ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (แปลแบบดำน้ำ) โอตาคุวันสิ้นโลก [ BL / Yaoi ]

    ลำดับตอนที่ #8 : การกลายพันธุ์ที่บ้านหลังวันสิ้นโลกได้มาถึง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.79K
      606
      26 ก.ค. 60

     ในคืนเดียวกัน  เอี๋ยนเฟยหน้าตาเย็นชานั่งในห้องประชุมฟังลูกน้องไม่กี่คนถกเถียงเกี่ยวกับโครงการ  หันไปมองนอกหน้าต่างโดยไม่ได้ตั้งใจ  แสงสีเขียวเล็กๆทำให้เขาคิ้วกระตุก  ดวงตาดอกท้อฉายร่องรอยของความประหลาดใจ


     "ประชุม"


     "ครับ?"


     "หัวหน้าเอี๋ยน?"


     "ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน" ความรู้สึกที่ไม่ทราบว่ามาได้อย่างไรจากก้นบึ้งหัวใจ  เอี๋ยนเฟยรู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง  รู้สึกว่าอันตราย...  ...กำลังมา?


     ดูเหมือนมีบางสิ่งกำลังจะเปลี่ยนในทันทีทันใด  เปลี่ยนเป็นผุพังและล่มสลาย  แต่เขาไม่ทราบว่านั่นเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่?  หรือยิ่งหดหู่และตกสู่ห้วงนรกอย่างอับจนหนทาง


    -

     

     แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดกระทบใบหน้า  ปลุกคนที่นอนหลับให้ตื่นขึ้นมาอย่างไร้ปราณี


     เปลือกตาของหลัวซวินขยับไม่กี่ครั้งก่อนจะลืมตาขึ้นมา  เหม่อมองดอกไม้สีขาวข้างหน้าต่าง  แล้วเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง


     วันสิ้นโลก!  ต้องรีบหนี!


     ชีวิตก่อน  เขาไม่ได้เป็นสักขีพยานมองดูคืนที่วันสิ้นโลกมาถึง  แต่เมื่อหลบหนี  เขาได้ยินสหายบางคนพูดถึงเรื่องนี้


     จนตอนนี้เขายังจำได้ว่าอีกฝ่ายตำหนิตัวเองขณะสบถสาบาน "ถ้าหากฉันรู้ว่ามันเป็นหายนะโลก  เหล่าจื้อไม่ว่ายังไงก็จะรีบหนีไปตอนนั้นเลย!  ไม่เคยเห็นตัวเองโง่ขนาดนี้มาก่อน  อะไรคือยังมีเวลามาเล่นเกม อ้อยคนงาม?  แล้วยังคิดว่าจ้องหน้าจอมากเกินไปจนตาลายคิดว่ามีจุดสีเขียวบนฟ้า  เอามาเป็นเรื่องตลกคุยกับคนงาม  ผลคือไม่ว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีการตอบกลับจากคอมเลย  หลายคนในทีมก็ยืนนิ่งไม่ขยับ  จนต้องยกเลิกตี้...  ...ตอนนี้มาคิดเกี่ยวกับมัน  พวกเขากลายเป็นซอมบี้แล้วใช่ไหม?  ยังจะเล่นเกมได้อีกเหรอ?"


     ตอนนี้เขาเห็นมันเองกับตาแล้ว


     เริ่มจากตรวจสอบมือตัวเองก่อน  จนแน่ใจว่าเป็นมือของเขาเอง  หลังจากที่ทำงานมาหลายวันก็มีแผลเล็กๆเกิดขึ้นมากมาย  ผิวหยาบขึ้นมาก


     หลับตาทำสมาธิตามที่ผู้มีพลังพิเศษเคยพูดไว้ - ไม่รู้สึกถึงอะไรเลย  จากนั้นลุกขึ้นยืนหยิบไม้เบสบอลดัดแปลงติดตะปูข้างเตียง  อืม  ยังหนักเหมือนเดิม  ดูเหมือนเขาจะยังเป็นคนธรรมดานะ


     ถือไม้เบสบอลเดินอย่างระมัดระวังไปที่ประตู  ฟังเสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกเงียบสงบมาก


     เปิดประตูห้องนอน  สิ่งแรกคือเดินเงียบๆไปที่ระเบียงและเปิดประตูบานเลื่อนเบาๆ  ระเบียงเงียบสงบ  แต่ผักที่ปลูกไว้บางส่วนกลายพันธุ์ไปแล้วจริงๆ


     สี่ชั้นวางรวมต้นกล้าทั้งหมด 33 ต้น  6 ต้นได้กลายเป็นสีน้ำตาลแดง  ค่อยๆปล่อยของเสียสีเทาออกมาสู่บรรยากาศ


     มันติดเชื้อแล้วนั่นเอง


     พืชที่ติดเชื้อจะกลายเป็นสีน้ำตาลแดง  กินไม่ได้เด็ดขาด  และมีพิษร้ายแรง  หลังจากกินเข้าไปมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะกลายเป็นซอมบี้ทันที


     หลัวซวินรีบหยิบถุงมือยางมาสวมแล้วถอนผักติดเชื้อทั้งหลายออก  โยนลงในหม้อเคลือบตรงมุมแล้วเผาทันที


     นอกจากผักติดเชื้อพวกนี้แล้วยังมีผักอีกสี่ต้นที่ดูแปลกไป  สองกลุ่มใบไม้บางส่วนมีสีเหลือง - เหลืองทอง  หนึ่งในนั้นเเรืองแสงสีแดง  อีกหนึ่งเทาเงิน


     หลัวซวินย้ายผักพวกนี้ไปปลูกบนชั้นวางแยกต่างหาก


     พืชกลายพันธุ์อาจไม่ออกผล  หรืออาจให้ผลผลิตมากกว่าเดิม  แต่ความเป็นไปได้มากที่สุด - มันกลายเป็นพืชที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง


     ข้าวของบนชั้นสองไม่มีปัญหา  หลังตรวจสอบสถานการณ์ในหลายห้องซ้ำๆหลายครั้ง  หลัวซวินก็ถือไม้เบสบอลค่อยๆก้าวลงบันไดทีละขั้นสู่ชั้นหนึ่ง


     "พั่บๆๆ พั่บๆๆ ... ..."


     "โฮ่งๆ โฮ่งๆๆ!"


     หลัวซวินแอบยื่นหน้ามองลงไปดู  แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่


     กุ้งสามตัวที่เหลืออยู่ได้พร้อมใจกันหงายท้อง  คาดว่าภายในขวดคงมีออกซิเจนไม่พอ


     ปลา 4 ตัวนั้นมีตัวหนึ่งกลายเป็นปลาซอมบี้  มันกระหน่ำกระแทกภายในกล่อง  ปลา 4 ตัวนี้มีความยาวเท่านิ้วมือ  หลังจากหลัวซวินช้อนพวกมันใส่ขวดอย่างยากลำบากก็เอาทั้งสี่ขวดวางไว้ทั้งสี่มุมในกล่องพลาสติก


     ตอนนี้หลังจากที่ปลาตัวหนึ่งได้กลายเป็นปลาซอมบี้  มันกระแทกขวดให้แตกแล้วไปอยู่ในกล่องพลาสติกแทน  ปลาอีกสามตัวที่เหลือ  สองตัวขาดอากาศหายใจตายตั้งแต่เมื่อคืน  อีกตัวหนึ่งถูกกินจนเหลือแต่ก้าง


     และเจ้าตัวเล็กในกรงกระตือรือร้นเป็นร้อยเท่าเห่ากล่องไม่หยุด


     หลัวซวินก้าวไปข้างหน้าหวดไม้เบสบอลฆ่าปลาซอมบี้ - ณ เวลานี้  สัตว์น้ำบ้านตระกูลหลัวตายหมดแล้ว


     "แกไม่เป็นไรก็ดีแล้ว" เอื้อมมือข้ามกรงไปแตะหัวเจ้าตัวเล็ก  หลัวซวินหน้ายิ้มไม่หุบ  ปลากับกุ้งเหล่านี้ตายไปเขาไม่รู้สึกแย่  เจ้าตัวเล็กคือผลกำไรสูงสุด


     "ฉันจะเอาอาหารมาให้แกอีก  ช่วยรอก่อนสักพักนะ" ถามเจ้าตัวเล็กด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  เจ้าตัวเล็กเอียงหัว  มองเขาอย่างสับสน  และมองดูกล่องที่เมื่อกี้ยังส่งเสียงดังวุ่นวาย


     สิ่งที่ทำให้หลัวซวินแปลกใจคือนกกระทาทั้งแปดตัวยังอยู่รอดปลอดภัยดีในขวดโหลเหมือนเดิม!  ไม่มีตัวไหนเป็นอะไร!


     หนอนนกก็ด้วย  เอนซ้ายเอนขวาตรวจดูทุกซอกมุมก็ไม่เห็นมีตัวไหนมีลักษณะกลายพันธุ์แม้แต่น้อย  ไส้เดือนเบียดรวมกันอยู่เป็นกลุ่ม  ประท้วงหลัวซวินเงียบๆที่เมื่อคืนขุดพวกมันออกมาจากดิน  ไม่ใช่พฤติกรรมประหลาด


     "เป็นอะไรที่... ...เหนี่ยวแน่นจริงๆ"


     ถอนหายใจขณะเอาพวกมันใส่กลับเข้าที่เดิม


     สุดท้ายก็ตรวจสอบที่ชานบ้าน  กล้าแอปเปิ้ลต้นหนึ่งติดเชื้อ  กล้าส้มต้นหนึ่งกลายพันธุ์


     พริกไทยและต้นกล้าโป๊ยกั๊กที่มีอย่างละ 3 ต้น  แต่ละชนิดติดเชื้ออย่างละหนึ่งต้น  มองไปที่ผลลัพธ์ที่เหลืออยู่  หลัวซวินพูดได้ว่าพึงพอใจมาก


     ปลาซอมบี้ พืชติดเชื้อ เอากลับไปเผารวมกันที่ระเบียง  และสุดท้ายก็ไปตรวจสอบที่ห้องเพาะเลี้ยง...  ...โศกนาฏกรรมคือ  เห็ดมากกว่าครึ่งกลายพันธุ์  มองไปที่สีแดงสดใสของพวกมันสิ  ช่างเป็นเห็ดที่เปี่ยมล้นไปด้วยจิตวิญญาณอะไรเช่นนี้  ถึงตายหลัวซวินก็ไม่กล้ากิน!  ทำได้เพียงกำจัดพวกมันให้เร็วที่สุดเท่านั้น


     โชคดีที่เขารู้ว่าจำพวกเห็ดนี้ไม่เหมาะจะเพาะ  ชีวิตที่แล้วตอนพักอยู่ในชั้นใต้ดินต้องต่อสู้กับพวกมันอย่างยากลำบาก  โชคดีที่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรับมือกับพวกมันอีก


     ไฟเผาพวกติดเชื้อทั้งหมด  หลัวซวินยืนอยู่บนระเบียงในมือถือกล้องส่องทางไกลสำรวจสถานการณ์


     เขาปล่อยเจ้าตัวเล็กออกจากกรงแล้ว  และตอนนี้ก็กำลังเห่าอยู่ที่พื้นให้เขาอุ้มอย่างเอาแต่ใจ  ผ่านไปสักพักก็กัดขากางเกงของเขา  เขาไม่ได้เตรียมชื่อให้เจ้าตัวเล็กเปลี่ยน  ก็เลยเรียกมันง่ายๆว่าเจ้าตัวเล็ก  เป็นมิตรและน่ารัก  ที่สำคัญที่สุดคือ - เป็นชื่อโหลๆ เหมาะแก่การรักษาชีวิต!


     "ดูเหมือนสถานการณ์ด้านนอกยังไม่ดี  ไม่เหมาะจะออกไปไหน" หลัวซวินพึมพำ  เพราะว่าหายนะโลกเกิดขึ้นในตอนกลางคืน  ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อก็จะอยู่ที่บ้าน  มองผ่านกล้องส่องทางไกลสามารถเห็นว่าภายในชุมชนนี้ที่มีคนเข้าอยู่อาศัยในบ้านแล้วจำนวนมากกลายเป็นซอมบี้  สวมใส่ชุดนอนเขย่าหน้าต่าง  แต่เพราะว่าประตูห้องปิดจึงไม่สามารถออกมาได้ชั่วคราว


     บนถนนมีซอมบี้จำนวนค่อนข้างน้อยเดินเตร่มองหาอาหารรอบๆ  ดูเหมือนตอนนี้พวกมันจะยังมีไม่มาก


     หลัวซวินคำนวณครู่หนึ่ง  ตัดสินใจ - ขณะที่ซอมบี้ข้างนอกยังมีจำนวนน้อย  ออกไปรวบรวมสิ่งของ!


     ข้าวของ  ไม่มีใครอยากจะมีน้อยเกินไป  โดยเฉพาะหลัวซวินที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างปลอดภัย  สามารถเก็บสำรองได้  เพราะปัญหาเรื่องราคา  แผงโซลาร์เซลล์จึงมีไม่พอ  และอาหาร  ในอนาคตเป็นเวลายาวนาน  มันจะเป็นสินค้าที่แพงที่สุด - แม้ว่ามันจะหมดอายุแล้วก็ตาม!


     มองผ่านตาแมวดูสภาพนอกบ้าน  ในสังคมสมัยใหม่ทุกคนใส่ใจเรื่องความปลอดภัยเวลาทำสิ่งต่างๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันสิ้นโลก


     หลัวซวินปลี่ยนตาแมวเดิมที่ประตูบ้านของเขาเป็นตาแมวอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตัวเอง  มองจากด้านนอกจะไม่เห็นความแตกต่าง  ภายในมีหน้าจอ LCD  ฟังก์ชั่นมองเห็นได้ในตอนกลางคืน  บันทึกวิดีโอ 24 ชั่วโมง  แจ้งเตือนคนมา  ฟังก์ชั่นการบันทึก  แจ้งเตือนด้วย SMS  ควบคุมระยะไกล  เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ในบ้าน  เป็นต้น  มีประสิทธิภาพมาก


     หลัวซวินใส่ใจฟังก์ชั่นมองเห็นได้ในเวลากลางคืน  บันทึกวิดีโอ 24 ชั่วโมง  ด้วยสิ่งนี้แม้ว่าทางเดินจะมืดเขาก็ยังเห็นได้อย่างชัดเจนว่าบนทางเดินมีใครอยู่ไหม  คนไหนเมื่อไหร่เดินผ่านหน้าประตูบ้านของเขา  ส่วนพวกฟังก์ชั่น SMS ...  เกรงว่าเมื่อผ่านไปเป็นเวลานานจะยังสามารถใช้ได้อยู่หรือไม่?


     ยืนอยู่หลังประตู  แตะบนหน้าจอดูวิดีโอจากเมื่อคืนถึงตอนนี้อย่างรวดเร็ว  หลัวซวินโล่งใจ - ชั้น 16  ไม่เคยมีเงาของซอมบี้


     อาคาร 7 ชั้น 16 มี 5 ประตู  และตอนนี้มีแค่หลัวซวินอาศัยอยู่คนเดียวในห้อง 1602  นอกจากสองห้องที่ดูเหมือนจะยังไม่ได้ทำการส่งมอบให้เจ้าของ  อีกสองห้องที่เหลือยังไม่ได้ติดตั้งตาแมวที่ประตูเลย


     ชั้น 15 ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว  แต่ตอนนี้ยังไม่มีคนอยู่อาศัย  ชั้น 14 กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง... ...


     โดยรวมแล้ว  เพราะทันทีที่วันสิ้นโลกมาถึงอัตราพักอาศัยในอาคารยังไม่สูง  มีคนจำนวนมากยังตกแต่งไม่เสร็จ  สำหรับหลัวซวินบ้านใหม่เช่นนี้ปลอดภัยกว่าอาคารเก่าที่แออัด  อย่างน้อยจำนวนคนน้อย  ผู้คนที่กลายซอมบี้ก็น้อยลง


     มือข้างหนึ่งถือไม้เบสบอล  ด้านหลังเป็นกระเป๋าเป้สะพายหลัง  สวมหมวกกันน็อค  ที่เอวติดกระบอกลูกศร  ขวางด้วยหน้าไม้ทำมือ  หลัวซวินเตรียมความพร้อมเสร็จก็รีบหันศีรษะกลับไปที่ห้องนั่งเล่น  พูดกับเจ้าตัวเล็กว่า "เฝ้าบ้านดีๆ"


     เจ้าตัวเล็กยังเด็กเกินไปในตอนนี้  ย่อมไม่สามารถพาออกไปข้างนอกได้  แต่ถึงแม้ตอนนี้มันเป็นหมาโต  หลัวซวินก็ไม่อยากให้เจ้าตัวเล็กออกไปข้างนอกพร้อมกับตนอยู่ดี - ไม่มีการกลายพันธุ์ของสัตว์ระรอกสอง  ซอมบี้กัดก็จะกลายเป็นซอมบี้!


     ไฟฟ้าบนทางเดินยังไม่ดับ  เสียงปิดประตูทำให้หลอดไฟสว่าง  ทางเดินมีหลอดไฟเพียงสองดวง  ตอนนี้ใช้ได้แค่ดวงเดียวเท่านั้น  อีกดวงเสียเมื่อสามวันก่อน  ทำให้ผู้คนต้องถอนหายใจ - นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีความสามารถด้านประหยัดเงินจริงๆ  แม้กระทั่งหลอดไฟชั่วคราวก็ยังเลือกหลอดที่ถูกที่สุด  แน่นอนว่าไม่ทนทาน


     เมื่อเห็นว่าลิฟต์ยังสามารถใช้งานได้  หลัวซวินแอบโล่งใจกดเปิดลิฟต์  ลิฟต์มีอยู่สองตัว  สำนักงานชุมชนเห็นว่ายังไม่ค่อยมีคนเข้าอยู่อาศัยจึงเปิดให้ใช้งานได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ...


     ได้ยินเสียง "ติง"  ประตูลิฟต์เปิดออกช้าๆ  เห็นว่าข้างในลิฟต์ว่างเปล่าหลัวซวินก็ลดไม้เบสบอลที่ยกขึ้นมาลงแล้วเข้าไปข้างใน


     ดูเหมือนได้ยินเสียงทำงานของลิฟต์  ด้านนอกจึงมีเสียงคำรามลอดเข้ามา  ฟังจากเสียง  หลัวซวินคาดว่าเป็นชั้น 14 ที่มีคนงานไม่กี่คนมาทำงานตกแต่ง  เวลานี้พวกเขาคงกลายเป็นซอมบี้เรียบร้อยแล้ว  อาจเพราะประตูถูกล็อกจึงไม่สามารถออกมาหาอาหาร  เลยทำได้แค่ออกันอยู่ที่ประตู  ใช่ไหม?


     พื้นที่คับแคบ  เพียงได้ยินเสียงไม่ทราบมาจากบ้านไหนเป็นจังหวะ "ปิง ปิง ปิง" และเสียงคำรามต่ำ  ช่วยไม่ได้ที่ใจของผู้คนจะรู้สึกหดหู่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×