ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #314 : ทรัพย์สินที่ขูดรีดได้มา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.62K
      479
      17 ม.ค. 62


    "ท่านพี่ ท่านตัดสินใจไปเช่นนั้นโดยไม่เอ่ยถามกาเล็ทก่อนจะดีหรือ อย่าว่าแต่ที่เสนอให้พวกมันบริจาคเงินทองมาก็ดีอยู่หากแต่ท่านพี่กลับไม่ยอมบ่งบอกจำนวนที่แน่ชัดออกไปเช่นนี้หากว่าพวกมันบริจาคเงินทองและสิ่งของมาเพียงน้อยนิดจะทำเช่นไร เจ้าคิดเหมือนข้าหรือไม่แชลเทีย" เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้คนอื่นนอกเหนือจะพวกตนแล้วภายในห้องรับรองของตระกูลโรม่า ซิลเวียก็เอ่ยถามในสิ่งที่ตนเองสงสัยใจออกมา
    "รอรับฟังเหตุผลของท่านพี่เบลล่าเถอะ ข้าคิดว่าท่านพี่เบลล่าตัดสินใจเช่นนี้ย่อมมีสาเหตุ" แชลเทียเอ่ยพร้อมกับหันไปรอรับฟังคำอธิบายจากเบลล่า
    เบลล่าเห็นเช่นนั้นก็เผยรอยยิ้มเฉิดฉายออกมาพร้อมกับเปิดปากเอ่ยกล่าวอธิบาย "จากความคิดของพวกเจ้าคิดว่าเขามีนิสัยชอบเข่นฆ่าโดยไม่จำเป็นหรือ?"
    ได้ยินเบลล่าเอ่ยถามเช่นนั้นทั้งซิลเวียและแชลเทียต่างเอ่ยกล่าวตอบคำอย่างพร้อมเพรียง "ย่อมไม่"
    "ถูกต้อง จากมุมมองของข้า เขาผู้นี้นั้นมีนิสัยที่เด็ดขาดไม่พิรี้พิไล ดังนั้นหากเขาต้องการที่จะเข่นฆ่าสังหารผู้คนของแคว้นสมิธจริง เขาคงลงมือตั้งแต่แรกแล้ว" เบลล่าเอ่ยกล่าว
    "ความหมายของท่านพี่คือ กาเล็ทไม่ได้คิดจะลงโทษเอาเรื่องกับผู้คนของแคว้นสมิธตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว?" ซิลเวียเอ่ย
    เบลล่าได้ยินเช่นนั้นก็ผงกศรีษะรับ "ดังนั้นในเมื่อเขาไม่ได้มีความคิดที่จะสังหารผู้คนหรือราชวงศ์ของแคว้นสมิธตั้งแต่แรกเหตุใดเราจึงไม่ถือเอาโอกาสนี้เรียกร้องเอาค่าตอบแทนกัน? จริงอยู่ว่าตามความจริงแล้วในตอนนี้พวกเราหาได้ขัดสนเงินทองหากแต่เงินทองนั้นการที่มีให้มากไว้ก็หาใช่เรื่องที่ไม่ดี อย่าว่าแต่เงินทองที่พวกเราจับจ่ายใช้สอยกันอยู่ในยามนี้ก็เป็นเงินที่หยิบยืมมาจากผู้คนด้วยการขายพันธบัตรไปกว่าครึ่ง หากสามารถหาช่องทางเก็บเกี่ยวเรียกเอาเงินทองจากแคว้นสมิธที่ได้ชื่อว่าเป็นแว่นแคว้นที่มั่งคั่งไม่น้อยมิใช่เป็นเรื่องที่ประเสริฐสุดและดีพร้อมสำหรับทั้งสองฝ่าย?"
    ได้รับฟังถึงเหตุและผลของเบลล่า ทั้ง ซิลเวีย แชลเทีย เซลิน่าและโซเฟียต่างก็ผงกศรีษะรับอย่างเห็นด้วย แม้แต่นีน่าเองยังแอบลอบชื่นชมในความสามารถของว่าที่ลูกสะใภ้ผู้นี้
    "หากว่าแว่นแคว้นสมิธยอมที่จะส่งมอบเงินทองให้พวกเราเป็นจำนวนมากก็นับว่าดีอยู่จะได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่ทำให้กาเล็ทรู้สึกกังวลใจ เขาจะได้ไม่ต้องห่วงพะวงอีกแต่ท่านพี่ไม่กลัวว่าพวกมันจะส่งมอบบริจาคให้เพียงหยิบมือหรือ?" ซิลเวียยังคงเอ่ยถาม
    เบลล่าได้ยินคำถามของผู้เป็นน้องสาวก็ได้แต่ลอบส่ายศรีษะ "มีผู้ใดบ้างที่จะกล้าตีมูลค่าของชีวิตของตนเองต่ำเตี้ยเรี่ยดินกัน ? น้องหญิงเจ้าไม่เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าในทะเลทรายน้ำนั้นมีค่ายิ่งกว่าทองคำหรอกหรือ?" คำกล่าวนี้ของเบลล่าย่อมสามารถที่จะอธิบายได้ทุกสิ่ง ไฉนหยดน้ำที่ไร้ค่าราคาจึงมีค่าราคาขึ้นมาสูงลิบยิ่งกว่าทองคำในทะเลทรายได้? นั่นย่อมเพราะน้ำสามารถที่จะทำให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ในทะเลทรายหากแต่ทองคำกลับไม่สามารถ จะมีสิ่งใดมีค่าไปมากกว่าชีวิตของผู้คนอีก?
    "ท่านพี่เบลล่าชั่งมองการไกลและเข้าใจความคิดของกาเล็ทนัก พวกข้านั้นเทียบไม่ติดเลยจริงๆ" แชลเทียที่ได้รับฟังคำเอ่ยกล่าวอธิบายของเบลล่าจนจบเอ่ยกล่าวออกมา
    "แต่ละคนย่อมมีความสามารถที่แตกต่างกัน ในเรื่องของการเมืองและผลประโยชน์ข้านั้นพอมีความรู้ความสามารถอยู่บ้างแต่หากเอ่ยถึงเรื่องของการค้าแล้วข้าคงเทียบกับน้องแชลเทียไม่ได้" เบลล่าเอ่ยกล่าวอย่างถ่อมตน
    "ได้พวกหนูมาเป็นลูกสาวทั้งห้า ป้ารู้สึกภูมิใจแทนกาเล็ทจริงๆ" นีน่าเอ่ยสอดแทรกขึ้นมา
    "เพราะท่านป้าเมตตา เบลล่าจึงมีวันนี้ได้" เบลล่าหันไปเอ่ยกล่าวต่อนีน่าอย่างสำนึกขอบคุณ
    โซเฟียกับเซลิน่าเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่นึกย้ำเตือนกับตนเองว่า ตนเองนั้นต้องพยายามให้มากไว้

    เวลานับสิบชั่วโมงผ่านไปภายในมิติเทพเจ้า กาเล็ทยังคงนั่งพินิจวิเคราะห์แหวนวิเศษที่ได้มาจากอองตวนอย่างต่อเนื่อง กาเล็ทพยายามใช้พลังของตนเองหยั่งสัมผัสถึงกลไกลและส่วนประกอบภายในของแหวนวิเศษแต่ละวงอย่างใช้สมาธิ
    "นายน้อยกำลังทำสิ่งใดอยู่หรือขอรับ ข้าเฝ้าสังเกตุดูเห็นว่านายน้อยเพ่งดูหมุนแหวนพวกนี้สลับไปมากว่าครึ่งค่อนวันแล้ว ไม่ว่าตัวข้านั้นจะเพ่งมองดูอย่างไรก็เห็นเพียงแต่แหวนวงหนึ่งเท่านั้น" มาร์ตินที่นั่งยองๆอยู่ไม่ไกลอดทนไม่ได้สุดท้ายแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น
    กาเล็ทหาได้โกรธเคืองขุนพลของตนเองผู้นี้แต่อย่างใดที่เอ่ยกล่าวทำลายความเงียบขึ้น "ที่เจ้าเห็นและมองดูนั้นเป็นเพียงแหวน แต่ที่ข้ากำลังทำอยู่นั้นคือการศึกษากลไกและอักขระที่สลักลงไว้ในตัวแหวน อย่าได้เห็นว่านี่เป็นเพียงแหวนวงหนึ่ง" กาเล็ทเอ่ยกล่าวพร้อมทั้งสบัดมือของตนเองหมุนวนเพื่อหยิบยื่นแหวนที่ยังคงเปล่งแสงปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมาไปยังเบื้องหน้าของมาร์ติน "เห็นหรือไม่ว่าแหวนวงนี้ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจิตวิญญาณระดับสูง" เอ่ยกล่าวจบกาเล็ทก็ยื่นมือของตนเองออกไปคว้าจับแหวนพร้อมทั้งบังคับให้กลไกลภายในตัวแหวนทำงาน แหวนในมือของกาเล็ทสว่างเจิดจ้าขึ้นในทันทีจากนั้นมันจึงปลดปล่อยมวลพลังงานมหาศาลออกมา "แหวนแต่ละวงที่อองตวนสวมใส่อยู่นั้นกลับประจุไปด้วยพลังระดับจักรพรรดิขั้นสูง ถึงแม้มวลพลังที่ประจุอยู่ในตัวแหวนจะไม่ใช่จำนวนมากมายที่สามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องแต่มันก็นับว่ามากพอที่จะดึงมาใช้เป็นม่านพลังหรือเสริมความแข็งแกร่งให้กับการจู่โจมของตนเอง" กาเล็ทเอ่ยกล่าวอธิบายให้กับมาร์ตินที่กำลังดวงตาเบิกกว้างมองดูสิ่งที่ตนเองแสดงให้ดูอย่างตื่นเต้น
    "เป็นอย่างไรบ้าง ร่างกายของเจ้ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่" กาเล็ทเปลี่ยนหัวเรื่องเพื่อเอ่ยถามถึงสภาพร่างกายของมาร์ติน
    "หายเป็นปกติดังเดิมแล้วขอรับ" มาร์ตินเอ่ยกล่าว
    "ดีแล้ว เกรงว่าคงใกล้เวลาเริ่มงานเลี้ยงรอบค่ำของตระกูลโร่ม่าแล้ว สมควรแก่เวลาที่พวกเราจะกลับออกไปสู่โลกภายนอกแล้ว" กาเล็ทเอ่ยกล่าวพร้อมกับเก็บแหวนทั้งสิบวงกลับคืนเข้าสู่แหวนมิติและลุกขึ้นจากพื้น กาเล็ทเหลือบมองไปยังมาร์ตินอีกครั้ง "งานเลี้ยงค่ำคืนนี้พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องออกไปที่ใดแล้ว ข้าจะเอ่ยปากขอท่านลุงซาฮานให้จัดเตรียมโต๊ะที่นั่งพิเศษให้ จดจำไว้ว่าอย่าได้ส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวายไร้มารยาทจนทำให้ตระกูลบุสโซ่ขายหน้าขอให้อยู่อย่างเรียบๆร้อยๆไว้เข้าใจหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยกล่าว
    "ทราบแล้วขอรับนายน้อย" มาร์ตินเอ่ยตกปากรับคำอย่างว่าง่าย
    เมื่อกลับออกมาจากมิติเทพเจ้า กาเล็ทก็ได้รับรู้ถึงเรื่องที่เบลล่าออกหน้าเป็นผู้จัดการเรื่องราวของแว่นแคว้นสมิธให้กับตนเองผ่านการบอกเล่าของแชลเทียกับซิลเวีย กาเล็ทที่รับฟังคำบอกเล่าอยู่ถึงกลับลอบยิ้มกับตนเองในจิตใจที่ผู้เป็นว่าที่ภรรยากลับสามารถคาดเดาออกถึงความต้องการของตนเองได้อย่างแม่นยำถึงเพียงนี้ "ยามนี้เบลล่าไปอยู่ที่ใดแล้ว" กาเล็ทเอ่ยถามออกมา
    "เห็นว่าท่านพี่กำลังไปตกลงพูดคุยรายละเอียดในการรับมอบทรัพย์สินที่แคว้นสมิธจะทำการส่งมอบให้แก่พวกเรากับท่านลุงซาฮานอยู่" ซิลเวียเอ่ยบอกกล่าว
    กาเล็ทได้รับฟังเช่นนั้นก็ร้องอ้อออกมาคำหนึ่ง พร้อมกับเหลือบมองไปยังมิร่าซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนตักของนีน่าอยู่
    "มิร่าน้อยคงจะรู้สึกเบื่อกับการดูละครเวทีหนะลูกเลยผลอยหลับไป" นีน่าเอ่ยบอกกล่าวอธิบาย
    กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็เดินเข้าไปย่อกายลุงลูบศรีษะมิร่าที่กำลังนอนหลับอยู่คราหนึ่ง "เช่นนั้นข้าขอตัวไปร่วมพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดเพื่อช่วยเหลือเบลล่าอีกแรงหนึ่งจะดีกว่า ปล่อยภาระเรื่องราวให้เป็นหน้าที่ของนางแต่เพียงผู้เดียวเห็นว่าจะไม่ดีนัก" กาเล็ทถือโอกาสเอ่ยกล่าวขอตัว
    "ไปเถอะลูก" นีน่าเอ่ย
    ได้รับคำบอกกล่าวเช่นนั้นกาเล็ทจึงติดตามบ่าวไพร่ของตระกูลโรม่าไปยังห้องทำงานของซาฮานซึ่งเบลล่ากำลังปรึกษาหารือเรื่องการส่งมอบทรัพย์สินอยู่
    เมื่อเห็นว่าเป็นกาเล็ทที่มาเคาะประตูเอ่ยเรียก ซาฮานที่ปรึกษาเรื่องราวปลีกย่อยกับเบลล่าเสร็จแล้วก็รีบขอตัวออกจากห้องทำงานของตนเองไปโดยอ้างว่าจะออกไปดูแลเกี่ยวกับงานเลี้ยงรอบค่ำ ที่แท้แล้วซาฮานนั้นมีจุดประสงค์ที่จะเปิดโอกาสให้ท่านหญิงแห่งตระกูลบุสโซ่และจักรพรรดิทมิฬผู้นี้ปรึกษาตกลงกัน เพราะทั้งหมดทั้งมวลที่ตนเองพยายามวิ่งเต้นเป็นกาวประสารระหว่างแคว้นสมิธกับตระกูลบุสโซ่คงต้องล้มเหลวลงโดยเสียแรงเปล่าแล้วหากว่าจักรพรรดิทมิฬผู้นี้ไม่ผงกศรีษะยอมรับ
    เหลียวมองดูว่าซาฮานออกจากห้องทำงานของตนเองไปแล้วกาเล็ทก็ไม่รอช้าพุ่งทะยานเข้าไปคว้าเอาตัวของเบลล่ามาโอบกอดไว้ในอ้อมอกทันที ที่ว่าต้องการมาช่วยเบลล่าตกลงเรื่องการส่งมอบทรัพย์เงินทองที่เอ่ยแจ้งบอกต่อนีน่าล้วนแล้วแต่เป็นข้ออ้างทั้งสิ้น เพียงเรื่องส่งมอบทรัพย์สินที่ไม่ยุ่งยากอะไรยังต้องให้ช่วยดูอีกหรือ?
    "กาเล็ทแบบนี้ไม่ได้ นี่เป็นห้องทำงานของท่านลุงซาฮานหากว่าถูกผู้คนพบเห็นเข้าคงไม่ใช่เรื่องที่ดี" เบลล่าเอ่ยกล่าวด้วยทีท่าขวยเขินหากแต่ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนแต่อย่างใด
    กาเล็ทหาได้สนใจอันใดหากแต่ยังคงใช้มือแกร่งของตนเองสัมผัสโอบกอดลูบคลำผิวที่ขาวผ่องนวลเนียนนุ่มนิ่มราวหิมะของเบลล่า กาเล็ทก้มศรีษะลงสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนผมยาวสลวยของร่างเล็กในอ้อมกอดฟอดใหญ่จากนั้นจึงเอ่ยกล่าว "เพียงอยากแสดงความรักความห่วงใยที่มีอยู่ก็ไม่ได้หรือ" กาเล็ทเอ่ยกล่าว
    "ม.ไม่ใช่ไม่ได้ เพียงแต่สถานที่ไม่เหมาะสม กาเล็ทสมควรรักษากริยา" เบลล่าเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
    แม้จะได้ยินสิ่งที่ร่างเล็กในอ้อมกอดเอ่ยกล่าวแต่กาเล็ทกลับยังคงก้มศรีษะลงหอมไปที่ปรางแก้มนุ่มนิ่มของเบลล่าอีกฟอดใหญ่ "หากจะให้กล่าวตามจริงแล้ว ผู้ที่เข้าใจความคิดของข้ามากที่สุดกลับเป็นเจ้า ขอบใจเจ้าที่ช่วยเหลือแบ่งเบาความกังวลให้กับข้า" กาเล็ทเอ่ยกล่าว
    "เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วที่ต้องช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของกาเล็ท" เบลล่าเอ่ยเสียงเบา
    ใกล้ชิดสนิทสนมกันต่ออีกพักใหญ่ สุดท้ายแล้วเบลล่าจึงรายงานบอกกล่าวถึงทรัพย์สินที่ราชวงศ์แห่งแคว้นสมิธเตรียมที่จะบริจาคส่งมอบให้แก่กาเล็ทเพื่อเป็นการขออภัยต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้กาเล็ทนั้นพบว่าทรัพย์สินที่ขูดรีดได้มาในครั้งนี้นั้นไม่น้อยเลย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่าล้านเหรียญทอง พร้อมทั้งแร่เหล็กและมิธริลอีกเป็นจำนวนมาก ยังมีแก่นจิตวิญญาณตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับกลางอีกไม่น้อย และที่สำคัญนั้นคือเรือเหาะอีกกว่าเจ็ดลำที่ราชวงศ์แห่งแคว้นสมิธสัญญาว่าจะควักเงินทองทรัพย์สมบัติของตนเองเพื่อจัดซื้อจัดหาให้เป็นพิเศษ "แว่นแคว้นสมิธชั่งมั่งคั่งนัก" นั่นคือสิ่งที่กาเล็ทเอ่ยกล่าวออกมาหลังได้รับฟังรายงานจากเบลล่า



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×