ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #235 : ก้าวข้ามอดีต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.45K
      361
      18 ส.ค. 61



    หอร้อยบุปผาที่เคยประดับประดาด้วยโคมส่องแสงสว่างและดอกไม้แดงบัดนี้กลับแลดูไม่เหมือนเก่าก่อนเมื่อครั้งอดีต บรุษรักสนุกที่เคยมาท่องเที่ยวอย่างคับคั่งบัดนี้กลับแลดูบางตาหากแต่ในวันนี้กลับมีผู้ที่เคยอยู่ยังที่แห่งนี้และเรียกมันว่าบ้านกลับมาเยี่ยมเยือน โซเฟียและเซลิน่าหยุดยืนเหม่อมองไปยังป้ายของหอร้อบบุปผาที่ด้านหน้า

    "นายหญิงมีสิ่งใดผิดปกติหรือเจ้าคะ" โรสที่ติดตามอยู่ยังด้านหลังเอ่ยถามเซลิน่าและโซเฟียขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายหยุดยืนรั้งรอไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปภายใน

    "เปล่าไม่มีอะไร หัวหน้าโรสไม่ต้องเป็นห่วง ข้าเพียงแต่หวนนึกถึงอดีตเมื่อครั้งเคยอยู่ยังสถานที่แห่งนี้" โซเฟียเอ่ยกล่าว นางไม่คิดที่จะปิดบังถึงฐานะเก่าก่อนของนางต่อโรส จะอย่างไรเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถปกปิดไว้ได้ นางยังจำคำกล่าวของกาเล็ท บรุษซึ่งเป็นผู้ฉุดรากชีวิตของนางขึ้นมาจากปลักโคลนได้อย่างไม่มีวันที่จะลืมเลือน "ข้าผู้เป็นสามีไม่ถือสาเช่นนั้นเจ้าก็อย่าได้ใส่ใจว่าผู้อื่นจะคิดหรือมองเจ้าเช่นไร ขอเพียงให้ต่อจากนี้เป็นสตรีของข้าและรักษาเนื้อรักษาตัวให้สมดั่งเป็นนายหญิงแห่งตระกูลบุสโซ่ก็พอแล้ว" นั่นคือคำกล่าวของกาเล็ทที่เอ่ยกล่าวต่อหญิงมีราคีเช่นนาง แรกเริ่มเดิมทีที่เข้าไปอยู่ในตระกูลบุสโซ่ตัวนางนั้นยังมีความรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในจิตใจลึกๆว่าคำพูดเหล่านั้นและท่าทีที่เป็นมิตรของกาเล็ทและนีน่าจะเป็นเพียงคำลวงให้นางรู้สึกสบายใจทว่าพอได้ใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลบุสโซ่นานวันเข้า ท่าที ของสมาชิกในตระกูลบุสโซ่กลับไมเปลี่ยนไป พวกเขายังคงปฎิบัติต่อพวกนางด้วยดี โดยเฉพาะกาเล็ทและนีน่าที่คอยดูแลเอาใจใส่ห่วงใยความรู้สึกของพวกนางทั้งสอง อีกทั้งบริวารของตระกูลบุสโซ่ตลอดทั้งสูงต่ำก็แสดงความเคารพนอบน้อมต่อพวกนางทั้งสองเสมือนกับคู่หมั้นเก่าก่อนของกาเล็ททั้งสาม ด้วยเหตุนี้ทำให้โซเฟียเกิดความรู้สึกรักและผูกพันกับตระกูลบุสโซ่ขึ้น โดยเฉพาะต่อกาเล็ท

    ทางด้านโรสที่ได้ยินคำตอบของนายหญิง 4 แห่งตระกูลบุสโซ่ก็ปรากฎความรู้สึกสับสนขึ้นในแววตาวูบหนึ่ง นางไม่ทราบว่าในตอนนี้นายหญิง 4 และนายหญิง 5 แห่งตระกูลบุสโซ่จะมีความรู้สึกนึกคิดเช่นไรที่ได้กลับมาเยือนสถานที่ซึ่งตนเองเคยอยู่อย่างหอร้อยบุปผาเช่นนี้แต่ที่โรสนั้นทราบดีนั้นคือนับตั้งแต่ที่นายน้อยซึ่งตนเองปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีด้วยเลือกนายหญิงทั้งสองเข้ามาเป็นคู่ชีวิตแล้วตนเองก็จะไม่สงสัยกังขา นางจะไม่สนใจและจะไม่ใส่ใจว่านายหญิงทั้งสองมีฐานะอย่างไรและเป็นใครมาเมื่อเก่าก่อน นางตัดสินใจที่จะทุ่มเทชีวิตละแรงกายแรงใจรับใช้นายหญิงทั้งสองให้ไม่ขาดตกบกพร่องเช่นเดียวกับนายหญิงอีกสามคนของตระกูลบุสโซ่ คิดได้ดังนั้นโรสก็หันกลับไปหาผู้ใต้บังคับบัญชาพร้อมทั้งเอ่ยสั่งการต่อผู้คนของตนเอง "พวกเจ้าเร่งรีบเข้าไปด้านในเพื่อแจ้งต่อผู้ดูแลหอร้อยบุปฝาว่านายหญิงเซลิน่าและโซเฟียเดินทางมาเยือน"

    ทหารของตระกูลบุสโซ่ได้ยินคำสั่งของโรสก็รับคำจากนั้นจึงแยกกันกระจายตัวเข้าสู่ประตูของหอร้อยบุปผาไป

    "ลำบากหัวหน้าโรสแล้ว" โซเฟียเอ่ย

    "เป็นหน้าที่ของข้าเจ้าค่ะที่ต้องติดตามดูแลรับใช้นายหญิงทั้งสองในระหว่างที่นายน้อยไม่อยู่ หากว่าเกิดสิ่งใดกับนายหญิงทั้งสองขึ้น ข้าคงไม่มีหน้าที่จะไปพบกับนายน้อยกาเล็ทได้" โรสเอ่ย ขณะที่เอ่ยตอบโซเฟียโรสก็เหลือบไปเห็นลูกน้องของตนเองที่ออกมาส่งสัญญาณว่าภายในเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว เห็นเช่นนั้นโรสก็เอ่ยบอกต่อโซเฟียและเซลิน่า "เชิญนายหญิงเข้าสู่ตัวตึก ทุกอย่างภายในเตรียมพร้อมแล้วเจ้าค่ะ"

    ได้ยินโรสเอ่ยเช่นนั้น เจนนี่กับสเตล่าหญิงรับใช้ประจำตัวขอโซเฟียและเซลิน่าก็ยกมือทั้งสองของตนเองขึ้นมาคล้องแขนของโซเฟียและเซลิน่าไว้ "ท่านพี่โซเฟีย/เซลิน่า รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ" ทั้งสองเอ่ยอย่างลืมตัว ด้วยทั้งสองนั้นเป็นบุคคลที่มาจากหาร้อยบุปผาเช่นกัน อีกทั้งในที่ลับทั้งโซเฟียและเซลิน่านั้นต่างก็ไม่ได้ถือตัวทำให้ทั้งสเตล่าและเจนนี่นั้นมักที่จะเอ่ยเรียกโซเฟียและเซลิน่าอย่างสนิทสนมอยู่บ่อยๆ หากแต่ในครั้งนี้นั้นพวกตนไม่ได้อยู่ตามลำพัง

    "น..นายหญิง พวกเราเข้าไปข้างในตามความเห็นของหัวหน้าโรสดีกว่าเจ้าค่ะ" เจนนี่ซึ่งมีไหวพริบปราดเปรียวกว่าเสตอ่าเอ่ยแก้คำกล่าวของตนเองเมื่อครู่ออกมาเมื่อพบเห็นสายตาของโรสที่มองมายังพวกตนอย่างไม่พอใจในกริยาท่าทางที่พวกตนแสดงออกเมื่อครู่

    เมื่อย่างก้าวเข้าสู่หอยร้อยบุปผาเหล่าสตรีที่อาศัยอยู่ภายในที่เคยสนิทสนมคุ้นเคยกับเซลิน่าและโซเฟียต่างออกมายืนรอต้อนรับอย่างพร้อมหน้าส่วนผู้ที่เคยเป็นคู่แข่งต่างแอบมอบมาด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความรู้สึกอิจฉา

    "ท่านพี่มาเรีย เอลลี่.." เหล่าหญิงสาวที่เคยรับถือกันเป็นพี่น้อยเอ่ยเรียกเซลิน่าและโซเฟียออกมาด้วยชื่อเก่าก่อนอย่างลืมตัวด้วยความยินดี เมื่อคำเรียกหาหลุดออกจากตัวพวกนางจึงรู้ตัวว่าผู้อื่นหาใช้สตรีในหอแดงอย่างพวกตนเองต่อไปแล้ว บัดนี้สตรีที่ตนเองเคยเรียกพี่เรียกน้องกันเมื่อเก่าก่อนนั้นมีวาสนาได้เป็นถึงภรรยาของดยุค แถมยังเป็นดยุคบุสโซ่ที่มีชื่อเสียงเรื่องลือไปทั่วแผ่นดิน

    แม้ว่าจะถูกเรียกหาด้วยชื่อเสียงเรียงนามเดิมหากแต่โซเฟียกลับไม่ได้ถือสา เซลิน่าที่ด้านข้างเองก็เช่นกัน พวกนางได้แต่เผยรอยยิ้มอ่อนโยนนุ่มนวลกลับไปทักทายเหล่าพี่สาวน้องสาวที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา

    "ต้องเรียกว่าท่านหญิงเซลิน่า กับท่านหญิงโซเฟียจึงถูกต้อง พวกเจ้านี่ไม่รู้ความจริงๆ" เจนนี่ทำทีเดินออกมาพูดต่อว่าเหล่าหญิงสาวภายในหอร้อยบุปผาหากแต่น้ำเสียงของท่าทางของนางกลับแสดงออกไปในทางหยอกล้อกันเสียมากกว่า ขณะเอ่ยกล่าวนางยังไม่วายที่จะเหลือบมองไปยังโรสทียืนไม่สบอารมณ์อยู่ด้านหลัง แม้จะรู้สึกไม่ดีนักแต่โรสเองก็ไม่สะดวกต่อการเอ่ยกล่าววาจาให้มากความจึงได้แต่ยืนอยู่ที่ด้านหลังคอยดูอยู่ห่างๆพร้อมกับเหล่าลูกน้องของตนที่กระจายกันออกไปเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย

    "นี่หากพวกนางคิดเป็นจริงเป็นจังดังคำพูดเจ้าจะทำเช่นไร" โซเฟียเอ่ยพร้อมทั้งแสดงออกถึงสีหน้าขบขันต่อท่าทางที่เจนนี่แสดงออก

    "ต้องหัดไว้เสียให้ชินจะได้ไม่เผลอหลุดเหมือนอย่างข้า" เจนนี่เอ่ยยิ้มขำ ขณะที่เดินนำโซเฟียและเซลิน่าไปนั่งลงยังโต๊ะกลมท่ามกลางวงล้อมของเหล่าพี่น้อง

    "ท่านพี่โซเฟีย ท่านไปอยู่ที่ตระกูลบุสโซ่เป็นเช่นไรบ้าง ท่านดยุคดูได้ข่มเหงรังแก เอิ่มดูแลท่านพี่โซเฟียดีหรือไม่" หญิงสาวผู้หนึ่งในหมู่พี่น้องเอ่ยถามขึ้น

    "เซลิน่าสบายดีหรือไม่ มีผู้ใดข่มเหงรังแกเจ้าบ้างหรือไม่" หญิงสาวอีกผู้หนึ่งเอ่ยถามเซลิน่าด้วยคำถามที่คล้ายคลึงกันกับโซเฟีย แม้ว่าพวกนางจะเปลี่ยนมาเรียกหาด้วยชื่อใหม่ของทั้งสองแล้วหากแต่ยังคงเอ่ยพูดคุยกันอย่างสนิทสนมเหมือนดั่งเก่าก่อนด้วยเห็นว่าเซลิน่าและโซเฟียหาได้วางก้ามเขื่องโขข่มเหงผู้คน

    "ให้ท่านพี่โซเฟียเอ่ยเล่าเถอะ" เซลิน่ายิ้มตอบและหันไปหาโซเฟีย

    "ที่ตระกูลบุสโซ่ไม่มีผู้ใดข่มแหงรังแกพวกเรา ไม่เพียงไม่ข่มเหงรังแกหากแต่ยังคงให้การต้อนรับขับสู้และดูแลอย่างดี" โซเฟียเอ่ยตอบ

    ได้ยินคำตอบด้วยรอยยิ้มเป็นธรรมชาติของโซเฟียทำให้เหล่าหญิงสาวภายทุกผู้คนต่างแสดงสีหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อออกมา

    "ที่ตระกูลบุสโซ่น่ะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเจ้าจินตนาการไว้แน่นอน" เจนนี่เอ่ยกล่าวแทรกขึ้นมา

    "พวกเจ้าต้องคิดไม่ถึงเลยเชียวล่ะ พวกข้าเองนั้นแม้จะไปอยู่ในตระกูลบุสโซ่ในฐานะหญิงรับใช้แต่ขอบอกเลยว่ายังดีกว่าจะอยู่ในหอแดงเช่นนี้ต่อไปเป็นสิบเท่าร้อยเท้า แม้จะเป็นหญิงรับใช้แต่กลับไม่มีผู้ใดมองพวกข้าด้วยสายตาดูถูกเลยสักครั้งกลับกันผู้คนในตระกูลบุสโซ่ทั้งสูงต่ำต่างปฎิบัติต่อพวกข้าอย่างดีและให้เกียรติไม่เพียงแต่ผู้คนในตระกูลบุสโซ่เท่านั้น ทราบหรือไม่ว่าชาวบ้านร้านถิ่นในเขตบุสโซ่เมื่อเห็นว่าพวกข้าเป็นคนของตระกูลบุสโซ่แล้วทุกผู้คนต่างต้อนรับขับสู้พวกข้าอย่างอบอุ่นด้วยรอยยิ้ม ในเขตบุสโซ่นั้นผู้คนของตระกูลบุสโซ่ทุกระดับชั้นต่างได้รับการยกย่องเชิดชูจากชาวบ้านโดยรอบไม่เว้นแม้แต่พวกข้าเอง" สเตล่าเอ่ยกล่าวอธิบายให้เหล่าพี่น้องที่ล้อมรอบรอฟังอยู่ได้รู้ถึงสภาพความเป็นอยู่คร่าวๆในตระกูลบุสโซ่ของพวกตน
    ได้ยินคำเอ่ยกล่าวของเจนนี่และสเตล่าแล้วเหล่าหญิงสาวที่ล้อมกรอบอยู่ต่างดวงตาลุกวาวอย่างไม่อยากจะเชื่อ "เจ้าจะบอกพวกข้าว่าแม้แต่หญิงรับใช้ยังได้รับการยกย่องเชิดชูอย่างนั้นหรือ? เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นกัน?" คำถามถูกเอ่ยถามออกมาเป็นชุดๆ หากแต่ยังไม่ทันที่เจนนี่หรือสเตล่าจะเอ่ยตอบกลับมีเสียงแค่นในลำคอออกมาให้ได้ยิน

    "ฮึ จะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไรล้วนแต่เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ แม้แต่หญิงรับใช้ยังได้รับการยกย่องเชิดชูหรือผู้ใดเชื่อเรื่องเพ้อฝันเช่นนี้ก็บ้าแล้ว ข้ายังเห็นว่าเป็นสตรีในหอแดงเช่นนี้ต่อไปยังดีเสียกว่าจะไปเป็นหญิงรับใช้ในตระกูลใหญ่ให้ผู้คนคอยข่มเหงรังแกโขกสับใช้สอย" จีน่าแค่นหัวเราะในลำคอออกมาขณะที่แหวกวงล้อมของเหล่าหญิงสาวในหอร้อยบุปผาเข้ามาถึงโต๊ะกลมที่เซลิน่าและโซเฟียนั่งอยู่ นางเหลือบมองเซลิน่าและโซเฟียวูบหนึ่งด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว "บุคคลที่ควรได้อยู่ในจุดนั้นสมควรจะเป็นนาง บุคคลที่ได้ชุบตัวเป็นนางหงส์สมควรเป็นนางจึงถูกต้อง นางเป็นคนที่พบเขาก่อน นางเป็นคนแรกที่เข้าไปต้อนรับเขา" นั่นคือความนึกคิดที่วนเวียนไปมาอยู่ในห้วงความคิดของจีน่าตลอดมานับตั้งแต่วันนั้น

    "จีน่า เจ้าไม่เคยไปเยือนตระกูลบุสโซ่มาก่อนเหตุใดจึงเอ่ยกล่าวเช่นนั้น หึอย่างว่าล่ะพื้นฐานของผู้คนแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากันดั่งคำกล่าวของท่านดยุคที่กล่าวว่า สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว" เจนนี่หันไปเอ่ยกล่าวกับจีน่าที่แหวกฝ่าผู้คนเข้ามา

    ได้ยินเช่นนั้นจีน่าก็กัดฟันกรอดอย่างโกรธแค้น นางเลื่อนสายตาไปจ้องมองยังโซเฟียที่ยังคงนั่งสงบนิ่งอยู่ เมื่อได้เห็นการวางตัวของโซเฟียเช่นนี้แล้วยิ่งทำให้ภายในจิตใจของนางครุกรุ่นดังจะระเบิดปะทุออกมา "มีคำกล่าวที่ว่าหญิงรับใช้เป็นเช่นไรผู้เป็นนายก็เป็นเช่นนั้น ไม่ทันไรก็กลับมาเอ่ยวาจาดูถูกพวกเดียวกันเสียแล้ว" จีน่าเน้นคำพวกเดียวกันเป็นพิเศษ ด้วยนางต้องการที่จะต้องย้ำว่าแม้ตอนนี้เจ้าจะอยู่สูงเพียงไรแต่อย่าได้หลงลืมไปว่าครั้งหนึ่งเจ้าเองก็เป็นสตรีในหอแดงที่เคยผ่านมือชายแห่งนี้มาแล้วเช่นกัน ในจิตใจของจีน่านั้นได้โยนความรู้สึกผิดหวังทั้งหมดไปที่โซเฟีย จีน่านั้นได้คิดเข้าข้างตัวเองไปว่าหากวันนั้นโซเฟียไม่สอดแทรกเข้ามาก่อนก็คงเป็นตนเองแล้วที่จะได้ชุบตัวกลายเป็นหนูตกถึงข้าวสารได้เข้าไปเป็นนายหญิงแห่งตระกูลบุสโซ่ ด้วยเหตุนนี้นางจึงโยนความโกรธเกลียดทั้งหมดไปที่โซเฟีย

    "จีน่าเจ้ากล้าล่วงเกินท่านหญิงโซเฟีย?" สเตร่าเอ่ยอย่างมีน้ำโห

    "เฮอะท่านหญิงอะไรกันล้วนต่างเป็นเหล่าพี่น้องที่เคยอยู่ร่วมในหอร้อยบุปมามาทั้งนั้น หวังว่าท่านพี่มาเรียคงยังไม่ลืมกระมังว่าตนเองมาจากหอร้อยบุปผาแห่งนี้" จีน่าเลื่อนเป้าสายตาไปยังโซเฟียขณะที่เอ่ยถาม นางจงใจเอ่ยเรียกโซเฟียด้วยชื่อเก่าก่อนอย่างไม่เกรงกลัว หากแต่เมื่อทันทีที่เอ่ยกล่าวจบก็มีพลังสภาวะบางอย่างแหวกวงล้อมของเหล่าหญิงสาวที่ห้อมล้อมโต๊ะกลมอยู่ออกเป็นทาง เมื่อตั้งสติได้จีน่าก็พบว่ามีสตรีผู้หนึ่งยืนจังก้าอยู่หน้าของตนเองแล้ว สตรีผู้นี้ใช้สายตาทมึนเอาเรื่องจ้องมองมาที่นาง เพียงแต่ได้สบตากับสตรีผู้นี้ก็ทำให้นางรู้สึกหนาวเหน็บไปสุดขั้วหัวใจแล้ว

    "ข้าให้โอกาสแก่เจ้า ถอนคำพูดของเจ้าและขออภัยต่อท่านหญิงทั้งสองซะ" โรสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น

    "จ.เจ้าเป็นใคร อย่าได้ทำเป็นวางก้ามขู่ขวัญผู้คน คิดหรือว่าข้าจะเกรงกลัวเจ้า" จีน่าเอ่ย แม้ปากจะบอกว่าไม่เกรงกลัวหากแต่เท้ากลับก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัวจนแผ่นหลังไปปะทะเข้ากับหญิงสาวผู้หนึ่ง




    ปล.เผื่อใครสงสัยนะครับว่าทำไมอธิบายแต่ความรู้สึกของโซเฟียไม่ค่อยอธิบายเซลิน่า แม้ว่าจะมาจากหอร้อยบุปผาเหมือนกันแต่ว่าความกดดันของโซเฟียว่าตนเองไม่คู่ควรกับกาเล็ทมีมากกว่าเซลิน่าหลายเท่าครับ อย่าลืมว่ากาเล็ทเป็นผู้ชายคนแรกของเซลิน่านะแต่โซเฟียไม่ใช่ มีคำผิดบ้างก็ขออภัยจริงๆครับกำลังหาคนช่วยพิสูจน์อักษรอยู่ ใครรู้จักพอแนะนำได้ก็บอกได้นะครับว่านิยายมันก็มีหลายอารมณ์ ทั้งสู้กัน ทั้งบู๊ ทั้งสร้างเมือง จริงๆบางบทบางตอนมันก็ข้ามได้แหละครับแต่ก็อยากจะใส่มากระจายบทให้รู้จักตัวละครมากขึ้นด้วย ปล2.อย่างบาทหลวงเจมินี่จากท้ายตอนที่แล้วซึ่งเกริ่นนำให้นี่บอกเลยว่าเป็นตัวละครจะว่าสำคัญก็ใช่นะ ส่วนจะสำคัญในแบบไหนก็ลองเดากันอีกไม่กี่ตอนก็คงได้รู้แล้วล่ะ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×