...
ภาพที่ 1: 'organic cough and sore throat drops' = "ลูกอมแก้ไอและแก้เจ็บคอ" > Thank [ flickr ] , [ azmichelle ]
โปรดสังเกตคำโฆษณา 'organic' = "ผ่านการปลูกแบบไม่ใช้ปุ๋ยและสารเคมี" และตั้งเป็นชื่อการค้าว่า "Organix (ชื่อการค้าต้องไม่มีตัวสะกดเหมือนคำสามัญ)" เป็นจุดขายที่สำคัญ
...
ภาพที่ 2: อาจารย์ผู้ถ่ายภาพนี้บอกว่า ท่านใช้ชาเขียว (green tea) ดื่มแก้ไอ ส่วนที่เลือกชายี่ห้อนี้เพราะราคาถูกที่สุด > Thank [ flickr ] , [ bunchofpants ]
โปรดสังเกตจุดขายสำคัญของชายี่ห้อนี้คือ การทำซองแบบเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา คือ ใช้คำว่า 'Asian' = มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ภาพพจน์จะดีกว่าจีนที่มีปัญหาเรื่องสินค้าปนเปื้อนสารเคมี); 'Decaffeinated = สกัดกาเฟอีนออก; ใช้ซองสีขาวและใช้พื้นที่ว่างมากหน่อยตามสไตล์สินค้าและบริการจากค่าย 'apple' (ไม่โฆษณาจนรกลายตาไปหมด)
การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า เครื่องดื่มอุ่นๆ ช่วยลดอาการป่วยจากไข้หวัดได้เกือบทุกอาการ
...
ภาพที่ 3: ภาพรณรงค์ให้ปิดปากเวลาไอ โดยใช้กระดาษทิชชูหรือแขนปิดปาก ไม่ควรใช้มือปิดปาก เนื่องจากอาจทำให้ติดเชื้อใหม่ๆ ที่ติดมากับมือ หลังไอควรล้างมือด้วยสบู่ หรือถูด้วยเจลแอลกอฮอล์ > Thank [ flickr ] , [ xbettyx ]
...

ยาแก้ไอได้ผลหรือไม่... วันนี้ขอนำบทความที่อาจารย์ นพ.เดวิด เอช. นิวแมน (David H. Newman M.D.) ผู้เขียนหนังสือเรื่อง 'Hippocrates shadow: Secrets from the house of medicine' มาเล่าสู่กันฟังครับ
การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ยาแก้ไอส่วนใหญ่ใช้แล้ว "ไม่ได้ผล" ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่... การลดการไอไปที่สาเหตุมีแนวโน้มจะได้ผลมากกว่า เช่น ถ้าเป็นหวัด ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ ควรใช้ยาแก้แพ้หรือยาลดน้ำมูก ฯลฯ
...
กลไกที่เป็นไปได้คือ น้ำมูกที่ออกมากทางด้านหน้ามักจะทำให้น้ำมูกไหล (ออกมาทางจมูก), น้ำมูกที่ออกมากทางด้านหลังมักจะตกไปในลำคอ ซึ่งอาจสำลักเข้าไปในหลอดลม ทำให้เกิดปอดบวมได้
ร่างกายจึงต้องใช้กลไกป้องกันการสำลึกที่สำคัญคือ "การไอ" และไม่ค่อยยอมเลิกไอง่ายๆ จนกว่าจะมีการแก้ไขต้นเหตุคือ ลดน้ำมูกจากยาแก้แพ้หรือยาลดน้ำมูก
...

การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า การดื่มน้ำอุ่นหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ช่วยลดอาการจากหวัดได้เกือบทุกอาการ
คนไข้ไทยจำนวนมากกดดันหมอให้จ่าย "ยาฆ่าเชื้อ" โรคหวัด โดยเฉพาะคนไข้ที่รักษาฟรี อธิบายเท่าไรก็ไม่ค่อยฟัง นี่เป็นเรื่องของการใช้สิทธิ์ที่ไม่ชอบธรรม และทำให้คนส่วนใหญ่ต้องเสียภาษีไปในเรื่องที่ไม่ได้ผล
...
ความจริงคือ เรายังไม่มียารักษาหวัดหรือไข้หวัดที่ได้ผล (แต่มียารักษาไข้หวัดใหญ่ที่ได้ผล)
คนไข้เบาหวานในไทยหลายคนชอบบ่นว่า อาการแทรกซ้อนจากโรคเกิดจากการกินยานานๆ ความจริงคือ ไม่มียารักษาเบาหวานชนิดใดดีพอที่จะรองรับคนไข้ประเภทซัดลำไยครั้งละ 2-3 กิโลฯ ได้ แต่มียารักษาเบาหวานชนิดดีพอที่จะรองรับคนไข้ประเภทกินลำไยครั้งละ 2-6 ผลได้ (โดยลดอาหารกลุ่มแป้ง-น้ำตาลอย่างอื่นไปด้วย)
...

ไม่ว่าจะเป็นโรคใด... การปฏิบัติตัวของคนไข้ดีๆ นับว่า "มีชัยไปกว่าครึ่ง" คนไข้เบาหวานที่ดูแลตัวเองดีมากๆ มีชีวิตได้อย่างดีไปหลายสิบปี
ตรงกันข้ามคนไข้เบาหวานประเภทซัดลำไยครั้งละ 2-3 กิโลฯ มักจะมีปัญหาตาบอดหรือไตวายภายใน 10 ปี... ไม่ใช่ยาไม่ดี แต่เป็นชะตากรรมที่คนบางคนเลือกเอง
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ที่มา >
- Thank nytimes > David H. Newman M.D. Believing in treatments that don't work > [ Click ] > 27 March 2009.
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้ท่านนำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า >
> 10 พฤษภาคม 2552. - ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
ความคิดเห็น