ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แนะแนวอักษรฯอินเตอร์จุฬาฯ BALAC CHULA

    ลำดับตอนที่ #2 : การสอบเข้า คะแนนขั้นต่ำ สอบอะไรบ้าง เตรียมตัวยังไงดี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.68K
      6
      14 ส.ค. 54

    Requirements :

    1)
    - TOEFL with a minimum score of 213 (computer-based), 550  (paper- based), 79 (internet-based); OR     
    - IELTS with a minimum score of 6.0; OR
    - CU-TEP with a minimum score of 550 (TOEFL paper-based equivalent)

    (For more information, please visit 
    http://www.atc.chula.ac.th/)

    2)
    - SAT I (Critical Reading) with a minimum score of 400; OR
    - CU-AAT (Verbal) with a minimum score of 400; OR
    - ACT (Verbal) with a minimum score of 18

    คือถ้าพี่แนะนำนะ พี่แนะนำให้สอบ CU-TEP กับ CU-AAT เพราะว่ามันง่ายกว่า เปิดสอบบ่อยกว่า และค่าสอบถูกกว่า ถ้าน้องยังไม่พอใจกับคะแนน น้องสอบใหม่ได้ตลอด และที่สอบก็อยู่ในมหาลัยด้วย น้องจะได้ฟีลมากกว่า แล้วจะมีกำลังใจสู้ต่อไป x]

    ถ้าน้องผ่าน Requirements เหล่านี้แล้ว น้องยื่น แล้วเค้าจะให้บัตรสอบมา สีชมพู (ปีพี่สีชมพู ปีน้องพี่ไม่รู้ ฮ่าๆๆ) เค้าจะนัดวันน้องสอบข้อเขียน แล้วเค้าจะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้เข้าสอบ Interview

    *ตอนยื่น ในใบสมัครเค้าจะมีให้กรอก Statement Of Purpose ด้วยนะ คือว่าทำไมเราถึงอยากเรียน แล้วเราคาดหวังว่าจะได้อะไรจากการเรียนที่นี่ เขียนให้พองาม ไม่ต้องเขียนเว่อร์ก็ได้ครับ เพราะเค้าอาจจะเอามาถามตอนสอบสัมภาษณ์ด้วย

    **เพื่อนพี่บางคนบอกว่า IELTS ง่ายกว่า CU-TEP อันนี้ก็แล้วแต่คน แต่ค่าสอบแพงกว่ามากกกก 5555

    ***น้องหลายคนสงสัยว่า CU-AAT หรือ SAT ต้องสอบเลขด้วยรึเปล่า ไม่ใช้นะคร้าบบบบ คะแนนไม่คิดรวมด้วย ไม่เก่งเลขก็เว้นพาร์ทเลขไปได้เลย

    ****คะแนนสอบเอาให้ถึงเกณฑ์ที่เค้าตั้งไว้ก็พอนะครับ เพราะเค้าไม่ได้เอาคะแนนพวกนี้ไปรวมกับข้อเขียนหรือสัมภาษณ์แบบพวกBBA, COMMART

    Selection Exam เป็นข้อเขียนครับ ไม่ยากนะ แต่เยอะ สอบอะไรบ้างก็ตามลิสต์นี้เลย ;
    Critical reading and reading comprehension 
    - Holistic reading like , Ask For main idea of the text , ask for main idea of the paragraph 
    - Which sentence reflect the main idea the most. 
    - Inference or Generalize the idea 
    - True or False ( also you need to provide an evidence from the text) 
    - Vocab part ( Define the word or Give the Synonym) 
    - Explanation and Reference
    - Put appropriate Transition word


    นี่คือ Passage ที่พี่สอบกันไปปีที่แล้วครับ > http://www.worldhum.com/features/speakers-corner/words-are-like-icebergs-20100914/ เค้าให้อ่าน จับใจความ แปลศัพท์ เติมคำ อะไรแบบนี้

    แล้วข้อเขียนจะมีให้เขียน Essay ด้วย เค้าจะมีหัวข้อให้เลือก แล้วให้น้องเขียนแสดงความคิดเห็น แนะนำให้แบ่งเป็น 
    คำนำ
    เนื้อเรื่อง
    สรุป

    จบข้อเขียน มีอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวพี่มาเพิ่มละกัน 

    Interview Exam หลังสอบข้อเขียนเสร็จประมาณอาทิตย์นึงครับ เค้าจะประกาศรายชื่อคนที่ผ่านเพื่อมาสอบสัมภาษณ์ อย่าพึ่งคิดว่าเราติดแน่ๆนะ เพราะมีคัดออกรอบนี้เหมือนกัน สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษล้วน

    ที่พี่เจอก็จะเป็นอาจารย์สองคน คนไทยคนนึงแต่พูดอังกฤษกับออสเตรเลียอีกคน(ฟังยากมากกกก)
    ก็แนะนำตัวไป อาจารย์ก็จะถามว่าทำไมถึงอยากเรียน(พี่ว่าทุกคนน่าจะเจอคำถามนี้ คำตอบแบบสวยๆล่ะกัน)                
    อยากเป็นอะไร แล้วlanguage and cultureเนี่ยมันเอาไปใช้อะไรในอาชีพที่เราอยากเป็น
    จับฉลากหัวข้อที่จะพูดถึง พี่ได้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับpuppy loveสมัยนี้ ก็แสดงความเห็นของเรา
    ของพี่อาจารย์เค้าถามด้วยว่ายื่นแอดกลางหรือยื่นที่อื่นไว้ด้วยมั้ย ก็ไม่น่าตอบว่ายื่นเนอะ เดี๋ยวดูไม่ดี5555
    จริงๆinterviewถ้าเราพรีเซ้นตัวเองได้เยอะๆเค้าก็ไม่ถามอะไรมาก เพื่อนพี่พรีเซ้นตัวเองเยอะมากเค้าก็เลยไม่ต้องจับฉลากเลยไรงี้

    ส่วนportfolio ไม่จำเป็นต้องเอาไปก็ได้ครับ เพราะเค้าแค่อยากจะดูว่าเราสื่อสารภาษาอังกฤษได้ระดับไหน มองโลกในแง่มุมไหนมากกว่า ภาษาอังกฤษก็ไม่จำเป็นต้องสำเนียงเป๊ะหรือพูดปรื๋อก็ได้ แต่พูดแบบมั่นใจๆก็พอ เพราะตอนพี่สอบพี่ก็ตะกุกตะกักเหมือนกัน

    สัมภาษณ์เสร็จก็เหลือรอผลอย่างเดียวครับ ประมาณสองสามอาทิตย์หลังจากวันสัมภาษณ์

    วิธีเตรียมตัว

    CU-TEP จะมีจะมี3parts listening, reading, error identification พาร์ทรีดดิ้งกับเออเร่อพี่แนะนำซื้อข้อสอบมาทำโลด เล่มสีชมพูๆที่มีขายตรงศูนย์หนังสือจุฬาอ่ะ หรือจะเอาข้อสอบO-NET15..มาทำก็คล้ายๆกันนะ ทำไปเยอะๆแล้วจะจับจุดได้เอง ส่วนlisteningมันมากับดวงอ่ะ พี่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก แต่รอบพี่เค้าเป็นสำเนียงอเมริกัน ฟังง่าย แต่ละรอบสำเนียงไม่เหมือนกัน สอบหลายๆรอบไว้เป็นอันดี

    SAT พี่ซื้อflashcardsของprinceton review เอาไว้นั่งสับเล่นตอนว่างๆ แล้วก็หนังสือแนวข้อสอบCritical Readingของgruber’s หาได้ตามkinokuniyaครับ แล้วก็มีอีกเล่มที่เป็นข้อสอบเก่าSATของสำนักพิมพ์เดียวกับที่ขายCU-TEPสีชมพูอ่ะ ท่องๆๆๆทำๆๆๆข้อสอบอย่างเดียวเลย

    CU-AAT เคยไปสอบครั้งนึงแบบไม่ได้เตรียมตัว พี่ว่ามันยากกว่าCU-TEPไม่มาก แล้วง่ายกว่าSATมาก(แถมค่าสอบถูกกว่าเป็นพัน) แต่แนะนำไม่ถูกเพราะพี่ยื่นSATเข้ามา-.-

    ไม่ยากเกินเอื้อมใช้มั้ยน้อง ฮ่าๆๆ ยังไงก็สู้ๆนะครับ มีไรถามพี่มาได้ครับ

    Edited from ArtsChula.net by Rata Pengmesri

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×