ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brother love สะดุดรักพี่ชายยัยเพื่อนสนิท

    ลำดับตอนที่ #13 : Brother love 13 ( ryo )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.41K
      7
      2 ก.พ. 56

    ตอนที่ 13


    "ไม่ได้หึง  ผมแค่หงุดหงิด"








     

    คุณพ่อ คุณแม่พี่เรียว สวัสดีค่ะ น้องมันยกมือไหว้ ผมมองน้องมัน แต่สายตากลมโตไม่ได้มองผมเลยสักนิด สงสัยยังคงโกธรอยู่ วันนี้น้องมันสวยมากครับ น้องมันจะรู้ไหมนะว่ามีแต่ผู้ชายมองตามตั้งแต่เดินเข้ามาในงานแล้ว เห็นสายตาผู้ชายพวกนั้นแล้วผมหงุดหงิดวะ กระโปรงยาวสีขาวขับผิวให้ที่ขาวอยู่แล้วให้ขาวขึ้นไปอีก หมวกในเล็กถูกติดไว้อย่างน่ารัก อ้า!! วันนี้น้องมันน่ารักมากๆเลยละครับ ผมอยากเข้าไปหอมแก้มขาวๆนั่นชะมัด


    แกมานั่งนี้ซิ มิกะเรียกโมมานั่งใกล้ๆ โดยที่ฝั่งซ้ายของน้องมันคือผมเอง และข้างๆผมอีกคนคือแจม พ่อแม่ผมเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกันกับครอบครัวของแจมครับ วันนี้ครอบครัวของแจมเลยมาร่วมโต๊ะกับพวกผมด้วย คือแจมก็ไม่เท่าไหร่นะผมว่า แต่พี่เจมส์นี้ดิ่ครับ มองโมตาไม่กระพริบเลย สาธุ!! ขอให้มันตาเหล่ เพี้ยง!!


     

    กินนี้ซิ ผมตักอาหารให้น้องมัน น้องมันดูชะงักไปนิด ก่อนจะหันมาขอบคุณผม แต่ก็ไม่ได้สนใจอาหารของผมเลยแม้แต่นิด เฮ้อ!! ผมไม่ชอบแบบนี้เลย น้องมันต้องยังโกธรผมอยู่แน่ๆ

     

    ผมกำลังอึ้งกับผู้หญิงสวยที่กำลังเดินมากับอาของผม ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนอื่นไกลเลย เขาคือคนเมื่อวานที่ผมทิ้งขว้างเขา เมื่อวานนี้ผมโทรไปหามิกะแล้วให้มิกะถือสายเอาไว้ ผมยังจำคำพูดของน้องมันได้ดีที่บอกว่า รักผมมาก ทั้งที่น้องมันก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม แต่ผมพอจะรู้เหตุผ]นะ ก็เพราะว่าผมอ่ะน่าร๊ากม๊วกม๊วกไง ^^

     

    พี่ขอโทษนะ ผมพูดเสียงปกติ ไม่ได้คิดจะกลัวใครได้ยินอยู่แล้ว เพราะยังไงพ่อแม่ผมก็ไม่ได้ว่าอยู่ไรอยู่ดี ส่วนที่นั่งๆอยู่ก็คนอื่นทั้งนั้น ผมไม่ได้แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าความรู้สึกของตัวเองอยู่แล้ว

     

    เรื่อง?” โฮฮ เสียงเย็นชามากครับ น้องมันไม่หันหน้ามามองผมด้วยนะ ผมสำนักผิดแล้วนะ ให้อภัยผมเถอะ กระซิกๆ

     

    เรื่องเมื่อวาน พี่รู้ว่าพี่ผิด แต่พอเราออกไป พี่ก็โทรหามิกะ แล้วก็กลับเลย น้องมันหันมามองหน้าผม สายตาหวูบไหวบอกให้ผมรู้ว่าน้องมันกำลังสับสน พ่อแม่ผมนั่งยิ้ม ครอบครัวแจมทำหน้างงๆกับคำพูดของผม แต่ผมก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรอยู่แล้ว

     

    “..................................” น้องมันไม่ตอบอะไรครับ หันหน้าไปสนใจอาหารเหมือนเคย ผมว่าตอนนี้คงคุยกับน้องมันไม่รู้เรื่องแน่ๆ เลิกงานแล้วค่อยเคลียร์อีกทีละกัน

     

    พี่เคน พี่ดาว สวัสดีครับ ขอโทษทีนะครับ ผมเพิ่งเคลียร์เสร็จเลยมากันสาย ผู้มาใหม่คือครอบครัวของอากิจ ครับ ครอบครัวนี้สนิทกับครอบครัวผมมาก

     

    เฮ้ยพี่เรียว น้องมิกะหวัดดี ไอ้ชินครับเป็นลูกชายคนเดียวของอากิจ มันชอบชวนผมไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ ผมรับไหว้มันไป แต่ตามันไม่ได้มองมาที่ผมเลย ดันมองมาที่คนข้างผม อีกแล้วไง หยึย!! ผมหงุดหงิดอ่ะ

     

    เอ่อ สวัสดีครับ ผมชื่อชินนะ คุณชื่ออะไรหรอ มันหันไปถามคนข้างผม

     

    สวัสดีค่ะ ชื่อแตงโมค่ะ เป็นเพื่อนมิกะหนะน้องมันยิ้มอ่อนๆ ให้ไอ้ชินไป ไอ้ชินยิ้มเขินใหญ่ แล้วมันก็นั่งลงตรงข้ามกับโมพอดี ใครมันเอาเก้าอี้มาไว้ตรงนี้วะ ผมอยากทุบเก้าอี้ทิ้งวะ
     

    .

    .

    .

    ต่อไปนะครับก่อนที่เราจะต้องล่ำลากันไปในคืนนี้ เราขอเชิญทุกท่านร่วมเต้นรำกันในงานเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เจ้าของวันเกิดครับ อาศรเริ่มเป็นพิธีกรอีกครั้ง โดยที่มีโมยืนอยู่ข้างๆ เสียงเพลงเริ่มดังขึ้น ทุกคนต่างจับคู่ของตัวเองขยับร่างายตามจังหวะเพลง มีผู้ชายหลายคนเดินอยู่รอบๆข้างๆเวที คงอยากจะชวนน้องมันเต้นคู่ แต่ไม่กล้าเพราะอาศรของผมยืนอยู่ด้วย

     

    ไปขอมันมาเต้นคู่พี่ดิ่ เร็วๆเลย มิกะมาระซิบข้างหูผม ผมคิดอย่างนั้นอยู่แล้วครับ เรื่องอะไรจะยอมให้น้องมันโดนแย่งไป

     

    เฮ้ยมิกะ พี่ไปขอเพื่อนมิกะเต้นได้ไหมอ่ะ ผมที่กำลังจะก้าวขาออกไป ต้องหยุดเพื่อหันมาดูเจ้าของเสียงนั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ใครไอ้ชินนั้นเอง

     

    กลับไปนอนฝันที่บ้านเหอะวะชิน ผมพูดแค่นั้นก็เดินขึ้นไปบนเวที หยุดตรงหน้าน้องมัน โค้งตัวพร้อมกับผายมือไปข้างหน้า

     

    เต้นรำกับพี่นะ น้องมันมองหน้าผมนิ่ง มือขาวยื่นออกมาเล็กน้อยแล้วก็หยุดนิ่ง น้องมันคงใช้ความคิดอยู่สักพัก และคำตอบที่ได้คือ

     

    เพลงเดียวนะ น้องมันพูดแค่นั้นแล้วก็ยื่นมือขาวนิ่มมาจับมือ ผมยิ้มกว้างให้น้องมันไป

     

    เรื่องอะไรจะเพลงเดียวละ พี่ไม่แบ่งเราให้ใครหรอกนะ หว่านเสน่ห์เรี่ยราดเลยนะเราอ่ะ ผมดุน้องมันเบาๆ พร้อมกับขาของเราสองคนเคลื่อนย้ายขยับไปเรื่อยๆ

     

    หว่านเสน่ห์อะไร ไม่เห็นมีใครมองเลย น้องมันหันซ้ายหันขวาไปดูคนรอบๆ สงสัยน้องมันคงไม่รู้ตัวเองจริงๆ เพลงแรกจบไปแล้ว ผมยังคงโอบเอวน้องมันไม่ปล่อยไปไหน เราไม่ได้คุยอะไรกันมาก สายตากลมโตมองมาที่สบตาผมตลอด ซึ่งผมก็ไม่หลบสายตาหนีไปไหน บางทีสายตาอาจจะบอกอะไรได้ดีกว่า

     

    พี่เบื่อเต้นแล้วละ ผมพูดขึ้น น้องมันทำตาละห้อย

     

    งั้นก็บ่อยโมได้แล้วค่ะ โมจะกลับแล้ว แหนะ มีเหวี่ยงครับ มีเหวี่ยง

     

    เรื่องอะไรละ ไปกันนน.... ผมดึงน้องมันออกจากฟอล์เต้นรำ แล้ววิ่งไปปหามิกะ

     

    พี่ฝากลาพ่อกับแม่แล้วก็แขกในงานด้วยนะ อ่อส่วนเพื่อนเราก็ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ส่งถึงที่แน่นอน ไปละไอ้น้องรัก ผมพูดรัวเร็วให้มิกะฟัง โมกำลังจะอ้าปาก ผมลากต้องรีบดึงน้องมันออกจากงานไปที่ลานจอดรถ

     

    แฮ่กๆ พี่เรียวๆ ช้าๆ ช้าๆ ช้าหน่อย เสียงหอบเหนื่อยดังมาจากข้างหลังผม สงสัยผมคงพาน้องมันวิ่งเร็วไปหน่อย ดันลืมไปซะสนิทเลยว่าน้องมันใส่กระโปรงยาว ดีนะที่ไม่สะดุด ฮ่าๆ (จะวิ่งทำไม? ไม่มีใครตามมึงมาหรอกนะเรียว << ไรท์)

     

    โทษทีพี่วิ่งเพลินไปหน่อยหนะ แฮะ น้องมันมองค้อนมาให้ผม เฮ้ย ค้อนแล้วหรอเนี่ย น่ารักไปละ

     

    แล้วจะพาไปไหน งานยังไม่เลิกเลยนะ พ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้ลาเลย เป็นคนที่มารยาทดีมากครับน้อง

     

    เอาน่า พี่ฝากมิกะลาแล้วไง ส่วนเรื่องที่จะพาไปไหนเดี๋ยวถึงแล้วก็รู้เอง น้องมันขมวดคิ้ว คงยังประมวลผลไม่ทันละมั้งครับ

     

    ไปเถอะ ผมเปิดประตูรถให้สาวงามเข้าไปนั่ง แล้วอ้อมมาเปิดประตูฝั่งตัวเอง หันไปมองคนข้างๆ น้องมันนั่งหน้านิ่ง ผมอยากรู้จังว่าน้องมันกำลังคิดอะไรอยู่

     

    ฟอดดดดด!!

     

    ทำอะไรเนี่ยพี่เรียว

     

    หอมแก้มไงครับ เห็นแล้วหมั่นไส้วะ เอามาหอมอีกข้างดิ่ ผมตอบน้องมันไปแบบแถๆอ่ะ

     

    ทะลึ่ง ออกรถเลยนะ ออกรถเลย น้องมันหน้าแดงใหญ่เลยอ่ะ

     

    ต่อค่ะ

     

    ผมพาน้องมันมาที่คอนโดของผมเองครับ  คือมันก็ดึกแล้วไง ผมก็คิดไม่ออกด้วยว่าจะไปที่ไหนดี คอนโดผมเนี่ยแหละส่วนตัวดีด้วย  น้องมันก็เดินตามผมมาเรื่อยๆ

     

    “เข้าไปได้จริงอ่ะ” น้องมันถามผมที่กำลังรูดการ์ดเข้าห้อง

     

    “ทำไมถามงี้ละ” 

     

    “ก็เผื่อมี กิ๊กเล็กๆ กิ๊กเด็กอนุบาล กิ๊กนานๆ กิ๊กเด็ก ม.4 อะไรแบบนี้ไง”  ดูน้องมันพูดเปรียบดิ่ครับ  เฮ้ย  ผมเสียหายนะเนี่ย ผมป่าวพรากผู้เยาว์นะครับ ผมป่าว

     

    “ไม่มีหรอก  มีแต่...........”   ผมหยุดไว้เพียงแค่นั้น น้องมันทำน่าสงสัย

     

    “แต่.......แต่อะไรอ่ะ”     ผมหันไปมองซ้าย น้องมันก็มองผมตาม หันไปมองทางขวาน้องมันก็มองตาม

     

    “มีแต่.....ผีไง”
     

     

    หมับ!!!
     

     

    หึหึ  ผลตอบแทนเป็นอย่างที่คาดคิดครับ  น้องมันกอดผมแน่นเลยอ่ะ ผมปล่าวซวยโอกาสนะครับ  ผมแค่มีความคิดสร้างสรรค์  สร้างสรรค์ที่จะโดนตัวนิดโดนตัวหน่อยเท่านั้นเอง

     

    “พี่เรียวบ้า  ขี้แกล้ง”  พอน้องมันเริ่มประมวลผลได้ ก็ปล่อยเอวผมออก แล้วทำหน้างอลใส่ผมเฉยเลย  นี้ผมผิดอะไรเนี่ย น้องมันมากอดผมเองนะ  ผมเสียตัวนะเนี่ย ผมเป็นฝ่ายเสียตัวนะ

     

    “เชิญครับ”  ผมเปิดประตูแล้วเชิญคุณนายเข้าไปในห้อง

     

    “เดี๋ยวพี่เอาน้ำมาให้นะ”

     

    “ห้องน้ำอยู่ทางไหนค่ะโมขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมอ่ะ”  น้องมันขออนุญาต ผมชี้ไปที่ประตูห้องน้ำ บอกทางน้องมัน

     

    “พี่เรียวอยู่คนเดียวหรอ? ห้องสวยจัง”  น้องมันหันซ้ายหันขวา สมรวจห้องของผม  ผมจัดห้องใฟ้อยู่ในโทนสีฟ้าครามๆ เพราะมันจะช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย เวลากลับมาหลังจากเรียนเหนื่อยๆ

     

    “อื้อ  ซื้อไว้เวลากลับบ้านดึกๆหนะ เกรงใจคนในบ้านไม่อยากให้มาเปิดประตูตอนดึก” น้องมันพยักหน้าเข้าใจ

     

    “โม....”

     

    “หือ?”   น้องมันขานรับในลำคอ สายตายังคงมองสำรวจห้องผมไป

     

    “หายโกรธพี่รึยังครับ”  ผมกำลังง้อครับ ก็ต้องพูดเพราะกันหน่อยละงานนี้ น้องมันหันมาสบตาผม  แล้วก็พยักหน้าแทนคำตอบ  ผมยิ้วกว้างเลย

     

    “ที่จริงโมไม่สิทธิโกธรพี่หรอกนะ เพราะโมเองต่างหากที่มัดมือชกให้พี่เรียวต้องไปส่ง” น้องมันก้มหน้าพูดเสียงสำนึกผิด

     

    “เงยหน้าขึ้นซิ” หน้ามันส่ายหัวไปมา  อะไรวะ รึว่าร้องไห้  เอาแล้วไงครับ ผมทำน้องมันร้องไห้อีกแล้วหรอเนี่ย

     

    “โม.....เงยหน้าขึ้นมาซิ”  น้องมันก็ยังคงส่ายหัวให้ผมอยู่  ผมเลยต้องยื่นมือไปจับปลายคาง แล้วชายคางน้องมันขึ้นมาเอง  หยดน้ำใสคลอบางๆที่ขอบตา สงสัยน้องมันคงพยายามกลั้นอยู่

     

    “อึกก.....”  มาแล้วครับเสียงสะอื้น  ผมรีบกอดปลอบน้องมันทันที  ผมทำให้น้องมันเสียใจขนาดนี้เลยหรอเนี่ย

     

    “ไม่เอานะครับ  ชู่วววว  ไม่ร้องนะ  พี่ขอโทษนะครับ พี่ขอโทษ”  ผมพูดปลอบพร้อมกับลูบหัวน้องมันเบาๆ 

     

    “พี่เรียว  อึก..  รำคาญ...ฮึก โมไหม  โมไม่อยากงี่เง่านะ ไม่ได้อยากร้องด้วยเนี่ย แต่มันไหลมาเอง ห้ามแล้วนะ แต่มันก็ไม่ยอมหยุด  อึก...”  เสียงหวานพูดปนสะอื้น  ผมกระชับอ้อมกอดแน่ขึ้น หวังเพียงความอบอุ่นจะส่งไปถึงน้องมันได้

     

    “พี่ไม่ได้รำคาญโมนะครับ  ไม่เคยคิดรำคาญด้วยนะ  แล้วพี่ก็ไม่ได้ว่าเรางี่เง่าเลยด้วย ไม่เอานะครับ  ไม่ร้องแล้วนะ”  โมผละตัวเองออกมา พยักหน้ากับคำพูดของผมเล็กน้อย แล้วใช้มือขาวเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ 

     

    “หยุดร้องแล้วนะ   ตาก็ไม่บวมด้วย”   เสียงหว่นใสกลับมาพูดในจังหวะปกติอีกครั้ง  ผมกำลังตามอารมณ์น้องมันไม่ทันครับ เมื่อกี้ร้องไห้ตอนนี้ยิ้มแล้วซะงั้น  

     

    “ไปรับลมข้างกันดีกว่า”  ผมพูดอย่างนึกขึ้นได้กับจุดประสงค์ที่พาน้องมันมาที่นี้   มองมันลุกขึ้นตามผมเดินออกมาตรงระเบียงกว้างที่ยื่นออกไปเป็นสระว่ายน้ำเล็กๆ ผมพาน้องมันมานั่งเก้าอี้นอนตัวยาว แล้วผมก็นั่งซ้อนข้างหลังน้องมันอีกที 

     

    “ขยับออกไปอีกเลยนะ”  น้องมันทวงผมทันทีที่ผมกำลังจะโอบเอวบางนั้น  โฮ  อะไรอ่ะกำลังจะเข้าโรแมนติกแล้วนะเนี่ย คิดว่าผมจะสนไหมละครับ  ผมรีบโอบเอวบางนั้นทันที น้องมันขัดขืนอยู่สักพัก และเหมือนเจ้าตัวจะคิดได้ว่าขัดขืนไปก็เหนื่อยป่าวเลยยอมนั่งอยู่นิ่งๆ  ผมยิ่งได้ใจเอาหัวเกยไหล่น้องมันไว้

     

    “ไม่ดิ้นแล้วหรือไงฮึ” 

     

    “ดิ้นแล้วปล่อยป่ะละ  เหนื่อยป่าวอยู่ดีอ่ะ”  น้องมันตอบผมเสียงงอลๆ  ผมกดหอมแก้มขาวไปหนึ่งที  หมั่นไส้ครับแก้มป่องของน้องมันจ้องหน้าผมอยู่ได้(แก้มจ้องหน้า  มึงมั่วมากอ่ะเรียว  <<< ไรท์เตอร์)  

     

    “............................................”   ไม่มีการโวยวายใดๆกลับมาครับ  มีแต่หน้าขาวเนียนที่กำลังจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงขึ้นเรื่อยๆ  เรื่อยๆ  โฮ  เขินได้น่ารักมากอะ

     

    “พี่มีของจะให้เราด้วยนะ  แทนคำขอบคุณที่ดูแลมิกะ ดูแลครอบครัวของพี่”  น้องมันหันมามองผม

     

    “ของ....ของอะไร?  โมทำไม่ได้หวังอะไรตอบแทนสักหน่อย” 

     

    “พี่รู้ว่าเราไม่ได้หวังอะไรกับครอบครัวพี่ คือ...คือเอาตรงๆเลยนะ  เมื่อกี้มันก็เป็นข้ออ้างของพี่เองนั้นแหละ ที่จริงพี่อยากจะให้สิ่งนี้กับเราเอง  คือ...มันแบบ....ยังไงดีละ”  เอาละครับพูดเองชักเขินเองแล้วไง

     

    “คิคิ.......เอาเถอะค่ะโมจะถือว่าเข้าใจแล้วกันนะ”  น้องมันหัวเราะอาการเขินของผมใหญ่เลย  ไอ้เรียวเอ้ย! ไอ้เรียว

     

    “ไหนของที่จะให้ละ  อยากเห็นๆ  อยากรู้แล้ว อยากรู้”  ทีงี้ละคะยั้นคะยอผมใหญ่เลย

     

    “ของที่พี่จะให้เราก็คือ................................................”

     

     

    “ก็คือ......คืออะไรละ”   

     

    “อ่ะ”  น้องมันนิ่งอึ้งเมื่อเห็นสิ่งที่ผมให้  มันเป็นสร้อยธรรมดาแต่แค่มีจี้เป็นเพรชที่ผมสั่งทำพร้อมกับแหวนของครอบครัวผมที่น้องมันเป็นตัวต้นคิดนั้นแหละ  จี้สั่งทำเป็นตัวภาษาอังกฤษที่อ่านว่า Special ที่เป็นว่า”พิเศษ”  ผมยอมรับนิดๆแล้วก็ได้ว่าน้องมันพิเศษสำหรับผม

     

    “...........................”  คนตรงหน้ายังคงนิ่ง มีแต่หยดน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นทาง ผมเกลี่ยน้ำตาให้น้องมันอย่างเบามือ

     

    “เป็นอะไรครับ  ร้องไห้อีกแล้วนะ ไม่ชอบของที่พี่ให้หรอ”  น้องมันรีบส่ายหัวไปมาทันที

     

    “อึก.....ทำไม...อึก....ทำไมต้องให้ด้วย” 

     

    “ก็อย่างที่พี่บอกเราไปไง ว่าพี่อยากให้เราไว้เฉยๆ”

     

    “อึก...ไปทำมาตอนไหน”   น้องมันเริ่มยิงคำถามใส่ผมละผมว่า

     

    “ก็สั่งทำตอนทำแหวนนั้นแหละ ค่าแหวนแปดแสน  พี่ก็เลยสั่งทำสร้อยอีกสองแสน ล้านนึงพอดีเลย ไม่มีเศษเลยนะ”  ผมพูดติดตลกไป  น้องมันทำตาโตเมื่อได้ยินราคา

     

    “แล้วที่จี้ละ” 

     

    “ก็หมายความตามนั้นแหละครับ ตอนนี้พี่บอกเราได้แค่นี้นะ  เอาไว้ให้พี่มั่นใจกว่านี้ก่อนนะครับ”  ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ผมยังไม่มั่นใจอะไรในตัวผมทั้งนั้น แต่ผมไม่เคยต้องมาอธิบาย หรือต้องตามง้อใครแบบที่เคยทำกับโม ไม่เคยหึงใครด้วย  เอ๊ะ!! เดี๋ยวนะ  ผมไม่ได้หึง  ผมแค่หงุดหงิดที่เห็นคนอื่นใกล้น้องมันต่างหาก  ผมไม่ได้หึงนะ คุณเชื่อผมดิ่

     

    “ว่าไงครับ  จะรับเอาไว้ไหม”   น้องมันสูดหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้หยุดร้องไห้แล้วครับ

     

    “ให้แล้วห้ามเอาคืนนะ”  พอหยุดร้องก็กลับเสียงสดใสเหมือนเดิม  ผมตามอารมณ์ไม่ทันเลยจริงๆ

     

    “เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นรึไงกันฮึ” 

     

    “ขอบคุณนะค่ะ    จุ๊ปป!!    อั๊ยยะ  น้องมันรับสร้อยไปแล้วก็มาหอมแก้มผมอ่ะ  อ๊ายย   ผมเขินเป็นนะ ฮ่าๆ

     

    “ไม่เอาตรงนั้น  จะเอาตรงนี้”  ผมชี้ไปที่ปากตัวเอง น้องมันก้มหน้าแดงใหญ่  แม่ง! จะน่ารักไปไหนวะ

     

    “ไม่เอาหรอก  แค่นั้นก็พอแล้วเน้อะ”  เฮ้ย!!  อย่ามาทำสายตาปิ้งๆ  อ้อนแบบนี้นะ 

     

    “ใส่ไหม  เดี๋ยวพี่ใส่ให้”  ผมบอกหลังจากน้องมันมองสร้อยไปยิ้มไปอยู่คนเดียว  น้องมันยื่นใส่ให้ผม  แขนสองข้างของผมโอบรอบคอน้องมันไว้  พร้อมกับปลดกระจอสร้อยให้เข้ากับที่ล๊อก   ผมค่อยๆเลื่อนมือมานาบแก้มสองข้างของน้องมันไว้  เราสบตากันนิ่ง  น้องมันยังคงยิ้มไม่หุบ  ผมชอบนะที่เห็นน้องมันยิ้มได้แบบนี้

     

    “ชอบไหมครับ” 

     

    “อื้อ  ชอบมากเลยละค่ะ”  โมก้มลงไปดูสร้อยที่ห้อยอยู่ตรงคอ แล้วเงยหน้ามาขึ้นมา  ผมเลยได้โอกาสก้มลงชิมกลีบปากบางนั้น  น้องมันไม่ได้ขัดขื่นผม ยิ่งทำให้ผมได้ใจบดเบียดริมฝีปากแรงขึ้น

     

    “อื้ออออออออออ”   เสียงครางในลำคอบอกให้ผมรู้ว่าโมหายใจไม่ทัน ผมเลยต้องถอนริมฝีปากออกมาอย่างน่าเสียดาย  แต่ผมก็กดจูบลงไปอีกครั้ง  หวานมากครับ  หวานจนผมไม่อยากจะหยุดชิม  ผมปล่อยปากโมให้เป็นอิสระ แล้วเลื่อนลงมาไซร้คอขาวระหง ปากก็หวาน  ตัวก็หอมครับ คนนี้

     

    “อ่ะ....พี่เรียวอย่า” ผมไม่ฟังยังคงสูบดมความหอมต่อ

     

    “พี่เรียวอย่านะ พี่เรียว....อ่ะ”   เสียงห้ามดังขึ้นอีกครั้ง ผมหยุดนิ่ง  น้องมันตัวสั่นมากครับ  ผมคงทำให้น้องมันกลัว ผมละออกจากคอโมทันที

     

    “พี่ขอโทษนะครับ  พี่ขอโทษนะ”  ผมกอดน้องมันไว้แน่น  ไม่อยากทำให้น้องมันกลัวผมเลย

     

    “......................”

     

    “พี่ทำให้เรากลัวใช่ไหม   พี่ขอโทษนะครับ”  ผมพูดเสียงอ่อนโยน   โมเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม  แขนเรียวยกขึ้นมากอดผมตอบ

     

    .

    .

    .
     

    ผมพาโมเข้ามาในห้องแล้ว  ข้างนอกเริ่มจะหนาวแล้วครับ กลัวโมไม่สบาย มิกะมันจะด่าผมอีกอ่ะ

     

    “นอนนี้แล้วกันนะ  ดึกแล้วพี่ไม่อยากขับรถอ่ะ”  ผมมัดมือชกเต็มที่

     

    “ได้ไงกัน  โมไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนนะ” 

     

    “อยู่ในตู้ฝั่งนั้น ทุกอย่างมีครบ มิกะมันซื้อมาทิ้งไว้ เผื่อเวลามันจะมานอนกับพี่หนะ” 

     

    “แล้วโมนอนห้องไหนค่ะ”   คือว่าคอนโดผมมีสามห้องนอนครับ ตอนเข้ามาน้องมันคงสำรวจดูเรียบร้อยแล้ว

     

    “ห้องเดียวกับพี่ซิ ห้องอื่นยังไม่ได้ทำความสะอาดเลย”  น้องมันทำหน้าไม่ไว้วางใจ

     

    “แต่โมว่า.............”


     

    “ฮ้าวววววว    พี่ง่วงแล้ว เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะเราก็เลือกของจำเป็นในตู้นั้นตามสบาย"  ผมพูดตัดบทน้องมันทันที  พอพูดเสร็จก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปเลยครับ  ได้ยินน้องมันบ่นอะไรกับตัวเองแว่วๆ 


    “หรือจะอาบพร้อมกันเลยประหยัดเวลาดีนะ”  ผมแง้มประตูไปบอกน้องมัน


     

    พรึ่บ!!!   

     

    น้องมันขว้างผ้าขนหนูใส่หน้าผมอ่ะ 

     






    Talk

    ครบแล้วนะ
    พอดีเราเพิ่งสอบเสร็จหนะ 


    ยังไงก็เม้นบอกกันได้นะ

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×