...
คนเรามีโอกาสหลับในระหว่างการขับรถไม่มากก็น้อย... ผู้เขียนเองก็มีประสบการณ์นี้มาแล้ว และรู้สึกว่า เรื่อง "ง่วงไม่ขับ" น่าจะมีวิธีป้องกันได้ อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง
ผลจากการสำรวจคนขับรถในนิวยอร์คพบว่า 1 ใน 4 ของคนขับรถทั้งหมดเคยหลับในมาก่อน ซึ่งนับว่า เสี่ยงอันตรายมากๆ
...
เว็บไซต์สถาบันหัวใจ-ปอด-เลือดสหรัฐฯ (NHLBI) มีชุดคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีป้องกันการขับรถหลับใน ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
...
(1). นอนพอคืนเดียว = ไม่พอ
- การศึกษาเปรียบเทียบระยะเวลาตอบสนองต่อสิ่งเร้า (response time / RT) ซึ่งมีความสำคัญในเหตุคับขัน เช่น เบรคเมื่อจะชนหรือจะตกถนน ฯลฯ เปรียบเทียบกับระยะเวลานอนของคนขับรถพบว่า
- การนอนมากพอ 7-8 ชั่วโมง 1 คืนก่อนเดินทางยังทำให้ระยะเวลาตอบสนองต่อสิ่งเร้าลดลงได้ไม่ดีพอ จำเป็นต้องนอนให้มากพออย่างน้อย 2 คืน
...
- กลไกที่เป็นไปได้คือ เวลาเราอดนอน... สมองจะต้องการการนอนชดใช้หนี้การนอน (sleep debt) หลายวัน จึงจะมีประสิทธิภาพดีเต็มที่
- ทางที่ดีคือ ถ้าไม่ได้นอนเต็มที่ติดกันอย่างน้อย 2 วันไม่ควรขับรถ หรือถ้าขับรถก็อย่าขับรถทางไกล
(2). หลีกเลี่ยงช่วงเวลาอันตราย
- ช่วงเวลาอันตรายที่คนเรามักจะหลับในมากที่สุด คือ 12.00-7.00 นาฬิกา... ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาดังกล่าว
...
(3). อย่าขับรถคนเดียว
- การมีคนนั่งบนรถหลายคนมีส่วนช่วยให้โอกาสหลับน้อยลง ซึ่งแน่นอน... ควรเลือกคนโดยสารที่ตื่นนอนและคุยด้วยมากกว่าคนโดยสารที่หลับไปตลอดทาง
- ถ้าทำไม่ได้... ควรหาอะไรทำไปด้วย เช่น สวดมนต์ ร้องเพลง ฯลฯ แต่อย่าดูโทรทัศน์ หรือใช้มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์อีกข้างจับพวงมาลัย เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้นมาก
...
- ถ้าฟังเพลง... ไม่ควรฟังเพลงประเภทกล่อมนอน เนื่องจากอาจทำให้ง่วงนอนได้
(4). พักรถพักคนบ่อยๆ
- พักรถพักคน และควรเดินไปเดินมา เข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่ม ล้างมือด้วยสบู่ (เพื่อลดโอกาสติดไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด และหวัด) ก่อนแล้วล้างหน้าล้างตา
...
(5). หาจุดพัก
- ถ้าเป็นไปได้... ควรหาจุดพักนอน 15-20 นาทีทันทีที่ง่วง ซึ่งต้องวางแผนล่วงหน้า เพื่อหาสถานที่ที่ปลอดภัยพอที่จะพักผ่อนนอนหลับได้
(6). กาเฟอีน
- กาเฟอีนอาจช่วยให้หายง่วงได้ถ้านอนมากพอก่อนเดินทางอย่างน้อย 2 วัน แต่ถ้านอนไม่พอหรือง่วง... การนอนพัก 15-20 นาทีดีกว่าดื่มกาแฟแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ
...
(7). อย่าดื่ม
- แอลกอฮอล์เพิ่มเสี่ยงหลับใน และถ้าเกิดอุบัติเหตุ... โอกาสแพ้คดีหรือได้รับโทษจะเพิ่มขึ้นมาก
(8). อะไรที่ไม่ได้ผล
- ถ้าง่วงไปแล้ว... การเปิดวิทยุหรือหน้าต่างรถมักจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้
- อาการที่อาจบอกเราว่า ง่วงและควรหยุดขับรถได้แล้ว คือ ตาเริ่มโฟกัสภาพไม่ค่อยได้-มองเห็นภาพข้างหน้าไม่ชัดเท่าเดิม, หาว, จำอะไรไม่ได้หรือนึกอะไรไม่ออก
...
- เมื่อมีอาการเหล่านี้คงต้องหยุดรถ นอนพักทันที
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ที่มา
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > > 2 มิถุนายน 2552.
- ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
ความคิดเห็น