little bird
ดู Blog ทั้งหมด

ชีวิตที่ก้าวไป...บนเส้นทางที่กว้างยาว

เขียนโดย little bird

ขณะนี้ฉันอยู่เมืองไทย...หลังจากที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่นอกประเทศ...ประสบการณ์และสภาพชีวิตที่ได้เรียนรู้มาทำให้ฉันแกร่งขึ้น แต่มันก็ทำให้ฉันยึดติดกับความเป็นไปในต่างแดน จนบ้างครั้งก็แอบคิดถึงและเฝ้าจะกลับไป...

ฉันเคยคิดอยากจะใช้ชีวิต ณ ต่างแดน เพราะความสะดวกสบาย และความ "เจริญ" ที่แตกต่างจากประเทศไทย แต่สุดท้ายฉันก็กลับมา...

ฉันกลับมาเมืองไทย แผ่นดินเกิด นานหลายเดือนแล้ว...และเพิ่งจะได้โอกาสสานฝันเขียนเรื่องราว ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ แต่เป็นเพราะความเหน็จเหนื่อยที่ต้องเผชิญผจญกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง

"ฉันเป็นใคร" เธอตอบได้ไหม...บางครั้ง ฉันก็ตอบตัวเองไม่ได้...แม้ฉันจะยืนยันความคิดเดิมว่าตัวตนฉันไม่เปลี่ยนแปร แต่แน่หรือว่าฉันไม่ได้เปลี่ยนไป

ความกลัวที่เคยมีเมื่อครั้งก่อน ยังคงอยู่ แต่ฉันเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ฉันพยายามไม่สนใจกรอบกรงที่ครอบกาง แต่พยายามมองหาช่องทางที่จะก้าวผ่านไป ตัวฉันเองบางครั้งก็เหนื่อยล้า แต่ก็ยังดีที่มีที่ให้พักพิง...วันนี้ฉันรู้แล้วว่า ฉันยังมีที่ว่างให้กลับไป ที่ว่างที่เรียกว่า "บ้าน"

บ้านในที่นี้ แม้ไม่ได้สวยหรู แต่ฉันกลับรู้สึกปลอดภัย ยามเหนื่อยและเมื่อยล้า...ฉันบอกตัวเองว่า "อีกไม่กี่วัน ฉันจะกลับบ้าน" บ้านที่ไม่ใช่อยู่เมืองกรุง บ้านที่เป็นบ้านอย่างแท้จริง

ฉันเริ่มต้นทำงานกับความหลอกลวง...บนสถานที่สวยหรูที่ใครหลาย ๆ คนฝันใฝ่ สถานที่ที่คล้ายกับโรงละครขนาดย่อม ที่ทุกคนต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน บทละครจะถูกเปลี่ยนในแต่ละวัน และฉันต้องท่องจำบทตัวเองให้แม่นยำ...ความเหนื่อยจึงมีมากกว่าความล้า การเสแสร้งมีมากกว่าความจริงใจ ที่แห่งนี้น่ากลัวและน่าเบื่อในขณะเดียวกัน...

ถ้าเธอพลาด นั่นหมายถึงเธอกำลังจบชีวิต ทุกอย่างก้าวจึงเหมือนกับการประลองฝีมือที่เธอจะต้องทันเหลี่ยมทันคม หลบไม่พ้นก็ต้องตาย หากหลบพ้นในวันนี้แล้วพรุ่งนี้ล่ะจะเป็นอย่างไร...

ฉันได้ทำงานกับนักแสดงมีชื่อและมีเกียรติ ใครมากมายก็มองอย่างหลงใหล แต่จะมีใครกี่คนที่จะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงหลังหน้ากากรูปงาม ฉันทำงาน ณ โรงละครแห่งนี้มาเกือบครึ่งปี...แต่ฉันก็ยังไม่สามารถเรียนรู้ยุทธวิธี เล่ห์เหลี่ยม กลโกง ได้จบเจน...ฉันจึงยังไม่ก้าวออกจากโรงละครแห่งนี้...

วัน ๆ หนึ่งฉันทำอะไรบ้าง...นอกจากทอดถอนลมหายใจ ปลดปล่อยความคิดไปในแต่ละชั่วโมง และแช่แข็งจิตวิญญาณไปในแต่ละวินาที ฉันไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ ฉันยังไม่ได้เป็นในสิ่งที่ฉันฝันจะเป็น

ฉันได้เป็นในสิ่งที่ฉันกลัวว่าจะต้องเป็น...และสุดท้ายฉันจะกลายเป็นกลเฟืองที่ไร้จินตนาการ

ความอิสระที่ฉันที่เคยมีหายไปไหน ความฝันอันยิ่งใหญ่สลายไปแล้วหรือไร...ใครตอบได้บ้าง...

ฉันเฝ้าถามตัวเอง วันนี้ วินาทีนี้ ฉันยังอยากหยุดเวลาไว้ไหม คำตอบคือไม่...แต่ฉันอยากย้อนเวลากลับไป สู่วันคืนที่สดใสและสุขสบาย

ฉันไม่อยากเติบโต ฉันไม่อยากเป็นผู้ใหญ่..เพราะโลกใบนี้ไม่ได้สวยหรูเหมือนเทพนิยาย ไม่ได้มีเจ้าหญิงเจ้าชายในชีวิตจริง แต่โลกนี้มีควันพิษและความสกปรกแห่งชีวิต ยิ่งเติบโตขึ้นเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกปนเปื้อน สีสันที่แต่งแต้มไม่ได้ทำให้ผ้าขาวสวยงามอย่างที่เป็นแต่มันทำให้หยาบกระด้างน่ากลัว

พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร...ฉันถามตัวเอง...

พรุ่งนี้ก็จะเป็นเช่นวันนี้...คำตอบที่น่ากลัวที่สุดเกิดขึ้น...

ฉันเฉื่อยชาและไร้ความรู้สึก ไร้ชีวิตไร้จินตนาการ ฉันถูกครอบงำด้วยกรอบที่น่าชัง...

ตื่นเถอะไฟฝันที่ริบหรี่...ลุกโชน แรงกล้าไล่ความกลัว...อย่างน้อย ๆ ก็เป็นแรงใจให้ฉันกล้าจะก้าวเดินเพื่อตามหาฝันบนเส้นทางที่ทอดยาว

ท้องฟ้าที่พร่างดาว...ฉันขอดาวสักดวงเป็นเป้าหมายของชีวิต...
ฉันของลิขิต...ชีวิตของตัวเอง...

Bangkok, Thailand
10-02-2007

ความคิดเห็น

valerie
valerie 13 ก.พ. 50 / 09:33
นกน้อย ช่วงที่เธอพูดถึงบทละคร ตัวแสดง ในแง่ของการเปรียบเทียบ นี่ถ้าอ่านไม่ดีจะนึกว่าเธอทำงานวงการบันเทิงนะเนี่ย

เจ้า ณ พิชา ก็คงรู้สึกทำนองเดียวกับเธอแหละ ถึงดิ้นจนออกมาได้ในเวลา 1 ปี
จนตอนนี้เจ้าหล่อนก็เลยได้ทำสิ่งที่ชอบ ถึงงานหนัก ต้องออกต่างจังหวัด ทนฝุ่นดินที่แสนจะเป็นภูมิแพ้

อย่าเพิ่งร้องเพลง "ระวังหมดอายุ" เลยนกน้อย
ฉันเชื่อว่าคนเจ้าแผนการอย่างเธอ หาทางที่เป็น somewhere you belong ได้อยู่แล้ว