ลำดับตอนที่ #177
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #177 : เคาท์ เตสอลิซาเบธ หญิงใจร้าย
ประวัติเคาท์ เตสอลิซาเบธ เดอ บาโธรี แห่งโปแลนด์
เคาท์เตสอลิซาเบธ เดอ บาโธรี แห่งโปแลนด์ ( The Polish Countess Elizabeth De Bathory ) เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ผีดิบ แวมไพร์ แต่อย่างใด แต่พฤติกรรมของเธอเหี้ยมโหดไม่ต่างกับพวกผีดูดเลือดทั้งหลาย จนได้รับฉายาว่า เคาท์สาวกระหายเลือด
ประวัติความเป็นมา
- อลิซาเบธ เกิดในปี ค.ศ.1560 ในตระกูลของท่านเคาท์ บาโธรี่ นอกจากเธอจะเป็นผู้มีชาติตระกูลสูงแล้ว ยังเป็นสตรีที่สวยงามจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วฮังการี่ จนจักรพรรดิ ดิมาร์คมิชิเลี่ยนที่ 2 เคยขอไปดูตัว
- ในปี ค.ศ. 1575 คือเมื่ออายุราว 15-16 ปี เธอได้พบรักกับนายทหารหนุ่มชื่อ นาดัสตี้ หลังจากแต่งงานกันแล้ว ทั้งสองได้ย้ายเข้าไปอยู่ในปราสาทบนภูเขา คาร์ลปาเชีย ซึ่งห่างไกลจากผู้คน จนทำให้ใครๆเกิดความสงสัยว่าคงมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ที่นั่น
ความลับในปราสาทบนเขาคาร์ลปาเชีย
- ภายในปราสาทมีห้องเครื่องสำอางค์ขนาดใหญ่ สภาพคล้ายห้องเล่นแร่แปรธาตุของพวกนักวิทยาศาสตร์ ประกอบไปด้วยเครื่องมือ ที่ใช้ในการผลิตน้ำหอมและครีม รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับบำรุงผิวและความงาม คล้ายกับวิธีการอาบน้ำแร่แช่น้ำนมของบรรดาหญิง สาวในปัจจุบัน
- ในปี ค.ศ. 1604 ความลับทั้งหมดเริ่มถูกเปิดเผยออกมาเป็นข่าวลือว่า อลิซาเบธได้ใช้ห้องนี้สำหรับนำเลือดหญิงสาวมาอาบแทนน้ำนม เพื่อให้ร่างกายคงความสวยเอาไว้ได้ตลอดกาล แต่ท่าน นาดัสตี้ผู้เป็นสามีก็ให้การปฎิเสธเกี่ยวกับเรื่องนี้
- ต่อมาเมื่ออลิซาเบธเดินทางไปเที่ยวที่เมือง วีน เหตุการณ์อันสยดสยองก็ได้ปรากฎแก่ชาวโลก เมื่อมีผู้ได้ยินเสียงหวีดร้องดังออกมา จากห้องพักอลิซาเบธ คนเลี้ยงสัตว์ของเธอจึงรีบไปตรวจดูและพบว่าเป็นเสียงของนักร้องสาวของสมาคมหนึ่งในเมืองนั้น
- ภาพที่คนเลี้ยงสัตว์เห็นคือ นักร้องสาวถูกตัดมือ ตัดเท้าและเสียชีวิต อลิซาเบธได้บอกกับคนเลี้ยงสัตว์ของเธอว่า นักร้องสาวผู้นี้ ทำความผิด จึงมีโทษถึงตาย
- ข่าวลืออันนี้ชักหนาหูขึ้นทุกที จนในปี ค.ศ. 1610 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบหาหลักฐานภายในปราสาทเจท และเมื่อลงไปในห้องใต้ดินก็พบกับศพหญิงสาวนอนเรียงรายกันเต็มไปหมด มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง
- นอกจากนี้ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญคือมีหญิงสาวคนหนึ่งนอนหายใจรวยรินยังไม่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงให้การช่วยเหลือและสอบถาม ได้ความว่าเธอและเพื่อนอีกจำนวนมากถูกจับตัวมา โดยสาวใช้ 2 คน ของอลิซาเบธ คือ นาง ดอลค์ และนางรีโอน่า เพื่อนำมาสังหาร เอาเลือดไปให้ผู้เป็นนายอาบชะโลมผิว เป็นวิธีการรักษาผิวพรรณให้เต่งตึงคงความงามอยู่เสมอ ซึ่งอลิซาเบธมีความเชื่อตามคติโบราณ ว่า เลือดคือยาอายุวัฒนะ
วิธีการดูดเลือดมาใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
อลิซาเบธ จะใช้ตุ๊กตาทองแดงอุ้มเหยื่อสาวไว้ในวงแขนแล้ว ทำการ เปิดหน้าอกใช้หอกทิ่มไปบนร่างกายของเหยื่อ และใช้เครื่องมือ ที่สั่งทำจากประเทศเยอร์มันชื่อว่า "ลูกสาวของเหล็ก"(Iron Maiden) เป็นเครื่องมือ ในการดูดเลือดจากเหยื่อสาวไปไว้ในบ่อ และภายในเวลา 1 ชั่วโมง จะต้องมีหญิงสาวสังเวยชีวิต 60 คน ให้แก่อลิซาเบธ เมื่อเลือดเต็มบ่อแล้ว อลิซาเบธจึงลงไปอาบ
- ในปี ค.ศ.1611 สาวใช้ทั้งสองของอลิซาเบธถูกจับตัวได้และโดนลงโทษด้วยการเผาทั้งเป็น ซึ่งสาวใช้ทั้งสองนี้ทำหน้าที่ค้นหา และจับหญิงสาวเคราะห์ร้าย มาสังเวยแก่นายของเธอถึง 660 คน
- ส่วนอลิซาเบธนั้น ไม่ยอมให้จับตัวแต่โดยดี เธอได้หลบหนีไปอยู่ที่หอคอยและปิดตายขังตัวเองไว้จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ด้วยความโหดเหี้ยมของเธอ ผู้คนจึงพากันให้สมญานามว่า " เคาท์สาวผู้กระหายเลือด" นั่นเอง
credit teenee.com บอร์ดชมรมขนหัวลุก
เคาท์เตสอลิซาเบธ เดอ บาโธรี แห่งโปแลนด์ ( The Polish Countess Elizabeth De Bathory ) เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ผีดิบ แวมไพร์ แต่อย่างใด แต่พฤติกรรมของเธอเหี้ยมโหดไม่ต่างกับพวกผีดูดเลือดทั้งหลาย จนได้รับฉายาว่า เคาท์สาวกระหายเลือด
ประวัติความเป็นมา
- อลิซาเบธ เกิดในปี ค.ศ.1560 ในตระกูลของท่านเคาท์ บาโธรี่ นอกจากเธอจะเป็นผู้มีชาติตระกูลสูงแล้ว ยังเป็นสตรีที่สวยงามจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วฮังการี่ จนจักรพรรดิ ดิมาร์คมิชิเลี่ยนที่ 2 เคยขอไปดูตัว
- ในปี ค.ศ. 1575 คือเมื่ออายุราว 15-16 ปี เธอได้พบรักกับนายทหารหนุ่มชื่อ นาดัสตี้ หลังจากแต่งงานกันแล้ว ทั้งสองได้ย้ายเข้าไปอยู่ในปราสาทบนภูเขา คาร์ลปาเชีย ซึ่งห่างไกลจากผู้คน จนทำให้ใครๆเกิดความสงสัยว่าคงมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ที่นั่น
ความลับในปราสาทบนเขาคาร์ลปาเชีย
- ภายในปราสาทมีห้องเครื่องสำอางค์ขนาดใหญ่ สภาพคล้ายห้องเล่นแร่แปรธาตุของพวกนักวิทยาศาสตร์ ประกอบไปด้วยเครื่องมือ ที่ใช้ในการผลิตน้ำหอมและครีม รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับบำรุงผิวและความงาม คล้ายกับวิธีการอาบน้ำแร่แช่น้ำนมของบรรดาหญิง สาวในปัจจุบัน
- ในปี ค.ศ. 1604 ความลับทั้งหมดเริ่มถูกเปิดเผยออกมาเป็นข่าวลือว่า อลิซาเบธได้ใช้ห้องนี้สำหรับนำเลือดหญิงสาวมาอาบแทนน้ำนม เพื่อให้ร่างกายคงความสวยเอาไว้ได้ตลอดกาล แต่ท่าน นาดัสตี้ผู้เป็นสามีก็ให้การปฎิเสธเกี่ยวกับเรื่องนี้
- ต่อมาเมื่ออลิซาเบธเดินทางไปเที่ยวที่เมือง วีน เหตุการณ์อันสยดสยองก็ได้ปรากฎแก่ชาวโลก เมื่อมีผู้ได้ยินเสียงหวีดร้องดังออกมา จากห้องพักอลิซาเบธ คนเลี้ยงสัตว์ของเธอจึงรีบไปตรวจดูและพบว่าเป็นเสียงของนักร้องสาวของสมาคมหนึ่งในเมืองนั้น
- ภาพที่คนเลี้ยงสัตว์เห็นคือ นักร้องสาวถูกตัดมือ ตัดเท้าและเสียชีวิต อลิซาเบธได้บอกกับคนเลี้ยงสัตว์ของเธอว่า นักร้องสาวผู้นี้ ทำความผิด จึงมีโทษถึงตาย
- ข่าวลืออันนี้ชักหนาหูขึ้นทุกที จนในปี ค.ศ. 1610 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบหาหลักฐานภายในปราสาทเจท และเมื่อลงไปในห้องใต้ดินก็พบกับศพหญิงสาวนอนเรียงรายกันเต็มไปหมด มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง
- นอกจากนี้ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญคือมีหญิงสาวคนหนึ่งนอนหายใจรวยรินยังไม่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงให้การช่วยเหลือและสอบถาม ได้ความว่าเธอและเพื่อนอีกจำนวนมากถูกจับตัวมา โดยสาวใช้ 2 คน ของอลิซาเบธ คือ นาง ดอลค์ และนางรีโอน่า เพื่อนำมาสังหาร เอาเลือดไปให้ผู้เป็นนายอาบชะโลมผิว เป็นวิธีการรักษาผิวพรรณให้เต่งตึงคงความงามอยู่เสมอ ซึ่งอลิซาเบธมีความเชื่อตามคติโบราณ ว่า เลือดคือยาอายุวัฒนะ
วิธีการดูดเลือดมาใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
อลิซาเบธ จะใช้ตุ๊กตาทองแดงอุ้มเหยื่อสาวไว้ในวงแขนแล้ว ทำการ เปิดหน้าอกใช้หอกทิ่มไปบนร่างกายของเหยื่อ และใช้เครื่องมือ ที่สั่งทำจากประเทศเยอร์มันชื่อว่า "ลูกสาวของเหล็ก"(Iron Maiden) เป็นเครื่องมือ ในการดูดเลือดจากเหยื่อสาวไปไว้ในบ่อ และภายในเวลา 1 ชั่วโมง จะต้องมีหญิงสาวสังเวยชีวิต 60 คน ให้แก่อลิซาเบธ เมื่อเลือดเต็มบ่อแล้ว อลิซาเบธจึงลงไปอาบ
- ในปี ค.ศ.1611 สาวใช้ทั้งสองของอลิซาเบธถูกจับตัวได้และโดนลงโทษด้วยการเผาทั้งเป็น ซึ่งสาวใช้ทั้งสองนี้ทำหน้าที่ค้นหา และจับหญิงสาวเคราะห์ร้าย มาสังเวยแก่นายของเธอถึง 660 คน
- ส่วนอลิซาเบธนั้น ไม่ยอมให้จับตัวแต่โดยดี เธอได้หลบหนีไปอยู่ที่หอคอยและปิดตายขังตัวเองไว้จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ด้วยความโหดเหี้ยมของเธอ ผู้คนจึงพากันให้สมญานามว่า " เคาท์สาวผู้กระหายเลือด" นั่นเอง
credit teenee.com บอร์ดชมรมขนหัวลุก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น