ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic หัวขโมยแห่งบารามอส er

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดเทอม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 948
      2
      17 ต.ค. 52


    THE FANFICTION

    THE THIEF OF BARAMOS

    WRITER  TOPVENUS

    ตอนที่1  เปิดเทอม

                         สุริยาฉายเหนือขอบฟ้าแสงสีทองอาบไล้เบาบางลงบนพื้นปฐพี  หมู่วิหคโผบินขึ้นจากรัง เสียงพูดคุยเบาจากแวดล้อม เสียงกระทบกันของบานประตูที่อ้าออกพร้อมรับวันใหม่ บ่งแจ้งว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว  หากแต่วันนี้มีบางอย่างที่ผิดแปลกไปจากทุกวัน เกวียนจำนวนหลายร้อยเล่ม เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง เทียมด้วยสัตว์ต่างๆ มิว่าจะเป็นสัตว์ที่ราคาแพลงลิบลิ่วอย่างมังกร ม้า ลา ไม่จนกระทั่ง หนูนาตัวใหญ่ ดูแล้วล้วนสะดุดตาเป็นยิ่งนัก  ต่างวิ่งกันมาตามเส้นทางปูลาดยาวเป็นแนวด้วยอิฐสีแดง ตามเส้นทางนั้นรายล้อมไปด้วย พ่อค้า แม่ค้า  เรียกซื้อของอย่างหน้าตื่นตาตื่นใจ แม้หลายสรรพสิ่งจะเคลื่อนไหวแล้ว หากแต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่ตื่นจากห้วงนิทรา แม้แสงนั้นจะส่องลอดผ่านไปยังเกวียนเล่มเล็กแล้วก็ตาม

    องค์หญิงพระเจ้าคะ ตื่นบรรทมได้แล้วพระเจ้าคะ เสียงดังขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่ดูไม่ออกว่าคือตัวอะไรกันแน่ ตัวเท่าฝ่ามือ กับเขาที่ยาวกว่าตัวหลายเท่า แต่งชุดขุนนางเต็มยศชวนให้ขบขันยิ่งนัก

               อีกนิดนะ โกโดม 5 นาทีเท่านั้นละ คำตอบกลับจากร่าง ที่คุดคู้อยู่ตายผ้าห่ม ชวนให้เขาปวดเศียรเวียนเกล้า อาจเป็นเพราะว่าถ้าหากปล่อยอีก 5 นาที อาจหมายถึงตะวันอยู่กลางหัว

                แต่วันนี้เป็นวันเปิดเรียนนะ พระเจ้าคะ ไม่ได้ผล เมื่อร่างใต้ผ้าห่มยังหลับไม่รู้เรื่องไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นในหัวโคมุสน้อยๆของมันกำลังใช้ความคิดอย่างนัก ก่อนตัดสินใจโพล่งออกไป

                คาโล วาเนบลี เดอะ ปรินซ์ ออฟ คาโนวาล เสด็จ ตามความคาดหมายคนที่อยู่ใต้ผ้าห่มสะดุ้งตื่นขึ้น  โดยไม่มีอาการงัวเงีย พลางพูดอย่างรีบร้อนว่า

                 คาโลมา คาโลเมื่อไม่พบบุคคลที่ถูกขานชื่อดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยส่องประกายอำมหิตวาววับ ไปคาดโทษ รืมฝีปากบางแสยะยิ้มเหี้ยม นิ้วเรียวคีบเจ้าโคมุสขึ้นสูง ทำท่าจะโยนออกไปเรียกให้มันตาเหลือกรีบอธิบายเหตุผล

                 เออกระหม่อมลองปลุกหลายวิธีแล้วแต่ไม่ทรงตื่น เกรงว่าจะไปไม่ทันนะพระเจ้าคะ สัตว์ประหลาดที่ถูกเรียกว่าโกโดมกล่าวแก้ตัว

                 เออจริงสิ แย่แล้ว วันนี้คาโลถือธงป้อมอัศวิน ต้องรีบไป ต้องรีบไป โกโดม ชุดละชุด อยู่ไหน สีหน้าตื่นตกใจทำให้โคมุสตัวจ้อยนั้นต้องแอบอมยิ้ม เมื่อเห็นท่าทีขององค์หญิงคนสำคัญ

      / คงมีแต่มนุษย์เอเดนผมเงินคนนี้ละมั้งที่ทำให้องค์หญิงของมันมีความสุขได้ /

                  ฉลองพระองค์อยู่ริมสุดพระเจ้าคะ เชิญองค์หญิง กระหม่อมจะออกไปรอข้างนอก สิ้นคำกล่าวเจ้าโคมุสก็ออกไปจากเกวียนพร้อมรอยยิ้มแปลกๆ

     

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

     

    ภายในเกวียน

     

              อะไรเนี่ย เสียงจากหญิงสาวดวงตากลมโตสีน้ำตาล ผมสีเดียวกับตาที่ถูกปล่อยเคลียหลัง แผลเป็นใต้ดวงตาข้างซ้ายดูอ่อนจางจนแทบมองไม่เห็น ภายในมือปรากฏกระโปรงพีชสีดำ กับเสื้อสีขาวเข้ารูป ริมฝีปากเบะออกเล็กน้อยบอกถึงความไม่พอใจ ในสิ่งที่ถืออยู่นัก

             โกโดม ทำไมชุดมันเป็นอย่างงี้ เสียงตะโกนดังออกไปข้างนอกก่อนที่เธอจะได้รับคำตอบที่ทำเอาเธอปฏิเสธชุดนี้ไม่ได้

                  องค์ราชินีลูน่า กำชับกระหม่อมมาว่า ต่อไปนี้ ฉลองพระองค์ให้เปลี่ยนเป็นหญิงหมดพระเจ้าคะ มิเช่นนั้นองค์ราชินีลูน่า จะจัดชุดมาให้เอง นี้กระหม่อมอุตส่าห์เลือกให้นะพระเจ้าคะ หรือทรงไม่พอพระทัยอยากให้องค์ราชินีจัดให้พระเจ้าคะ  เอ่ยถึงพระนามของพระเจ้าอาแล้ว คำตอบที่แสดงถึงความไม่มีทางเลือกก็มีอยู่คำตอบเดียวหัวขโมยแห่งบารามอสทำหน้าละเหี่ยใจก่อนตอบ

                   เอาเถอะโกโดม ใส่ก็ใส่  จากคำตอบก็เป็นเสียงสบถ อย่างคนไม่สมหญิงดังขึ้นอย่างปลงอนิจจัง

     

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

     

    หน้าโรงเรียนพระราชา

               โฮ้ ทำไมคนมันเยอะจัง เสียงบ่นจากหญิงสาวทำให้โคมุสร่างจ้อยที่เกาะอยู่บนไหล่เสนอความคิดออกมา

               พระองค์ ก็ ยับไม่ทันที่มันจะได้เสนอความคิดก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา

               ไง สบายดีไหมเฟริน โคมุสหันไปทางด้านหลังเมื่อพบที่มาของเสียงเป็นเหตุให้มันตกจากไหล่ลงไป โดยไม่มีใครสังเกตเห็น / ตุ้บ/

                เฮ้ย แกโผล่มาอย่างงี้อีกแล้วฉันละเชื่อแกเลยโร สักวันฉันจะหัวใจวายตายเสียงปรารภจากหัวขโมยสาวดังขึ้นแทนคำตอบ ให้กับบุรุษผมหน้าม้าสีชา ดวงตาสีเขียวมรกตฉายประกายเจ้าเล่ห์ที่โผล่มาจากด้านหลัง มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

                นายมาต่อแถวเด็กใหม่งี้ก็ยาวอยู่แล้วไม่ไปหาเจ้าชายรึไงเขาพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

                หา นี่ฉันโง่ขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ไปเหอะ พูดพลางดึงมือคนข้างๆให้เดินไปด้านหน้า

    ในขณะที่กำลังจะก้าวเดิน ทั้งสองก็สังเกตเห็นบางสิ่งอยู่ข้างหน้า จ้องมาที่ทั้ง คู่ ด้วยแววตาขัดใจ

              องค์หญิงเจอเพื่อนแล้วงั้นกระหม่อมขอตัวนะ พระเจ้าคะเสียงจากเจ้าตัวตรงหน้ากล่าวด้วยเสียงเล็กแหลมอย่างขัดใจที่ตัวเองถูกลืม โดยลืมไปว่าเจ้าหญิงตรงหน้าคาดหวังอะไรไม่ค่อยได้

                   อ้าวยังอยู่อีกหรอ เสียงที่ฟังดูประหลาดใจถาม ซึ่งเรียกสีหน้าหงอง้ำได้เป็นอย่างดี

                    ไปเหอะเดินทางปลอดภัย ฝากความคิดถึงให้เสด็จพ่อด้วยเธอหันไปพูด

                    ขอบพระทัยกระหม่อมที่ทรงเป็นห่วง กระหม่อมจะทูลท่านเจ้ามาให้สีหน้าเจ้าโคมุสดูดีขึ้นหลังจากที่ได้รับคำอวยพรจากเธอ ว่าแล้วโคมุสตัวจ้อยก็หายวับไป

                     เฮ้อกว่าจะไปน้ำเสียงหน่ายๆของคนพูดเรียกให้คนฟังเลิกคิ้ว

                     เขาออกจะเป็นห่วงอ้าว!หวัดดีคาโล เสียงเรียกชื่อเขาคนนั้นทำให้เธอหันไปมองบุรุษผู้ถูกเรียก วันนี้เขาแต่งกายด้วยอาภรณ์เต็มยศสีน้ำเงินเข้ากับอาชาสีขาวบริสุทธิ์ผมสีเงินทอประกายล้อแสงแดด  ภายในมือมีธงสัญลักษณ์ลายดาบ ดูแล้วสง่างามสมกับสายเลือดสีน้ำเงิน

                    หวัดดีคาโล เธอกล่าวพลางหยุดมองปฏิกิริยาของคนตรงหน้าชั่วขณะชายหนุ่มมองสำรวจคนตรงหน้าอย่างตั้งใจ กวาดตามองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ผมสีน้ำตาลถูกถักไขว้เป็นเปียไผล่มาด้านหน้า เสื้อสีขาวแทบเงินรับกับหูกระต่ายสีแดง กระเป๋าเสื้อปักลายดาย กระโปรงพีชเหนือเข่าดูน่ารักแม้จะดูมอมแมมไปสักนิด ไม่เรียบร้อยไปสักหน่อยก็เถอะ เขากวาดตามองอย่างพอใจก่อนสายตาจะสะดุดกึกที่มือของเธอที่กุมอีกคนไว้ เขาเอ่ยเสียงเย็นตามนิสัย
                  "เฟริน มือ"
    ประโยคที่เรียกให้เจ้าหญิงสะดุ้งโหยงหันไปสั่งคนข้างตัว
                 "ไอ้โร ปล่อยมือฉันซิวะ"
          “ปล่อยได้ไง ก็ไม่ได้เป็นคนจับนี่ น้ำเสียงหยอกเย้า เหมือนจะยั่วโมโห กล่าวขึ้นจากบุรุษขอทาน เรียกนัยน์ตาเอาเรื่องจากผู้ถูกเอาเปรียบ เขาไหวไหล่ก่อนปล่อยมือ พร้อมประกายตาไหววูบในดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้น

                เฮ้ย ร้อนจังอากาศเนี่ย ประโยคหน่ายๆดังขึ้นมาจากทิศทางใดไม่ทราบเรียกให้ทั้งสามหันไปมอง
                 เดี๋ยวก็เย็นแล้วคอยดู 
    คราวนี้เมื่อทั้งสามจับต้นเสียงได้แล้วจึงพบบุคคลอีกคู่หนึ่ง บุคคลแรกผมสีดำ ดวงตาด้านหนึ่งมีผ้าคาด และอีกคนที่เป็นผู้กล่าวประโยคดวงตาสีม่วงส่องประกายฉายแววสนุกสนานรับกับผมสีดำ

     แต่ยังไม่ทันได้กล่าวทักทาย นายคนตาเดียวก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวหนึ่งเดียวตรงหน้า

              เฟริน นายรู้ไหมว่าพอนายแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วน่ารักมากแค่ไหน พูดไม่พูดปล่าว พลางเดินเข้าไปหาแต่ยังไม่ถึงตัวดีก็ปรากฏไอเย็นๆชวนหนาว เมื่อรู้สึกได้ดังนั้น นายคนตาเดียวจึงหันไปกล่าวกับคนที่มาด้วยกันอย่างอวดอ้าง

                    ไง เชื่อฉันนยัง เย็นทันตาเลยเนี่ย ว่าไงฮึคิล

                     มันไม่เย็นมั้ง ออกจะหนาวด้วย ครี้ด หวัดดี เฟริน คาโล โร เข้าโรงเรียนกันเหอะ ประโยคหลังจากคำตอบเรียกให้หญิงสาวหันไปพูดกับบุรุษผมเงินว่า

                      เดี๋ยวเจอกันนะคาโลน้ำเสียงหวานไพเราะ กล่าวขึ้นหลังจากเงียบไปนานพร้อมเงยหน้าฟังคำตอบ

                     อืม คำตอบสั้นๆง่ายๆอย่างเคยจนเธอชินซะแล้ว เมื่อบอกลาเสร็จ ทุกคนยกเว้นคาโล ต่างก็หันหลังให้กับตัวเมืองมุ่งเข้าไปในโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก พร้อมเสียงเพลงโรงเรียนสลับกับเสียงจอแจอย่างตื่นเต้นของเหล่านักเรียน ราวตอกย้ำให้นักเรียนทุกคนรู้ถึงมิตรภาพและ ความรับผิดชอบ เมื่อก้าวเข้ามาเป็น ส่วนหนึ่งของที่นี้

     

    เพื่อแผ่นดินจะขอห้าวหาญ

    มุ่งสืบสานปณิธานแห่งความหวัง

    โบกธงทองลั่นกลองรบก้องดัง

    แสดงพลังนักรบราชา

     

    เพื่อแผ่นดินจะขอองอาจ

    มุ่งพิฆาตไพรีที่โหมบ่า

    ขอปกปักผืนแผ่นดินถิ่นมารดา

    เชิดชูค้าผู้รับใช้ธานี

     

    เพื่อแผ่นดินข้าจะขอเปรื่องปราด

    ให้ความโอภาสอยู่คู่แดนบุรี

    ทั้งกายใจเลือดเนื้อยอมพลี

    ประกาศศักดิ์ศรีจอมปราชญ์ราชันย์

     

    เพื่อแผ่นดินข้าจะขอสละ

    อุตสาหะด้วยแรงแห่งใจมั่น

    หวังให้สุขสถิตอยู่ทั่วกัลป์

    เหลือนามนิรันดร์ในหัวใจปวงชน

                     

     

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×