ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC} Crazy Story Chankai EXO

    ลำดับตอนที่ #132 : :ม่านมายา : 5 Chanyeol x Kai x Suho END

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 813
      2
      14 ต.ค. 58

    : ม่านมายา : 5

     

     

              ความสามารถของจงอินได้พิสูจน์ให้ทีมงานทุกฝ่ายได้เห็นแล้วว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ มีความสามารถจริงพร้อมที่จะเดบิวต์เป็นศิลปินคนต่อไปของค่าย ถึงแม้จงอินจะอายุเพียงสิบเจ็ดก็ตามแต่มันไม่ใช่ปัญหาสำคัญสำหรับในการเดบิวต์เลย ในเมื่อจงอินมีความสามารถเกินเด็กก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ท่านประธานจะไม่ดันให้จงอินเดบิวต์ และคงไม่มีใครกล้าจะกล้าค้านท่านประธานในเรื่องนี้ได้ในเมื่อจงอินเป็นถึงคนรักของท่านประธานและยิ่งมีคำสั่งลงมาให้ทุกฝ่ายเตรียมแผนการเดบิวต์ของจงอินภายในปีนี้ ทุกฝ่ายก็ต่างยอมทำตามคำสั่งของท่านประธานในเมื่อท่านประธานตัดสินใจดีแล้ว

                    ทุกฝ่ายต่างทำงานอย่างหนักเพื่อวางแผนวางคอนเซปการเดบิวต์ของจงอินให้ออกมาตรงความตรงการตลาด ถูกใจแฟนคลับวัยรุ่นที่พอได้เห็นทีเซอร์แล้วยอมสมัครเป็นแฟนคลับของศิลปินคนใหม่

                    การวางอิมเมจของจงอินเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่จะทำอย่างไงให้ดูน่าสนใจ น่าค้นหา ดึงดูดความสนใจแฟนคลับในทุกๆรุ่นให้มาหาและพร้อมจะเสียเงินให้กับศิลปินกับตัวเองถึงแม้ว่าค่าอัลบั้ม ค่าโฟโต้บุค ค่าของออฟฟิชเชียวจะแพงแค่ไหนก็ตามก็พร้อมจะเสียเงินสนับสนุนศิลปินของตัวเอง

                    ทีมงานทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเดบิวต์ครั้งนี้ได้ประชุมหารือกับท่านประธานพร้อมกับจงอินที่เข้าประชุมเพื่อทราบแผนงานเดบิวต์ของตัวเอง

                    “สำหรับอิมเมจของจงอินผมได้สร้างอิมเมจของจงอินเอาไว้เด็กหนุ่มอบอุ่น มีรอยยิ้มที่น่าค้นหา ภายนอกถึงจะดูนิ่ง เย็นชาไม่ค่อยพูดแต่จริงๆแล้วเป็นเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น อ่อนโยน เต็มไปด้วย ความห่วงใยที่มีต่อคนรอบข้าง มีความสดใสสมวัยแอบเซ็กซี่ในตัวที่ไม่ต้องทำอะไรก็ดูเซ็กซี่เรียกความรักจากนูน่าได้” หัวหน้าทีมฝ่ายพัฒนาศิลปินเอ่นบอกที่ชานยอลนั่งคิดตามอย่างเห็นด้วย “อิมเมจของจงอินผมว่าไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากกว่านี้แล้วนะครับ เพราะจงอินมีเซ็กต์แอลพลีสสูงเรียกความดึงดูดจากเพศตรงข้ามและเพศเดียวกันได้ ผมเห็นจุดเด่นในตัวของจงอิน ไม่ต้องทำอะไรแค่ยืนเฉยๆก็เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆไม่น้อย” ทุกคนต่างเห็นด้วยกับหัวหน้าทีมพัฒนานศิลปิน เด็กคนนี้มีออร่าการเป็นดาวดวงใหม่อยู่ในตัว

                    “ผมเห็นด้วยกับคุณจางที่ได้เสมอมา เพราะนี้คือตัวตนของจงอินจริงๆที่คงไม่ต้องปั้นเสริมแต่งจนเกินไป เฟคจนเกินไปจนแฟนคลับจนแฟนคลับไม่เห็นถึงความจริงใจจากในใจของจงอินที่อยากจะแสดงให้แฟนๆได้เห็นตัวตนของเด็กคนนี้” เสียงราบเรียบของท่านประธานเอ่ยเสริมหัวหน้าจาง ทุกคนต่างเห็นดีเห็นงามกับท่านประธานในเรื่องนี้

                    “ถ้าเราอิมเมจของจงอินเป็นเด็กหนุ่มฟาวเวอร์บอย  ดูอบอุ่นสดใส เต็มไปด้วยความอ่อนโยนผมว่าเพลงเปิดตัวน่าจะเป็นบีทเบาๆเป็นแนวป็อบแดนซ์ที่เด็กหนุ่มสาวเต้นตามร้องตามได้ ไม่ต้องแหวกแนวออกไป เป็นเพลงแนวตลาดของวัยรุ่นในตอนนี้ที่พอฟังปุ๊บร้องได้ติดหูและท่าเต้นก็เต้นตามได้จำได้ง่าย” ฝ่ายเพลงเสนอขึ้นมา

                    “ผมต้องการให้เพลงเปิดตัวเป็นป็อบแดนซ์เอเชียผสมฝั่งตะวันตก ผสมผสานให้แปลกใหม่ออกไป ผมอยากให้เพลงเปิดตัวเป็นตัวแทนของเด็กที่มีความฝันพยายามก้าวผ่านอุปสรรคขว้างหนามเพื่อจะทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ ผมต้องการให้จงอินเป็นไอดอลที่มีความฝันเป็นแบบอย่างให้กับเด็กรุ่นใหม่ให้ก้าวเดินทำตามฝันของตัวเอง” จุนมยอนเสริมขึ้นที่เขาอยากดึงความฝันเป็นจุดขายในการเดบิวต์นอกจากรูปร่างหน้าตาและความสามารถของจงอิน ทุกคนในที่ประชุมต่างเห็นด้วยไม่มีขัดกับความเห็นของผู้บริหารคิม

                    “ตกลงเอาตามนี้กันนะครับ” ชานยอลสรุปที่ทุกคนต่างเห็นด้วย “ส่วนเรื่องการโปรโมต ทีเซอร์เปิดตัวฝ่ายแผนโปรโมตวางแผนว่าอย่างไงกัน”

                    “แผนการโปรโมตดิฉันจะปล่อยวิดีโอการฝึกซ้อมของจงอินตั้งแต่เข้ามาออดิชั่นจนได้เข้ามาเทรนกับค่ายที่เราจะปล่อยในเวบออฟฟิเชียลเป็นตอนๆ ให้แฟนคลับได้เห็นความสามารถความตั้งใจของจงอินที่ตั้งใจมีความฝันอยากจะเป็นศิลปิน นอกจากนั้นเราจะปล่อยไลฟ์สไตล์ออกมาให้แฟนคลับได้เห็นอีกด้านของจงอิน เราจะปล่อยออกมาก่อนวันที่เอ็มวีจะออก นอกจากนั้นเราจะให้จงอินได้ขึ้นเต้นคู่กับฮโยจูกับบนรายการเพลงและคอนของพิงค์เกิร์ลด้วยค่ะ”ชานยอลพยักหน้าเห็นด้วยกับแผนโปรโมตนี้ให้วงรุ่นพี่ช่วยโปรโมตอีกทาง

                    “จงอินทุกคนในที่นี้ก็ต่างเตรียมงานดันให้เธอได้ เดบิวต์เป็นศิลปินอย่างที่เธอได้ฝันเอาไว้ หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของเธอแล้วที่จะทำให้คนยอมรับในตัวของเธอ เธอต้องตั้งใจซ้อมทำมันออกมาให้ดีที่สุดเพื่อตัวเธอเอง ที่มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันสองคนอีกต่อไป ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเธอแล้วจงอิน” เสียงเรียบนิ่งของชานยอลหันมาบอกกับจงอินที่นั่งอยู่ข้างๆ

                    “ครับท่านประธาน” จงอินขานรับท่านประธานด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสมใจสมหวังกับการเดินตามความฝันของตัวเอง

                    “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็เลิกประชุมและกลับไปทำแผนงานที่พวกคุณได้เสมอมาให้เสร็จภายในเดือนนี้ เพราะเดือนหน้าเราต้องเริ่มปล่อยทีเซอร์ของจงอินโปรโมต”

                    “ครับท่านประธาน” ทีมงานทุกฝ่ายต่างขานรับอย่างแข็งขัน พร้อมจะทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด

                    “จงอินคืนนี้เลิกซ้อมแล้วก็โทรหาฉันแล้วกันฉันจะได้มารอรับ” จุนมยอนเอ่ยขึ้นหลังจากพนักงานออกจากห้องประชุมกันหมด

                    “ครับ แต่วันนี้ผมคงอยู่ซ้อมดึกหน่อยนะครับเพราะผมมีซ้อมกับรุ่นพี่พิ้งค์เกิล์ลด้วย” จงอินเอ่ยบอกที่จุนมยอนนั่นไม่ได้ห้ามจงอินให้อยู่ซ้อมดึก เพราะเขาทั้งสองรู้เป็นสิ่งที่เด็กเทรนต้องทำในช่วงที่ใกล้เดบิวต์

                    หลังจากแยกจากผู้บริหารทั้งสองจงอินก็เข้ามายังห้องซ้อมเต้นของรุ่นพี่พิ้งค์เกิล์ลที่จงอินจะต้องขึ้นแสดงร่วมกับรุ่นพี่ก่อนจะเดบิวต์ที่ใช้ความดังของรุ่นพี่เป็นฐานในการเดบิวต์ให้แฟนคลับได้รู้จักมากขึ้น จงอินเข้ามาในห้องก็เจอรุ่นพี่เข้ามาซ้อมกันก่อนหน้ากันแล้ว จงอินโค้งอย่างน้อมนอมมีสัมมาคาราวะกับรุ่นพี่อย่างเคารพ สาวๆต่างยิ้มแย้มทักทายกับจงอินเป็นกันเองกับจงอินและนึกเอ็นดูเด็กคนนี้ที่เป็นเด็กมีสัมมาคาราวะ

                    “นี่ซินะคิมจงอินคนรักของท่านประธานปาร์ค” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นนั้นทำให้จงอินหันมามองด้วยความเกร็งทำตัวไม่ถูก กลัวรุ่นพี่จะเกลียดเขาและเข้าใจเขาผิดที่ทำให้เพื่อนในวงต้องออกจากวงเพราะตัวของเขา “และเป็นคนทำให้พี่ซันอาออกจากวงของเราด้วย” สายตารอยยิ้มหยันที่มองมาทางจงอินอย่างดูถูก

                    “ผมขอโทษด้วยนะครับที่ผมเป็นต้นเหตุให้ทำให้รุ่นพี่ซันอาต้องออกจากวง แต่ผมไม่ได้มีเจตนาตั้งใจจะทำให้รุ่นพี่ซันอาต้องออกจากวงเลยนะครับ” จงอินพูดอย่างขอโทษรู้สึกผิดกลัวว่ารุ่นพี่ในวงคนอื่นจะไม่เข้าใจ เกลียดเขาโดยที่ไม่รู้ความจริงอะไรเลย

                    “ฮโยจูเราก็ไปแกล้งน้องเค้าได้ ดูซิหน้าซีดกลัวพวกเราหมดแล้ว” จองฮวาเดินเช้ามาโอบไหล่ฮโยจูและส่งยิ้มหวานเป็นมิตรให้กับจงอิน “ฮโยจูแค่แกล้งเราเท่านั้น ที่จริงเรื่องนี้พวกเราคนอื่นในวงไม่มีโกรธเราหรอก หน่ำซ้ำอยากจะขอบคุณเราด้วยซ้ำที่ทำให้ซันอาออกจากวงพวกพี่ได้” จงอินมีสีหน้างุนงง สาวๆได้แต่ยิ้มเอ็นดูกับความใสซื่ออ่อนน้อมของจงอิน

                    “จริงๆพวกเราอยากให้ซันอาออกจากวงตั้งนานแล้ว ตั้งแต่มีเรื่องทะเลาะตบฮโยจูพวกเราก็อยากแบนซันอาออกจากวงแต่ด้วยฐานแฟนคลับของซันอาที่มีเยอะกว่าใครทำให้พวกเราทำอะไรไม่ได้ เพราะแฟนคลับของซันอาต่างไม่เอาเมมเบอร์คนอื่นในวงเลยและไม่ยอมรับพวกเราซ้ำ หน่ำซ้ำยังโจมตีพวกเราเล่นงานแฟนคลับของเมมเบอร์คนอื่นที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย เราทุกคนในวงถึงต้องยอมโดนซันอาเล่นงานเอาเปรียบมาถึงทุกวันนี้” จองฮวาเล่าความจริงทุกอย่างให้จงอินฟังที่จงอินไม่คิดเชื่อเลยว่ารุ่นพี่ซันอาจะร้ายได้มากขนาดนี้

                    “จนเกิดเรื่องของเราขึ้นมาทำให้ซันอาถูกปลดออกจากวงโดยที่พวกพี่ทุกคนไม่ผิดและดูน่าสงสารในสายตาของแฟนคลับมากขึ้น ทำให้แฟนคลับได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของซันอาที่ทำกับพวกเราจากที่ฮโยจูจะโดนเกลียดโดนแฟนคลับซันอาเล่นงานกลับแต่กลับเป็นซันอาที่โดนสังคมและแฟนคลับรุมประจานกลับ แฟนคลับของซันอาก็ไม่สามารถโจมตีพวกเราได้เมื่อมีหลักฐานที่ถูกปล่อยออกไปว่าซันอาเป็นคนหาเรื่องทะเลาะตบตีฮันโยจูก่อนที่คลิปนั้นเห็นได้ชัดเจนเลยว่าซันอาเป็นคนเริ่มก่อน” มินอาเอ่ยเล่าต่อที่พวกเธอทุกคนในวงต่างวต้องอดทนต่อนิสัยของซันอา

                    “อย่าโทษตัวเองเลยว่าเป็นคนผิดเลย คนที่ผิดคือซันอาไม่ใช่เราฎ ฮันโยจูบอกด้วยรอยยิ้มที่ลุกขึ้นมาตบบ่าจงอิน “ถ้าพี่ซันอาไม่คิดทะเยอทะยานไม่อิจฉาริษยาอยากมีอยากได้ของคนอื่นก็คงไม่ต้องมาจบแบบนี้” ฮโยจูบอกยิ้มๆที่รุ่นพี่ต่างยิ้มเอ็นดูเข้าใจจงอินดี จงอินนั้นยิ้มขอบคุณที่รุ่นพี่ต่างไม่เกลียดและเข้าใจเขา

                    “พี่ว่าเรามาซ้อมกันดีกว่า ถ้าท่านประธานรู้ว่าพวกพี่ชวนแฟนของท่านคุยมากกว่าซ้อมมีหวังท่านประธานเล่นงานพวกพี่แน่ๆ”จองฮวาแซวเล่นจงอินท่าจงอินได้แต่ก้มหน้างุดด้วยความขวยเขินที่รุ่นพี่ต่างส่งสายตารอยยิ้มแซวเรื่องท่านประธาน

     

     

     

                    ทีเซอร์ของจงอินถูกปล่อยออกมาพร้อมกับรายการไลฟ์สไตล์ของจงอินที่ถูกปล่อยออกมาตามๆกันที่เสียงตอบรับนั้นดีเกินขาด ได้รับความชื่นชมทั้งความหล่อ ความสามารถ ความพยายามจากชาวเน็ตไม่น้อย ทุกคนในสังคมเวบไซต์ในเนต สังคมในวงการเพลง สื่อต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเด็กคนนี้จะไปได้ไกลในวงการบันเทิง คลื่นลูกใหม่ของวงการเพลงเกาหลีที่จะโด่งดังไปทั่วเอเชียกับการร้องเต้นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ด

                    ภาพทีเซอร์ที่กำลังฉายอยู่บนจอทีวีนั้นสร้างความคับแค้น เคียดแค้นใจให้กับซันอาอย่างมาก สายตาอาฆาตพยาบาทจ้องมองคนในจอลุกโรจน์เต็มไปความอาฆาตโกรธแค้นชิงชังพร้อมจะฆ่าคนในจอให้ตายในตอนนี้ก็ยังได้

                    “คิมจงอินคนอย่างแกอย่าหวังว่าจะอยู่บนโลกนี้เลย ฉันจะทำให้แกตายด้วยมือของฉันเอง!!” เสียงเหี้ยมเต็มไปด้วยความแค้นในอก

     

                    กระแสตอบรับจากทีเซอร์และรายการดีเกินคาดที่คิดไว้ยอดวิวจากช่องแชลแนลเพิ่มสูงขึ้นเป็นล้านๆภายในไม่กี่สัปดาห์ ยอดค้นหาในเวบไซต์ สังคมออนไลท์ที่ชื่อของจงอินถูกค้นหาเป็นอันดับต้นๆของเวบไซต์แต่ละเวบไซต์นับว่าเป็นปารกฎการณ์ใหม่ของวงการไอดอลทีเพิ่งเปิดตัวเดบิวต์ก็ได้ได้กระแสตอบรับที่ดีและเริ่มมีบ้านแฟนเบสบ้านไซต์เริ่มเปิดตัวขึ้นเรื่อยๆและยอดสมัครเวบคาเฟ่ของจงอินก็เริ่มมีแฟนคลับเข้ามาสมัครเป็นแฟนคลับของจงอินนับหมื่นคนในเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ได้ปล่อยทีเซอร์และรายการของจงอินออกไป

                    และอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงวันเดบิวต์สเตจในรายการเพลงชื่อดังของเกาหลี จงอินจึงต้องทุ่มเทฝึกซ้อมเต้นร้องสำหรับการเดบิวต์สเตจในชีวิต เดบิวต์สเตจในชีวิตที่จะไม่ทำให้พ่อ พี่ชาย คุณชานยอล คุณจุนมยอนผิดหวังในตัวของเขาได้ เขาจะทำมันให้ออกมาให้ดีที่สุด

                    กระแสตอบรับที่ดีนั้นทางทีมงานจึงเพิ่มตอนของรายการเข้าไปอีกหนึ่งตอน ซึ่งตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายของรายการที่ทีมงานต้องการให้จงอินทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำแต่ต้องมีความสดใสรอยยิ้มที่ออกมาจากใจของจงอินจริงๆที่ไม่ใช่สคริปที่ทางทีมงานวางเอาไว้ให้ และจงอินก็เลือกที่จะมาเล่นฟุตบอลกับเด็กๆในสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่จงอินชอบและมักจะทำกับน้องๆในหมู่บ้านด้วยกันเป็นประจำในช่วงวันหยุดหรือหลังซ้อมเต้น

                    วันถ่ายทีมงานก็พาจงอินมาถ่ายทำที่สวนสาธารณะพร้อมกับเด็กห้าคนที่เข้าฉากร่วมกับจงอินด้วย เสียงหัวเราะรอยยิ้มความสดใส อบอุ่น ใจดีของจงอินถูกถ่ายทำอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่มีการปรุงแต่งอะไรเลย ทีมงานต่างยิ้มพอใจกับภาพในวันนี้ที่จงอินไม่ทำให้พวกเขาต้องผิดหวังและยังมีรอยยิ้มตามๆกัน

                    “จงอินพักก่อนแล้วกันเดี๋ยวค่อยมาถ่ายต่ออีกฉาก”

                    “ครับพี่” จงอินตอบด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยการถ่ายทำในวันนี้เลย รู้สึกมีความสุขสักมากกว่าที่ได้มาถ่ายรายการกับเด็กๆ “เหนื่อยหรือเปล่าครับเด็กๆ” จงอินย่อตัวลงตามเด็กๆที่มาร่วมถ่ายทำในวันนี้ด้วย

                    “ไม่เหนื่อยเลยครับพี่จงอิน”เด็กชายคนหนึ่งตอบเสียงใสด้วยรอยยิ้ม จงอินยิ้มบางๆลูบผมเด็กชายอย่างเอ็นดู

                    “ลีแจนายตามเก็บไว้ทุกช็อตเลยนะ” โปรดิวเซอร์สั่งตากล้องที่ให้ตามถ่ายจงอินกับเด็กๆที่ไม่ได้มีบทมีสคริปเตรียมกันไว้ ภาพตรงหน้านั้นมันมาจากใจจากจงอินไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำมันมาจากใจของจงอินจริงๆ

                    “มีใครอยากทานไอติมกันบ้างไหม” น้ำเสียงใจดีของจงอินถามขึ้น เด็กๆต่างยกมือกันพร้อมเพรียงด้วยรอยยิ้มดีใจ “งั้นเดี๋ยวพี่จะพาพวกเราทุกคนไปทานไอติมด้วยกัน พี่จะเป็นคนเลี้ยงพวกเราเอง” เด็กๆต่างตะโกนร้องอย่างดีใจตามๆกัน

                    จงอินเดินจูงมือเด็กๆคนละข้างรอข้ามถนนไปยังร้านไอศกรีมตรงข้าม จงอินมองซ้ายมองขวาให้แน่ใจว่าไม่มีรถวิ่งแล่นผ่านมาจึงจูงมือเด็กๆเดินข้ามถนน แต่ข้ามไปได้กลางถนนกับมีรถขับมาด้วยความเร็วตรงมาหาจงอิน

                    “จงอินระวัง!!!” เสียงโปรดิวเซอร์สาวที่เดินตามมาด้วยตะโกนเรียกจงอินสุดเสียงอย่างตกใจ

                    จงอินหันมามองรถที่วิ่งเข้ามาอย่างเร็วด้วยความตกใจแต่ก็เรียกสติกับมาได้ที่จงอินรีบผลักเด็กๆให้พ้นวิถีทางรถที่วิ่งเข้ามาจะชนเขากับเด็กๆ

                    ปัง!!

                    เสียงชนอย่างแรงกับร่างจงอินอย่างจังทำให้ร่างจงอินกระเด็นล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดร้องตกใจของคนที่เห็นเหตุการณ์และเด็กๆที่ต่างส่งเสียงร้องอย่างเสียขวัญตกใจกับภาพที่เห็นแต่กับมีเด็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาจงอินทั้งน้ำตา

                    “พี่จงอินตื่นซิ ฮืฮ......พี่จงอิน...”เสียงสะอื้นสั่นไปด้วยความตกใจความกลัวแต่ก็พยายามเรียกพี่ชายที่แสนดีให้ลุกขึ้น

                    “โทรตามรถพยาบาลซิ!!!” โปรดิวเซอร์ที่มีสติสุดตะโกนสั่งทีมงานที่ยืนอื้อทำอะไรไม่ถูกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

     

     

     

     ร่างที่เต็มไปด้วยเลือดถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุนเฉินที่ต่างวุ่นวายไปด้วยพยาบาลต่างรีบเข้าไปดูคนเจ็บคนไข้ฉุนเฉินสาหัสที่ต่างถูกส่งมารักษา จงอินนั้นถูกพาเข้าไปในห้องได้สักพักชานยอล จุนมยอนก็ตามมาถึงด้วยความร้อนรนใจด้วยความเป็นห่วงจงอิน

      "จงอินเป็นอย่างไงบ้าง"น้ำเสียงดุดันถามขึ้นของท่านประธาน    

    "คุณหมอยังไม่ออกมาเลยค่ะ"สีหน้าของชานยอล จุนมยอนเต็มไปด้วยความเครียด ความห่วงจงอิน

      ชานยอล จุนมยอนได้แต่ยืนรออยู่ข้างนอกด้วยความกระวนกระวายใจ เดินวนไปวนมาอย่างไม่เป็นสุข ทั้งสองได้แค่มองผ่านกระจกมองผ่านภาวนาให้จงอินปลอดภัยไม่เป็นอะไรมาก

                       ประตูห้องถูกเปิดออกมาจากในห้องพร้อมกับคุณหมอในชุดกราวที่เดินออกด้วยสีหน้าเครียด ชานยอล จุนมยอนนั่นรีบเดินเข้าไปถามอาการจงอินอย่างร้อนใจ

                       "คุณเป็นญาติของคิมจงอินใช่ไหมครับ"

                       "ครับผมเป็นญาติของจงอิน"จุนมยอนเอ่ยขึ้น

    "อาการของคนเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้วครับแต่ด้วยแรงกระทบกระเทือนอย่างแรงทำให้คุณจงอินต้องแท้งลูกครับชานยอล จุนมยอนถึงกับช็อคทำอะไรไม่ถูกหัวใจเจ็บปวดเสียใจเมื่อได้รู้ความจริงว่าจงอินท้องลูกของเขาสองคนและลูกก็จากเขาทั้งสองคนไปในคราเดียวกัน "หมอเสียใจด้วยนะครับที่ทางเราไมาสามารถช่วยเด็กในท้องไว้ได้" คุณหมอบอกอย่างเสียใจจากใจและเดินออกไป

    "ฉันจะจับคนที่มันชนจงอินเข้าคุกให้ได้!!"เสียงแข็งกร้าวกราดอย่างโทษะเต็มไปด้วยความโกรธเสียใจที่จะต้องมาสูญเสียลูกไป

                     "ท่านคะ ตอนเกิดเรื่องทางเราได้ถ่ายเก็บไว้ด้วยค่ะ" โปรดิวเซอร์เอ่ยบอก "และดิฉันเห็นหน้าคนขับด้วยค่ะ" โปรดิวเซอร์บอกอย่างมั่นใจที่เธอได้เห็นหน้าคนขับอย่างชัดเจน "ซันอาเป็นคนขับชนจงอินค่ะท่าน" สร้างความโกรธแค้นโทสะให้กับชานยอลเป็นทวีคูณ

    "ส่งคลิปนั้นให้ตำรวจไปจัดการและส่งไปให้สื่อทุกสำนักอย่าให้ผู้หญิงแพศยามีที่ยืนในสังคมได้!!" เขาไม่เคยร้ายกับผู้หญิง แต่ผู้หญิงอย่างซันอาเป็นข้อยกเว้นที่เขาจะร้ายใส่

     "ค่ะท่านประธาน" ทีมงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างที่จะเป็นพยานให้ปากคำกับตำรวจจัดการกับซันอา ทุกคนต่างแยกย้ายไปจัดการในสิ่งที่ท่านประธานสั่งที่ส่งคลิปให้กับตำรวจ ให้สื่อทุกสำนักให้ไปลงข่าวเล่นงานซันอา

                     หลักฐานที่แน่นหนามัดตัวซันอาไม่ให้หลุดพ้นโทษไปได้ ทำให้ตำรวจเข้าจับตัวซันอาไปรับผิดตามกฎหมาย หญิงสาวเกรี้ยวกราดด่าทอใส่ตำรวจและสื่อที่ตามมาเก็บภาพเอาไปทำข่าวให้แฟนคลับได้เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงอย่างซันอาที่หน้าม่านทำเป็นนางฟ้าแสนสวยใจดีรักแฟนคลับแต่หลังม่านกับเป็นนางมารร้ายแสนร้ายกาจ

    ภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุของจงอินถูกเผยแพร่ไปทั่วเกาหลีที่สังคมต่างชื่นชมความเสียสละของจงอินที่เอาตัวรับแทนเด็กๆไม่ให้เด็กๆถูกชนไปด้วย การกระทำของจงอินต่างสร้างความประทับใจให้กับแฟนคลับทุกคน ให้แฟนคลับได้เห็นในความดีความเสียสละของเด็กคนนี้ที่ไม่ห่วงชีวตตัวเองเลย

     

     ผ่านไปสามวันแล้วแต่จงอินก็ยังไม่รู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา ชานยอลและจุนมยอนต่างสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเฝ้าจงอินที่ไม่อยากปล่อยให้จงอินต้องอยู่ตามลำพังคนเดียว

                      "จงอินนายพักผ่อนนานเกินไปแล้วนะ รู้ไหมฉันสองคนเป็นห่วงนายมากแค่ไหน" ชานยอลเอ่ยบอกเสียงนุ่มทุ้มมือพลางกุมแนอยู่กับแก้ม

                      "ไม่คิดถึงฉันสองคนบ้างหรือไงกัน" จุนมยอนพูดขึ้นต่อริมฝีปากจูบหลังมือจงอิน

                     "ตื่นขึ้นมาหาฉันสองคนได้แล้วนะ ตื่นขึ้นมาอยู่ด้วยกันเถอะจงอิน" ชานยอลร้องขอไม่อยากจะเห็นจงอินอยู่ในสภาพแบบนี้

                        "อย่า....อย่าไป" เสียงละเมอของจงอิน มือไม้ของจงอินที่รู้สึกตัวขึ้นทำให้ชานยอล จุนมยอนต่างยิ้มดีใจ

                       "จงอินฉันอยู่กับนายตรงนี้แล้ว"ชานยอลเอ่ยบอกอย่างดีใจ

      "ฉันสองคนไม่มีทางทิ้งนายให้นายอยู่คนเดียวได้"จุนมยอนค่อยรูปผมจงอินดวงตาเล็กนั้นที่ปิดลงมาตลอดสามวันค่อยๆกระพริบเปลือกตาค่อยลืมปรับแสงไฟอย่างช้าๆและหันมามองคนรักทั้งสองอย่างเหนื่อยล้าอ่อนแรง ชานยอล จุนมยอนยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความดีใจต่างสวมกอดจงอินอย่างตื้นตันดีใจที่ได้คนรักกลับคืนมา

     

     

    อาการของจงอินเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแต่ทางแพทย์อยากรอดูอาการจงอินอีกวันสองวันว่าไม่มีอาการแทรกซ้อนขึ้นมาก็จะอนุญาตให้จงอินกลับบ้านได้ ส่วนการเดบิวต์นั้นถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าอาการของจงอินจะหายดีเป็นปกติ ถึงแม้จะเสียใจที่ไม่ได้เดบิวต์ตามกำหนดแต่จงอินก็เข้าใจเหตุผลของชานยอลและจุนมยอนดีว่าเป็นห่วงเขาอยากให้เขานั่นรักษาตัวให้หายดีก่อนแล้วค่อยกลับไปเดบิวต์lเตจเปิดตัวอีกครั้ง ตอนนี้เท่าที่ชานยอลและจุนมยอนทำได้คือการปล่อยเพลงปล่อยเอ็มวีให้แฟนคลับได้ดูไปพลางกันก่อน

    ส่วนอีกเรื่องที่จงอินยังไม่รู้ชานยอลและจุนมยอนยังคงปิดบังไม่บอกความจริงกับจงอินให้รู้เรื่องก็คือเรื่องลูกที่ชานยอลและจุนมยอนนั้นไม่ต้องการไม่อยากเห็นจงอินต้องเจ็บปวดเสียใจกับการสูญเสียลูกเพราะชานยอลแน่ใจว่าจงอินยังคงไม่รู้ตัวเรื่องตัวเองท้อง ถ้าจงอินรู้ท้องตั้งแต่แรกคงบอกกับเขาสองคนและคงจะถามหาถึงลูกตั้งแต่วันที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

                    "คุณชานยอล คุณจุนมยอนคิดจะไม่บอกความจริงเรื่องลูกกับผมจริงๆหรอครับ" จงอินถามขึ้นดื้อๆชานยอล จุนมยอนต่างลำบากใจดูอึกอักที่จะตอบคำถามของจงอิน

                     จงอินนายรู้เรื่องลูก?" ชานยอลถามขึ้น

                    "ครับ ผมรู้เรื่องลูกที่เค้าได้จากผมไปแล้ว" น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเอ่ยบอกมือบางนั่นลูบท้องแบนราบของตัวเอง

                      "แล้วทำไมนายไม่บอกฉันสองคนเรื่องลูกตั้งแต่แรก"จุนมยอนถามขึ้น

                     "จริงๆผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองท้องหรอกครับ แต่ช่วงที่ผมหลับไปนั้นผมฝันเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาตามให้ผมกลับมาหาคุณสองคน ยังบอกกับผมอีกด้วยว่าพ่อกำลังรอแม่อยู่ พ่ออยากให้แม่กลับไปอยู่กับท่านสองคน"เสียงเศร้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเล่าออกมาในช่วงเวลาที่หลับอยู่ในห้วงนิทรา "เมื่อคืนผมยังฝันถึงลูก ลูกมาหาผมและยังบอกกับผมว่าแม่อย่าเสียใจที่ผมกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงผมไม่ได้อยู่กับแม่แต่ผมก็รักแม่และจะกลับมาเกิดเป็นลูกของแม่กับพ่ออีกครั้ง แม่รอผมด้วยนะครับ"จงอินเล่ามาอย่างเจ็บปวดเสียใจที่ไม่ต่างกับชานยอลและจุนมยอ"พอผมตื่นขึ้นมาผมก็ได้ยินคุณสองคนคุยกันเรื่องลูก  ผมได้แต่นอนฟังและแอบร้องไห้คนเดียวเพื่อรอว่าเมื่อไรคุณสองคนจะยอมบอกเรื่องลูกกับผม" จงอินบอกทั่งน้ำตาอย่างเจ็บปวดเสียใจ ชานยอล จุนมยอนรั้งจงอินมากอดปลอยที่เขาสองคนก็ต่างเจ็บปวดไม่ต่างกับจงอิน

                       "ฉันสองคนขอโทษ แค่ฉันสองคนไม่อยากให้นายต้องมาเจ็บปวดเสียใจร้องไห้แบบนี้"จุนมยอนเอ่ยขอโทษอย่างเสียใจที่ต้องมาทำให้จงอินเจ็บปวดเพราะการปิดบังของพวกเขา

                        "ถึงลูกจะจากเราสามคนไปแล้ว แต่นายยังมีฉันสองคนอยู่เคียงข้างนายอยู่นะจงอิน"ชานยอลบอกออกมาพลางริมฝีปากกดจูบกระหม่อมของจงอิน ให้จงอินได้รับรู้ว่าพวกเขาสองคนนั้นรักและพร้อมาจะจับมือจงอินเดินไปด้วยกัน

     

     

     

     

     

     

    สภาพร่างกายและจิตใจของจงอินดีขึ้นมากหลังจากเหตุการณ์อุบัติเหตุวันนั้นจงอินก็กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งที่ได้กำลังใจจากคนรักทั้งสองและพ่อที่มาอยู่เป็นเพื่อนในช่วงเวลาพักฟื้น คำพูดคำสอนของพ่อทำให้จงอินได้คิดอะไรมากขึ้น มีกำลังใจจะเดินต่อไปเพื่อคนที่รักทั้งสามคนที่ทำเพื่อเขามาตลอด

    ทุกคำสั่งสอนของพ่อ คำสั่งสอนที่เตือนสติทำให้ผมได้ตัดสินใจอะไรคือความสำคัญของผมและผมต้องการมันจริงๆระหว่างความรักและความฝัน

                      "จงอินนายคิดดีแล้วใช่ไหมที่ตัดสินใจทิ้งความฝันของตัวเอง" ชานยอลถามขี้นให้แน่ใจ เตือนสติให้จงอินคิดดีๆก่อนจะจะทิ้งความฝันของตัวเอง

                     "ผมคิดดีแล้วครับตั้งแต่วันที่พ่อได้พูดเตือนสติผมสอนให้ผมคิดได้อีกครั้งว่าผมควรเลือกทางเดินไหน”จงอินบอกด้วยรอยยิ้มไม่ได้รู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้ของตัวเอง

                    "แต่นั้นเป็นความฝันของนายเลยนะจงอินนายยอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งร่างกายของนายก็เพื่อความฝันของนาย นายแลกมันมาทั้งน้ำตาและความเจ็บปวดของนายและนายจะทิ้งมันไปง่ายๆหรือไง"จุนมยอนพูดเตือนสติ เขาไม่อยากให้จงอินยอมทิ้งความฝันของตัวเองที่ต้องผ่านอะไรมามากมายจนจะมาถึงวันนี้ได้

    "ตอนนี้ผมก็ได้ทำความฝันของผมเป็นจริงแล้ว ผมได้เป็นศิลปินท่าทุกคนยอมรับ ผมได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ทำให้พ่อภูมิใจในตัวผม สานต่อความฝันของพี่ชายผมให้เป็นจริงได้แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็ตามแต่ผมก็ดีใจที่ผมได้ทำมันสำเร็จ" จงอินบอกด้วยรอยยิ้ม สายตากลมประกายไปด้วยรอยยิ้มมองคนรักทั้งสอง “แต่มีอีกหนึ่งความฝันที่ผมยังไม่ลงมือทำมันเลยและผมกำลังจะทำมันด้วยมือของผมเอง” สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีทั้ง "ความฝันนั้นก็คือครอบครัวที่สมบูรณ์แบบครอบครัวแสนอบอุ่น มีคนที่ผมรักสองคนอยู่เคียงข้าง มีลูกๆให้ผมคอยเลี้ยงดูเขาด้วยความรักให้เขาได้มาวิ่งเล่นให้คุณไล่จับเล่นไปกับเขาด้วยรอยยิ้มด้วยความรักที่เราสามคนจะมอบให้กับลูกๆ" ชานยอล จุนมยอนถึงกับยิ้มออกมากับความฝันของจงอินมือทั้งสองข้างของชานยอล จุนมยอนต่างกุมมือจงอินเอาไว้คนละข้าง

    "ในเมื่อเป็นสิ่งที่นายต้องการฉันก็จะไม่ขัดจะตามใจในสิj’ที่นายเลือก"ชานยอลเอ่ยขึ้นที่ยอมรับการตัดสินใจของจงอิน "แต่ก่อนที่จะออกจากวงการฉันก็อยากจะทำความฝันของนายให้เป็นจริงอีกครั้ง ความฝันชองการได้ขึ้นเวที มีคอนเสิรฺตของตัวเองครั้งหนึ่งในชีวิตที่ฉันจะทำให้นายอีกสักครั้ง”ชานยอลบอกด้วยรอยยิ้มที่พร้อมจะทำความฝันของจงอินให้เป็นจริงอีกสักครั้ง

     

     

     

     

                   

                    การประกาศออกจากวงการของจงอินอย่างเป็นทางการต่างทำให้แฟนคลับต่างช็อคไปตามๆกันเพราะนี้เพิ่งเป็นการก้าวแรกของจงอินที่ได้เข้ามาวงการบันเทิงแต่อยู่ๆก็ประกาศออกจากวงการทั้งที่เดบิวต์มาไม่ถึงปี แม้แต่สื่อเองต่างก็พาเสียดายโอกาสของเด็กคนนี้ถ้าอยู่ในวงการนี้คงไปได้ไกลและจะโด่งดังไปทั่วเอเชียกับความสามารถของจงอินที่มีในทุกด้าน

                    คำแถลงจากวงการบันเทิงชานยอลเลือกจะให้จงอินบอกกับนักข่าวและแฟนคลับว่าเป็นเพราะร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถจะรักษาให้หายดีได้ที่ไม่สามารถเต้นได้อีกต่อไปทำให้จงอินต้องทิ้งความฝันของตัวเองทั้งที่อยากจะยืนอยู่ในวงการ ทุกคนต่างก็ยอมรับการตัดสินใจของจงอินเพราะเห็นว่าร่างกายของจงอินไม่ได้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์อย่างตอนแรกที่แฟนคลับก็ไม่อยากเห็นศิลปินที่ตัวเองต้องเจ็บตัวไปมากกว่าถึงแม้ว่าจะทำให้พวกเธอจะไม่ได้เห็นคนที่ตัวเองรักยืนอยู่หน้าเวทีก็ตาม

                    แต่ก่อนที่จงอินจะออกวงการชานยอล จุนมยอนก็ให้จงอินได้ขึ้นเวทีคัมแบคสเตจอีกครั้งพร้อมกับคอนเสิร์ตเล็กๆสำหรับจงอินและแฟนคลับที่จะได้มาพบเจอกันอีกครั้ง อยู่ด้วยกันอีกครั้งในคอนเสิร์ตครั้งนี้

                    การแสดงเพลงสุดท้ายจบลงจงอินยืนยิ้มทั้งน้ำตาอย่างภาคภูมิใจ ประทับใจ ซาบซึ้งใจกับความฝันการมีคอนเสิร์ตของตัวเองที่เขาได้ทำมันสำเร็จและให้เป็นจริงได้ สายตาขอบคุณมองไปยังแฟนคลับนับพันที่ยืนอยู่ในคอนเสิร์ตครั้งนี้จากใจจริง

                    “ถึงแม้ว่าเราจะได้รู้จักกันในระยะเวลาสั้นๆแต่ผมกลับได้ความรักมากมายจากพวกคุณอย่างท่วมท้นที่ผมไม่เคยคิดเลยว่าเด็กอย่างผมจะได้รับความรักมากมายขนาดนี้ ผมขอบคุณพวกคุณจากใจจริงของผม”จงอินพูดออกมาจากใจ พยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ที่แฟนคลับนั้นต่างตะโกนให้กำลังใจบอกรักจงอิน “ทั้งที่พวกคุณมอบความรักให้กับผมมากมายขนาดนี้แต่ผมกลับไม่ได้ตอบแทนอะไรพวกคุณเลย”

                    “ไม่เป็นไรจงอิน”

                    “จงอินอย่าร้องไห้”

                    “เรารักจงอินนะ”

                    เสียงตะโกนของแฟนคลับที่ต่างตะโกนให้กำลังใจจงอินแข่งกัน ไม่อยากเห็นไอดอลของตัวเองร้องไห้เสียใจ พวกเธอยอมรับในสิ่งที่จงอินตัดสินใจแล้ว

                    “พวกเรายอมรับในการตัดสินใจของจงอิน จงอินไม่ต้องเสียใจไปนะ” แฟนคลับคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา จงอินนั้นยิ้มขอบคุณ

                    “ผมขอบคุณความรักที่พวกคุณมอบให้กับผม ขอบคุณที่มอบให้เด็กอย่างผม ผมรักพวกคุณนะครับ” จงอินบอกด้วยรอยยิ้มจากใจ ยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความตื่นตันใจ

                    “พวกเราก็รักจงอิน!!!” ทุกคนต่างตะโกนตอบกลับมาพร้อมกัน ชานยอล จุนมยอนต่างยิ้มอย่างภูมิใจที่จงอินไดรับความรักจากแฟนคลับล้นหลาม

                    ถึงเดบิวต์ไม่ถึงปีแต่จงอินกลับได้ความรักจากแฟนคลับล้นหลามเพราะความดี ความจริงใจ จิตใจดีของจงอินที่จงอินแสดงออกมาจากใจจริงๆไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำเหมือนไอดอลคนอื่นๆที่จะเฟคเพื่อเรียกแฟนคลับมาตกหลุมพรางของตัวเอง

                    ถึงแม้จะต้องทิ้งความฝันของตัวเองแต่สิ่งที่จงอินได้กลับมาคือความรักของแฟนคลับและความรักของสามีทั้งสองที่จะรักและอยู่กับจงอินไปตลอดชีวิตคู่ของพวกเขาสามคน

     

     



     

       END

     

     TALK

                    สุดท้ายเรี่องนี้ก็จบลง ขอบคุณทุกเม้นที่เม้นมาให้จนจบนะคะ เรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องทาสรัก ทาสหัวใจ ชานไค เป็นพีเรียคแนวโซชอน รอติดตามกันนะคะ

                    ส่วนเรื่องนี้ในเล่มสเปจะมีตอนไปฮันนีมูนที่อังกฤษกันด้วยทั้งสองตอน อย่างไงรอติดตามในเล่มนะคะ

                    ตอนนี้ยังเปิดจองฟิคอยู่นะคะ อ่านรายละเอียดในตอนรายละเอียดเปิดจองกันได้เลยค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×