อากาศที่หนาวเหน็บ....ฮ่วย!! มันยังไม่เข้าฤดูหนาวนะ...นี่แค่กลางค่อนปลายฤดูใบไม้ร่วงเอง
บางคนบอกว่าอากาศเย็นสิดี..ตอนนี้ที่เมืองไทยร้อนจะตาย...เออ...แต่ลองมาอยู่ในที่อุณหภูมิต่ำกว่าสิบหรืออย่างสูงก็ไม่เกินสิบห้าดูสิ..ทั้งวันทั้งคืน..แล้วจะรู้ว่า...ตรูจะแข็งแล้วโว้ยยย!! ตอนอยู่เมืองไทย อยากจะอยู่เมืองหนาว อยากลองเปิดฮีตเตอร์ หรือ ไม่ก็ผิงเตาไฟร้อน ๆ เหมือนในหนังโรแมนติก..เจอของจริงเข้า..เหอ ๆ ผิวแห้งจนตกสะเก็ด ลองดั่งหนังงู...ถ้าลืมปิดฮีตเตอร์แล้วนอนหลับไป..ตอนเช้าตื่นมา อบอุ่นก็จริง แต่ขอโทษเถอะ คอแห้งไม่มีเสียง ไม่ต้องพูดกับใครไปครึ่งวัน...
บางคนอาจจะเถียงว่า ออสเตรเลียร้อนจะตาย...ใช่..มันร้อนแทบตายในฤดูร้อน...อากาศบางสัปดาห์ไม่ลดต่ำกว่าสี่สิบ..ทั้งแห้งทั้งร้อน เหมือนเตาเอบไม่มีผิด...รู้เลยว่าไก่ย่างรู้สึกอย่างไร...แต่ที่แย่..ก็คือ..ที่หอพักไม่มีพัดลม ไม่มีเครื่องปรับอากาศ นอกจากฮีตเตอร์..ตรูร้อนจะตายจะเอาฮีตเตอร์มาย่างปลาหมึกเหรอฟระ...
ใครไม่เคยมาเรียนมาใช้ชีวิตต่างบ้านต่างเมือง..อาจจะคิดว่าโก้หรู..ไฮโซ..เท่ห์...แต่พอมาเจอจริง ๆ เข้าจะรู้ว่า..ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเราแล้ว..ที่เมลเบิร์น..วันหนึ่ง ๆ อาจมีได้ถึงสี่ฤดู..งงใช่ไหมว่า..มันเป็นไปได้อย่างไร..
เมลเบิร์นเนียนทุกคนจะรู้ดีว่า ตอนเช้าอากาศจะสดชื่น แสงแดดจะอบอุ่น ฟ้าจะใส..โอ้วันนี้ต้องเป็นวันดีแน่ ๆ แต่ขอเถอะพอเที่ยงคุณอาจจะเจอฝนที่ตกกระหน่ำ ลมแรงจนไม่อาจกางร่ม..เพราะร่มมันจะพับเงา เหล็กแข็ง ๆ งอได้ค่ะ..ขอยืนยัน..พอบ่ายๆ ค่อนเย็น อากาศก็อึมครึม..ฝนไม่ตกหรอก แต่ลูกเห็บตก..บางคนก็ว่าสวยดี น้ำแข็งตกจากฟ้า..คล้ายหิมะไง..แต่ขอโทษ..น้ำแข็งขนาดเท่าลูกกอล์ฟ..ตกใส่หัวไม่เจ็บเหรอ...กางร่ม ร่มก็ขาด..อนาจใจ...พอค่ำฟ้าอาจจะใส..แต่หนาวโคตร.....

บ่นเรื่องที่สอง..
นอกจากการเรียนที่หนักหนาสาหัส..ภาษาที่ยากและแทบไม่กระดิกหูแล้ว...สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง..ความไม่คุ้นเคย..คือสิ่งที่นักเรียนไกลบ้านต้องเจอกันเกือบทุกคน สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้..สะสมกันจนทำให้นักเรียนหลาย ๆ คนเครียด...ดังนั้น..ใครที่หาทางออกให้ตัวเองได้ดีที่สุด..คนเหล่านั้นก็คือผู้อยู่รอด และสมควรแก่การได้รับคำว่า "ความสำเร็จ"
น้ำตาเป็นสิ่งที่คู่กับการเรียนต่างบ้านต่างเมือง..ใครจะว่าอ่อนแอก็ช่าง...แต่การระบายด้วยการขีดเขียน...พร่ำบ่นให้ใครอื่นฟัง..ไม่อาจจะช่วยได้เสียทั้งหมด ในเมื่อทุกข์เกิดที่ตัวเรา..ตัวเรานี่แหละจะแก้ไขได้...ถ้าเหนื่อยนัก..เครียดนัก..อยากร้องก็ร้อง..ร้องแล้วก็ลงมือกัดฟันร่ำเรียนต่อไป...อดทนจนกว่าจะได้ "ความสำเร็จ" มาอยู่ในมือ...
แต่เชื่อไหมว่า..สิ่งที่คิดได้ กับสิ่งที่ทำได้..มันต่างกัน...
การบอกตัวเองว่า.."อย่าเครียด ๆ" มันทำให้หายเครียดได้เหรอ....

บ่นเรื่องที่สาม
รายงานอะไรของมันฟระ...ถามมาอยู่ได้เกี่ยวกับ Public management in developed and developing country..
ข้อมูลก็หายากโคตร...มันจะเหมือนมันจะต่าง..รู้แล้วได้อะไร...โอ๊ย..ทำไมต้องลงเรียนวิชานี้ด้วยนะ..ยากสุดจะทนนนนนนนน
แล้วเราจะจบไหมเนี่ย...เหลือรายงานวิชานี้อีกสองเล่ม..หัวข้อก็ยากจนอยากจะแกล้งลืม...เฮ้อ..เหลือแค่เทอมนี้เทอมเดียวก็จะได้นอนกอดปริญญาสมใจแล้ว..แต่ทำไมเทอมสุดท้ายนี้ถึงได้ยากที่สุดนะ..ทั้งๆที่น่าจะเริ่มชินกับความโหดได้บ้าง แต่ทำไม..ทำไม...วิชาเกี่ยวกับ policy จึงยากกกกกกกกกก
ไม่สงสัยเลยว่า ทำไมการออกนโยบายแต่ละอย่างถึงได้เป็นอย่างนี้..เละเฟะ..ไม่เป็นท่า..เพราะหาคนจบสาขานี้ยากมากนี่เอง...ขนาดเราเลือกเรียนเป็นวิชาเลือกยังรู้ซึ้งถึงความโหด แล้วคนที่จบจริง ๆ จะมีกี่คน...แล้วจะมีสักกี่คนที่ไม่เข็ด..อยากจะทำงานเกี่ยวกับมัน...
เหอ เหอ..

เฮ้อ..ได้บ่นแล้วสบายใจ...ไปทำรายงานนรกต่อดีกว่า...อากาศหนาว ๆ ก็เปิดฮีตเตอร์มันต่อไป...แถมด้วยโกโก้ร้อน ๆ สักถ้วย..ก็มีแรงกัดฟันสู้ต่อแล้ว...
ปล..ขอบคุณเด็กดีที่มีไดอารี่ให้ระบายอารมณ์เล่น...
ปลล..ถ้าใครหลงมาอ่าน..ก็อย่าคิดมากกก ก็บอกไปแล้วว่า..."ขอบ่น"...
ปล..ขอบคุณเด็กดีที่มีไดอารี่ให้ระบายอารมณ์เล่น...
ปลล..ถ้าใครหลงมาอ่าน..ก็อย่าคิดมากกก ก็บอกไปแล้วว่า..."ขอบ่น"...
ความคิดเห็น
อุตส่าห์รอเลี้ยงฉลองแล้วเชียว ซื้ด
เจ้าเต้บอกว่า ถ้าเธอกลับเมืองไทยคราวนี้ต้องเจอให้ได้
เราจะได้รวมมิตรเพื่อนเก่า ชาว HS กันล่ะเว้ย
อย่าเครียดเลยเดี๋ยวแก่เร็วนา
ตั้งใตเรียนจะได้จบเร็วๆนะคะ
เออ อ่านที่ไว้หน้าจอแรกแล้ว
สงสัยฝรั่งคงเอาเมืองไทยไปสับสนกับเนปาลมั้ง
กษัตริย์เนปาลนี่ก็กระไร หวงอำนาจชมัด
นี่ประชาชนคงอยากเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐซะให้ได้ ล้มล้างระบอบศักดินานั่นไปเลย
ราชวงศ์ในโลก จาก28 ก็อาจจะลดลงก็ได้ นี่ไม่ใช่การหมิ่นประมาทนะ
หลงเข้ามาอ่าน...น่าสงสารคนไกลบ้านจริงๆ
เป็นกำลังใจให้สู้ๆนะค่ะ
PS. ..ชอบอ่านวันละนิด...จิตแจ่มใส... ..อ่านมากๆ ไป...ตาลายหมกเลย......เย้ย!!!