ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Magic of Saria!! เวทมนตร์แห่งซาเรีย

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ - 4 - เรื่องจริง..

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22
      0
      6 ธ.ค. 56

    สวัสดีค่ะ -..- กลับมาอีกครั้งกับการแต่งอันเนินนาน.. และได้มาแค่นี้ 
    มาบอกแค่นี้แหละ ขอให้สนุกค่ะ

    ตอนที่ 4 เรื่องจริง..
     
    ณ ห้องปรุงยาในสถานที่หนึ่งในอาณาจักร
     
    ชายหนุ่มอายุประมาณ 25 ปีเดินเข้าไปในห้องที่ทำจากเหล็ก คล้ายกรงขังแล้วปลดกุญแจเข้าไป ข้างในปรากฏภาพเด็กสาวอายุประมาณ 14 ปี ซึ่งกำลังนอนสลบอยู่บนพื้นพร้อมหอบหายใจถี่เพราะการดูดพลังของเธอเพิ่งจะเสร็จสิ้น ทำให้ชายหนุ่มรีบถลาตัวเข้าไปหาเด็กสาวคนนั้นทันที เขาช้อนตัวเด็กสาวแล้วรีบอุ้มออกไปจากห้องนั้นเพราะการทำผิดอันใหญ่หลวงครั้งนี้ทำให้เขาเสียใจและถ้าย้อนเวลาได้เขาคงไม่รักกับหญิงสาวงามแต่หน้าตา ส่วนจิตใจไม่งามตามหน้าตา เด็กสาวขยับมือเบาๆ และเค้นพลังอันน้อยนิดของเธออย่างลืมตัวแต่พลังที่เธอเค้นออกมาก็ใช้ได้ผลทีเดียว มันทำให้เธอรู้สึกเย็นขึ้นจากกรงร้อนๆเมื่อกี้
     
    "พีเลน พี่ขอโทษ" ชายหนุ่มกล่าวเบาๆ กับเด็กสาว..
     
    ณ ห้องอาเซย์ในพระราชวัง
     
    "อึก.." อาเซย์ส่งเสียงออกมาเบาๆแล้วขยับตัวเล็กน้อย ทำให้ราเอลที่เฝ้าอาเซย์และน้ำตาร่วงเผาะอยู่นั้น เขยิบไปใกล้อาเซย์ รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากนิดหนึ่ง ก่อนจะหายไป พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างของตัวเองขึ้นกุมมือหนา ทำให้อาเซย์ส่งสายตามาอย่างอ่อนโยน
     
    "อาเซย์ฟื้นแล้วค่ะ" หญิงสาวตะโกนออกไปนอกห้องทำให้ราชาและราชินีรีบตรงเข้ามาดูอาการของลูกตัวเองอย่างห่วงใย เมื่อราชาเข้ามาก็ยืนดูอาการอยู่ข้างๆราเอล ส่วนราชินีก็เดินไปกอดและลูบหัวอาเซย์อย่างอ่อนโยน
     
    "อาเซย์ลูกเป็นอย่างไรบ้าง" ราชินีถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย ลูกเพียงคนเดียว(แล้วกาเอล่ะ?)ก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว และยังต้องมีชะตากรรมอะไรมากมายกับผู้หญิงคนนี้อีก ยิ่งเป็นผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่ต้องรับภัยอันตรายที่มากมายที่สุดเลยก็ว่าได้ ชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับเขาต่อจากนั้นชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับเธอ.. เป็นสิ่งที่น่าสงสารยิ่งนัก
     
    "น่าจะหายแล้วครับ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง" อาเซย์ตอบยิ้มๆ
     
    "ก็ดีแล้วล่ะจ้ะ" ราชินีตอบแล้วยิ้มให้เช่นเดียวกัน
     
    "อาเซย์ลูกจะหยุดเรียนตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยใช่มั้ย" ราชาถามเนื่องจากที่ได้สัญญาไว้แล้ว
     
    "ไม่ครับ"
     
    "จะเริ่มหยุดตอนไหนล่ะลูก"
     
    "ผมไม่หยุดหรอกครับ"
     
    "อ๋อ ไม่หยุด.. ลูกว่าอะไรนะ!!" ราชาถามเบิกตาโตเท่าไข่เป็ด ทำไมเขาถึงไม่หยุดกันล่ะเนี่ย ทั้งที่ปกติอ้อนจะให้หยุดอย่างเดียวแท้ๆ
     
    "ก็บอกว่าจะไม่หยุดไงล่ะครับ" อาเซย์พูดพร้อมยื่นมือให้ราเอลประคองให้ลุกขึ้นนั่งพิงหมอนได้
     
    "เหตุผลล่ะ.." ราชาถามต่ออย่างไม่อยากเชื่อเพราะอะไรทำไมเขาถึงไม่หยุด? นี่ยังเป็นปัญหาที่คาใจตลอดตั้งแต่เมื่อกี้ ทั้งคู่สบตากันโดยไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีโกรธของราชินี
     
    "คนเราจะตัดสินใจมันจำเป็นต้องมีเหตุผลหรือครับ" อาเซย์ตอบกวนๆ ทำให้ราชินีโกรธจนปะทุออกมา
     
    "นี่! ซีอาร์ท่านบอกให้ลูกหยุดเรียนได้หรือ?! ทำไมทำอะไรท่านไม่ปรึกษาข้าก่อนล่ะ ข้าไม่เคยบอกให้ลูกเราหยุดเรียนเลย เจ้าก็ผิดอาเซย์ ทำไมเจ้าจึงขี้เกียจนัก มันจะทำให้เจ้าไม่คู่ควรกับราซีต้าที่มีเวทสูงสุดภายในรอบหลายพันปีที่มีอาณาจักรซาเรียนี้ขึ้นมาเลยนะ" ราชินีพูดอย่างดุเดือด ตอนนี้ถ้านับเป็นภูเขาไฟคงปะทุไปหลายรอบแล้ว 
     
    ราเอลของเรากำลังงงจริงๆว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไรกันอยู่ เธอเนี่ยนะมีพลังเวทสูงสุดในรอบหลายพันปี จริงๆอาเซย์ก็น่าจะมีพลังพอๆกัน แล้วทำไมเขาต้องพัฒนาพลังเวทอีก
     
    "โธ่ รีเกลล่า เจ้าก็อย่าใจแคบนัก ลูกเราอุตส่าห์ไปนำตัวราซีต้าผู้นี้มาให้เราได้แล้วนะ"
     
    "หึ ท่านก็คิดตามใจลูกไปวันๆ แต่ครั้งนี้ข้าจะลดโทษให้ท่านบ้างล่ะ เพราะถือว่าอาเซย์ไม่ได้ตกลงยอมหยุดเรียน คืนนี้ท่านต้องนอนแยกห้องกับข้า ส่วนอาเซย์.. อืม เอาการทำโทษแบบใดดีที่จะทำให้เจ้าไม่กล้าขอหยุดเรียนอีก" หลังจากพูดรีเกลล่าก็หยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกแผนการดีๆขึ้นได้ แล้วส่งสายตาเป็นประกายพร้อมเสียงหัวเราะน้อยๆไปให้อาเซย์ ทำให้อาเซย์ขนลุกซู่
     
    "เอาเป็นว่า.. เจ้าห้ามเปิดตัวว่าราเอลเป็นราซีต้าจนกว่าแม่จะอนุญาตละกันนะ" รีเกลล่าหลุดหัวเราะออกมาอีก ที่เห็นหน้าเจ้าชายน้อยของเธอหน้าเสียและไม่สบอารมณ์สุดๆ และนั่นก็ทำให้ซีอาร์หลุดขำน้อยๆเหมือนกัน ส่วนราเอลนั้นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้องขำกันและทำไมอาเซย์ต้องหน้าบูดด้วย
     
    "ท่านแม่รู้เมื่อไรกัน" อาเซย์พูดเสียงแข็งนิดๆ ส่วนราเอลก็นั่งเงียบ มีเรื่องอะไรที่เธอยังไม่รู้อีก
     
    "ก็จำตอนที่ราเอลของลูก.." พอพูดตอนนี้ทั้งคู่ก็เขินขึ้นมาแต่อาเซย์ก็ปรับสีหน้าคืนอย่างรวดเร็ว "โดนกาเอพี่ของลูกจับไปได้มั้ยล่ะจ๊ะ ตอนนั้นแหละจ๊ะ มันมีมิริเออ(เป็นกระจกใสเล็กๆที่สามารถติดตัวไปได้ตลอดเวลาถ้าเกิดอะไรขึ้นฝั่งตรงข้ามที่รู้รหัสมิริเออแล้วเปิดดูก็จะรู้ว่าคนๆนั้นทำอะไรอยู่ที่และจะมีภาพขึ้นด้วย)ติดอยู่ที่ตัวกาเอน่ะจ้ะ พ่อแม่ก็เลยรู้เรื่องนี้ว่าลูกน่ะ.. ฮิๆ" รีเกลล่าหยุดอยู่แค่นั้นเพราะรู้ว่าจะทำให้ทั้งคู่เขิน แต่แค่นี้ก็ทำให้อาเซย์เขินขึ้นทันที แต่อาเซย์ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นขมวดคิ้วทันทีเพราะจำคำพูดของกาเอพี่ของเขาได้ว่าเขาโดนไล่ออกจากวังแล้ว
     
    "แล้วพี่กาเอมาช่วยพวกท่านได้อย่างไร"
     
    "..." เงียบสงัด
     
    "ท่านพ่อท่านแม่บอกข้ามาเถอะ!! ไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้วล่ะ" อาเซย์โกรธขึ้นที่ทั้งคู่ไม่ยอมบอกอะไรตนเลย เขาอยากให้พี่กาเอกลับมาอยู่กับเขาเหมือนเดิมอยู่หรอก พระราชวังคงมีสีสันขึ้นเยอะ
     
    "คือว่าพี่ของลูกเขา.." เมื่อซีอาร์กำลังจะสารภาพความจริง องครักษ์ก็วิ่งเข้ามาในห้องอย่างหน้าตาตื่น ทำให้ทั้งสี่นั่งและยืนและนั่งนิ่งโดยงงกับท่าทางอันกระวนกระวายขององครักษ์
     
    "ขออนุญาตขอรับ" องครักษ์คนนั้นว่าแล้วโค้งตัวลงเพื่อทำความเคารพซีอาร์ซึ่งตอนนี้ทั้งงงและเดือดๆอยู่บ้าง
     
    "มีอะไรรีบๆว่ามาซะที เร็ต" ซีอาร์พูดเสียงห้วนทำให้องครักษ์หรือ'เร็ต'รีบยืนตรงมือแนบข้างลำตัวอย่างสง่างามสมกับที่เป็นรองหัวหน้าองครักษ์และองครักษ์คนสนิทคนที่สองของราชา และกล่าวข่าวที่นำมารายงานขึ้น 
     
    "ตอนนี้มีปีศาจกลุ่มหนึ่งพยายามที่จะเข้ามาในเขตศูนย์กลางของทั้งอาณาจักรซาเรียหรือที่นี่'ราจี'แล้วครับ ตอนนี้ท่าน'เซอร์โร'กำลังไปสั่งให้กองทัพทหารเข้าไปรับมือกับปีศาจกลุ่มนั้นอยู่ครับ" ซีอาร์ถึงกับแสดงความตกใจออกมาอย่างมาก รวมทั้งรีเกลล่าและอาเซย์ก็หน้าซีดลงไป ส่วนราเอลก็ยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ โดยลืมคำนึงถึงว่าหน้าที่นี้เธอต้องเป็นคนจัดการ
     
    "ดีมากที่เจ้ามารายงานข้าอย่างรวดเร็ว แล้วตอนนี้พวกปีศาจมันอยู่ที่ไหนแล้ว" ซีอาร์ถามรัวอย่างรีบร้อน รีเกลล่าถึงกับเซเพราะตามคำทำนายของนักทำนายความมืดคนนั้นไม่เคยพลาด แต่นี่มันอะไรกัน หรือว่า ..
     
    "ครับ ตอนนี้มันอยู่ที่บาเรียชั้นที่สี่ครับ" ตอนนี้ทั้งหมดยกเว้นราเอลหน้าซีดเผือดลงไปอีก ส่วนราเอลตอนนี้กลับเริ่มโล่งใจที่พวกปีศาจมันยังไม่ได้เข้ามาเพราะมีบาเรีย
     
    "ตายละ แล้วนี่พวกมันเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมถึงทำลายบาเรียจากแปดชั้นเหลือสี่ชั้นได้" รีเกลล่าถามด้วยความกระวนกระวาย *บาเรียของแต่ละเมืองในซาเรียจะมีเมืองละหนึ่งถึงสามชั้นตามแต่ที่เจ้าเมืองหรือกองกำลังในการก่อตั้งบาเรียต้องการ แต่ในขณะที่เมืองหลวงหรือราจีจะมีแปดชั้น เจ็ดชั้นจากทุกเมืองในอาณาจักรและอีกหนึ่งชั้นจากราจี เจ็ดชั้นแรกจะอยู่รอบนอกโดยใช้พลังคุ้มกันเท่ากับที่ใช้ในเมืองแต่ละเมือง ส่วนชั้นสุดท้ายอยู่ภายในและใช้พลังเวทมาก
     
    "เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้วครับ" ตอนนี้ราเอลถึงกับต้องประคองรีเกลล่าที่กำลังจะล้มลงกับพื้น
     
    "เร็วขนาดนั้นเชียว ปกติบาเรียหนึ่งชั้นจะต้องใช้เวลาสิบห้าถึงยี่สิบนาที แต่นี่มัน.. ซวยแล้ว ศัตรูคงร้ายกาจมาก คงต้องพึ่งพลังของหนูอย่างเดียวเท่านั้น ราเอล" ซีอาร์พูดพลางหันไปมองหน้าตาตื่นตระหนกของราเอล อาเซย์เพิ่งฟื้น แล้วเธอก็ต้องออกไปสู้กับตัวอะไรก็ไม่รู้ที่เธอกลัวแทบตาย แล้วพลังก็ยังตื่นขึ้นไม่หมด แล้วต้องไปสู้คนเดียวเนี่ยนะ ใช้พลังยังไงเธอก็ยังไม่รู้มากด้วยรู้แค่เวทย์เรียกสัตว์และการใช้เวทย์พื้นฐานเท่านั้นจู่ๆก็มีองครักษ์คนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้อง เขาโค้งตัวคำนับและกระซิบอะไรบางอย่างกับเร็ต เขาทำท่าทางตื่นตระหนกก่อนทั้งสองจะโค้งให้ซีอาร์และอีกสามคนและรีบร้อนออกจากห้องไป
     
    "แต่พลังของราเอลยังฟื้นคืนไม่หมดและเพิ่งเรียนการใช้เวทพื้นฐานเท่านั้นนะครับ" อาเซย์ร้องท้วง เขาคงไม่ยอมให้คนที่เขารักเป็นอะไรแน่
     
    "อาเซย์ มันไม่ทันแล้ว ไม่มีทางทันแล้ว!" ซีอาร์ตวาดใส่ลูกชาย ส่วนราเอลก็ตัวสั่นเทิ้มเพราะความกลัว "เทพีรามินอร์จะปกป้องหนู.. ราเอล" ซีอาร์ยื่นมือไปจับไหล่ของเด็กสาวเบาๆ
     
    "คะ.. ค่ะ" ราเอลตอบเสียงสั่น ซีอาร์กดไหล่บางเล็กน้อยแล้วราเอลก็หายไปจากห้อง และเมื่อไม่มีราเอลพยุงรีเกลล่า เธอจึงทรุดลงบนพื้น ซีอาร์จึงเข้ามาประคอง
     
    "ท่านพ่อ!" อาเซย์ตวาดด้วยคำพูดที่แสดงความไม่พอใจอย่างสูงสุด ซีอาร์รู้ดีถึงความเจ็บปวดนั่น ตอนที่รีเกลล่าเป็นราซีต้า เขาก็ทนไม่ได้เหมือนกันเวลาท่านพ่อของเขาสั่งให้เธอทำนั่น ทำนี่ แต่รีเกลล่าก็ยังอดทน เธอรักเมืองนี้และนี่คือหน้าที่ของเธอ เขาพยายามจะออกไปช่วยเธอหลายครั้งแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันเป็นหน้าที่ของราซีต้าเท่านั้น บางทีจะออกไปสู้ได้ แต่ถ้าไม่จำเป็นจะไม่สามารถ และเมื่อเธอได้รับการทดสอบทุกๆสามปีแล้วหายไปในดินแดนอื่นนานๆ เขาก็อยู่อย่างไม่มีตัวตน..
     
    "มันเป็นหน้าที่.. อาเซย์ มันเป็นหน้าที่ของราซีต้า.. เท่านั้น" ซีอาร์ทำได้เพียงพูดพร่ำปลอบใจลูกชายเท่านั้น..
     
    ณ หน้าบาเรียชั้นแรก
     
    ทั้งทหารและองครักษ์กำลังต่อสู้กับปีศาจบางตัวที่พยายามทำลายบาเรียเข้ามาเมื่อราเอลมาถึง เธอถึงกับตื่นตะลึงเพราะเหลือบาเรียอีกเพียงสองชั้นเท่านั้นพวกปีศาจก็จะสามารถเข้ามาทำลายเมืองนี้ได้ เธอพยายามหลับตาทำสมาธิให้ไม่กลัว เมื่อเธอลืมตาอีกครั้งสีตาและผมก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม ราเอลสั่งให้ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นให้ง่ายต่อการต่อสู้ สักพักก็จ้องไปยังตัวของปีศาจตนหนึ่ง ดวงตาสีม่วงเข้มมองหาช่องโหว่และวิเคราะห์ว่ามันเป็นปีศาจธาตุอะไรแต่นั่นทำให้ปีศาจรู้ตัวนิดหนึ่งก่อนจะหันหน้ามาทางราเอล.. เธอไม่อยู่แล้วเมื่อปีศาจกำลังงงอยู่นั้นเธอซึ่งลอยอยู่ข้างบนก็กำหนดพลังที่ปลายนิ้วแล้วยิงไปที่ปีศาจตัวนั้นก่อนมันจะสลายไป..

    คราวหน้ามาเจอกับการต่อสู้อันดุเดือด ภารกิจลับและการเข้าโรงเรียนของราเอลและการเริ่มต้นความรักของเขาและเธอทั้งสองกัน..
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×