ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NoHero&LSK : ถ้าเทพอัศวินไปเซ็ตติ้งซัน

    ลำดับตอนที่ #21 : ลูซิเฟอร์ ประมุขแห่งความตาย [เหรอ?]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      2
      13 ก.ย. 52

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้นะฮาเดส!!!”

    ปัง!!!!!

    “ครีอุสอาละวาดอีกแล้ว”เคเรสหดหัววูบทันทีที่เสียงดังขึ้นอีกครั้ง

    “ในห้องเจ้านั่นมันยังมีของให้ปามาอีกเหรอ”เฮฟเตตัสชักหน้าแหย

    หลังจากพวกเขาจัดการขังครีอุสเอาไว้ในห้องมันก็เป็นจริงอย่างที่พวกเราคาด ครีอุสหลังพักฟื้นต่อไปอีกซักสองชั่วโมงก็หายดีเต็มที่ เริ่มอาละวาดจะออกจากห้องอย่างที่เห็น แต่ข้าก็ใช้น้ำแข็งแช่ประตูกับหน้าต่างเอาไว้จนเปิดไม่ออก และข้างหน้าก็มีฮาเดสกับไทรอนเป็นคนเฝ้า [เพื่อไม่ให้ตัวแสบของพวกเราแอบใช้เวทย์ไฟหลอมน้ำแข็งแล้วหนีออกมา]

    “ข้าว่าถึงไม่มีครีอุสก็มีวิธีทำให้มัน “มี” จนได้แหละ”อาเทมิสพึมพำ

    “แต่ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ...ที่เทอร์มิสบอกพวกเรานี่”ข้าถอนหายใจพลางหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆนั่นออกมา

    ตอนแรกข้าไม่สนใจจะอ่านมันด้วยซ้ำ เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางทำให้เทพอัศวินเปลี่ยนใจกันได้ง่ายๆ และคงไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ได้อีกแล้ว แต่แค่ข้าอ่านบรรทัดแรกแบบผ่านๆเท่านั้นข้าก็ตกใจจนแทบปล่อยกระดาษตกน้ำ

    เรื่องราวอย่างย่อๆที่ถูกเขียนอยู่ในนั้นทำให้ข้าที่เป็นถึงเทพแห่งความเย็นชาจำใจต้องทิ้งหน้าที่ของตนเอง รีบกลับมาเรียกทุกคนประชุมเป็นการด่วน [แบบนี้ข้าก็ไปบ่นเจ้าเทมเพสหรือครีอุสไม่ได้แล้วสิที่พวกเขาละทิ้งหน้าที่ของเทพอัศวิน ในเมื่อข้าก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน เฮ้อ]

    และก็เป็นไปตามที่ข้าคาด ใบหน้าของแต่ละคนในตอนที่รับรู้เรื่องทั้งหมดถึงกับช็อคค้าง โดยเฉพาะเคเรสและฮาเดส ทั้งสองคนแทบทรุดลงไปกับพื้นอยู่แล้วถ้าไม่ได้คนอื่นประคองเอาไว้ เมื่อคืนเคเรสเอาแต่โทษตัวเอง ร้องไห้งอแงน้ำตานองหน้า ส่วนฮาเดสก็เซื่องซึมลง เงียบกริบไม่พูดไม่จา เกือบจะไปซ่อนตัวเป็นมุมมืดเสียแล้วถ้าไม่ถูกเฮฟเตตัสดึงตัวเอาไว้ก่อน

    ตอนนี้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของพวกเราคือการขังครีอุสเอาไว้กับห้องนอนระหว่างที่พวกเรามาคิดไม่ตกกันจนแทบบ้ากับเรื่องตาของเขา แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงกันได้อีก เพราะเคเรสยืนยันกับตัวเองว่าตอนที่เขาเพิ่งฟื้นขึ้นมาใหม่ก็เคยใช้เวทย์รักษากับครีอุสมาแล้ว

    แต่ตอนนี้...ที่ข้าห่วงที่สุดคือครีอุสจะหนีออกไปได้เมื่อไหร่ เพราะข้ารู้ดีว่าแค่น้ำแข็งของข้าคงกักตัวเขาได้ไม่นานแน่ และคนที่มีพลังจิตสัมผัสสูงส่งอย่างเขา น่าจะรู้วิธีพรางตัวจากพลังจิตสัมผัสของพวกเราได้แน่นอน

    หวังว่าระหว่างที่ข้ากำลังคิดไม่ตก...เขาคงไม่หลบออกไปได้แล้วหรอกนะ



    “คิดจะมาขังข้า...ยังเร็วไปสิบปี!”ข้าเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

    คิดว่าข้ากลัวเหรอ...ขนาดเทอร์มิสหรือเทมเพสข้ายังกล้ายั่วโมโห นับยประสาอะไรกับพวกเจ้า!

    คอยดูนะ...ข้าจะหนีออกไปให้ดู

    วู้ม...

    “ไฟนรก”ข้าร่ายเวทย์ เรียกเปลวเพลิงสีดำสนิทออกมา จากความรู้ที่ข้าเคยได้รับตอนที่เรียกมาจากไอเควส ไฟนรกเป็นเวทย์ขั้นกลางที่มาจากเวทย์เพลิงผสมกับเวทย์ความมืด กลายเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรงที่จะเผาทำลายทุกอย่างให้สิ้นซาก ไม่เว้นแม้แต่น้ำหรือน้ำแข็ง

    ซึ่งน้ำแข็งของไอซอทก็ไม่เว้น!

    ฟู่~~~~~~~~~~~

    ข้าไม่หลอมน้ำแข็งตรงประตูให้โง่หรอก ข้าแค่หลอมหน้าต่างให้น้ำแข็งหนาปึ๊กพวกนี้มันละลายเป็นรูเท่านั้นก็พอแล้ว ทีนี้ข้าก็แค่ไม่ให้พวกเขามาตามข้าได้ง่ายดายนัก เพราะฉะนั้นถ้าเจ้าไอซอทเสกน้ำแข็งแช่แข็งประตูข้างนอกเอาไว้ งั้นข้าก็จะใช้น้ำแข็งแบเดียวกับเขา แช่แข็งประตูขากภายใน ดูซิว่ากว่าเขาจะพังน้ำแข็งของตัวเอง แล้วยังต้องมาพังน้ำแข็งของข้าอีก พวกเขาต้องใช้เวลาซักเท่าไหร่กว่าจะบุกเข้ามาแล้วรู้ว่าข้าหายไป

    ข้าร่ายเวทย์เยือกแข็งทับลงไปเกือบเจ็ดชั้น แถมยังใช้เวทย์ลมยกตู้ไปปิดประตูอีกรอบ คราวนี้กว่าพวกเขาจะพังเข้ามาได้คงยากกว่าเดิมอีกหลายเท่าแน่ๆ

    “ถ้าคิดจะขังข้า...อย่างน้อยๆเจ้าต้องขังเทอร์มิสให้ได้ซะก่อนเถอะ!”ข้าตะโกนใส่คนที่อยู่ข้างนอก ก่อนจะซัดก้อนน้ำแข็งใส่ประตูตู้ไปอีกก้อนให้เสียงมันดังเหมือนข้ากำลังอาละวาด

    ปัง!!!!!

    ลาล่ะ! ข้าจะไปตามล่าพวกศาสนจักร ไม่ว่าพวกเจ้าจะพยายามกักตัวข้าเอาไว้ก็ตาม!!!



    “พี่ครีอุส...หลบออกมาอีกแล้ว”คุณหนูหลุดหัวเราะ ในระหว่างที่พวกผมกับพวกคุณเทียนฉาตกใจจนแทบจะแข็งเป็นหินไปทั้งตัว

    การมาเห็นสิ่งที่เรียกว่า “เวทย์มนต์” แบบชัดๆเต็มตาทำให้พวกผมแทบช็อค มันเป็นอะไรที่พวกผมไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ ทั้งไฟสีดำสนิท น้ำแข็งที่อยู่ๆก็โผล่ออกมา หรือแม้แต่...รูปถ่ายที่คุณโลชูส่งมาเมื่อเช้านี้

    รูปถ่ายติดวิญญาณ

    แต่ที่ผมรู้อย่างหนึ่งก็คือ ปิศาจที่ลีฟบัดนั้นสามารถถ่ายติดในกล้องถ่ายรูปและกระจกได้ โดยที่สิ่งที่จะสะท้อนออกมาคือตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาปลอมตัวอยู่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมรูปที่ถ่ายติดถึงเป็นเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน แทนที่จะเป็นนักฆ่าผมดำอย่างที่พวกผมเห็น

    “จะเอายังไงคะคุณหนู ปล่อยเขาไปเหรอ”

    “เราคงไปขวางเขาไม่ได้หรอกครับ”ผมตอบอย่างอ่อนใจ

    “แต่...ผมอยากเห็นเวทย์มนต์ชัดๆกว่านี้จัง”

    “คุณหนู!!!!!”

    พวกผมรู้สึกถึงลางร้ายกันแล้วครับ...พวกคุณล่ะรู้สึกมั๊ย?



    “...ลอ~เรน~~~...”

    “...ข้าขอตัวซักครู่ เทพอัศวินเอกอน...”ข้าถอนหายใจ

    “ได้สิ ท่าทางครีอุสจะเงียบไปแล้วด้วยล่ะ”เอกอนพยักหน้า

    ข้าเลี่ยงออกมาจากสายตาของเทพอัศวิน ตรงดิ่งขึ้นไปที่ชั้นบนที่น่าจะหลบสายตาคนได้มากที่สุด

    “ออกมา...ลูฟ”ข้าเรียก

    ฟู่!!!

    ควันดำๆปรากฏขึ้นตรงหน้าข้า ก่อนจะก่อตัวเป็นรูปร่างชัดเจนขึ้น

    ร่างของมัน...เอ่อ...เรียก “เขา” ดีกว่า ควันนั้นก่อตัวเป็นชายร่างเล็กๆ จากที่ข้าคะเน ขนาดตัวของเขาน่าจะเล็กพอๆกับตุ๊กตาฟางของเทพอัศวินเคเรส เด็กชายมีผมสีม่วงเข้มเหลือบดำและดวงตาสีแดงสดแวววาว เขี้ยวสีขาวงอกเลยออกมาจากดริมฝีปากจนถึงคาง แถมด้วยปีกค้างคาวอันเล็กๆที่หลัง

    “แง้~ ลอเรน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~”เจ้าตัวนี้บินพรวดมาแปะที่แก้มข้าแน่น

    เฮ้อ ข้าคงต้องขอย้อนความซักนิดก่อนว่า “เจ้านี่” มันตัวอะไรกันแน่ ก่อนอื่น ชื่อเต็มๆของมันคือ “ลูซิเฟอร์” แต่เขาบอกให้ข้าเรียกเขาว่า “ลูฟ” เพราะมันน่ารักกว่า เอาเถอะ ข้าไม่เถียงหรอก แต่ที่ข้าอยากจะบอกก็คือ...

    เจ้านี่น่ะ...เป็นประมุขแห่งความตายรุ่นก่อนหน้าข้านะ!!!

    ข้าชักเห็นด้วยกับพิงกี้ขึ้นทุกทีแล้ว...ประมุขแห่งความตายไม่ทำหน้าที่ประมุขแห่งความตาย เทพอัศวินครีอุสก็ชั่วช้าจนอยากฆ่าล้างบางให้เลือดนองถนน นี่มันโลกอะไรของมัน!?! แต่จะโทษข้าก็ไม่ได้หรอก ก็ดูเจ้าประมุขแห่งความตายคนก่อนหน้าข้าสิ...

    มีอย่างที่ไหน ย่อส่วนตัวเองให้ขนาดเท่าตุ๊กตา...ร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆแล้ววิ่ง [บิน] มาเกาะข้าแน่นไม่ยอมปล่อย...นี่มันประมุขแห่งความตายบ้านไหนกัน!!!

    “มีอะไรอีกลูฟ โดนใครแย่งลูกอมมาอีกรึไง”ข้าถามถึงความเป็นไปได้ที่ลูฟจะวิ่งมางอแงกับข้า

    ข้าขอบอกเลยว่าเขากับเกรเซียสน่ะเหมือนกันไม่มีผิด!!! เอะอะอะไรก็งอแงมาหาข้า ให้ข้าจัดการโน่นให้หน่อย ให้ข้าทำนี่ให้หน่อย...เหมือนกันยิ่งกว่าแกะ!!! หากข้ายกลูฟให้เทพอัศวินเทอร์มิสล่ะก็...ข้าว่าเขาได้อายุสั้นลงไปอีกซักยี่สิบปีแน่ๆที่มีเกรเซียสถึง 2 คนให้เขารับมือ

    “ไม่ช่าย~ ข้าทำลูกอมตกน้ำอ่า~~~”

    ข้าว่า...ขนาดลูกอมเม็ดหนึ่งยังใหญ่กว่าหัวเขาเลย เขากินเข้าไปได้ยังไงนะ

    “ข้าจากินลูกอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”ลูฟกระตุกแขนเสื้อข้าจนมันแทบจะหลุดติดมือเขาได้อยู่แล้ว

    “ตอนนี้ข้ากำลังทำงานนะลูฟ”ข้าถอนหายใจ แต่ก็ควานๆหาลูกผมให้เขาไป อาจจะเรียกว่าติดเป็นนิสัยก็ได้ เพราะไม่ว่าข้าจะอยู่กับพิงกี้ก็ดี เกรเซียสก็ดี สองคนนี้ชอบขอร้องอะไรที่เป็นพวกของขบเคี้ยวเคลือบน้ำตาลบ่อยๆ และข้าก็ไม่อยากอูกตื้อชั่วโมงละครั้งหรือโดนพูดกรอกหูซํกสี่ร้อย – ห้าร้อยครั้งในวันเดียวหรอก ไม่งั้นข้าคงทนไม่ไหวชักดาบมาพันพวกเขาเข้าซักวันแน่ๆ

    “งาน? งานอะไรล่ะ”ลูฟทำแก้มป่อง...เอ่อ...ข้อต้องเตือนมั๊ยว่าเขาเป็นประมุขแห่งความตาย แถมตอนนี้อายุอานามก็ปาเข้าไปเกือบสองพันปีแล้วด้วย

    “ข้าต้องเฝ้าเกรเซียส”ข้าตอบ

    “อ้อ เฝ้าเจ้าจอมมารหัวทองนั่นน่ะนะ”ลูฟพยักหน้า

    จอมมารหัวทองที่ลูฟพูดถึงคือเกรเซียสนั่นแหละ ลูฟบอกว่าไม่เคยเจอใครชั่วร้ายได้เท่าเกรเซียสแล้วเลยยกฉายา “จอมมาร” ให้เลย แต่ข้าอยากจะบอกเหลือเกินว่า...เขาเป็นประมุขแห่งความตายผู้ชั่วร้ายไม่ใช่เหรอ!!!

    “ใช่ และข้าก็ทำงานร่วมกับเทพอัศวินองค์อื่นๆ เจ้าไม่ควรอกมา”ข้าเตือนเขา

    “โธ่ จะเครียดทำไม อย่างเจ้าจอมมารหัวทองนั่นน่ะ ป่านนี้ไม่รู้ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”ลูฟพึมพำ แต่ข้าถึงกับชะงัก

    “เจ้า...ว่าอะไรนะ?”

    “เอาลูกอมมาอีกเม็ด ข้าถึงจะยอมบอก”

    ลูฟ! เจ้าอย่าทำตัวเหมือนพิงกี้จะได้มั๊ย!!! ข้าอยากพูดแบบนี้เหลือเกิน แต่สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วให้ลูกอมเขาเพิ่ม

    “ก็เมื่อกี้เจ้านั่นหนีไปแล้วนี่”ลูฟชี้ไปทางหน้าต่าง

    ...หน้าต่าง?...

    “อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×