ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) เสน่หา...ยัยเปียโน

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 อดีตที่ฝังใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 312
      5
      3 มี.ค. 61

    ตอนที่ 1  อดีตที่ฝังใจ

    เปียโน:

        เมื่อ 3 ปีก่อนฉันมีขีวิตที่สุขสบาย มีความสุขกับครอบครัวอย่างสมบรูณ์ มีพ่อแม่ และตัวฉัน อาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรักที่มีให้แก่กัน บรรยากาศรอบบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้ที่สวยงามดังเมืองสวรรค์บนดิน พอฉันเรียนจบการเลขามาได้ไม่ถึงปี เวลานั้นประมาณ 21.19 น. ฉันนอนดูทีเวทีอย่างมีความสุข เสียงโทรศัพท์ที่บ้านดังขึ้น ฉันไม่ได้คิดอะไรรับสายปกติ

            "สวัสดีค่ะนี้ใช้บ้านของคุณเปียโน หรือ ป่าวค่ะ...?" ฉันตอบเขากลับไปว่า

            "ใช่ค่ะ..." หญิงสาวที่โทรเข้ามาตอบกลับมา ฉันถึงกับเข่าอ่อนหยดน้ำตาใสใส มันไหลรินออกมาดังสายเลือด สิ่งที่ฉันได้ยินคือพ่อกับแม่ของฉันเกิดอุบัติเหตุรถยนต์คว่ำตายคาที่ ตอนนั้นเวลานั้นฉันทำอะไรไม่ถูกเลยนอกจากนั้งร้องให้ พอฉันจัดการเรื่องงานศพพ่อกับแม่เสร็จ เจ้าหนี้ของพ่อมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน เขาคือธนาคารเข้ามาคุยเรื่องบ้านที่พ่อกับแม่ผ่อนจ่ายที่ธนาคารแต่ยังผ่อนจ่ายไม่หมด ธนาคารจะมายึดไป แต่โชคดีที่ธนาคารใจดีไม่ยึด แต่ให้ฉันผ่อนจ่ายแทนพ่อกับแม่ แต่สุดท้ายฉันต้องปล่อยให้เขายึดบ้านแสนอบอุ่นที่มีความสุขไป เพราะไม่มีปัญญาไปผ่อนจ่ายธนาคารหรอก

        ฉันเลยออกมาเช่าห่อพักในเมืองหลวงในราคาถูกสภาพที่เก่าและทรุดโทรมมาก ฉันหางานทำมาหลายวันเกือบเดือน ฉันเจอเพื่อนสาวสมัยเรียนมอต้น แนะนำให้ไปสมัครงานที่ห้างดังแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองหลวง เพราะเขารับพนักงานหลายอัตรา ไม่กี่วันเขาเรียกตัวฉันไปสัมภาษณ์งานแล้วรับเข้าทำงานทันที

        ฉันดีใจจนบอกไม่ถูกฉันได้งานทำเป็นครั้งแรกในชีวิตงานที่ฉันต้องทำคือ พนักงานขายเครื่องสำอางฉันทำงานไม่ตรงตามที่เรียนมาเลยตอนนี้เวลานี้ฉันเลือกงานไม่ได้แล้วเพื่อเอาชีวิตรอด

     

    ณ.ปัจจุบัน

    เปียโน:

           08.00 น. ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกของฉันแท้ๆ ฉันลุกนั่งลงบนที่นอนเวลานี้เป็นประจำทุกวัน เพื่อออกไปทำอาหารเช้าทานเองแบบนี้เสมอนานกว่าหนึ่งปีได้ หลังจากที่พ่อกับแม่จากฉันไป ฉันต้องใช้ชีวิตแบบนี้มาคนเดียวโดยตลอด บ้านของตัวเองก็ไม่มี เจ้าหนี้ของพ่อยึดไปหมด ตอนนี้ฉันไม่เลยอะไรเลยนอกจาก

            ตัวฉันและหัวใจดวงน้อยๆที่ต้องสู้ชีวิตต่อไปอย่างมีความหวังว่าสักวัน วันที่ฉันได้ทำงานเป็น เลขาในบริษัทหรูๆสักแห่งในเมืองหลวง ใส่เสื้อผ้าสวยๆแต่งตัวดีๆเหมือนคนอื่นเขา ไม่ต้องมายืนขายของอะไรแบบนี้

           ตอนนี้ฉันอยู่ที่ทำงานแล้วคะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อตอนนี้ฉันกำลังจัดเรียงของในร้านของฉันอยู่เลย ในขณะที่ฉันเรียงของอยู่นั้น มีเสียงชายหนุ่มคนหนึ่งทักฉันขึ้นมาเลยว่า

            "สวัสดีครับเปียโนคนสวย (^_^)" เสียงนี้คำพูดแบบนี้ต้องได้ยินทุกเช้าที่ทำงานแบบนี้เสมอ เจ้าของเสียงเขาคือ พี่เจ เป็นพนักงานขายรองเท้าที่เดียวกับฉันนี้แหละร้านของเขาหางจากฉันไม่มากนัก แต่พอสมควรพี่เขาเป็นคนพูดจาปากหวาน ชวนสาวๆติดใจเขาได้เลยละ อย่าพูดถึงความหล่อเจ้าชู้หรือเสน่ห์ของเขาเลย หมดคำบรรยายบอกได้คำเดียวว่าร้ายกาจสุดๆ ฉันเกือบเป็นหนึ่งในสาวพวกนั้น เพราะพี่เขาเข้ามาจีบเพราะความหล่อปากหวานของเขานั้นแหละที่ทำให้ฉันเกือบเป็นหนึ่งในนั้น แต่ดีที่ฉันรู้ทันไม่งันเสียโง่แน่เลย ฉันเลยขานพี่เขากลับไปว่า

           "สวัสดีคะ พี่เจ ปากหวานแต่เช้าเลยน่า" พี่เขาไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มและยักคิ้วให้แล้วเดินจากไป พี่เจเขาเหมือนพี่ชายฉันคนหนึ่งเลยละ ค่อยช่วยเหลือฉันตลอดเมื่อมีปัญหาหรือเรื่องอะไรก็ตามที่พี่เขาสามารถช่วยได้ ถึงพี่เจเขาจะดูเจ้าชู้กะล่อนไปหน่อยแต่พี่เขาเป็นคนดีไม่น้อยเลยนะ  

           ฉันอยู่ที่นี้นานพอสมควรน่ะ เกือบสองปีได้เห็นสาวเล็กสาวน้อยสาวใหญ่ แม้แต่เก้งกวางยังพูดถึงลูกชายคนเดียวของห้างที่ฉันทำงานอยู่ เขาว่ากันว่า เขาหล่อเหล่าเท่สมาร์ท บาดใจสาวๆ แม้แต่เก้งกวางยังติดใจ ในความหล่อเท่ผิวขาวเนียนผองใสดังน้ำนม แถมรวยอีกสะด้วยทีเด็ดที่สำคัญของเขาคือ เขายังโสดไม่ได้แต่งงานสะด้วย ทีเด็ดอีกอย่างที่คาดไม่ถึงเขาได้เป็นผู้บริหารห้างนี้ด้วยแหละ แถมอายุยังน้อยอีกด้วย

           ที่ได้ข่าวมาเขาอายุหางจากฉันเพียงแค่สองปีเท่านั้น ตอนนี้ฉันอายุ 25-26แล้วละ เขาคงประมาณ 27-28 นี้แหละ จะว่าไปฉันอยู่ที่นี้ตั้งนานยังไม่เคยเจอเขาเลย แม้แต่เงาฉันยังไม่เคยเห็น หรืออาจจะเคยเห็นแล้วแต่เราไม่รู้จักเขาก็เป็นได้  ดูเหมือนคนที่นี้จะเห็นเขากันหมดแล้ว ฉันคงบุญไม่ถึงที่จะได้เจอลูกชายคนเดียวของห้างสะมังเนี่ย ชั่งหน้าขำยิ่งนัก อยู่ดีๆมีเสียงเก้งกวางหน้าหวานพูดออกมาอย่างดัง

           "คุณพัส คุณพัส มาดูความเรียบร้อยที่นี้ ตอนนี้เขาอยู่ทางด้านเครื่องเทคโนโลยีใกล้เข้ามาทางโซนเราแล้วละ" ดูทุกคนตื่นเต้นดีใจเหมือนกับปลากระดี่ได้น้ำยังไงยังงันเลยละ ความรู้สึกของฉันตอนนี้นะเหรอ แอบดีใจอยู่นะอยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะหล่อเท่ขนาดไหนกันนะ  ที่ทำให้สาวเล็กสาวใหญ่ชอบพูดถึงเขากันจังเลย ฉันคงบุญถึงแล้วมังที่จะได้เจอเขา 

           อ่าลืมแนะนำเธอคนนี้ให้รู้จัก เก้งกวางหน้าหวานที่พึ่งพูดเสียงดังเมื่อสักครู่นี้เขามีชื่อเสียงเรียงนามว่า จินนี่ แต่ก่อนเขาชื่อว่า จิน พอรู้ตัวเองว่าเป็นเพศที่สาม นางเปลี่ยนมาเป็น จินนี่ นางอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันนี้แหละ พูดจาดีไพเราะ แถมพูดเก่งอีกต่างหากเวลาเขามีปัญหาหรือทะเลาะกับแฟนทีไรมาชวนฉันไปดื่มตลอด อารมณ์ดีมีความสุขก็พากันไปดื่ม เราสองคนสนิทกันเป็นพิเศษหรือเรียกว่าเพื่อนมหาสนิทหรือโคตรสนิทเลยดีกว่า พอจินนี่พูดจบประโยคจินนี่เดินตรงมายื่นตรงหน้าฉันพร้อมกับฉีกยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเอ่ยปากพูดกับฉันว่า

          "นี่ยัยเปียโน แก่ไม่รู้สึกอะไรบางเลยเหรอยะ แก่เห็นคนอื่นเขาทำอะไรกันบางไหมนะ เขาหยิบแป้งลิปสติกขึ้นมาเติมหน้าเติมตากัน แล้วนี่เพื่อนฉันมัวยื่นทำหน้าเอ่ออยู่ได้" ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆเมื่อยัยจินนี่พูดจบ มันก็จริงอย่างที่จินนี่มันว่าสาวน้อยใหญ่หยิบแป้งลิปสติกขึ้นมาเติมหน้าเติมปากกันยกใหญ่ ฉันพูดกับไปว่า

           "อะไรของแก่เนี่ย ทำไมฉันต้องเติมหน้าเติมตาด้วย ไม่เห็นจำเป็นเลย..?"พอฉันพูดจบยัยจินนี่ถึงกับอาปากค้างเลยทีเดียว แล้วค่อยๆพูดออกมาว่า

           "นี่แก่ไม่ตกหลุมรักคุณพัสของฉันเลยเหรอเปียโน เพื่อนฉันนี้หัวสูงจริงๆ"พอจินนี่พูดจบฉันฉีกยิ้มออกมาพร้อมกับพูดไปว่า

          "คุณพัสเขาไปเป็นของแก่ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ฮะจินนี่ ฮ่าๆ"ฉันอดขำเพื่อนฉันไม่ได้ที่กล้าพูดแบบนั้นออกมา จินนี่สวนกลับมาทันควัน

          "แก่ไม่ต้องมาขำฉันเลยนะ คุณพัสจะเป็นของฉันเมื่อไรมันก็เรื่องของฉันเหอะ ไอ้ที่แก่ไม่รู้สึกอะไรกับคุณพัสเลยอะคงเป็นไปไม่ได้ หล่อขนาดนั้นไอ้ที่ไม่รู้สึกเนีย แก่ยังไม่เคยเจอหน้าเขาเลยใช่ไม..?" ฉันยื่นยิ้มหยี่ๆให้จินนี่พร้อมกับยอมรับไปว่า

          "ใช่ ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย" ยัยจินนี่อดขำฉันไม่ได้ถึงกับขำออกมาอย่างดัง

          "ฮ่า ฮ่า ถึงว่า..นี่แก่ทำงานที่นี้มาพร้อมกับฉันก็เกือบสองปีแล้วนะ นี่แก่ยังไม่เคยเจอหน้าเขาอีกเหรอ เป็นไปได้ไงเนี่ยคนที่นี้เขาเจอกันหมดแล้ว แก่ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันยะ ฮ่าๆ น่าสงสาร"ฉันพูดกลับไปเสียงเอือยๆที่ต้องยอมรับความจริง

          "ไม่ต้องขำเลย ก็มันจริงนี่น่า ฉันก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เคยเจอหน้าเขาเลยฉันคงบุญไม่ถึงที่จะได้เจอเขามัง"ฉันยิ้มขำบางๆออกไปกับประโยคท้าย จินนี่ไม่ทันได้เอ่ยปากพูดเลย เสียงเจ้ากรรมนายเวรดังขึ้นมาขัดจังวะฉันทันทีที่จะได้เจอเจ้านายรุ่นใหม่หัวใจยังวัยรุ่น

           "เปียโนมาช่วยพี่ยกของเข้าสต๊อกหน่อยสิ วันนี้พี่เอาของมาลงใหม่เยอะเลย"ฉันหันหน้าไปตามเสียงที่ดังขึ้นเมื่อสักครู่ ฉันขานรับกลับไปว่า

           "ได้คะ พี่เจน"ฉันพร้อมส่งยิ้มรับในขณะที่พูดไปด้วย เสียงเพื่อนสาวเอ้ยไม่ใช่หรือใช่กันนะ

           "ท่าทางแก่จะบุญไม่ถึงจริงๆว่ะ เปียโน"จินนี่ขำเสียงอยู่ในลำคอ ฉันเดินตามพี่เจนไป คุณคงจะสงสัยใช่ไหมว่าพี่เจนคือใคร เขาคือผู้จัดการร้านเครื่องสำอางของฉันนี่แหละ พี่เขานานๆมาที ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาตอนนี้เวลานี้ด้วยไม่รู้ ขัดจังวะการเจอตัวคุณพัสเลย ท่าทางฉันคงไม่มีบุญเจอเขาจริงๆสะมังเนี่ย ฉันยิ้มที่มุมปากในขณะที่เดินตามพี่เจนไปเพื่อยกของเข้าสต๊อก






    ฝากติดตาม กดไลท์  กดแชร์ด้วยค่ะ

    ขอบพระคุณค่ะ
     

    ประพันธ์โดย
                                                 G P Y


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×