คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ฝนที่ตกกระหน่ำไม่ได้ทำให้ร่างที่กำลังวิ่งอยู่หยุดชะงัก ขวากหนามที่ทิ่มตำตามลำตัวก็ไม่สามารถหยุดยั้งหรือทำให้ชะลอความเร็วได้เช่นกัน ร่างบางยังคงวิ่งต่อไป ในขณะที่สะอื้นไห้ราวกับจะขาดใจเสียตรงนั้น เมื่อถึงจุดหมายก็หยุดเท้าลง จ้องมองถ้ำกว้างใหญ่เบื้องหน้าด้วยนัยน์ตาว่างเปล่า ฝนที่ตกลงมานั้นชะล้างน้ำตาที่นองหน้าออกไปจนหมด คงเหลือแต่ดวงตาแดงๆกับท่าทางที่บอกให้รู้ว่าหญิงสาวไม่ได้หยุดสะอื้นไห้เลยแม้แต่น้อย เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ร่างบางก็ก้าวเข้าไปในถ้ำกว้างใหญ่มืดมิด ด้วยหัวใจราวกับจะแหลกสลาย
ความมืดของถ้ำไม่ได้ก่อความกลัวให้กับหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงเดินต่อไปอย่างมั่นคงราวกับรู้จักทางด้านหน้าเป็นอย่างดี ที่สุดทางนั้นเอง แลเห็นทางเดินแคบๆขยายตัวออก เผยให้เห็นถึงห้องที่ใหญ่โอ่โถงราวกับมีห้องโถงที่สร้างจากธรรมชาติแฝงตัวอยู่ในถ้ำนี้ หญิงสาวส่งเสียงแผ่วเบา ก็ปรากฏเป็นนาฬิกาทรายอันจ้อยเรืองแสงอยู่กลางอากาศ ทรายที่ด้านบนนั้นเหลือน้อยนิดเต็มทน... เธอเฝ้ามองทรายร่วงหล่นลงทีละนิดอย่างขมขื่นใจจนกระทั่งเม็ดทรายเม็ดสุดท้ายกล่าวคำอำลา ฉับพลันถ้ำที่มืดมิดนั้นก็สว่างไสวไปด้วยแสงสีส้มเรื่อนวลตา เผยให้เห็นแท่นหินที่สลักลวดลายไว้บนแท่นราวกับเตียงที่สร้างขึ้นมาจากศิลาแข็งแกร่ง หญิงสาวจ้องมองอย่างตัดสินใจแล้ว จึงบรรจงกดมีดมนตราลงบนท้องแขนของตัวเอง ปล่อยให้เลือดไหลรินไปทั่วรอยสลักนั้นอย่างช้าๆ
ร่างบอบบางนั้นหยุดสะอื้นราวกับทำใจได้แล้ว เมื่อเธอคิดจะตัดขาด ร้องให้ไปจะได้ประโยชน์อันใดขึ้นมา หญิงสาวบอกกับตัวเองอย่างขมขื่น แล้วเฝ้ามองเลือดตัวเองที่ไหลไปตามรอยสลักอย่างช้าๆ ปากก็ร่ายเวทมนต์เบาๆ ทันทีที่เลือดหยดสุดท้ายกระจายมาพบกันบนรอยสลัก เเสงเรื่อเรืองพลันเปล่งออกมาจากเตียง ร่างบางนอนลงบนเตียงอย่างสงบเสียงที่ร่ายเวทย์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ในใจก็เฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ ขมขื่นอย่างนี้แล้วจะได้อะไรหนอ เจ็บช้ำอย่างนี้แล้วจะได้อะไร หากยังเป็นเธอคนเดิมเช่นนี้ต่อไป จะทำให้หัวใจเธอหมดรักได้อย่างไรกัน เสียงหวานนั้นแผ่วลงๆ...จนสุดท้ายเลือนหายไปกับสายลม พร้อมกับน้ำตาหยดหนึ่งที่ค่อยๆหยาดหยดลงมา...
ชายหนุ่มไม่ได้หันกลับมามอง เมื่อได้ยินว่ามีเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง หากแต่เพียงเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ คราวนี้นางก่อปัญหาที่ใดอีกล่ะ ”
องครักษ์และที่ปรึกษาประจำกาย อันดานั้น หน้าซีดเผือดอย่างไม่กล้าตอบคำถาม จนเมื่อเจ้านายของตนหันกลับมามองนิ่งๆนั่นแหละ จึงจำต้องตอบออกไป
“ เจ้าชาย...”
“.....”
“ นางสร้างปัญหาอะไรหนักหนานักหรือ ทำไมนางถึงได้ทำตัวมีปัญหานักนะ ”
“...พระชายาสิ้นแล้วพะย่ะค่ะ ” อันดากลั้นใจพูดออกไปด้วยน้ำเสียงราวกับจะกระซิบพลางหยิบของสิ่งหนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อให้เจ้าชาย ที่ตอนนี้สีหน้านั้นนิ่งสงบจนยากจะคาดเดาอารมณ์
“ กระหม่อมเอะใจ ว่ามีคนได้ยินราชการลับที่เราปรึกษากัน เมื่อเห็นพระชายาออกจากตำหนักไปกระหม่อมจึงสะกดรอยตาม แต่พระชายาจับได้จึงได้สกัดหม่อมฉันไว้ด้วยพลัง กว่าหม่อมฉันจะตามรอยพระชายาไปทันถึงถ้ำแห่งมิติ...พระชายาก็สิ้นแล้ว พระองค์ปลิดชีพตนเอง...หม่อมฉันไม่สามารถรักษาร่างพระองค์ไว้ได้ ร่างพระองค์จึงแหลกสลายไปตามพลังแห่งพันธะสัญญา หม่อมฉันเก็บนาฬิกาทรายแห่งมิติมาได้ทันเวลาก่อนมันจะตกแตกพอดี จึงนำมาถวายพะย่ะค่ะ ”
เจ้าชายรับนาฬิกาทรายมาถือไว้เงียบๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่คนทั้งอาณาจักรรู้ว่าเธอนั้นมั่นรักเขาชนิดมอบกายถวายชีวิตให้ได้ จะสามารถตัดใจและปลิดชีพตัวเองลงได้ ความรู้สึกประหลาดแล่นเข้ามาจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว สายตาพลันเหลือบมองกุหลาบในกล่องแก้วใสสะอาดที่ตั้งอยู่กลางห้อง สิ่งที่พระองค์สงสัยนั้นได้รับคำตอบแล้ว ว่าเหตุใดกุหลาบดอกนี้จึงเหี่ยวเฉาโรยราเหลือแต่กลีบเลี้ยงและลำต้นที่ยังยืนอยู่ได้ด้วยเพราะเป็นดอกไม้เวทมนต์เท่านั้น
เสียงหวานใสที่เคยกล่าวไว้ก่อนจะมอบดอกกุหลาบนี้ให้แก่เจ้าชายนั้นลอยมากระทบโสตพระองค์ราวกับเจ้าตัวนั้นอยู่ที่นี่
“ หม่อมฉันถวายพระองค์เอาไว้ เป็นสิ่งของแทนใจว่าความรักของหม่อมฉันจะอยู่ที่พระองค์เพียงคนเดียว กุหลาบดอกนี้จะไม่มีวันโรยราดั่งเช่นความรักของหม่อมฉัน หากแม้นหม่อมฉันยังรักมั่นพระองค์ทั้งดวงใจดั่งเช่นตอนนี้ กุหลาบดอกนี้จะไม่มีวันเหี่ยวเฉา และจะมีสีแดงสวยสดงดงามสดชื่นอยู่ตลอดไปตราบจนชีวิตหม่อมฉันจะหาไม่ หากแม้นวันใดที่รักโรยรา กลีบกุหลาบก็จะปลิดปลิวไปตามความรักที่ลดน้อยถอยลงของหม่อมฉัน แต่พระองค์อย่าได้คลางแคลงใจ ตราบใดที่พระองค์ยังมั่นรักต่อหม่อมฉันดั่งที่หม่อมฉันมั่นรักต่อพระองค์ กุหลาบดอกนี้จะไม่มีทางกลายสภาพเป็นอย่างอื่น จะเป็นกุหลาบที่งดงามสดชื่นเช่นนี้ จนกว่าชีวิตของหม่อมฉันจะดับสลายไป... ”
ความคิดเห็น