ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NoHero&LSK : ถ้าเทพอัศวินไปเซ็ตติ้งซัน

    ลำดับตอนที่ #3 : LSK : สู่เซ็ตติ้งซัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.49K
      3
      24 ส.ค. 52

    - วันครบกำหนด -

    - สามทุ่ม -

    “ถึงซะที”ไทรอนคราง

    จริงๆไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่เขาน่ะเมาเรือจัดจนอ้วกแตกอ้วกแตน หมดสภาพเทพอัสวินผู้สูงศักดิ์ไปเลย ภาพเขาอ้วกน่ะแย่กว่าเทอร์มิสเป็นไหนๆ มันทำให้ข้ารู้สึกว่า...พวกเราน่าจะเลื่อนการเดินทางให้ไปถึงช้าอีกซักเดือน!

    “ที่นั่นน่ะเหรอ เซ็ตติ้งซัน”เทมเพสดูจะสนใจจนออกนอกหน้า

    แต่เขาก็ไม่ผิดหรอก เมืองนี้มันแปลกประหลาดกว่าที่พวกเราอยู่มากจริงๆ ทำไมคนแถวนี้ถึงได้สร้างบ้านเรือนซะสูงชะลูดแบบนี้ด้วยนะ นี่มันสูงกว่าหอคอยของพระราชาหมูเก๊นั่นซะอีก สิ้นเปลืองจริงๆ ถ้าตาแก่สังฆราชมาเห็น คนงกเข้าเส้นเลือดอย่างนั้นต้องบ่นเป็นหมีกินผึ้งแน่

    อะไรนะ? ข้างกกว่าเขาอีกเหรอ? อย่ามาพูดตลกๆน่า ข้าไม่ได้งกซักหน่อย แค่ต้องเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณเท่านั้นเอง!!!

    “ขอบพระคุณเทพแห่งแสงสว่างที่ส่งเรามาถึงอย่างปลอดภัย ไทรอนที่รัก ท่าทางเจ้าจะไม่ได้รับคำอวยพรจากเทพแห่งแสงสว่างมากเท่าที่ควรกระมัง”ไหนๆก็ไหนๆ ข้าขอทับถมเจ้าไทรอนหน่อยเถอะ

    “เงียบน่า…แหวะ!”ไทรอนพะอืดพะอมไม่หยุด ยิ่งทำให้ข้ารู้สึกว่าวันนี้ช่างเป็นวันดีจริงๆ

    เคเรส! เจ้าไม่ต้องทำตัวเป็นคนดีขนาดไปพยุงไทรอนก็ได้ ปล่อยมันไว้แบบนั้นแหละ!!! แต่ยังไงข้าก็เป็นเทพแห่งแสงสว่าง จะไม่ช่วยก็กระไรอยู่แหละนะ

    “เฮฟเตตัสที่รัก…เจ้าช่วย…”

    “พอ! จะให้ข้าไปช่วยเคเรสพยุงไทรอนล่ะสิ ข้ารู้หน้าที่ตัวเองน่า”เฮฟเตตัสแยกเขี้ยวใส่ข้า อะไรกัน! เดี๋ยวนี้เทพอัศวินบางคนถึงกับแข็งข้อกับข้าแล้วรึไง!!!

    “ครีอุส เจ้าอย่าทำหน้าตาแบบนั้น เดี๋ยวคนอื่นจะตกใจเอานะ”เทอร์มิสเข้ามาเตือนข้า เอาล่ะ ข้าก็รู้ตัวอยู่หรอกนะว่าข้าตอนนี้หน้าตาคงไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ เพราะข้าฝืนใจยิ้มไม่ออกน่ะสิ

    “ก็เจ้าดูสิเทอร์มิส เดี๋ยวนี้มันอะไรกัน ขนาดเฮฟเตตัสที่เมื่อก่อนเชื่อฟังข้าที่สุดยังขัดข้าซะงั้น”ข้ากระซิบบอกเขา

    “อย่าโทษเขาเลย ตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดีที่ได้มาเปิดหูเปิดตา คงไม่อยากฟังเรื่องเทพแห่งแสงสว่างนักหรอก”เทอร์มิสยิ้มบางๆ

    “เราต้องรออยู่ตรงนี้อีกนานไหม เทพอัศวินครีอุส”เทพอัศวินอาเทมิสถามข้า

    “จากที่ข้าได้สนทนากับพระสังฆราช ทำให้ทราบว่าพระมหากรุณาธิคุณของเทพแห่งแสงสว่างจะช่วยนำพาบุคคลผู้นำแห่งดินแดนนี้มาพบพวกเราเพื่อนำพวกเราไปยังสถานที่ที่องค์มหาเทพแห่งแสงสว่างต้องการให้แสงสว่างแห่งท่านสาดส่องลงไป”ข้าตอบยิ้มๆ

    “ขอสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความหน่อยได้มั๊ย ข้าไม่เหมือนอาเดรของเจ้าที่ฟังคำแปลแสนยาวยืดนั่นออกหรอกนะ”เทพอัศวินไทรอนว่า

    “เขาบอกว่า ให้พวกเรารออยู่ที่ท่าเรือนี่จนกว่าราชาซอนเน่จะมารับพวกเราไปที่เซ็ตติ้งซัน”เทมเพสแปลความหมายของข้าให้ทุกคนฟังอีกที

    อะไรกัน! คิดว่าข้าอยากจะพูดวกไปวนมาแบบนี้รึไง! จะโทษก็ไปโทษเทพอัศวินครีอุสองค์แรกเองสิ!!! ทำไมต้องมาทำเหมือนข้าไม่ได้พูดภาษาเดียวกับพวกเจ้าจนต้องใช้เทมเพสมาช่วยแปลภาษาด้วยล่ะ!!!

    “คงหมายถึงนั่นสินะ”ลอเรนหันไปข้างหลังของตน

    ข้ากับเทพอัศวินองค์อื่นๆชะโงกหน้าออกไปดูบ้าง “นั่น” ที่ลอเรนพูดถึงก็คือตัวอะไรประหลาดๆที่มีผิวหนังสีดำเป็นมันวาว ข้างๆตัวมันมีกระจกติดอยู่รอบ แล้วตาของมันก็มีแสงสว่างจ้าเชียว มันกำลังวิ่งมาทางพวกเราทั้งสองสองคนด้วยความเร็วสูง

    อืม…คงเป็นสัตว์ที่ใช้ในการเดินทางสินะ พวกเขาไม่ใช้ม้ารึไง แต่ไอ้ตัวนี้มันเร็วกว่าม้านี่นะ ก็ยังถือว่าพอทำใจได้อยู่

    เอี๊ยด!!!

    เจ้าตัวประหลาดมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเรา ก่อนที่จะมีคนเดินออกมาจากในตัวของมัน

    ข้าต้องขอบอกเลยว่าคนที่เดินลงมาแต่ละคนนี่ออกจะแปลกนิดๆ ทำไมพวกเขาถึงใส่ชุดแบบนั้นก็ไม่รู้ ข้าไม่เคยเห็นเสื้อผ้าแบบนั้นมาก่อนเลย แล้วทำไมต้องเอาแถบผ้ามาพันคอตัวเองแล้วห้อยลงมาด้วยล่ะ ดูยังไงก็แปลก แต่ข้าก็ไม่อาจวิจารณ์ได้หรอก ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเครื่องแต่งกายของที่นี่ก็ได้

    คนที่เดินนำมาคนแรกคงเป็นราชาซอนเน่สินะ…อืม…แค่ข้ามองเขาก็รู้สึกเลยว่าเขาเป็นคนที่ไม่ควรไปหาเรื่องด้วย เหมือนเทอร์มิสไม่มีผิดเลยล่ะ แต่ข้าล่ะชอบแกล้งคนแบบนี้จริงๆด้วย เฮ้อ ท่าทางข้าจะติดนิสัยไม่ดีๆของอาจารย์ข้ามามากเกินไปแล้ว

    คนที่เดินตามเขาลงมาถือหนังสือหนาๆในมือ อาจจะเป็นคนรับใช้ก็ได้เพราะเขารีบไปเปิดผนังของไอ้ตัวพิลึกๆนั่นให้ราชาซอนเน่ก้าวออกมา

    แต่คนที่สามทำข้าแปลกใจนิดๆ ใบหน้าของเขากับราชาซอนเน่ดูจะเป็นพิมพ์เดียวกันเลย ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นน้องชายล่ะมั๊ง แต่บรรยากาศรอบตัวผิดกันลิบ ถึงข้าจะมองไม่เห็นแต่ข้าก็มองออกเลยว่าเขากับราชาซอนเน่หน้าตาคล้ายๆกัน ไม่แน่สีผมหรือไม่ก็สีตาของพวกเขาอาจจะแตกต่างกันล่ะมั๊ง แต่ทำไงได้ ข้ามองไม่เห็นสีนี่นา

    ส่วนสองคนที่ตามน้องชายคนนั้นลงมา…ทำไมข้าถึงได้รู้สึกถึงไอแห่งความมืดมิดออกมาจากร่างของทั้งสองคนได้นะ? น่าแปลกใจจริงๆ คนแรกเป็นชายหนุ่ม ตัวสูง ผมยาว แต่เอ…นอกจากนั้นก็ดูไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร

    ไม่แน่ เขาอาจจะเป็นพวกซ่อนคบแบบลอเรนก็ได้!!!

    ส่วนคนสุดท้ายเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม ผมยาวหยักนิดๆ ท่าทางเจ้าหล่อนจะสวยน่าดูล่ะถึงทำให้ไทรอนมองตาค้างได้ แต่ข้าไม่อาจมองเห็นความงามของเธอได้นี่สิ น่าเจ็บใจเนาะ แต่ยังไงก็ตามเธอก็ดูจะแอบซ่อนอันตรายบางอย่างเอาไว้ด้วย เหมือนแอบเปิลอาบยาพิษนั่นแหละ

    “สวัสดี…พวกท่านคงเป็นคนที่มาจากลีฟบัดสินะ”ราชาซอนเน่เอ่ยทัก เขายื่นมือมาทางเทอร์มิส

    อยากจะบอกว่าคนที่เป็นผู้นำสูงสุดน่ะมันข้านะ!!!!

    “ต้องขออภัยจริงๆที่พระสังฆราชมาขอร้องท่านด้วยเรื่องไร้สาระ”เทอร์มิสส่งสายตามาทางข้า

    เอาล่ะ ข้าก็พอจะเข้าใจว่ากับคนต่างเมืองแบบนี้ การพูดจาวกไปวนมาของข้าอาจจะทำให้เขางง เพราะงั้นให้เทอร์มิสแสดงตัวเป็นหัวหน้าต่อไปแหละดีแล้ว ข้าจะได้โดดงานยืนเงียบๆ ไม่ต้องพูดว่า “ด้วยเมตตาแห่งองค์มหาเทพแห่งแสงสว่าง” อีก ข้าล่ะเอียนคำนี้เต็มทนแล้ว!!!

    แต่ข้ายังไม่ทันจะได้อู้สมใจ เด็กหนุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างหลังก็กระซิบอะไรบางอย่างสองสามคำกับราชาซอนเน่ แล้วทุกคนในที่นั้นก็หันกลับมามองข้าทันที

    “ขออภัยที่ไม่ได้ทักทายท่าน ท่านคงเป็นผู้นำสินะ”ราชาซอนเน่ยื่นมือมาทางข้า

    อะไรกัน? เขารู้ได้ยังไง???

    จริงๆข้าก็ไม่อยากจะยอมรับหรอกนะ แต่ถ้ามองผิวเผินใครๆก็ไม่คิดหรอกว่าข้าจะเป็นผู้นำสูงสุด เพราะเทอร์มิสน่ะมีภาษีในการเป็นผู้นำดีกว่าข้าเยอะ เขาทั้งสุขุม เก่งกาจ และยังดูมีมาดผู้นำด้วย ผิดกับข้าลิบลับที่มักจะ [ต้อง] มีรอยยิ้มพริ้มพรายอยู่ตลอดเวลาราวกับคนอารมณ์ดี และด้วยข้อบังคับนี้เองทำให้คนนอกอาจจะมองว่าข้าไม่อาจคุมใครได้

    ถึงได้บอกไงว่าข้าไม่อยากจะยอมรับน่ะ! เพราะฉะนั้นถ้าพวกเขามองการคุมหน่วยเทพอัศวินครีอุสของข้าแล้วพวกเขาจะรู้ตัวว่าพวกเขาคิดผิด!!!

    “ครีอุส ขอร้องล่ะว่าอย่าพูดเยิ่นเย้อกับเขานะ”เทมเพสกระตุกแขนเสื้อข้า

    เทมเพส…เจ้าคิดว่าข้าอยากพูดพล่ามยาวๆแบบนั้นตลอดเวลางั้นสินะ!!! ถึงเจ้าไม่บอกข้าก็ไม่คิดจะพูดอยู่แล้วล่ะน่า!

    “ข้าคือเทพอัศวินครีอุส ผู้นำสูงสุดของหัวหน้าเทพอัศวินฝ่ายเฮมิช”ข้ายิ้มกว้างด้วยรอยยิ้มในแบบของครีอุสเต็มที่ “ส่วนคนที่ท่านทักเมื่อครู่คือเทอร์มิส ผู้นำหัวหน้าเทพอัศวินฝ่ายโคลด์บลัดด์น่ะครับ เราทั้งสองเป็นหัวหน้าคนละส่วนกันแต่ก็นับว่าเป็น “ผู้นำ” ทั้งคู่”

    ที่ข้าพูดแบบนั้นเพื่อรักษาหน้าของเทอร์มิสและราชาซอนเน่ไปในตัว แน่นอนว่าข้ายังไม่อยากหาเรื่องเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหรอก

    “แต่คุณหนูบอกว่าคุณเป็นผู้นำสูงสุดของทั้งหมดนี่”หญิงสาวผมยาวคนนั้นว่า

    “ครับ หากเทียบกันแล้ว ข้ามีตำแหน่งสูงสุดในสิบสองเทพอัศวิน และมีตำแหน่งเทียบเท่าพระสังฆราชครับ แต่ข้าเห็นว่ากับเหล่าพี่น้องเทพอัศวินด้วยกันเอง ข้าไม่จำเป็นต้องนับยศฐาบรรดาศักดิ์เพราะพวกเราคือ “เพื่อน” ผู้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันครับ”ข้าตอบเธอ

    เป็นไงล่ะ อึ้งล่ะสิที่ข้าพูดแบบนั้น หึๆ ยังไงการสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบก็เป็นเรื่องที่สำคัญนะ

    “แล้ว…สิบสองเทพอัศวินคืออะไรเหรอครับคุณหนู?”ผู้ชายอีกคนที่มีไอปิศาจแผ่ออกมานิดๆหันไปถามเด็กหนุ่มคนนั้น แต่เขาเองก็คงไม่มีคำตอบให้หรอก ข้าเลยหันไปทางเทอร์มิส โยนหน้าที่ให้เขาซะเลย

    “สิบสองเทพอัศวินเป็นตำแหน่งแห่งผู้รับใช้เทพแห่งแสงสว่าง พูดง่ายๆก็คือหลักยึดเหนี่ยวของตำหนักเทพแห่งแสงสว่าง”เทอร์มิสตอบสั้น ง่าย ได้ใจความ

    ข้าก็อยากพูดสั้นๆแบบนั้นบ้างเหมือนกันนะ! ขี้โกงที่สุดเลย!!!

    “เหมือนพวกนักบวชที่ทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนารึเปล่าครับ”เด็กหนุ่มถาม

    “พวกเรามีตำแหน่งสูงกว่านักบวชเยอะเลย”เฮฟเตตัสดูท่าจะถูกใจเด็กหนุ่มคนนี้ซะแล้ว เอาเถอะ ถึงข้าจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขาแต่ก็พอจะบอกได้แหละว่าถ้าเขายิ้มคงจะทำให้คนอื่นที่อยู่รอบข้างรู้สึกสุขใจไปด้วยได้ ไม่แปลกเลยที่เฮฟเตตัสจะชอบ ก็เขามีนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมาที่สุดในหมู่พวกเรานี่นา

    “สำหรับพวกเราแล้ว นักบวชก็เหมือนกับผู้รักษาหรือไม่ก็ผู้ปัดป้องอันตรายเท่านั้นเอง”เคเรสยิ้ม

    “ต้องขออภัยจริงๆที่ขัดจังหวะ”คนรับใช้ของราชาซอนเน่เอ่ย “แต่ผมคิดว่าเราควรรีบไปที่เซ็ตติ้งซันก่อนเที่ยงคืนจะดีกว่านะครับ”

    “เอ…ก่อนพวกเรามา องค์สังฆราชเซ็ตเวลาให้ครีอุสแล้วนี่นา”ข้าล้วงเอานาฬิกาคล้องโซ่แบบพกพาออกมาทันทีที่เทมเพสเอ่ยขึ้น

    “เทมเพสที่รัก นี่ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของตำแหน่งหมายเลขที่สี่เลยด้วยซ้ำ”ข้ายิ้มกว้าง

    เอาล่ะ งงกันเข้าไป! ข้าเห็นนะว่าพวกราชาซอนเน่งเป็นไก่ตาแตกกับคำพูดของข้า! ข้าก็แค่บอกว่านี่ยังไม่ถึงสามทุ่มครึ่งเลยด้วยซ้ำต่างหากเล่า!!!

    “ยังไม่สามทุ่มครึ่งเลย ก็ยังมีเวลาคุยได้อีกนาน”เทมเพสหัวเราะเบาๆ ข้าว่าเขาคงไม่ค่อยอยากเข้าเมืองตอนนี้เพื่อไปเหล่สาวๆให้ตาเขเท่าไหร่นักหรอก อาจจะต้องรอให้ซักสี่ห้าทุ่มที่คนเข้าบ้านไปหมดแล้วนั่นแหละถึงจะดี! แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ เราเป็นแขกบ้านคนอื่นเขาจะเลือกมากก็คงไม่ได้ ซึ่งเทมเพสก็คงเข้าใจ

    “จะเดินทางไปคุยไปก็ได้นี่นา”เด็กหนุ่มว่า “ขึ้นไปนั่งคุยกันในรถเถอะ สบายกว่า”

    อ้อ ข้ารู้แล้วว่าไอ้ตัวสีดำมันวาวนั่นชื่อ “รถ”

    “รบกวนด้วย”ข้ายิ้ม

    “แต่…จะจุคนได้หมดเหรอ?”เทอร์มิสถาม

    “หมดแน่นอนครับ พวกคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย”ชายหนุ่มร่างสูงว่า เอาล่ะ จากที่เขาเรียกเด็กคนนั้นว่าคุณหนูข้าก็พอจะเข้าใจแล้วว่าชายคนนี้เป็นคนรับใช้ของเด็กหนุ่มนี่ ซึ่งให้ข้าคาด แม่สาวคนนั้นก็คงเหมือนกัน

    “ข้าคิดว่าอาจจะอึดอัดเล็กน้อยนะ”เฮฟเตตัสว่าระหว่างกวาดตามองพวกเราทั้งหมด

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×