดเถียงเชียวนะ นายจะบอกฉันได้เหรอว่าตอนนี้นายไม่ได้หยุดร้องไห้แล้วน่ะ

    เห็นไหมล่ะ ว่าพอฉันมานายก็ลืมเรื่องเศร้าๆ ที่นายกำลังคิดอยู่

    บางทีมีเพื่อนคุยก็ดีไปอีกแบบนะว่าไหม...อาจจะกวนประสาทแต่ก็ทำให้รู้ว่าตัวเราเองไม่ได้อยู่คนเดียว

     

     

     

     

    แทมินขยิบตาส่งให้ไค เขาพูดพลางยิ้มร่าที่เห็นใบหน้าเหรอหราของไค

    เขาหัวเราะอย่างสนุกสนานเมื่อเห็นว่าตัวเองมีชัย เพราะไคไม่ได้ออกปากเถียงกลับมาอีก

    ความจริงแล้วไคเองก็อ้าปากจะเถียงอยู่ครั้งหรือสองครั้ง หากแต่ก็ต้องเงียบลงไป

     

     

    เอาล่ะ...ถ้านายอยากจะคิดอะไรต่อคนเดียวก็แล้วแต่นะ

    แต่ฉันแนะนำว่านายควรกลับบ้าน กินยาระงับอาการประสาทของนายซักเม็ดแล้วก็นอนซะ

    เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันนัดนายไปดินเนอร์ก็แล้วกัน

    ที่ร้านประจำของนายตอนหกโมงเย็นนะ...แล้วเจอกันพรุ่งนี้

     

     

     

     

    แทมินพูดรัวเร็วด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะผุดลุกขึ้นและเดินจากไป

    ทิ้งให้ไคอ้าปากค้างกับคำเชิญดินเนอร์นั้นอย่างงุนงง

     

     

     

     

    ก็ถ้าจะมาเร็วเคลมเร็วขนาดนี้น่ะนะ...ปั่นหัวกันแล้วก็ไป... ไอ้บ้าเอ๊ย ไคคิด

     

     

     

     

    “ฉันอุตส่าห์ช่วยทำให้นายหยุดร้องไห้ไง คนซื่อบื้อ!

     

     

     

    ไคคิดถึงคำพูดของแทมินที่พูดก่อนจะจากไป หลังจากนั้นก็ต้องแค่นยิ้มออกมาบางๆ

     

     

     

    หึหึ....ความจริงแล้วมีลีแทมินมาคอยกวนประสาทแบบนี้ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ

     

     

     

    ยิ้มก่อนจะลุกออกจากผับโดยไม่ลืมที่จะฝากฝังงานกับผู้จัดการผับที่ชื่อซังฮยอนเพียงแค่เล็กน้อย

    แล้วจากนั้นไคก็กลับบ้านทันที...

     

     

     

     

    .

     

     

    .

     

     

    .

     

     

     

     

    ไคเคลื่อนรถสปอร์ตแอสตันมาตินสีควันบุหรี่ของเขาเข้าไปในบ้านอย่างช้าๆ

    ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว และภายในบ้านก็มืดสนิท

    มีเพียงไฟดวงเดียวที่ส่องสว่าง ที่ป้าคิมมักจะเปิดเอาไว้เสมอตอนที่เขายังไม่กลับบ้าน

    ไคสอดส่ายสายตาไปทั่วก่อนจะตัดสินใจลงจากรถ

     

     

     

    เขายังไม่พร้อมจะเจอหน้าคยองซูตอนนี้...เขายังไม่อยากจะคิดเรื่องอะไรของคยองซูทั้งนั้นล่ะ

     

     

     

    ยอมรับว่าเขาเองก็มึนกับฤทธิ์แอลกอฮอล์เหมือนกัน แอบนึกขอบคุณแทมินในใจ

    ถ้าแทมินไม่ได้มากวนประสาทเขา ป่านนี้เขาคงนั่งจมกองเหล้าอยู่ในผับ และเมาหัวราน้ำเหมือนเคย

    หรือบางทีคืนนี้เขาอาจจะสอยใครซักคนขึ้นไปนอนด้วยบนโรงแรมอีกนั่นแหละ

     

    ถ้าเป็นอย่างนั้น...คืนนี้คงเป็นอีกหนึ่งคืนที่จะใช้ชีวิตให้แหลกเหลว

    แต่นั่นต้องไม่ใช่วันนี้...เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร

    แต่ไคไม่คิดอยากจะมีอารมณ์จะทำอะไรกับใครทั้งนั้นล่ะ

     

     

     

     

    ไคถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นวี่แววของคยองซูในตัวบ้าน

    เขาเดินขึ้นไปบนห้องอย่างอ่อนแรง พยายามเรียกสติด้วยการส่ายหัวหนักๆ ของตัวเองสองสามครั้ง

    ไคเปิดประตูห้องอย่างช้าๆ เขาปรารถนาจะทิ้งตัวลงนอนบนฟูกให้หนำใจ

    แต่เมื่อเปิดประตูห้องออก ไคก็พบคนที่เขาพยายามจะหลบหน้าอยู่ข้างในนั้น

    ความรู้สึกอันน่าอึดอัดเกิดขึ้นมาอีกครั้ง...ความรู้สึกหนักอึ้งจนทำให้หัวใจของเขาแทบจะระเบิด

     

     

     

    โดคยองซูกำลังนอนอยู่บนเตียงของเขา...

     

     

     

    ดูจากท่านอนแล้วทำให้ไคเดาว่าคยองซูคงมานั่งรอเขาจนเผลอหลับไป

    ห้องนอนของเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อเช้าแทบทุกอย่าง

    หนังสือและแฟ้มงานที่วางระเกะระกะบนโต๊ะถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบ

    ผ้าปูที่นอนสีทึบทึมของเขาถูกเปลี่ยนมาเป็นสีเหลืองอ่อนดูละมุนตา

    ผ้าม่านสีน้ำตาลของไคถูกปลดออกไป ทำให้มองเห็นบรรยากาศยามค่ำคืนภายนอกตัวบ้านได้อีกครั้ง

     

     

    อดีตย้อนกลับมาอีกครั้ง...เมื่อเขาได้เห็นวิวภายนอกหน้าต่างกลายเป็นห้องนอนของคยองซูที่ถูกเปิดไฟทิ้งไว้จนสว่าง

    เหมือนเวลาย้อนกลับไปในวันวานอีกครั้ง ไคยกมือขึ้นกุมไว้ตรงเหนืออกด้านซ้าย

     

     

     

     

    ...หัวใจกำลังเต้นแรงทั้งๆที่ไม่มีสาเหตุ...

     

     

     

     

    ไคเดินเข้าไปหาคนเป็นพี่ที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างช้าๆ พยายามเดินให้เงียบที่สุดเพื่อที่จะไม่ทำให้อีกคนตื่น

    เขาหยุดเพื่อชั่งใจดูว่าจะปลุกคยองซูดีหรือไม่ แต่เมื่อได้มองขนตางอนงามเป็นแพของคยองซู

    และใบหน้าขาวราวกับหิมะนั้นแล้วก็เปลี่ยนใจ...เขาคว้าผ้าห่มที่ถูกพับอยู่ที่ปลายเตียงเพื่อนำมันมาห่มให้กับพี่เขา

    ลดตัวลงมานั่งที่ข้างเตียง... พร้อมๆ กับที่ค่อยๆ บรรจงมองเครื่องหน้านั้นอย่างระมัดระวัง

     

     

     

    ...ไคไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ...

     

     

     

    หรือจะเรียกว่าน่ารักจนเขาแทบหยุดหายใจก็อาจจะเหมาะซะกว่า

     

     

    ไคไม่อาจหยุดมองคยองซูได้เลย หัวใจที่กำลังเต้น...มันเต้นดังเสียจนเขากลัวว่าจะปลุกให้คยองซูตื่น

    ยกมือขึ้นเกลี่ยไรผมที่ลงมาปรกหน้าขาวนั้นออกช้าๆ สายตาไล้มองลงมาเรื่อยๆ

    ตั้งแต่ขนตางอนสวย จวบจนถึงรีมฝีปาก...

     

     

     

    อยากจูบ...

     

     

     

    เสียงที่ไม่เข้าท่าเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหูของไค...

    และเขาก็ค่อยๆ โน้มตัวลงอย่างเชื่องช้า ปรารถนาจะทำตามเสียงเรียกร้องนั้น

    ไคค่อยๆ บรรจงจูบลงไปที่ริมฝีปากนั้นเพียงแผ่วเบา เขาหลับตาพริ้มเพื่อรับสัมผัสนั้นเอาไว้ให้นานเท่านาน...

     

    หากแต่มันไม่ได้เนิ่นนานมากเพียงพอที่จะทำให้ไคพึงพอใจ...

    เมื่อเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาเสียก่อน...

     

     

    พี่ไค!!!

     

     

     

     

    เสียงตะโกนนั้นทำให้ไคต้องสะดุ้งสุดตัว เขาผุดลุกขึ้นจากข้างเตียงอย่างรวดเร็ว

    และหันไปมองคนหายใจฮึดฮัดอยู่ที่ประตูหน้าห้อง

     

     

     

    ซ...เซฮุน!ไคตะกุกตะกัก กลืนน้ำลายเมื่อมองเห็นสายตาของเซฮุน

     

     

     

    พี่กำลังทำอะไร???”

     

     

     

    คยองซูตื่นแล้ว และเขากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    คนเป็นพี่มองไคและเซฮุนสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจ...

    หากแต่ตอนนี้ไคยังไม่สามารถจะอธิบายอะไรได้ทั้งนั้น...

     

     

     

    พี่...

     

     

     

    พี่หายหน้าไปเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์ แต่สิ่งแรกที่ผมได้รับจากการรอพี่

    คือการที่พี่มาจูบกับไอ้ผู้ชายคนนี้งั้นเหรอ???”

     

     

     

    จ...จูบเหรอ?” คยองซูทำตาโต ยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากตัวเองแล้วมองมาที่ไคอย่างไม่เชื่อสายตา

     

     

     

    ไคกลืนน้ำลาย...รู้สึกว่าตัวเองถูกต้อนให้จนมุม เขาไม่อยากให้คยองซูรู้ว่าไคจูบเขา

    หากแต่ก็ต้องการสั่งสอนเซฮุนที่มาทำตัวหยาบคายแบบนี้

    เขารู้สึกว่ามันเริ่มจะมากเกินไป

     

     

     

    ใช่...พี่จูบ -- แต่จะทำไมล่ะ พี่มีสิทธิจูบใครก็ได้

    พี่เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้นายเลิกทำตัวแบบนี้

     

     

     

    จ...จงอิน คุยกับน้องดีๆ สิ ใจเย็นๆ ก่อน

     

     

     

    คยองซูเอื้อมมือไปสะกิดแขนของไคเบาๆ

    หมายจะปรามคนเป็นน้องให้รักษาน้ำใจเซฮุนบ้าง

     

     

     

    แกน่ะเงียบไปเลยไอ้แมงดา!

    กล้าดียังไงมายุ่งกับคนของฉัน!! เซฮุนตะโกนก่อนจะเดินเข้ามาตบหน้าคยองซูเสียฉาดใหญ่

     

     

     

    เพี๊ยะ!!!!!

     

     

     

    แรงตบของเซฮุนทำเอาคยองซูทรุดลงไปกองกับพื้น

    แก้มซ้ายของคยองซูขึ้นปื้นสีแดงก่ำเป็นรูปรอยนิ้วมือของเซฮุน และน้ำตาก็ไหลพรากลงมา

    ไคเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นเหตุการณ์นั้น...และนาทีนั้น สติของไคก็ขาดผึง

     

     

     

    หยุดนะไอ้เด็กโง่!!

     

     

     

    จงอิน อย่า!

     

     

     

    เขาคว้าตัวเซฮุนขึ้นมาแล้วฟาดฝ่ามือลงไปเต็มแรง

    คยองซูพยายามตะโกนห้ามหากแต่ไม่ทันเสียแล้ว

    เซฮุนหน้าหันตามแรงตบ...เขาหันมามองไคอย่างไม่เข้าใจ

     

     

     

    พ...พี่ไค! พี่ตบผมทำไม?!!!”

     

     

     

    เซฮุนส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ น้ำตาของเขาไหลอาบแก้ม

     

     

     

    หยุดได้แล้วไอ้เด็กโง่! นายต่างหากที่ร่าน แมงดาเหรอ?? อย่ามาดูถูกคนอื่นหน่อยเลย!

     

     

     

    พี่ด่าว่าผมโง่งั้นเหรอ??????” เซฮุนตะเบ็งเสียงอย่างโกรธจัด

     

     

     

    ใช่! นายมันโง่...ฟังภาษาคนออกหรือเปล่าฮะ???

    ฉันไม่เคยรักนาย! ฉันบอกนายตั้งกี่ครั้งแล้วว่านายไม่มีสิทธิจะมาก้าวก่ายฉัน!

    นายไม่มีสิทธิมาตบหน้าผู้ชายของฉัน!

     

     

     

    จ...จงอิน พอเถอะ หยุดพูดเถอะนะ

     

     

     

    ไม่...คยองซู ผมทนไม่ไหวแล้ว ยังไงผมก็จะพูด เอาให้มันจบไปวันนี้เลย

     

     

     

    ฮึก...ทำไมพี่ถึงทำอย่างนี้ล่ะไค...พี่เอาผมไปไว้ที่ไหน

    พี่บอกผมมาสิว่าไอ้นี่มันเป็นใคร ทั้งๆ ที่มาทีหลังถึงได้พี่ไป

    ผมหล่อกว่า รวยกว่า แถมยังเด็กกว่า บอกผมมาสิว่าผมสู้ไม่ได้ตรงไหน!!!!

     

     

     

    นายมันเป็นแค่ไอ้เด็กร่านเอาแต่ใจ!! ว่าไงนะ? รวยกว่างั้นเหรอ?? เงินที่นายใช้ทุกวันนี้เป็นเงินของฉันทั้งนั้น

    เอาสิ! ถ้านายคิดว่านายรวยนักหนาก็บอกให้แม่นายถอนหุ้นออกไปให้หมดซะพรุ่งนี้เลย!

    จะได้รู้ไว้ซะว่าอย่ามาดูถูกผู้ชายของฉันอีก!”

     

     

     

    พี่ไค!!!

     

     

     

    เซฮุนตะโกนอย่างขัดใจ เขารู้ดีว่าเขากับแม่มีเงินร่ำรวยเพราะธุรกิจของไคทั้งนั้น

    มันคงไม่ดีแน่ถ้าเกิดหุ้นทั้งหมดจะถูกขายออกไป เซฮุนกัดริมฝีปากอย่างโกรธขึ้ง

    จะอ้าปากเถียงก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปเถียงเสียด้วย เลยต้องยืนเงียบเป็นใบ้กินแบบนี้

     

     

     

    อ้อ...อีกอย่างนะ อย่าสำคัญตัวเองผิด

    ผู้ชายคนนี้เป็นคนสำคัญของฉัน และนายน่ะ...ไม่เคยมีค่าอะไรเลยถ้าเทียบกับเขา

    และจำไว้ด้วยว่า...นายน่ะเป็นคู่นอนคนที่ร้อยหกสิบสองของฉัน แต่ผู้ชายคนนี้เป็นคนแรก!!!!

     

     

     

    ว...ว่าไงนะ????”

     

     

     

    เซฮุนแทบไม่เชื่อสิ่งที่เขาได้ยิน ผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้มีความสำคัญต่อไคขนาดนี้เลยหรือ

    ได้แต่คิดในใจเท่านั้น เพราะตอนนี้ไคกลับเริ่มตะเบ็งเสียงใส่เขาอีกครั้งซะแล้ว

     

     

     

     

    ออกไปจากบ้านฉันซะโอเซฮุน!!

    นายได้ยินที่ฉันพูดแล้ว และหวังว่าคงจะเข้าใจนะ

    ออกไปซะเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!!!!

     

     

     

    พูดพลางส่งสายตาเหี้ยมเกรียมส่งให้เซฮุน ...

    เป็นสายตาที่โกรธและขุ่นเคืองและดูน่าเกรงขามเช่นเดียวกัน นี่สินะที่เขาว่ากันว่าไคมีด้านปีศาจอยู่ในตัว...

    เห็นสายตาอย่างนี้แล้วทำให้เซฮุนทำใจเชื่อไม่ได้เลย ว่านี่เป็นคือคนที่เคยปรนเปรอความสุขให้กับเขาเสมอ

     

     

     

    เซฮุนมีท่าทีฮึดฮัด อยากจะเถียงอยากจะเหวี่ยงออกไปให้มากเท่ากับความรู้สึกเสียใจและเสียหน้า

    หากแต่ท่าทางของไคมันทำให้เขารู้ว่าเขาควรต้องไปจากตรงนี้แล้วจริงๆ

     

     

     

    พ...พี่มันใจร้าย!! พี่มันคนไม่มีหัวใจ!!!

     

     

     

    ตะโกนใส่หน้าคนที่ทำให้เขาร้องไห้ ก่อนจะกระแทกเท้าเดินออกจากบ้านไป เซฮุนน้ำตาไหลอาบหน้า

     

    ไคไม่เคยรู้หรอกว่าเขารักไคแค่ไหน เขาอาจจะออกไปมีอะไรต่อมิอะไรกับคนอื่น

    แต่นั่นก็เป็นเพราะไคไม่เคยตอบสนองความรักของเขาเลย เขาต้องการความรักตอบแทนมาบ้าง

    แต่สิ่งที่จะทำให้เขาใกล้ชิดกับไคได้ก็มีเพียงแค่เซ็กส์เท่านั้น...ไคไม่เคยเข้าใจความรักของเขาเลย

     

     

    สิ่งที่เขาต้องการมันเป็นแค่เพียงฟองอากาศ มันไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับไค...

    เขาหันหลังกลับไปมองบ้านของคนที่เขารัก ที่เขาแวะเทียวไปมาเช้าเย็นตลอดไม่ได้ขาด

    ต่อไปนี้คงไม่ได้มาอีกแล้ว...คงไม่ต้องมาทำให้ใครได้รำคาญอีก

     

    เซฮุนปาดน้ำตาก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

     

     

     

    นี่แหละผลตอบแทนของการที่เขาไปรักคนที่ไม่ควรรัก...

    ถึงมันจะเจ็บปวด แต่มันเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง

    เขามันเป็นแค่คนไม่เจียมตัว จะให้เขาทำอย่างไรได้ล่ะ

    สิ่งที่เขาต้องทำก็คืออดทนเท่านั้น...ไม่มีสิทธิแม้จะอุทธรณ์อะไรได้อีก

     

     

     

    คิดก่อนจะเปิดประตูรถยนต์แล้วขับออกไปโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีก

     

     

     

    อิจฉา...อิจฉาผู้ชายคนนั้นเหลือเกิน

    เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คนแรกของไคเท่านั้น

    แต่เป็นคนสำคัญ -- คนสำคัญที่กำหนดชีวิตของพี่เขา

    สุดท้ายแล้วโอเซฮุนก็ทำได้เพียงแค่นี้

     

    .

    .

    .

     

    กลับมาเป็นได้เพียงแค่คนที่เฝ้ามอง...














    TALK



    ตอนนี้อิเสี่ยของเราตัดหางปล่อยวัดเด็กในฮาเร็มออกไปได้สองคน *ปาดเหงื่อ*
    ยังเหลือใครอีกนะ...โอ้วมาย เหลืออีกเยอะเลยยยยยยยยยใช่มั้ยยยย

    มาต่อให้แล้วนะคะ ช่วงนี้อาจจะช้าหน่อย เพราะไม่ค่อยมีเวลาเลยอ่าาา :'(
    แต่ไม่หายค่ะ ไม่หายแน่นอนเน้อออ แล้วจะรีบมาต่อให้ค่ะะะ

    รักรีดเดอร์ :)
    Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×