workurl1test
ดู Blog ทั้งหมด

ประสบการณ์อาการแพ้ท้อง ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2

เขียนโดย workurl1test


ประสบการณ์อาการแพ้ท้อง ตั้งครรภ์ลูกคนที่
2

หลังจากที่ดิฉันได้แชร์ประสบการณ์การมีลูกคนแรกมาแล้ว ทุกเหตุการณ์คือประสบการณ์ที่มีค่ามากที่สุดสำหรับตัวดิฉันเอง และตอนนี้ดิฉันกำลังตั้งครรภ์ ลูกคนที่ 2 อยู่คะ ประมาณ 2 เดือนแล้ว ตอนแรกก็กังวลนิดหนึ่งเพราะว่าคนโต เพิ่งได้ 2 ขวบกว่า กลัวว่าจะมีปัญหา กระทบกับลูกคนโตหรือเปล่า และอีกอย่างดิฉันก็ต้องทำงานไปด้วยกลัวว่าจะส่งผลกระทบกับลูกในท้อง และสำหรับตัวดิฉันตั้งแต่คนแรกจนกระทั่ง ท้องที่ 2 ดิฉันก็ยังมีอาการแพ้ท้องอยู่ ซึ่งถือว่าดิฉันแพ้ท้องอย่างมากและรุนแรงเหมือนกันค่ะ

อาการแพ้ท้อง

           บางท่านอาการแพ้ท้องชนิดที่ว่ารุนแรงมาก ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเลยก็เป็นไปได้ สำหรับดิฉันในตอนนี้ยังไม่ต้องให้น้ำเกลือ ยังพอที่จะทานอะไรได้บ้าง แต่ที่อาการหนักคือ ดิฉันต้องบ้วนน้ำลายตัวเองตลอดเวลา ก็ไม่เข้าใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ดิฉันคิดว่าน่าจะมาจากการที่เราอาเจียนมากเกิน แล้วทำให้เราเกิดอาการขมปาก เลยไม่สามารถทำให้เรากลืนน้ำลายได้ ดิฉันคิดว่ามันทรมานกว่าที่เราทานอะไรไม่ได้เสียอีกคะ ในขณะนี้ดิฉันนั่งพิมพ์บทความนี้อยู่ อาการดิฉันก็ยังไม่ดีขึ้นเลย แต่อยากจะแชร์ประสบการณ์ดีๆเหล่านี้ให้คุณแม่ท่านอื่นได้ลองอ่านดู บางครั้งอาจจะมีอาการเหมือนกันอยู่เป็นไปได้ค่ะ เรามาดูกันค่ะว่าอาการแพ้ท้องจะส่งผลต่อร่างกายเราอย่างไรบ้าง หลักๆดิฉันคิดว่าคุณแม่ทั่วไปจะมีอาการเหมือนกันคือ

-                    ทานอะไรไม่ได้เลย ที่จริงเรื่องอาหารเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับลูกน้อยในครรภ์เลย เพราะเขาต้องการสารอาหารมากมายเลยคะ เพื่อที่จะนำไปช่วยเสริมสร้างในการพัฒนาส่วนต่างๆของเขา แต่ทว่ามันช่างขัดกับอาการแพ้ท้องของคุณแม่เหลือเกินลูกน้อย คุณแม่บางท่านทานอาหารไม่ได้เลย จึงต้องพึ่งน้ำเกลือแทน แต่สำหรับดิฉันตอนนี้ คือ ช่วงเดือนแรกๆทานได้ทุกอย่างแต่พอเข้าเริ่มเดือนที่ 2 ทายไม่ได้เลยเช่นกัน ทานเยอะไปก็จะอาเจียนทันทีทันใด ทั้งๆที่เรามีอาการหิวมากๆ และในตอนนี้สิ่งที่อยากทานมาก คือ น้ำอัดลม ชาเย็น แต่ที่แปลกคือน้ำเปล่าจะทานไม่ได้ พอทานเข้าไปอาเจียนตลอด แต่ก็ต้องทาน เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่ทานน้ำ ดิฉันจะทานน้ำหลังจากที่ทานอาหารเสร็จปุ๊บ ก็จะรีบทานน้ำเลย เว้นช่วงไม่ได้เลย ถ้าไม่อย่างนั้นจะอาเจียนทันที(แย่ค่ะบางครั้งรู้สึกโมโหตัวเองมากๆทำไมตัวเองต้องอ่อนเเอแบบนี้ด้วย) ทั้งนี้ดิฉันได้บอกไว้ข้างต้นว่าสิ่งที่อยากทานจะเป็นน้ำอัดลม หรือจะเป็นพวกชา ทั้งหลาย นี้ขอบอกเลยคะ ว่าอยากทานมาก แต่ไม่สามารถทานได้ค่ะ เพราะน้ำอัดลม เป็นกรด เป็นแก๊ส ทานเข้าอาจทำให้อาเจียนได้ง่ายและอีกอย่าง นี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ เขาบอกว่าถ้าทานของดำเยอะจะทำให้ลูกของเราผิวดำไปด้วย ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่า นำมาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังกันคะ และอีกอย่างที่ไม่สมควรทานเหมือนกันคือ ของหมักดอง อาจจะทำให้เราอาเจียนเพิ่มได้ ลองทานเป็นผลไม้สดๆดีกว่า ดิฉันคิดว่าเราควรทานอาหารอ่อนๆที่ย่อยง่ายๆ เช่นโจ๊ก จะดีกว่า เพราะว่าคนท้องส่วนใหญ่จะมีอาการท้องอืด ท้องขึ้น ไม่นั้นเราอาจจะต้องพึ่งยาถ่าย ซึ่งดิฉันคิดว่าไม่ค่อยดีซักเท่าไร ถ้าเราทานยาเยอะเกินไป ดิฉันก็เป็นเหมือนกัน ตอนไม่ท้องดิฉันระบบขับถ่ายดีมาก พอตั้งท้อง ประมาณ 3-4 วัน ถึงจะถ่าย ทรมานคะ  

-                    รู้สึกอ่อนเพลีย เพราะเกิดจากการที่เราอาเจียนเยอะไป หรือเกิดจากอาการมึนศีรษะ จนทำให้ร่างกายเราอยากพักผ่อน อยากนอนทั้งวัน แต่สำหรับดิฉันตอนนี้ต้องทำงานด้วยเลยไม่มีเวลาพักผ่อน กลัวมากว่าจะส่งผลกระทบต่อลูกเหมือนกัน เพราะว่าคนท้อง คุณหมอบอกว่าไม่ให้ยืนหรือนั่งนานๆแต่นี้ดิฉันต้องนั่งทำงานประมาณ วันละ 7 ชั่วโมงเลยที่เดียว เราก็ต้องดูแลตัวเองโดยการเดินบ้างนั่งบ้าง จะได้เป็นการช่วยในการออกกำลังกาย และไม่ทำให้เรารู้สึกง่วงด้วย (การยืนหรือนั่งนานๆจะเสี่ยงต่อการคลอดกก่อนกำหนดด้วย )เลยทำให้ดิฉันต้องดูแลตัวนิดหนึ่งเพราะท้องที่ผ่านมาดิฉัน ก็คลอดก่อนกำหนด ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เรามองข้ามไม่ได้เลยคะ ไม่ว่าจะท้องไหนคุณแม่ต้องระมัดระวังตัวเองให้ดีที่สุด

-                    เรื่องจิตใจ อย่างที่บอกคะว่าตอนนี้เป็นตอนที่อยากได้กำลังใจมากที่สุด เพราะอาการแพ้ท้อง ต้องการคนดูแลมากๆแน่นอน เพราะคุณแม่อ่อนแอ และเกิดอาการท้อมากในช่วงนี้ ยิ่งถ้าเกิดเราทานอะไรไม่ได้ อาเจียนตลอด จนทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดง่าย เหนื่อย แทบอยากจะไม่อยากทำอะไรเลย เพราะฉะนั้นต้องการคนดูแลมากและคนดูแลที่ดิฉันคิดว่าดีที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นคุณพ่อ และคนรอบข้างในครอบครัว เพราะถ้าเราได้กำลังใจดี จะสามารถช่วยลดอาการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ถ้าเราไม่เครียดจนเกินไปเรื่องเลวร้ายก็จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน แต่ดิฉันคิดว่ากำลังใจที่ดีที่สุด ก็คือตัวเราเองด้วย เราต้องคิดถึงเจ้าตัวเล็กให้เยอะ ทำตัวเราเองให้แข็งแกร่ง เป็นเกราะป้องกันเขาดีที่สุด

 อาการแพ้ท้องถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ต้องเจอ อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติก็ได้ บางท่านอาจะแพ้ในช่วงแรกๆหลังจาก 3 -4 เดือน ก็อาจจะหาย หรืองบางท่านอาจจะเยอะหน่อย แพ้จนคลอด การรักษาเบื้องต้นที่เราทราบกันก็คือ ทานยาเพื่อประคับประคองการแพ้ ดูแลในเรื่องการกินอาหาร ในเรื่องของจิตใจ เป็นการช่วยดูแลจากคนรอบข้าง เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ทำจิตใจเราเข็มแข็งคะ เพื่อเจ้าตัวลูกที่จะออกมา 

นิดหนึ่งค่ะ วิธีการแก้อาเจียนมากๆ น้ำขิงจะช่วยลดอาการอาเจียนได้ดีอย่างหนึ่ง และช่วยกระตุ้นน้ำนมได้เป็นอย่างดีด้วย

 

คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย  , เก้าอี้หัดนั่ง


 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น