ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาณาจักรแห่งรัก อาณาจักรมนตรา

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1: ลืม1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 170
      2
      25 ส.ค. 54


     
    จิ่วจ้ายโกว/สวนน้ำสวรรค์เหมันต์


     ลืม 1

     

    มินตรามองนกตัวน้อยที่กำลังจ้องมองเธอจากขอบหน้าต่างอย่างนึกขัน เจ้านกตัวนี้ประหลาดนัก ทุกๆตอนเช้าจนกระทั่งถึงเที่ยงของทุกวัน มันจะไม่ยอมบินไปไหนหากแต่จะมาเกาะขอบหน้าต่างห้องของเธออยู่อย่างนั้นได้เป็นเวลาเดือนเศษแล้ว

    เจ้านกตัวนี้ไม่กลัวคนเสียด้วย หรือจะพูดให้ถูกเจ้านกน้อยไม่กลัวมินตรา ทุกครั้งที่มินตราเดินเข้าใกล้มันมักจะส่งเสียงราวกับเรียกร้องให้เธอเข้าไปหา ครั้นหญิงสาวจะลูบตัวลูบขนสีขาวสะอาดของมันบ้าง เจ้านกน้อยก็ไม่ได้บินหนีไปเฉกเช่นนกตัวอื่น หญิงสาวเดินไปหยิบรูปใบหนึ่งที่เธอแอบซ่อนไว้ที่ลิ้นชักข้างเตียงขึ้นมา ภาพเธอและเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กอดคอกันอย่างสนิทสนมกลมเกลียวส่งยิ้มร่าเริงให้กล้องนั้นทำให้เธออดเผลอยิ้มไม่ได้ ร่างบางตรงไปนั่งที่เตียงซึ่งอยู่ติดกับหน้าต่าง ก่อนจะยื่นภาพให้นกน้อยดูราวกับจะชวนคุย

    “ หล่อไหม ” หญิงสาวกล่าวเสียงใส

    “ ชื่อรัน ”

    เจ้านกน้อยจับจ้องรูปภาพนานผิดวิสัยนกที่ปกติมักจะไม่หยุดอยู่นิ่งขยับตัวยุกยิกไปมาตลอด หากแต่หญิงสาวไม่ได้สนใจ มือบางของเธอลูบรูปใบนั้นอย่างแผ่วเบาด้วยความทะนุถนอม

    “ ฉันชอบเขามาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะ ไม่สิ ตอนนี้ฉันรักเขา ” มินตรากล่าวราวกับรำพึงกับตัวเอง

    เจ้านกเบิกตามองหล่อนด้วยกิริยาน่าขัน หากมินตราเห็นท่าทางเช่นนี้เธอคงจะหัวเราะขำกลิ้ง หรือรีบหยิบโทรศัพท์ถ่ายรูปเจ้านกน้อยลงอินเตอร์เนทอวดเพื่อนๆอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่เธอไม่เห็น...

    เจ้านกน้อยขยับปีกกระพือออกจากไปสู่ฟ้ากว้างใหญ่อย่างรีบร้อน ในขณะที่มินตราไม่ได้ถือสาหารืออะไร ด้วยคิดว่า นกอย่างไรมันก็เป็นนก นกจะฟังคนพูดรู้เรื่องได้อย่างไรหนอ...

     

     

    “ ท่านนี่มันชักช้าจริงๆเลย มัวทำอะไรอยู่ได้มาเป็นปีๆ จนตอนนี้นางมีคนรักใหม่แล้ว ” เสียงก้องดังขึ้นอย่างมีโทสะ เรียกให้เจ้าชายที่กำลังเฝ้ามองท้องน้ำใสสะอาดในทะเลสาบหันศีรษะกลับมามองอย่างรวดเร็ว

    “ เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน ”

    เจ้านกน้อยขยับตัวบินขึ้นบินลงอยู่กับที่กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    “ วันนี้ข้าไปเฝ้านางมา นางนำรูปนางกับคนรักให้ข้าดู ข้าบอกท่านได้เลยจากรูปนางและคนรักสนิทสนมกันมาก หนำซ้ำนางยังบอกว่านางปักใจรักเขาตั้งแต่เด็ก ข้าว่าถ้าท่านยังชักช้าเป็นเต่าอย่างนี้อีกไม่นานนางได้แต่งงานกับคนรักนางแน่ ”

    เจ้าชายราซินดูร์นั้นมีพระพักต์เคร่งขรึมขึ้น

    “ แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร ข้าไม่ได้มีพลังมากมายมหาศาลดั่งเช่นนาง หากข้ารีบเปิดมิติโดยยังไม่พร้อม ประตูมิติก็จะยังไม่สามารถทำลายได้ในทันที หากนางคิดจะหนีไปอีกนางก็จะทำได้อย่างสบายๆด้วยซ้ำ ”  เจ้าชายกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

    “ ทำไมท่านถึงคิดว่านางจะหนีท่านไปอีกล่ะ ถ้าท่านไม่ทำร้ายจิตใจนาง นางก็ไม่มีวันทิ้งท่านไปอีกแน่นอนดังนั้นท่านจะกังวลอะไรรีบเปิดมิติก่อนที่จะสายเกินแก้ถึงตอนนั้นแม้นางจะจำทุกอย่างในอดีตได้ นางอาจจะไม่เลือกท่านก็ได้เพราะนางเองก็รักคนรักของนางในตอนนี้ด้วยเช่นกัน ท่านอย่าลืมสิเมื่อนางลองได้รักใครแล้วตัวตายนั่นแหละนางถึงจะลืมเขาได้!

    เจ้านกน้อยกล่าวขึ้นอย่างโมโหแล้วทิ้งท้ายด้วยประโยคเสียดแทง ครั้นเมื่อเห็นสีหน้าลังเลของเจ้าชาย

     เจ้านกน้อยจึงร่ายมนต์ช้าๆ ภาพหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศแล้วค่อยๆขยายเปิดกว้างขึ้น เห็นเป็นภาพมินตราในชุดสีขาวสะอาดตา เดินเล่นอยู่ริมชายหาดกับรัน ทั้งคู่ต่างหยอกเย้ากันอย่างสนุกสนานวักน้ำใส่กันอย่างร่าเริง สีหน้าของมินตรานั้นมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด

    นกน้อยเชิดหน้าขึ้นก่อนจะกล่าวว่า

    “ ท่านอย่าลืมว่าเวลาที่โลกของนางกับเวลาที่โลกของเราไม่เท่ากัน เวลาที่โลกของนานนั้นเร็วกว่าโลกของเราหากท่านยังมัวแต่รวบรวมพลังเปิดมิติชักช้าอยู่อย่างนี้ ถ้านางเกิดไปแต่งงานกับคนรักนางขึ้นมาข้าก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วนะ!

    พระพักต์ของเจ้าชายนั้นปรากฏแววครุ่นคิดหนักขึ้นอีก ความกลัวและความกังวลนั้นกำลังเกาะกุมเข้าไปถึงหัวใจ...

     

     

    มินตราหลับอย่างรวดเร็วเพียงหัวแตะหมอนเท่านั้น ด้วยเหนื่อยอ่อนจากกิจกรรมที่ทำมาทั้งวันในวันนี้

    เพียงชั่วครู่ หญิงสาวก็มาปรากฏอยู่ ณ ที่ๆหนึ่งซึ่งเธอไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย

                    ร่างบอบบางของเธอนั้นอยู่ในอาภรณ์ที่แปลกตา ชุดแขนยาวพลิ้วจับจีบเพียงแค่ทรวงอกก่อนจะทิ้งผ้าให้พลิ้วบางเบายาวกรอมเท้าสีขาวสะอาด หญิงสาวอยู่ในศาลาลักษณะคล้ายๆกับศาลาเก๋งจีนทำจากไม้สีน้ำตาลเข้มที่ทอดยาวอยู่ท่ามกลางทะเลสาบสีสวยราวกับทะเลสาบจิ่วจ้ายโกว ทะเลสาบเทวดาที่เธออยากจะลองไปเยี่ยมชมดูสักครั้ง เบื้องหน้าของเธอมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ ลำตัวสูงใหญ่ผึ่งผายกำยำ ใบหน้าคมสันราวเทพบุตร ดวงตาคมดุดเหยี่ยว รับกับจมูกโด่งและริมฝีปากได้รูป ผิวสีไม่ขาวจัด และสีผมสีน้ำตาลอ่อนสลวยตัดกับนัยน์ตาสีเทาอ่อนอยู่ในเครื่องแต่งกายแปลกตา  ชายผู้นั้นมองเธออยู่ครู่หนึ่งราวกับรู้จักเธอดี หญิงสาวให้บังเกิดความสงสัยที่นี่ที่ไหนกันหนอ

                    “ เจ้าเป็นคนสร้างที่นี้ขึ้นมาเอง ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยเสียงนุ้มทุ้มราวกับรู้ความคิดของเธอ

    หญิงสาวจึงถึงบางอ้อ อ๋อ อย่างนี้ก็เป็นความฝันของฉันสินะ สงสัยฉันอยากไปจิ่วจ้ายโกวมากถึงขนาดเก็บมาฝันเลยหรือนี่ แล้วตาคนนี้เป็นใครกันล่ะ ไม่ยักกะรู้จักฉันฝันถึงได้ไงเนี่ย

                “ แปลกดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจ้าคงไม่คิดว่าข้าเป็นคนแปลกหน้าอย่างนี้ ” ชายหนุ่มหน้าบึ้งขึ้นมานิดหนึ่ง

    มินตราแค่มองเขาอย่างงงงวย ร่างบางหันไปมองบรรยากาศโดยรอบให้เต็มตาอีกครั้ง ต้นไม้ริมทะเลสาบนั้นผลิใบมีสีสันสวยงามมากมายตัดกับน้ำในทะเลสาบสีฟ้าสวย ลมหนาวกระทบผิวเธอทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าฝันมันเหมือนจริงชะมัดเลย

    “ เจ้าสร้างที่นี่ขึ้นมาเพื่อผักผ่อนเมื่อยามเหมันต์มาถึง ยังมีที่หย่อนใจอีกมากมายที่เจ้าสร้างขึ้น ทั้งสวนยามคิมหันต์ สวนยามวสันต์ หรือสวนยามวัสสานะ ” ชายหนุ่มมองหญิงสาวราวกับอยากรู้ว่าเธอจำอะไรได้หรือไม่

    “ แล้วฉันสร้างคุณขึ้นมาด้วยหรือเปล่า ” หญิงสาวถามราวกับหยอกล้อ ด้วยรู้ดีว่าเป็นเพียงความฝันจะอย่างไรเธอก็ต้องตื่นขึ้นมาอยู่แล้ว

    “ เจ้าไม่ได้สร้างข้าขึ้นมา เจ้า...รักข้า !” เสียงนุ่มทุ้มนั้นดังขึ้นอย่างไม่พอใจ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×