อเวจี สีชมพู
ข่าวสารมากมายที่นำเสนอถึงปัญหาของสังคมไทย ที่กำลังตกต่ำในเรื่องของปัญหาครอบครัว ที่มีแนวโน้มเรื่องการหย่าร้างเพิ่มขึ้น โดยสาเหตุหลักเกิดจากปัญหาเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือที่เห็นได้ในสื่อทั่วไปคือปัญหาเรื่องหึงหวง และตามมาด้วยการแก้ปัญหาด้วยวิธีที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตด้วยกันทั้งสองฝ่าย หรือถ้าตกลงกันไม่ได้นั่นก็คือทั้งสามฝ่ายนั่นเอง
หลายครั้งหลายคราที่เราได้รับข่าวจากสื่อ ที่เสนอข่าวถึงปัญหาครอบครัวที่เลือกจะจบชีวิตคู่ด้วยความสูญเสีย จากการตัดสินปัญหาด้วยความรุนแรง บ้างก็หาทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิตด้วยกันทั้งหมด แต่ที่น่าสลดหดหู่ เมื่อบางครอบครัวตัดสินใจฆ่าตัวตายยกครอบครัวเพราะหาทางออกไม่ได้ นี่เป็นเพราะความคึกคะนองทางอารมณ์ หรือว่า การไม่รู้จักยับยั้งความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดี ของความต้องการทางอารมณ์ ที่ตัวเองเป็นผู้กำหนดขึ้นมานั้น กลับกลายเป็นคนในครอบครัว ที่ต้องทนแบกรับกับความรู้สึก ยิ่งเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตปัจจุบัน ยิ่งทำให้คนที่ไม่รู้จักกันสามารถรู้จักและสนิทสนมกันได้มากขึ้น แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันก็ตาม ยิ่งถ้ามีความต้องการเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งทำให้ต่างฝ่ายมองข้ามถึงเรื่องศีลธรรม แม้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมีครอบครัวแล้วก็ตาม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่สังคมทุกวันนี้จะมีข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวที่ทำผิดศีลธรรมกันมากขึ้น แม้ว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ แต่ก็ไม่มีใครเกรงกลัวต่อบาปหรือนรกอเวจีหลุมไหนอีกเลย กลับกลายมองเป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไป ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน หรือบางคนสนับสนุนเพื่อนให้ทำเรื่องผิดศีลธรรม โดยที่ตัวเองก็ทำผิดศีลด้วยเช่นกัน เห็นไหมคะว่านี่คือปัญหาใหญ่ของคนที่มีครอบครัว
ในสมัยโบราณเรามักจะถูกปลูกฝังให้เป็นคนมีศีลธรรม และซื่อสัตย์ต่อคู่ของตน หากเป็นหญิงที่มีรักซ้อน ก็มักจะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงชั่วหรือเป็นผู้หญิงไม่ดี ที่ไม่รักและซื่อตรงต่อสามี แต่ในทางกลับกันหากฝ่ายชายประพฤติผิดในเรื่องศีลธรรมก็จะถูกมองว่า ผู้ชายคนนั้นมักชอบเล่นชู้กับภรรยาของคนอื่น คำพูดที่แสดงให้เห็นถึงความน่าอับอายที่ใช้เรียกกันว่า”ชู้”นั้น หากใครได้รับชื่อเรียกแบบนั้นก็คงทำให้รู้สึกอับอายและละอายใจกันบ้าง แต่ในยุคสมัยนี้กลับมีศัพท์ที่เรียกคนเป็นชู้กันว่า “กิ๊ก” จึงทำให้ความรู้สึกที่จะละลายมีน้อยลงไป ดูได้จากผู้คนในสมัยนี้ ที่มีความคิดนิยมแบบสมัยใหม่ ที่ให้ตัวเองเข้าไปพัวพันกับคนที่มีครอบครัว แม้จะไม่ได้เข้ามาวุ่นวายเป็นเรื่องเป็นราวแบบสมัยก่อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเหล่านั้นจะมีจิตสำนึกถึงศีลธรรมแบบเก่าหรือไม่ ดังนั้นเมื่อคนสองคนที่มีความคิดเดียวกัน จึงสามารถตอบสนองความต้องการของอารมณ์และพากันทำผิดได้ง่าย เพราะต่างฝ่ายไม่มีใครจะฉุดรั้งไม่ให้อีกฝ่ายทำผิดได้เลย และผู้ที่ต้องเผชิญปัญหาในเรื่องแบบนี้ คือคนในครอบครัวของทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
อย่าลืมนะคะว่า เราเชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรม และบางครั้งกรรมก็ตามสนองท่านที่ทำชั่ว หรือทำผิดต่อคู่ครอง อย่างที่เป็นข่าวให้เห็นกันมาบ้าง ในที่นี้ขอยกตัวอย่างของคนสองคู่นะคะ เช่น หญิงชายคู่หนึ่งต่างทำผิดศีลธรรมต่อคนในครอบครัว ด้วยความต้องการทางด้านอารมณ์ทำให้ไปมีอะไรกันในห้องน้ำในที่ทำงานแห่งหนึ่ง ซึ่งฝ่ายหญิงใส่ห่วงคุมกำเนิด และฝ่ายชายได้ฝังมุกเพื่อให้ฝ่ายหญิงนั้นพึงพอใจ แต่สุดท้ายกรรมก็ทำให้คนทั้งสองต้องได้รับความอับอายนั่นคือ เมื่อฝ่ายชายมีอะไรกับฝ่ายหญิง ทำให้ไม่สามารถที่จะนำเอาอวัยวะของตนออกจากฝ่ายหญิงได้ เพราะมุกที่ฝ่ายชายฝังไว้นั้นติดอยู่กับห่วงของฝ่ายหญิงที่ทำไว้เพราะต้องการคุมกำเนิดนั่นเอง ข่าวนี้กลายเป็นที่วิจารณ์ของคนทั่วไปถึงผลกรรมที่คนทั้งสองลักลอบเป็นชู้กันในที่ทำงาน ต่างก็ได้รับความอับอายเพราะต้องขอร้องให้คนที่อยู่ภายนอกนำตัวของคนทั้งสองส่งโรงพยาบาลด้วยสภาพที่ยังโป๊เปลือย และผลกรรมที่ได้รับมากไปกว่านั้น นั่นคือ ครอบครัวต้องหย่าร้างด้วยกันทั้งสอง เด็กที่ไม่รู้เรื่องกลับกลายเป็นเด็กกำพร้า เพราะความรักสนุกของคนสองคน นี่หรือคือความรักที่คุณ ๆ แสวงหาจากคนภายนอกมากกว่าคนในครอบครัว หรืออีกกรณีหนึ่ง ที่มีอุบัติเหตุจากการจุดบั้งไฟและตกใส่รถที่มีชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ในนั้นจนไฟลุกท่วมร่างของคนทั้งสอง นั่นเป็นเพราะผลของเวรกรรมของทั้งคู่ที่ได้ทำร่วมกันนั่นเอง อุทาหรณ์เหล่านี้ น่าจะเป็นตัวอย่างให้ใครหลายๆคู่ได้รับรู้ถึงผลกรรมที่ท่านได้ทำ แม้ว่าความรักที่ไม่ถูกต้องทางศีลธรรมจะบดบังความรู้สึกให้ท่านได้ทำผิด แต่ถ้าหากว่าท่านมีจิตสำนึกถึงความถูกต้อง มีความเกรงกลัวและละอายต่อบาปนั้น ก็คงจะทำให้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมลดน้อยลงไป และคงไม่ต้องมีการนำเสนอข่าวถึงปัญหาด้านความรุนแรงในครอบครัวเกิดขึ้นอีก
นรกเปิดรับคนที่ประพฤติชั่วที่ไม่รู้จักทำความดี แต่นรกอเวจีสีชมพูนี้ จะทำให้ท่านทั้งคู่ได้รับความอับอายและไม่มีพื้นที่ให้อยู่สู้หน้ากับคนในสังคมอีกต่อไป...ฝากไว้ให้คิดนะคะ สวัสดีค่ะ
คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย , เก้าอี้หัดนั่ง
ความคิดเห็น