|
เพื่ออรรถรส ลองกดเล่นเพลงข้างบนนี้ประกอบดู
อาจต้องกดจนกว่าเส้นเล่นเพลงมันจะทำงาน
จากนี้และตลอดไป
ท่ามกลางนิยายวัยรุ่นจากอินเตอร์เนทมากต่อมาก เราหยิบเรื่องนี้มาพูดถึงทำไมกันนะ ///+_+
เพราะไม่ว่าจะพิจารณาด้านภาษาหรือเนื้อเรื่อง ก็ไม่อาจกล่าวได้เลยว่านิยายสั้น 140 กว่าหน้าเล่มนี้มีอะไรโดดเด่นทั้งนั้น (- -)(_ _)(- -)(_ _) แต่ในความธรรมดาของมันก็มีลักษณะสามัญน่าสังเกตอยู่เหมือนกันนะ ประมาณว่านี่คือผลผลิตชิ้นหนึ่งของวรรณกรรมกระแสป็อป (pop culture) ที่รวบรวมลักษณะของนิยายวัยรุ่นของยุคนี้เอาไว้ในเล่มเดียวได้เสร็จสรรพ ซึ่งอันที่จริงเราจะหยิบเล่มอื่นมาพูดถึงก็ได้หรอก แต่อะไรก็ไม่รู้ดลใจให้หยิบเล่มนี้มาเท่านั้นเอง ^_^
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราเองรู้มาจากบรรดานักอ่านว่า ในบรรดานิยายวัยรุ่นซึ่งตบเท้ามาบนแผงหนังสือทุกวันนี้นั้น เอาเข้าจริงจะมีพล็อตมาจากเกาหลีร่วมๆ กันประมาณนี้
1.พระเอกนางเอกเจอกันโดยอุบัติเหตุ อย่างเดินชน// ^o^
2.นางเอกทำให้ชุดพระเอกเปื้อน เลยต้องรับผิดชอบ O.O
3.พระเอกเป็นหนุ่มป๊อป นางเอกเด็กง่าวธรรมดา U_U
4.เพื่อนพระเอกก็มักจะหลงรักนางเอกกะเขาด้วย >O<
5.จบลงด้วยความตายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแบบซึ้งๆ TT_TT
ฯลฯ
เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่เราพบว่า พระเอกนางเอกเจอกันเพราะอุบัติเหตุ (ตามสูตรข้อ 1)
นางเอกมาแก้เผ็ดพระเอกด้วยการแกล้งถือน้ำหวานไปชนเสื้อพระเอก (คล้ายข้อ 2)
พระเอกเป็นหนุ่มป็อปของโรงเรียน มีนางร้ายคอยตามติดพระเอก (ข้อ 3)
และพระเอกก็ตายในตอนจบของเรื่อง ด้วยโรคมะเร็ง (ข้อ 5 )
เนี่ย แล้วจะไม่ให้เราพูดถึงนิยายเรื่องนี้ได้ไงล่ะ ก็ในเมื่อในนิยายขนาดกะทัดรัดเรื่องเดียว แต่สามารถใช้สูตรสำเร็จของนิยายวัยรุ่นเกือบครบเซ็ตเสียขนาดนี้ -*-
"จากนี้และตลอดไป" เป็นผลงานของ "ปลายฝัน" ว่าด้วยเรื่องของ "ริน" สาวน้อยมัธยม 6 แผนกภาษา (เหมือนคนเขียน) ที่แม้จะน่ารักแต่ก็ซุ่มซ่ามเซอะเบอะพอควร ในวันที่ฝนตก เธอลื่นล้มตกบันได บังเอิญมี "กร" พระเอกผู้หวังดีของเรามาเห็นเข้าก็ยื่นมือช่วยเหลือ แต่มีรึนางเอกของเราจะญาติดีด้วยง่ายๆ (เล่นมาเห็นคุณเธอนอนตีแปล๋งไม่เป็นท่ายังงั้น >///<) รินยังแก้เผ็ดเขาด้วยความหมั่นไส้โดยเอาน้ำหวานไปชนเสื้อของเขา ก่อนจะค่อยๆ รู้ว่า พระเอกของเราคือหนุ่มป็อบของโรงเรียนเชียวนะคะ ขณะเดียวกัน เพื่อนกลุ่มของเธอก็เริ่มสนิทสนมกับเพื่อนกลุ่มของกรมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว (เพราะเพื่อนพระเอกก็ขี้หลีพอสมควร)
แต่ก็มีอุปสรรคเล็กน้อยคือนางร้ายชื่อ "เจน" ซึ่งก็มีบทน้อยมากๆ โผล่มาเพื่อร้ายโดยเฉพาะ -O- ร้ายขนาดจับนางเอกไปขังในห้องเพื่อไม่ให้พบพระเอกซึ่งแข่งกีฬาบาสเสร็จ (แต่ไม่บอกคุณๆ ก็คงเดากันได้ว่า สุดท้ายพระเอกก็จับพิรุธได้แล้วไปช่วยนางเอกไว้ทันอยู่ดี) หลังจากพ้นอุปสรรคแรกพอหอมปากหอมคอ ทั้งกรและรินต่างก็เริ่มเข้าสู่สมรภูมิสำคัญของชีวิตนักเรียนมัธยม นั่นก็คือสนามรบเอนสะท้าน แต่รินจำเป็นต้องตามครอบครัวไปอยู่ที่อังกฤษ กระนั้นเธอก็ยังติดต่อกับกรอยู่เสมอ สุดท้ายหลังเรียนจบปริญญาตรีกันทั้งคู่ รินกลับมาเมืองไทยเพียงเพื่อจะพบว่า กรบัณฑิตจบหมาดๆ กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งกระเพาะ U_U และเขาก็กำลังจะจากเธอไป แต่สำหรับริน เขาไม่เคยจากเธอไปไหน เพราะเขายังคงเป็นหนุ่มน้อยของเธอเสมอ...ในความทรงจำ...ทั้งจากนี้และตลอดไป....
อย่างไรก็ตาม เราว่าแม้เรื่องนี้จะได้รับอิทธิพลจากนิยายเกาหลีที่เต็มไปด้วยภาษาอีโมติคอน -_-" แต่ถ้ามองให้ดีก็เห็นความพยายามใช้ภาษาสวยๆ รื่นๆ ของคนเขียนอยู่ด้วยเหมือนกัน และบางทีพล็อตบางพล็อต ฉากบางฉาก มันก็ระบุไม่ได้ว่ามาจากวัฒนธรรมไหน เป็นต้นว่า นางเอกเกือบโดนนักเลงปล้ำแต่พระเอกมาช่วยทัน (ตามสูตร...O.O) นางเอกแก้เผ็ดนางร้าย นางเอกโดนแก๊งค์นางร้ายรุมแกล้ง ฯลฯ ของพวกนี้มันก็ปรากฏในทั้งนิยายไทยนิยายเทศทั้งนั้น ทั้งนี้เราไม่ขอวิจารณ์เรื่องความกลม-แบนของตัวละคร ซึ่งในนิยายวัยรุ่นเรามักคาดหวังตัวละครที่ซับซ้อนสมจริงไม่ได้อยู่แล้ว ทฤษฎีว่าด้วยตัวกลม-ตัวแบน (ยังกับพยาธิ) ของตัวละครแบบพวกนววิจารณ์นั้น...เราไม่ค่อยเชื่อถือค่ะ
แต่เราก็ชอบตรงที่คนเขียนได้หยิบเอาสังคมแบบไทยนี่ล่ะมาเขียน คืออ่านแล้วรู้สึกเลยว่านี่เรื่องคนไทย ท้องเรื่องเกิดในไทยแน่ ไม่ใช่ไทยในจินตนาการที่เต็มไปด้วยคนชื่อเกาหลี-ญี่ปุ่นไม่คุ้นหู แล้วยังสถานที่ที่ไลฟ์สไตล์นักเรียนประชาบาลทั่วไปสัมผัสไม่ถึงอย่างนิยายวัยรุ่นเรื่องอื่น แต่นี่พระเอกของเรา "กร" มีพื้นเพครอบครัวทำนาบัวอยู่ต่างจังหวัด (กรี๊ดดดด!!!!! >O< นาบัวน่ะฝันของเราเลยนะคะ แบบว่าเป็นคนแดนที่ราบสูงแต่ดันอยากมีนาบัว) กรให้ดอกบัวกับนางเอกในวันวาเลนไทน์ เพื่อนๆของกรและรินพากันไปเที่ยวน้ำตกก่อนสอบเอนท์ (ระลึกชาติว่าตอนเอนท์เรากะแก๊งค์ก็หาเรื่องเที่ยวคลายเครียดเหมือนกัน) และตอนเที่ยวต่างจังหวัดนี่เอง ที่รินได้ฟังกรดีดกีต้าร์กลางธรรมชาติยามค่ำคืน (คนอะไร หล่อ เรียนดี กีฬาเด่น เล่นดนตรีเพราะ แว้ก!!!! >__<) เพลงที่เล่นก็คือ Now and Forever ของ Richard Marx (ตอนแรกอิฉันละนึกว่า Now and Forever ของหนังสุริโยไท -,.-"") ทำให้วลีนี้กลายมาเป็นชื่อเรื่องนั่นเอง
รินเองแม้จะไม่บอกรายละเอียดครอบครัว แต่คนอ่านคนนี้ก็คิดลึกค่ะว่าครอบครัวรินคงมีฐานะพอสมควรแน่ ไม่งั้นคงไม่ได้ย้ายไปอังกฤษหรอก (ซึ่งค่าครองชีพแพงจมหูหมา) และเพราะฐานะที่ต่างกันนี่เองทำให้ต้องพลัดพราก สี่ปีผ่านไปรินแทบไม่ได้กลับเมืองไทย (เพราะพ่อกลัวก่อการร้ายทางเครื่องบิน) จนพอได้มาเยือนมาตุภูมิอีกครั้งพร้อมใบปริญญาเกียรตินิยม (เอาน่า คนเขียนตอนเขียนเรื่องนี้ยังอยู่ ม.6 คงยังไม่รู้ว่าเรียนมหา'ลัยมันยากปานใด) ขณะที่กรก็เพิ่งจบวิศวะมหาวิทยาลัยชื่อดังในไทยและเพิ่งทำงานได้ไม่กี่เดือน แต่แล้วการพบกันอีกครั้งของเขาและเธอก็กลายเป็นความทรงจำที่ไม่หลงเหลือความหวังของวันพรุ่งนี้อีกแล้ว เมื่อกรรู้ตัวว่าป่วยเป็นมะเร็งในกระเพาะและกำลังจะจากโลกนี้เร็วขึ้นทุกที ซึ่งฉากพระเอกตายนี้...บทพูดของกรที่ว่า "เราหนาวจังเลย...ทำไมเรามองหน้ารินไม่ชัดเลย..ทุกอย่างมืดไปหมด.." (หน้า 142) อืม...ถ้าพระเอกชี้ให้ดูทางช้างเผือกอีกนิดละก็ใช่เลย ไม่ได้ว่าลอกนะ เพียงแต่ของอย่างนี้คนเราต้องมีครูกันบ้างใช่ม้า ^_^;
ที่อยากติงก็คือ ทำไมพระเอกมันตายง่ายจริงหว่า?? O.o เห็นปูพื้นเรื่องว่าเรียนดี กีฬาเด่น สุขภาพจิตสมบูรณ์เพราะครอบครัวดีแม้ไม่ร่ำรวยนัก มาตายหลังรับปริญญาไม่กี่เดือน นี่ขนาดอะฮั้นใช้ชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ จนอายุปูนนี้แล้วเครื่องเคราก็ยังโอเคอยู่เลยนะคะ ก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะว่าต้องการให้เรื่องจบซึ้งๆ แบบวรรณกรรมเกาหลี(ที่ตัวละครตายด้วยมะเร็งกันเป็นว่าเล่น) แต่เล่นปูพื้นเรื่องซะค่อนเรื่องโดยไม่เห็นพระเอกออกอาการเลยนี่มันยังไงอยู่... คนเขียนคงอินกับการจากลาซึ้งๆ แบบนี้จากนิยายเกาหลีประดามีอันเป็นแรงบันดาลใจ แต่บอกตามตรง 17 บทนี่อะฮั้นยังไม่ทันอินกับตัวละครเลยอ้ะ คือมันยังสั้นไปที่จะรู้จักและผูกพันกับตัวละครไปพร้อมกับคนเขียนน่ะ
อันที่จริง การเขียนนิยายที่ "ล่วงหน้า" อายุคนเขียนมันก็อาจมีจุดอ่อนนิดๆ หน่อยๆ นี่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากหรอก เพียงแต่เท่าที่เห็นๆ..คนเรามักเปลี่ยนแปลงกันมากเมื่อเรียนมหา'ลัย บางทีเพื่อนที่สนิทตอนมัธยม เมื่อเจอกันอีกทีตอนเรียนมหา'ลัยกลับไม่ใคร่คุ้นเหมือนครั้งเก่าอีกแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเติบโตขึ้นโดยแยกห่างจากกัน เรียกว่าขาดการเติบโตร่วมกันในช่วงหัวเลี้ยวสำคัญของชีวิต ทำให้คู่รักที่แยกห่างกันในวัยนี้มักต้องเลิกรากัน (รักแท้แพ้ใกล้ชิดไง แต่ที่คบกันยืดๆก็มีนะ) แต่ในเรื่องนี้จะเห็นว่า 4 ปีผ่านไป กรและรินก็ยังคงมั่นไม่เปลี่ยนแปรเลย แต่นี่ก็คือนิยาย...คือพื้นที่ที่ให้นักเขียนรุ่นเยาว์ได้สร้างความฝันที่สวยงามของเขาเองเนอะ
นี่อาจจะเป็นแค่หนึ่งในนิยายกระแสป็อปที่ผลิตกันเกร่อ แต่มันก็คือผลงานชิ้นนึงที่บอกว่ายุคสมัยของเรานิยมเอาอะไรมาย้อมจิตใจของเราเอง ครั้งนึงเรานิยมญี่ปุ่น วันนี้เรานิยมเกาหลี วันข้างหน้าไม่รู้จะเป็นอะไร แต่โดยมากวงการวรรณกรรมป็อปบ้านเราก็ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่อยู่แล้ว อย่างน้อยนิยายที่ไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่เลวร้ายเรื่องนี้ก็คือผลผลิตของยุคสมัยได้กับเขาเรื่องนึงก็แล้วกัน
ความคิดเห็น
อ่านคำวิจารณ์แล้วแอบหวนคิดถึงตัวเอง เริ่มรู้สึกโชคดีที่แต่งนิทานไม่จบ และดูเหมือนคุณวิฬาร์จะไม่สนใจหัวข้อนี้เท่าไหร่ ไม่ใช่อะไรหรอกกลัวปาก...เอ่อ ...คำวิจารณ์น่ะค่ะ เสียวสันหลังนิดๆ
PS. คำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ