...
ภาพที่ 1: ความหลังของกัมพูชา (อาณาจักรจัมปา)... เดิมเขมรแผ่อาณาจักรไปทั่วอาเซียน แผนที่นี้แสดงอาณาจักรที่ครอบคลุมอีสาน-ลาวทั้งหมด ครึ่งหนึ่งของเวียดนามด้านตะวันตก > [ Wikipedia ]
...
ภาพที่ 2: แผนที่ในพระราชวังพนมเปญ [ จุมเรียบซัว(สวัสดี)กัมพูชา ]
อาณาจักรเขมรเดิมด้านตะวันตกแผ่ไปถึงเมืองพะโค (หงสาวดี - Pago ของพม่า), ด้านตะวันออกกินเวียดนามครึ่งประเทศ, ด้านเหนือรวมลาว แผ่ไปถึงบางส่วนของสิบสองปันนา, ด้านใต้ลงไปถึงพัทลุงของไทย
...
อาณานิคมฝรั่งเศสสมัยนั้นเฉือนแผ่นดินเขมรให้เวียดนาม เฉือนแผ่นดินไทย เช่น เขาพระวิหาร ฯลฯ ให้เขมร เป็นการสร้างระเบิดเวลาทางวัฒนธรรม ตามยุทธการ "แบ่งแยกแล้วปกครอง (divide-and-rule)"
พระอาจารย์ชาวเขมรท่านหนึ่งที่เกิดในเวียดนามเล่าว่า คนเขมรในเขมรจะว่าเป็นคนกลุ่มน้อยก็ใช่ เพราะคนเขมรส่วนใหญ่อยู่ตามที่ราบลุ่มเขมรที่ฝรั่งเศสเฉือนให้เวียดนาม ทำให้คนกลุ่มใหญ่ของเขมรกลายเป็นคนกลุ่มน้อยในเวียดนาม ("แขมร์กรอม" = ที่ราบเขมรต่ำ) [ เรื่องนี้ยังไม่มีสถิติประชากรรับรอง แต่เป็นสมมติฐานที่น่าสนใจมาก ]
...
การทุ่มทุนสร้างปราสาทเปรียบคล้ายการให้กู้โดยไม่มีผลผลิต (non-performing loan / NPL) ทำให้อาณาจักรนี้เสื่อมลง
ชาวเขมรเชื่อในเรื่องเผ่าพันธุ์ที่ "บริสุทธิ์" คล้ายๆ กับคนญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมันสมัยนาซี หรือพม่า
...
เมื่อชนชั้นสูงและคนรวยเขมรแต่งงานกับคนต่างชาติ (รวมทั้งฝรั่งและคนจีน) ทำให้เกิดเงื่อนไขสงครามที่เขมรแดงจะสร้างกระแสชาตินิยมได้
วิธีของเขมรแดงคือ ทำให้คนชั้นกรรมาชน(ชาวไร่ชาวนา ผู้ใช้แรงงาน) ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ดูบริสุทธิ์ หรือมีสายเลือดเขมรสูง (high purity layer) และทำให้คนชั้นสูง-คนรวยแยกชั้น (layering) เป็นชนชั้นที่ "ปนเปื้อน" ด้วยสายเลือดภายนอก (contaminated layer)
...
ผลคือ คนในชาติฆ่ากันเองไปกว่าล้านคน... คนที่รอดก็ไม่ใช่จะเต็มร้อย คือ เต็มไปด้วยบาดแผลทางใจ หรือไม่ก็พิการ เช่น ขาขาด แขนขาด ฯลฯ
ศรัทธาวัดท่านหนึ่งในวัดเวฬุวันกล่าวไว้ดี ท่านบอกว่า คนเราหนีกรรมไปไม่พ้น... ท่านพ้นจากเขมรแดงมาได้ แขนขาครบ แต่พอหลังสงครามได้ไม่นานก็เกิดอุบัติเหตุ... ขาขาด นี่เพราะปาณาติบาตให้ผล (ปาณาติบาต = การเบียดเบียดสัตว์เป็นปัจจัยให้พิการ การฆ่าเป็นปัจจัยให้อายุสั้น)
...
เขมรจะใช้วิธีญาติดีกับฝ่ายหนึ่ง-ทะเลาะกับฝ่ายหนึ่ง (ระหว่างไทย-เวียดนาม) เป็นอย่างนี้มาหลายร้อยปีแล้ว คนไทยไม่ควรโกรธอะไร เพราะนี่เป็นธรรมดาของโลก
ประวัติศาสตร์สอนเราว่า นโยบายชาตินิยมมีแนวโน้มจะได้ผลดีในประเทศที่คนในชาติคิดว่า เผ่าพันธุ์ตัวเองมีความ "บริสุทธิ์" สูง ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เยอรมันสมัยนาซี(ฮิตเลอร์) พม่า หรือกัมพูชา
...
ทว่า... ถ้าชาตินิยมแรงมากๆ มักจะนำไปสู่ความรุนแรง หรือสงครามได้ในอนาคต ซึ่งชาติที่ใช้นโยบายชาตินิยมมักจะเป็นฝ่ายแพ้สงคราม (อาจเป็นเพราะถูกชาติรอบข้างหมั่นไส้ เลยรุมเสียเลย)
เยอรมนีเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยปัญญาชน และเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ในสงครามโลกทั้งสองครั้ง มีกฏหมายห้ามการรณรงค์ลัทธิชาตินิยม ส่งเสริมความร่วมมือกับนานาชาติ และกลายเป็น 1 ในประเทศที่ส่งเสริมสันติภาพในโลก
...
ถ้ากัมพูชาหันมาส่งเสริมสันติภาพแบบเยอรมนี หรือขอความช่วยเหลือเยอรมนีในการส่งเสริมกระบวนการสันติภาพ... กัมพูชาจะมีความสงบสุข และแบ่งปันสันติภาพไปยังชาวโลกได้อีกกว้างขวาง
...
ภาพที่ 3: ถนนจากปอยเปตบนเส้นทางไปพนมเปญปลายปี (16 ธันวาคม 2549) > [ จุมเรียบซัว(สวัสดี)กัมพูชา ]
...
ภาพที่ 4: แผนที่กัมพูชาทุกวันนี้ (โปรดเทียบกับภาพที่ 1,2) > Thank [ Wikipedia ]
กัมพูชามีประชากร 13.4 ล้านคน พื้นที่ 181,035 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าไทยประมาณ 2.8 เท่า [ nis.gov.km ], [ Wikipedia ]
...
ไทยเป็นมหาอำนาจด้านร้อยละ (%) คนติดเชื้อเอดส์ (HIV) มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย, อันดับ 2 คือ กัมพูชา
...
ภาพที่ 5: แผนที่กัมพูชา > Thank [ nis.gov.km ]
จังหวัดพระตระบอง (Battambong - บัตตัมบอง) อยู่ติดกับชายแดนไทย และอำเภอไพลิน (Pailin) ก็อยู่ติดชายแดนไทยเช่นกัน
...
ภาพที่ 4: อ.ดร. เดเลีย เบเตลล์ (Delia Bethell) ผู้เชี่ยวชาญด้านมาลาเรีย > Thank [ BBC ]
.............................................
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ไข้จับสั่นหรือมาลาเรียดื้อยาจากเขมร (กัมพูชา) อาจเป็นภัยคุกคามต่อประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศทั่วโลกได้ในอนาคต เนื่องจากเชื้อดื้อยามากขึ้นเรื่อยๆ
10 วันก่อนคุณครูเชม บันชินอยู่ในจังหวัดพระตะบอง (Battambang - บัตตัมบัง) เป็นไข้ หนาวสั่น ปวดหัว อาเจียน (ไข้จับสั่น = ไข้หนาวสั่น)
...
คุณครูเชมได้รับยารุ่นใหม่ที่มียาอาร์เทซูเนท (artesunate) เป็นองค์ประกอบซึ่งพัฒนาโดยศูนย์วิจัยแพทย์กองทัพบกสหรัฐฯ (AFRIMS)
ก่อนหน้านี้เชื้อจะลดลงไปอย่างมากมายภายใน 2-3 วัน ทว่า... ตอนนี้ 4 วันผ่านไป ผลการตรวจเลือดยังพบเชื้ออยู่
...
อ.ดร.เดเลีย เบเตลล์ (Delia Bethell) นักวิจัยกล่าวว่า ตอนนี้เชื้อดื้อยามากขึ้นเรื่อยๆ คุณครูเชมไม่ใช่รายแรก แต่ 90% ของคนไข้ที่นี่ ประมาณ 1/3-1/2 พบเชื้อหลัง 3 วัน และบางรายพบเชื้อหลัง 4-5 วัน แม้จะได้ยาอย่างดี
ปัญหาที่ทำให้มาลาเรียน่ากลัวกว่าโรคระบาด เช่น ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ฯลฯ คือ โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนที่ได้ผลดี ขณะที่วัคซีนไข้หวัดใหญ่พอจะผลิตได้ภายใน 1-3 ปี
...
ทุกวันนี้มีคนเดินทางผ่านพรมแดนมากมาย โดยเฉพาะคนไทยเข้าไปเล่นการพนันที่ปอยเปต (ออกเสียงคล้ายๆ "ปอยแปต") และแรงงานเขมรก็เข้าๆ ออกๆ ชายแดนทุกวัน
เรื่องสำคัญคือ คนส่วนหนึ่งมีภูมิต้านทานต่อมาลาเรีย หรือเดินทางตอนยังไม่มีอาการ แต่พกพาเชื้อติดตัวไปด้วย
...
ตอนนี้เชื้อดื้อยาระบาดไปทั่วจังหวัดด้านตะวันตกของกัมพูชา ซึ่งอยู่ติดกับไทยแล้ว
การเปิดร้านขายยาในเขมรต้องมีใบอนุญาต (licensed) แต่นั่นเป็นความจริงในกระดาษ ร้านขายยาที่นั่นบอกว่า "ไม่เป็นไร"... ใครๆ ก็ขายยาได้
...
ปัญหาใหญ่คือยาปลอม (counterfeit) เต็มไปหมด
ศาสตราจารย์นิค เดย์ (Nick Day) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการแพทย์มหิดล-ออกซฟอร์ดและคณะพบว่า ยามาลาเรียชนิดที่ดีที่สุด (artesunate-type drugs) ใช้ได้ผลน้อยลงไปเรื่อยๆ
...
ท่านบอกว่า เรื่องนี้อาจระบาดไปทั่วโลก และทำให้เกิดภัยพิบัติทั่วโลก (global health disaster; global / globe = โลก; health = สุขภาพ; disaster = ภัยพิบัติ)
เหตุการณ์แบบนี้เคยทำให้คนตายมากมายมาแล้วในอาฟริกา... ปัญหาใหญ่คือ ถ้าเชื้อดื้อยาจากเอเชียเดินทางไปถึงอาฟริกา โดยไปกับคนได้ อาจทำให้โลกเราไม่มียารักษามาลาเรียที่ใช้ได้ผล (อีกต่อไป)
...
การพัฒนายาใหม่ๆ ใช้เวลาอย่างต่ำ 2-3 ปี ซึ่งนานเกินพอที่จะทำให้คนตายเป็นแสนเป็นล้านคน
การนำมุ้งกันยุงไปแจกให้คนในหมู่บ้าน 200 หลังใช้เวลาเดินทางผ่านถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นประมาณ 1.5 ชั่วโมง
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
> ที่มา
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า >
> 29 พฤษภาคม 2552. - ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
ความคิดเห็น