ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนายพี่ชายสุดเท่

    ลำดับตอนที่ #6 : บันทึกฉบับที่6ไม่กลัวจะต้องเสียใจหากจะได้รักเธอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 54
      0
      6 ต.ค. 48

    .............. “คุณป้าขา...ต้องใส่ไข่กี่ฟองค่ะ” เรากับป้าอุ่นทิพย์เข้าครัวกันแต่เช้า “ใส่ไปเลย 3



    ฟอง น้ำตาลทรายหมดถ้วยแป้งกับยีสต์คนให้เข้ากัน” เราทำตามอย่างเงอะๆงะๆ



    “คุณหนูขา...มิ่งช่วยไหมค่ะ”พี่มิ่งเป็นคนน่ารักมาก สามีพี่มิ่งคือนายสมปองคนสวน



    นั้นเอง “ขอบคุณค่ะพี่มิ่ง งั้นพี่มิ่งช่วยเปิดเครื่องนวดให้ทีสิค่ะ” พี่มิ่งหยิบอย่าง



    กระฉับกระเฉง เราเตรียมเทแป้งที่เข้าที่ลงไปนวด “เดี๋ยวป้าไปเอาไส้โดนัทก่อน มิ่งช่วย



    หนูกิ่งที่นี้ล่ะกัน” ป้าอุ่นทิพย์สั่ง “ค่ะ..ว่าแต่คุณผู้หญิง ทำไมไม่ใช้คนครัวไปเอาล่ะค่ะ



    จะลำบากไปเอาเองทำไมค่ะ” พี่มิ่งตอบ แต่ป้าอุ่นทิพย์ไม่ได้ตอบคงเพราะรีบนั้นเอง พี่



    มิ่งเอาแป้งที่ใส่เครื่องกดปุ่มนวด เราปาดเหงื่อที่ซึมทางหน้าผาก โดนัทชิ้นแรกที่เราทำ



    กำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้าเรานี้เอง ใช้เวลานวดประมาณ 15 นาที ก็เอาแป้งมากลึงใส่ให้



    เป็นแผ่นกลมๆ ทำกับพี่มิ่งได้ 20 ชิ้น แล้วเอาลงกระทะทอด ป้าอุ่นทิพย์เอาไส้ลงมาแล้ว



    เตรียมแป้งเอาไว้คลุก เราบรรจงทอดแป้งให้เริ่มฟูข้างนอกเริ่มกรอบ “หลานกิ่งทำไว้



    สวยมากค่ะ” ป้าอุ่นทิพย์ชม เราปลื้มเสียตัวลอยพอทอดเสร็จได้เป็นโดนัท พี่มิ่งอยู่แผนก



    สอดไส้ครีม สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ และช็อกโกแลต เราทำเป็นอย่างง่ายดาย พอเสร็จเราก็



    จัดใส่จานก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่



        “มีคนมาหาคุณหนูแน่ะค่ะ เห็นบอกว่าชื่อเอกศักดิ์อะไรนี้แหละค่ะ” เราดีใจเลย

    ความคิดแรกที่นึกถึง “พี่มิ่งค่ะไปชงกาแฟ แล้วเตรียมโดนัทใส่จานสักสองสามชิ้น เรา

    ได้หนูทดลองแล้วล่ะค่ะ” เราสวมเสื้อยืดสีขาวแขนยาวกับกระโปรงสีขาวยาวครึ่งเข่า



    เกล้าผมไปข้างหลัง สวมถุงเท้าตามความเคยชินวิ่งลงไปที่ห้องรับแขก โดนัทวางอยู่



    เรียบร้อย วันนี้พี่เอกศักดิ์มาในเสื้อยืดสปอร์ตกับกางเกงยีนเช่นกัน “น่าจะให้อรกับ



    เหมียวมาด้วยน่ะค่ะ” เราบ่นอย่างเสียดาย “พี่ชวนแล้วล่ะแต่ไม่มากัน”พี่เอกศักดิ์ยิ้ม



    ตอบ “งั้นฝากบอกเหมียวกับอรหน่อยแล้วกันน่ะค่ะว่า โกรธสิบปีอย่ามาดีสิบชาติ โกรธ



    ร้อยชาติอย่ามาดีกันเลย” พี่เอกศักดิ์อมยิ้มรับคำ “พี่เอกค่ะ มาถูกจังหวะพอดีเลยค่ะ”เรา



    ยิ้มอย่างมีเลศนัย “วันนี้กิ่งเข้าครัวทำโดนัทเอง พี่เอกได้รับเกรียติให้ชิมคนแรกเลยน่ะค่ะ



    ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพน่ะค่ะ มีอาหย่อยรับรองค่ะ” พี่เอกศักดิ์หัวเราะตาเป็นประกาย



    “อร่อยไหมค้า…….” เราลากเสียงสูง “อร่อย แต่หากพี่ท้องเสีย น้องกิ่งต้องรับ



    โทษน่ะครับ” เรารับมุขทำท่าเอาจริงเอาจังเข้ามาทันที “อะไรกันค่ะพี่เอกไม่ได้เซ็น



    สัญญาเอาไว้สักหน่อย กิ่งไม่ยอมหรอกค่ะ” พี่เอกศักดิ์ขำ “วันนี้กิ่งเอาใจพี่เอกเต็มที่เลย



    ค่ะ เพราะพี่เอกเป็นเหยื่อท้องเสียรายแรก” เราคะยั้นคะยอให้พี่เอกทานโดนัทจนหมด



    “ไปเดินย่อยโดนัทกันไหมค่ะ” เราชวน พี่เอกยิ้มรับอย่างเต็มใจ อากาศเย็นสบายเมื่อ



    ประกอบด้วยดอกไม้สีต่างๆยิ่งสบายตาอย่างยิ่ง “พี่เอกเรียนที่ไหนเหรอค่ะ”เราถาม “พี่



    จบแล้ว ตอนนี้มัวแต่ยุ่งกับงานลุงพี่ท่านให้พี่เรียนรู้งานใหม่ๆหลายตำแหน่ง ตอนจบพี่



    จบเศรษฐศาสตร์ที่บอสตัน”พี่เอกอธิบายเป็นฉาก ระหว่างนั้นบังเอิญสายตาไปเจอกับ



    กุหลาบสีแดงสดสวยมาก อารามด้วยความรีบคะเด็ด แล้วความรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณนิ้ว



    ก็จี๊ดขึ้น เราซุ่มซ่ามตามเคย พอเราร้องเบาๆพี่เอกศักดิ์ก็คว้ามือเราไปเสียเฉยๆ “น้องกิ่ง



    เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”คำพูดมีแววเป็นห่วง “เจ็บนิดหน่อย”เราตอบอย่างอายๆ



    ปนตกใจนิดๆ “อ้าว..กิ่งอยู่นี้เอง” เราสะดุ้งโหยง รับชักมือกลับ “พี่นนท์มีอะไรค่ะ”เรา



    ถามไปใจเต้นเร็วจนแทบหลุดมาจากอก “ขอโทษ พี่ไม่ตั้งใจถ้าตัวเล็กบอกพี่ว่ามีนัดอยู่



    แล้วพี่คงไม่มาเร็วหรอก พี่ไปแล้วน่ะ”มาถึงพูดจบก็ไปเลยเราไม่ทันตั้งตัว นึกไม่ออก



    ด้วยซ้ำว่าพี่นนท์โกรธอะไรเราอยู่ ฝนเริ่มตกปรอยๆเรากับพี่อดิเรกไปหลบฝนกันที่ชาน



    ระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน “น้องกิ่งจะไปเรียนต่อที่ไหนครับ” พี่เอกศักดิ์ถามเรา 2



    คนเปียกฝนทั้งคู่ “คงไปเรียนต่อที่แคนาดา หรือไม่ก็อเมริกา”เราตอบไป “น้องกิ่ง ครับ



    พี่มีเรื่องจะบอก พี่รู้ว่ามันอาจจะเร็วไปแต่พี่มั่นใจ....พี่รักน้องครับ” เราไม่ประหลาดใจ



    สักเท่าไหร่หรอกนึกประหลาดใจมาก็ตั้งนานแล้ว เราเอามือไปกุมมือพี่เอกศักดิ์เบาๆ



    “อย่าพูดเลยค่ะ...กิ่งเข้าใจ เราสองคนเป็นพี่น้องกันดีกว่าน่ะค่ะ กิ่งยินดีที่จะได้พี่เอกมา



    เป็นพี่ชายคนใหม่ ความรักมันไม่ผิดหรอกน่ะค่ะ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกวางมันไว้ที่ใดให้



    เหมาะสม พี่เอกรวมทั้งกิ่งยังมีโอกาสต้องเจอคนอีกมาก อาจดีกว่ากิ่งด้วยซ้ำ.....น้องสาว



    คนนี้จะเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ” เรายื่นนิ้วก้อยให้พี่เอกเกี่ยวก้อย พี่เอกศักดิ์รั้งเราเข้าไป



    กอดเบาๆก่อนจะลุขึ้น “พี่คงต้องใช้เวลาพักใหญ่เชียวล่ะ”พี่เอกศักดิ์กล่าว “ขอให้สำเร็จ



    แล้วกันค่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่นเสมอ” พี่เอกศักดิ์ขอตัวกลับ



    ก่อน เราสบายไปเปลาะใหญ่ๆ



        นั่งนับวันวันพรุ่งนี้เราคงต้องไปกรุงเทพฯอีกคืนหนึ่งเราจึงนั่งเครื่องบินกลับ



    แคนาดา เราเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมบอกกับตัวเองว่ายังไงวันนี้ก็ต้องพบกับพี่นนท์ให้ได้



    เราเดินลงไปหลังฝนหยุดเจอพี่มิ่งเลยคุยกัน “คุณหนูค่ะ พี่มิ่งกำลังจะมีลูกค่ะ” เราดีใจ



    ด้วยกับพี่มิ่ง “จริงเหรอจ๊ะ....แล้วบอกพี่สมปองไปหรือยัง”พี่มิ่งส่ายหน้า “กะจะทำให้



    ตกใจเล่นๆ จะเอาใบตรวจครรภ์ไปเป็นของขวัญวันเกิด พี่ปองต้องดีใจแน่ๆในเมื่อแต่ง



    กันมาตั้ง ห้าปีแล้ว เราอยากมีลูกกันมานาน”แววตาพี่มิ่งฉายแววปิติยินดี “ดีใจอีกครั้ง



    ค่ะ....กว่าน้องกิ่งจะมา ลูกพี่คงโตแล้ว”พี่มิ่งจับมือเราเบาๆ “กลับมาเมืองไทยน่ะค่ะ ...



    ไม่มีแผ่นดินไหนจะหวังดีกับเราเท่าแผ่นดินไทยอีกแล้ว”พี่มิ่งกับเรากอดกันกลมเลย



    “กิ่งกลับมาแน่ๆค่ะ ขอให้ลูกแข็งแรงน่ารักสมใจน่ะค่ะ แต่ ... เอ ... ท่าทางคงเป็นลูก



    สาวน่ะค่ะเพราะท้องเล็กๆ”ถึงจะอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วัน พี่มิ่งกับเราก็สนิทสนมกันมาก



        ช่วงเย็นเราทานมื้อเย็นกับป้าอุ่นทิพย์ “อยู่แค่คืนเดียวก็จะไปล่ะ” ป้าอุ่นทิพย์บ่น



    กระปอดกระแปด “สบายใจได้ค่ะ กิ่งต้องกลับมาหาคุณป้าแน่ๆ กิ่งไปเรียนแป็ปเดียวนี้



    ค่ะ” เราปลอบใจคุณป้า “ป้าน่ะเหงาๆอยู่ มีลูกชายคนเดียวก็ไม่ได้อยู่กลับตัว เมื่อบ่าย



    โทรมาบอกป้าว่าจะหมั้นแล้วก็แต่งงานอีกสัปดาห์หน้า”เราสะดุดกึกนี้พี่นนท์จะหมั้น



    แล้วก็แต่งอะไรเร็วขนาดนี้เชียวเหรอ เราเกิดความรู้สึกขึ้นในใจ อิจฉาหรืออะไรก็ไม่รู้ความจริงน่าจะดีใจด้วยซ้ำไป “ทานสิจ๊ะ...หนูกิ่ง มีต้มยำลูกชิ้นปลากราย แกงส้มดอกแค ไข่เจียวยัดไส้ไก่สับ นี้ป้าสั่งให้แม่ครัวให้ทำพิเศษ ป้ารู้ว่าหนูชอบ” แต่เราอิ่มตื้อเลยล่ะ ทานได้อีกสักพักก็ขึ้นห้องนอนแต่หัวค่ำ พยายามข่มตาหลับแต่มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้นอนไม่หลับ ทำให้เราตัดสินใจจะต้องพูดกับพี่นนท์ให้รู้เรื่องบอกความในใจทั้งที่มีทั้งหมดให้พี่นนท์ทราบ เราไม่สามารถอัดอั้นอยู่ในใจได้อีกแล้ว เราหยิบเสื้อคลุมมาสวมแล้วลงไปที่ห้องรับแขก ซึ่งคุณป้ารวมทั้งแม่บ้านและคนครัวคงแยกย้ายไปนอนกันในเรือนคนงานกันหมดแล้ว ห้าทุมกว่าพี่นนท์ยังไม่กลับ ทิ้งตัวลงบนโซฟาพักใหญ่รอสักพักก็ใกล้ง่วงเต็มที รู้สึกครึ่งหลับ ครึ่งตื่นตลอดเวลาความง่วงเริ่มรุกเร้า เราดูนาฬิกาครั้งสุดท้ายเกือบตีหนึ่งแล้ว เราฝืนร่างกายไปได้สักพักก็หลับไปอย่างไม่ตั้งใจ



        “ตัวเล็กครับ ... ตื่นเถอะ” เสียงทุ้มอ่อนโยนที่คุ้นใจเรามานานดังข้างๆหู เราตื่น



    สลัดความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เราเงยหน้าดูนาฬิกา ตีสามกว่า “พี่นนท์ ตัวเล็กรอพี่นนท์



    ทั้งคืน พรุ่งนี้ต้องกลับกรุงเทพฯแต่เช้า ตัวเล็กมีอะไรบางอย่างจะบอกค่ะ” เราพูดตาม



    จริง พี่นนท์โอบเราไปจนชิดอกจูบเบาๆที่แสนอ่อนโยนตรงหน้าผาก “ตัวเล็กรักพี่นนท์



    ค่ะ ... ตัวเล็กรู้สึกมานานแล้ว ตั้งแต่กิ่งเป็นตัวเล็กของพี่นนท์ตลอดระยะเวลาสามสิบปี



    กิ่งไม่เคยลืมมีใคนหลายคนเข้ามาในชีวิตของกิ่ง แต่กิ่งรู้สึกได้ว่ากิ่งไม่สามารถเป็นอะไร



    ได้อีก ... นอกจาก ... เป็นตัวเล็กของพี่นนท์คนเดียว ...” น้ำเสียงสุดท้ายอ่อนโยน เรา



    เน้นหนักทุกคำพูด ทุกประโยค พี่นนท์โอบเราแน่นเข้าไปอีก ลมหายใจร้อนผ่าวของพี่



    นนท์อยู่บริเวณใบหน้าของเรา ริมฝีปากเปะปะไปทั่วหน้าก่อนหยุดนิ่งที่ริมฝีปาก เรา



    ไม่ได้ต่อต้านแต่ยอมโอนอ่อนโดยดี “พี่รู้ พี่รู้ดี ... แต่พี่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ พี่ต้อง



    รับผิดชอบ แอนกำลังจะมีลูกกับพี่”น้ำเสียงพี่นนท์เครือสั่น น้ำตาลูกผู้ชายหยาดหยด



    อย่างไม่ตั้งใจ เราใช้นิ้วเช็ดน้ำตาให้พี่นนท์เบาๆ “กิ่งไม่ไดอยากเปลี่ยนหรอกค่ะ อยาก



    ให้มันเหมือนเดิมด้วยซ้ำ อยากให้มันเป็นเหมือนวันที่มีเพียง นายอานนท์ อัศวพลเทพ



    กับเด็กหญิงยอดกิ่ง รัตนวงศ์ไพโรจน์ ต่อให้อนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไงกิ่งก็จะขอเป็น



    แค่ตัวเล็กของพี่นนท์คนเดียว ตลอดไป”เราพูดจบก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อความรู้สึกที่ต้อง



    สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเข้ามา เราปล่อยโฮแล้วซุกอกพี่นนท์ พี่นนท์ลูบผมเราไป



    มาแล้วคืนนั้นเราก็หลับคาอกพี่นนท์ยันเช้า เราตัดใจได้สนิทแล้วแม้บาดแผลในหัวใจจะต้องใช้เวลาเยียวยานานหน่อยก็ตาม

        เหมียวกับอรมารับเข้ากรุงเทพฯ เราลาป้าอุ่นทิพย์ พี่มิ่ง และพี่สมปอง เราตกลง



    กันสามคนเรื่องเรียนต่อระหว่างอยู่ที่กรุงเทพฯอีกหนึ่งคืน ซึ่งอรจะไม่กลับไปกลับพวก



    เราด้วย “พ่อเราให้เราต่อมหาวิทยาลัยในเมือไทยนี้ล่ะ” เรากับเหมียวน้ำตาซึมอยู่กันมา



    เกือบสิบปีแล้ว จะหาเพื่อนใหม่อีกก็คงไม่ได้แล้วล่ะ     อรบ่อน้ำตาแตกร้องไห้เสียลั่น สัก



    พักอรก็สะดุ้ง “ร้องห่มร้องไห้อะไรกัน เราสามคนยั้งซี้กันเหมือนเดิมล่ะ ยังไม่ตายจาก



    กันเสียหน่อย จะจากกันทั้งทีร้องห่มร้องไห้หน้าหมั่นไส้ ไปช็อปปิ้งดูหนังฟังเพลง



    กลับกันเช้าไปเลย” อรทำอารมณ์ได้เร็วที่สุดเรากลับตัวแทบไม่ทัน “เอางั้นเลย ...” แล้ว



    เราสามคนก็ไปเที่ยวกันจนเช้าจริงๆ



        ที่สนามบิน เหมียว อร และเรามากันแต่เร็ว “สัญญาน่ะอรว่าจะส่งจดหมายมาถึง



    พวกเรา” เรากับเหมียวจับมืออรแน่น อรหยิบกล่องผ้ากำมะหยี่สีชมพูสดมาให้เรากับ



    เหมียวคนล่ะกล่อง “เราให้เหมียวกับกิ่ง” อรยิ้ม “สวยจัง อะไรเหรอ” เราแกะออกข้าง



    ในเป็นรูปเด็กผู้หญิงสามคนกอดคอกัน ข้างขวาคือเราตรงกลางคือเหมียวข้างซ้ายคืออร



    ในกล่องมีลูกเบสบอลลูกเล็กๆ “เบสบอลลูกแรกที่เราสามคนตีออกนอกสนาม” เรากับ



    เหมียวซึ้งใจอรมาก เราทั้งสามคนเลยกอดกันกลม “ไปแล้วน่ะอร ...” เรากับเหมียวพูด



    พร้อมกัน อรพยักหน้าเรากับเหมียวก็ใจแข็งเดินไป เราหันหลังไปมองอรอีกครั้ง ก็เห็น



    อรนั่งรองไห้อยู่คนเดียว ......  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×