ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย [ apink - infinite ]

    ลำดับตอนที่ #18 : Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย :: CHARPTER 17

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 637
      1
      4 ต.ค. 57

    -          17  -









     

     

    : : L’s SIDE : :

     

    หงุดหงิด! หงุดหงิดโว๊ยยยยยยยยย! ผมลุกขึ้นนั่งอย่างฉับไวจนไอ้แดฮยอนที่กำลังคุยไลน์กับสาวๆของมันสะดุ้งตกใจหันมามองผมขวับด้วยความแปลกใจทันที ตอนนี้เราทั้งสองคนกำลังอยู่ในห้องของกลุ่มพวกเราที่มหาลัยนั่นแหละ

     

     

    เหตุผลที่ผมมานั่งๆนอนๆหงุดหงิดอยู่อย่างนี้ก็เพราะนาอึน! เธองอนผม! ผมไม่รู้จะง้อยังไงเนี่ย! เกิดมาเคยง้อใครที่ไหนล่ะ! ความจริงมันก็คือความผิดของผมล่ะนะที่เกิดบ้าจะทำตามคำพูดของไอ้เพื่อนบ้าที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมเนี่ย แต่ก็ขอโทษแล้วนี่หน่าน่าจะหายโกรธได้แล้วนะ โกรธไม่ว่า! แต่ทำไมต้องไม่ยอมคุยกับผมด้วยล่ะ?! ผมก็เลยประชดกลับด้วยการเงียบใส่เหมือนกัน แต่ทำไมต้องเป็นผมที่เป็นฝ่ายทุกข์ใจทุรนทุรายอยู่อย่างนี้ล่ะ?!

     

     

    “เป็นอะไรของมึง ? อยู่ดีๆก็พรวดพราดลุกขึ้นมา กูตกใจนะโว่ย!” ไอ้แดฮยอนมองผมด้วยความสงสัย ผมมองหน้ามันนิ่งครู่หนึ่งพลันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

     

     

    “นี่ ในฐานะที่มึงเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิง กูถามหน่อย...ทำยังไงผู้หญิงถึงจะยอมพูดด้วย ?” ผมจ้องมองใบหน้าไอ้เพื่อนตัวดีของผมเพื่อรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ แต่มันที่นิ่งไปสักพักกลับหัวเราะลั่นขึ้นมา มันตลกอะไรนักหนาวะ?!

     

     

    “มึงบ้าป้ะเนี่ย?! คนอย่างมึงเนี่ยนะผู้หญิงไม่ยอมพูดด้วย ฮ่าๆ ขำว่ะ!” น่าน! ดูมันยังหัวเราะไม่หยุดอีก ;(

     

     

    “เห้ย! กูซีเรียสนะโว่ย!

     

     

    “ฮ่าๆ แล้วทำไมเขาไม่ยอมพูดด้วยล่ะ ?” ในขณะที่มันเริ่มจะมีสาระขึ้นมาบ้างมันก็ยังไม่หยุดหัวเราะเยาะผมอยู่ดี ;(

     

     

    “เพราะมึงนั่นแหละ เอาความคิดบ้าๆมาใส่หัวสมองกู”

     

     

    “อ้าวเห้ย กูไปทำอะไรตอนไหนครับ ?”

     

     

    “ก็มึงบอกว่าให้กูอุ้มหลานไปหาพ่อกูนิ!” ผมหลุดปากบอกมันไป จนทำให้ไอ้เพื่อนตัวต้นเหตุยิ่งหัวเราะเยาะผมไปกันใหญ่ เออ! ทีใครทีมันนะโว่ย!

     

     

    “ฮ่าๆ แล้วเป็นไงสำเร็จมั๊ยครับ ?”

     

     

    “สำเร็จบ้าไรล่ะ?! นาอึนโกรธจนไม่ยอมพูดกับกูเนี่ย!” ผมมองเพื่อนตัวดีของผมด้วยสายตาขุ่นๆบ่งบอกอารมณ์ที่หงุดหงิดของผมตอนนี้ แต่ไอ้เพื่อนตัวดีมันกับหัวเราะลั่นยิ่งกว่าเก่า โอ๊ยยย! นี่ผมเล่าเรื่องตลกให้มันฟังรึไงเนี่ย?!

     

     

    “ฮ่าๆ ไม่เป็นไร เมื่อคืนไม่สำเร็จก็เริ่มใหม่คืนนี้อยู่บ้านเดียวกันสบายอยู่แล้ว ^^

     

     

    “ไอ้เพื่อนเวรนี่! กูไม่ได้ให้มึงแนะนำอะไรกูอย่างนี้! กูให้มึงแนะนำวิธีง้อ!

     

     

    “โถ่... เพื่อน! กูก็แค่พูดเล่นน่า^^ …ง้อสาวจะไปยากอะไรก็แค่ตามใจ ทำอะไรให้แค่นั้น ไม่ยาก^^’

     

     

    “ไม่ยาก ?” ผมเลิกคิ้วทวนคำพูดของไอ้แดฮยอนอย่างไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก

     

     

    “อือ ...เออง้อเสร็จ ก็ทำภารกิจทำหลานให้พ่อมึงเลยสิ ฮ่าๆ” โถไอ้เพื่อนเวรนิ! หัวสมองคิดแต่อะไรวะเนี่ย?! ด้วยความหมั่นไส้ผมจึงคว้าหมอนข้างๆตัวของผมปาใส่หน้าไอ้เพื่อนบ้าที่กำลังหัวเราะลั่นอยู่อย่างไม่ออมแรง แต่มันก็ยังหัวเราะไม่หยุดอยู่ดี ;(

     

     

     

    เมื่อได้รับคำแนะนำจากแดฮยอนแล้วผมก็รอเวลาที่นาอึนเลิกเรียนจึงขับรถไปรับเธอที่หน้าคณะของเธอทันที แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะเลิกช้ากว่าปกตินะเพราะปกติเวลานี้นาอึนจะต้องเลิกเรียนแล้วมารอผมได้แล้ว แต่ตอนนี้ผมยังไม่เห็นนาอึนเลย หรือว่าจะงอนแล้วกลับบ้านไปเองนะ?

     

     

    นั่นไอ้ซองยอลนิ! จะเห็นนาอึนบ้างมั๊ยนะ?! - -^

     

     

    “เห้ย! ไอ้เด็กประถม!” ไม่รอช้าผมรีบเปิดประตูลงจากรถมาพร้อมกับตะโกนเรียกเพื่อนของผมเสียงดังเมื่อเห็นว่ามันกำลังเดินออกมาจากตึกพอดี มันทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อผมตะโกนเรียกมันด้วยชื่อที่มันไม่ชอบเอามากๆ แต่ผมก็ไม่สน ;) ผมก้าวเท้าเข้ามาหามันอย่างว่องไวด้วยความอยากรู้

     

     

    “เห็นนาอึนมั๊ยวะ ?”

     

     

    “เห็น!” มันตอบผมด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ คงจะโกรธที่ผมเรียกมันว่าเด็กประถมน่ะสิ

     

     

    “อยู่ไหน ?”

     

     

    “ทางนู้น แต่อย่าไปเลย เดี๋ยวจะอารมณ์เสียกลับมาซะป่าวๆ” ไอ้ซองยอลชี้มือเข้าไปในคณะเพื่อบอกว่านาอึนอยู่ไหน แต่คำพูดของมันแปลกๆนะ ทำไมผมต้องอารมณ์เสียกลับมาล่ะ?

     

     

    “ทำไม ?” ผมถามอย่างอยากรู้

     

     

    “ไปดูเองสิไป” ไอ้ซองยอลยืนมองหน้าผมนิ่งไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย ผมก็ได้แต่มองมันอย่างชั่งใจว่าควรจะไปดูเองรึป่าว? แล้วคำพูดที่มันเตือนผมล่ะคืออะไร?

     

     

    แต่ผมก็คือผมไม่เคยที่จะกลัวอะไรกล้าเผชิญหน้าทุกอย่าง ผมจึงลากไอ้ซองยอลให้พามาหานาอึนตรงที่ที่มันเห็นนาอึน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เห็นนาอึนไอ้เพื่อนตัวดีของผมมันก็หยุดชะงักซะก่อน

     

     

    “หยุดทำไมวะ ?” ผมมองหน้ามันด้วยความสงสัย

     

     

    “ดูเอาเองสิวะ” ซองยอลพยักเพยิดหน้าไปทางมุมหนึ่ง ผมมองตามที่มันบอกก็เห็นนาอึนกำลังยืนคุยอยู่กับใครสักคนนึงซึ่งผมไม่เห็นคนที่เธอกำลังคุยด้วยเพราะคนๆนั้นถูกเสาต้นใหญ่บังร่างของเขาไว้อยู่ ผมหรี่ตามองนาอึนอย่างจับผิดเพราะท่าทางของเธอดูจะร่าเริงผิดกับตอนเมื่อเช้าที่อยู่กับผมมาก

     

     

    ด้วยความสงสัยผมจึงเดินเข้าไปเพื่อจะดูหน้าคนที่นาอึนกำลังคุยอยู่ด้วยชัดๆ โดยที่นาอึนไม่รู้ตัวเลยว่าผมกำลังเดินเข้าไปหาเธอและก็มีไอ้ซองยอลที่เดินตามผมมาอย่างเงียบๆ ผมย่างเท้าเข้าไปใกล้นาอึนอย่างเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนมาหยุดยืนอยู่หลังเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว

     

     

    “ดีแล้วล่ะ นายก็สมควรทำอย่างนั้นแหละ ฮ่าๆ” เสียงสดใสของเธอพูดคุยอยู่กับคนตรงหน้าของเธอโดยไม่รู้ว่ามีผมอยู่ข้างหลัง แต่คนตรงหน้าของเธอรู้แล้วว่าผมยืนอยู่ข้างหลังนาอึนและผมก็กำลังมองมันด้วยความไม่ชอบใจอย่างมาก! เพราะคนที่นาอึนกำลังคุยอยู่ด้วยนั้นคือ ไอ้แทมิน

     

     

    ผมขบกรามแน่นอย่างโมโหแล้วจึงกระชากแขนนาอึนให้เธอหันมาหาผม เธอมีสีหน้าตกใจอย่างมากเมื่อหันมาเห็นผมและพบว่าผมเป็นคนกระชากแขนของเธอโดยมีไอ้แทมินยืนจ้องผมนิ่งๆเท่านั้น

     

     

    “ทำอะไรของนายเนี่ย?!!” นาอึนขึ้นเสียงดังใส่อารมณ์ใส่ผมอย่างไม่ชอบใจ ตอนนี้พวกเราทั้งหมดกำลังตกเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาคนอื่นๆที่มองมาด้วยความอยากรู้ แต่ผมซะอย่างไม่เคยแคร์อะไรอยู่แล้ว!

     

     

    “ยอมพูดกับฉันแล้วรึไงหะ?! ...เคยเตือนแล้วใช่มั๊ยว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้นี่อีก! แล้วนี่อะไรมายืนหัวเราะร่าอยู่กับมันเนี่ย?!!” ผมพูดอย่างขุ่นเคืองพร้อมมองเขม่นไอ้แทมินอย่างไม่ถูกชะตา

     

     

    “เขาเป็นเพื่อนฉัน!” นาอึนพูดเสียงหนักมองผมด้วยความไม่ชอบใจ ผมแค่นยิ้มน้อยๆแล้วมองสองคนตรงหน้าสลับกันไปมา

     

     

    “เพื่อนเหรอ ? นับมันเป็นเพื่อนแล้วเหรอ ?” ผมหัวเราะเบาๆอย่างสมเพชตัวเอง

     

     

    “อ๋อ ลืมไป... เพื่อนคนนี้ของเธอมันต้องเข้าโรงแรมดะ..”

     

     

    เพี้ยะ!!!

     

     

    ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบฝ่ามือเรียวของนาอึนก็ฟาดลงที่แก้มของผมจนมันชาหนึบไปทั้งซีก เธอมองผมด้วยความกรุ่นโกรธอย่างมาก

     

     

    “เก็บคำพูดต่ำๆของนายไปใช้ที่อื่นเถอะ!!” นาอึนสะบัดแขนที่ผมจับไว้ตั้งแต่แรกออกแล้วเดินหนีผมไปทันที ผมมองตามร่างของเธอไปนิ่งๆด้วยความรู้สึกชาที่ใบหน้าและหัวใจของผมเอง

     

     

    “ตามไปดิวะ” ไอ้ซองยอลที่ยืนอยู่ข้างๆสะกิดรียกผมให้ได้สติ ผมหันไปมองหน้าไอ้แทมินอย่างเอาเรื่องก่อนที่จะรีบวิ่งตามนาอึนที่ตอนนี้เดินออกไปทางหน้าคณะแล้ว

     

     

    หมับ~~~

     

     

    ผมรีบคว้าแขนของนาอึนไว้ทันทีเมื่อผมตามมาหาเธอทัน เธอพยายามสะบัดออกอย่างรุนแรงโดยไม่พูดอะไรเลย แต่ผมก็จับไว้แน่นเหลือเกิน

     

     

    “มาขึ้นรถ!” ผมพูดออกคำสั่งเสียงดังพร้อมกับลากนาอึนที่ดิ้นสุดแรงมาที่รถของผมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เราสองคนยืนอยู่ ไอ้ซองยอลที่เพิ่งตามมาก็มาช่วยผมจับนาอึนเข้าไปในรถ

     

     

    “ไปเคลียร์กันเถอะนาอึน” เสียงของไอ้ซองยอลพูดทิ้งท้ายกับนาอึนเมื่อพูดจบมันก็ปิดประตูรถของผม ผมก็รีบเข้าไปในรถแล้วก็ขับออกไปทันที

     

     

    “ทำไม?!! อยู่กับฉันนี่มันทุกข์มากใช่มั๊ย?!!” ผมเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาเมื่อเห็นใบหน้าที่บูดบึ้งของนาอึน แต่เป็นการเปิดประเด็นที่เหมือนการหาเรื่องมากกว่าเพราะผมกำลังโกรธอยู่!!

     

     

    “อยากคิดอะไรก็เชิญเลย!!” เธอตอบคำถามของผมอย่างไม่สบอารมณ์และไม่ตรงประเด็น นั่นมันทำให้ความโมโหของผมก็เริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    “ฉันมันไม่ใช่ไอ้แทมินที่จะคิดอะไรเธอก็ชอบหมดทุกอย่าง! ฉันทำอะไรมันก็ไม่ถูกใจเธอหรอก!!” ผมบอกไปด้วยอารมณ์โกรธปนน้อยใจในขณะที่มือก็ยังบังคับพวงมาลัยรถอยู่ แต่ดวงตาก็คอยผลัดมองระหว่างทางกับนาอึน

     

     

    “แทมินเค้าไม่ได้ทำอะไรให้ฉันถูกใจ! คนเอาแต่ใจอย่างนายชอบคิดเองเออเองแล้วก็โมโหเอง!!

     

     

    “เออใช่! ฉันมันเอาแต่ใจชอบคิดเองเออเอง! แล้วไง! รู้ไว้นะ! เธอไม่มีสิทธ์นอกใจฉัน!!” ผมพูดเสียงดังด้วยความโมโห ผมเห็นใบหน้านาอึนเริ่มแดงขึ้นด้วยฤทธิ์ของความโกรธจากคำพูดของผมแล้ว

     

     

    “นายก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันเหมือนกัน! ฉันจะนอกใจรึป่าว ? มันก็เรื่องของฉัน!!” นาอึนตะคอกกลับมาเสียงดังไม่แพ้ผม ร่างเล็กหอบหายใจถี่ขึ้นด้วยความโกรธ

     

     

    “นาอึน!! ...ได้! ฉันจะทำให้เธอนอกใจฉันไม่ได้เลย!” พูดจบแค่นั้นผมก็เหยียบคันเร่งจมมิดจนรถพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วกว่าเดิมอย่างมาก ไม่ต้องเดาว่าผมโมโหขนาดไหน? บอกได้ว่ามาก!!

     

     

    ผมใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีที่ขับรถกลับมาบ้านของผมทันทีรถจอดสนิทนาอึนก็รีบเปิดประตูหนีผมไปทันที แต่ผมที่เร็วกว่ารีบตามไปคว้าร่างของเธอไว้ได้อย่างรวดเร็ว ร่างเล็กดิ้นอย่างสุดแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนของผม

     

     

    “ปล่อยฉัน!!

     

     

    “จะปล่อยได้ไง! ฉันยังไม่ได้สนุกเลย!” ผมพูดเสียงเยาะในลำคอเพื่อปั่นประสาทของเธอเล่นๆ เธอทำให้ผมโมโหอย่างขีดสุดก็เตรียมตัวรับผลที่จะเกิดขึ้นได้เลย!

     

     

    “นายจะทำอะไร?!!” น้ำเสียงที่ถามผมกลับมาด้วยความตกใจมันทำให้ผมนึกเยาะเย้ยขึ้นมาในใจ

     

     

    “เดี๋ยวก็รู้!” พูดจบแค่นั้นผมก็อุ้มนาอึนขึ้นทันที เธอก็ดิ้นๆอยู่อย่างนั้นพร้อมร้องเสียงดังให้ผมปล่อย เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมปล่อยเธอง่ายๆเธอก็เริ่มข่วนเริ่มทุบเริ่มตีผม จนผมเผลอหลุดมือทำเธอร่วงลงอยู่ตรงห้องรับแขกของบ้าน

     

     

    “ฉันเจ็บนะ!” ผมคว้าข้อมือทั้งสองข้างที่ทั้งข่วนทุบตีผมไว้อย่างคาดโทษ ดวงตาทั้งสองข้างของผมมองเธอด้วยความโกรธที่ยังไม่ลดลงเหมือนเคย

     

     

    “ดี! เจ็บก็ปล่อยฉันสิ!” นาอึนเชิดหน้าขึ้นพูดใส่ผม ผมแค่นยิ้มนิดๆแล้วก็รีบอุ้มเธอมาพาดบ่าอย่างรวดเร็ว นาอึนเลยตกใจแต่ก็ยังคงดิ้นๆให้หลุดจากผมอยู่เหมือนเดิม

     

     

    ตุบ!

     

     

    ผมโยนเธอลงบนเตียงนอนในห้องของผมทันทีที่เข้ามาถึงและไม่รอช้าผมรีบทาบทับตัวเองลงไปกดเธอไว้ไม่ให้เธอหนีไปได้โดยที่ผมก็รั้งแขนทั้งสองข้างของเธอไว้

     

     

    “ปล่อยเดี๋ยวนี้!” เธอพูดอย่างโมโห

     

     

    “หึ! เถียงฉันอีกสิ! ประชดฉันอีกสิ!

     

     

    “ฉันบอกให้ปล่อย!!

     

     

    “ก็บอกแล้วว่าฉันยังไม่สนุกเลยย จะปล่อยได้ไง ?” ผมพูดปั่นประสาทเธอเล่นๆด้วยความโมโห นั่นมันทำให้ใบหน้าสวยๆของผู้หญิงใต้ร่างของผมแดงกล่ำด้วยความโมโห

     

     

    “ฉันไม่สนุกกับนาย!

     

     

    “แล้วฉันจะทำให้เธอสนุก จนไม่คิดนอกใจฉันอีกเลย ;)” ผมแค่นยิ้มเยาะเพื่อยั่วโมโหเธอแล้วก็ก้มหน้าลงกดจูบหนักๆบนริมฝีปากบางของร่างเล็กใต้ร่างของผมอย่างไม่ลังเล เธอพยายามที่จะสะบัดหน้าหนีจูบของผมอย่างโมโห ซึ่งผมที่โมโหไม่แพ้กันก็ปล่อยมือที่จับแขนนาอึนไว้ข้างนึงเปลี่ยนมาจับคางเธอไม่ให้หนีผมไปไหนแทน

     

     

    นาอึนพยายามใช้แขนที่หลุดออกมาข้างนึงดันร่างของผมให้ออกไป แต่ก็ไม่มีผลอะไรเมื่อผมทั้งโมโหและก็แรงเยอะกว่าเป็นไหนๆ เธอเปลี่ยนมาทุบตีและก็จิกข่วนสร้างความเจ็บปวดให้กับผมแทน แต่ผมมันก็บ้าที่ไม่สนใจความเจ็บปวดพวกนั้นเลย ผมยังคงเดินหน้ารุกนาอึนอย่างเต็มที่ด้วยความโมโห

     

     

    นาอึนเม้มปากแน่นไม่ยอมให้ผมรุกรานเข้าไป แต่ผมก็บีบคางเธอแรงขึ้นจนเธอยอมเผยอปากขึ้นมา นั่นมันทำให้ผมรีบเข้าไปตักตวงความหอมหวานจากโพรงปากของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว เนิ่นนานที่ผมตักตวงความหอมหวานอยู่อย่างนั้น จนนาอึนเริ่มทุบตีและจิกข่วนผมถี่ขึ้นเรื่อยๆเพราะเธอเริ่มที่จะหมดอากาศแล้ว ผมละออกมากจากปากบางนั่นเพียงน้อยนิดเพื่อให้นาอึนได้ตักตวงอากาศเข้าไป แล้วทันทีที่ผมผละออกมาเธอก็หายใจหอบเหนื่อยอย่างแรงมาก

     

     

    “ยะ หยุด...” เธอพูดเสียงสั่นด้วยความเหนื่อยหอบ ผมแค่นยิ้มน้อยๆแล้วก็ก้มลงไปปิดคำพูดของเธอต่อ ผมบีบคางเธอแน่นให้เธอยอมเปิดปากเพื่อที่ผมจะได้เข้าไปตักตวงความหวานในโพรงปากบางนั้น นาอึนฝังเล็บจิกข่วนเพื่อระบายความเหนื่อยหอบของเธอมาที่แผ่นหลังของผม

     

     

    ผมผละออกจากริมฝีปากบางแสนหวานนั้นแล้วเลื่อนใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูของนาอึนเพื่อป่วนประสาทเธอให้เธอโมโหผมเล่นๆ

     

     

    “อย่าเพิ่งสลบล่ะ ฉันยังไม่สนุก” ผมเป่าลมไปที่ข้างหูเธอเพื่อป่วนประสาทเธอเล่นๆนั่นมันทำให้ร่างบางสั่นและก็ขนลุกซู่ขึ้นมาจนผมรู้สึกได้ ผมฝังจมูกลงกับซอกคอขาวๆของนาอึนแล้วก็กดจูบหนักเพื่อทำร่องรอยตีตราไว้ ในขณะที่นาอึนยังคงหายใจหอบถี่จากการที่ผมไปลองชิมความหวานจากโพรงปากของเธอ แต่มือเรียวยาวก็ยังคงทุบตีและจิกข่วนผมเหมือนเดิม

     

     

    “พะ พอ...” นาอึนพูดออกมาเสียงแผ่วเบา

     

     

    ผมก็แกล้งยั่วเธอด้วยการกดริมฝีปากลงไปแรงๆหนักกว่าครั้งที่ผ่านมาไปที่ซอกคอของเธอจนมันขึ้นสีแดงเด่นชัดกว่าครั้งอื่นๆ เนิ่นนานที่ผมกดริมฝีปากเพื่อสร้างรอยแดงไว้ที่ซอกคอขาวๆของนาอึนเพื่อตีตราจองเธอไว้

     

     

    “พอแล้ว...” เสียงของนาอึนสั่นเหมือนเคยแต่ครั้งนี้ไม่ได้มาจากอาการเหนื่อยแต่มาจากการร้องไห้ของเธอ! ผมละออกมาจากซอกคอของเธอแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเธอที่น้ำตากำลังไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยเรื่อยๆ

     

     

    “กลัวเหรอนาอึน ? เธอจะกลัวทำไม ? มีอะไรกับฉันมันดีกว่าไปมีอะไรกับไอ้แทมินอยู่แล้ว” ผมยังไม่วายพูดจาร้ายๆใส่เธอ แต่ผมก็ยังเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลลงมาของเธอไว้

     

     

    ผมมองหน้าเธอนิ่งๆแล้วก้มลงไปจูบซับน้ำตาให้เธอ นั่นมันทำให้น้ำตาจากดวงตาคู่สวยยิ่งไหลรินออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ผมไล่ซับน้ำตาให้นาอึนอยู่อย่างนั้นในขณะที่มืออีกข้างก็ปล่อยออกจากแขนนาอึนเพื่อมารั้งร่างของเธอเข้าไปใกล้ตัว ส่วนมืออีกข้างผมก็เริ่มซุกซนไม่หยุด

     

     

    ไม่มีทางที่ผมจะหยุดอารมณ์ตัวเองลงได้เลย ผมทั้งโมโหแล้วก็ต้องการจองนาอึนไม่ให้เธอหนีไปได้และไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับเธออีกได้! การได้เห็นน้ำตาของเธอมันไม่ได้ทำให้ผมใจอ่อนลงได้เลย ภาพของเธอกับไอ้แทมินยังคงวนเวียนอยู่ในหัวสมองของผมพร้อมกับคำพูดที่ทิ่มแทงของเธอเหมือนกัน!

     

     

    ผมจูบไปทั่วใบหน้าของหญิงสาวแล้วจึงมาหยุดลงที่ริมฝีปากเหมือนเคย ผมกลายเป็นคนชำนาญเรื่องการจูบโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ผมจูบกับนาอึนเพียงคนเดียวแล้วก็ใช่ว่าจะบ่อย แต่พอได้ลองลิ้มริมฝีปากของเธอแล้วมันทำให้ผมติดจนไม่อยากละออกไปแล้วกลายเป็นคนชำนาญเรื่องการจูบไปโดยอัตโนมัติ

     

     

    ในขณะที่ริมฝีปากของผมยังทำหน้าที่อยู่มือของผมมันก็ไม่ได้หยุดเลย มือหนาของผมสอดไปใต้แผ่นหลังเรียบเนียนใต้เสื้อนักศึกษาของนาอึนแล้วมันก็ซุกซนเหลือเกิน ผมลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเรียบเนียนของนาอึนในขณะที่ริมฝีปากก็ยังวนเวียนอยู่กับริมฝีปากของนาอึน โดยที่เธอก็ยังคงน้ำตาไหลไม่หยุด

     

     

    ผมเอื้อมมือมาปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของนาอึนอย่างรวดเร็วโดยที่เธอก็ดิ้นทันทีที่รู้ตัวว่าเริ่มถูกเปลื้องผ้าออกมาแล้ว ผมผละออกจากริมฝีปากของนาอึนและลากริมฝีปากลงมากเรื่อยๆแล้วก็กดจูบหนักๆลงอีกครั้งที่เนินอกนุ่มนิ่มที่โผล่พ้นชุดชั้นในออกมา นั่นมันทำให้นาอึนตัวสั่นพร้อมขนลุกอย่างบังคับไม่ได้ทันที

     

     

    “อย่าแอล...ได้โปรด” เสียงของนาอึนร้องขอผมอยู่แว่วๆ เธอหมดแรงที่จะสู้กับผมแล้วเพราะเธอใช้แรงที่ผ่านมาอย่างมาก นาอึนหยุดดิ้นแล้วก็หอบหายใจถี่ด้วยความเหนื่อยเหมือนเคย เธอพยายามผลักร่างผมให้ออกไปแต่ก็ไม่ได้ผลเหมือนเคย เราสองคนมาไกลเกินที่จะย้อนกลับไปได้แล้ว

     

     

    “ฉันหยุดไม่ได้” ผมผละออกมาจากเนินอกขาวแล้วพูดกับนาอึนเสียงสั่น ตอนนี้ผมแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ร่างกายแทบทุกส่วนของนาอึนทำผมหยุดไม่ได้และไม่เป็นตัวเองแล้ว

     

     

    ผมกดจูบลงไปที่เนินอกขาวอีกครั้งอย่างเนิ่นนานและหนักหน่วง ทั้งซอกคอและหน้าอกของนาอึนเต็มไปด้วยร่องรอยแดงๆที่ผมฝากไว้ จนแทบไม่เห็นที่ว่างแล้ว ผมลากริมฝีปากลงมากเรื่อยๆแล้วก็กดริมฝีปากหนักๆเหมือนเคยที่หน้าท้องแบนราบไร้ไขมันของนาอึน

     

     

    “แอล... หยุดเถอะ ฉันกลัว...ฮึก!” เสียงของนาอึนสะอื้นไม่หยุดดังแว่วอยู่ในหูผม แต่ผมแทบไม่รับรู้ความต้องการนั้นของนาอึนเลย ผมยังคงเดินหน้าต่อไปไม่หยุด ผมกระชากเสื้อนักศึกษาที่ก่อนหน้านี้ผมพึ่งจะปลดกระดุมออกจนขาดแล้วจึงโยนทิ้งไปให้พ้นทาง ทันทีที่เสื้อถูกกระชากจนขาดนาอึนก็สะอื้นอีกครั้งตัวเธอกำลังสั่นด้วยความกลัว เธอกำลังกลัวผม ในขณะที่ผมกำลังสนุกและติดใจกับร่างกายของเธออย่างมาก!

     

     

    “ฮึก ฮึก”

     

     

    ผมย้อนขึ้นไปปิดเสียงสะอื้นของนาอึนทันทีที่เธอเริ่มสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงจิกข่วนผมอย่างไม่ยั้งเพื่อให้ผมปล่อยเธอ แต่ผมก็แทบไม่รับรู้สัมผัสแห่งความเจ็บนั้นเลย ผมกำลังหลงความหอมหวานจากร่างกายของนาอึนอยู่! ผมเอื้อมมือมาขยุ้มเนินอกที่โผล่พ้นชุดชั้นในมา จนเจ้าของเนินอกนั้นต้องออกแรงทุบตีผมอย่างหนัก

     

     

    ผมหยุดไม่ได้แล้วตอนนี้ แล้วผมก็จะไม่หยุดเด็ดขาด! จนกว่าภาระกิจของผมจะเสร็จ นาอึนต้องเป็นของผมอย่างไม่มีทางเลือก!! ต่อให้เธอร่ำไห้และทำร้ายผมขนาดไหน! ผมก็ไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่!!





     


    เฮ้อ... น่ากินขนาดนั้นใครจะอดใจไหว?






     

    : : Writer Talk : :

    กลับมาแว้ววววววววว
    คราวที่แล้วสัญญาว่าจะอัพบ่อยๆ
    ต้องขอโทษจริงๆน้าา _/\_
    คือที่บ้านไรต์มีงานบวกกับเปิดเทอมพอดี
    เลยยุ่งมากๆจริงๆนะ
    วันนี้เลยมาอัพให้นิดนุงก่อนสอบๆ
    มาฟินกันเถอะ^____^'
    ตอนต่อไปจะมาเร็วๆนี้ อิอิ

     

    :) Shalunla:) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×